พูดถึงฉายาที่ผมไม่อาจทนดูได้ ตัวการที่ทำให้เกิดมันขึ้นคือยัยคนที่อยู่ตรงหน้านี่
ทำลายบ้านของหมู่บ้านฝึกหัดในท่าเดียว จากนั้นความผิดทั้งหมดก็ตกอยู่ที่ผม เหมือนเป็นมือโปรการขายเพื่อนร่วมทีมมา 30 ปีเลย
ดูเหมือนยัยนี่ก็เลเวลเพิ่มไปไม่น้อย
อาร์ย่า เลเวล 14 นักดาบเพลิงคู่ ชั่วร้าย ถ่อมตน ผู้ทำลายบ้านเมือง one hit kill หัวหน้าทีมที่ 27 แห่งโรงเรียนทหารโทโก้
ความสัมพันธ์ : เป็นมิตร
“จะว่าไปฉายาพวกนั้นของนายมันเกิดอะไรขึ้น? เละตุ้มเป๊ะเหรอ?”
“เธอยังมีหน้ามาพูดอีก บางอันในนั้นนี่ต้องขอบคุณเธอเลย”
“งั้นยังไม่ขอบคุณฉันอีกล่ะ?”
“ขอบคุณน้องสาวเธอสิ!”
“นายสนใจน้องสาวฉันเหรอ?”
“ช่างมันเถอะ เธอคนเดียวก็น่ากลัวพอแล้ว ถ้ามาอีกคนโลกคงระเบิดแน่”
“อย่าพูดเหมือนฉันเป็นจอมมารสิ”
“เธอลองคิดเรื่องอาชีพนี้สิ”
“มีโอกาสค่อยว่ากัน”
“คือว่า…”
ยูบริลที่อยู่ข้างๆ ไม่รู้จะทำยังไงกับบทสนทนาของพวกเรา จึงใช้สายตาประหลาดมองพวกเรา
“ขอโทษ ขอโทษ ยูบริลจัง จริงๆ ก็มาหาเธอนี่แหละ แต่ดันมาเจอไอ้โง่นี่พอดี”
“ไม่เป็นไร…จะว่าไปพวกเจ้ารู้จักกันได้อย่างไร?”
“อ่า เคยพบกันครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้วน่ะ”
อาร์ย่าทำท่าทางให้ผมไปอยู่อีกด้านแล้วถาม
“ยูบริลจังจะกลับโรงเรียนทหารเมื่อไหร่ล่ะ?”
“คือว่า…”
ยูบริลขมวดคิ้วอย่างกระอักกระอ่วน
“ยูบริลเคยอยู่โรงเรียนทหารโทโก้เหรอ?”
“ใช่ ข้าเรียนรู้ระหว่างสองสถาบัน อย่างไรซะข้าก็คือพาลาดิน ใกล้เคียงกับเป็นอัศวินเวทนั่นแหละ”
“อย่างนี้นี่เอง ใช่แล้ว ในเมื่อเจอกันแล้ว ตอนเย็นพวกเราไปเดินเล่นกันเถอะ!”
“คงไม่ได้”
ผมยักไหล่
“ตอนเย็นฉันต้องไปเตรียมตัวแข่งขันชั้นปี”
“เอ๋ นายก็ไปร่วมกิจกรรมแบบนั้นด้วยเหรอ?”
“ทุกคนระบุชื่อฉันให้เข้าร่วม ฉันมีทางเลือกที่ไหนล่ะ”
“แต่ว่า ตอนนี้สนามต่อสู้จริงน่าจะเปิดแล้วนะ เจ้าแน่ใจเหรอว่าจะยังไม่ไป?”
“แย่แล้ว!”
เมื่อยูบริลพูดแบบนี้ผมถึงสังเกตเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า สนามต่อสู้จริงเปิดนานแล้ว
บ้าเอ๊ย ผมปล่อยให้องค์หญิงรอนานแล้วใช่ไหม?
“ฉันไปก่อนล่ะ ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง”
พูดจบ ผมก็พุ่งออกจากห้องกิจกรรมไปราวกับลม วิ่งไปที่สนามต่อสู้จริง
มองจากที่ห่างไกลก็เห็นว่าคนยืนอยู่บนสนามต่อสู้จริงสองสามคน หนึ่งในนั้นมีแสงประกายเล็กน้อยบนตัว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านั่นต้องเป็นองค์หญิงสโนว์แน่
“ช้าเกินไปแล้ว! เจ้าไปทำอะไรมา!”
“ผมงีบหลับไปนิดหน่อย…”
“กลางวันแสกๆ ก็นอนหลับด้วย เจ้าคิดอะไรอยู่กัน! เดี๋ยวนะ ข้างหลังเจ้าคือใครกัน”
“ข้างหลัง?”
ผมหันกลับไปอย่างสงสัย กลับมองเห็นอาร์ย่าและยูบริลกำลังยืนอยู่ข้างหลังผม
“พวกเธอมาได้ยังไง?”
“ดูหน่อยคงไม่เป็นไรใช่ไหม?”
อาร์ย่าเบ้ปากแล้วพูด
“ยังไงซะการต่อสู้ของนักเวทก็เท่านั้นแหละ ถึงจะมาพร้อมกันสักสองสามคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทหารหรอก”
“เจ้าว่าอะไรนะ!”
สิ้นเสียงพูดอาร์ย่า วงเวทสีครามก็ปรากฏใต้เท้าของเธอ วินาทีต่อมา เกล็ดน้ำแข็งนับไม่ถ้วนก็ม้วนขึ้นมาราวกับพายุทอร์นาโด ปกคลุมทั่วทั้งตัวเธอ
“ฮึ่ม ลอบโจมตีได้เร็วดีนี่”
เงาร่างของอาร์ย่าปรากฏจากอีกด้าน แต่เธอไม่ได้มีท่าทางผ่อนคลาย เพราะบนมือของเธอปกคลุมด้วยเกล็ดน้ำแข็ง
ประกายแสงสีแดงสว่างวาบ เกล็ดน้ำแข็งบนแขนเธอก็หลุดออก จากนั้นเธอก็ชักดาบคู่ของตัวเองออกมา
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันขอสู้กับพวกเธอหน่อยเป็นไง?”
“ถูกใจข้าพอดีเลย!”
ไม้เท้าคริสตัลสูงกว่าตัวองค์หญิงสโนว์ปรากฏอยู่ในมือเธอ แล้วชี้ไปทางอาร์ย่า
ทำไมมองเห็นเด็กสาวที่สูงไม่ถึงไหล่ผมสองคนเล็งอาวุธใส่กันแล้วมีความสุขจังล่ะ?
สองคนนี้…
เป็นเด็กน้อยอย่างที่คิดเลย!