“ระ…เรื่องราวก็เป็นแบบนี้ ฟีลเป็นผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตข้าในระหว่างทาง ก็เลย…”
ขณะรออาหารมาเสิร์ฟ ญารินที่นั่งข้างผมก็เริ่มแนะนำประวัติของผมให้เพื่อนๆ ของเธอ
ยังไงซะแค่พบกันก็ร้องไห้ออกมา ทั้งยังจูบผมอีก เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกะทันหันเกินไปจนไม่ว่าใครก็คงสงสัย
ต้องมีคนคิดว่าผมเป็นผู้ชายที่หักอกละทิ้งเด็กสาวตามใจชอบแน่? ก็เธอร้องไห้ออกมานี่นา
แต่ตอนหลังที่เข้ามาจูบทันที คนทั่วไปเห็นก็คงยากที่จะเข้าใจ
อย่างน้อยลุงฮอลส์ก็เริ่มมองทางพวกเรามาตลอดตั้งแต่เมื่อกี้ มองจนผมเสียวสันหลัง
ไม่ใช่แค่นี้ สายตารอบด้าน รวมถึงสายตาของเด็กสาวสองคนที่จ้องผมจนเหมือนกับหนามทิ่มแทงเข้าไปในร่างกายผมไม่หยุด ทำให้ผมอึดอัดไปทั้งตัว
“เป็น ‘อัศวินหัวใจน้ำแข็ง’ แท้ๆ”
“นั่นสิ”
“ตอนนี้กลับนั่งอยู่ข้างผู้ชายเหมือนกับเด็กผู้หญิง”
“แย่ที่สุด”
“ใช่แล้ว”
อัศวินสาวสองคนสลับกันพูด
เด็กสาวทั้งสองคนล้วนมีผมสีเขียว เด็กสาวผมสั้นตัวเตี้ยกว่าเล็กน้อย ชื่อว่ามิเชล อัศวินเลเวล 5 ส่วนคนผมยาวดูเหมือนจะสูงกว่าญาริน ชื่อว่ามัวร์ อัศวินเลเวล 6 ทั้งคู่ดูท่าทางเหมือนเป็นพี่น้องกัน อีกทั้งดวงตาของพวกเธอต่างเป็นสีน้ำตาลกระจ่างใส
อัศวินทั่วไปไม่เหมือนกับนักดาบคู่แบบอาร์ย่าที่อาศัยความคล่องแคล่วในการโจมตี ทั้งตัวของอัศวินตามแบบฉบับจึงคลุมด้วยชุดเกราะ ห่อจนกลายเป็นกระป๋อง แต่ชุดเกราะกลับดูเหมือนออกแบบตามสัดส่วนของแต่ละคน
“มิเชล มัวร์!”
ญารินพูดอย่างไม่พอใจ
“ฟีลเป็นคนดี โปรดเชื่อข้า”
คู่หมั้นที่เจอกันอีกครั้งปล่อยการ์ดคนดีทันที นี่มันโลกอะไรกัน
“…”
ทั้งคู่สบสายตากัน จากนั้นจึงจ้องทางผมพร้อมกัน
ผมจำใจต้องยิ้มแสดงความจนใจ
“คนโง่”
“ใช่ ก็แค่คนโง่”
“ไม่เข้าใจว่าทำไมรินถึงชอบผู้ชายแบบนี้”
“ข้าก็ไม่เข้าใจ”
พวกเธอสองคนกำลังพูดละครตลกกันอยู่เหรอ?
“แม้กระทั่งผู้ชายในกองอัศวินก็ไม่มองแท้ๆ”
“เหมือนกับน้ำแข็ง”
“แต่กลับเปิดใจต่อนักเวทแบบนี้”
“ทำไมล่ะ?”
“ไม่ใช่แบบนั้น วิชาดาบของฟีลแข็งแกร่งมาก เมื่อก่อนก็สามารถกันการโจมตีของข้าได้!”
ได้ยินคำพูดของเพื่อนตัวเอง ญารินจึงพูดอย่างกังวล
“จริงเหรอ? ไม่เหมือนเลย เป็นนักเวทชัดๆ”
“นักเวทใช้วิชาดาบไม่ได้นี่?”
บ้าเอ๊ย ยัยสองคนนี้น่ารำคาญจริงๆ ถ้าไม่เพราะพวกเธอเป็นเพื่อนของญารินผมคงสอนบทเรียนให้พวกเธอสักหน่อยแล้ว
แต่ถ้าไม่มีกรณีพิเศษก็ห้ามใช้เวทมนตร์ตอนอยู่ในเมือง นี่เป็นหนึ่งในกฎของสถาบัน แม้เป็นราชวงศ์หรือชนชั้นสูงก็ไม่อาจละเมิด
แต่ว่า…
แค่ไม่ใช้เวทมนตร์ใช่ไหม?
“พวกเธอทั้งคู่ ตั้งแต่เมื่อกี้มันก็มากไปแล้วนะ ทำไมถึงไม่เชื่อว่าฉันเป็นเพื่อนของญาริน!”
ถ้าเงียบต่อไปอีกพวกเธอคงคิดว่าฉันเป็นคนโง่?
“เพราะเจ้าเป็นนักเวท”
“เพราะเจ้าเป็นผู้ชาย”
“ไม่ว่าจะเป็นด้านไหนเจ้าก็ไม่ใช่ประเภทที่พวกเราเชื่อถือได้”
“แม้ว่าพวกเรายอมรับการเลือกของญาริน”
“แต่พวกเราไม่ยอมรับเจ้า”
ทั้งคู่ผลัดกันตอบ
อย่างนี้นี่เอง ดูเหมือนยัยสองคนนี้จะอคติกับนักเวทไม่น้อย
แม้เรื่องผมเป็นผู้ชายคงเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่กับการประลองดาบล่ะก็…
“พูดตรงๆ ก็คือพวกเธออยากประลองดาบสักรอบสินะ?”
ผมลุกขึ้นยืนพร้อมพูดทันที
“ฟีล กฎสถาบันข้อที่แปด”
ลุงฮอลส์เอ่ยเตือนด้วยความปรารถนาดี
“ไม่มีปัญหา ผมจะไม่ใช้เวทมนตร์”
พูดแล้วผมก็เอาดาบยาวออกมา
แม้ไม่ได้ใช้อาบอัญเชิญ ดาบต้องสาปที่ฝังคริสตัลน้ำแข็งไว้ก็มีความสามารถในการแช่แข็งอีกฝ่ายได้อยู่ดี แม้ไม่อาจลดความเร็วได้ทันที แต่ทำให้การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายช้าลงได้ก็ไม่เลวแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น…
ล้อเล่นรึเปล่า อีกฝ่ายเป็นแค่คนเลเวล 5 กับ 6 ส่วนผมเลเวล 18 แล้ว
แม้ว่าฟันมั่วๆ ก็คงไม่ทำลายการป้องกันหรอก?
“น่าสนใจนี่”
“โปรดชี้แนะ”
ทั้งสองลุกขึ้นมาจากโต๊ะอย่างรวดเร็ว แล้วพลิกตัวพุ่งมาทางผม
ผมว่า คนรอบๆ คงเห็นเหตุการณ์แบบนี้ล่ะมั้ง?
นอกจากลุงฮอลส์ พลเมืองต่างก็มีเลเวลประมาณ 1 และ 2 คงเห็นเลเวล 5 กับ 6 รวดเร็วมากสินะ?
แต่สำหรับผม พวกเธอช้าเกินไปรึเปล่า?
เมื่อเข้าสู่สถานะต่อสู้ ผมจะเพิ่มความเร็วที่ผมควรมีจนถึงขีดสุด เหตุการณ์รอบตัวก็ฉายอย่างช้าๆ เหมือนกับในภาพยนตร์
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเข้าสู่สถานะต่อสู้หลังจากเลเวล 18 ก่อนหน้านี้มักเลเวลเพิ่มทีละเลเวล แต่ตอนนี้กลับเพิ่มทีเดียว 5 เลเวล ความแข็งแกร่งทั่วทั้งร่างจึงเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น การรับรู้ก็เพิ่มขึ้นอีกระดับไปพร้อมกัน
เลเวลอัพนี่มันเท่ระเบิดไปเลยนะ!
การเคลื่อนไหวขณะพลิกตัวกลางอากาศของทั้งสองช้าจนผมไม่รู้จะทำยังไง
ทำยังไงดี? ล้มสองคนนี้แบบนี้เลยไหม?
ไม่ได้หรอก? ยังไงสองคนนี้ก็เป็นเพื่อนสนิทของญาริน
แต่ก็ไม่อาจปล่อยให้สองคนนี้ฟันบนตัวผมสิ ผมไม่อยากเป็นเหมือนจูนิเบียวในอนิเมะบางเรื่องที่ให้คนอื่นฟันเพื่อโชว์ความเร็วในการเพิ่มเลือดของตัวเองหรอกนะ
เพิ่มเลือดก็ต้องใช้เงินนี่ แม้จะมีเวทเพิ่มเลือด แต่ของอย่างเวทสายแสงเอามาใช้ไม่ได้อย่างเห็นได้ชัด ผมไม่ได้อยากเสียยาเพิ่มเลือดของผมนี่
แต่ต้องทำยังไงถึงทำให้พวกเธอล้มเลิกการโจมตีผมได้?
ใช่แล้ว ทำให้อาวุธทั้งหมดพังก็พอแล้ว?
ยังไงความเร็วของพวกเธอก็ช้ากว่าผม งั้นพวกความเฉื่อยก็ยังมีประโยชน์สิ!
คิดแบบนี้ผมก็แกว่งดาบตรงไปฟันดาบอัศวินของพวกเธอเป็นสองท่อน!
เพล้ง!
เสียงแตกเป็นชิ้นดังออกมาจากบนอาวุธของพวกเธอ ตามด้วยดาบอัศวินสองเล่มที่แตกสลายอย่างช้าๆ
ออกจากสถานะต่อสู้ ทั้งสองก็มองเหม่อไปที่อาวุธในมือของตัวเอง
“แพ้แล้ว?”
“อาวุธถูกทำลายแล้ว”
“แข็งแกร่งมาก”
“เจ้าเป็นนักเวทจริงๆ เหรอ?”
“ทำไมเจ้าถึงไม่มาเป็นอัศวิน?”
ทั้งคู่พูดไปด้วยพลางเข้ามาใกล้ผม
“ดาบที่ประหลาดนัก”
“ไม่เคยเห็นมาก่อน”
“พวกเรายอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่ง”
“การเลือกของญารินไม่ผิดอย่างที่คิด”
“แนะนำวิชาดาบให้พวกเราได้ไหม?”
“พวกเราก็อยากเป็นอัศวินที่แข็งแกร่งขึ้น”
ทั้งคู่บีบให้ผมถอยหลังไม่หยุด รู้สึกเหมือนจะชนกำแพงที่อยู่ข้างหลังแล้ว
ผมอยากส่งสายตาขอความช่วยเหลือให้ญาริน อีกฝ่ายกลับแสดงท่าทีจนใจ
ดูท่าเธอก็คงจนปัญญากับสองคนนี้เหมือนกันมั้ง?
แต่ว่า…
ทำไมผมเหมือนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างแตก?
เพล้ง!
เสียงแตกดังขึ้นอีกครั้ง ชุดเกราะบนตัวของเด็กสาวทั้งสองก็แตกเป็นเสี่ยง!
ผมไม่ได้โจมตีชุดเกราะ ทำไมถึง…
ยิ่งไปกว่านั้น…
ท่อนล่างเกราะของเด็กสาวยังไม่ใส่อะไรเลย นอกจากผ้ารัดอกแล้ว ก็ไม่มีอย่างอื่นอีก!
เด็กสาวทั้งสองยืนโป๊อยู่ตรงหน้าผมแบบนั้น!
และที่ยิ่งกว่าก็คือ ชุดเกราะส่วนหนึ่งกลับไม่ได้ตกลงมา ทั้งยังแขวนอยู่บนตัวของพวกเธอ!
มันยิ่งเพิ่มความเย้ายวนเข้าไปอีก บ้าเอ๊ย!
“ทะลวงไส้!” x2
จู่ๆ ก็เจ็บ ตรงหน้าของผมดำมืด แล้วสลบไป