บทที่ 663 ระหว่างทาง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ไกล​ออก​ไป​จาก​เขตแดน​ภูเขา​สือ​ว่าน​ เริ่ม​มีที่ราบ​และ​ทะเลสาบ​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ประกอบ​เป็น​ทิวทัศน์​ที่​มีความอุดมสมบูรณ์​และ​เต็มไปด้วย​สีสัน​

ใน​ ‘บันทึก​ภูมิศาสตร์​จิ่ว​โจว​’ ซินเจียง​ตอน​ใต้​สามารถ​แบ่ง​ออก​เป็น​สอง​ภูมิภาค​กว้างๆ​ ได้แก่​ ‘ภูเขา​สือ​ว่าน​’ และ​ ‘จี๋เยวียน’​ ซึ่งทั้งสอง​ชื่อ​นี้​แสดงถึง​สอง​กองกำลัง​ใหญ่​ที่​มีความ​โดดเด่น​ใน​ซินเจียง​ตอน​ใต้​

นั่น​คือ​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​และ​เผ่าพันธุ์​กู่​

“ทำไม​ใน​ ‘บันทึก​ภูมิศาสตร์​จิ่ว​โจว​’ ไม่มีการเขียน​ถึงอาหาร​รส​เลิศ​ของ​ซินเจียง​ตอน​ใต้​เลย​เล่า​?”

มู่หนาน​จือ​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​บน​โขดหิน​ริม​ลำธาร​ ถือ​สมุด​ปก​สีน้ำเงิน​พลาง​อ่าน​อย่าง​ตั้งใจ​

เหมียว​โห​ย่ว​ฟางและ​ผู้พิทักษ์​หง​อิง​รับผิดชอบ​ใน​การ​ดูแล​เรื่อง​อาหาร​ โดย​มีไป๋​จีกำลัง​นอน​รอ​กิน​อยู่​ข้างๆ​

“เช่นนั้น​เจ้าคง​ต้อง​ถามปราชญ์​ขงจื๊อ​ศักดิ์สิทธิ์​แล้ว​”

สวี่​ชีอัน​นั่งลง​ข้าง​นาง​พลาง​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “บางที​ปราชญ์​ขงจื๊อ​ศักดิ์สิทธิ์​อาจจะ​ไม่ชอบ​กิน​กระมัง​”

‘บันทึก​ภูมิศาสตร์​จิ่ว​โจว​’ เป็น​หนังสือ​ที่​เขียน​โดย​ปราชญ์​ขงจื๊อ​ศักดิ์สิทธิ์​ ซึ่งมาจาก​ประสบการณ์​การ​เดินทาง​ไป​ทั่ว​จิ่ว​โจว​ใน​ระยะเวลา​สามปี​ของ​เขา​ มัน​เป็น​บันทึก​ลักษณะ​ของ​ภูเขา​และ​แม่น้ำ​ การ​กระจาย​ตัว​ของ​ลำน้ำ​และ​ประเพณีพื้นบ้าน​ที่​ค่อนข้าง​เรียบง่าย​

ส่วน​บันทึก​ภูมิศาสตร์​ต้าฟ่ง​ใน​เวลา​ต่อมา​นั้น​ ถูก​เขียน​ขึ้น​โดย​คน​ลัทธิ​ขงจื๊อ​รุ่นหลัง​ที่​เลียนแบบ​มาจาก​ปราชญ์​ขงจื๊อ​ศักดิ์สิทธิ์​

มู่หนาน​จือ​เชื่อ​ด้วยใจจริง​และ​กล่าวว่า​ “แต่​ลักษณะ​ภูเขา​แม่น้ำ​และ​ชน​เผ่า​ที่​กระจาย​อยู่​ทุกหนทุกแห่ง​ต่าง​ก็​ถูก​บันทึก​ไว้​อย่าง​ละเอียด​”

นาง​มอง​อย่าง​ครุ่นคิด​ ทันใดนั้น​มุมปาก​ก็​กระตุก​ขึ้น​เล็กน้อย​ “นี่​มัน​พวก​ป่าเถื่อน​ประเภท​ไหน​กัน​นะ​?”

ใน​ซินเจียง​ตอน​ใต้​มีชน​เผ่า​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ ตั้งแต่​หลัก​ร้อย​ไป​จนถึง​หลัก​พัน​คน​ กระจาย​ไป​ทั่ว​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ราวกับ​ดาว​ที่อยู่​บน​ท้องฟ้า​

ประเพณี​ของ​พวกเขา​แปลก​มาก​ ใน​มุมมอง​ของ​มู่หนาน​จือ​ พวกเขา​เป็น​เพียง​คนป่าเถื่อน​ที่​ไร้​อารยธรรม​

สวี่​ชีอัน​หยิบ​ ‘บันทึก​ภูมิศาสตร์​จิ่ว​โจว​’ มาอ่าน​อย่าง​ใจจดใจจ่อ​ ใน​นั้น​เขียน​ว่า​มีชน​เผ่า​หนึ่ง​ ตั้งอยู่​ห่าง​จาก​ทาง​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ไป​ทางตะวันตก​สามร้อย​ยี่สิบ​ลี้​ เรียก​ว่า​ ‘เทพเจ้า​สุนัข​’ ชน​เผ่า​นั้น​มีประเพณี​ว่า​ เมื่อ​ชาย​หญิง​เติบโต​ขึ้น​เป็นผู้ใหญ่​ จะต้อง​แต่งงาน​กับ​สัตว์ประหลาด​ที่​เรียก​ว่า​ ‘เจี้ยวเฉวี่ยน’​ และ​กลายเป็น​คู่ชีวิต​กัน​

ตั้งแต่​นั้น​ก็​จะต้อง​ใช้ชีวิต​อยู่​ด้วยกัน​ ออ​กล่า​ด้วยกัน​ และ​พึ่งพาอาศัย​กัน​

สวี่​ชีอัน​อ่าน​อีกครั้ง​และ​ค้นพบ​ว่า​สัตว์ประหลาด​ที่​เรียก​ว่า​ ‘เจี้ยวเฉวี่ยน’​ มีลักษณะพิเศษ​คือ​อยู่​กัน​เป็น​ฝูง เข้าใจ​อารมณ์​และ​ความคิด​ของ​ผู้คน​ผ่าน​การแสดงออก​และ​การเคลื่อนไหว​เท่านั้น​ อีก​ทั้ง​ยังมี​นิสัย​ดุร้าย​และ​ก้าวร้าว​อีกด้วย​

พวก​มัน​อาศัย​อยู่​พื้นที่​โดยรอบ​ของ​เผ่า​ ‘เทพเจ้า​สุนัข​’

“นี่​เป็นเรื่อง​ปกติ​มาก​”

สวี่​ชีอัน​ลุกขึ้น​ยืน​ มือหนึ่ง​ถือ​ม้วน​สมุด​ มือหนึ่ง​แนบ​ไว้​ที่​ด้านหลัง​ วางมาด​ราวกับ​เป็น​ท่าน​อาจารย์​สอน​เกร็ดความรู้​ทั่วไป​ให้​กับ​มู่หนาน​จือ​ “การ​กำเนิด​ของ​ประเพณี​และ​วัฒนธรรม​ใดๆ​ ล้วน​เกี่ยวข้อง​กับ​สภาพแวดล้อม​โดยรอบ​ อาจ​กล่าว​ได้​ว่า​ สิ่งแวดล้อม​เป็น​ตัวกำหนด​วัฒนธรรม​ ตัวอย่างเช่น​ การ​ทำไร่​ใน​ที่ราบลุ่ม​กลาง​ของ​พวกเรา​และ​การ​เลี้ยงสัตว์​ของ​เผ่า​ปีศาจ​ใน​แดน​เหนือ​ ก็​ถูก​กำหนด​โดย​สภาพแวดล้อม​”

มู่หนาน​จือ​ฟังด้วย​ความรู้​ที่​มีอย่าง​งูๆ ปลาๆ​ พลาง​ขมวดคิ้ว​กล่าว​ราวกับ​เข้าใจ​แต่​ก็​ไม่เข้าใจ​ “เช่นนั้น​ เช่นนั้น​การ​แต่งงาน​ของ​พวกเขา​และ​เจี้ยวเฉวี่ยน​ก็​เกิด​จาก​สิ่งแวดล้อม​ด้วย​รึ​?”

“ใน​หนังสือ​กล่าวว่า​สัตว์ประหลาด​อย่าง​ ‘เจี้ยวเฉวี่ยน’​ มีความก้าวร้าว​โดยธรรมชาติ​ ทั้ง​ยัง​เข้าใจ​อารมณ์​และ​ความคิด​ของ​ผู้คน​ผ่าน​การแสดงออก​และ​การเคลื่อนไหว​เท่านั้น​ พวก​มัน​ย่อม​เป็น​พันธมิตร​กัน​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ เจ้าคง​เข้าใจ​ไป​ว่า​เป็นการ​อยู่​ร่วมกัน​อย่าง​คู่ครอง​กระมัง​”

“เช่นนั้น​พวกเขา​สืบพันธุ์​อย่างไร​?”

มู่หนาน​จือ​กระพริบตา​ช้าๆ แสร้ง​ทำเป็น​ไร้เดียงสา​ราวกับ​ไม่รู้เรื่อง​อะไร​

หัวข้อ​นี้​ทำให้​บรรยากาศ​มีสีสัน​ขึ้น​โดยไม่รู้ตัว​…สวี่​ชีอัน​หัวเราะ​เฮอะ​ๆ และ​กล่าวว่า​ “ข้า​รู้​ว่า​เจ้าอยากรู้อยากเห็น​เรื่อง​นี้​ที่สุด​”

มู่หนาน​จือ​ถูก​มองออก​ใน​พริบตา​ นาง​อุทาน​ ‘เชอะ​’ และ​ไม่เสแสร้ง​อีกต่อไป​

“ข้า​คิด​ว่า​นี่​เหมือน​เป็นการ​ฝึก​ให้​ความเคารพ​มากกว่า​ เจี้ยวเฉวี่ยน​ก้าวร้าว​และ​ตัดสิน​ผู้คน​ผ่าน​การแสดงออก​และ​การเคลื่อนไหว​ มีสติปัญญา​หลักแหลม​ ซึ่งจะนำ​ไป​เทียบ​กับ​สุนัข​ทั่วไป​ไม่ได้​ ดังนั้น​พวก​มัน​จึงไม่มีทาง​เชื่อง​ได้​ แต่​หลังจาก​ใกล้ชิด​กับ​ที่ราบลุ่ม​กลาง​ของ​พวกเรา​ เผ่า​เทพเจ้า​สุนัข​ก็​พบ​ว่า​ ‘การ​แต่งงาน​’ เป็น​พิธี​ที่​ยิ่งใหญ่​พอสมควร​ ดังนั้น​จึงเลียน​แบบพิธี​เช่นนี้​เพื่อ​แสดง​ความเคารพ​ต่อ​เจี้ยวเฉวี่ยน​ และ​เจี้ยวเฉวี่ยน​ก็​ยอมรับ​พิธี​นี้​เช่นกัน​” สวี่​ชีอัน​แสดง​การ​ตัดสิน​ชี้ขาด​ของ​ตนเอง​ การ​แต่งงาน​ที่นี่​อาจ​แตกต่าง​จาก​งานแต่งงาน​ที่​ชาว​ที่ราบลุ่ม​กลาง​เข้าใจ​

“เช่นนั้น​เจ้าเปิด​ไป​อีก​สามหน้า​สิ” มู่หนาน​จือ​กล่าว​

สวี่​ชีอัน​พลิก​กระดาษ​ไป​อีก​สามหน้า​ตามที่​นาง​บอก​ บน​หน้า​นั้น​มีบันทึก​ของ​เผ่า​ ‘ผา​น’​ เมื่อ​หนุ่มสาว​แต่งงาน​กัน​ หัวหน้า​เผ่า​มีอำนาจ​ใน​การช่วงชิง​หญิงสาว​ที่​เพิ่ง​แต่งงาน​ใน​คืน​แรก​ไป​

“คง​ไม่ถูก​กำหนด​โดย​สภาพแวดล้อม​เสมอไป​กระมัง​” นาง​เท้าสะเอว​

สวี่​ชีอัน​ลูบ​คาง​พลาง​ถามกลับ​ว่า​ “เจ้ารู้​โครงสร้าง​อำนาจ​ของ​สิงโต​หรือไม่​?”

มู่หนาน​จือ​ส่าย​ศีรษะ​

“สิงโต​ตัวผู้​หนึ่ง​ตัว​จะปกครอง​สิงโต​ตัวเมีย​หนึ่ง​ฝูง เมื่อ​สิงโต​ตัวผู้​ครอง​ฝูงครั้งแรก​ มัน​จะกัด​ลูก​สิงโต​รุ่น​ก่อน​ตาย​ทั้งหมด​ สำหรับ​คืน​แรก​นี้​ อันที่จริง​ก็​มีเหตุผล​ไม่ต่างกัน​” สวี่​ชีอัน​อธิบาย​เหตุผล​อย่าง​ชอบธรรม​

“เจ้าคิดดู​สิ ถ้ามีหนึ่ง​ใน​เจ้าสาว​เหล่านั้น​ให้กำเนิด​บุตร​ของ​หัวหน้า​เผ่า​ เช่นนั้น​สายเลือด​ของ​เขา​ก็​จะถูก​สืบทอด​ต่อไป​ สิ่งนี้​ไม่เกี่ยวข้อง​กับ​สิ่งแวดล้อม​ แต่​เกี่ยวข้อง​กับ​สัญชาตญาณ​ของ​สิ่งมีชีวิต​ใน​การสืบพันธุ์​และ​แพร่ขยาย​เผ่าพันธุ์​”

คำพูด​ของ​เขา​ไม่ใช่คำพูด​ไร้สาระ​ เดิมที​ประเพณี​ของ​สิ่งมีชีวิต​ล้วน​เกี่ยวข้อง​กับ​สิ่งแวดล้อม​และ​สัญชาตญาณ​ มิเช่นนั้น​จะมีคำพูด​ที่ว่า​ ลักษณะพิเศษ​ของ​สภาพแวดล้อม​และ​ผู้คน​ที่​ต่างกัน​ย่อม​ก่อเกิด​และ​หล่อเลี้ยง​ไว้​ซึ่งวัฒนธรรม​ที่​ต่างกัน​จากรุ่น​สู่รุ่น​ได้​อย่างไร​

ใน​คำพูด​ที่​เรียบง่าย​นั้น​ประกอบด้วย​ความจริง​ที่​เป็น​แก่นแท้​ของ​วิวัฒนาการ​ทางชีววิทยา​

มู่หนาน​จือ​ครุ่นคิด​ครู่หนึ่ง​ หลังจากนั้น​ก็​ยอมรับ​อย่าง​ไม่เต็มใจ​นัก​และ​กล่าว​อี​กว่า​ “เจ้าเปิด​ย้อนกลับ​ไป​อีก​แปด​หน้า​สิ”

สวี่​ชีอัน​พลิก​ย้อนกลับ​ไป​อีก​แปด​หน้า​ เผ่า​ที่​บันทึก​อยู่​บน​หน้า​นั้น​มีประเพณี​ที่​ลูกชาย​ต้อง​ท้าทาย​บิดา​ของ​ตน​เมื่อ​อายุ​ครบ​สิบ​แปด​ปี​ ถ้าแพ้​จะต้อง​ถูก​ไล่​ออกจาก​บ้าน​ ถ้าชนะ​ก็​จะได้​สืบทอด​ทุกอย่าง​ของ​บิดา​ รวมทั้ง​น้องชาย​และ​น้องสาว​ของ​ตนเอง​ด้วย​

ข้า​ไม่มีอะไร​ให้​พูด​แล้ว​ ข้า​ไม่เคย​ติดต่อ​หรือ​ใกล้ชิด​กับ​เผ่า​เหล่านี้​เลย​ แล้ว​ข้า​จะรู้​ที่มา​ที่​ไป​และ​ประเพณี​ของ​พวกเขา​ได้​อย่างไร​…สวี่​ชีอัน​บ่น​อย่าง​บ้าคลั่ง​ใน​ใจ

“ช้าก่อน​ ทำไม​เผ่า​ที่​เจ้าจำได้​ถึงมีแต่​เผ่า​ที่​แปลกประหลาด​เช่นนี้​เล่า​?”

สวี่​ชีอัน​มอง​นาง​ด้วย​ความสงสัย​

มู่หนาน​จือ​รู้สึก​ราวกับ​ตนเอง​ถูก​ขัดขา​ในขณะที่​กำลัง​ได้เปรียบ​ ริมฝีปาก​บาง​พึมพำ​ครู่หนึ่ง​ ก่อน​จะหันหน้า​ไป​อย่าง​ร้อนตัว​และ​แสร้ง​มอง​ทิวทัศน์​ที่อื่น​ “ก็​ ก็เพราะว่า​แปลก​ไง ข้า​เลย​จำได้​ขึ้นใจ​เลย​…”

ไม่ เจ้าทำให้​ข้า​นึกถึง​ประโยค​หนึ่ง​ที่​เคย​ได้ยิน​มาใน​ชาติก่อน​ ‘เทพธิดา​ก็​ชอบ​ดู​หนัง​รัก​โรแมนติก​เช่นกัน​’…สวี่​ชีอัน​โยน​ ‘บันทึก​ภูมิศาสตร์​จิ่ว​โจว​’ ไป​ด้าน​ข้าง​ ก่อน​จะหยิบ​ชิ้นส่วน​หนังสือ​ปฐพี​ออกมา​

หมายเลข​สาม ‘ลี่​น่า​ เจ้ากับ​ห​ลิง​อิน​ยังอยู่​บน​เรือ​ใช่หรือไม่​? แล้​วจะ​ถึงชิงโจว​เมื่อใด​’

เขา​ขี่​ผู้พิทักษ์​หง​อิง​ไม่ถึงห้า​วัน​ก็​สามารถ​ไป​ถึงเผ่าพันธุ์​กู่​ได้​ เมื่อ​พิจารณา​ว่า​เผ่า​กู่​ก็​เป็น​ชาว​หมา​น​อี๋​เช่นกัน​ ย่อม​ไม่ต้อน​รับแขก​ความจริงใจ​แน่นอน​ การพา​คนใน​พื้นที่​ไป​ด้วย​จะช่วย​ลด​ความขัดแย้ง​ได้​

หมายเลข​ห้า​ ‘ข้า​อยู่​ที่​อวี่​โจว​ เมื่อวาน​ก็​อยู่​ที่​อวี่​โจว​แล้ว​’

ลี่​น่า​ตอบกลับ​

เร็ว​เช่นนั้น​เลย​รึ​? สวี่​ชีอัน​ตกตะลึง​

หมายเลข​สาม ‘ใคร​เป็น​คน​พา​เจ้าไป​ที่​อวี่​โจว​’

การลำเลียง​ทางน้ำ​ไม่มีทาง​รวดเร็ว​เช่นนี้​ ลี่​น่า​ยัง​เป็น​กองกำลัง​เผ่า​กู่​ที่​บุ่มบ่าม​ยิ่งกว่า​จอม​ยุทธ์​ เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​ควบคุม​กระบี่​บิน​

หมายเลข​ห้า​ ‘พวกเรา​พบ​ท่าน​อาจารย์​ของ​ศิษย์​พี่​เอ้อร์​หลา​งบ​น​เรือ​ก็​เลย​ตาม​พวกเขา​ไป​ที่​ชิงโจว​ด้วยกัน​ วัน​มะรืน​ก่อน​ ศิษย์​พี่​เอ้อร์​หลา​งขับไล่​ข้า​และ​ห​ลิง​อิน​ออกจาก​ชิงโจว​’

เจ้าทั้งสอง​ขโมย​ของ​เขา​กิน​ใช่หรือไม่​…สวี่​ชีอัน​ส่งข้อความ​โต้ตอบ​ว่า​ ‘เจ้ารู้ทาง​รึ​?’

หมายเลข​ห้า​ ‘สวี่​หนิง​เยี่ยน​ เจ้าดูถูก​ข้า​เกินไป​แล้ว​ เอ้อร์​หลา​งเคย​กำชับ​สูตร​ว่า​ ขึ้น​เหนือ​ลง​ใต้​ไป​ทางซ้าย​ของ​ตะวันตก​ ทางขวา​ของ​ตะวันออก​แล้ว​พุ่ง​ไป​ทางใต้​’

ยอดเยี่ยม​ ช่างคล้องจอง​กัน​จริงๆ​! สวี่​ชีอัน​เห็น​ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​กระโดด​ออกมา​ส่งข้อความ​ หมายเลข​สอง​ ‘หลงทาง​ก็​ถามคน​ที่​สัญจร​ผ่าน​ไปมา​ ทางใต้​ขอ​งอ​วี่​โจว​ก็​คือ​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ ตอน​เจ้าขึ้น​ทางเหนือ​มาที่​เมืองหลวง​ต้อง​ผ่าน​อวี่​โจว​ก่อน​ คง​ไม่ลืม​กระมัง​’

หมายเลข​ห้า​ ‘น่าจะ​ไม่นะ​’

ลี่​น่า​กล่าว​

สมาชิก​พรรค​ฟ้าดิน​ซักถาม​ข้อสงสัย​ครู่หนึ่ง​

หมายเลข​สาม ‘เจ้าใช้เวลา​เดินทาง​จากอ​วี่​โจว​ไป​ซินเจียง​ตอน​ใต้​นาน​เท่าใด​?’

หมายเลข​ห้า​ ‘หาก​ไม่หลงทาง​ ไม่ถูก​คน​หลอก​ แบ​กห​ลิง​อิน​วิ่ง​ไป​ก็​คง​ใช้เวลา​ประมาณ​เจ็ด​วัน​เจ็ด​คืน​ก็​น่าจะ​ถึง’

‘ฟู่’…สวี่​ชีอัน​พ่น​ลมหายใจ​ออกมา​อย่าง​ห​ใด​หนทาง​และ​ส่งข้อความ​ไป​อี​กว่า​ ‘อย่า​สนใจ​คนแปลกหน้า​ มีปัญหา​ให้​ติดต่อ​ข้า​ได้​ทุกเมื่อ​ แล้ว​ห​ลิง​อิน​เป็น​อย่างไรบ้าง​?’

หมายเลข​ห้า​ ‘กิน​ได้​ ดื่มได้​ หลับ​ได้​ ไม่มีปัญหา​อะไร​’

อืม​ ก่อนหน้านี้​นักบวช​เต๋า​จิน​เหลียน​เคย​บอ​กว่า​ชีวิต​ของ​ห​ลิง​อิน​ลำบาก​มาก.​..สวี่​ชีอัน​กำลังจะ​เก็บ​ชิ้นส่วน​หนังสือ​ปฐพี​ จู่ๆ ก็​เห็น​ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่ส่งข้อความ​มาว่า​ ‘ทุกคน​ จะควบคุม​และ​สั่งการ​กองกำลัง​สามร้อย​คน​ได้​อย่างไร​?’

ทันทีที่​สวี่​ชีอัน​เห็น​ก็​รู้​ได้​ทันที​ว่า​เกิดเรื่อง​ขึ้น​ เขา​ส่งข้อความ​ไป​ถามว่า​ ‘เจ้าทำ​อะไร​ลง​ไป​’

สมาชิก​พรรค​ฟ้าดิน​ช่างก็​เงียบ​รอ​การตอบโต้​ของ​ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่

หมายเลข​เจ็ด​ ‘ข้า​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ ก็​แค่​ห้าม​พวกเขา​ปล้น​คนจน​ ห้าม​พวกเขา​ข่มขืน​ผู้หญิง​ ห้าม​ปล้น​ขบวน​พ่อค้า​ ห้ามปราม​ไม่ให้​ทำ​เรื่อง​ชั่วร้าย​ทั้งปวง​ ข้า​ยัง​ห้าม​พวกเขา​ออกจาก​หมู่บ้าน​ แต่​ยัง​แจกจ่าย​ข้าวสาร​ให้​พวกเขา​อย่าง​สม่ำเสมอ​’

หลังจากที่​ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่รวบรวม​ผู้ลี้ภัย​แล้วก็​ตั้งรกราก​อยู่​ใน​หมู่บ้าน​ร้าง​แห่ง​หนึ่ง​

หมายเลข​เจ็ด​ ‘ตอนแรก​พวกเขา​ก็​ยัง​ดี​อยู่​ แต่​ภายใน​ไม่กี่​วัน​ก็​คิด​จะฆ่าข้า​แล้ว​’

หมายเลข​สอง​ ‘เจ้าโง่ เจ้ากำลัง​กักขัง​พวกเขา​ ปกติ​แล้ว​เจ้าจัด​การคน​พวก​นี้​อย่างไร​’

หมายเลข​เจ็ด​ ‘ไม่ได้​จัดการ​…’

หมายเลข​สอง​ ‘เจ้าโง่ เจ้าต้อง​ฝึกฝน​พวกเขา​ ไม่ได้​จัดการ​อีก​ทั้ง​ยัง​กักขัง​อิสรภาพ​ของ​พวกเขา​ ไม่ลอบสังหาร​เจ้าแล้​วจะ​ลอบสังหาร​ใคร​ ช่างเถอะ​ เจ้าค่อย​ส่งข้อความ​ส่วนตัว​มาหา​ข้า​ภายหลัง​ ข้า​จะสอน​วิธี​ปกครอง​กองกำลัง​ให้​เจ้าเอง​’

มังกร​หนุ่ม​แห่ง​นิกาย​สวรรค์​กล่าว​จบ​แล้ว​ ฉู่หยวน​เจิ่น​ก็​กล่าวว่า​ ‘ทาง​ด้าน​นี้​ข้า​รวบรวม​ผู้ลี้ภัย​ได้​หนึ่ง​พัน​คน​ การฝึกฝน​ก็​บรรลุผล​ขั้นต้น​แล้ว​ ใน​อีก​ไม่กี่​วัน​ ข้า​วางแผน​จะพา​พวกเขา​ไป​เข้าร่วม​สงคราม​ที่​ชิงโจว​ ยังมี​อีก​เรื่อง​ ตามที่​กลุ่ม​ผู้ลี้ภัย​ที่​หลบหนี​จาก​เจียง​โจว​ซึ่งอยู่​ภายใต้​บังคับบัญชา​ของ​ข้า​รายงาน​ ทาง​ด้าน​นั้น​ก็​มีชาว​ยุทธ​จักร​ที่​กำลัง​รวบรวม​ผู้ลี้ภัย​ ปล้น​พ่อค้า​และ​คหบดี​ใน​ชนบท​’

หมายเลข​สอง​ ‘บุตร​ของ​จักรพรรดิ​ไม่ยอมรับ​คำแนะนำ​ของ​สวี่​หนิง​เยี่ยน​หรอก​รึ​ เป็นเรื่อง​บังเอิญ​งั้น​รึ​?’

หมายเลข​สี่ ‘ฝ่าบาท​ ท่าน​คิด​ว่า​อย่างไร​?’

ฉู่หยวน​เจิ่น​เผชิญหน้า​กับ​ฮว๋าย​ชิ่งโดยตรง​

หมายเลข​หนึ่ง​ ‘ข้า​ส่งคน​ไป​ทำ​เอง​’

ฮว๋าย​ชิ่งยอมรับ​อย่าง​ใจกว้าง​

หมายเลข​หนึ่ง​ ‘กลยุทธ์​ของ​หนิง​เยี่ยน​ได้ผล​ดีมาก​ ข้า​แต่งตั้ง​คนสนิท​ที่​ไว้ใจได้​จำนวน​ยี่สิบ​คน​ไป​รวบรวม​ผู้ลี้ภัย​และ​ปล้นสะดม​คหบดี​ที่​ร่ำรวย​ใน​ชนบท​ ทุกวัน​ราชสำนัก​ได้รับ​สาส์น​ของ​กลุ่ม​โจร​ที่​อาละวาด​และ​ก่อความวุ่นวาย​ แต่​ตาม​รายงาน​ลับ​ที่​ข้า​ได้รับ​ สถานที่​ต่างๆ​ กลับ​มีความมั่นคง​ปลอดภัย​มากขึ้น​’

ความมั่นคง​และ​ปลอดภัย​นี้​เทียบ​ได้​กับ​ก่อนหน้านี้​เท่านั้น​ ด้วย​กำลังคน​ที่​นาง​ส่งไป​และ​ความเพียรพยายาม​ของ​สมาชิก​พรรค​ฟ้าดิน​ เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​ปราบปราม​ผู้ลี้ภัย​ใน​ที่ราบลุ่ม​กลาง​ทั้งหมด​

แต่​ต้อง​พูดว่า​ กลยุทธ์​ของ​สวี่​หนิง​เยี่ยน​นั้น​เห็นผล​ในทันที​

ปล้นสะดม​พ่อค้า​และ​คหบดี​ผู้​ร่ำรวย​ใน​ชนบท​มาสนับสนุน​ผู้ลี้ภัย​ ปล้น​ครัวเรือน​หนึ่ง​มาเลี้ยงดู​หนึ่งร้อย​ครัวเรือน​ ท้องที่​ก็​จะมีความ​เสถียรภาพ​อย่าง​รวดเร็ว​

รา​คาที่​ต้อง​จ่าย​คือ​ การ​ทำ​เช่นนี้​จะสั่นสะเทือน​ชนชั้น​ปกครอง​ของ​เขตแดน​

หาก​หัวหน้ากลุ่ม​โจร​เป็น​พวก​หยาบคาย​และ​บ้าบิ่น​ เช่นนั้น​อำนาจ​การปกครอง​ของ​ราชสำนัก​แห่ง​ต้าฟ่ง​ก็​จะตกอยู่ในอันตราย​

แต่​เมื่อ​หัวหน้า​โจร​เป็น​คน​ของ​ตนเอง​ ก็​มีเพียง​พวก​ตระกูล​ผู้ดี​ใน​ชนบท​ ชนชั้น​ปกครอง​ระดับ​กลาง​และ​ระดับ​ล่าง​เท่านั้น​ที่​ต้อง​เสียสละ​

ฮว๋าย​ชิ่งส่งข้อความ​ต่อไป​ว่า​ ‘ฉู่หยวน​เจิ่น​ หาก​ทีม​ของ​เจ้ามีวินัย​เพียบพร้อม​ใน​ขั้นแรก​ เช่นนั้น​ก็​ตุน​เสบียงอาหาร​และ​หญ้า​เพื่อ​เตรียมตัว​มุ่งหน้า​ไป​ทาง​ทิศตะวันตก​เถอะ​ พวก​เจ้าก็​เหมือนกัน​ โดยเฉพาะ​ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​ ข้า​รู้​ว่า​การนำ​ทัพ​เข้า​สู้รบ​เป็น​จุดแข็ง​ของ​เจ้า ตอนนี้​ไป​ทาง​ทิศตะวันตก​จะดี​ที่สุด​ แล้ว​รวบรวม​ผู้ลี้ภัย​ระหว่างทาง​เพื่อ​จัดตั้ง​กองกำลัง​’

หมายเลข​สอง​ ‘ทำไม​ ทำไม​ต้อง​ฟังเจ้าด้วย​เล่า​’

จอม​ยุทธ์​หญิง​นก​นางแอ่น​เหิน​เถียง​ขึ้น​มาโดย​ไม่พูดพร่ำทำเพลง​

ฉู่หยวน​เจิ่น​ส่งข้อความ​ว่า​ ‘ข้า​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​ฝ่าบาท​ ตอนนี้​สงคราม​ใน​ชิงโจว​กำลัง​ลุกเป็นไฟ​ สำนัก​พุทธ​ที่​สนับสนุน​ฝ่าย​ต่อต้าน​ใน​อวิ๋น​โจว​จะไม่มีการเคลื่อนไหว​ได้​อย่างไร​? ไม่ช้าก็เร็ว​ต้อง​ส่งกองกำลัง​ทหาร​ไป​เล่ย​โจว​’

ฮว๋าย​ชิ่งกล่าว​ต่อไป​ว่า​ ‘ถึงเวลา​นั้น​ ราชสำนัก​จะทำสงคราม​ทั้งสอง​ด้าน​ควบคู่​ไป​กับ​ศึก​ภายใน​ ทำได้​เพียง​ถูก​บังคับ​ให้​ตรึง​แนวรบ​ ทหาร​พันธมิตร​ขอ​งอ​วิ๋น​โจว​และ​สำนัก​พุทธ​จะผลักดัน​แนวรบ​ตลอดทั้ง​ทาง​จนถึง​เมืองหลวง​’

ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​ตกตะลึง​จน​ร่าง​แข็งทื่อ​ใน​ฉับพลัน​

ความสามารถ​ใน​การนำ​ทัพ​ของ​นาง​แข็งแกร่ง​มาก​ แต่​สถานการณ์​โดยรวม​แย่​เล็กน้อย​ นาง​คิด​มาโดยตลอด​ว่า​ชิงโจว​มีความสำคัญ​สูงสุด​ใน​สงคราม​ โดย​ไม่ได้​สนใจ​สำนัก​พุทธ​แม้แต่น้อย​

หมายเลข​หก​ ‘ถึงเวลา​นั้น​ ไม่รู้​ว่า​จะมีผู้บริสุทธิ์​กี่​คน​ที่​ต้อง​ตาย​ใน​เปลวเพลิง​แห่ง​สงคราม​’

ไต้​ซือเหิงหย่วน​ส่งข้อความ​อย่าง​หมดหนทาง​

สวี่​ชีอัน​ส่งข้อความ​ว่า​ ‘สำนัก​พุทธ​คง​ไม่ส่งกองทัพ​ขนาดใหญ่​ไป​ทาง​ตะวันออก​ อย่าง​มาก​ก็​เป็น​แค่​การ​รังควาน​เล็กๆ น้อยๆ​’

หมายเลข​หนึ่ง​ ‘เหตุใด​เจ้าถึงคิด​เช่นนั้น​?’

ฮว๋าย​ชิ่งส่งข้อความ​ไป​ถามด้วย​ความสงสัย​

หมายเลข​สาม ‘ข้า​ทำ​เรื่อง​ที่​ไม่มีค่า​พอให้​กล่าว​ถึงที่​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ นั่น​ก็​คือ​ต่อสู้​กับ​พระอรหันต์​อา​ซูหลัว​ขั้น​สอง​ ปลด​ผนึก​เสิน​ซูและ​บรรลุ​ใน​การ​เป็น​พันธมิตร​กับ​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​ ไม่กี่​วัน​มานี้​ อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​จู่โจมกองกำลัง​สำนัก​พุทธ​ใน​ภูเขา​สือ​ว่าน​เพื่อ​กอบกู้​ดินแดน​เก่า​ พวก​เจ้ารอ​ฟังข่าว​เถอะ​’

เกิด​ความ​เงียบ​ขึ้น​ใน​พรรค​ฟ้าดิน​ชั่วครู่​ บรรยากาศ​เงียบสนิท​จน​แปลกประหลาด​เล็กน้อย​

หมายเลข​เจ็ด​ ‘เจ้าต่อสู้​กับ​พระอรหันต์​ขั้น​สอง​และ​ยัง​ปลด​ผนึก​เสิน​ซูอะไร​นั่น​สำเร็จ​ด้วย​รึ​?’

นี่​เป็นเรื่อง​ที่​ไม่มีค่า​พอให้​กล่าวถึง​งั้น​รึ​? จิตใจ​ของ​ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่แทบ​ทรุด​ เจ้าเด็กน้อย​สวี่​ชีอัน​ถูก​ปิดผนึก​อยู่​ไม่ใช่รึ​ เขา​เติบโต​ขึ้น​จนกระทั่ง​รับมือ​กับ​ระ​อรหันต์​ขั้น​สอง​ตั้งแต่​เมื่อใด​?

ที่​เจี้ยน​โจว​ครั้ง​ล่าสุด​ เขา​ยัง​เกือบตาย​ด้วย​น้ำมือ​ของ​เจ้าแห่ง​วัสสาน​ขั้น​สอง​อยู่เลย​ เมื่อ​เทียบ​กับ​ขั้น​สอง​ ความ​แข็งแกร่ง​ของ​เขา​ยัง​ตามหลัง​อยู่​มาก​

หมายเลข​หนึ่ง​ ‘เรื่อง​นี้​เป็น​ความจริง​รึ​? เจ้าเป็น​พันธมิตร​กับ​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​จริง​รึ​? อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​ต้องการ​เปิด​สงคราม​กับ​สำนัก​พุทธ​เพื่อ​กอบกู้​ดินแดน​เก่า​ใช่หรือไม่​?’

ฮว๋าย​ชิ่งถามคำถาม​สามคำถาม​ติดต่อกัน​ สำหรับ​องค์​หญิง​องค์​โต​ที่​หยิ่งยโส​และ​เย็นชา​ นี่​ก็​เพียง​พอที่จะ​แสดงให้เห็น​แล้ว​ว่า​สภาพ​อารมณ์​ของ​นาง​แปรปรวน​เพียงใด​

อี​ตา​สวี่​หนิง​เยี่ยน​ไม่เคย​ทำให้​ผิดหวัง​จริงๆ​…ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​ทอดถอนใจ​

หมายเลข​สี่ ‘ยอดเยี่ยม​ เช่นนั้น​ข้า​ก็​สามารถ​ลง​ใต้​ไป​สนับสนุน​ชิงโจว​ได้​อย่าง​วางใจ​ ตอนนี้​เป็น​ทางเลือก​ที่​ดี​ที่สุด​ใน​การ​ใช้อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​ตรึง​สำนัก​พุทธ​เอาไว้​ มีคน​จำนวน​ไม่น้อย​ที่​คิด​วิธีการ​นี้​ได้​ แต่​คน​ที่​สามารถ​เชื่อมต่อ​กับ​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​ได้​ มีเพียง​เจ้าเท่านั้น​สวี่​หนิง​เยี่ยน’​

หมายเลข​หก​ ‘อมิตตาพุทธ​ ครั้งนี้​ใต้เท้า​สวี่​ได้​ช่วยชีวิต​ไว้​นับไม่ถ้วน​’

หลังจาก​สิ้นสุด​การ​สนทนา​กลุ่ม​ สวี่​ชีอัน​ก็​เก็บ​ชิ้นส่วน​หนังสือ​ปฐพี​ลง​ไป​ ก่อน​จะพบ​ว่า​มู่หนาน​จือ​ได้​ถอด​รองเท้า​ลาย​ปัก​ออก​แล้ว​ เท้า​ขาว​เรียว​คู่​สวย​แช่อยู่​ใน​ลำธาร​และ​ตี​เท้า​จน​น้ำ​กระเซ็น​เป็น​ฝอย​อย่าง​มีความสุข​

เท้า​คู่​เล็ก​ๆ ของ​นาง​ใหญ่​กว่า​ฝ่ามือ​ของ​สวี่​ชีอัน​เพียง​เล็กน้อย​เท่านั้น​

ผิว​เท้า​ของ​นาง​ทั้ง​บอบบาง​และ​เนียน​ละเอียด​ไร้​ซึ่งจุดด่าง​ดำ​ นิ้วเท้า​ขนาด​สมส่วน​ ปลายเท้า​กลม​ ฝ่าเท้า​สีชมพู​ นี่​ไม่ใช่ฝ่าเท้า​ หาก​แต่​เป็น​งานศิลปะ​ที่​สมบูรณ์แบบ​ที่สุด​ใน​มือ​ของ​ปรมาจารย์​สัก​คน​

เสน่ห์​ของ​เทพ​ดอกไม้​อยู่​ที่​ความ​สมบูรณ์แบบ​ของ​นาง​ ทั้ง​นิสัยใจคอ​ รูปร่างหน้าตา​ ทุกอย่าง​ล้วน​เป็นเลิศ​…จะว่า​ไป​แล้ว​ นี่​น่าจะ​ถึงเวลา​ที่​ราชครู​ควร​มาบำเพ็ญ​คู่​กับ​ข้า​แล้ว​ ทำไม​ยัง​ไม่ติดต่อ​ข้า​มาอี​ก.​..แย่​แล้ว​ บางที​สัญญาณอาจจะ​ขาดหาย​ นาง​เลย​หา​ข้า​ไม่พบ​…สวี่​ชีอัน​ตอบสนอง​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​อย่างยิ่ง​

เมืองหลวง​ สำนัก​โหราจารย์​

ลั่วอวี้เหิง​ควบคุม​แสงสีทอง​ลง​จอด​ที่​แท่น​แปด​ทิศ​

ท่าน​โหราจารย์​กำลัง​นั่ง​อยู่​ที่​โต๊ะ​และ​หลับตา​ราวกับ​รูปปั้น​ประติมากรรม​

ลั่วอวี้เหิง​กวาดสายตา​มอง​อย่าง​ใจจดใจจ่อ​และ​พบ​ว่า​นี่​เป็น​เพียง​ร่างกาย​ที่​เป็น​เปลือกนอก​ ส่วน​จิต​เดิม​นั้น​ไม่อยู่​นาน​แล้ว​

นาง​เดินลง​บันได​ไป​ข้างล่าง​ หลังจาก​หลับตา​ลง​ครู่หนึ่ง​ก็​ตรง​ไป​ที่​ห้อง​โอสถ​ชั้น​ที่​เจ็ด​

ห้อง​โอสถ​ขนาดใหญ่​เต็มไปด้วย​บรรยากาศ​คึกคัก​ของ​กลุ่ม​โหร​ชุด​ขาว​ที่​กำลัง​วุ่นวาย​ ปาก​ก็​บ่น​ต่อว่า​ไม่หยุด​

“สงคราม​อีกแล้ว​ สมควร​ตาย​จริงๆ​!”

“ใช่ ใช่ ต้อง​เริ่ม​กลั่น​อาวุธ​เวทมนตร์​อีกแล้ว​ อาวุธ​เวทมนตร์​เช่นนี้​เป็น​สิ่งที่​ไม่มีจิตวิญญาณ​ นี่​เป็นการ​ดูถูก​โหร​เล่นแร่แปรธาตุ​อย่าง​พวกเรา​ชัด​ๆ”

“มีเพียง​ความรู้​อัน​เร้นลับ​อย่าง​วิชา​เล่นแร่แปรธาตุ​สิ่งมีชีวิต​เท่านั้น​ ถึงจะเป็นการ​แสวงหา​ของ​คน​รุ่น​ข้า​”

“ศิษย์​พี่​ซ่ง ท่าน​พา​พวกเรา​ออก​ไป​จาก​สำนัก​โหราจารย์​แล้ว​ตั้ง​สำนัก​เอง​เถอะ​ พวกเรา​มาก่อตั้ง​นิกาย​นัก​เล่นแร่แปรธาตุ​ด้วยกัน​ดีกว่า​”

ซ่งชิงกล่าว​ตำหนิ​ว่า​ “เจ้าอยาก​ถูก​ท่าน​โหราจารย์​โยน​ลง​ไป​ใน​เตา​เหมือน​ฟืน​งั้น​รึ​?”

เขา​หยุดชะงัก​ชั่วครู่​และ​กล่าวว่า​ “เว้นแต่​ข้า​จะมาแทนที่​ท่าน​โหราจารย์​ในอนาคต​”

ลั่วอวี้เหิง​เข้าไป​ใน​ห้อง​โอสถ​พร้อมกับ​น้ำเสียง​ไพเราะ​น่าฟัง​ “ไม่มีใคร​อยู่​ใน​สำนัก​โหราจารย์​หรอก​รึ​?”

ซ่งชิงเห็น​ลั่วอวี้เหิง​ก็​ตกตะลึง​จน​ร่าง​แข็งทื่อ​และ​นึก​สงสัย​ใน​ใจว่า​เจ้าเป็น​ใคร​ ปรากฏตัว​ที่นี่​ตั้งแต่​เมื่อใด​

ลั่วอวี้เหิง​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ “ลั่วอวี้เหิง”​

“อ๋อ​ ท่าน​ราชครู​…” ซ่งชิงนึก​ขึ้น​ได้​โดยพลัน​

เมื่อ​เห็น​ชาย​ที่​มีใต้​ตา​ดำคล้ำ​ที่​เบื้องหน้า​ ลั่วอวี้เหิง​เกือบจะ​สงสัย​ว่า​อีก​ฝ่าย​กำลัง​ใช้กลยุทธ์​แสร้ง​ปล่อย​เพื่อ​จับ​ ใน​หมู่​ลูกศิษย์​ของ​ท่าน​โหราจารย์​มีใคร​ไม่รู้จัก​นาง​ด้วย​รึ​?

นาง​กลับ​รู้จัก​ซ่งชิงและ​เคย​เห็น​ภาพเหมือน​ของ​เขา​

“สวี่​ชีอัน​ล่ะ​? หยก​กระแสจิต​ของ​ข้า​หา​เขา​ไม่พบ​” ลั่วอวี้เหิง​ขมวดคิ้ว​กล่าว​

“คุณชาย​สวี่​ไม่ได้มา​ที่​สำนัก​โหราจารย์​นาน​แล้ว​ ตั้งแต่​เข้าไป​ใน​ยุทธ​ภพ​ ข้า​ก็​แทบ​ไม่ได้​พบ​เขา​เลย​”

ซ่งชิงกวาดสายตา​มอง​ใบหน้า​สวย​ของ​ลั่วอวี้เหิง​เพียง​ครั้งหนึ่ง​ก็​คิด​ว่า​ไม่มีอะไร​น่า​ดึงดูด​เท่ากับ​การทด​ลองใน​มือ​ของ​ตนเอง​ เขา​ไม่ได้​สนใจ​อีก​และ​ก้มหน้า​ปรับ​แต่ง​อุปกรณ์​ต่อไป​พลาง​กล่าวว่า​ “ข้า​ก็​ไม่มีวิธี​ติดต่อ​เขา​ แต่​ศิษย์​พี่​ซุน​มีหอยสังข์​กระแสจิต​อยู่​ใน​มือ​ซึ่งเป็น​คู่​กับ​หอยสังข์​ใน​มือ​ของ​คุณชาย​สวี่​ หา​ศิษย์​พี่​ซุน​พบ​ ก็​จะได้​พบ​คุณชาย​สวี่​ อืม​ ตอนนี้​ศิษย์​พี่​ซุน​น่าจะ​อยู่​ที่​ชิงโจว​”

กล่าว​จบ​แล้ว​ เขา​ก็​เงยหน้า​ขึ้นไป​มอง​และ​พบ​ว่า​ราชครู​หาย​ไป​แล้ว​

“ศิษย์​พี่​ซุน​ นั่น​คือ​ท่าน​ราชครู​นะ​”

ใบหน้า​ของ​นัก​เล่นแร่แปรธาตุ​ท่าน​หนึ่ง​ที่อยู่​ข้าง​เขา​เต็มไปด้วย​ความประหลาดใจ​ “ช่างงดงาม​จน​ล่ม​เมือง​ได้​จริงๆ​”

ซ่งชิงกล่าว​ด้วย​ความโกรธ​ “อย่า​ได้คิด​เลย​ ผู้หญิง​เช่นนั้น​ไม่ใช่คน​ที่​เจ้าจะเฝ้าคะนึง​หา​ได้​”

นัก​เล่นแร่แปรธาตุ​กล่าว​ด้วย​ความไม่พอใจ​ “ศิษย์​พี่​ซ่งคง​กำลัง​สงสัย​ว่า​ข้า​อุทิศ​ตน​ให้​กับ​วิชา​เล่นแร่แปรธาตุ​จริง​หรือไม่​ ข้า​สาบาน​นาน​แล้ว​ว่า​ชีวิต​นี้​จะอุทิศ​ให้​แก่วิชา​เล่นแร่แปรธาตุ​และ​ไม่แต่งงาน​ตลอดชีวิต​ สิ่งที่​ข้า​อยาก​จะพูด​คือ​ พวกเรา​มากลั่น​ร่าง​ผู้หญิง​ให้​คุณชาย​สวี่​กัน​เถอะ​ อ้างอิง​แบบอย่าง​จาก​ท่าน​ราชครู​เลย​”

ทันทีที่​กล่าว​ประโยค​นี้​ นัก​เล่นแร่แปรธาตุ​ที่อยู่​รอบ​ๆ ต่าง​ก็​คล้อยตาม​กัน​

“เป็น​ความคิด​ที่​ดีมาก​ ด้วย​นิสัย​หื่น​กาม​ของ​คุณชาย​สวี่​ เขา​จะต้อง​ปลาบ​ปลื้มใจ​และ​กอด​นาง​ทั้งคืน​จน​ลุก​ออกจาก​เตียง​ไม่ขึ้น​เป็นแน่​”

“เยี่ยม​เลย​ เช่นนี้​คุณชาย​สวี่​ก็​สามารถ​มอบ​สมุด​ปก​สีน้ำเงิน​ที่​เหลือ​อีก​ครึ่ง​เล่ม​ให้​ข้า​ได้​แล้ว​”

“แต่​เช่นนี้​จะทำให้​ท่าน​ราชครู​โกรธ​หรือไม่​?”

“กลัว​อะไร​เล่า​ มีท่าน​โหราจารย์​แบกภาระ​แทน​พวกเรา​อยู่แล้ว​”

……………………………………………

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท