Invicinble – โลกอมตะ ตอนที่ 305 ทําไมข้าถึงควรหนีด้วย?
เดิมทีจ้าวเฉินตัดสินใจจะจับตัวหวงเสี่ยวหลงในที่พักของหวงเสี่ยวหลงแต่ตอนนี้หวงเสี่ยวหลงนั้นพึ่งจะกลับมา ช่างดียิ่งนัก!
“สั่งการลงไป บอกให้ไอ้พวกขยะนั้นไม่ต้องไปทําให้หวงเสี่ยวหลงตื่นตัวในตอนนี้ รอจนกว่าข้าจะไปถึงค่อยลงมือ!” จาวเฉินก็ก็ได้ตะคอกใส่พ่อบ้านเฟิง
“ได้ขอรับ นายน้อย!” พ่อบ้านเฟิงก็รีบรับสั่งจ้าวเฉินอย่างรวดเร็ว
ครูต่อมา จ้าวเฉินได้นํากลุ่มผู้เชี่ยวชาญไปทางที่พักของหวงเสี่ยวหลง
อีกด้าน หวงเสี่ยวหลงนั้นก็เพิ่งจะเดินเข้าไปในที่พัก พอเห็นหวงเสี่ยวหลงกลับมา ฉินหยาง หลี่เฟย เจี่ยตงและฟานเอ๋อเฉิงก็ดีใจและรีบมาทักทายหวงเสี่ยวหลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นหวงเสี่ยวหลงจึงสั่งให้พวกเขานั่งลงแล้วถามสถานการณ์ในเมืองหมื่นเทวะในช่วงที่เขาไม่อยู่
พอได้ฟังรายงานของฉินหยาง ดูเหมือนว่าคนของจ้าวเฉินจะเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของพวกเขาในช่วงที่หวงเสี่ยวหลงไม่อยู่ ทําให้หวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกดูถูก อยู่ภายใน แล้วเขาจึงได้กระจายสัมผัสวิญญาณออกไปจากนั้น ร่างของเขาก็หายไปตัวไปในพริบตา และเมื่อหวงเสี่ยวหลงปรากฏขึ้นที่นี่อีกครั้ง ฉินหยางก็เห็นหวงเสี่ยวหลงจับชายวัยกลางคนในชุดสีทองไว้ทั้ง 4 คน จากนั้นเขชาก็เหวี่ยงพวกมันทั้งสี่คนไปไว้ตรงมุมที่พัก
ฉินหยาง หลี่เฟย และคนที่เหลือก็ดวงตาเบิกกว้างในขณะที่พวกเขามองคนทั้งสี่ที่หวงเสี่ยวหลงขว้างไปตรงหัวมุมที่พักอย่างสบายๆ พวกเขาก็จําได้ทันทีว่าทั้ง 4 คนนี้เป็นข้ารับใช้ของจ้าวเฉิน–นอกจากนี้แต่ละคนนั้นก็เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนขั้นที่ 2 ด้วย
แค่เพียงไม่กี่ลมหายใจ หวงเสี่ยวหลงกลับจับตัวผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะขั้นที่ 8ทั้ง 4คนได้แล้ว?!
นี่มันหมายความว่านายน้อยของพวกเขาได้พบกับสถานที่บ่มเพาะที่ถูกทิ้งไว้โดยผู้เชี่ยวชาญเผ่าเทวะในยุคโบราณงั้นหรือ? นอกจากนี้ พวกเขาก็คิดหาเหตุผลอื่นที่จะอธิบายเรื่องความแข็งแกร่งของหวงเสี่ยวหลงที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วใน 7 เดือนไม่ได้ด้วย!
“นายน้อยของพวกเขาไม่เพียงบรรลุระดับเซียนเทียนขั้นที่ 8 บางทีเขาอาจจะบรรลุถึงระดับเซียนเทียนขั้นที่ 8 ชั้นปลาย หรือแม้กระทั่งทะลวงระดับไปจนถึงระดับเซียนเทียนขั้นที่ 8 ชั้นสูงสุดแล้ว “ฉินหยางก็คิดอย่างลับๆ
จากการตัดสินของเขา เมื่อตอนที่หวงเสี่ยวหลงยังอยู่ในระดับเซียนเทียนขั้นที่ 7 ชั้นกลาง เขากลับสามารถโค่นล้มผู้ฝึกตนระดับเวียนเทียนขั้นที่ 8ชั้นปลายได้ ดังนั้นตอนนี้เขาได้บรรลุระดับเวียนเทียนขั้นที่ 8ชั้นปลายแล้ว เขาจึงสามารถจัดการผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนขั้นที่ 8หลายคนโดยไม่ยากเย็น
หวงเสี่ยวหลงไม่ได้รู้เรื่องที่ผู้ติดตามของเขาคิดและไม่สนใจด้วย พอมองดูชายวัยกลางคนทั้ง 4 บนพื้น หวงเสี่ยวหลงก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พูดมา ทําไมจ้าวเฉินถึงต้องการกําจัดข้าขนาดนั้นหล่ะ?”
หวงเสี่ยวหลงรู้สึกสงสัยมากว่าทําไมคนที่เขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางด้วยถึงมาก่อปัญหาให้เขา
ชายวัยกลางคนทั้ง 4 ก็นิ่งเงียบเมินเฉยหวงเสี่ยวหลง จากนั้นพวกเขาก็เงยหน้าจ้องหวงเสี่ยวซึ่งก็ได้มีหนึ่งนั้นพูดเย้ยหยันหวงเสี่ยวหลงออกมา “ไอ้สารเลว ถ้าหากเจ้าฉลาด งั้นก็จงไปกับพวกเราตอนนี้ซะ มิฉะนั้น จากนี้ไปแม้ว่าเจ้าอยากจะตายก็ไม่มีทางได้ตายดี!”
“ใช่แล้ว ตอนนี้ปล่อยพวกเราแต่โดยดี นายน้อยของพวกเราจะได้ละเว้นศพของเจ้าให้อยู่ในสภาพดี!” หนึ่งในนั้นอีกคนก็ได้พูดออกมาด้วยความดูถูก
“งั้นหรอกหรือ?”สีหน้าของหวงเสี่ยวหลงก็เย็นชาขึ้น จากนั้นเขาก็ยื่นมืออกไปทําท่าจับ ทําให้ชายทั้งสองคนที่พูดเมื่อกี้นี้ลอยมาสู่มือของหวงเสี่ยวหลง
หวงเสี่ยวหลงจึงได้กําคอของพวกเขาทั้งสองอย่างแน่นแล้วพูดออกมาด้วยเสียงเย็นชาว่า “ งั้นตอนนี้ข้าจะทําให้ศพของพวกเจ้าอยู่ในสภาพดีแล้วกัน!” พอพูดจบ หวงเสี่ยวหลงก็เพิ่มแรงบีบแล้วหักคอของทั้งสองคนทันที
เมื่อร่างทั้งสองหล่นลงพื้น ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าหวงเสี่ยวหลงกล้าฆ่าพวกเขา ชายวัยกลางคนที่เหลืออีก 2คนก็จ้องมองศพของพวกพ้องของพวกเขาด้วยความหวาดกลัว ความมหยิ่งยโสที่พวกเขาแสดงออกมาทางใบหน้าเมื่อกี้นี้ได้หายวับไปกับตาซึ่งตอนนี้บนใบหน้าของพวกเขามีเพียงความหวาดกลัวที่เหลือยู่เท่านั้น
หวงเสี่ยวหลงก็ได้เดินเข้าไปหาทั้งสองคนอย่างช้าๆ
“เจ้า อย่าฆ่าพวกเราเลย!” ชายทั้งสองก็ถอยหนีด้วยความหวาดกลัว
“ พูดมาซะ! ทําไมจ้าวเฉินถึงตามล่าข้าด้วย?!” หวงเสี่ยวหลงก็จ้องมองด้วยสายตาอันคมกริบและเย็นชา
“เราไม่รู้จริงๆ เราไม่รู้อะไรเลย!”
“พ่อบ้านเฟิงเพียงสั่งให้พวกเราจับตาดูการเคลื่อนไหวของเจ้า ส่วนเหตุผลว่าทําไมนายน้อยต้องการจัดการเจ้านั้นพวกเราไม่รู้เลยจริงๆ!”ชายทั้งสองคนก็พูดทุกสิ่งทุกอย่างออกมาเพื่อหวังที่จะอยู่รอด
“เนื่องจากเป็นแบบนั้น ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะไว้ชีวิตพวกเจ้า”หวงเสี่ยวหลงก็กล่าวออกมา จากนั้นเขาก็ซัดหมัดออกไปโดยไม่พูดอะไรออกไปอีก
เขาได้ใช้วิชาหมุดเทวะแห่งความว่างเปล่าชกใส่หน้าอกของทั้งสองคน ทําให้หลุมระเบิดออกมาตรงหน้าอกของพวกเขา
ฉินหยาง หลี่เฟย เจี่ยตงและฟานเอ๋อเฉิงก็รู้สึกผวาเมื่อเห็นหวงเสี่ยวหลงฆ่าคนทั้งสี่โดยไม่ลังเล ซึ่งนั่นเป็นเพราะคนทั้งสี่นั้นเป็นข้ารับใช้ของจ้าวเฉิน
“นายน้อย ถ้าหากเราออกไปจากเมืองหมื่นเทวะในตอนนี้เลยจะดีหรือไม่ขอรับ?”ฉินหยางก็ก้าวออกมาถามอย่างระมัดระวัง เนื่องจากจ้าวเฉินนั้นคงไม่ปล่อยเรื่องการฆ่าข้ารับใช้ของมันไปแน่นอน
“ออกไปงั้นหรือ?”หวงเสี่ยวหลงก็หันไปมองท้องฟ้าที่ห่างไกลออกไป “ข้าเกรงว่าตอนนี้เราคงไปไม่ทันแล้ว”
ในขณะที่ฉินหยางและคนที่เหลือนั้นกําลังสับสนกับคําตอบของหวงเสี่ยวหลง ก็ได้มีจุดๆหลายจุดปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้าซึ่งมันได้เคลื่อนไหวมาทางพวกเขาด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง
“จ้าวเฉิน!”ฉินหยางและคนที่เหลือก็หน้าซีด
หวงเสี่ยวหลงก็มองดูจุดดําหลายซึ่งคือจ้าวเฉินและข้ารับใช้ของเขาเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เขาก็รู้สึกดูถูกและคิดว่า “จ้าวเฉินคนนี่มันช่างลงมือได้รวดเร็วเสียจริง ดูเหมือนว่าจะมีคนรายงานมันในตอนที่เขาเดินผ่านเข้าประตูเมืองมา
หวงเสี่ยวหลงก็ยืนอยู่ที่จุดเดิมโดยไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมาสักอย่างและรอคอยการมาถึงของจ้าวเฉิน ครู่ต่อมา จ้าวเฉินและข้ารับใช้ของมันก็ได้เข้ามาถึงที่พักที่หวงเสี่ยวหลงยืนอยู่
จ้าวเฉินนั้นยืนอยู่ตรงกลางสวนหย่อมซึ่งเขาใช้สายตาตรวจสอบรอบๆ ในขณะที่เขาทําแบบนั้น เขาก็ได้มองเห็นร่างของข้ารับใช้ของเขาทั้งสี่คน มันทําเลยทําให้ใบหน้าของเขาดูเศร้าหมองลงทันที จากนั้นเขาก็หันหน้าไปเผชิญหน้าของหวงเสี่ยวหลงแล้วพูดออกมาด้วยเสียงบูดบึ้ง “เจ้ากล้าฆ่าพวกมัน!” เหมือนกับคําพูดที่มีคนกล่าวไว้ว่า “ดูเจ้านายของสุนัขก่อนจะตีมัน นอกจากนี้ หวงเสี่ยวหลงก็ได้ฆ่าพวกมันไปแล้วด้วย!
เขารู้ว่าหวงเสี่ยวหลงรู้ว่าพวกมันเป็นข้ารับใช้ของเขา
หวงเสี่ยวหลงก็ได้กล่าวออกมาอย่างไม่แยแส “ทําไมเจ้าข้าจะไม่กล้าหล่ะ?”
จ้าวเฉินก็จ้องมองหวงเสี่ยวหลงอย่างดุร้าย จากนั้นดวงตาของเขาก็เปล่งแสงสีฟ้าออกมาแล้วระเบิดหัวเราะออกมาทันที “หวงเสี่ยวหลง เจ้าคิดว่าข้าจะไม่กล้าฆ่าเจ้าเพราะไอ้เฒ่านั้น เหอหยุนเซียงสิปกป้องเจ้าสินะ!”
“ให้ข้าได้พูดแนะนําเจ้าหน่อยแล้วกัน ใครกล้าหาเรื่องข้า ไม่ว่ามันจะเป็นผู้นี้ ข้าไม่มีทางปล่อยมันมีชีวิตอยู่แน่!”
จากนั้นก็ได้มีเพลิงสีฟ้าถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของจ้าวเฉิน เปลวสีฟ้าที่โบกสะบัดไปมาในอากาศได้ทําให้อากาศรอบๆนั้นเพิ่มสูงขึ้นถึง 10 เท่า ราวกับพื้นที่แห่งนี้จมลงในบ่อแม็กม่า ฉินหยางและคนที่เหลือก็รู้สึกตื่นตระหนกเมื่อเห็นว่าน้ำที่ไหลออกมาจากหม่อน้ำที่ละหยดนั้นได้กลายเป็นหมอกไปเรียบร้อยแล้ว
ฉินหยางและคนที่เหลือก็ถูกคลื่นความร้อนปกคลุม ทําให้พวกเขารู้สึกเจ็บแสบไปทั่วตัว
พอมาถึงจุดนี้ พ่อบ้านเฟิงที่มีผมสีเงินก็ได้ก้าวออกมา “นายน้อย ได้โปรยอนุญาตให้ทาสผู้นี้เป็นคนลงมือด้วย การฆ่าผู้ฝึกตนเพียงแค่ระดับเซียนเทียนจะเป็นการทําให้มีอนายน้อยสกปรกเปล่าๆ” พ่อบ้านเฟิงคนนี้ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ให้สนใจหวงเสี่ยวหลงที่เป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเลยสักนิด
“ไม่จําเป็น” จ้าวเฉินก็ยกมือขึ้น จากนั้นเขาก็มองหวงเสี่ยวหลงพร้อมกับแสดงสีหน้าดูถูกออกมา “ข้าจะจัดการด้วยตัวเอง ข้าจะให้เหอหยุนเซียงไอ้เฒ่านั้นรู้ว่าคนที่ข้าต้องการจะฆ่านั้น ไม่มีใครช่วยมันได้หรอก!”
“ได้ขอรับ นายน้อย!” พอได้ยินคําพูดนี้ พ่อบ้านเฟิงและข้ารับใช้คนอื่นก็ถอยหลังไปยืนอีกด้าน
หวงเสี่ยวหลงก็ได้สั่งการให้กลุ่มของฉินหยางถอยยืนด้านข้างด้วยไปด้วยเหมือนกัน
จ้าวเฉินก็มองหวงเสี่ยวหลงที่ยังคงเงียบสงบ เขาจึงยิ้มมุมปากออกมาอย่างไม่แยแส “นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นคนที่ใกล้จะตายแล้วแต่ยังคงใจเย็นอยู่ได้” พอเห็นหวงเสี่ยวหลงไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆ จ้าวเฉินก็ไม่รีบร้อนฆ่าเขา สําหรับเขา การฆ่าหวงเสี่ยวหลงนั้นคงใช้เวลาไม่นานนัก
“เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าสามารถฆ่าข้าได้?” หวงเสี่ยวหลงไม่ได้สนใจคําพูดของจ้าวเฉินเลยสักนิด เขายังคงแสดงสีหน้าไม่แยแสอยู่เหมือนเดิม
จ้าวเฉินก็มึนงงกับคําพูดของหวงเสี่ยวหลงทันทีราวกับเขาได้ยินเรื่องที่ขบขันที่สุดในโลก มันทําให้เขาทนไม่ไหวจึงได้หัวเราะออกมา พอเห็นเรื่องนี้ พ่อบ้านเฟิงและคนที่เหลือจึงระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ในความคิดของพวกเขา มีเพียงคําว่าโง่เง่าเท่านั้นถึงจะอธิบายคนที่กล้าพูดแบบนี้
ผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะไม่สามารถฆ่าผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนกระจ้อยร้อยได้งั้นหรือ? ถ้าหากผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะต้องการจะกําจัดผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียน มันก็เหมือนการบดขยื้อย่างไม่ต้องสงสัย พวกเขาไม่เคยได้ยินเรื่องผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนที่มีความสามารถในการหลบหนีจากผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะเลยสักคนเดียว
จ้าวเฉินก็หยุดหัวเราะ แต่ในดวงตาของเขานั้นยังคงแสดงอารมณ์ขบขันอยู่ จากนั้นเขาก็มองหวงเสี่ยวหลง “เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถหนีจากข้าได้งั้นหรือ?”
“หนี? ทําไมข้าถึงควรหนีด้วย?” หวงเสี่ยวหลงก็ถามคืน