บทที่ 661 ล้อมเวยช่วยจ้าว

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ซุน​เสวียน​จีหรือ​

ศิษย์​ของ​ท่าน​โหราจารย์​น่ะ​รึ​

เหล่า​ขุนนาง​พินิจ​มอง​ซุน​เสวียน​จีด้วย​ความ​ฉงน​ระคน​ประหลาดใจ​

ไม่ใช่ทุกคน​ที่จะ​รู้จัก​ศิษย์​พี่​ซุน​ผู้​ต่ำต้อย​ คน​ที่นั่ง​อยู่​นอกจาก​สวี่​ซินเหนียน​รวมถึง​ปราชญ์​ผู้ยิ่งใหญ่​ทั้ง​สามแห่ง​สำนัก​อวิ๋น​ลู่​แล้ว​ พวก​ขุนนาง​ต่าง​ก็​ไม่รู้จัก​ซุน​เสวียน​จีผู้​นี้​เลย​

ด้วยเหตุนี้​ ‘คำอธิบาย​’ ของ​ผู้พิทักษ์​หยวน​จึงมีความสำคัญ​ยิ่ง​

เหตุใด​คน​ผู้​นี้​จึงล่วงรู้​ความในใจ​ของ​ข้า​ได้​…สวี่​ซินเหนียน​ออกแรง​ ‘กระแอม​’ ที​หนึ่ง​ แล้ว​ลุกขึ้น​เดิน​ไปหา​ซุน​เสวียน​จีพลาง​ว่า​

“ท่าน​ผู้​นี้​คือ​ศิษย์​พี่​รอง​แห่ง​สำนัก​โหราจารย์​ ศิษย์​คน​ที่สอง​ของ​ท่าน​โหราจารย์​ ซุน​เสวียน​จี”

“เป็น​ศิษย์​ของ​ท่าน​โหราจารย์​จริง​ด้วย​ แขก​มาถึงเรือน​ชาน​มิได้​ออกหน้า​ต้อนรับ​!” เหล่า​ขุนนาง​แสดงท่าทาง​พยักหน้า​

สวี่​ซินเหนียน​กล่าว​เสริม​ว่า​ “โหร​ขั้น​สาม”

ครืน​…เสียงเลื่อน​เก้าอี้​ดัง​ขึ้น​อย่าง​พร้อมเพรียง​ ขุนนาง​บุ๋น​นำ​โดย​หยาง​กง​ และ​แม่ทัพ​ซึ่งนำ​โดย​โจว​มี่ลุกขึ้น​อย่าง​รีบร้อน​

“ศิษย์​พี่​ซุน​ เลื่อมใส​มานาน​แล้ว​!”

“ศิษย์​พี่​ซุน​จะมาชิงโจว​ของ​เรา​ก็​น่าจะ​บอกกล่าว​ล่วงหน้า​ พวก​ข้า​จะได้​จัด​งานเลี้ยง​ใหญ่​”

“ตอนที่​ข้า​อยู่​ชิงโจว​ เคย​ได้ยิน​ว่า​ศิษย์​พี่​ซุน​เป็น​อัจฉริยบุคคล​แห่ง​สำนัก​โหราจารย์​ใน​ยุค​นี้​ จึงเลื่อมใส​มานาน​แล้ว​ แต่​ไม่ได้​พบ​สักที​ วันนี้​ได้​สมปรารถนา​ แม้ตาย​ก็​ไม่เสียดาย​แล้ว​ละ​”

บรรยากาศ​ใน​ตำหนัก​เสนาบดี​อบอุ่น​ขึ้น​ทันใด​ ใบหน้า​ของ​เหล่า​ขุนนาง​และ​แม่ทัพ​อาบ​ด้วย​รอยยิ้ม​แห่ง​ความ​ฮึกเหิม​

เมื่อ​หยาง​กง​กด​มือ​ ใน​ตำหนัก​จึงเงียบ​ลง​ ฆราวาส​จื่อ​หยาง​ลูบ​เครา​พลาง​ยิ้ม​เล็กน้อย​แล้ว​เอ่ย​ว่า​

“พี่​ซุน​มาเพื่อ​สนับสนุน​ชิงโจว​หรือ​”

แม้ซุน​เสวียน​จีจะเป็น​โหร​ขั้น​สาม ทว่า​อายุ​น้อยกว่า​หยาง​กง​มาก​นัก​ ใน​ฐานะ​ปัญญาชน​ผู้​มีคุณธรรม​แห่ง​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ เขา​มิอาจ​เอ่ยปาก​เรียก​ ‘ศิษย์​พี่​ซุน​’ ออกมา​ได้​

เมื่อ​เห็น​ดังนั้น​ สีหน้า​แห่ง​ความ​ปีติ​ของ​เหล่า​ขุน​นางใน​ตำหนัก​ก็​ยิ่ง​มากขึ้น​ เมื่อ​ครู่​เพิ่ง​ถก​กัน​เรื่อง​ปัญหา​ด้าน​กำลัง​ทหาร​อยู่​ทีเดียว​ เนื่องจาก​หวั่นใจ​ใน​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​สำนัก​พุทธ​

ชั่วพริบตา​ก็​มีโหร​ผู้​อยู่​ระดับ​เหนือ​มนุษย์​มาอยู่​ฝั่งตน​

แม้ขุนนาง​ที่นั่ง​อยู่​จะมิใช่ผู้​บำเพ็ญตน​ แต่กลับ​คุ้นเคย​กับ​โหร​เป็น​อย่าง​ดี​ โหร​ผู้เชี่ยวชาญ​การหลอม​ปราณ​และ​ค่าย​กล​ พลัง​ทำลายล้าง​ระดับสูง​ซึ่งระเบิด​ใน​สนามรบ​นั้น​มิอาจ​เทียบ​ได้​กับ​ทหาร​กเฬวราก​

หยาง​กง​สั่งให้​คน​ย้าย​เก้าอี้​มาทันที​ และ​ให้​ซุน​เสวียน​จีนั่ง​ข้าง​ตน​ ด้าน​ผู้พิทักษ์​หยวน​ก็​ยืน​อยู่​ข้าง​ศิษย์​พี่​ซุน​อย่าง​รู้​หน้าที่​

เมื่อ​ทุกคน​นั่งลง​อีกครั้ง​ หยาง​กง​จึงถามว่า​

“ทาง​ด้าน​ท่าน​โหราจารย์​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

ซุน​เสวียน​จีเหลือบมอง​ผู้พิทักษ์​หยวน​ ผู้พิทักษ์​หยวน​รู้ใจ​กัน​ดี​ หลังจาก​ดวงตา​สีฟ้าใสพินิจ​อยู่​ครู่หนึ่ง​จึงเอ่ย​ด้วย​ภาษาราชการ​ของ​ต้าฟ่ง​อย่าง​พอ​ถูไถว่า​

“อาจารย์​จะตรึง​พระโพธิสัตว์​เจีย​หลัว​ซู่และ​ศิษย์​พี่ใหญ่​ไว้​ พวก​ท่าน​เพียง​รักษา​ชิงโจว​ก็​พอ​”

ทุกคน​จึงไม่ถามมาก​อีก​ พวกเขา​ไม่สามารถ​มีส่วน​ร่วมใน​การต่อสู้​ระดับ​นั้น​ได้​ รู้​เพียง​ว่า​ท่าน​โหราจารย์​จะรั้ง​ยอด​ฝีมือ​เหนือ​มนุษย์​จาก​ทัพ​กบฏ​ได้​ก็​พอแล้ว​

ซุน​เสวียน​จีผู้​นี้​อาจจะ​โอหัง​ไป​หน่อย​…กลับกัน​ เป็น​ท่าที​ของ​ซุน​เสวียน​จีนี่​ละ​ที่จะ​ดึงดูด​ให้​พวก​ระดับสูง​ของ​ชิงโจว​ตำหนิ​

จางเซิ่น​กลับ​ขมวดคิ้ว​มุ่น​

“ท่าน​โหราจารย์​จะรั้ง​พระโพธิสัตว์​เจีย​หลัว​ซู่ไว้​ได้​ แต่​มิอาจ​รั้ง​พระโพธิสัตว์​และ​พระอรหันต์​อื่นๆ​ ของ​อรัญ​ตา​ได้​ เมื่อ​ทัพ​ใหญ่​แดน​ประจิม​มาถึง สถานการณ์​จะน่าเป็นห่วง​นะ​ขอรับ​”

เหล่า​ขุนนาง​บุ๋น​และ​แม่ทัพ​ต่าง​เผย​สีหน้า​กลัดกลุ้ม​ กระทั่ง​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ก็​เลือนหาย​ไป​แล้ว​

แท้จริง​แล้ว​พวกเขา​หา​ได้​กลัว​ศึกสงคราม​ สิ่งที่​กลัว​คือ​การ​มองไม่เห็น​ความหวัง​หรือ​มองเห็น​จุดจบ​ของ​สงคราม​แล้ว​ต่างหาก​

ซุน​เสวียน​จีได้​ฟังก็​มอง​ไป​ยัง​ผู้พิทักษ์​หยวน​ทันที​

อีก​ฝ่าย​ก็​กำลัง​มอง​เขา​ หลัง​จับ​เสียง​ใน​ใจของ​เขา​แล้วจึง​เอ่ย​ว่า​

“ไม่ต้อง​สนใจ​สำนัก​พุทธ​ พวกเขา​ไม่มีกำลังจะ​ดูแล​ผู้อื่น​หรอก​ แม้จะส่งทหาร​ไป​โจมตี​ต้าฟ่ง​แต่​ก็​เป็น​จำนวน​ไม่มาก​นัก​ ยิ่ง​มิอาจ​ส่งผู้​แข็งแกร่ง​เหนือ​มนุษย์​มาได้​”

หยาง​กง​มอง​มาด้วย​ความ​งุนงง​

จางเซิ่น​และ​ห​ลี่​มู่ไป๋​ก็​ขมวดคิ้ว​เช่นกัน​ คำพูด​นี้​หมายความว่า​อย่างไร​

เหล่า​ขุนนาง​ระดับสูง​ที่​โต๊ะ​ต่าง​มองหน้า​กัน​ มิอาจ​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​ผู้พิทักษ์​หยวน​ได้​ชั่วขณะ​

ไม่กี่​อึดใจ​ต่อมา​ ข้าหลวง​ชิงโจว​จึงเอ่ย​หยั่งเชิง​ว่า​

“เมื่อ​ครู่​ท่าน​กล่าวว่า​ไม่ต้อง​สนใจ​สำนัก​พุทธ​หรือ​”

ผู้พิทักษ์​หยวน​พยักหน้า​

ผู้บัญชาการ​โจว​มี่เอ่ย​เสริม​ว่า​

“ไม่มีกำลังจะ​ดูแล​ผู้อื่น​รึ​”

ผู้พิทักษ์​หยวน​พยักหน้า​อีกครั้ง​

ภายใน​ตำหนัก​เสนาบดี​เงียบกริบ​ ไม่มีใคร​เอ่ย​วาจา​อยู่​พัก​หนึ่ง​ ใบหน้า​ของ​เหล่า​ขุนนาง​เผย​ให้​เห็น​อารมณ์​แปลก​ๆ และ​ซับซ้อน​ชนิด​ที่​อยาก​จี้ถามต่อ​จน​รอ​ไม่ไหว​ ทั้ง​กลัว​ด้วยว่า​ตน​จะหุนหัน​เกินไป​ทำให้​ตกใจ​ใน​คำตอบ​

ข้าหลวง​ชิงโจว​กด​เสียงต่ำ​อย่าง​มิอาจ​ควบคุม​แล้ว​เอ่ย​ถามด้วย​เสียงสั่น​เล็กน้อย​ว่า​

“หมายความว่า​อย่างไร​”

ทันใดนั้น​จางเซิ่น​ก็​เอ่ย​ว่า​

“จะว่า​ไป​ เหตุใด​จึงมีเผ่า​ปีศาจ​อยู่​ข้าง​กาย​พี่​ซุน​ได้​เล่า​”

ผู้พิทักษ์​หยวน​หันไป​เหลือบมอง​ซุน​เสวียน​จีอีกครั้ง​ ก่อน​จับ​เสียง​ใน​ใจเขา​แล้ว​เอ่ย​ว่า​

“ข้า​เพิ่ง​กลับ​จาก​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ และ​ได้​ร่วมมือ​กับ​สวี่​ชีอัน​เพื่อ​คลาย​ผนึก​ศัตรู​ฉกาจ​ของ​สำนัก​พุทธ​ ปีศาจ​ทักษิณ​จึงใช้โอกาส​นี้​ยกพล​โจมตี​ภูเขา​สือ​ว่าน​และ​ยึด​ดินแดน​กลับคืน​ หาก​สำนัก​พุทธ​ส่งกองทัพ​ใหญ่​กรีธา​มาทาง​บูรพา​ก็​จะตก​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​ปีศาจ​ทักษิณ​”

เพิ่ง​กลับ​มาจาก​ซินเจียง​ตอน​ใต้​…

ร่วมมือ​กับ​ฆ้อง​เงิน​สวี่​คลาย​ผนึก​ศัตรู​ฉกาจ​ของ​สำนัก​พุทธ​…

ปีศาจ​ทักษิณ​กำลังจะ​ฟื้นฟู​อาณาจักร​ ยึด​ดินแดน​เก่า​กลับคืน​ สำนัก​พุทธ​ยุ่ง​เกิน​กว่า​จะดูแล​ผู้อื่น​…

เหล่า​ขุน​นางใน​ตำหนัก​ตกตะลึง​กับ​ข่าวดี​ที่​ร่วงหล่น​จาก​ท้องฟ้า​นี้​ ต่าง​มีสีหน้า​งงงัน​ เหม่อลอย​ไป​พักใหญ่​

“เช่นนี้​นี่เอง​!”

ทันใดนั้น​หยาง​กง​ซึ่งพลัน​ได้สติ​ก็​เอ่ย​อย่าง​โล่งใจ​ว่า​

“ข้า​ก็​ว่า​ทำไม​สวี่​หนิง​เยี่ยน​ถึงไม่มาป้อง​กันชิง​โจว​ ที่แท้​เขา​วางแผน​ไว้​แต่แรก​แล้ว​ และ​แอบ​ดอด​ไป​ซินเจียง​ตอน​ใต้​เพื่อ​เผา​สวนดอกไม้​หลัง​สำนัก​พุทธ​ ร่วมมือ​กับ​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​ตรึง​กำลัง​สำนัก​พุทธ​ ประเสริฐ​ ประเสริฐ​แท้​!”

จางเซิ่น​ส่ายหน้า​เล็กน้อย​ “หนิง​เยี่ยน​สมควร​เป็น​ปรมาจารย์​ด้าน​ตำรา​พิชัยสงคราม​ เขา​เชี่ยวชาญ​กลยุทธ์​ลึกซึ้ง​ น่าเลื่อมใส​อย่าง​แท้จริง​ เช่นนี้​ก็​คลี่คลาย​วิกฤต​ครั้ง​ใหญ่​ของ​ต้าฟ่ง​ไป​ได้​แล้ว​”

ห​ลี่​มู่ไป๋​อุทาน​ว่า​ “เว่ยเยวียน​มีผู้สืบทอด​แล้ว​”

ยาม​นี้​ขุนนาง​ระดับสูง​ของ​ชิงโจว​ถึงค่อย​ตั้งสติ​กลับมา​อย่าง​สมบูรณ์​ แม่ทัพ​ตบ​โต๊ะ​ด้วย​ความ​ฮึกเหิม​ ใบหน้า​ของ​ขุนนาง​บุ๋น​อาบ​ด้วย​รอยยิ้ม​ ไหล่​ของ​ทุกคน​รู้สึก​เบา​สบาย​ราวกับ​ได้​พบ​แสงสว่าง​ที่​ปลาย​อุโมงค์​

ไม่ทัน​ไร​พี่ใหญ่​ก็​ทำ​เรื่องใหญ่​โดยไม่รู้ตัว​อีกแล้ว​…สวี่​ซินเหนีย​นรี​บ​ถามว่า​

“พี่ใหญ่​ของ​ข้า​บาดเจ็บ​หรือ​ เหตุใด​เขา​ไม่มากับ​ท่าน​ด้วย​”

ผู้พิทักษ์​หยวน​เอ่ย​แทน​ซุน​เสวียน​จีว่า​

“เขา​ยังอยู่​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ และ​จะไม่มาชิงโจว​ใน​เวลา​อัน​สั้น​นี้​”

ฆ้อง​เงิน​สวี่​ต้อง​แน่ใจ​ว่า​ปีศาจ​ทักษิณ​จะดำเนินการ​ได้​อย่าง​ราบรื่น​…เหล่า​ขุนนาง​พยักหน้า​

เมื่อ​ผู้พิทักษ์​หยวน​พูด​จบ​จึงเอ่ย​ว่า​ “เหตุใด​พวก​ท่าน​จึงเอ่ยถึง​แต่​สวี่​ชีอัน​ ไม่เอ่ยถึง​…”

จู่ๆ เขา​ก็​พูดไม่ออก​ ใบหน้า​แดงก่ำ​ หายใจไม่ออก​ ลำคอ​อุด​กลั้น​ ท่าทาง​ประหนึ่ง​จะขาด​อากาศ​หายใจ​ตาย​

ผู้พิทักษ์​วานร​ขาว​ส่าย​หัว​อย่าง​แรง​ให้​ซุน​เสวียน​จี สื่อ​ว่า​ตน​จะไม่พูด​พล่อยๆ​

“ฮู่ ฮู่…”

จากนั้น​เขา​ก็​กลับมา​หายใจ​อีกครั้ง​ ด้วย​อาการ​อ้า​ปาก​หอบ​หนัก​ หน้าอก​กระเพื่อม​ขึ้น​ลง​อย่าง​รุนแรง​

ทุกคน​ไม่เข้าใจ​ภาพ​ตรงหน้า​นี้​ แต่​ก็​รู้ดี​ว่า​ไม่ควร​เอ่ย​ถาม หยาง​กง​ยิ้ม​พลาง​ว่า​

“แจ้งเรื่อง​นี้​กับ​เหล่า​ทหาร​เพื่อ​เป็นการ​เพิ่ม​ขวัญ​และ​กำลังใจ​ ข้า​ได้ยิน​มาว่า​เหล่า​ทหาร​แนว​หน้าต่าง​กำลัง​เฝ้ารอ​ให้​หนิง​เยี่ยน​มานั่ง​รักษาการณ์​ชิงโจว​”

ตำนาน​ที่ว่า​สวี่​ชีอัน​สังหาร​กองกำลัง​สอง​แสน​นาย​ของ​สำนัก​พ่อ​มด​ด้วย​ดาบ​เล่ม​เดียว​ที่​ด่า​นอ​วี้​หยาง​และ​นำ​ศีรษะ​แม่ทัพ​ศัตรู​มาได้​นั้น​ ฝังลึก​อยู่​ใน​หัวใจ​ของ​ผู้คน​ โดยเฉพาะ​ทหาร​กล้า​ที่​ต่อสู้​ใน​สนามรบ​ยิ่ง​บูชา​เขา​ราว​เทพเจ้า​

พวก​ทหาร​ของ​ชิงโจว​ยัง​เฝ้าหวัง​ด้วยว่า​ ฆ้อง​เงิน​สวี่​จะมาชิงโจว​และ​กวาดล้าง​กลุ่ม​กบฏ​เล็ก​ๆ เพียง​หก​หมื่น​นาย​ได้​ใน​คราว​เดียว​

“ถูก​แล้ว​ ไป​เร็ว​เข้า​!”

ข้าหลวง​ชิงโจว​ยิ้ม​พลาง​ว่า​ “เก้า​อำเภอ​เขต​ชายแดน​ถูก​กลุ่ม​กบฏ​ยึดครอง​ ทำลายขวัญ​กำลังใจ​ของ​ทหาร​เรา​เป็นอย่างมาก​ ถึงเวลา​แล้ว​ที่จะ​ประกาศ​เรื่อง​นี้​ออก​ไป​ เพื่อ​เพิ่ม​ขวัญ​กำลังใจ​ให้​กองทัพ​และ​สร้าง​ความเชื่อมั่น​ให้​ราษฎร​”

เมื่อ​ถึงคราว​ที่​การศึก​ไม่ราบรื่น​ จึงมิอาจ​มองข้าม​ความสำคัญ​ของ​การ​สร้าง​อุดมการณ์​ได้​

ภายใน​เขต​ไป๋​ซา

ใน​สวนดอกไม้​ด้านหลัง​ของ​อาคาร​ซึ่งมีทางเข้า​สามทาง​

ข้าง​โต๊ะ​หิน​ภายใน​ศาลา​ มีโหร​ใน​ชุด​สีขาว​พลิ้วไหว​นั่ง​ดื่ม​ชาอยู่​กับ​พระโพธิสัตว์​ห่ม​จีวร​ที่​เปลือย​หน้าอก​ครึ่งหนึ่ง​

“คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​กำลัง​ของ​อาณาจักร​ต้าฟ่ง​ที่​อ่อนแอ​มาจนถึง​ตอนนี้​ ทว่า​อาจารย์​โหร​ยัง​แข็งแกร่ง​ได้​เช่นนี้​ ข้า​ไม่เคย​ดูแคลน​เขา​ แต่​ข้า​ก็​ยัง​ประเมิน​เขา​ต่ำ​เกินไป​”

สีหน้า​ของ​สวี่​ผิง​เฟิงซีด​ขาว​เล็กน้อย​

พระโพธิสัตว์​เจีย​หลัว​ซู่ประคอง​ถ้วย​ชาพลาง​เอ่ย​เสียงทุ้ม​

“ตอนนั้น​ท่าน​โหราจารย์​รุ่น​ที่หนึ่ง​สามารถ​สู้แบบ​หนึ่ง​ต่อ​สามได้​สบาย​ๆ กระทั่ง​อู่​จงบุก​โจมตี​เมืองหลวง​และ​สังหาร​จักรพรรดิ​ผู้​ขลาด​เขลา​ เขา​จึงตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​สิ้นหวัง​และ​ถูก​พวกเรา​ตัดหัว​

“ตอนนี้​อาศัย​กำลัง​ของ​เรา​สอง​คน​ไป​งัดข้อ​กับ​เขา​โดย​ไม่รู้​ผล​แพ้ชนะ​ได้​ก็​เป็นความ​น่ายินดี​แล้ว​ ท่าน​น่าจะ​รู้​ว่า​ สำนัก​พุทธ​มิอาจ​ให้​พระโพธิสัตว์​องค์​อื่น​มาช่วย​ท่าน​ พระโพธิสัตว์​กว่าง​เสีย​น​เชื่อ​ว่า​ ปีศาจ​ทักษิณ​จะฉวยโอกาส​ก่อเรื่อง​และ​ยึด​คืน​ภูเขา​สือ​ว่าน​ใน​ซินเจียง​ตอน​ใต้​”

สวี่​ผิง​เฟิงพยักหน้า​ช้าๆ

“ข้อ​นี้​เป็น​ความจริง​ที่​ชะตา​ของ​ปีศาจ​ทักษิณ​ยัง​ไม่ถึงจุดจบ​ ทว่า​หาก​ไม่มีอาณาเขต​ พวกเขา​ก็​ประหนึ่ง​สร้างวิมานในอากาศ​ ขอ​เพียง​อยู่​รอดไป​อีก​ห้า​ร้อย​ปี​ ชะตากรรม​ของ​ปีศาจ​ทักษิณ​ก็​จะถึงจุดสิ้นสุด​แล้ว​”

“สำนัก​พุทธ​จะส่งทหาร​เดินทัพ​ไป​เห​ลย​โจว​เมื่อไร​”

พระโพธิสัตว์​เจีย​หลัว​ซู่เอ่ย​

“รอ​ให้​พระอรหันต์​ตู้​เอ้อร์​รวบ​รวมกำลัง​พล​เสร็จ​แล้วก็​จะติดต่อ​ข้า​มา ตอน​ข้า​เข้าไป​ใน​ที่ราบ​กลาง​ อาณาจักร​ต่างๆ​ ใน​ดินแดน​ประจิม​ทิศ​ได้​ตระเตรียม​เสบียงอาหาร​และ​ยุทธปัจจัย​ไว้​แล้ว​ ดูท่า​คงจะ​เร็ว​วันนี้​ล่ะ​”

สวี่​ผิง​เฟิงพยักหน้า​ “เช่นนั้น​ก็​ดีมาก​ หาก​สอง​กองทัพ​ประสานงาน​กัน​ ไม่เกิน​สามเดือน​ก็​จะเข้าถึง​เมืองหลวง​ได้​ รอ​จน​ข้า​หล่อหลอม​โชคชะตา​ตลอดทาง​จนถึง​เมืองหลวง​ สถานการณ์​อาจารย์​โหร​ก็​สาย​เกิน​แก้​แล้ว​”

เขา​ยิ้ม​พลาง​จิบ​ชาอึก​หนึ่ง​แล้ว​ถามว่า​

“จัด​กำลัง​ใน​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ไว้​เหมาะสม​หรือยัง​”

พระโพธิสัตว์​เจีย​หลัว​ซู่พยักหน้า​ “มีอา​ซูหลัว​นั่ง​รักษาการณ์​ภูเขา​สือ​ว่าน​ แม้จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​จะปรากฏตัว​ด้วยตัวเอง​ก็​มิอาจ​ทำ​อะไร​เขา​ได้​”

สวี่​ผิง​เฟิงหัวเราะ​

เวลา​นั้น​เอง​ เจีย​หลัว​ซู่ก็​วาง​ถ้วย​ชาลง​ แล้ว​เหยียด​มือขวา​พร้อมกับ​กาง​ฝ่ามือ​ออก​

แสงสีทอง​พุ่ง​ขึ้น​กลางฝ่ามือ​กลายเป็น​ชามทองคำ​ใบ​หนึ่ง​ แล้ว​ม่าน​แสงสีทอง​อ่อน​ๆ ก็​พวยพุ่ง​ออกจาก​ชามทองคำ​

ท่ามกลาง​ม่าน​แสง ภิกษุ​รุ่นเยาว์​ผู้​มีริมฝีปาก​แดง​ฟัน​ขาว​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​ด้วย​สีหน้า​เคร่งเครียด​

“เจีย​หลัว​ซู่ ซินเจียง​ตอน​ใต้​เกิดเรื่อง​แล้ว​”

น้ำเสียง​ของ​ภิกษุ​รุ่นเยาว์​เลือนราง​ว่างเปล่า​ราวกับ​มาจาก​ฟากฟ้า​ ทั้ง​ฟังไม่ออ​กว่า​เป็น​หญิง​หรือ​ชาย​ เด็ก​หรือ​ชรา​

พระโพธิสัตว์​เจีย​หลัว​ซู่ไม่เปลี่ยน​สีหน้า​ “มีเรื่อง​อะไร​”

ภิกษุ​รุ่นเยาว์​เอ่ย​ว่า​

“สวี่​ชีอัน​และ​ซุน​เสวียน​จีร่วมมือ​กัน​โจมตี​อา​ซูหลัว​ ทำลาย​ผนึก​เจดีย์​ และ​เอา​ชิ้นส่วน​ขา​ของ​เสิน​ซูไป​”

สวี่​ผิง​เฟิงหรี่ตา​ น้ำ​ใน​ถ้วย​ชาใน​มือ​เกิด​เป็น​ระลอกคลื่น​

พระโพธิสัตว์​เจีย​หลัว​ซู่เอ่ย​ช้าๆ ว่า​ “เขา​ทำได้​อย่างไร​”

ภิกษุ​รุ่นเยาว์​ไม่ตอบ​ หาก​เอ่ย​ต่อว่า​

“ข้า​ให้​ตู้​เอ้อร์​กลับ​ไป​ที่​อรัญ​ตา​และ​จัดวาง​ทหาร​ใน​เขต​ชายแดน​ซินเจียง​ตอน​ใต้​แล้ว​ เพื่อ​ป้องกัน​ไม่ให้​ปีศาจ​ทักษิณ​หวน​กลับมา​

“แขนขวา​ของ​เสิน​ซูถูก​ผนึก​อยู่​ใน​ซังผอ​ และ​หลุด​ไป​ใน​คดี​ซังผอ​ แขน​ซ้าย​ที่​ถูก​ผนึก​อยู่​ใน​เจดีย์​พุทธะ​ได้​ถูก​พุทธ​บุตร​เอา​ไป​แล้ว​ ส่วน​ลำตัว​ก็​ตก​อยู่​ใน​มือ​ของ​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ บัดนี้​ขา​ทั้งคู่​ของ​เสิน​ซูก็​หาย​ไป​อีก​ นอกจาก​ส่วนหัว​ ร่างกาย​ก็​ครบ​หมด​แล้ว​

“ข้า​คาด​ไว้​ไม่ผิด​ การ​ยึด​คืน​ภูเขา​สือ​ว่าน​เป็น​เพียง​ก้าว​แรก​ของ​ปีศาจ​ทักษิณ​ พวกเขา​ฉวยโอกาส​ตอนที่​ท่าน​ไม่อยู่​อรัญ​ตา​จึงบุก​เข้า​โจมตี​

“ยกเลิก​แผนการ​กรีธาทัพ​ไป​บูรพา​ ข้า​ทำได้​เพียง​ส่งกองกำลัง​ชั้นยอด​สอง​หมื่น​นาย​บุก​โจมตี​เห​ลย​โจว​เพื่อ​ก่อความวุ่นวาย​

“ไว้​เป็น​หน้าที่​ข้า​เอง​”

เงาร่าง​ของ​ภิกษุ​รุ่นเยาว์​หาย​ไป​ใน​ม่าน​แสงสีทอง​

พระโพธิสัตว์​เจีย​หลัว​ซู่และ​สวี่​ผิง​เฟิงนิ่งเงียบ​

ด้านใน​หัวเมือง​เมือง​เวิ่ง​ เหล่า​แม่ทัพ​ซึ่งกำลัง​หารือ​เรื่อง​การทหาร​พา​กัน​ต้อนรับ​ทหาร​ที่มา​รายงาน​ข่าว​

“แม่ทัพ​ใหญ่​!”

ทหาร​ประสานมือ​โค้ง​คำนับ​พลาง​ว่า​ “ท่าน​ราชครู​ส่งข่าว​มาว่า​ แดน​ประจิม​จะส่งทหาร​ชั้น​ยอดจาก​ทั้งสอง​กองทัพ​ไป​ก่อกวน​ชายแดน​เห​ลย​โจว​เพื่อ​ตรึง​กำลัง​ แต่​จะไม่ร่วมมือ​กับ​พวกเรา​ใน​การ​โจมตี​ต้าฟ่ง”​

สีหน้า​ของ​แม่ทัพ​แต่ละ​กองพัน​พลัน​แข็งทื่อ​

ชีก่วง​ป๋อ​เอ่ย​เสียง​เข้ม​ว่า​ “เพราะเหตุใด​”

ทหาร​กล่าวว่า​ “สวี่​ชีอัน​ร่วมมือ​กับ​กากเดน​ของ​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​โจมตี​ซินเจียง​ตอน​ใต้​รวมถึง​อรัญ​ตา​ สำนัก​พุทธ​จัดวาง​ทหาร​รอ​อยู่​ ไม่มีเวลา​มาสนใจ​กับ​เรา​”

“อะไร​นะ​”

“คน​แซ่สวี่​จะโจมตี​อรัญ​ตา​รึ​”

“เขา​ถือดี​อะไร​น่ะ​ อาศัย​วรยุทธ์​ขั้น​สามกระจอก​ๆ ของ​เขา​โจมตี​อรัญ​ตา​น่ะ​รึ​”

“สำนัก​พุทธ​ก็​ถือ​เป็นจริงเป็นจัง​กับ​เขา​เกินไป​กระมัง​”

แม่ทัพ​แต่ละ​กองพัน​ต่าง​ตกตะลึง​จน​หน้าถอดสี​ และ​ถก​กัน​ด้วย​ความเคียดแค้น​

สวี่​ชีอัน​…สีหน้า​ของ​จีเสวียน​ดำ​ดิ่ง​ มือ​ทั้งสอง​กำหมัด​แน่น​

หลัง​การประชุม​ สวี่​ซินเหนียน​ผู้​หิวโหย​ก็​ตรง​ไป​ยัง​ด้านใน​ห้องโถง​

เวลานี้​ผ่าน​มื้อ​กลางวัน​ไป​แล้ว​ อีก​ทั้ง​วันนี้​เขา​ก็​ไม่มีเวลา​กระทั่ง​จะกิน​มื้อ​เช้าด้วยซ้ำ​ จากนั้น​ก็​เข้าร่วม​ประชุม​กับ​อาจารย์​จางเซิ่น​แล้ว​หารือ​เกี่ยวกับ​กิจการ​ทางการทหาร​กับ​ขุนนาง​ระดับสูง​ของ​ชิงโจว​อีก​

ตอนนี้​เขา​หิว​จน​ไส้จะขาด​แล้ว​

หลัง​ก้าว​ข้าม​ธรณีประตู​และ​มาถึงโถงด้านใน​ของ​ที่ทำการ​สมุหเทศาภิบาล​ สิ่งที่​สวี่​ซินเหนียน​เห็น​ก็​คือ​โต๊ะอาหาร​อัน​ระเกะระกะ​และ​จาน​กับข้าว​ที่​ถูก​กวาด​จน​เกลี้ยง​

อาหาร​ทั้ง​โต๊ะ​ไม่เหลือ​ถึงเขา​กระทั่ง​น้ำแกง​ใส

‘น้องสาว​ผู้​นี้​ไม่เอาไหน​ก็​ช่างเถอะ​…ยังมี​ลี่​น่า​อีก​ ไม่มีที่​ใน​เมืองหลวง​สำหรับ​นาง​แล้ว​…’ สวี่​ซินเหนียน​หันหลัง​จากไป​อย่าง​เงียบงัน​

………………………………………………..

[1] ใน​สมัย​สงคราม​รัฐ​ กองทัพ​ฉีใช้วิธี​ปิดล้อม​รัฐ​เว่ย​ บังคับ​ให้​รัฐ​เว่ย​ถอนทหาร​ที่​โจมตี​รัฐ​จ้าว​ และ​ทำการ​กอบกู้​รัฐ​จ้าว​ จึงใช้อ้าง​ถึงกลยุทธ์​การ​โจมตี​ทาง​ด้านหลัง​ของ​ศัตรู​แล้ว​บังคับ​ให้​ศัตรู​ที่​กำลัง​โจมตี​ล่าถอย​

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท