Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 677 ผมเปิดไพ่แล้ว

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 677 ผมเปิดไพ่แล้ว

“สิบเปอร์เซ็นต์!”

ในสตูดิโอวาดการ์ตูน เสียงของจินมู่สูงแหลมขึ้นมาเพราะเขาพูดเสียงดัง เขาเดินไปมาในห้องด้วยความตกใจ ในสมองเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “แถมยังให้เปล่า!?”

หลินเยวียนพยักหน้า

อันที่จริงเขาดีใจมาก ทว่าเขาไม่ใช่คนที่แสดงออกทางอารมณ์ เขาเพียงรู้สึกปั่นป่วนอยู่ในใจอย่างรุนแรง ทว่าสิ่งที่ปรากฏบนใบหน้าของเขากลับแลดูเรียบเฉย แต่แน่นอนว่านั่นไม่ได้หมายความว่าหลินเยวียนเป็นอัมพาตใบหน้าเฉกเช่นอิ่นตง “ที่จริงแล้วมีเงื่อนไขแอบแฝงอยู่”

“เงื่อนไข?”

สมองของจินมู่ค่อยๆ สงบลง กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เจตนาพื้นฐานในของขวัญชิ้นใหญ่จากสตาร์ไลท์ในครั้งนี้คือเพื่อทำให้คุณอยู่ต่อในบริษัทอย่างว่าง่าย เพียงแต่สตาร์ไลท์ไม่ได้ใช้การผูกมัดด้วยสัญญาบังคับ แต่ใช้ความรู้สึกเพื่อเจรจาธุรกิจ…”

หลินเยวียนพยักหน้า

หลังจากที่เขาได้ยินข่าว เขาวิเคราะห์โดยละเอียดรอบหนึ่ง ก็เข้าใจเหตุผล ดังนั้นเขาและเหล่าโจวจึงมีการพูดคุยกันในเชิงลึกเป็นการส่วนตัว อีกทั้งเหล่าโจวก็ไม่ได้ชักแม่น้ำทั้งห้า แต่กลับเปิดเผยความจริงทั้งหมด

“กล้ามาก!”

จินมู่เอ่ยชื่นชม “หัวเรือใหญ่ของสตาร์ท่านนี้กล้าจริงๆ หุ้นสิบเปอร์เซ็นฟังดูยิ่งใหญ่ก็จริง แต่ถ้าอยู่ในสมัยโบราณ พูดให้ชัดก็เหมือนกับสัญญาขายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนระดับหัวหน้า ถ้ารับหุ้นมาแล้วเท่ากับให้สัญญา สัญญาว่าจะผูกพันกับสตาร์ไลท์ไปตลอด ที่จริงแล้วพวกเขาเพียงแค่เพิ่มกฎที่เข้มงวดในสัญญาการมอบหุ้นประมาณว่า ‘หลังจากได้รับหุ้นนี้แล้ว เซี่ยนอวี๋จะไม่มีวันออกจากสตาร์ไลท์ มิฉะนั้นจะถูกริบหุ้นคืน ชดเชยความเสียหายที่ผิดสัญญาเท่าไหร่ก็ว่าไป’ สัญญาที่น่าดึงดูดใจนี้กลับไม่มีจุดไหนที่ยิ่งใหญ่เกินจริง”

สตาร์ไลท์ดันไม่ใส่เข้าไป!

สตาร์ไลท์ใช้ไม้อ่อนทำข้อตกลงกับเซี่ยนอวี๋ในเรื่องที่สำคัญเช่นนี้ พวกเขาคล้ายกับแน่ใจว่า ด้วยนิสัยของเซี่ยนอวี๋ หลังจากได้รับหุ้นแล้ว เขาจะไม่ออกไปจากสตาร์ไลท์ ตามหลักการแล้วต่างฝ่ายต่างมีความเข้าใจตรงกันโดยปริยาย

ใช้ใจวัดใจใช่ไหม?

กัปตันสตาร์ไลท์โหดจริงๆ !

ความฉลาดทางอารมณ์สูง: ขอมอบหุ้นเหล่านี้ให้คุณ

ความฉลาดทางอารมณ์ต่ำ: หากลงนามในสัญญานี้แล้ว คุณจะได้รับหุ้น 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อแลกกับการทำงานให้กับบริษัทเราไปครึ่งค่อนชีวิต คุณจะไม่มีวันเปลี่ยนงานไปยังบริษัทอื่นได้จนกว่าจะเกษียณ!

เงื่อนไขข้อเดียว

แตกต่างราวฟ้ากับดิน

หลินเยวียนมองเห็นจุดนี้ เหล่าโจวมองเห็นจุดนี้ จินมู่มองเห็นจุดนี้ เชื่อว่ากัปตันท่านนั้นของสตาร์ไลท์ก็มองเห็นจุดนี้เช่นกัน คนระดับนี้อย่างอีกฝ่ายไม่มีทางเป็นคนโง่เง่าไปได้!

ในความเป็นจริง

หลังจากได้รับหุ้น หลินเยวียนจะไม่ขบคิดเรื่องการออกจากสตาร์ไลท์อีก เขาทำเรื่องอย่างการตอบแทนบุญคุณด้วยการเนรคุณได้ เมื่อมองจากมุมนี้แล้ว หลี่ซ่งหวาวางเดิมพันได้ถูกต้องแล้ว

ช่วยไม่ได้

หลินเยวียนยอมแล้ว เพราะเรื่องนี้ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน หลินเยวียนก็ได้เปรียบ นอกจากนั้นยังเป็นความได้เปรียบอย่างใหญ่หลวงที่ใครก็ปฏิเสธไม่ได้

“ยอดเยี่ยม!”

จินมู่ยังคงเอ่ยชมไม่ขาดปาก เพราะจินมู่คลุกคลีกับหัวหน้าคนนี้ของตนมานาน เขารู้ว่าด้วยนิสัยของหลินเยวียน เมื่อได้รับหุ้นในส่วนนี้แล้ว จะไม่มีทางออกจากสตาร์ไลท์

เดิมพันก้อนใหญ่!

กัปตันสตาร์ไลท์ท่านนั้นชนะเดิมพันแล้ว ได้รับผลประโยชน์มหาศาล เพราะสำหรับสตาร์ไลท์ ความสำคัญของหัวหน้าคนนี้ของเขาไม่ใช่เพียงนักประพันธ์เพลงอัจฉริยะผู้ซึ่งเปี่ยมด้วยศักยภาพไม่สิ้นสุดหรือแม้แต่พ่อเพลงตัวน้อย ขณะเดียวกันหัวหน้าคนนี้ของเขายังเชี่ยวชาญด้านการผลิตภาพยนตร์อีกด้วย จนถึงตอนนี้ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เขาเขียนบทและลงทุนถ่ายทำนั้นได้สร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำให้กับสตาร์ไลท์!

นอกจากนั้น…

สิ่งที่แม้แต่สตาร์ไลท์ยังไม่รู้ก็คือ หัวหน้ายังมีอีกสองตัวตนซึ่งยังไม่ถูกเปิดเผย หนึ่งคือฉู่ขวงผู้ซึ่งมีสถานะในวงการวรรณกรรมบลูสตาร์ไม่เป็นรองเซี่ยนอวี๋ อีกตัวตนหนึ่งคืออิ่งจือนักวาดการ์ตูนอัจฉริยะแห่งบลูสตาร์!

โชคหล่นทับ!

สตาร์ไลท์โชคดีจริงๆ !

ในแง่หนึ่ง จินมู่ซึ่งรู้จักตัวตนต่างๆ ของหลินเยวียนนับว่ายืนอยู่ในมุมมองพระเจ้า สิ่งที่เห็นย่อมกว้างไกลกว้าหัวเรือใหญ่ท่านนั้นของสตาร์ไลท์ ทว่าอีกฝ่ายสามารถตัดสินใจเช่นนี้ภายใต้ทัศนวิสัยที่จำกัด นับว่าความใจกล้าเต็มร้อยจริงๆ

เรียกว่างี่เง่านิดหน่อยด้วยซ้ำไป

ทั้งยังหุนหันพลันแล่น

อันที่จริงหากคิดจะพิชิตใจหลินเยวียน จะทุ่มเงินมากแค่ไหนก็ยังรับได้ แต่วิธีนี้คาดไม่ถึงจริงๆ มิน่าล่ะจินมู่ถึงตกใจถึงขนาดนั้น “ผมไม่น่าบอกเลยว่าสตาร์ไลท์จะไม่ทำเรื่องแบบคลังหนังสือซิลเวอร์บลู เรื่องหุ้นควรเป็นเรื่องที่ควรยกขึ้นมาพูดตั้งแต่ก่อนหน้านี้ไม่ใช่หรือครับ ที่แท้พวกเขาก็ทำการใหญ่กันทั้งคู่”

หลินเยวียน “…”

สถานะของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ตอนนี้หลินเยวียนไม่ใช่เพียงผู้ถือหุ้นของคลังหนังสือซิลเวอร์บลู ขณะเดียวกันเขาก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นของสตาร์ไลท์อีกด้วย ไม่ว่าจะในวงการวรรณกรรม วงการดนตรี หรือวงการภาพยนตร์ เขาล้วนมีต้นทุนที่แข็งแกร่ง บางทีนี่อาจเป็นแรงเสริมสำคัญสำหรับการเผชิญหน้ากับจงโจวในอนาคต

“หัวหน้า”

ทันใดนั้นจินมู่ก็เอ่ยขึ้น “ผมว่าคุณควรพิจารณาถึงความตรงไปตรงมากับกัปตันท่านนี้ของสตาร์ไลท์นะครับ ในเมื่อเขากล้าเล่นใหญ่ เดิมพันซะขนาดนี้ เราจะเล่นใหญ่กับพวกเขาอีกสักหน่อยก็ไม่เสียหาย เปิดเผยสักหนึ่งตัวตน ระหว่างอิ่งจือกับฉู่ขวง นับว่าเป็นการให้ความมั่นใจกับสตาร์ไลท์ แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องเปิดเผยทั้งหมด เราควรสงวนบางอย่างไว้บ้าง อย่างน้อยตอนนี้ก็ต้องสงวนไว้ก่อน”

“อย่างนั้นหรือ”

หลินเยวียนรู้สึกว่าจินมู่พูดได้มีเหตุผลมากทีเดียว เป็นคนควรรู้จักตอบแทนความเมตตา ยิ่งไปกว่านั้นการเปิดเผยอีกหนึ่งตัวตนของเขาน่าจะมีประโยชน์ต่อสตาร์ไลท์บ้าง ถึงอย่างไรอิ่งจือและฉู่ขวงก็สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องกับการผลิตภาพยนตร์และอนิเมชันได้ งานด้านภาพยนตร์และโทรทัศน์ก็เป็นจุดมุ่งหมายหลักของสตาร์ไลท์ในช่วงไม่กี่ปีมานี้พอดี งานของบริษัทมีแนวโน้มที่จะตามทันอุตสาหกรรมดนตรีอยู่แล้ว

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ

ปัจจุบันนี้หลินเยวียนเป็นผู้ถือหุ้นของสตาร์ไลท์ แน่นอนว่าเขาต้องการสร้างมูลค่าให้กับสตาร์ไลท์ เพราะร้อยละ 10 ของมูลค่าในส่วนนี้จะรวมอยู่ในรายได้ของหลินเยวียนโดยตรง นี่คือข้อได้เปรียบโดยธรรมชาติของการเป็นผู้ถือหุ้น

เอาเถอะ

ในอนาคต จะจัดลำดับความสำคัญในการมอบลิขสิทธิ์ผลงานต่างๆ ของอิ่งจือและฉู่ขวงให้กับคลังหนังสือซิลเวอร์บลูและสตาร์ไลท์ก่อนแล้วกัน ทั้งสองฝั่งอาจมีการร่วมมือกันและเรื่องนี้จำเป็นต้องให้หลินเยวียนเป็นสื่อกลาง มอบหมายเรื่องนี้ให้กับจินมู่ก็เรียบร้อย

เมื่อคิดถึงตรงนี้

หลินเยวียนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ต่อสายหาเหล่าโจว เขาไม่ได้ระบุวัตถุประสงค์ในทันที เพียงแต่เอ่ยขึ้นว่า “ผมจะอยากพบประธานกรรมการ รบกวนอาโจวติดต่อให้หน่อยครับ”

“อาโจว?”

“คำเรียกใหม่ครับ”

“ฉันชอบมาก”

เสียงหัวเราะของเหล่าโจวดังมาจากปลายสาย จากนั้นเขาจึงตกปากรับคำกับหลินเยวียน กดวางสาย ก่อนจะต่อสายหาประธานกรรมการในทันที ทั้งยังไม่ถึงถามจุดประสงค์ของหลินเยวียน

สามนาทีผ่านไป

หลินเยวียนได้รับข่าวว่าประธานกรรมการนัดพบหลินเยวียนที่ห้องทำงานในบริษัท หลินเยวียนจึงบอกเล่าให้จินมู่ฟัง “ผมจะไปเปิดไพ่ที่บริษัทตามคำแนะนำของอาจิน ”

“ไพ่ใบไหนครับ”

“ผมยังไม่แน่ใจ”

ตัวตนของอิ่งจือและฉู่ขวงต่างมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น หลินเยวียนเองก็อยากรู้ว่าสตาร์ไลท์ต้องการไพ่ใบไหน แต่ถึงกระนั้นหลินเยวียนก็คิดว่าควรเปิดไพ่ฉู่ขวงก่อน ถึงอย่างไรอิ่งจือก็…

เฮ้อ

อย่าพูดถึงเลย

พูดไปก็น้ำตาจะไหล

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท