บทที่ 643 ฎีกาลับ (1)

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

วันนี้​สวี่เอ้อร์​หลา​งมาหา​คู่หมั้น​เพื่อ​เที่ยวเล่น​ใน​วันหยุด​

ทว่า​ทั้งสอง​ยัง​ไม่ได้​แต่งงาน​ จึงอยู่​กัน​ตามลำพัง​สองต่อสอง​เกิน​ครึ่ง​ชั่วโมง​ไม่ได้​ หาก​นาน​กว่า​นี้​ต้อง​ไป​คุย​ใน​ห้องโถง​

จะว่า​อยู่​กัน​ตามลำพัง​ก็​ไม่ใช่อยู่​กัน​สองต่อสอง​จริงๆ​ ต้อง​มีสาวใช้​อยู่​ด้วย​

อย่างไร​เสีย​ระหว่าง​ชาย​หญิง​วัยกำดัด​ สิ่งที่​น่ากลัว​ที่สุด​คือ​การ​หักห้ามใจ​ได้​ยาก​ จากนั้น​ก็​เกา​แก้​คัน​ให้​กัน​อย่าง​เร่าร้อน​

หลังจาก​แต่งงาน​ บ้าน​สามีจะเห็น​เลือด​พรหมจรรย์​ของ​ลูกสะใภ้​ที่​แต่ง​เข้า​บ้าน​ใหม่​เป็นปกติ​ หาก​ไม่มีก็ช่าง​ขาย​ขี้หน้า​นัก​

แม้บ้าน​สกุล​หวา​งเชื่อใจ​สวี่เอ้อร์​หลา​ง ทว่า​กฎ​ก็​ต้อง​เป็น​กฎ​อยู่ดี​ มีอาจ​ผ่อนปรน​ให้ได้​

ดังนั้น​หลังจาก​ครึ่ง​ชั่วโมง​สิ้นสุดลง​ หวา​งซือมู่​จึงบอกลา​ว่าที่​สามีอย่าง​อาลัยอาวรณ์​ มองตาม​หลังเขา​เข้าไป​ประชุม​ที่​ห้อง​หนังสือ​ของ​บิดา​

“ท่าน​สมุห​ราชเลขาธิการ​กลั่นแกล้ง​ข้า​แล้ว​!”

สวี่​ซินเหนียน​ฝืนยิ้ม​ แต่​ก็​ไม่ได้​เดิน​ไป​ หาก​เป็น​ผู้อาวุโส​ทั่วไป​กล่าว​เช่นนี้​ เขา​จะต้อง​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลา​แน่นอน​ ทว่า​สมุห​ราชเลขาธิการ​หวา​งเป็น​ว่าที่​พ่อตา​ ท่าทาง​ของ​สวี่เอ้อร์​หลา​งจึงดู​เป็นกันเอง​มาก​

อันที่จริง​วิธี​แก้ไข​การโจรกรรม​นั้น​ง่ายดาย​มาก​ กวาดล้าง​และ​นิรโทษกรรม​เป็น​ทัศนคติ​ที่​ราชสำนัก​ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้ลี้ภัย​และ​กลุ่ม​โจร​ที่​ยึดครอง​ภูเขา​มาแต่ไหนแต่ไร​ ใช้ไม้อ่อน​ควบคู่​กับ​ไม้แข็ง​

สถานการณ์​ตอนนี้​การโจรกรรม​เป็น​ภัย​ การ​ปราบ​โจร​จึงยากลำบาก​เกินไป​ ราชสำนัก​ก็​ไม่มีทุนทรัพย์​และ​เสบียง​ช่วยเหลือ​ผู้ประสบภัย​ต่อ​

ดังนั้น​นี่​จึงเป็นปัญหา​ที่​ยากจะแก้ไข​

“การลงทุน​ย่อม​มีความเสี่ยง​ หาก​นำมาใช้​ที่นี่​คง​ไม่ค่อย​ถูกต้อง​นัก​ ทว่า​หลักการ​เหมือนกัน​ ทำ​ใน​สิ่งที่​ไม่มีใคร​ทำได้​ เจ้าจึงจะนั่ง​ใน​ตำแหน่ง​ที่​ไม่มีผู้ใด​นั่ง​ได้​”

สมุห​ราชเลขาธิการ​หวา​งก็​มิอาจ​ฝืนใจ​ไล่​คน​ออก​ไป​ได้​ จึงกาง​ฎีกา​ให้​เขา​ดู​ “ดู​สิ หลังจาก​ฝ่าบาท​ทรง​เรียกร้อง​ให้​บริจาค​ สถานการณ์​ก็​ดีขึ้น​มาก​ มิเช่นนั้น​สถานการณ์​คงจะ​เลวร้าย​กว่า​นี้​”

แล้ว​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​คุย​เล่น​หลังจาก​หยุด​ไป​ครู่หนึ่ง​

“ได้ข่าว​ว่า​หมู่นี้​ค่อนข้าง​ใกล้ชิด​กับ​องค์​หญิง​ใหญ่​งั้น​หรือ​”

สวี่เอ้อร์​หลา​งหยิบ​ฎีกา​ขึ้น​มาพลิก​อ่าน​ ก่อน​จะถือโอกาส​พูด​

“หารือ​วิชา​ความรู้​กับ​องค์​หญิง​ใหญ่​เป็น​บางครั้ง​บาง​ครา​ขอรับ​”

สมุห​ราชเลขาธิการ​หวา​งพยักหน้า​ แล้ว​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ “องค์​หญิง​ใหญ่​มีพรสวรรค์​โดดเด่น​ เคย​เอาชนะ​บุรุษ​มามากมาย​ หาก​นาง​เกิด​เป็น​ชาย​จะต้อง​คิด​วิธี​แก้ไข​ยาม​เผชิญหน้า​กับ​ปัญหา​ยาก​เช่นนี้​ได้​แน่นอน​”

เขา​กำลัง​บอกเป็นนัย​ให้​ข้า​ไป​หารือ​กับ​องค์​หญิง​ใหญ่​…สวี่​ซินเหนียน​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​

“พรสวรรค์​ของ​องค์​หญิง​ใหญ่​น่าเลื่อมใส​จริงๆ​”

ใน​เมื่อ​เปิด​ประเด็น​แล้ว​ สมุห​ราชเลขาธิการ​หวา​งจึงริน​ชาให้​ตนเอง​ ก่อน​จะเป่า​ชาร้อน​

“ได้ข่าว​เรื่อง​ของ​กลุ่ม​พันธมิตร​จอม​ยุทธ์​ที่​เจี้ยน​โจว​แล้ว​สินะ​”

“ได้ยิน​มาบ้าง​ขอรับ​” สวี่เอ้อร์​หลา​งพยักหน้า​

“รายละเอียด​น่าจะ​ส่งกลับมา​ใน​ไม่กี่​วัน​ เรื่อง​นี้​จะเปิดเผย​หรือไม่​ก็​ขึ้นอยู่กับ​สถานการณ์​ หาก​เป็น​ยา​แรง​ เช่นนั้น​ก็​ระงับ​ไว้​ภายหลัง​”

สมุห​ราชเลขาธิการ​หวา​งหมายถึง​ หาก​ผล​ออกมา​ดี​ก็​จะยัง​ไม่เปิดเผย​สู่สาธารณชน​ รอเวลา​ที่​ต้อง​ใช้ยา​แรง​ก่อน​ค่อย​นำมาใช้​

“สวี่​หนิง​เยี่ยน​เป็น​ดุจ​อาทิตย์​กลาง​ฟ้า จะว่า​ดี​ก็ดี​ ทว่า​ก็ดี​เกินไป​” สมุห​ราชเลขาธิการ​หวา​งปรายตา​มอง​ว่าที่​ลูกเขย​ แล้ว​ถอนใจ​เอ่ย​

“ความ​โชติช่วง​ของ​พี่ชาย​เจิดจ้า​เกินไป​ ทำให้​เจ้ามืดมน​ ผู้อื่น​ก็​ไม่ยอมให้​เจ้าเปล่งประกาย​”

สวี่เอ้อร์​หลา​งหยิ่งผยอง​ กำลังจะ​บอ​กว่า​พี่ชาย​ก็​คือ​พี่ชาย​ ความสำเร็จ​และ​ความสามารถ​ของ​ตน​ไม่จำเป็นต้อง​ให้​พี่ชาย​ช่วย​ขับ​ดุน​ ยิ่ง​ไม่น้อยเนื้อต่ำใจ​เพราะ​เขา​

ทว่า​สวี่เอ้อร์​หลา​งก็​เป็น​คน​ฉลาด​ เขา​รู้​ทันที​ว่า​สมุห​ราชเลขาธิการ​หวา​งไม่ได้​จะ ‘เสี้ยม​’ ทว่า​มีความหมาย​ลึกซึ้ง​บางอย่าง​

“สมุห​ราชเลขาธิการ​หวา​งหมายถึง​ พี่ใหญ่​จะหวนคืน​สู่ราชสำนัก​ไม่ได้​อีก​งั้น​หรือ​” สวี่เอ้อร์​หลา​งพึมพำ​

“การ​ให้​เขา​แขวน​ชื่อเสียง​ลวง​ใน​การควบคุม​หน่วย​ลาดตระเวน​ยามวิกาล​เป็น​ขีดจำกัด​ที่​ฝ่าบาท​กับ​ท่าน​ทั้งหลาย​จะยอม​รับได้​ หาก​เขา​อยาก​หวนคืน​สู่ราชสำนัก​ เช่นนั้น​เจ้าก็​เตรียม​นั่ง​ว่างงาน​ตลอดชีวิต​ได้​เลย​”

สมุห​ราชเลขาธิการ​หวา​งจิบ​ชาพร้อม​เอ่ย​ช้าๆ “สอง​พี่น้อง​เช่น​พวก​เจ้าต้อง​ประสานกัน​ให้​ดี​”

ความคิด​ของ​จักรพรรดิ​มีแต่​การ​ถ่วงดุล​เสมอ​

หาก​สวี่​ชีอัน​ควบคุม​ที่ทำการ​หน่วย​ลาดตระเวน​ยามวิกาล​จริงๆ​ เช่นนั้น​สวี่​ซินเหนียน​ก็​มิอาจ​เข้า​ควบคุม​พรรค​หวา​งได้​ จักรพรรดิ​ทรง​ไม่อนุญาต​ ท่าน​ทั้งหลาย​ก็​ไม่อนุญาต​ด้วย​เช่นกัน​

สวี่​ซินเหนียน​ส่งเสียง​ ‘อืม​’ ไม่ได้​ออกความเห็น​

อาศัย​ความสามารถ​ใน​การ​จำแม้มองผ่าน​ตา​ระดับ​เปิด​ปัญญา​ของ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ เขา​อ่าน​ฎีกา​จบ​ด้วย​ความ​รวดเร็ว​ก็​เข้าใจ​รายละเอียด​ของ​พื้นที่​ประสบภัย​อย่าง​หนัก​

“ข้า​อ่าน​จบ​แล้ว​ ขอตัว​ก่อน​ขอรับ​”

สวี่เอ้อร์​หลา​งลุกขึ้น​คารวะ​ ก่อน​เขา​จะเดิน​ไป​ถึงประตู​ก็​พลัน​หันหน้า​พร้อม​เอ่ย​

“อันที่จริง​ก็​ไม่เถียง​ พี่ใหญ่​คือ​ปัจจุบัน​ ส่วน​ข้า​ คือ​อนาคต​!”

แล้ว​ผลัก​ประตู​จากไป​

“เอ้อร์​หลา​ง เหตุใด​ถึงเหม่อลอย​นัก​ล่ะ​”

อา​สะใภ้ตัก​ซุป​ไก่​บน​โต๊ะอาหาร​ให้​ลูกชาย​พร้อม​ตำหนิ​

“เจ้าดื่ม​เสียหน่อย​ ซุป​ไก่​ที่​แม่ให้​คนครัว​ต้ม​ให้​เจ้าเข้าไป​อยู่​ใน​ท้อง​ของ​ห​ลิง​อิน​กับ​ลี่​น่า​หมด​แล้ว​ เอา​ของดี​ให้​ถังข้าว​[1]กิน​หมด​ เจ้าไม่เสียดาย​หรือ​”

“ท่าน​แม่ ถังข้าว​คือ​อะไร​”

สวี่ห​ลิง​อิน​ดื่ม​ซุป​ไก่​ดัง​อึก​ๆๆ แล้ว​เอ่ย​ถาม

“ถังข้าว​ก็​คือ​เจ้าไง!” อา​สะใภ้หันหน้า​ตวาด​ใส่

“เอ๋​ ข้า​ไม่ใช่สวี่ห​ลิง​อิน​หรอก​หรือ​” เสี่ยว​โต้​ว​ติง​ตกตะลึง​

“การ​เซ่นไหว้​ฤดูใบไม้ผลิ​ก็​ใกล้​เข้ามา​แล้ว​ ผ่าน​ไป​อีก​หนึ่ง​ปี​ก็​ไม่พัฒนา​ขึ้น​เลย​ เรียนหนังสือ​ก็​ไม่ช่วย​อะไร​งั้น​หรือ​ ปี​นี้​เจ้าโต​แต่​ตัว​สมอง​ไม่โต​ตาม​เลย​หรือ​”

อา​สะใภ้ไม่อยาก​จะเชื่อ​ ยัง​ชอกช้ำระกำใจ​

‘เช่นนั้น​ก็​ต้อง​มีหนังสือ​อ่าน​สินะ​…’ อา​รอง​สวี่​กับ​คนอื่น​ค่อนแคะ​ใน​ใจ ชินชา​เสียแล้ว​ จากนั้น​ก็​กิน​ข้าวของ​ตน​ต่อ​

อา​สะใภ้ด่าทอ​ลูกสาว​เสร็จ​ก็​หันหน้า​มาพูด​กับ​อา​รอง​

“เมื่อคืน​องค์​หญิง​หลิน​อัน​ส่งเครื่องประดับ​และ​ผ้า​มาให้​มากมาย​ นาย​ท่าน​ว่า​นาง​เอาใจใส่​บ้าน​เรา​เช่นนี้​ เป็นไปได้​หรือไม่​ว่า​อาจจะ​แต่งงาน​กับ​หนิง​เยี่ยน​ในวันหน้า​”

เมื่อก่อน​อา​สะใภ้คิด​ว่า​สอง​องค์​หญิง​เอาใจใส่​บ้าน​สกุล​สวี่​เพราะ​ถูกใจ​ลูกชาย​รูปงาม​ดุจ​เทพ​เซียน​ของ​ตน​

ภาย​หลังจาก​คำอธิบาย​ของ​สามี จึงได้​รู้​ว่า​ถูกใจ​หลานชาย​ของ​ตน​ที่​วิทยา​ยุทธ์​เหนือกว่า​ผู้ใด​

อา​รอง​สวี่​เอ่ย​อย่าง​ปลาบปลื้ม​

“ด้วย​สถานะ​ของ​หนิง​เยี่ยน​ใน​ตอนนี้​ การ​แต่งงาน​กับ​องค์​หญิง​ไม่ใช่เรื่อง​ที่​ง่ายดาย​นัก​ เมื่อ​แต่ง​เข้า​จวน​สกุล​สวี่​ในวันหน้า​ นาง​ยัง​ต้อง​ริน​ชาให้​เจ้า เจ้าก็​อบรม​นาง​สุดความสามารถ​ได้​ด้วย​”

สวี่เอ้อร์​หลา​งปรายตา​มอง​ไห​สุรา​ของ​บิดา​ แล้ว​ดื่ม​เพียง​เล็กน้อย​…

อา​สะใภ้เอ่ย​ด้วยใจ​ร้อนรุ่ม​

“ถึงข้า​จะไม่กลัว​สงคราม​ใน​บ้าน​ก็​เถอะ​ ทว่า​อีก​ฝ่าย​เป็น​ถึงองค์​หญิง​ ถูก​ประคบประหงม​จน​เปราะบาง​ จะกล้า​อบรม​ตาม​อำเภอ​เสีย​ที่ไหน​”

อา​สะใภ้กำลัง​เอ่ยถึง​ฝีมือ​การฟาดฟัน​ใน​บ้าน​ เป็นหนึ่ง​ไม่มีใคร​กล้า​เป็น​สอง​ อยู่ยงคงกระพัน​เสมอ​

สวี่ห​ลิง​เยวี่ย​เอ่ย​เสียง​เบา​

“ท่าน​แม่ พี่ใหญ่​นิสัย​ไม่ชอบ​การ​ผูกมัด​ ไม่เหมาะ​จะแต่งงาน​กับ​องค์​หญิง​ ราชบุตร​เขย​นี่​อย่า​เป็น​เลย​ดีกว่า​ ข้า​เคย​พบ​องค์​หญิง​ทั้งสอง​มาก่อน​ ไม่เหมาะสม​กับ​พี่ใหญ่​”

ลี่​น่า​เงยหน้า​ขึ้น​ เคี้ยว​ข้าว​พร้อม​เอ่ย​อู้อี้​

“ข้า​คิด​ว่า​สวี่​หนิง​เยี่ยน​หมา​ะสมกับ​เหล่า​องค์​หญิง​”

สวี่ห​ลิง​เยวี่ย​เงียบ​ไป​พัก​หนึ่ง​ ก่อน​จะมอง​เสี่ยว​โต้​ว​ติง​พร้อม​เอ่ย​เสียงเล็กเสียงน้อย​

“ท่าน​แม่ ห​ลิง​อิน​เป็น​เช่นนี้​ก็ดี​อยู่แล้ว​ ฝึก​วิชา​กับ​ลี่​น่า​ทุกวัน​ สอง​ครู​ศิษย์​มีความสุข​ไร้กังวล​ใดๆ​”

ลี่​น่า​ยิ้ม​อย่าง​ภาคภูมิใจ​ จากนั้น​ก็​พบ​ว่า​นาย​หญิง​บ้าน​สกุล​สวี่​มอง​ตน​ด้วย​สายตา​ระแวดระวัง​และ​เจตนา​เป็นปฏิปักษ์​

‘ใช่แล้ว​ หญิง​โง่ผู้​นี้​พา​ห​ลิง​อิน​ของ​ข้า​เสียคน​…’ อา​สะใภ้กัดฟัน​

ลี่​น่า​ “???”

สวี่​ซินเหนียน​วาง​ตะเกียบ​ลง​ ประคอง​ซุป​ไก่​ขึ้น​ดื่ม​พร้อม​เอ่ย​

“ช่วงนี้​จอม​ยุทธ์​ใน​ยุทธ​ภพ​รวบรวม​ผู้ลี้ภัย​ไป​เป็น​โจร​ ทำให้​การโจรกรรม​ทุก​พื้นที่​รุนแรง​ โจร​ภูเขา​บาง​พื้นที่​ก็​คุกคาม​ไป​ถึงเมือง​แล้ว​ สมุห​ราชเลขาธิการ​หวา​งถามว่า​ข้า​มีกลยุทธ์​อย่างไร​ ข้า​กำลัง​กลุ้มใจ​กับ​เรื่อง​นี้​อยู่​”

อา​สะใภ้ท่าทาง​เชื่อมั่น​เต็ม​ร้อย​ “ให้​หนิง​เยี่ยน​กวาดล้าง​พวกเขา​เสีย​สิ”

“ประเทศ​ใหญ่โต​เช่นนี้​ เจ้าคิด​จะให้​หนิง​เยี่ยน​เหนื่อย​ตาย​งั้น​หรือ​” อา​รอง​สวี่​เอ่ย​อย่าง​ไม่พอใจ​ “อีก​อย่าง​ ขะ​ เขา​ยัง​จ้อง​ตาเป็นมัน​อยู่​ข้างๆ​ ”

เขา​ หมายถึง​พี่ใหญ่​สวี่​ผิง​เฟิง

“นิรโทษกรรม​ไม่ได้​หรือ​” สวี่ห​ลิง​เยวี่ย​รู้หนังสือ​ ความรู้​ทางวัฒนธรรม​ดี​มาตลอด​

“นิรโทษกรรม​ใช้ใน​บางเวลา​เท่านั้น​ การโจรกรรม​เป็น​กลุ่ม​ผู้ลี้ภัย​เสีย​ส่วนใหญ่​ ถูก​เรียก​มาเพียง​ส่วนหนึ่ง​ไม่ใช่ทั้งหมด​ ท้ายที่สุด​เงิน​และ​เสบียง​ก็​ไม่พอ​อยู่ดี​ หาก​เงิน​และ​เสบียง​มีเพียงพอ​ ภัยพิบัติ​ก็​คง​ถูก​ควบคุม​ได้​นาน​แล้ว​”

สวี่เอ้อร์​หลา​งส่ายหน้า​

ปัญหา​ที่​ค้างคา​ของ​อดีต​จักรพรรดิ​หยวน​จิ่งจะปะทุ​ขึ้น​ทั้งหมด​ใน​ภัย​หนาว​นี้​

อา​รอง​เป็น​ทหาร​ รู้​สถานการณ์​ดี​ จึงมอง​อา​สะใภ้พร้อม​เอ่ย​

“แย่​ล่ะ​ เจ้าอย่า​ปล่อย​ให้​ห​ลิง​อิน​เรียนหนังสือ​เลย​ ให้​นาง​เข้าร่วม​กองทัพ​เถอะ​ ไม่แน่​ว่า​สามหรือ​ห้า​ปี​หลังจากนี้​อาจจะ​ได้​ตำแหน่ง​สูงสุด​กลับมา​ฝาก​เจ้าก็ได้​ ทำให้​เจ้ากลายเป็น​ฮูหยิน​บรรดาศักดิ์​”

อา​สะใภ้โกรธ​แทบ​อยาก​จะตี​กับ​สามี คิด​ว่า​แนวคิด​การอบรม​ลูก​ของ​ตน​ปกติ​ที่สุด​แล้ว​

ตน​จะไม่ทอดทิ้ง​และ​ยอมแพ้​ใน​ตัว​ห​ลิง​อิน​

อา​รอง​สวี่​เห็น​ภรรยา​ไม่ยอม​ก็​เอ่ย​ถามเสี่ยว​โต้​ว​ติง​

“ห​ลิง​อิน​ หาก​มีคน​รังแก​เจ้า เจ้าจะทำ​อย่างไร​”

“สู้กลับ​! ” เสี่ยว​โต้​ว​ติง​พูด​เต็มปากเต็มคำ​

“หาก​สู้ไม่ไหว​ล่ะ​” อา​รอง​สวี่​เอ่ย​

สวี่ห​ลิง​อิน​ครุ่นคิด​ “เช่นนั้น​ข้า​ก็​จะเป็นเพื่อน​กับ​พวกเขา​ พวกเขา​จะได้​ไม่รังแก​ข้า​”

‘เด็กน้อย​เช่น​เจ้า ความคิด​ความสำนึก​ไม่ไหว​เอา​เสีย​เลย​ หาก​พ่ายแพ้​อาจจะ​หันมา​เป็นปฏิปักษ์​ก็ได้​…’ อา​รอง​สวี่​พูด​ใน​ใจ

หลังจาก​ทานข้าว​เสร็จ​ สวี่เอ้อร์​หลา​งก็​กลับ​ไป​ที่​ห้อง​หนังสือ​ด้วยใจ​ที่​หนักอึ้ง​

เขา​จุด​เทียน​ก่อน​จะเอนตัว​ลง​บน​เก้าอี้​ แล้ว​เริ่ม​ครุ่นคิด​

เป็น​ปัญญาชน​ หาก​ประสบปัญหา​ยาก​จะอ้างอิง​จาก​หนังสือประวัติศาสตร์​เป็น​อันดับ​แรก​

ประวัติศาสตร์​เป็น​กระจกเงา​ เรียนรู้​ประสบการณ์​ของ​บรรพบุรุษ​จาก​ใน​นั้น​

“ความวุ่นวาย​ใน​ช่วง​สุดท้าย​ของ​ทุก​ยุค​ทุก​สมัย​ใน​หนังสือประวัติศาสตร์​ใช้เพียง​การกวาดล้าง​และ​นิรโทษกรรม​สอง​อย่าง​เท่านั้น​ ที่​มาก​ไป​กว่า​นั้น​คือ​ทัศนคติ​ที่​ใช้กวาดล้าง​ เพราะ​ช่วง​สุดท้าย​ของ​ทุก​ราชวงศ์​ ความขัดแย้ง​ระหว่าง​ราชสำนัก​และ​ประชาชน​มาถึงจุด​ที่​ต้อง​แก้ไข​ด้วย​สงคราม​ การ​นิรโทษกรรม​จะต้อง​มีเงิน​และ​เสบียง​เสีย​ก่อน​ จากนั้น​ก็​ขาย​ผลประโยชน์​ส่วนหนึ่ง​ ราชสำนัก​แก้ไข​การโจรกรรม​ส่วนหนึ่ง​ด้วย​วิธี​นิรโทษกรรม​ได้​ ทว่า​มิอาจ​แก้ไข​การโจรกรรม​ด้วย​วิธี​นิรโทษกรรม​ได้​ทั้งหมด​ หาก​ทำ​ถึงขั้น​นี้​ได้​ก็​คง​ไม่วุ่นวาย​เฉกเช่น​ปัจจุบัน​”

สวี่เอ้อร์​หลา​งวิเคราะห์​และ​หวน​นึกถึง​เนื้อหา​ใน​หนังสือประวัติศาสตร์​โดย​อาศัย​ความจำ​อัน​ล้ำเลิศ​ได้​ข้อสรุป​แรก​ออกมา​ว่า​

ต้าฟ่ง​ใน​ปัจจุบัน​ยัง​ไม่ถึงทางตัน​ แตกต่าง​กับ​ความเสื่อมโทรม​ช่วง​สุดท้าย​ของ​ราชวงศ์​ส่วนใหญ่​

ยัง​เสื่อมโทรม​ไม่ถึงที่สุด​

นี่​เป็นเรื่อง​ดี​

“ในเวลานี้​หาก​กลุ่ม​กบฏ​ขอ​งอ​วิ๋น​โจว​เปิดฉาก​ก่อ​กบฏ​ก็​จะกลายเป็น​ฟางเส้น​สุดท้าย​ที่​ล่าม​อูฐ​ แล้​วจะ​แก้ไข​การโจรกรรม​อย่างไร​”

สวี่​ซินเหนียน​ยิ่ง​คิด​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ไร้​หนทาง​ ยิ่ง​คิด​ก็​ยิ่ง​ปวดหัว​

ในที่สุด​เขา​ก็​เข้าใจ​ว่า​เหตุใด​ร่างกาย​ของ​สมุห​ราชเลขาธิการ​หวา​งถึงได้​ย่ำแย่​ลง​เรื่อยๆ​ กระทั่ง​ยา​และ​เข็ม​หิน​ก็​ไม่เห็นผล​

ท้ายที่สุด​ก็​เหนื่อย​ทั้ง​แรงกาย​แรงใจ​ ทำงานหนัก​จน​ล้ม​ป่วย​

บัดนี้​คำพูด​ของ​ห​ลิง​อิน​ก็​แวบ​เข้ามา​ใน​หัว​ของ​เขา​

ราวกับ​มีแสงผ่า​เข้าไป​ใน​สมอง​ของ​เขา​

“กลาย​เป็นเพื่อน​ กลาย​เป็นเพื่อน​…”

สวี่​ซินเหนียน​ลืมตา​ขึ้น​ นัยน์ตา​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​เส้น​เลือดแดง​ แต่​ท่าทาง​กลับ​ฮึกเหิม​ยิ่งนัก​ เขา​กาง​กระดาษ​เซวียนจื่อ​ บด​และ​จับ​พู่กัน​เขียน​

‘ปัจจุบัน​ภัยพิบัติ​รุนแรง​ โจร​พเนจร​ทุกหน​แห่ง​สร้าง​ความเสียหาย​ให้​ฝ่าย​หนึ่ง​ ราชสำนัก​ต้อง​ใช้กลยุทธ์​สามประการ​ ประการ​แรก​ นิรโทษกรรม​ ใช้กลยุทธ์​นิรโทษกรรม​สำหรับ​โจร​ภูเขา​กลุ่ม​ใหญ่​และ​ทำให้​โจร​ภูเขา​ที่​สวามิภักดิ์​ปราบ​โจร​ภูเขา​คนอื่น​…’

‘ประการ​ที่สอง​ ส่งกองกำลัง​กวาดล้าง​อย่าง​เด็ดเดี่ยว​สำหรับ​พวก​ปลายแถว​กลุ่ม​เล็ก​เพื่อ​ตัดปัญหา​ในอนาคต​…’

‘ประการ​ที่สาม​ เลียนแบบ​คนใน​ยุทธ​ภพ​ สั่งให้​ยอด​ฝีมือ​เจาะเข้าไป​ใน​ท้องที่​ รวบรวม​ผู้ลี้ภัย​และ​ยึดครอง​ภูเขา​’

จุด​นี้​คำพูด​ของ​ห​ลิง​อิน​ปลุก​แรงบันดาลใจ​ของ​เขา​ขึ้น​มา

ทำให้​ราชสำนัก​และ​ผู้ลี้ภัย​กลายเป็น​ ‘เพื่อน​’ แน่นอน​ว่า​ไม่มีทาง​รวบรวม​ผู้ลี้ภัย​ได้​ทั้งหมด​ ทว่า​อย่าง​น้อย​ก็​ลด​ภาระ​ของ​ราชสำนัก​ใน​ตอนนี้​ไป​ได้​ ลด​การโจรกรรม​พิษร้าย​ของ​ประชาชน​ลง​ไป​ได้​มาก​

สวี่เอ้อร์​หลา​งเขียน​ต่อ​

‘จำเป็นต้อง​แต่งตั้ง​คน​ที่​ภักดี​และ​เป็นธรรม​ให้​รับหน้าที่​นี้​ ไม่ควร​ใช้คน​ที่​มีข่าวลือ​เสียหาย​และ​ชื่อเสียง​ใน​ด้าน​ลบ​ ต้อง​เฝ้าสังเกต​สมาชิก​ใน​ครอบครัว​อย่าง​ใกล้ชิด​เพื่อ​เป็น​ตัวประกัน​’

หลังจาก​เขียน​เสร็จ​ สวี่เอ้อร์​หลา​งก็​เริ่ม​ครุ่นคิด​ คิด​ว่า​ยัง​ขาด​บางอย่าง​ไป​ ทว่า​หลังจาก​พลังงาน​หมด​ลง​ จิตใจ​ก็​เริ่ม​อ่อนแรง​ ใจสู้แต่​แรง​ไม่เป็นใจ​

เขา​หันหน้า​เหลือบมอง​นาฬิกาน้ำ​ก็​พบ​ว่า​เป็น​ยาม​จื่อ​สอง​เค่อ​แล้ว​ เขา​ทำงาน​ที่​โต๊ะ​หนังสือ​มาสอง​ชั่ว​ยาม​เต็ม​

……………………………………………..

[1] ถังข้าว​ อุป​มาถึงคน​ที่​ไม่ได้เรื่อง​ หรือ​คน​ที่​ใช้การไม่ได้​

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท