บทที่ 948 สุนัขดำ ‘เจ้าเห็นท่านสุนัขเป็นสัตว์ขี่รึ?!’
บทที่ 948 สุนัขดำ ‘เจ้าเห็นท่านสุนัขเป็นสัตว์ขี่รึ?!’
เพล้ง!
เสียงแตกร้าวใสกังวานดังขึ้น ลูกแก้วที่สลักอยู่ตรงอกของสวีจื้อและก่อร่างเป็นเกราะแหลกเหลวระเบิดออก เศษกระจายกลาดเกลื่อนพื้น
“เป็นไปได้อย่างไรกัน?!”
สวีจื้อรำพึงรำพันกับตนเอง ตกตะลึงพรึงเพริดถึงขีดสุด คุกเข่าลงกับพื้นดังตึง ท่าทางเชื่อไม่ลงเลยสักนิด
นี่คือศาสตราที่ผู้เบิกทางท่านนั้นประดิษฐ์ด้วยตนเอง แม้ไม่ถึงขั้นสมบูรณ์แบบ แต่ขอเพียงถูกสร้างขึ้นจากมือผู้เบิกทางท่านนั้นก็ทรงพลังน่าพรั่นพรึงอย่างแท้จริง ต่อให้ยอดฝีมือขอบเขตอิสระขั้นเก้ากระหน่ำโจมตีตามที่ต้องการก็ไม่มีทางเป็นอันใด
สุดท้ายกลับเปราะบางรับมิได้แม้แต่การโจมตีเดียวด้วยธนูที่หลี่จิ่วเต้ายิงเข้ามาอย่างไม่ใส่ใจ มิให้เขาสะเทือนใจได้อย่างไร แรงศรัทธาในใจพังครืนในบัดดล
“เก่งกาจปานนี้เชียว?!”
นักพรตอ้วนตาโตอ้าปากค้าง สะท้านใจเหลือคณา
ตอนนี้เขารับรู้ถึงความแข็งแกร่งของหลี่จิ่วเต้าอย่างแท้จริง มิน่าก่อนนี้หลี่จิ่วเต้าถึงวางตัวราบเรียบเพียงนั้น ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะเขานั้นไร้เทียมทาน เหนือชั้นกว่าสวีจื้อมาก ไม่เคยเห็นสวีจื้ออยู่ในสายตา
“ท่านผู้นี้มีความเป็นมาอย่างไรกันแน่!”
เขาจ้องมองร่างของหลี่จิ่วเต้าแล้วคิดขึ้นมาอย่างอดมิได้ ใคร่รู้ในภูมิหลังหลี่จิ่วเต้าเหลือแสน
ลูกแก้วนั้นถือเป็นยอดศาสตรา ทว่าหลี่จิ่วเต้ากลับไม่แยแสสักนิด ทำลายในธนูเดียว เบื้องหลังของอีกฝ่ายย่อมเหนือจินตนาการแน่!
มิฉะนั้น หลี่จิ่วเต้าไม่มีทางไม่ยี่หระลูกแก้วนั้นถึงเพียงนี้
หัวใจเขาเต้นรัวเร็ว ‘ตึกตัก’ รู้ตัวว่าการตัดสินใจในครานี้ของเขาถูกต้องอย่างยิ่ง!
เลือกขออาศัยเข้าพวกหลี่จิ่วเต้ามีโอกาสช่วยให้เขาได้รับวาสนาการเปลี่ยนแปลงสูงส่งกว่านี้มาก เหนือกว่าวาสนาการเปลี่ยนแปลงที่ผู้เบิกทางท่านนั้นทิ้งไว้ให้!
“รากฐานพิเศษในโลกหน้าฉากถูกทิ้งไว้โดยผู้เบิกทางท่านนั้น ลือกันว่าหลี่จิ่วเต้าได้รับรากฐานพิเศษในโลกหน้าฉาก ถึงได้ทรงพลังน่าพรั่นพรึงปานนี้! ทว่าข้าดูแล้วความจริงน่ากลัวจะมิใช่เช่นนั้น! ไม่เห็นหรือว่าแม้แต่ภาพร่างผู้เบิกทางท่านนั้นที่ถูกก่อขึ้นยังถูกทำลาย!”
เขาคิดในใจ คัดค้านข่าวลือนี้
หากความแข็งแกร่งของหลี่จิ่วเต้ากำเนิดจากวาสนาที่ผู้เบิกทางท่านนั้นทิ้งไว้จริง หลี่จิ่วเต้าไฉนเลยจะบดขยี้ภาพร่างผู้เบิกทางท่านนั้นที่ก่อขึ้นได้?
แทบเป็นไปไม่ได้เลย!
เพราะอย่างนั้น เขาจึงมองว่าความแข็งแกร่งของหลี่จิ่วเต้ามาจากตัวเขาเอง หาได้พึ่งพารากฐานพิเศษในโลกหน้าฉาก
และบรรดายอดฝีมือผู้ไม่รู้ความจริงไม่ท้นตระหนักถึงเรื่องนี้ จึงมองว่าความแข็งแกร่งของหลี่จิ่วเต้าเป็นความดีความชอบของรากฐานพิเศษในโลกหน้าฉาก
“ข้ามองว่าเขาไม่มีทางด้อยไปกว่าผู้เบิกทางท่านนั้น และอาจทรงพลังยิ่งกว่า!”
หัวใจของนักพรตอ้วนเต้นรัวเร็วยิ่งขึ้น
ไม่ว่าอย่างไร ความแข็งแกร่งของหลี่จิ่วเต้าก็มิอาจเคลือบแคลง เขากอดต้นโพธิ์ต้นไทรอย่างหลี่จิ่วเต้าไว้ให้แน่นก็พอ วันหน้าย่อมไม่เสียเปรียบผู้ใด!
“ไปเถิด ไปล่าสัตว์กัน”
อีกด้าน หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม ไม่สนใจสวีจื้ออีก
หลังจบเรื่องคราวนี้ เขาเชื่อว่าสวีจื้อคงได้บทเรียน มิกล้าหมายหัวเขาอีก
จากนั้น ชายหนุ่มก็ออกล่าสัตว์ในเขา
สวีจื้อจะกล้าหมายหัวหลี่จิ่วเต้าอีกที่ไหน หลังนิ่งค้างไปชั่ววูบ เขาก็ได้สติและรีบหนีไปจากที่นี่
ส่วนนักพรตอ้วนติดตามอยู่ข้างกายหลี่จิ่วเต้า ออกล่าสัตว์พร้อมเขาด้วยท่าทีที่ยังมึนงง
คิดไม่ตกจริง ๆ ว่าเหตุใดผู้ยิ่งใหญ่ทรงพลังระดับหลี่จิ่วเต้าถึงยังล่าสัตว์ป่าทั่วไปในที่แห่งนี้อีก
และดูจากท่าทางหลี่จิ่วเต้า เขาดูมีความสุขยิ่งนัก
ไม่เข้าใจเลย การล่าสัตว์ป่าทั่วไปน่าอภิรมย์ตรงไหน?!
“นี่คงเป็นความต่างชั้นระหว่างข้ากับผู้ยิ่งใหญ่กระมัง! ผู้ยิ่งใหญ่อยู่ในระดับสูงสุดสู่สามัญแล้ว ไม่ว่าเรื่องใดล้วนเจอจุดที่น่ารื่นรมย์ แต่ข้ากลับทำมิได้…”
เขาคิดในใจ แม้นยังมีความสงสัย กระนั้นก็มิกล้าถามมาก กลัวทำให้หลี่จิ่วเต้าหมดอารมณ์ สร้างความไม่พอใจแก่เขา
หลี่จิ่วเต้าล่าสัตว์ตลอดทั้งบ่าย ได้เหยื่อมาไม่น้อย
“แอบอ้างบรรพจารย์ฝูเป็นความผิดใหญ่หลวง ข้องแวะกับบ่วงกรรมอันจินตนาการไม่ออก เอาเถิด เจ้าอยู่ข้างกายข้าแล้วกัน หลังจากนี้หากข้าได้พบบรรพจารย์ฝูจะช่วยขอความเมตตาให้เจ้า ลบล้างบ่วงกรรมทั้งหมด”
หลี่จิ่วเต้าบอกกับนักพรตอ้วน ตัดสินใจพาเขากลับไปยังลานเล็ก
หน้าตานักพรตอ้วนดูมิใช่คนซื่อตรง แฝงไว้ด้วยความชั่วช้า เขากลัวว่าหลังจากนี้อีกฝ่ายจะทำเรื่องเลวร้ายอีก จึงตัดสินใจเก็บนักพรตอ้วนไว้ข้างกายและทำการสั่งสอน
“ขอบคุณคุณชาย!”
นักพรตอ้วนกล่าวขอบคุณหลี่จิ่วเต้าด้วยความตื้นตัน
หลี่จิ่วเต้าพูดถึงขั้นนี้แล้ว บ่งบอกว่าเขาขออาศัยร่มโพธิ์ร่มไทรสำเร็จ!
“ไปเถิด กลับลานเล็กกัน”
หลี่จิ่วเต้าเก็บเหยื่อที่ล่ามาได้ ก่อนจะกระโดดขี่หลังกิเลนไฟ กิเลนไฟพลันจำแลงเป็นม้ามังกร พาหลี่จิ่วเต้าเหินขึ้นไปบนท้องฟ้า
ส่วนนักพรตอ้วนกระโดดขึ้นหลังสุนัขดำ ปากตะโกน “ไป!”
“โฮ่ง!”
สุนัขดำพิโรธ สะบัดตัวเหวี่ยงนักพรตอ้วนกระแทกพื้น ก่อนจะอ้าปากกว้างกัดลงไป!
นักพรตอ้วนถูกกัดโดยไม่ทันตั้งตัว โลหิตหลั่งรินลงมาตามแขน คิดอยากสลัดสุนัขดำที่กัดเขาออกไป ทว่าทำอย่างไรก็สลัดไม่ออก!
เจ้าสุนัขดำกัดแน่นไม่ปล่อย!
“สุนัขดำ เจ้าทำอันใด! คลายปากเร็วเข้า!”
เขาเดือดดาลเหลือแสน สุนัขดำกัดแรงเกินไปแล้ว แขนข้างนี้ของเขาเกือบหลุดด้วยแรงกัดของมัน!
“โฮ่ง เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร บังอาจขึ้นขี่ข้า?!” สุนัขดำตวาด
นักพรตอ้วนเหลิงจริง ๆ ทันทีที่คุณชายยอมรับไว้ข้างกายก็คิดจะขึ้นขี่มันรึ?
คิดอะไรอยู่!
ว่ากันตามลำดับก่อนหลัง ต้องเป็นมันที่ขี่คอนักพรตอ้วนถึงจะถูก!
“ข้าผิดไปแล้วพี่สุนัข ปล่อยข้าไปเถิด!”
นักพรตอ้วนเอ่ยเสียงร่ำไห้
เมื่อครู่เขาดีใจเกินเหตุจริง ๆ เห็นสุนัขดำเป็นสัตว์ขี่ เขาเพิ่งได้รับอนุญาตให้ติดตามข้างกายคุณชาย มีสิทธิ์ขี่สุนัขดำที่ไหน
“ต้องรู้ระเบียบ รู้ขอบเขต! เอาเถิด ครั้งนี้จะปล่อยเจ้าไป!”
สุนัขดำคลายปากออกมา ทว่าต่อมา มันกระโดดขึ้นไปบนตัวนักพรตอ้วน ขี่คอของเขา
“ไป”
มันบอกกับนักพรตอ้วน เห็นนักพรตอ้วนเป็นสัตว์ขี่
“!!!”
นักพรตอ้วนขุ่นเคืองเหลือแสน
ไหนว่าปล่อยเขาไป เหตุใดถึงมาขี่คอเขา!
สุนัขดำผู้นี้ชั่วช้าจริง ๆ!
“รออะไรอยู่ คุณชายไปไกลแล้ว หรือเจ้าไม่อยากติดตามข้างกายคุณชายอีก” สุนัขดำเร่ง
นักพรตอ้วนมีสีหน้าประหลาด เรื่องอะไรกันนี่
เขาตกเป็นสัตว์ขี่หรือ!
ซ้ำยังเป็นสัตว์ขี่ของสุนัขตัวหนึ่ง!
‘รอให้ข้าแข็งแกร่งขึ้นเมื่อใดค่อยคิดบัญชีกับสุนัขดำตัวนี้ ตอนนี้…ทนไปก่อน!’
เขากระโจนตัวไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว
หลี่จิ่วเต้าเห็นสุนัขดำขี่นักพรตอ้วนก็อดหัวเราะมิได้ กระนั้นก็มิได้เอ่ยอันใดไปมากกว่านี้
เขาเห็นเหตุการณ์ก่อนหน้า นักพรตอ้วนบังอาจคิดขี่สุนัขดำ ควรต้องสั่งสอนจริง ๆ
‘นี่ก็เป็นการข่มขวัญอย่างหนึ่ง บรรลุจุดประสงค์ของการสั่งสอน…’
หลี่จิ่วเต้าคิดในใจ
ผ่านไปพักหนึ่ง พวกเขากลับถึงเมืองชิงซาน
ก่อนเข้าเมือง สุนัขดำกระโดดลงจากตัวนักพรตอ้วน ไม่ได้ขี่นักพรตอ้วนต่อ
ทำเช่นนั้นจะแปลกแยกเกินไป อาจสร้างความชุลมุนให้กับชาวเมืองที่อาศัยอยู่ได้
พวกเขากลับไปถึงลานเล็ก
หลังนักพรตอ้วนก้าวเข้าไปในลาน ก็มีสีหน้าแปรเปลี่ยนไปทันที!