บทที่ 659 อำลา

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​มอง​ขา​สอง​ข้าง​ของ​เสิน​ซู แสงกระจ่าง​ดุจ​ละออง​น้ำ​ใน​ตา​ซ้าย​ทำให้​ไม่อาจ​เห็น​อารมณ์​ใน​ดวงตา​นาง​ได้​ชัดเจน​

แต่​นาง​ยัง​ทำ​ท่าทาง​จ้องมอง​ ไม่ขยับตัว​เป็นเวลา​นาน​

ผ่าน​ไป​ชั่วครู่​ จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ใช้เสียง​นุ่มนวล​น่ารัก​เป็น​เอกลักษณ์​ ยิ้ม​หวาน​พูดว่า​

“ยาม​นั้น​ข้า​เยาว์วัย​ แม้ไม่ได้​ต่อสู้​กับ​อา​ซูหลัว​ แต่​รู้ซึ้ง​ถึงความ​แข็งแกร่ง​ของ​เขา​ พูด​ตามตรง​ เรื่อง​ที่​เจ้าจะนำ​มือ​เท้า​ทั้ง​สี่ของ​เสิน​ซูกลับมา​ได้​ ข้า​มั่นใจ​ไม่ถึงห้า​ส่วน​”

“นั่น​เพราะ​ข้า​ไม่ใช่จอม​ยุทธ์​ที่​แท้จริง​”

สวี่​ชีอัน​พูด​เสียง​เรียบ​

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​หัวเราะ​ ’คิกๆ​’ ยื่น​มือซ้าย​ลูบ​แก้ม​ขวา​ ยิ้ม​หวาน​พูดว่า​

“ข้า​ถูกใจ​เด็ก​คน​นี้​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ เย่​จี เจ้าว่า​ข้า​ยกพวก​พี่น้อง​หญิง​ของ​เจ้าให้​เขา​ทั้งหมด​เป็น​อย่างไร​”

เย่​จีหนักใจ​ขึ้น​มา คำพูด​นี้​ของ​องค์​หญิง​หมายความว่า​

ข้า​ถูกใจ​เขา​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ อยาก​ให้​เขา​เป็น​ราชบุตร​เขย​ของ​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​

ด้วย​พละกำลัง​ของ​สวี่​หลา​ง นับ​เป็น​บุคคล​ผู้​อยู่​ใน​ระดับ​สูงสุด​ของ​จิ่ว​โจว​ องค์​หญิง​จะกอบกู้​แคว้น​ ย่อม​ต้อง​ดึง​ตัว​ยอด​ฝีมือ​ ถูกใจ​เขา​ก็​ไม่น่าแปลกใจ​ เขา​พร้อมด้วย​ความสามารถ​และ​คุณสมบัติ​นี้​…ใน​ใจเย่​จีรู้สึก​ต่อต้าน​ เพราะ​ยาม​นี้​สวี่​ชีอันเป็น​ของ​นาง​ ถ้าพระนาง​ถูกใจ​เขา​ เช่นนั้น​ตำแหน่ง​ของ​ตน​ เกรง​ว่า​จะกลายเป็น​สาวใช้​แต่ง​เข้า​บ้าน​

แม้เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ไม่สนใจ​ฐานะ​ แต่​ความรัก​นั้น​แท้จริง​ แม้เป็น​องค์​หญิง​ แย่ง​ชาย​ผู้​เป็น​ที่รัก​ของ​นาง​อย่าง​โจ่งแจ้ง นาง​ยังคง​โกรธแค้น​และ​ไม่พอใจ​

นอกจาก​ไป๋​จีแล้ว​ นัง​แพศยา​พราว​เสน่ห์​เจ็ด​ตน​นั้น​ แต่ละคน​มีเสน่ห์​เฉพาะตัว​ ย่อม​ต้อง​ยั่วยวน​สวี่​หลา​งอ​ย่าง​เต็มที่​

พี่น้อง​หญิง​ของ​ฝูเซียง​ แต่ละคน​ชุ่มฉ่ำหวาน​ล้ำ​ดุจ​ฝน​วสันตฤดู​โปรยปราย​ใน​แดน​สวรรค์​? สวี่​ชีอัน​ใจกระตุก​วูบ​ จากนั้น​อด​ไม่ได้​ที่จะ​มอง​จิ้งจอก​ขาว​น้อย​แวบ​หนึ่ง​ ส่ายหน้า​อย่าง​ผิดหวัง​ เจ้าตัว​น้อย​ผู้​นี้​ไม่นับ​

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​เดิน​ไป​หน้าขา​สอง​ข้าง​ของ​เสิน​ซู ยก​มือขึ้น​ กด​บน​ท้องน่อง​เบา​ๆ

“ห้า​ร้อย​ปี​มานี้​ ข้า​ใช้ทั้ง​แรงกาย​แรงใจ​ตลอดเวลา​ ใคร่ครวญ​ว่า​จะปลด​ผนึก​ช่วย​เขา​หลุดพ้น​จาก​ความลำบาก​ได้​อย่างไร​ ใคร่ครวญ​ว่า​จะนำพา​ปีศาจ​แดน​ใต้​ยึด​บ้านเกิดเมืองนอน​คืน​ได้​อย่างไร​

“ในที่สุด​วันนี้​ก็​อยู่​ไม่ไกล​”

องค์​หญิง​เจ้าอย่า​พูด​แต่​ไม่ทำ​สิ ไม่มีรูป​พวก​นาง​ อย่าง​น้อย​ก็​ให้​ช่องทาง​ติดต่อ​หน่อย​ก็ได้​…สวี่​ชีอัน​ถือโอกาส​ถามว่า​

“องค์​หญิง​คิด​จะก่อ​จลาจล​ ยกทัพ​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ ยึด​ภูเขา​สือ​ว่าน​คืน​ยาม​ใด​”

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ใคร่ครวญ​ชั่วครู่​ พูด​เสียง​อ่อนโยน​

“รอ​ข้า​กลับ​จิ่ว​โจว​ก็​จะปลุก​เสิน​ซู ยกทัพ​กำราบ​ชาว​แดน​ประจิม​ จับเป็น​อา​ซูหลัว​ ให้​เขา​ถอน​ผนึก​สุดท้าย​ของ​เจ้า รวบรวม​แขนขา​ทั้งหมด​นอกจาก​ศีรษะ​ของ​เสิน​ซูจน​ครบ​ จากนั้น​ บุก​โจมตี​อรัญ​ตา​”

ยัง​จะบุก​โจมตี​อรัญ​ตา​? ยึด​ศีรษะ​เสิน​ซูคืน​? ถ้าเป็น​เช่นนี้​ พระโพธิสัตว์​เจีย​หลัว​ซู่ยัง​จะร่วมมือ​กับ​อวิ๋น​โจว​โจมตี​ที่ราบ​กลาง​ต่อไป​ได้​หรือไม่​…สวี่​ชีอัน​หัวแล่น​ ลอบ​ฮึกเหิม​ขึ้น​มา

“พระนาง​กลับ​จิ่ว​โจว​ยาม​ใด​” เขา​ถาม

“ยัง​ต้อง​ใช้เวลา​อีกหน่อย​ ในระหว่างนั้น​ ข้า​จะให้​เย่​จีและ​คนอื่นๆ​ ลักลอบ​เรียก​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ที่​กระจาย​อยู่​ทั่ว​จิ่ว​โจว​กลับมา​ รวมพล​กองทัพ​ต้อง​ใช้เวลา​”

สวี่​ชีอัน​พยักหน้า​เล็กน้อย​ เตรียม​การสงคราม​ไม่ใช่เรื่อง​เด็ก​เล่น​

“องค์​หญิง​ ท่าน​รู้​หรือไม่​ว่า​เสิน​ซูคือ​ราชัน​อสูร​”

สวี่​ชีอัน​ถามโพล่ง​ออกมา​ราวกับ​ดินระเบิด​

ซุน​เสวียน​จีและ​เย่​จีมีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ทันที​

…จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​พูด​ช้าๆ

“กระทั่ง​ใกล้​จบ​สงคราม​พุทธ​และ​ปีศาจ​ ข้า​ถึงรู้​ว่า​เขา​คือ​ราชัน​อสูร​”

ไม่รู้​แม้แต่​ฐานะ​พ่อ​แท้ๆ​ ของ​ตน​ ดูเหมือนว่า​ยาม​นั้น​เสิน​ซูกับ​เจ้าอาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​จงใจปิดบัง​ สวี่​ชีอัน​ถามอีก​

“เช่นนั้น​ใน​ร่าง​ท่าน​ก็​มีโลหิต​อสูร​? แต่​เหตุใด​ผู้พิทักษ์​ชิงมู่บอ​กว่า​เจ้าคือ​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​สายเลือด​บริสุทธิ์​”

จิ้งจอก​เก้า​หาง​หันหลัง​ทันที​ นัยน์ตา​กระจ่าง​จ้อง​เขา​เขม็ง​ ผ่าน​ไป​สักพัก​ ถึงหัวเราะ​เบา​ๆ พูดว่า​

“ฆ้อง​เงิน​สวี่​ไข​คดี​ดุจ​เทพ​ ชื่อเสียง​สมคำ​ร่ำ​ลือ​ ประมาท​เล็กน้อย​ เกือบ​ถูก​เจ้ารู้​สายสนกลใน​หมดสิ้น​”

เว้นวรรค​เล็กน้อย​ นาง​ถอนใจ​พูดว่า​

“ข้า​ไม่ใช่จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​สายเลือด​บริสุทธิ์​ ข้า​เกิด​มาแปด​หาง​ ยาม​นั้น​ท่าน​แม่ใช้ภาพลวงตา​หลอกลวง​ฝูงปีศาจ​ ให้​พวกเขา​คิด​ว่า​ข้า​คือ​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​สายเลือด​บริสุทธิ์​

“เมื่อ​ใกล้​จบ​สงคราม​พุทธ​และ​ปีศาจ​ ท่าน​แม่รู้ตัว​ว่ายาก​จะพ้นเคราะห์​ แบ่ง​พลัง​ปราณ​ของ​นาง​ส่วนหนึ่ง​ ถ่ายทอด​สู่ร่างกาย​ข้า​

“ข้า​ได้รับ​พลัง​ปราณ​ของ​นาง​ ถึงขับ​เลือด​อสูร​ออก​ไป​ กลายร่าง​เป็น​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​บริสุทธิ์​ ใน​ยาม​นั้น​เอง​ ข้า​ถึงรู้​ฐานะ​ที่​แท้จริง​ของ​เสิน​ซู”

สวี่​ชีอัน​เข้าใจ​ทันที​ “ดังนั้น​พระนาง​ออก​ทะเล​ตามหา​เผ่าพันธุ์​เดียวกัน​ เพื่อ​สายเลือด​บริสุทธิ์​รุ่น​ต่อไป​?”

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​พยักหน้า​ จากนั้น​ส่ายหน้า​ ยิ้มแย้ม​พูดว่า​

“ถ้าถูกใจ​ ก็​สาน​สัมพันธ์​เป็น​คู่หู​ พา​กลับ​จิ่ว​โจว​ช่วย​ข้า​กอบกู้​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​ ถ้าไม่ถูกใจ​ ก็​ฆ่าทิ้ง​ แย่งชิง​พลัง​ปราณ​ เตรียมพร้อม​เพื่อ​ลูกหลาน​ในอนาคต​ของ​ข้า​

“ยาม​นี้​ ข้า​เอนเอียง​ไป​ทาง​อย่าง​หลัง​มากกว่า​ แต่​ทะเล​กว้างใหญ่​ไร้​ขอบเขต​ หมู่เกาะ​มากมาย​ นอก​โพ้นทะเล​ยังมี​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​หรือไม่​ ยาม​นี้​ข้า​ก็​ไม่กล้า​แน่ใจ​”

จาก​คำพูด​นี้​ของ​นาง​ สวี่​ชีอัน​จำแนก​ส่วนสำคัญ​ได้​สอง​ข้อ​

หนึ่ง​ จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ไม่ค่อย​มั่นใจ​เรื่อง​ก่อ​กบฏ​ จึงออก​ทะเล​ตามหา​เผ่าพันธุ์​เดียวกัน​ หวัง​ดึง​ตัว​เข้า​ใต้​บัญชา​

สอง​ เพราะ​งมเข็มในมหาสมุทร​ แผน​นี้​ไม่แน่​ไม่นอน​เกินไป​ นาง​เหมือน​จะเปลี่ยนความคิด​ มีแผนใหม่​

เห็น​ว่า​พูดคุย​ได้​สักพัก​แล้ว​ เย่​จีรีบ​ถามว่า​

“องค์​หญิง​ แขนขา​ส่วน​นี้​ของ​ไต้​ซือเสิน​ซู ดี​หรือ​ชั่ว​เจ้าคะ​?”

นาง​ยัง​กังวล​ว่า​หลังจาก​ปลุก​ขา​สอง​ข้าง​ของ​เสิน​ซู มัน​จะยอม​ร่วมมือ​กับ​สวี่​ชีอัน​ถอน​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​หรือไม่​

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ใคร่ครวญ​ชั่วครู่​ พูดว่า​

“ที่จริง​เดา​ง่าย​ยิ่งนัก​ แขนขวา​ที่​ผนึก​อยู่​ก้น​ทะเลสาบ​ซังผอ​ นิสัย​อ่อนโยน​เมตตา​ แขน​ซ้าย​ใน​เจดีย์​พุทธะ​ โหดร้าย​กระหายเลือด​ ลำตัว​กลับ​องอาจ​ห้าวหาญ​ งั้น​นิสัย​ของ​ขา​ข้าง​นี้​ ก็​ไม่รวมทั้งหมด​ข้างต้น​

“อาจ​เปรียบเทียบ​ได้​ไม่ง่าย​นัก​ แต่​ไม่ถึงขนาด​ชั่วร้าย​โหดเหี้ยม​ พวก​เจ้าตัดสิน​ด้วย​ตนเอง​เถอะ​”

พูด​จบ​ แสงกระจ่าง​ดุจ​ละออง​น้ำ​ใน​ตา​ซ้าย​ของ​เย่​จีจางหาย​ นาง​ไป​แล้ว​

สวี่​ชีอัน​กับ​ซุน​เสวียน​จีมองหน้า​กัน​แวบ​หนึ่ง​ ฝ่าย​หนึ่ง​หยิบ​อาวุธ​เวทมนตร์​เช่น​เจดีย์​พุทธะ​และ​ดาบ​ไท่​ผิง​ออกมา​ อีก​ฝ่าย​พร้อมใจ​วาด​ค่าย​กล​

ทว่า​มัน​เป็น​ค่าย​กล​ที่​โหร​ขั้น​สามต้อง​วาด​ทีละ​ขีด​ แสดงว่า​ต้อง​เป็น​ค่าย​กล​อัศจรรย์​อย่าง​แน่นอน​

เมื่อ​ซุน​เสวียน​จีวาด​ค่าย​กล​เสร็จสิ้น​ สวี่​ชีอัน​ให้สัญญาณ​ เย่​จีก้าว​ไป​ข้างหน้า​ นิ้วโป้ง​จิก​นิ้วก้อย​ บีบ​เลือด​วิญญาณ​สอง​หยด​ออกมา​ หยด​ลงบ​นขา​สอง​ข้าง​

เลือด​แดงฉาน​ถูกขา​สอง​ข้าง​ของ​เสิน​ซูซึมซับใน​ชั่วพริบตา​ ไม่นาน​ ขา​สอง​ข้าง​นี้​มีชีวิต​ขึ้น​มา

พวก​มัน​กระโดด​ลง​จาก​โต๊ะ​กะทันหัน​ ขา​ซ้าย​เตะ​หวด​ใบหน้า​งามดุจ​บุปผา​ของ​เย่​จี ขา​ขวา​จู่โจมท้องน้อย​

เย่​จีหน้าถอดสี​เล็กน้อย​ เบี่ยง​ตัว​ถอยหลัง​

‘วิ้งๆ’…​ขา​สอง​ข้าง​ถูก​ฉาก​กั้น​แสงสว่าง​ที่​เลื่อน​ขึ้น​มาขวาง​ไว้​ นั่น​คือ​ค่าย​กล​ของ​ซุน​เสวียน​จี…วาด​พื้น​เป็น​ปราการ​

ขา​สอง​ข้าง​ของ​เสิน​ซูวิ่ง​วุ่น​ทั่ว​ถ้ำหิน​ ขา​ซ้าย​ไป​ทางซ้าย​ ขา​ขวา​ไป​ทางขวา​ เมื่อ​พบ​ว่า​สอง​ฝ่าย​แยก​จากกัน​ ขา​ซ้าย​รีบ​วิ่ง​ไป​ทางขวา​ ขา​ขวา​รีบ​ขยับ​ไป​ทางซ้าย​

จากนั้น​ชน​กัน​ดัง​ ‘พลั่ก​’ ล้ม​ลง​ทั้งคู่​

พวก​มัน​พยายาม​รักษา​ความสอดคล้อง​ รักษา​จังหวะ​เดียวกัน​ แต่​ล้มเหลว​ทุกครั้ง​เพราะ​แต่ละ​ข้าง​คิด​ต่างกัน​

นี่​คือ​นิสัย​ด้าน​การแสดง​ของ​เสิน​ซู? ผู้​ชื่นชอบ​ละครสัตว์​? สวี่​ชีอัน​อ้า​ปาก​เล็กน้อย​ ตกตะลึง​

ซุน​เสวียน​จีกับ​เย่​จีมีสีหน้า​คล้าย​กับ​เขา​ ทั้ง​ตกตะลึง​งงงวย​ ทั้ง​พยายาม​กลั้น​หัวเราะ​

“ไต้​ซือเสิน​ซู…”

สวี่​ชีอัน​กระแอม​เล็กน้อย​ ขัดจังหวะ​การแสดง​ของ​ขา​สอง​ข้าง​

ขา​สอง​ข้าง​ของ​เสิน​ซูหยุดนิ่ง​ ถูก​สวี่​ชีอัน​ดึงดูด​ความสนใจ​ ชั่วครู่​ต่อมา​ จิตวิญญาณ​แห่ง​การต่อสู้​ของ​พวก​มัน​ปะทุ​ขึ้น​อย่าง​แรงกล้า​ ราวกับ​นักรบ​ผู้​ไม่ยอม​พ่ายแพ้​ หันมา​โจมตี​สวี่​ชีอัน​

ขา​ขวา​ลอย​ขึ้น​กลางอากาศ​ มุ่งถีบ​หน้าผาก​สวี่​ชีอัน​ ขา​ซ้าย​จู่โจมเป้ากางเกง​สวี่​ชีอัน​อย่าง​ไร้​คุณธรรม​

สวี่​ชีอัน​ยื่นมือ​ออก​ไป​ด้วย​สีหน้า​ว่างเปล่า​ คว้า​ข้อเท้า​ขา​ซ้าย​และ​ขวา​ไว้​

ขา​สอง​ข้าง​ของ​เสิน​ซูดุจ​ถูก​คีม​ตรึง​ไว้​ทันที​ ไม่ว่า​จะดิ้น​อย่างไร​ก็​ไม่อาจ​หลุดพ้น​

ทั้งสองฝ่าย​ไม่ยอม​อ่อนข้อ​ให้​แก่​กันและกัน​สักพัก​ เศษวิญญาณ​ของ​เสิน​ซูส่งผ่าน​ความคิด​ออกมา​

“เจ้าหนุ่ม​ ข้า​ยอมรับ​ใน​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​เจ้า”

“ไต้​ซือ​ถูก​ผนึก​ห้า​ร้อย​ปี​ อยู่​ใน​สภาวะ​อ่อนล้า​เท่านั้น​” สวี่​ชีอัน​ปล่อย​ข้อเท้า​ ประสานมือ​พูดว่า​ “ผู้น้อย​สวี่​ชีอัน​ มีความเกี่ยวข้อง​กับ​ท่าน​มาก​นัก​”

“ข้า​รู้สึก​ได้​ ใน​ร่าง​เจ้ามีร่างกาย​ส่วนหนึ่ง​ของ​ข้า​”

เสิน​ซูพูด​อย่าง​ทะนงตัว​ “แต่​ นี่​จะไม่กลายเป็น​เหตุผล​ที่​ข้า​ออม​มือ​ รอ​ข้า​ฟื้น​คืน​สภาพเดิม​ ก็​จะสู้ตาย​กับ​เจ้า เจ้าเป็น​คู่ต่อสู้​ที่​ไม่เลว​ เลือด​วิญญาณ​ใน​ร่างกาย​ก็​น่าอร่อย​ยิ่งนัก​”

นิสัย​ชอบ​ต่อสู้​ อืม​ เสิน​ซูคือ​ราชัน​อสูร​ เผ่า​อสูร​ชอบ​ต่อสู้​โดยกำเนิด​ ขา​สอง​ข้าง​นี้​สืบทอด​ความชื่นชอบ​ใน​การต่อสู้​ส่วนหนึ่ง​นั้น​ของ​เสิน​ซู…สวี่​ชีอัน​เข้าใจ​ทันที​

“ข้า​ช่วย​ไต้​ซือ​ฟื้น​คืน​สภาพเดิม​ได้​ เงื่อนไข​ใน​การ​แลกเปลี่ยน​ ท่าน​ต้อง​ช่วย​ข้า​ถอน​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ใน​ร่างกาย​”

ขา​สอง​ข้าง​ของ​เสิน​ซู ‘พินิจ​’ เขา​ ยิ้มเยาะ​พูดว่า​

“ได้​ คู่ต่อสู้​ยิ่ง​แข็งแกร่ง​ ข้า​ยิ่ง​ตื่นเต้น​”

รอ​ข้า​ถอน​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ ก็​จะโยน​ลำตัว​ออกมา​ ให้​พวก​เจ้าทั้งสอง​สู้กันเอง​…สวี่​ชีอัน​มอง​ซุน​เสวียน​จี

“ผนึก​ผู้อาวุโส​อีกครั้ง​เถอะ​”

ด้วย​สภาพ​ขา​สอง​ข้าง​ของ​เสิน​ซูใน​ยาม​นี้​ ไม่มีเรี่ยวแรง​ถอน​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ให้​เขา​ด้วยซ้ำ​

ซุน​เสวียน​จีผนึก​ขา​สอง​ข้าง​ของ​เสิน​ซูเสร็จ​ เก็บ​เข้า​กล่อง​ไม้ สวี่​ชีอัน​ถามว่า​

“ศิษย์​พี่​ซุน​ จากนี้​จะทำ​อย่างไร​ต่อไป​”

ซุน​เสวียน​จีตวัด​พู่กัน​เขียน​ว่า​ “ไป​ชิงโจว​ สนับสนุน​ทหาร​อารักขา​”

เขา​มอง​เย่​จีแวบ​หนึ่ง​ จากนั้น​เขียน​ว่า​ “มีเรื่อง​อยาก​ขอ​แม่นาง​”

เย่​จีรีบ​พูด​ “ศิษย์​พี่​ซุน​สั่งมาได้​เลย​”

ซุน​เสวียน​จีเขียน​บน​กระดาษ​ว่า​ “ข้า​อยาก​พา​ปีศาจ​วานร​ไป​ด้วย​ ไม่มีเหตุผล​พิเศษ​อะไร​ เห็น​เขา​มีคุณสมบัติ​ไม่เลว​ อยาก​รับ​เป็น​ศิษย์​”

เย่​จีมอง​สวี่​ชีอัน​แวบ​หนึ่ง​ อีก​ฝ่าย​พูดว่า​

“ผู้พิทักษ์​หยวน​มีประโยชน์​พิเศษ​อะไร​”

เย่​จีส่ายหน้า​ ยิ้ม​พูดว่า​ “นี่​เป็นเรื่อง​ดี​”

ใน​หุบเขา​ กองไฟ​ลุกโชน​

ซุน​เสวียน​จียืน​มือ​ไพล่หลัง​ ข้าง​กาย​มีผู้พิทักษ์​หยวน​ที่​มีท่าทาง​ไม่ค่อย​เต็มใจ​ยืน​อยู่​ด้วย​

เย่​จีนำ​ฝูงปีศาจ​ใน​หุบเขา​อำลา​ ผู้พิทักษ์​หยวน​ไม่ใช่ปีศาจ​เล็ก​ๆ มีฐานะ​ตำแหน่ง​ระดับ​หนึ่ง​

รู้​ว่า​ผู้พิทักษ์​หยวน​จะติดตาม​โหร​แห่ง​สำนัก​โหราจารย์​เดินทาง​สู่ที่ราบ​กลาง​ ฝูงปีศาจ​อาลัยอาวรณ์​ อำลา​ทั้ง​น้ำตา​

ผู้พิทักษ์​หง​อิง​สอง​ตา​แดงก่ำ​

“ผู้พิทักษ์​หยวน​ ข้า​ได้ยิน​ว่า​เผ่า​มนุษย์​ส่วนใหญ่​ จิตใจ​คับแคบ​ คิดเล็กคิดน้อย​ เจ้าไป​ถึงที่ราบ​กลาง​ จำไว้​ว่า​ต้อง​ระวัง​คำพูด​และ​การกระทำ​ แม้มีศิษย์​พี่​ซุน​ปกป้อง​เจ้า แต่​เจ้าอย่า​ได้​ทำ​ตามใจ​ตน​”

ผู้พิทักษ์​วานร​ขาว​มีสีหน้า​ว่างเปล่า​

ผู้พิทักษ์​ชิงมู่ยัน​ไม้เท้า​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​ ตบ​ไหล่​ผู้พิทักษ์​หยวน​

“หนุ่มสาว​ควร​ออก​ผจญภัย​โลก​กว้าง​ ภูเขา​สือ​ว่าน​เล็ก​เกินไป​ ไม่อาจ​รั้ง​เจ้าไว้​ได้​ ที่ราบ​กลาง​เป็น​ถิ่นกำเนิด​อัจฉริยะ​ เต็มไปด้วย​อารยธรรม​ ไป​ผจญภัย​สักหน่อย​นับ​เป็นประโยชน์​ แต่​ต้อง​กลับ​มานะ​ ใบไม้​ร่วง​คืน​สู่ราก​ ชายแดน​ใต้​ถึงเป็น​บ้าน​ของ​เจ้า”

ผู้พิทักษ์​วานร​ขาว​มีสีหน้า​ว่างเปล่า​

เหมียว​โห​ย่ว​ฟางก็​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​ ตบ​ไหล่​ผู้พิทักษ์​หยวน​

“เจอกัน​ที่ราบ​กลาง​!”

ฝูงปีศาจ​ทยอย​กล่าว​อำลา​ น้ำตา​คลอ​เบ้า​ ท่าทาง​อาลัยอาวรณ์​

ซุน​เสวียน​จีเห็น​ว่า​พอสมควร​แล้ว​ พยักหน้า​ให้​สวี่​ชีอัน​ ฝ่ามือ​กด​ไหล่​ผู้พิทักษ์​หยวน​ เกิด​แสงสว่าง​วาบ​ห่อหุ้ม​สอง​คน​ หาย​ไป​จาก​หุบเขา​

กลางอากาศ​ ป้อม​ปืน​กระโจน​ทะยาน​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ซุน​เสวียน​จียืน​มือ​ไพล่หลัง​ เปี่ยม​ด้วย​ท่าทาง​ของ​ผู้วิเศษ​ เขา​จ้อง​ผู้พิทักษ์​หยวน​

นัยน์ตา​สีคราม​กระจ่าง​ของ​ผู้พิทักษ์​หยวน​มอง​เขา​ พูดว่า​

“ใจศิษย์​พี่​ซุน​ถามข้า​ว่า​ เหตุใด​เมื่อ​ครู่​เย็นชา​เช่นนี้​ ไม่ได้​อำลา​พวก​เผ่าพันธุ์​เดียวกัน​”

ซุน​เสวียน​จีพยักหน้า​อย่าง​พอใจ​ แสดงออก​ว่า​นี่​คือ​สิ่งที่​ตนเอง​อยาก​ถาม

ผู้พิทักษ์​หยวน​นิ่งเงียบ​ชั่วครู่​ พูดว่า​

“ใจหง​อิง​บอก​ข้า​ว่า​ ลิง​น่ารำคาญ​ตัว​นี้​ไป​ได้​เสียที​ มารดา​เอ๊ย​ ข้า​มีความสุข​เสีย​จริง​ คืนนี้​ร่ำสุรา​ถึงรุ่งสาง​ เฉลิมฉลอง​สักหน่อย​”

ไม่รอ​ซุน​เสวียน​จีโต้ตอบ​ เขา​พูด​ต่อ​

“ใจผู้พิทักษ์​ชิงมู่บอก​ข้า​ว่า​ ลิง​น่ารำคาญ​ตัว​นี้​ไป​ได้​เสียที​ ถ้าเขา​ไม่ไป​ ศักดิ์ศรี​ใน​ชีวิต​บั้นปลาย​ของ​ผู้ชรา​ก็​ไม่ปลอดภัย​แล้ว​

“ใจปีศาจ​น้อย​ตัว​อื่น​บอก​ข้า​ว่า​ รีบ​ไป​ๆ…”

ซุน​เสวียน​จีปาก​อ้า​ตาค้าง​ เขา​ตระหนัก​ได้​ทันที​ ตนเอง​พา​ผู้พิทักษ์​หยวน​ไป​ด้วย​อาจจะ​ไม่ใช่เรื่อง​ดี​ก็ได้​

เมือง​ชิงโจว​ เขต​ไป๋​ซา

ชีก่วง​ป๋อ​ขึ้น​สู่กำแพงเมือง​ ก้ม​มอง​คูเมือง​ที่​มีไฟสัญญาณสว่างจ้า​

ทัพ​อวิ๋น​โจว​เพิ่ง​ยึด​เมือง​ใหญ่​ที่สุด​ใน​ชายแดน​แห่ง​นี้​ได้​ นับแต่นี้ไป​ แนว​ป้อง​กันที่​สร้าง​จาก​เก้า​เมือง​อำเภอ​ใน​ชายแดน​ชิงโจว​ถูก​ล้มล้าง​โดยสิ้นเชิง​ กลายเป็น​เขต​ปกครอง​ทัพ​อวิ๋น​โจว​

ทัพ​อวิ๋น​โจว​มีขวัญ​กำลังใจ​เพิ่มขึ้น​ แต่​ชีก่วง​ป๋อ​ใน​ฐานะ​ผู้นำ​ทัพ​ไม่ดีใจ​แม้แต่น้อย​

“เรียก​แม่ทัพ​ทุกฝ่าย​ มาหารือ​ที่​เมือง​เวิ่ง”​

ชีก่วง​ป๋อ​พูด​เสียง​ขรึม​

“ขอรับ​!”

รอง​แม่ทัพ​สะพาย​ดาบ​ทหาร​ สาวเท้า​ก้าว​ออก​ไป​

…………………………………………….

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท