บทที่ 660 หารือ

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

เขต​ไป๋​ซา เมือง​เวิ่ง​

ชีก่วง​ป๋อ​ใน​ชุด​เครื่องแบบ​ทหาร​ สวม​ผ้าคลุม​สีแดง​ ยืน​หน้า​แผนที่​ชิงโจว​บน​ขาตั้ง​ ตั้งใจ​พินิจ​พิจารณา​

ข้าง​หลังเขา​คือ​พวก​แม่ทัพ​ค่ายทหาร​อวิ๋น​โจว​ จีเสวียน​สวม​เสื้อเกราะ​ ข้าง​เอว​สะพาย​ดาบ​สงคราม​ นั่ง​ตำแหน่ง​แรก​ซ้าย​สุด​

พวก​แม่ทัพ​มีสีหน้า​ผ่อนคลาย​ แม้ยัง​นิ่งเงียบ​ แต่​หน้าตา​เปี่ยม​ด้วย​ความสุข​

เวลา​สามวัน​สั้น​ๆ ยึด​เมือง​อำเภอ​ชายแดน​ชิงโจว​เก้า​แห่ง​ โจมตี​แนว​ป้องกัน​แรก​จน​พ่ายแพ้​ยับเยิน​ ทำให้​กองทัพ​ใหญ่​มีแนวหลัง​ที่​มีเสถียรภาพ​

ชีก่วง​ป๋อ​จ้อง​แผนที่​ไม่วางตา​ พูด​เสียง​เรียบ​ “ทุกท่าน​อารมณ์ดี​ไม่น้อย​ ได้รับ​ชัยชนะ​ตั้งแต่​เริ่มต้น​ คืนนี้​ไม่สู้ร่ำสุรา​ให้​เมามาย​”

แม่ทัพ​ทุกท่าน​ชะงัก​ จ้องมอง​กันและกัน​เงียบๆ​ ไม่มีคน​พูดแทรก​

ชีก่วง​ป๋อ​สั่งรอง​แม่ทัพ​ข้าง​กาย​ว่า​

“เล่า​สถานการณ์​ใน​เมือง​หน่อย​”

รอง​แม่ทัพ​ลุกขึ้น​ เหลียว​มอง​แม่ทัพ​ทุกท่าน​ข้าง​โต๊ะ​ พูด​เสียง​ขรึม​

“ก่อน​ทหาร​อารักขา​ชิงโจว​ถอยทัพ​ เผา​เสบียงอาหาร​ใน​ยุ้งฉาง​ทุกแห่ง​ของ​เมือง​ ในขณะเดียวกัน​ รวบรวม​ผ้าห่ม​และ​ผ้า​พับ​จำนวนมาก​มาเผา​ราบ​ นอกจากนี้​ เศรษฐี​ พ่อค้า​ และ​คน​ร่ำรวย​ใน​เมือง​ย้ายออก​ก่อน​แล้ว​ บัดนี้​ใน​เขต​ไป๋​ซา มีเพียง​คนยากจน​และ​ผู้อพยพ​ที่​หิว​จน​ไส้กิ่ว​ไส้แขวน​

“เมือง​อำเภอ​อีก​เก้า​แห่ง​ เป็น​เช่นนี้​ทั้งหมด​”

“อะไร​นะ​”

แม่ทัพ​ทุกท่าน​ตกใจ​

รอง​แม่ทัพ​พูด​ต่อ​

“ก่อนหน้า​นั้น​ สมุหเทศาภิบาล​ชิงโจว​ ออกคำสั่ง​ซ่อน​ข้าว​ย้าย​ของ​ หมู่บ้าน​นอกเมือง​ สิบ​หลัง​ว่างเปล่า​เก้า​หลัง​ ค้น​ไม่เจอ​เสบียงอาหาร​แม้แต่น้อย​”

ชีก่วง​ป๋อ​ที่​หันหลัง​ให้​ทุก​คนพูด​อย่าง​หดหู่​

“หยาง​กง​ตัวดี​ ไร้​เมตตา​ต่อ​ทหาร​ นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​เขา​ยิ่ง​โหดร้าย​กับ​ชาวบ้าน​ ยาม​นี้​ทุกท่าน​ยัง​มีใจดื่ม​สุรา​หรือไม่​”

แม่ทัพ​ทุกท่าน​นิ่งเงียบ​

พวกเขา​ยึด​แนว​ป้องกัน​ชายแดน​ชิงโจว​ได้​ มีแนวหลัง​ แต่​มีเสถียรภาพ​หรือไม่​ พูด​ยาก​

จีเสวียน​ใคร่ครวญ​พูดว่า​

“หยาง​กง​ไม่คิด​จะปกป้อง​เมือง​อำเภอ​ชายแดน​เก้า​แห่ง​สุด​ชีวิต​ตั้งแต่แรก​ เขา​อพยพ​เศรษฐี​ล่วงหน้า​ เหลือ​เพียง​ผู้อพยพ​และ​คนยากจน​ คิด​จะมอบ​ความวุ่นวาย​นี้​ให้​พวกเรา​”

ชีก่วง​ป๋อ​ชี้แผนที่​ชิงโจว​ พยักหน้า​พูดว่า​

“ชิงโจว​มีอาณาเขต​หมื่น​ลี้​ มีที่ว่าง​ให้​เขา​ขยับเขยื้อน​เคลื่อนไหว​ เหตุใด​ต้อง​ปกป้อง​ชายแดน​สุด​ชีวิต​? บัดนี้​กองหนุน​ราชสำนัก​ยัง​มาไม่ถึง เขา​เลือก​ก่อกวน​พวกเรา​ แทนที่จะ​ต่อ​สู้จนตัวตาย​ คือ​วิธี​ที่​ถูกต้อง​

“ลูกไม้​หนามยอกเอาหนามบ่ง​นี้​ ใช้งาน​ได้​ยอดเยี่ยม​”

เมื่อ​ล้อม​ตีเมือง​ แทบ​อยาก​ให้​สถานการณ์​ของ​อีก​ฝ่าย​ยิ่ง​แย่​ยิ่ง​ดี​ ดี​ที่สุด​ขาด​อาวุธ​ขาด​เสบียง​ ทุกที่​มีแต่​ผู้อพยพ​

แต่​เมื่อ​ยึด​เมือง​ได้​ สิ่งที่​ทัพ​กบฏ​ต้อง​ทำ​คือ​รักษา​ความมั่นคง​ ถ้าที่​เหล่านี้​เกิด​ความวุ่นวาย​ จะกลับ​กลายเป็น​ภาระ​

แน่นอน​ ถ้าเพียง​หวัง​ปล้นสะดม​เป็นหลัก​ มองข้าม​เรื่อง​พวก​นี้​ได้​ อย่าง​มาก​ก็​ฆ่าทิ้ง​ให้​หมด​

สถานการณ์​เช่นนี้​ควร​ใช้เมื่อ​คน​ต่าง​เผ่า​รุกราน​ แต่​ทัพ​กบฏ​อวิ๋น​โจว​ต้องการ​รวบรวม​ใจคน​ ครอบครอง​ความชอบธรรม​ ย่อม​ทำ​เช่นนี้​ได้​ยาก​

“เขา​จะใช้คนยากจน​และ​ผู้อพยพ​ถ่วง​พวกเรา​ เฮอะ​ โชคดี​ที่​ล้อม​เมือง​ครั้งนี้​ทหาร​ชาวบ้าน​บาดเจ็บ​ล้มตาย​มาก​นัก​ พวก​นี้​ล้วน​เป็น​แหล่ง​ทหาร​ชั้นยอด​”

แม่ทัพ​ท่าน​หนึ่ง​พูด​

ไม่ว่า​แผนการ​อะไรก็ตาม​ล้วน​มีสอง​ด้าน​เสมอ​

จีเสวียน​มอง​เขา​แวบ​หนึ่ง​ พูดว่า​

“หยาง​กง​ซ่อน​ข้าว​ย้าย​ของ​ เผา​ธัญญาหาร​ ไม่เหลือ​ข้าว​สัก​เม็ด​ให้​พวกเรา​ แรงกดดัน​มหาศาล​ของ​ฝ่าย​เรา​จะเพิ่มขึ้น​เป็น​เท่าตัว​ นี่​คือ​มีด​ทื่อ​แล่​เนื้อ​ ค่อยๆ​ ลดทอน​สายสนกลใน​ของ​พวกเรา​”

เป้าหมาย​ของ​หยาง​กง​ชัดเจน​ยิ่งนัก​ ณ ชิงโจว​ จะบั่นทอน​พละกำลัง​ของ​ทัพ​กบฏ​มาก​ที่สุด​เท่าที่​เป็นไปได้​

แม่ทัพ​ทุกคน​ที่นี่​ล้วน​เป็น​คน​ฉลาด​ ประสบการณ์​โชกโชน​ มอง​ปัญหา​นี้​ออก​ได้​ไม่ยาก​

จีเสวียน​เผย​ยิ้ม​ทันที​ “เพียงแต่​ เขา​ดูถูก​พวกเรา​แล้ว​”

ชีก่วง​ป๋อ​พูด​เสียง​เรียบ​ “ราชครู​เตรียมการ​หลาย​ปี​ สายสนกลใน​ลึกซึ้ง​ ชิงโจว​เล็ก​ๆ จะบั่นทอน​จน​สูญสิ้น​ได้​อย่างไร​ ถือโอกาส​เกณฑ์ทหาร​แจก​โจ๊ก​ทำทาน​ อาศัย​สิ่งนี้​เผยแพร่​ชื่อเสียง​กองทัพ​คุณธรรม​ของ​พวกเรา​”

แม่ทัพ​ทุกท่าน​ยิ้ม​มองหน้า​กัน​

ชีก่วง​ป๋อ​พูดว่า​ “ถึงเวลา​พระ​นักรบ​แดน​ประจิม​ออกโรง​ ข้า​ส่งคน​ไป​ขอ​คำแนะนำ​จาก​ราชครู​แล้ว​”

ที่ทำการ​สมุหเทศาภิบาล​ชิงโจว​

ลาน​ด้านหลัง​ โต๊ะกลม​ใน​ห้องโถง​เต็มไปด้วย​อาหาร​อร่อย​ ลี่​น่า​กับ​สวี่ห​ลิง​อิน​หมอบ​บน​โต๊ะ​กิน​อย่าง​ตะกละตะกลาม​

อาจารย์​กับ​ศิษย์​หน้า​พอง​เป็น​ซาลาเปา​เหมือนกัน​

“วัน​ๆ กิน​ปลา​ กิน​เนื้อ​ตากแห้ง​ ข้า​เข้า​ห้องน้ำ​ยัง​ต้อง​นั่ง​ยอง​อยู่​นาน​” ลี่​น่า​พูด​คำ​หยาบคาย​อย่าง​ไม่รู้สึก​ผิด​แม้แต่น้อย​ แม้นาง​หน้าตา​งดงาม​ก็ตาม​

บน​เรือ​ขาด​ผัก​ผลไม้​สด​

“อาจารย์​ ข้า​อึ​ได้​สบาย​” สวี่ห​ลิง​อิน​พูด​อวด​เสียงดัง​ แสดงออก​ว่า​ตนเอง​เก่ง​กว่า​อาจารย์​

“พวกเรา​ต้อง​เหลือ​ไว้​ให้​คุณชาย​รอง​หรือไม่​”

ลี่​น่า​พูด​เช่นนี้​ แต่​กลืน​อาหาร​เร็ว​กว่า​เดิม​

ระหว่าง​นั่ง​เรือ​ไป​ชิงโจว​ จางเซิ่น​อาจารย์​ผู้​มีพระคุณ​ของ​สวี่เอ้อร์​หลา​ง อีก​ทั้ง​ห​ลี่​มู่ไป๋​มาหา​ถึงที่นี่​ พา​ศิษย์​มาชิงโจว​ล่วงหน้า​

แน่นอน​ว่า​สวี่เอ้อร์​หลา​งไม่ทิ้ง​ลี่​น่า​กับ​ห​ลิง​อิน​อยู่​บน​เรือ​เด็ดขาด​ จึงเดินทาง​มาด้วยกัน​

“พี่​รอง​ พี่​รอง​ไม่หิว​”

สวี่ห​ลิง​อิน​พูด​ตอบแทน​สวี่เอ้อร์​หลา​ง

“ไม่หิว​ งั้น​ก็​ช่วยไม่ได้​…”

ลี่​น่า​พูด​อย่าง​จริงจัง​

ห้องประชุม​สมุหเทศาภิบาล​

สวี่เอ้อร์​หลา​งยก​ถ้วย​ชาลายคราม​ขึ้น​จิบ​น้ำ​ชาร้อน​ นิ่งเงียบ​ตั้งใจฟัง​

หยาง​กง​สมุหเทศาภิบาล​ชิงโจว​ใน​ชุด​ขุนนาง​สีแดงเลือดนก​นั่ง​อยู่​ตำแหน่ง​หลัก​ของ​โต๊ะ​ยาว​ไม้พะยูง​หอม​ ฆราวาส​จื่อ​หยาง​ศิษย์​สำนัก​อวิ๋น​ลู่​ ผู้มีชื่อเสียง​เลื่องลือ​ทั่ว​ที่ราบ​กลาง​ท่าน​นี้​ซูบผอม​ลง​มาก​

เขา​ไม่ได้​นอนหลับ​มาห้า​วัน​แล้ว​ หน้าตา​ซีดเซียว​ยาก​ที่จะ​ซ่อน​ความ​เหนื่อยล้า​ แต่​สายตา​ของ​เขา​ยังคง​เฉียบคม​ จิตวิญญาณ​ยังคง​เต็มเปี่ยม​ ราวกับ​มีพละกำลัง​ที่​ไม่มีที่​สิ้นสุด​

“…ยาม​นี้​สถานการณ์​ชิงโจว​ก็​เป็น​เช่นนี้​ ไม่อาจ​ปกป้อง​ชายแดน​ไว้​ได้​”

หยาง​กง​จบ​การอธิบาย​ยืดยาว​ ยก​ถ้วย​ชาขึ้น​จิบ​น้ำ​ให้​ชุ่มคอ​ หันหน้า​มอง​จางเซิ่น​

“จิ่นเหยียน​คิด​ว่า​อย่างไร​”

ใน​หมู่​สหาย​ร่วม​สำนัก​สอง​ท่าน​ที่​เดินทางไกล​มารับ​ตำแหน่ง​นายทหาร​ฝ่าย​เสนาธิการ​ จางเซิ่น​เชี่ยวชาญ​ยุทธ​วิธีการ​รบ​ คือ​ยอด​ฝีมือ​ผู้​ซึ่งหยาง​กง​ต้องการ​ตัว​ด่วน​

จางเซิ่น​พยักหน้า​พูดว่า​

“ถ้าเป็น​ข้า​ จะไม่ให้​พ่อค้า​เศรษฐี​และ​ผู้ลากมากดี​พวก​นั้น​ออก​ไป​ ทัพ​กบฏ​ย่อม​ต้อง​เลือก​ทำสงคราม​ยืดเยื้อ​ ถึงเวลา​เมือง​แตก​ ก็​ถึงเวลา​พวกเขา​บ้านแตกสาแหรกขาด​

“ไม่อยาก​บ้านแตกสาแหรกขาด​ งั้น​ก็​ช่วย​ปกป้อง​คูเมือง​สุด​ชีวิต​ เช่นนี้​ถึงมีความเป็นไปได้​สูงที่จะ​ลดทอน​กำลัง​ทหาร​ทัพ​กบฏ​ เพียงแต่​ นี่​คือ​ภายใต้​สถานการณ์​ที่​ราชสำนัก​มีผู้ช่วย​ จื่อ​เชีย​น​ วิธี​พบกัน​ครึ่งทาง​นี้​ของ​เจ้า ทำได้​ไม่เลว​”

พูด​ไป​ เขา​มอง​ศิษย์​คนโปรด​ไป​ นึก​อยาก​ทดสอบ​ ยิ้ม​พูดว่า​

“ฉือจิ้ว​ เจ้ามาวิเคราะห์​สถานการณ์​ชิงโจว​ให้​ทุกท่าน​ฟังหน่อย​”

ข้าหลวง​ชิงโจว​ ผู้บัญชาการ​ ตุลาการ​ความมั่นคง​ รวมทั้ง​ขุนนาง​บู๊​และ​บุ๋น​ใต้​บัญชา​พวกเขา​ทยอย​เหลียว​มอง​

สวี่​ซินเหนียน​ไม่ได้​ประหม่า​ ยืด​ตัวตรง​ กวาดตา​มอง​ทุกคน​ช้าๆ

“ข้า​คิด​ว่า​ ปกป้อง​ชิงโจว​ได้​นาน​เท่าใด​ ก็​ปกป้อง​นาน​เท่านั้น​ ก่อนอื่น​ใต้เท้า​ทุกท่าน​ต้อง​เข้าใจ​สามข้อ​

“หนึ่ง​ สภาพแวดล้อม​ขอ​งอ​วิ๋น​โจว​!

“อวิ๋น​โจว​มีภูมิอากาศ​อบอุ่น​ชื้น​ พื้นดิน​อุดมสมบูรณ์​ ทุก​ครอบครัว​ล้วน​มีเสบียงอาหาร​ส่วนเกิน​ อีก​ทั้ง​ด้านหลัง​ติด​ทะเล​กว้างใหญ่​ นาเกลือ​นับไม่ถ้วน​ ใน​ช่วง​ยี่สิบ​ปี​ที่ผ่านมา​ กลุ่ม​กบฏ​แอบ​แทรกซึม​สำนักงาน​ขนส่ง​ของ​ราชสำนัก​ ลักลอบ​ขนส่ง​แร่​เหล็ก​นับไม่ถ้วน​ ไม่ขาดแคลน​เกลือ​ เหล็ก​ และ​เสบียง​

“ดินแดน​อุดมสมบูรณ์​เช่นนี้​ สมุหเทศาภิบาล​หยาง​หวัง​ใช้ผู้อพยพ​และ​คนยากจน​ถ่วง​อีก​ฝ่าย​ น้ำน้อยแพ้ไฟ​เท่านั้น​”

“ตาม​ความหมาย​ของ​ใต้เท้า​สวี่​ กลยุทธ์​ของ​สมุหเทศาภิบาล​หยาง​ไม่เหมาะสม​?” ข้าหลวง​ชิงโจว​ขมวดคิ้ว​แน่น​

สวี่​ซินเหนียน​ส่ายหน้า​ “กลยุทธ์​ของ​สมุหเทศาภิบาล​หยาง​ย่อม​ไม่ผิดพลาด​ แต่​ต้อง​เปลี่ยน​ส่วนสำคัญ​สักหน่อย​ ไม่ต้อง​คิด​ว่า​จะถ่วง​พวกเขา​ แต่​ต้อง​บั่นทอน​ความ​เกรียงไกร​ฮึกเหิม​ของ​พวกเขา​”

เขา​มอง​แผนที่​ชิงโจว​และ​อวิ๋น​โจว​บน​กำแพง​นั้น​ข้างหลัง​หยาง​กง​ พูด​เสียง​ขรึม​

“พวกเรา​กลับ​อวิ๋น​โจว​อีกครั้ง​ ทุกคน​ยัง​จำอีก​ชื่อ​หนึ่ง​ขอ​งอวิ๋น​โจว​ได้​หรือไม่​

“เฝ่ย​โจว​!

“นับแต่​จักรพรรดิ​เกา​จู่ อวิ๋น​โจว​ถูก​กลุ่ม​กบฏ​ราชวงศ์​ก่อน​ยึดครอง​ กลายเป็น​โจร​ภูเขา​ เดือด​ร้อนใน​พื้นที่​นั้น​ หกร้อย​ปี​มานี้​ ภัย​โจร​อวิ๋น​โจว​ยัง​ไม่ได้รับ​การ​แก้ไข​

“ใต้เท้า​ทุกท่าน​ยัง​จำได้​หรือไม่​ ครั้ง​ก่อนที่​จัดทำ​สมุด​ปก​เหลือง​ใหม่​ อวิ๋น​โจว​มีประชากร​เท่าใด​”

ขุนนาง​ทุกคน​มองหน้า​กัน​ ไม่มีคน​รู้​

พวกเขา​เป็น​ขุนนาง​ชิงโจว​ จะรู้​เรื่อ​งอ​วิ๋น​โจว​ได้​อย่างไร​

หยาง​กง​ใช้นิ้ว​เคาะ​โต๊ะ​เบา​ๆ กวาดตา​มอง​ขุนนาง​ทุกคน​อย่าง​ไม่พอใจ​อยู่​บ้าง​ พูด​ช้าๆ

“ครั้งสุดท้าย​ รัช​ศก​หยวน​จิ่งที่​สามสิบ​ ราษฎร​อวิ๋น​โจว​ที่​มีบันทึก​ใน​สมุด​ทั้งหมด​แปด​แสน​สามหมื่น​ครัวเรือน​ ประชากร​ประมาณ​สามล้าน​ห้า​แสน​คน​”

นี่​คือ​ข้อมูล​เมื่อ​แปด​ปีก่อน​

สวี่เอ้อร์​หลา​งประสานมือ​ พูด​ต่อ​ด้วย​สีหน้า​ราบเรียบ​

“ถ้าจำไม่ผิด​ ทุกครั้งที่​จัดทำ​สมุด​ปก​เหลือง​ใหม่​ ประชา​กรอ​วิ๋น​โจว​ล้วน​ลดลง​อย่าง​รวดเร็ว​ นี่​ก็​คือ​สิ่งแลกเปลี่ยน​จาก​ภัย​โจร​อาละวาด​”

ยาม​นี้​ ขุนนาง​ทุกคน​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​เขา​ต้องการ​จะพูด​อะไร​

“ประชากร​จำกัด​จำนวน​กองทัพ​ของ​พวกเขา​ รวม​ทั้งหลาย​สิบ​ปี​ที่ผ่านมา​ ล้วน​ฝึก​ทหาร​บำรุง​กองทัพ​อย่าง​หลบ​ๆ ซ่อน​ๆ” สวี่เอ้อร์​หลา​งใช้กำปั้น​เคาะ​โต๊ะ​เบา​ๆ พูด​เสียงดัง​กังวาน​

“ความ​เกรียงไกร​ฮึกเหิม​ของ​ทหาร​ไม่เพียงพอ​ ก็​คือ​ข้อบกพร่อง​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ของ​กลุ่ม​กบฏ​ ไม่ว่า​ต้อง​แลก​ด้วย​อะไรก็ตาม​ พยายาม​บั่นทอน​ความ​เกรียงไกร​ฮึกเหิม​ของ​พวกเขา​ นี่​ถึงเป็น​สิ่งที่​พวกเรา​ต้อง​ทำ​”

“มีเหตุผล​!” ทุกคน​พยักหน้า​ช้าๆ

จางเซิ่น​ หยาง​กง​ และ​ห​ลี่​มู่ไป๋​ สามคน​มองหน้า​กัน​ยิ้มแย้ม​

สวี่​ซินเหนียน​ชูสอง​นิ้ว​ พูดว่า​

“สอง​ กำลัง​รบ​!

“กำลัง​รบ​ของ​ระดับ​บรรลุ​ธรรม​คือ​ปัจจัย​ที่​ไม่อาจ​มองข้าม​ใน​สงคราม​ บางครั้ง​ ผู้​แข็งแกร่ง​บรรลุ​ธรรม​ท่าน​หนึ่ง​ถึงขนาด​สามารถ​พลิก​ผล​แพ้ชนะ​ใน​สงคราม​ทั่วไป​”

เขา​ใช้คำ​ว่า​สงคราม​ ‘ทั่วไป​’ เพราะ​ใน​โลก​นี้​มีสงคราม​ขนาดใหญ่​ เช่น​ สงคราม​ด่าน​ซาน​ไห่​

สงคราม​กวาดล้าง​กลุ่ม​อำนาจ​ใหญ่​ใน​จิ่ว​โจว​เช่นนั้น​ ผู้​แข็งแกร่ง​บรรลุ​ธรรม​ท่าน​เดียว​ยาก​จะพลิกผัน​สถานการณ์​การ​รบ​ ไม่ใช่ระดับ​บรรลุ​ธรรม​ไม่แข็งแกร่ง​พอ​ แต่​ยอด​ฝีมือ​บรรลุ​ธรรม​ที่​เข้าร่วม​สงคราม​เยอะ​เกินไป​ ไม่น่าแปลกใจ​

แน่นอน​ ถ้าเป็น​ลำดับขั้น​สุดยอด​หรือ​จอม​ยุทธ์​ขั้น​หนึ่ง​ ก็​เป็น​อีก​เรื่อง​หนึ่ง​

ห​ลี่​มู่ไป๋​ถามทันที​ “ผู้นำ​ทัพ​ศัตรู​คือ​ผู้ใด​”

หยาง​กง​พูดว่า​ “แซ่ชี ชื่อ​ก่วง​ป๋อ​ เป็น​คน​ไร้​นาม​”

จางเซิ่น​เลิกคิ้ว​ “คน​ไร้​นาม​บัญชา​สามเหล่าทัพ​?”

หยาง​กง​พูด​ช้าๆ “ไร้​นาม​ ไม่เท่ากับ​ไร้​ฝีมือ​ ในทางตรงกันข้าม​ คน​ผู้​นี้​ร้ายกาจ​ยิ่งนัก​ เขา​ส่งทหาร​ขับไล่​ผู้อพยพ​ จากนั้น​ให้​ยอด​ฝีมือ​ปะปน​ใน​หมู่​ผู้อพยพ​หลอกลวง​ทหาร​อารักขา​ เข้าใกล้​กำแพงเมือง​อย่าง​ง่ายดาย​ เมือง​อำเภอ​หวง​หลิ่ง​ใน​ชายแดน​ ก็​ถูก​โจมตี​ไม่ทัน​ตั้งตัว​เช่นนี้​ ยืนหยัด​เพียง​วัน​เดียว​ก็​ถูก​ตีเมือง​แตก​”

จางเซิ่น​ยิ้มเยาะ​พูดว่า​ “แม่ทัพ​รักษา​เมือง​เมตตา​ใจอ่อน​ ปล่อย​ให้​ผู้อพยพ​เข้าใกล้​ ควร​ประหารชีวิต​!”

โจว​มี่ผู้บัญชา​การชิง​โจว​ถอนใจ​พูดว่า​ “ตาย​ใน​หน้า​ที่แล้ว​”

ห​ลี่​มู่ไป๋​พูด​ “กล่าวคือ​ ยัง​ไม่รู้​ว่า​ผู้นำ​ทัพ​ท่าน​นี้​เป็น​ระดับ​บรรลุ​ธรรม​หรือไม่​”

หยาง​กง​ส่งเสียง​ “อืม​”

“นอกจาก​พระโพธิสัตว์​เจีย​หลัว​ซู่และ​สวี่​ผิง​เฟิงที่​มีหน้าที่​ควบคุม​โหราจารย์​ ใน​ทัพ​กบฏ​ยัง​ไม่ปรากฏ​ระดับ​บรรลุ​ธรรม​ เพียงแต่​ เป็นไปได้​สูงว่า​ซ่อนตัว​อยู่​ ไม่ได้​ออกหน้า​”

ใน​ฐานะ​ยอด​ฝีมือ​ขั้น​สี่แห่ง​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ ปราชญ์​ผู้ยิ่งใหญ่​ที่​มีชื่อเสียง​เลื่องลือ​ที่ราบ​กลาง​ หยาง​กง​ไม่มีข้อบกพร่อง​และ​จุดอ่อน​ที่​เห็นได้ชัด​ใน​ด้าน​สติปัญญา​และ​นิสัย​

ความ​หยิ่งผยอง​ประมาท​ศัตรู​จะไม่เกิด​ขึ้นกับ​เขา​เด็ดขาด​

“ราชสำนัก​ไม่ขาดแคลน​ยอด​ฝีมือ​บรรลุ​ธรรม​เช่นกัน​” สวี่​ซินเหนียน​พูด​

ครู่หนึ่ง​นี้​ สิ่งแรก​ที่​แวบ​ผ่าน​ใน​สมอง​ขุนนาง​ทุกคน​ ไม่ใช่ซุน​เสวียน​จีแห่ง​สำนัก​โหราจารย์​ แต่​เป็น​สวี่​ชีอัน​ที่​มีชื่อเสียง​บารมี​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​ผู้​นั้น​

“ข้อ​สาม คือ​ผู้ช่วย​!”

สวี่​ซินเหนียน​มีสีหน้า​จริงจัง​ “ความหมาย​ของ​ข้า​ คือ​ผู้ช่วย​ของ​ทั้งสองฝ่าย​ สำนัก​พุทธ​ร่วมมือ​กับ​กลุ่ม​กบฏ​อวิ๋น​โจว​ งั้น​กองทัพ​แคว้น​ต่างๆ​ แดน​ประจิม​ ช้าเร็ว​ก็​ต้อง​บุกรุก​ด่าน​ชายแดน​”

“เมื่อ​ราชสำนัก​ถูก​บังคับ​ให้​เข้าสู่​สงคราม​ทั้งสอง​ด้าน​ ผู้ช่วย​และ​ยุทธปัจจัย​ที่​ชิงโจว​หา​ได้​ก็​จะลดลง​อย่าง​มาก​ ในทางกลับกัน​ทัพ​กบฏ​อวิ๋น​โจว​ ราวกับ​พยัคฆ์​ติดปีก​ นี่​เกี่ยวข้อง​กับ​ปัญหา​กำลัง​รบ​ข้อ​สอง​เช่นกัน​”

บรรยากาศ​ห้องประชุม​เคร่งขรึม​ ทุกคน​ลอบ​ขมวดคิ้ว​ แววตา​แฝงความกังวล​

ทัพ​กบฏ​อวิ๋น​โจว​ดุเดือด​รุนแรง​ ที่ราบ​กลาง​เต็มไปด้วย​ภัยพิบัติ​ผู้อพยพ​ ชิงโจว​จะต้านทาน​ทัพ​กบฏ​ เดิมที​ก็​ยากลำบาก​อยู่แล้ว​

ยาม​นี้​ต้อง​เผชิญ​การ​บุกรุก​ของ​แคว้น​ต่างๆ​ แดน​ประจิม​ เมื่อ​ราชสำนัก​ทำสงคราม​สอง​ด้าน​ ย่อม​ต้อง​ไม่ทัน​ได้​ปกป้อง​ชิงโจว​

ด้วย​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​สำนัก​พุทธ​ อาจ​เกิด​สถานการณ์​ชิงโจว​ยัง​ทำสงคราม​อย่าง​ยากลำบาก​ กองทัพ​แดน​ประจิม​โจมตี​ถึงเมืองหลวง​

“ถ้าทำให้​กองทัพ​แคว้น​ต่างๆ​ แดน​ประจิม​ไม่กล้า​บุกรุก​ชายแดน​ได้​ก็​คง​ดี​” ข้าหลวง​ชิงโจว​พูด​อย่าง​หดหู่​

‘คนโง่​เพ้อฝัน​’…ผู้บัญชาการ​โจว​ใน​ฐานะ​ขุนนาง​บู๊​หัวเราะเยาะ​ใน​ใจ ถ้าเว่ยกง​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ อาจ​ทำให้​สำนัก​พุทธ​หวาดกลัว​ ไม่กล้า​เปิดฉาก​สงคราม​

บัดนี้​ต้าฟ่ง​ ผู้ใด​ทำให้​สำนัก​พุทธ​หวาดกลัว​ได้​

ต่อให้​เป็น​โหราจารย์​ สำนัก​พุทธ​ก็​ไม่กลัว​ เพราะ​ผู้ยิ่งใหญ่​ผู้ปกครอง​แดน​ประจิม​นี้​ ไม่ขาดแคลน​สุดยอด​ฝีมือ​

แต่​ผู้บัญชาการ​ที่​มีเพียง​หนึ่งเดียว​ใน​โลก​เช่น​เว่ยเยวียน​นี้​ จิ่ว​โจว​มีน้อย​จน​นับ​นิ้ว​ได้​

“นี่​คือ​ทางตัน​!”

ห​ลี่​มู่ไป๋​ผู้เชี่ยวชาญ​ศาสตร์​หมากรุก​ส่ายหน้า​ช้าๆ “เป็นไปไม่ได้​ที่​พวกเรา​จะควบคุม​สำนัก​พุทธ​ สำนัก​พุทธ​ยกทัพ​บุกรุก​แดน​บูรพา​เป็นเรื่อง​ที่​หลีกเลี่ยง​ไม่ได้​”

หยาง​กง​พ่นลม​หายใจออก​ช้าๆ “ดังนั้น​ สิ่งที่​พวกเรา​ต้อง​ทำ​ คือ​ต่อให้​เสี่ยงชีวิต​ ก็​ต้อง​บั่นทอน​ความ​เกรียงไกร​ฮึกเหิม​ของ​ทัพ​กบฏ​มาก​ที่สุด​เท่า​ที่จะ​เป็นไปได้​ เรื่อง​อื่น​ที่​เหลือ​ มอบให้​ทุกท่าน​ไป​จัดการ​เถอะ​”

จนปัญญา​โดยแท้​

“เมื่อ​เว่ยกง​สิ้นชีพ​ กลุ่ม​กบฏ​อวิ๋น​โจว​ก็​ยกทัพ​ก่อ​กบฏ​ สำนัก​พุทธ​แดน​ประจิม​ฉวยโอกาส​ที่ราบ​กลาง​ไร้​ยอด​ฝีมือ​ ฉีก​สัญญา หันมา​แว้งกัด​ พวกเรา​กลับ​ทำ​อะไร​ไม่ได้​…” ข้าหลวง​ชิงโจว​เคียดแค้น​ชิงชัง

สวี่​ซินเหนียน​นิ่งเงียบ​ สำนัก​พุทธ​แดน​ประจิม​เข้มแข็ง​เกรียงไกร​ มีทหาร​และ​แม่ทัพ​จำนวนมาก​ ซ้ำยังมี​พระอรหันต์​พระโพธิสัตว์​บัญชาการ​อรัญ​ตา​ ผู้ยิ่งใหญ่​พวก​นี้​ ไม่ใช่สิ่งที่​เล่ห์​เพทุบาย​ปลิ้นปล้อน​จะหลอกลวง​ได้​

ยาม​นี้​ จู่ๆ เขา​ก็​เห็น​ใน​มุมห้องประชุม​มีคน​เพิ่ม​มาสอง​คน​ คน​หนึ่ง​สวม​ชุด​ขาว​ หน้าตา​ ท่าทาง​ และ​ส่วนสูง​ธรรมดา​ อีก​คน​ปาก​ยื่น​ หน้าตา​อัปลักษณ์​ราวกับ​วานร​ สอง​ตา​สีคราม​เข้ม​กระจ่าง​ ดุจ​มอง​ทะลุ​ไป​ถึงใจคน​

“ศิษย์​พี่​ซุน​ ท่าน​มาอยู่​ที่นี่​ได้​อย่างไร​”

สวี่​ซินเหนียน​ตกใจ​

เขา​รู้จัก​ศิษย์​รอง​โหราจารย์​ท่าน​นี้​

‘เขา​มาตั้งแต่​ยาม​ใด​’…หยาง​กง​และ​คนอื่นๆ​ งงงวย​ ทยอย​หันหน้า​เหลียว​มอง​ไป​

ผู้พิทักษ์​หยวน​กวาดตา​มอง​ทุกคน​แวบ​หนึ่ง​ จากนั้น​พูดว่า​

“ใจพวกเขา​บอก​ข้า​ นี่​คือ​ผู้ใด​ เขา​มาอยู่​ที่นี่​ได้​อย่างไร​ ซุน​เสวียน​จี? ศิษย์​โหราจารย์​ไม่มีคน​ปกติ​บ้าง​เลย​หรือ​”

ผู้พิทักษ์​หยวน​พูด​จบ​ ตกใจ​ รีบ​ปฏิเสธ​ความเกี่ยวข้อง​ ชี้สวี่​ซินเหนียน​พูดว่า​

“ประโยค​สุดท้าย​นั้น​เขา​เป็น​คนพูด​”

สวี่​ซินเหนียน​ “!!!”

……………………………………………………

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท