Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 679 เซี่ยนอวี๋ปล้นประธานกรรมการ

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 679 เซี่ยนอวี๋ปล้นประธานกรรมการ

“เซี่ยนอวี๋ปล้นประธานกรรมการ!”

วันรุงขึ้น

ข่าวนี้แพร่สะพัดออกอย่างรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่งในแผนกน้อยใหญ่ทุกซอกทุกมุมของสตาร์ไลท์ และกลายเป็นเรื่องซุบซิบนินทาที่ร้อนแรงที่สุดในบริษัท!

พนักงานหลายแผนกซึ่งเพิ่งแตะบัตรเข้างานต่างตกตะลึงทันทีที่ได้ยินเรื่องนี้

เซี่ยนอวี๋ปล้นประธานกรรมการ?

นี่มันอะไรต่อมิอะไรกันล่ะเนี่ย

จนกระทั่วข่าวลือนี้ค่อยๆ แผ่ขยายออกไป ‘ความจริง’ ของเรื่องราวนี้จึงค่อยๆ กลับสู่ความจริง

“ผมเห็นกับตาว่าช่วงบ่ายเมื่อวานเซี่ยนอวี๋เดินออกมาจากห้องทำงานของประธานกรรมการ หอบใบชาออกมาตั้งเยอะแยะ สุดท้ายแล้วเป็นเพราะหยิบใบชาไปจากห้องทำงานของประธานกรรมการมากเกินไป เซี่ยนอวี๋คนเดียวหอบไม่ไหว ยังขอให้ป้าจางที่ทำความสะอาดมาช่วยถือไปอีก!”

“ใบชาบางส่วนในนั้นเป็นของสะสมของประธานกรรมการเชียวนะ!”

“ทั่วทั้งบริษัทรู้ว่าประธานกรรมการชื่นชอบชามาก แม้แต่ผู้บริหารระดับสูงไปที่นั่นยังไม่ได้ชาดีๆ มาเลย แต่เซี่ยนอวี๋กลับกวาดใบชามาจนเกลี้ยงในรวดเดียว!”

“ประธานกรรมการมีปฏิกิริยายังไง”

“ประธานกรรมการบ้าไปแล้ว เมื่อวานก่อนเลิกงานเดินผ่านชั้นสิบแปด ใครๆ ก็ได้ยินเสียงดังโครมครามจากในห้องทำงานประธานกรรมการ ในนั้นต้องมีอะไรพังแน่ๆ !”

“อาจจะเป็นโต๊ะล้ม!”

“เซี่ยนอวี๋กล้าดียังไงถึงมาจุ้นจ้านแบบนี้?”

“ประธานกรรมการโมโหแต่ไม่กล้าพูดใช่ไหม!”

“ถึงยังไงผลงานของแผนกประพันธ์เพลงกับแผนกภาพยนตร์ของบริษัทก็มาจากเซี่ยนอวี๋ ก่อนหน้านี้เซี่ยนอวี๋ทุ่มเงินทำซีรีส์ตั้งหลายร้อยล้าน บริษัทยังรับได้เลย ตอนนี้เซี่ยนอวี๋ถูกประธานกรรมการตามใจจนเสียคน แย่งของไปหมดต่อหน้าต่อตา”

“…”

ข่าวลือนี้แพร่สะพัดไปเสียเป็นตุเป็นตะ

เมื่อพนักงานในสตาร์ไลท์ได้ยินข่าวลือ สมองพลันจินตนาการเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานในบริษัท

เซี่ยนอวี๋บอกเป็นนัยกับประธานกรรมการว่าต้องการดื่มชา ประธานกรรมการจำใจหยิบใบชาออกมา ปรากฏว่าเซี่ยนอวี๋ไม่อาจข่มกลั้นความละโมบ และหอบใบชาของประธานกรรมการไป…

น่าอนาถใจเหลือเกิน!

ไม่มีประธานกรรมการประสบพบเจอเรื่องแบบนี้หรอก

ถูกผู้ใต้บังคับบัญชารังแกเช่นนี้

และที่จริงแล้วข่าวลือนี้ ยังเกี่ยวโยงไปถึงการถ่ายทำบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศในครั้งก่อนด้วย

ครั้งก่อนเซี่ยนอวี๋ตั้งใจผลิตบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศให้เป็นซีรีส์ที่ใช้เงินทุนสูงที่สุด

ในเวลานั้นผู้บริหารระดับสูงหลายคนผลัดกันโน้มน้าว

ท้ายที่สุดแล้วประธานกรรมการมาฟาดฟันด้วยตนเอง

ปรากฏว่าไม่มีใครโน้มน้าวได้สำเร็จ หลังจากประธานกรรมการคุยกับเซี่ยนอวี๋แล้ว ยังเพิ่มเงินทุนเข้าไปอีก

ตอนนั้นทุกคนก็สัมผัสได้ว่าผู้บริหารระดับสูงนั้นต่ำต้อยแค่ไหนเมื่อเทียบกับเซี่ยนอวี๋

พูดอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำไป

ใครครั้งนี้ใบชาของประธานกรรมการถูกปล้นไปจนหมด ใบหน้าของพวกเขาก็ยิ่งแตกจนหมอแทบไม่รับเย็บ

“ระยะนี้ประธานกรรมการต้องงัดวิธีออกมาแน่นอน ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเซี่ยนอวี๋มีความดีความชอบอย่างมาก จนไม่เห็นผู้บริหารระดับสูงอยู่ในสายตาเลยสักคน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะยิ่งบ่มเพาะความโอหังของเซี่ยนอวี๋”

ขณะที่ผู้บริหารระดับสูงต่างสะท้อนใจในความสามารถของเซี่ยนอวี๋

ในบริษัท มีพนังงานอาวุโสบางคนวิเคราะห์เรื่องนี้อย่างมั่นอกมั่นใจ

พนักงานคนอื่นๆ ต่างก็เห็นด้วย

ไม่ว่าเซี่ยนอวี๋จะเก่งกาจแค่ไหน ก็ไม่มีเหตุผลให้ประธานกรรมการต้องก้มหัวให้อยู่ร่ำไป

ครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าประธานกรรมการโกรธแล้ว

เมื่อวานเกิดความวุ่นวายเสียงดังในห้องทำงานประธานกรรมการ หลายคนได้ยินเต็มสองหู ไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้นอย่างแน่นอน

องค์รัชทายาทแห่งสตาร์ไลท์แล้วอย่างไร?

ประธานกรรมการเป็นผู้กุมหางเสือของสตาร์ไลท์เชียวนะ!

……19.00 มีอีกตอนนะคะ @nam

ห้องทำงานของหลินเยวียน

เหล่าโจวมองไปยังใบชาซึ่งวางอยู่เต็มห้อง น้ำลายแทบหยดออกมา “นายไปปล้นประธานกรรมการมาจริงหรือ?”

“เขาให้ผมมา”

หลินเยวียนตอบอย่างมีความสุข

หลินเยวียนคิดว่าตนมองคนเก่งมาก เมื่อวานขณะที่ประธานกรรมการให้ใบชากับเขา ท่าทีของประธานกรรมการแลดูจริงใจ และไม่ได้ฝืนใจแม้แต่น้อย!

นั่นเป็นเหตุผลที่หลินเยวียนยอมรับของมาอย่างสบายใจ

นอกจากนั้นประธานกรรมการก็ยังบอกเอง ว่าเขาไม่ได้สนใจเรื่องชาสักเท่าไหร่

ถ้าไม่ใช่แบบนั้น หลินเยวียนคงไม่กล้าเอาของคนอื่นมาหรอก

“ต้าหงเผาจากเขาอู่อี้ หลงจิ่งจางตงหู เถี่ยกวนอินจากอันหนาน ปี้หลัวชุนจากต้งถิง ผูเอ่อร์ กวาเพี่ยนจากลิ่วอัน เหมาเฟิงจากหวงไห่ เหมาเจียนจากซิ่นหยาง อิ๋นเซินจากจวินซาน ชาขาวจากฝูหลิน ทั้งหมดนี้เป็นใบชาชั้นดีทั้งนั้น และมีเพียงคนที่มีเส้นสายกับประธานกรรมการถึงได้มา”

เหล่าโจวถูมือ

“ฉันเชื่อว่าประธานกรรมการยอมให้หุ้นสิบเปอร์เซ็นต์กับนาย แต่ไม่เชื่อว่าเขาจะยอมให้ยกใบชาชั้นดีที่เขาเก็บสะสมพวกนี้กับนายฟรีๆ ถ้าวันนี้เขาไม่อุตส่าห์เปิดประชุมเพื่อนายโดยเฉพาะ”

หลินเยวียนนึกสงสัย “ประชุมอะไรครับ”

เหล่าโจวมีสีหน้าแปลกชอบกล “เช้าวันนี้ทันทีที่เข้าบริษัทมา ประธานกรรมการก็ลากพวกเราไปประชุม บอกให้แต่ละแผนกดูแลนายให้ดี บอกว่าปกตินายทำงานหนักมากแล้ว แถมยังให้ทางฝ่ายการเงินจัดสรรให้นายใหม่ ตอนนี้รถประจำตำแหน่งนายราคาหลายล้านแล้วล่ะมั้ง เขาจะอยากได้แบบไหนอีก ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเปิดประชุมด่วน ทุกคนเลยคิดว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นในบริษัท ปรากฏว่าการประชุมหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมามีแต่พูดคุยกันว่าจะดูแลนายยังไงดี”

ไม่เพียงเหล่าโจวที่งง

ผู้บริหารระดับสูงทุกคนก็งงเช่นกัน

รู้สึกว่าหลังจากประธานกรรมการมอบหุ้นให้กับเซี่ยนอวี๋สิบเปอร์เซ็นต์ คล้าย กับว่าจะได้เปิดประตูสู่โลกใบใหม่ ในตอนนี้จึงขบคิดว่าจะพะเน้าพะนอเซี่ยนอวี๋อย่างไรดี ทำให้วัฒนกรรมองค์กรกำลังจะเสื่อมถอยลง

ใช่แล้ว

ทุกคนรู้เรื่องที่ราชวงศ์ปลาและแผนกภาพยนตร์ต่างประจบกระแจงเซี่ยนอวี๋ แต่กลับไม่ได้รู้สึกว่าผิดปกติ ทว่าตอนนี้แม้แต่ประธานกรรมการยังพลอยเอาอกเอาใจเซี่ยนอวี๋ไปกับเขาด้วย นี่ยังเป็นบริษัทบันเทิงที่ยิ่งใหญ่อยู่ใช่ไหม

เหล่าหวังแทบร้องไห้ในห้องประชุม !

เพียงเพื่อรักษาใบชาของเขาไว้!

หลินเยวียน “…”

ตอนนี้ความสามารถในการอ่านคนของเขาพัฒนาขึ้นแล้วจริงๆ

มองปราดเดียวก็รู้ว่านี่คือพลังที่มาพร้อมกับฉู่ขวง

ดูเหมือนตนจะคิดไม่ผิดที่เปิดเผยตัวตนของฉู่ขวงกับประธานกรรมการ

เพียงแต่เรื่องออกจะเลยเถิดเกินไปหน่อย

คนอื่นไม่รู้จักความพอดี จะทำยังไงดีล่ะ

ทำแบบนี้ไม่ได้หรอก

หลินเยวียนพูดกับเหล่าโจว “อาโจวชอบอะไรก็เลือกไปสักกล่อง”

“ได้หรือ?”

เหล่าโจวดวงตาเป็นประกาย นี่คือใบชาของประธานกรรมการซึ่งเขาปรารถนามาเนิ่นนาน

หลินเยวียนพยักหน้า “ได้ครับ”

เหล่าโจวยิ้มร่า พลางเลือกใบชาที่ตนชอบที่สุด ก่อนจะกลับไปยังห้องทำงานของตนอย่างมีความสุข โดยไม่สนใจถามด้วยซ้ำว่ามีความลับอะไรที่ซ่อนงำไว้ระหวางเซี่ยนอวี๋และประธานกรรมการ

เหล่าโจวไปแล้ว

หลินเยวียนจึงเรียกกู้ตง “เลือกไปให้ลุงหยางกับน้าเจิ้งหน่อยครับ”

“ได้ค่ะ”

กู้ตงมองไปยังหลินเยวียน “ตัวแทนหลินเหมือนจะเปลี่ยนไปนะคะ”

“ตรงไหนครับ”

“เมื่อก่อนคุณไม่เคยนึกถึงความสัมพันธ์เหล่านี้”

“งั้นเหรอครับ?”

หลินเยวียนคิดๆ ดู เหมือนจะจริงแฮะ

น่าจะเป็นเพราะช่วงนี้เรียนรู้มากจากประธานกรรมการ

เราสามารถทำเรื่องต่างๆ ที่แฝงจุดประสงค์ได้ ตราบใดที่การกระทำและเจตนานั้นไม่ได้ทำร้ายอีกฝ่าย เช่นนั้นก็นับว่าดีในตัวเองแล้ว

สรุปคือ หลินเยวียนเติบโตขึ้นบ้างแล้ว

หลินเยวียนอาจตระหนักได้ถึงเส้นทางในการเติบโตนี้

“เอาเถอะ ยังไม่ต้องพูดเรื่องนี้ ทำงานกันดีกว่าครับ”

หลินเยวียนปิดคอมพิวเตอร์อย่างคล่องแคล่ว ทั้งเซี่ยนอวี๋และฉู่ขวงมีงานให้ทำอยู่เสมอ

ตัวอย่างเช่นฝั่งฉู่ขวง

ยังไม่ได้เขียนยอดนักสืบโฮล์มส์ฉบับเดือนหน้าเลย

เดือนหน้าเขียนอะไรดีล่ะ

หลินเยวียนขบคิดอยู่สักพัก จากนั้นแววตาพลันแน่วแน่ขึ้นมา

แย่แล้ว

เหมือนว่าจะเขียนถึงเนื้อหาช่วงที่โฮล์มส์กับมอริอาร์ตี กระโดดหน้าผาด้วยกันแล้ว?

19.00 มีอีกตอนนะคะ @nam

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท