บทที่ 642 ภัยโจร

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

บน​ดาดฟ้า​เรือ​สินค้า​ที่อยู่​บน​คลอง​เว่ยสุ่ย​ใน​เจี้ยน​โจว​

มู่หนาน​จือ​คลุม​เสื้อ​ตัว​ใหญ่​ต้าน​ลมหนาว​ นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ใหญ่​ที่​ปู​ด้วย​เบาะ​นวม​ขนาดใหญ่​ มือ​ข้าง​หนึ่ง​อุ้ม​ไป๋​จี อีก​ข้าง​จับ​คันเบ็ด​ตกปลา​

ด้าน​ซ้าย​มีโต๊ะ​และ​เก้าอี้​วาง​อยู่​สอง​ตัว​ ถ่านไฟ​คุ​โชน​ใน​เตา​เล็ก​ๆ ที่อยู่​บน​โต๊ะ​กำลัง​ต้ม​ปลา​หม้อ​หนึ่ง​อยู่​

สวี่​ชีอัน​กับ​เหมียว​โห​ย่ว​ฟางนั่ง​กิน​ปลา​และ​พูดคุย​กัน​อยู่​ริม​โต๊ะ​

ไป๋​จียื่น​หัว​ออกจาก​อ้อมกอด​ของ​มู่หนาน​จือ​ ดวง​ตาดำ​แป๋ว​จ้องมอง​ตา​ปริบๆ​

“หลาย​วันนี้​ถ้าไม่ใช่ปลา​ก็​เป็น​เนื้อ​อบ​ กิน​จน​ข้า​ฉี่ไม่ออก​แล้ว​”

เหมียว​โห​ย่ว​ฟางด่า​สุ่มสี่สุ่มห้า​

สวี่​ชีอัน​พลิก​ฝ่ามือ​ตบ​เขา​จน​ร่วง​จาก​เก้าอี้​ จากนั้น​ก็​กวักมือ​เรียก​ไป๋​จี

ไป๋​จีสลัด​ตัว​หลุด​ออกจาก​อ้อมกอด​ของ​พระชายา​ ก้าว​ขา​สั้น​ๆ ทั้ง​สี่ด้วย​ความ​เบิกบานใจ​ มัน​วิ่ง​ไป​ที่​เท้า​ของ​สวี่​ชีอัน​อย่าง​ว่าง่าย​ และ​แหงนหน้า​มอง​เขา​

สวี่​ชีอัน​อุ้ม​ไป๋​จีขึ้น​มา เขา​คีบ​เนื้อ​นุ่ม​ๆ ตรง​ส่วน​ท้อง​ปลา​ใส่ลง​ใน​ถ้วย​ชิ้น​หนึ่ง​ ไป๋​จีเอาหน้า​มุด​เข้าไป​ใน​ถ้วย​ และ​ค่อยๆ​ กิน​คำ​เล็ก​ๆ

“เจ้ามีพัฒนาการ​เร็ว​มาก​ ข้า​คาดการณ์​ว่า​ฝึกฝน​อีก​หนึ่ง​เดือน​ก็​ย่าง​เข้าสู่​สลาย​แรง​ขั้น​ห้า​แล้ว​ พอ​ถึงเวลา​นั้น​ แค่​ตนเอง​ไม่รนหาที่​ตาย​ ยั่วยุ​บุคคล​ระดับ​สุดยอด​ล่ะ​ก็​ ฟ้ากว้าง​แผ่นดินใหญ่​ เจ้าจะไป​ที่ไหน​ก็ได้​”

สวี่​ชีอัน​จิบ​สุรา​ขุ่น​ไป​จิบ​หนึ่ง​ด้วย​ความปลื้ม​ปีติ​ยินดี​เล็กน้อย​

การ​เดิน​ทางลง​ใต้​ใน​ครั้งนี้​ รุดหน้า​ไป​ที่​ภูเขา​สือ​ว่าน​ทาง​ซินเจียง​ตอน​ใต้​

ขณะนี้​ใน​กลุ่ม​เล็ก​ๆ นี้​มีแค่​คน​สามคน​กับ​สุนัขจิ้งจอก​หนึ่ง​ตัว​

ผู้​คนใน​สมาชิก​พรรค​ฟ้าดิน​ ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​มีจิตใจ​ที่​เต็มไปด้วย​สัจจะและ​มีความกล้าหาญ​ที่จะ​ช่วยเหลือ​คน​ ชอบ​ผดุง​คุณธรรม​ ประจวบ​เหมาะกับ​ภัยพิบัติ​โหม​ซัดสาด​ ประชาชน​แต่ละ​แห่ง​ไม่สามารถ​อยู่​เย็น​เป็นสุข​ได้​ มัก​คิด​ว่า​ต้อง​ทำ​อะไร​สักหน่อย​ ดังนั้น​จึงยาก​ที่จะ​อยู่​ข้าง​กาย​สวี่​ชีอัน​ได้​อย่าง​สงบเสงี่ยม​

ฉู่หยวน​เจิ่น​คือ​นัก​กระบี่​ที่เที่ยว​เอ้อระเหย​ลอยชาย​ ทั่ว​ทุกหนทุกแห่ง​คือ​บ้าน​ ไม่มีที่อยู่​เป็น​หลักแหล่ง​ สิ่งที่​เฝ้าปรารถนา​คือ​อิสระ​ที่จะ​ทำ​อะไร​ก็ได้​ตามใจ​ต้องการ​

ใน​ระหว่างทาง​ที่​ท่อง​ยุทธ​ภพ​ ได้​พบ​เจอ​กับ​สหาย​เก่า​ ดื่ม​สุรา​สัก​จอก​ มีบุญคุณ​ก็​ตอบแทน​มีแค้น​ก็​ชำระ​ เป็นเรื่อง​ที่​เขา​มีความสุข​ที่สุด​ รอ​ดื่ม​สุรา​หมด​จอก​ เข้าใจ​เรื่องราว​แล้ว​ ก็​ย่ำ​เดินทาง​แสดง​หา​มรรค​กระบี่​ของ​เขา​อีกครั้ง​

ไต้​ซือเหิงหย่วน​กับ​เทพบุตร​มีสภาพ​จิตใจ​เช่นเดียวกัน​ คน​ออกบวช​ถือเอา​เมตตาธรรม​เป็นหลัก​ ช่วยเหลือ​มนุษยชาติ​เป็นเรื่อง​ที่อยู่​ใน​ความรับผิดชอบ​ของ​ตน​

ส่วน​ที่ว่า​เหตุใด​ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่ถึงไม่ลง​ใต้​ด้วย​นั้น​…

วันนั้น​ทุกคน​ตื่นขึ้น​มาใน​รุ่งอรุณ​ เทพบุตร​ก็​จากไป​แล้ว​

ทิ้งจดหมาย​ไว้​ให้​พรรค​ฟ้าดิน​หนึ่ง​ฉบับ​ ความหมาย​ก็​คือ​ช่วงนี้​สภาพ​จิตใจ​ของ​ตัวเอง​ปั่นป่วน​ ต้องการ​เดินทาง​คนเดียว​เพื่อ​ซาบซึ้ง​ความหมาย​ที่​แท้จริง​ของ​การ​ตัด​อารมณ์​ความรู้สึก​

ที่จริง​ตอนที่​เขา​ไป​นั้น​ สมาชิก​พรรค​ฟ้าดิน​ต่าง​ก็​รู้กัน​หมด​ ลำพัง​แค่​ตบะ​ของ​ทุกคน​ก็​รับ​รู้ความ​คลื่น​ไหว​ใน​ระยะ​รัศมี​หลาย​ลี้​ได้​อย่าง​ชัดเจน​

สวี่​ชีอัน​นอน​อยู่​ใต้​ผ้าห่ม​อุ่นๆ​ ทั้ง​ยัง​ร้องเพลง​ส่งเทพบุตร​อยู่​ใน​ใจ

รู้​ว่า​เจ้าจะไป​ใน​คืน​นั้น​ พวกเรา​ไม่ได้​พูด​อะไร​กัน​สัก​คำ​…เมื่อ​เจ้าแบก​กระเป๋าเดินทาง​และ​ปลด​เกียรติยศ​นั้น​ลง​ ข้า​ได้​แต่​เก็บ​รอยยิ้ม​ไว้​ใต้​ก้นบึ้ง​หัวใจ​…

หลังจาก​เทพบุตร​ไป​แล้ว​ สวี่​ชีอัน​ก็​ปล่อยตัว​ตง​ฟางหว่าน​ชิง ไฉซิ่งเอ๋อร์​ยังคง​ถูก​คุมขัง​อยู่​ใน​เจดีย์​พุทธะ​ กำหนด​เวลา​ป้อน​อาหาร​ กำหนด​เวลา​เรียก​ออกมา​ล้างหน้า​แปรงฟัน​ กำหนด​เวลา​ให้​เหมียว​โห​ย่ว​ฟางเป็น​กรรมกร​กุลี​ขัด​ล้าง​ถังอุจจาระ​

ขณะนี้​ ผู้คุม​งาน​จูที่​รับผิดชอบ​เรือ​สินค้า​ก็​วิ่ง​เข้ามา​อย่าง​รีบร้อน​และ​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​นอบน้อม​

“จอม​ยุทธ์​เหมียว​ ด้านหน้า​ก็​คือ​หาด​วารี​ทองคำ​ สายน้ำ​ราบเรียบ​ มีโจรสลัด​ปิดกั้น​แม่น้ำ​เพื่อ​ปล้น​อยู่​บ่อยๆ​ ตามปกติ​แล้ว​แค่​มอบ​เงิน​ให้​นิดหน่อย​ก็​สามารถ​ข้าม​ไป​ได้​”

เห็น​เหมียว​โห​ย่ว​ฟางพยักหน้า​เขา​ก็​กล่าว​ต่อ​

“หาก​ไม่มีอะไร​ผิดพลาด​ ท่าน​ก็​ไม่ต้อง​ลงมือ​แล้ว​”

เหมียว​โห​ย่ว​ฟางตอบรับ​ “อืม​” อย่าง​หยิ่งยโส​ รักษา​มาด​ ‘ผู้​สูงส่ง’ ของ​เขา​ไว้​

ผู้คุม​งาน​จูโค้ง​ตัว​ถอย​ออก​ไป​

เรือ​สินค้า​ลำ​นี้​เป็น​เรือ​สินค้า​ของ​สมาคมการค้า​เจี้ยน​โจว​ จะไป​ทำการค้า​ที่​อวี่​โจว​ และ​สถานะ​ของ​เหมียว​โห​ย่ว​ฟางใน​ตอนนี้​คือ​ขุนนาง​ต่างถิ่น​ที่​สมาคมการค้า​เจี้ยน​โจว​ดึง​เข้ามา​ใหม่​ รับผิดชอบ​ความปลอดภัย​ใน​การ​ล่อง​ลง​ใต้​ของ​เรือ​สินค้า​

สถานะ​ของ​สวี่​ชีอัน​ไม่ได้​ถูก​เปิดเผย​ เป็น​แค่​ผู้ติดตาม​ธรรมดาๆ​ ไม่มีอะไร​พิเศษ​

เรือ​สินค้า​ล่อง​ไป​ได้​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ กระแสน้ำ​เริ่ม​ลด​ช้าลง​ ล่อง​ไป​อีก​ครึ่ง​เค่อ​ความเร็ว​ของ​เรือ​ก็​ช้าลง​มาก​

ทำได้​แค่​อาศัย​ฝีพาย​ใน​ท้อง​เรือ​ทำ​การเดินเรือ​

‘ตึง​ ตึง​ ตึง​…’ ผู้คุม​งาน​จูพา​ทหาร​สิบ​กว่า​คน​วิ่ง​ออกจาก​ห้อง​เรือ​ ถือ​ดาบ​แบก​ธนู​ด้วย​ท่าที​ระมัดระวัง​

สวี่​ชีอัน​เบิ่งมอง​ไป​ยัง​ริมแม่น้ำ​ทางซ้าย​ เห็น​ว่า​มีเรือ​เล็ก​หลาย​สิบ​ลำ​ฝ่าคลื่น​เข้ามา​อย่าง​รวดเร็ว​

ก่อนหน้า​นั้น​พวก​มัน​ยัง​ทอด​เสมอ​อยู่​ริม​ฝั่งแม่น้ำ​อยู่เลย​ รอ​จน​เรือ​สินค้า​เข้าสู่​ลุ่มน้ำ​ที่​ไหล​เอื่อย​ โจรสลัด​ร้อย​กว่า​คน​บน​ฝั่งก็​รีบ​กระโดด​ลงเรือ​ตี​ฝีพาย​คู่​แหวก​คลื่น​เข้ามา​ประชิด​

นี่​คือ​เรือ​เล็ก​ประเภท​หนึ่ง​ที่​มีปลาย​แหลม​ทั้งสอง​ด้าน​ มัน​ยาว​ไม่เกิน​หนึ่ง​จั้ง กว้าง​แค่​สามฉื่อ​ มีระแนง​ไม้ มีกรรเชียง​สอง​อัน​ ไม้พาย​หนึ่ง​อัน​ เบา​และ​รวดเร็ว​

“นี่​ ทำไม​ถึงมีโจรสลัด​มากมาย​ขนาด​นี้​!”

ผู้คุม​งาน​จูอ้าปากค้าง​ สีหน้า​ขาว​เผือด​

เหมียว​โห​ย่ว​ฟางมอง​เขา​ที​หนึ่ง​ “เมื่อก่อน​ไม่เป็น​เช่นนี้​หรือ​”

ผู้คุม​งาน​จูควบคุม​จิตใจ​ให้​สงบ​ สีหน้า​ยังคง​ดู​อัปลักษณ์​เช่น​เดิม​ และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ขมขื่น​

“เส้น​ทางน้ำ​นี้​ข้า​เคย​ผ่าน​มาหลายครั้ง​ เมื่อก่อน​โจรสลัด​ทั้งหมด​มีแค่​ยี่สิบ​สามสิบ​คน​ เกรง​ว่า​จำนวน​คนใน​วันนี้​คง​มีร้อย​กว่า​คน​ นี่​ นี่​มัน​จะกระหาย​เกินไป​แล้ว​…”

สวี่​ชีอัน​ถามใน​ฉับพลัน​ “เรือ​เหล่านี้​ชื่อว่า​อะไร​”

“นี่​คือ​เรือ​หอก​ ขึ้นชื่อ​ใน​เรื่อง​ความคล่องแคล่ว​ เป็น​เรือ​ที่​โจรสลัด​ชอบ​ใช้”

ผู้คุม​งาน​จูหน้าเสีย​อย่าง​ถึงขีดสุด​ และ​อธิบาย​ด้วย​ความอดทน​

“ใน​ลุ่มน้ำ​ที่​น้ำ​สงบ​ เรือ​สินค้า​ไม่เร็ว​เท่า​เรือ​เล็ก​เหล่านี้​ หอก​ใน​มือ​พวกเขา​ใช้เพื่อ​แทง​ทะลุ​ท้อง​เรือ​ของ​พวกเรา​ หอก​ไม่ใช่วิธีการ​เพียง​หนึ่งเดียว​ของ​พวกเขา​ ยังมี​น้ำมันเชื้อเพลิง​ที่จะ​เผา​เรือ​ด้วย​”

ระหว่าง​ที่​พูด​ ฝูงเรือ​หอก​อยู่​ห่าง​เรือ​สินค้า​ไม่ถึงสามจั้ง ผู้คุม​งาน​จูเดิน​ไป​ริม​กราบ​เรือ​ หลังจาก​สูด​หายใจ​ไป​หนึ่ง​ที​แล้ว​ ก็​โบกมือ​ตะโกน​กล่าว​

“วีรบุรุษ​ทุกท่าน​ ข้าน้อย​จูเวิ่น​ ทั่ว​ทุกหนทุกแห่ง​บน​โลก​ใบ​นี้​ล้วน​เป็น​พี่น้อง​กัน​ ออกมา​ขอ​ใช้ชีวิต​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ ข้า​ได้​เตรียม​ห้าสิบ​ตำลึง​เงิน​ หวัง​ขอ​ผ่าน​ทาง​อย่าง​ราบรื่น​”

ห้าสิบ​ตำลึง​เงิน​เป็น​เงิน​ผ่าน​ทาง​จำนวนมาก​เลย​ทีเดียว​

ใน​ระหว่าง​ที่​สวี​ชีอัน​ดำรงตำแหน่ง​เจ้าพนักงาน​ใน​เมืองหลวง​ ขนาด​ไม่กิน​ไม่ดื่ม​ ก็​มีเงิน​ตอบแทน​แค่​ห้าสิบ​ตำลึง​ต่อ​ปี​เท่านั้น​

“ห้าสิบ​ตำลึง​ ไล่​ขอทาน​หรือ​”

เสียง​หัวเราะเยาะ​ดัง​มาจาก​เรือ​หอก​ลำ​หนึ่ง​

ผู้คุม​งาน​จูและ​คนอื่นๆ​ มอง​ไป​ตาม​เสียง​ทันที​ เขา​เป็น​ชาย​สวม​ชุด​ดำ​และ​คลุม​เสื้อ​ตัว​ใหญ่​ ดาบ​เล่ม​หนึ่ง​ห้อย​อยู่​บน​เอว​ และ​ยืน​อยู่​ตรง​หัว​เรือ​อย่าง​มั่นคง​

เขา​อายุ​ราว​สามสิบ​ต้น​ๆ ผิวหนัง​หยาบกร้าน​และ​ดำคล้ำ​ สายตา​เฉียบคม​และ​ดื้อรั้น​

ผู้คุม​งาน​จูไม่รู้จัก​เขา​ ใน​ความทรงจำ​ของ​เขา​ หัวหน้า​โจร​กลุ่ม​นี้​คือ​ทหาร​ผู้​หนึ่ง​ที่​มีชื่อว่า​ ‘ยวน​ยาง​ป่า​’ มีตบะ​ระดับ​หลอม​ปราณ​ ยัง​นับว่า​ฟังกฎเกณฑ์​อยู่​ ให้เงิน​ก็​ผ่าน​ทาง​ไป​ได้​

“ท่าน​มิใช่ยวน​ยาง​ป่า​ เขา​อยู่​ที่ใด​…”

เขา​กำลังจะ​เอ่ยปาก​ ชาย​ที่​คลุม​เสื้อ​ตัว​ใหญ่​ผู้​นั้น​ก็​กระโดด​ขึ้นไป​เหยียบ​หัว​เรือ​อย่าง​รุนแรง​แล้ว​

‘ตูม​!’

หัว​เรือ​ทั้ง​ลำ​จมลง​ทันที​ ทำให้​ผู้คน​บน​เรือ​เอน​ซ้าย​เอน​ขวา​เสี่ยง​ต่อ​การ​หกล้ม​

ชาย​ชุด​ดำ​กวาดสายตา​มองผ่าน​เหมียว​โห​ย่ว​ฟางซึ่งเป็น​คนเดียว​ที่​ยืน​ตระหง่าน​อย่าง​สงบ​ และ​ทหารคุ้มกัน​เรือ​หลาย​คน​ที่​สะพาย​ดาบ​แบก​ธนู​อยู่​ จากนั้น​ก็​ตะคอก​ออกมา​

“ยังมี​ผู้ฝึก​ตน​อีก​หลาย​คน​นี่​ ยวน​ยาง​ป่า​หรือ​ เจ้าหมายถึง​เจ้าหมอ​ที่​ไม่รู้จัก​ดี​ชั่ว​ผู้​นั้น​น่ะ​หรือ​ เขา​ถูก​ข้า​ตัด​ศีรษะ​ถ่วง​แม่น้ำ​ไป​แล้ว​ แต่​ข้า​นับว่า​ยังมี​คุณธรรม​ ยัง​ช่วย​เขา​ดูแล​ภรรยา​เขา​เป็น​อย่าง​ดี​”

ผู้คุม​งาน​จูกล่าว​เสียงทุ้ม​

“ท่าน​ต้อง​การเงิน​เท่าใด​ พูด​มาตามตรง​เถิด​”

ชาย​ชุด​ดำ​ยก​ฝ่ามือขึ้น​ นิ้ว​ทั้ง​ห้า​กาง​ออก​ “จำนวน​เท่านี้​”

‘ห้า​ร้อย​ตำลึง​…’ ผู้คุม​งาน​จูกล่าว​เสียงทุ้ม​

“ท่าน​อย่า​ได้​พูด​ล้อเล่น​”

สินค้า​บน​เรือ​ทั้ง​ลำ​ มีผล​กำไรสุทธิ​ไม่ถึงห้า​ร้อย​ตำลึง​เลย​

ชาย​ชุด​ดำ​กล่าว​ด้วย​รอย​ยิ้มกริ่ม​

“พวกเรา​ไม่ได้​ต้องการ​แค่​เงิน​ ต้องการ​ผู้หญิง​ด้วย​ ลูกน้อง​ใน​มือ​มีมาก​ขนาด​นี้​ ไม่อาจ​มีชีวิต​อยู่​ได้​โดย​ปราศจาก​ผู้หญิง​ ข้า​ให้​วิธี​ที่​พบกัน​ครึ่งทาง​กับ​พวก​เจ้า ผู้หญิง​หนึ่ง​คน​ชดเชย​สิบ​ตำลึง​ ผู้​ที่​รูปร่าง​สวยงาม​ชดเชย​ได้​ยี่สิบ​ตำลึง​”

ขณะที่​พูด​ เขา​ก็​มองดู​มู่หนาน​จือ​ที่อยู่​ข้าง​สวี่​ชีอัน​และ​ทำ​เสียง​ ‘จุ๊’ อย่าง​น่ารังเกียจ​

“สินค้า​แบบนี้​ห้า​ตำลึง​เงิน​ ไม่อาจ​มาก​ไป​กว่า​นี้​ได้​ เพียง​พอที่จะ​ผ่อน​คลายอารมณ์​ให้​บรรดา​พี่น้อง​ได้​สอง​สามวัน​”

มู่หนาน​จือ​ยิ้มเยาะ​

“ออกมา​เกลือกกลั้ว​ยุทธ​ภพ​ อย่า​ทำ​เรื่อง​ที่​…”

เดิมที​ผู้คุม​งาน​จูคิด​จะพูด​เกลี้ยกล่อม​ดี​ๆ แต่กลับ​ต้อง​สำลัก​ในทันที​ เพราะ​ใน​ขณะนี้​ ชาย​ชุด​ดำ​ตั้งใจ​หันหน้า​ไปหา​แสงอาทิตย์​ มีแสงเทพ​จางๆ ปรากฏ​บน​ผิวหนัง​หนึ่ง​ชั้น​

‘ขั้น​หก​ กระดูกเหล็ก​ผิว​ทองแดง​!’

‘เผชิญหน้า​กับ​คน​โฉด​เข้า​แล้ว​…’ ผู้คุม​งาน​จูมีสีหน้า​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​ เขา​อด​มอง​เหมียว​โห​ย่ว​ฟางไม่ได้​

ว่า​กัน​ว่า​เผชิญหน้า​กับ​ยอด​ฝีมือ​ระดับ​นี้​ ทำได้​แค่​ยอมรับ​ความ​โชคร้าย​เท่านั้น​

ผู้คุม​จูคาดเดา​ระดับ​ของ​เหมียว​โห​ย่ว​ฟางไม่ได้​ ทำได้​แค่​มอบอำนาจ​ตัดสินใจ​ให้​เขา​ ผู้คุม​งาน​จูเชื่อ​ว่า​เหมียว​โห​ย่ว​ฟางจะใช้ดุลพินิจ​พิจารณา​ส่วน​ดี​และ​ส่วน​เสียได้​

“อืดอาด​ชักช้า​อยู่​ได้​ ความอดทน​ข้า​มีจำกัด​นะ​!”

ชาย​ชุด​ดำ​เดิน​ไป​คว้า​กา​สุรา​ตรง​ขอบ​โต๊ะ​มากรอก​เข้า​ปาก​หนึ่ง​อึก​ และ​ผิวปาก​หนึ่ง​ที​

หลังจาก​มีเสียงดัง​ฉึก​ๆ ตะขอ​เหล็ก​สิบ​กว่า​อัน​ก็​รัด​พัน​กราบ​เรือ​ บรรดา​โจรสลัด​ปีน​ขึ้น​มาตาม​เชือก​

โจรสลัด​ที่​ไม่ปีน​เชือก​ขึ้น​มา ก็​ใช้หอก​ยาว​ชี้ตรง​ไป​ที่​ท้อง​เรือ​ บ้าง​ก็​เปิด​ไห​น้ำมันเชื้อเพลิง​ รอ​แค่​คำสั่ง​ของ​ชาย​ชุด​ดำ​ให้​เจาะเผา​เรือ​เท่านั้น​

พวกเขา​คือ​โจรสลัด​ไม่ใช่คน​ค้าขาย​ ใคร​จะมาต่อรองราคา​กับ​เจ้ากัน​

หลังจากที่​บรรดา​โจรสลัด​ขึ้น​เรือ​แล้ว​ ชาย​ชุด​ดำ​ก็​ออกคำสั่ง​

“ไป​ค้น​และ​รีดไถ​ทรัพย์สิน​สิ่งของ​ด้านใน​ นำ​ผู้หญิง​ออกมา​ให้​หมด​”

ทั้ง​ยัง​ชี้ไป​ที่​มู่หนาน​จือ​ “พา​ผู้หญิง​คน​นี้​ไป​ด้วย​ก็แล้วกัน​ แต่​ไม่ถือว่า​เป็น​เงิน​ ถือเป็น​ของแถม​”

น้ำเสียง​ดู​สบายใจ​แต่​ไม่ได้​ผ่อนคลาย​ มือขวา​กุม​ด้าม​ดาบ​ตลอดเวลา​

โจรสลัด​สอง​คน​เดิน​ไป​ทาง​มู่หนาน​จือ​ทันที​ มือถือ​ดาบ​ทำ​ท่าทาง​โหดเหี้ยม​

ทันใดนั้น​ มีเสียงดัง​โครม​สอง​ที​ โจรสลัด​เพิ่ง​เข้าใกล้​มู่หนาน​จือ​ก็​ถูก​พลัง​มหาศาล​บางอย่าง​สะเทือน​ใส่จน​กระเด็น​ออก​ไป​กระอัก​เลือด​อยู่​บน​พื้น​

ในขณะที่​ชาย​ชุด​ดำ​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​นั้น​ สวี่​ชีอัน​ก็​ยื่น​มือจับ​ต้นคอ​ของ​เขา​ไว้​แน่น​

“ให้​พวกเขา​ลง​ไป​”

“ลง​ ลง​ไป​ ลง​ไป​ให้​หมด​…”

ชาย​ชุด​ดำ​มีสีหน้า​หวาดผวา​ ความรู้สึก​เขา​ตอนนี้​เป็น​เหมือนกับ​ผู้คุม​งาน​จูใน​เมื่อ​ครู่​ เผชิญหน้า​กับ​คน​โฉด​ที่​แข็งกร้าว​เข้า​แล้ว​

บรรดา​โจรสลัด​วุ่นวาย​ขึ้น​มา พวกเขา​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​บุคคล​ที่​สามารถ​สังหาร​หัวหน้า​คน​ก่อน​ได้​ใน​กระบวน​ท่าเดียว​ เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​ชาย​ธรรมดาๆ​ ที่​ไม่มีอะไร​พิเศษ​ จะอ่อนแอ​ราวกับ​นก​กระทา​ตัว​หนึ่ง​

‘แค่​ผู้ติดตาม​ยัง​แข็งแกร่ง​ขนาด​นี้​ พลัง​แท้จริง​ของ​จอม​ยุทธ์​เหมียว​คง​น่ากลัว​กว่า​ที่​ข้า​จินตนาการ​ไว้​มาก​…’ ผู้คุม​งาน​จูแอบ​ตกใจ​

ตลอดทาง​มานี้​ สวี่​ชีอัน​แสดงตัว​เป็น​ผู้ติดตาม​ของ​เหมียว​โห​ย่ว​ฟาง

โจรสลัด​ที่​เฮโล​กัน​ขึ้น​มาต้อง​เฮโล​กัน​กลับ​ไป​อีกครั้ง​

“ขอ​ท่าน​ได้​โปรด​กรุณา​ มีอะไร​ก็​เจรจา​กัน​ดี​ๆ ได้​ วันนี้​ข้า​มีตาแต่หามีแววไม่​ที่​ไม่รู้จัก​ยอด​ฝีมือ​”

น้ำเสียง​นอบน้อม​ของ​ชาย​ชุด​ดำ​แฝงไป​ด้วย​การ​วิงวอน​

เขา​เชื่อมั่น​ว่า​ นอก​เสีย​จาก​ฝ่ายตรงข้าม​ไม่ต้องการ​สินค้า​บน​เรือ​ทั้ง​ลำ​ มิเช่นนั้น​คง​ไม่มีทาง​สู้กับ​เขา​จน​พินาศ​ไป​ด้วยกัน​ทั้งสองฝ่าย​

บางครั้ง​โจรสลัด​อย่าง​พวกเขา​ก็​ไม่กลัว​ยอด​ฝีมือ​เลย​แม้แต่น้อย​ เพราะ​ยอด​ฝีมือ​ส่วนมาก​เลือก​ที่จะ​ประนีประนอม​ เพื่อ​เลี่ยง​การ​บาดเจ็บ​ล้มตาย​ การ​เสียหาย​ของ​สินค้า​ และ​สาเหตุ​อื่นๆ​

ใช้เงิน​จัดการ​เรื่องราว​สำเร็จ​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​เอาชีวิต​

สวี่​ชีอัน​ไม่ได้​ฆ่าเขา​จริงๆ​ ด้วย​ และ​ถามขึ้น​มา

“เป็น​คน​ที่ไหน​”

“อวี่​โจว​!”

หลังจาก​ถามตอบ​ไป​รอบ​หนึ่ง​แล้ว​ สวี่​ชีอัน​ก็​รู้​ว่า​คน​ผู้​นี้​ชื่อ​ซุน​ไท่​ เป็น​คน​อวี่​โจว​ พเนจร​ไปมา​ใน​ยุทธ​ภพ​ เหตุ​เพราะ​ก่อกรรม​ทำชั่ว​จึงถูก​ขุน​นา​งอวี่​โจว​ออกหมายจับ​

สิ่งนี้​ทำให้​เขา​สูญเสียโอกาส​ใน​การ​ก่อตั้ง​พรรค​ใน​พื้นที่​บางแห่ง​ เพราะ​หมายจับ​ของ​ราชสำนัก​จะแบ่งปัน​กัน​ระหว่าง​มณฑล​

ซุน​ไท่​เริ่ม​เที่ยว​ระเหเร่ร่อน​ไป​สุดขอบฟ้า​ แม้จะบอ​กว่า​มีคุณ​ต้อง​ทดแทน​มีแค้น​ต้อง​ชำระ​ ไม่เคย​ขาดแคลน​เงิน​ แต่​ท้ายที่สุด​ก็​เป็น​หมาป่า​เดียวดาย​ตัว​หนึ่ง​

เมื่อ​เข้าสู่​ฤดูหนาว​ปี​นี้​ ภัย​หนาว​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​ ระเบียบ​ระหว่าง​มณฑล​แต่ละ​แห่ง​พังทลาย​อยู่​รอมร่อ​ ไม่มีคน​สนใจ​หมายจับ​นักโทษ​อย่าง​เขา​อีก​

ซุน​ไท่​เริ่ม​รวบรวม​ผู้ลี้ภัย​และ​เหล่า​จอม​ยุทธ์​พเนจร​ ถือตัว​เป็น​ราชา​ยึดครอง​น่านน้ำ​แห่ง​นี้​ ตอนนี้​มีลูกน้อง​โจรสลัด​ร้อย​คน​ นับว่า​เป็น​กลุ่ม​อิทธิพล​ที่​ไม่เลว​

ดู​จาก​การพัฒนา​ของ​สถานการณ์​ หาก​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​ โจร​ท้องถิ่น​และ​โจรสลัด​ใน​รูปแบบ​ที่​คล้ายคลึง​กัน​ จะกลายเป็น​กองกำลัง​รบ​ที่​โค่นล้ม​ราชสำนัก​ได้​ หรือ​ยึดครอง​ดินแดน​ ‘บรรดา​เจ้าผู้ครองนคร​รัฐ​’ ฝ่าย​หนึ่ง​ จน​กลายเป็น​ส่วนหนึ่ง​ของ​หิมะ​ที่​พังทลาย​…สวี่​ชีอัน​ถอนหายใจ​

“อยาก​มีชีวิต​อยู่​หรือไม่​” สวี่​ชีอัน​ถาม

ซุน​ไท่​พยักหน้า​ทันที​

สวี่​ชีอัน​ชี้ไป​ที่​เหมียว​โห​ย่ว​ฟาง “ฆ่าเขา​ แล้ว​เจ้าจะมีชีวิตรอด​ ข้า​จะไม่ก้าวก่าย​”

จากนั้น​ก็​พูด​กับ​เหมียว​โห​ย่ว​ฟาง

“นี่​คือ​การ​ทดสอบ​แรก​ของ​ข้า​ ชั่วเวลา​สอง​เค่อ​ผ่าน​ไป​ หิ้ว​หัว​ของ​เขา​มาพบ​ข้า​ หาก​ล้มเหลว​ล่ะ​ก็​ ไมตรีจิต​มิตรภาพ​ศิษย์​อาจารย์​ระหว่าง​ข้า​กับ​เจ้าก็​สิ้นสุด​เพียงเท่านี้​”

เกิด​เสียงดัง​ ‘ตึง​ ตึง​’ สอง​ที​ สวี่​ชีอัน​เตะ​ซุน​ไท่​กับ​เหมียว​โห​ย่ว​ฟางออก​ไป​จาก​เรือ​สินค้า​ ทั้งสอง​ร่วง​ลง​บน​ชายฝั่ง​

จากนั้น​เขา​ให้​ผู้คุม​งาน​จูทอด​เสมอ​เรือ​ให้​หยุดนิ่ง​อยู่กับที่​ และ​ยืน​เคียง​บ่า​ชมการต่อสู้​กับ​มู่หนาน​จือ​

ผู้คุม​งาน​ตกใจ​จน​อึ้ง​ไป​เลย​ คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้าคน​ติดตาม​นี่​ถึงจะเป็น​นาย​ที่​แท้จริง​

มู่หนาน​จือ​เห็น​เขา​มีสีหน้า​เคร่งขรึม​จึงถามว่า​

“เป็นห่วง​เหมียว​โห​ย่ว​ฟางหรือ​”

“ข้า​กำลัง​คิด​ว่า​ หาก​ข้า​เป็น​เว่ยกง​ จะจัด​การทหาร​ที่​อาศัย​พลัง​ยุทธ์​ฝ่าฝืน​ข้อห้าม​เหล่านี้​อย่างไร​” สวี่​ชีอัน​กล่าว​เสียงต่ำ​

ศัตรู​ของ​ต้าฟ่ง​ไม่ได้​มีแค่​กลุ่ม​กบฏ​ใน​อวิ๋น​โจว​ ยังมี​ชาว​ยุทธ​ภพ​เหล่านี้​ที่​อาศัย​สถานการณ์​ก่อความวุ่นวาย​ ยังมี​ผู้ลี้ภัย​ที่​เพื่อ​ปากท้อง​แล้ว​ ไป​ถึงไหน​ก็​ปล้น​ไป​ถึงนั่น​

จวน​อ๋อง​ ภายใน​ห้อง​หนังสือ​

สมุห​ราชเลขาธิการ​หวา​งที่​มีสีหน้า​หงอยเหงา​เศร้าซึม​กำลัง​ถือ​เตา​อุ่น​มือ​อยู่​ เขา​ชี้นิ้ว​เคาะ​ผิว​โต๊ะ​แล้ว​ถามว่า​

“เอ้อร์​หลา​ง นี่​คือ​หนังสือ​ที่​ส่งมาจาก​พื้นที่​ต่างๆ​ ตั้งแต่​เข้า​ฤดูหนาว​มา สถานที่​ต่างๆ​ มีภัย​อัน​เกิด​จาก​โจร​ร้าย​คอย​รังควาน​อย่าง​หนัก​ เหล่า​จอม​ยุทธ์​พเนจร​ถือโอกาส​รวบรวม​ผู้ลี้ภัย​ออก​ปล้นสะดม​ชาวบ้าน​ ภายใน​ไม่สงบ​ทั้ง​ยัง​ถูก​รุกราน​จาก​ภายนอก​ วันนี้​ฝ่าบาท​ตรัส​ถามบรรดา​ขุน​นางใน​ท้องพระโรง​ว่า​จะจัดการ​เช่นไร​ เจ้ามีความเห็น​อย่างไรบ้าง​”

สวี่เอ้อร์​หลา​งรู้​ว่า​สมุห​ราชเลขาธิการ​หวา​งกำลัง​ทดสอบ​เขา​อยู่​

การ​ทดสอบ​ที่​คล้ายคลึง​กัน​นี้​ ผ่าน​ไป​อีก​สอง​สามเดือน​ก็​จะเกิดขึ้น​เป็นครั้งคราว​

สมุห​ราชเลขาธิการ​หวา​งจิบ​ชาไป​ที​หนึ่ง​ และ​ค่อยๆ​ กล่าว​

“คุณสมบัติ​และ​ประสบการณ์​ของ​เจ้าน้อย​เกินไป​ ไม่อาจ​โน้มน้าว​ผู้คน​หมู่​มาก​ใน​พรรค​หวา​งได้​ ร่างกาย​ของ​ข้า​นี้​ไม่รู้​ว่า​จะหาย​ดี​เมื่อใด​ บางที​อาจจะ​ไม่หาย​แล้ว​ก็ได้​ บริหาร​กลุ่ม​ผู้ทำงาน​ใน​คณะ​มาหลาย​ปี​ ต้อง​ประเคน​ให้​กับ​ผู้อื่น​ น่าเสียดาย​จริงๆ​”

สวี่​ซินเหนียน​ขมวดคิ้ว​ไม่พูด​อะไร​

“ไม่ต้อง​รีบร้อน​ ให้​คำตอบ​ข้า​ภายใน​สามวัน​ก็ได้​” สมุห​ราชเลขาธิการ​โบกมือ​อย่าง​เหนื่อยล้า​

“เจ้าออก​ไป​เถอะ​”

………………………………………

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท