บทที่ 670 พลังของเทพเจ้ากู่

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

“หัวหน้า​เผ่า​หลง​ถู ท่าน​พูด​อะไร​นะ​ขอรับ​”

เก่​อ​เห​วิน​ซวน​เกือบจะ​แคะ​หู​ดู​ว่า​ตนเอง​มีปัญหา​ทางการ​ได้ยิน​หรือไม่​

เมื่อ​เขา​มาถึงซินเจียง​ตอน​ใต้​ใน​ฐานะ​ผู้เจรจา​ อาจารย์​ได้​ให้​ข้อมูล​โดยละเอียด​กับ​เขา​มาฉบับ​หนึ่ง​ ประกอบด้วย​สถานการณ์​ภายใน​เผ่าพันธุ์​กู่​ทั้ง​เจ็ด​ จุดอ่อน​และ​ความชอบ​ของ​เหล่า​ผู้นำ​เผ่า​แต่ละ​เผ่า​

ปัญหา​ใหญ่​ที่สุด​ของ​ลี่​กู่​คือ​อาหาร​

คนใน​ชน​เผ่า​นี้​กิน​จุ สมาชิก​เผ่า​แต่ละคน​ต้อง​กิน​อาหาร​ใน​ปริมาณ​ถึงสิบ​เท่า​ของ​ผู้ชาย​โต​เต็ม​วัย​ หรือ​มากกว่า​นั้น​

ทรัพยากร​อาหาร​ที่​ขาดแคลน​ จำกัด​ทั้ง​ประชากร​เผ่า​และ​การพัฒนา​ด้าน​อื่นๆ​ ในขณะที่​เผ่า​อื่นๆ​ อีก​หก​เผ่า​อาศัย​อยู่​ใน​บ้าน​อิฐ​กัน​หมด​แล้ว​ เผ่า​ลี่​กู่​ยัง​อาศัย​อยู่​ใน​บ้าน​ดิน​เหลือง​มุงจาก​

ในขณะที่​เผ่า​อื่น​สร้าง​ถนน​ เทียม​รถม้า​ ตี​ชุด​เกราะ​ ทำ​เครื่องเหล็ก​กัน​นั้น​ เผ่า​ลี่​กู่​ยัง​มัวแต่​คิด​ว่า​จะขโมย​ม้าของ​คนใน​เผ่า​กลับ​ไป​กินที่​บ้าน​ได้​อย่างไร​

เผ่า​อื่นๆ​ สวม​ชุด​ผ้าไหม​ เผ่า​ลี่​กู่​ยัง​นุ่งห่ม​อาภรณ์​ตัดเย็บ​จาก​หนัง​สัตว์​ ใช่ว่า​พวกเขา​ไม่รู้จัก​วิธีการ​เลี้ยง​หม่อน​ไหม​ แต่​นั่น​เป็นการ​เสียเวลา​เปล่า​

ดังนั้น​ ใน​สายตา​ของ​เก่​อ​เห​วิน​ซวน​ การ​โจมตี​ต้าฟ่ง​ ปกครอง​ผู้​คนใน​ภาค​กลาง​ แล้ว​ให้​พวกเขา​ส่งส่วย​ผลิต​อาหาร​มาป้อน​พวก​ตน​ เป็น​กลยุทธ์​ต่างแดน​ที่​ยั่งยืน​ที่สุด​ของ​ลี่​กู่​

เผ่า​ลี่​กู่​มีทั้ง​แรงจูงใจ​และ​ความต้องการ​ใน​การ​เริ่ม​สงคราม​ เป็นผล​ให้​แม้แต่​ตู๋​กู่​ที่​ไม่สนใจ​ดินแดน​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ยัง​ตอบ​รับข้อเสนอ​ แต่​ลี่​กู่​กลับ​ปฏิเสธ​งั้น​หรือ​

มิใช่เพียง​เก่​อ​เห​วิน​ซวน​เท่านั้น​ที่​สับสน​ แม้แต่​ผู้นำ​เผ่าพันธุ์​กู่​ทั้งหลาย​ก็​ยัง​ประหลาดใจ​ คิด​ว่า​ตน​หูฝาด​ไป​หรือไม่​

ตู๋​กู่​เอ่ย​พึมพำ​กับ​ตนเอง​

“หลง​ถู เจ้าเผลอไป​กิน​อาหาร​ใน​เผ่า​ของ​ข้า​จน​หมด​หรือ​ไร​”

มนุษย์​ศพ​ใน​เสื้อคลุม​เงยหน้า​ขึ้น​ในที่สุด​ จ้องมอง​หลง​ถูด้วย​ม่าน​ตาขาว​น่ากลัว​อย่าง​สงสัย​

“ข้า​คิด​ว่า​เขา​คงจะ​หิว​จน​สับสน​ไป​ ใจคอ​พวก​เจ้าเผ่า​ลี่​กู่​จะอยู่อาศัย​ใน​เขา​ป๋อ​อัน​คับแคบ​ ปล่อย​ให้​ลูกหลาน​อยู่​ใน​กระท่อม​มุงจากไป​ตลอดกาล​เลย​หรือ​ไร​”

หัวหน้า​เผ่า​หญิง​สอง​คน​จาก​เผ่า​ฉิงกู่​และ​ซิน​กู่​ไม่เอ่ยปาก​ว่า​กระไร​ คน​หนึ่ง​แลบลิ้น​เลีย​ริมฝีปาก​แดง​ระเรื่อ​ของ​ตน​ด้วย​รอยยิ้ม​ ส่วน​อีก​คน​ขมวดคิ้ว​ด้วย​ความสงสัย​

ส่วน​หัวหน้า​เผ่า​อั้น​กู่​ที่​ไม่รู้​ว่า​ซ่อนตัว​อยู่​ที่ใด​ก็​ไม่ปรากฏตัว​และ​ไม่แสดงความคิดเห็น​ใดๆ​ ออกมา​เช่นกัน​

แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​เช็ด​มือสอง​ข้าง​กับ​ผ้ากันเปื้อน​ และ​ถามคำถาม​แทน​ทุกคน​

“เป็น​อะไร​ไป​เล่า​”

หลง​ถูกล่าว​ “ลี่​น่า​กลับมา​แล้ว​”

ดวงตา​ของ​แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​พลัน​สว่าง​วาววับ​ขึ้น​มาทันที​

หลง​ถูกวาดตา​มอง​เหล่า​หัวหน้า​เผ่า​ทั้งหลาย​ “นาง​พา​สหาย​มาด้วย​ หนึ่ง​ใน​นั้น​มีนาม​ว่า​สวี่​ชีอัน​”

เมื่อ​กล่าวถึง​ตรงนี้​ หลง​ถูก็​เห็น​ชาย​ใน​ชุด​ขาว​สีหน้า​เปลี่ยนไป​โดยฉับพลัน​

สวี่​ชีอัน​…เหล่า​หัวหน้า​เผ่าพันธุ์​กู่​เมื่อ​ได้ยิน​ชื่อ​นี้​ก็​มีปฏิกิริยา​ต่างกัน​ออก​ไป​

หัวหน้า​เผ่า​ตู๋​กู่​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ คล้าย​ว่า​กำลัง​หวาดกลัว​เล็ก​ๆ

งูสอง​ตัวเล็ก​ๆ ที่​เกี่ยว​กระหวัด​อยู่​ที่​ติ่ง​หู​ของ​หัวหน้า​เผ่า​ซิน​กู่​เหยียด​ตัวตรง​ ส่งเสียงขู่​ฟ่อ​ๆ ใส่แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​

นาง​สัมผัส​ได้​ถึงความตื่นเต้น​เล็ก​ๆ ใน​ใจของ​แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​ แม้จะหาย​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​แต่​ก็​ไม่อาจ​รอดพ้น​จาก​สายตา​หัวหน้า​เผ่า​ซิน​กู่​อย่าง​นาง​ได้​

‘จิต​ร่วม​’ และ​ ‘ควบคุม​’ เป็น​ความสามารถ​หลัก​ของ​ซิน​กู่​

ดวงตา​คู่​งามของ​หลวนอวี้​เป็นประกาย​ ใน​หัว​ของ​นาง​มีเพียง​คำ​ว่า​ ‘จอม​ยุทธ์​อันดับ​หนึ่ง​แห่ง​ต้าฟ่ง!’​

หัวหน้า​เผ่า​ซือ​กู่​ ควบคุม​มนุษย์​ศพ​ให้​เอ่ย​ปากเสียง​เย็นยะเยือก​

“พวก​เจ้าลอง​สังหาร​เขา​ดู​สิ”

เก่​อ​เห​วิน​ซวน​ดวง​ตาสว่าง​วาบ​ขึ้น​มา นี่​เป็น​โอกาส​อัน​ดี​ใน​การ​ไล่ล่า​สวี่​ชีอัน​

ต่ำกว่า​ขั้น​หนึ่ง​ ไม่มีใคร​ต้านทาน​การ​ล้อม​สังหาร​ของ​ยอด​ฝีมือ​เผ่าพันธุ์​กู่​ได้​ ขั้น​สอง​ยัง​ต้อง​เก็บกด​ความเคียดแค้น​ไว้​

หาก​เขา​สามารถ​ชักจูง​ให้​เผ่าพันธุ์​กู่​ซุ่มโจมตี​ และ​สังหา​รส​วี่​ชีอัน​ได้​ เขา​อาจจะ​ประสบความสำเร็จ​อย่าง​ยิ่งใหญ่​ใน​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ แบบ​ที่​อาจารย์​ก็​ไม่สามารถ​ทำได้​

หลง​ถูกล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​หนักแน่น​ กวาดตา​มอง​ผู้คน​รอบข้าง​อย่าง​เย็นชา​

“เจ็ด​เผ่าพันธุ์​กู่​ไม่ก้าวก่าย​ซึ่งกันและกัน​ พวก​เจ้าอยาก​จะโจมตี​ต้าฟ่ง​ เป็นเรื่อง​ของ​พวก​เจ้า”

“เพียง​เพราะ​สวี่​ชีอันเป็น​สหาย​กับ​ลูกสาว​ของ​เจ้าน่ะ​หรือ​”

หัวหน้า​เผ่า​อั้น​กู่​ที่​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​ความมืด​เอ่ย​ถามด้วย​สงสัย​ เสียงทุ้ม​ต่ำ​ดังก้อง​ไป​ทั่ว​บริเวณ​ลานบ้าน​

“ไม่ใช่!” หลง​ถูคลี่​ยิ้ม​ “ข้า​รับ​ศิษย์​อัจฉริยะ​คน​ใหม่​เข้ามา​ นาง​เป็น​น้องสาว​ของ​สวี่​ชีอัน​”

“เพราะ​ลูกศิษย์​คนเดียว​เนี่ย​นะ​?” หลวนอวี้​เอ่ย​ถามด้วย​เสียงกังวาน​ใสน่าฟัง​

คน​ทั้ง​กลุ่ม​จ้องมอง​หลง​ถูด้วย​สายตา​เหมือน​จ้องมอง​คนโง่​ คน​ของ​ลี่​กู่​ไม่ค่อย​ฉลาดเฉลียว​อยู่แล้ว​ แต่​ไม่น่าจะ​โง่เง่าถึงขั้น​นี้​

การ​รับ​คน​จาก​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​มาเป็น​สาวก​เดิมที​ก็​เป็น​การกระทำ​ที่​ไร้​สมอง​อยู่แล้ว​ ซ้ำยัง​ผิด​กฎ​ข้อห้าม​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​อีก​ต่างหาก​

แต่​การละทิ้ง​แผน​การพัฒนา​เผ่าพันธุ์​ เพื่อ​ลูกศิษย์​จาก​ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​นั้น​เป็นเรื่อง​ที่​โง่เง่ายิ่งกว่า​

หลง​ถูกล่าว​เรียบๆ​

“ใน​เมื่อ​พวก​เจ้าฉลาด​กัน​นัก​ เหตุใด​ไม่ลอง​ไตร่ตรอง​ดู​เล่า​ว่า​เหตุใด​ข้า​ถึงยอม​ฝ่าฝืน​กฎ​ รับ​คน​จาก​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​มาเป็น​ศิษย์​ด้วย​”

ใบหน้า​หยาบกร้าน​เผย​รอยยิ้ม​เย้ยหยัน​

“การพัฒนา​เผ่าพันธุ์​และ​การ​ปลูกฝัง​ผู้สืบทอด​ที่​มีพลัง​ต่อสู้​ไร้​เทียมทาน​นั้น​สำคัญ​พอกัน​

“หาก​โจมตี​ต้าฟ่ง​ ไม่ต้อง​พูดถึง​เลย​ว่า​หลังจาก​โค่นล้ม​ราชวงศ์​ต้าฟ่ง​ได้​แล้ว​ จะมีผู้บาดเจ็บ​ล้มตาย​กัน​มาก​เพียงใด​ แล้ว​ศิษย์เอก​ของ​ท่าน​โหราจารย์​นั่น​จะทำตาม​สัญญาที่​ให้​ไว้​จริง​หรือ​ แม้ว่า​เขา​ทำได้​ หลังจาก​พ่ายแพ้​พวกเรา​ก็​ต้อง​คว้าน้ำเหลว​ สิ่งเหล่านี้​เป็น​ความเสี่ยง​ที่​เรา​ต้อง​แบกรับ​ เช่นเดียวกับ​การล่าสัตว์​ เหยื่อ​ที่​ดู​เจ้าเล่ห์​เกินไป​ เรา​ไม่ต้องการ​

“สู้เอา​เวลา​ที่​เสีย​ไป​กับ​การ​ล่า​มัน​ ไป​ล่า​เหยื่อ​ที่​ไม่ค่อย​ฉลาด​ได้​อีก​มาก​โข​

“ดังนั้น​ข้า​จึงเลือก​วิธี​อย่าง​หลัง​ นี่​เป็น​วิธี​ที่​พอ​จะเห็นผล​ และ​ยัง​ไม่สุ่มเสี่ยง​เกินไป​”

หาก​เผ่า​ลี่​กู่​โจมตี​ต้าฟ่ง​ สวี่​ชีอัน​ย่อม​ต้อง​แตกหัก​กับ​เผ่า​ลี่​กู่​อย่าง​แน่นอน​ สวี่ห​ลิง​อิน​ ศิษย์​ใหม่​ที่​รับ​เข้ามา​ก็​ต้อง​ถูก​พราก​ไป​ใน​พริบตา​

หลังจาก​ผ่าน​ไป​ราวๆ​ สิบ​วินาที​ เหล่า​หัวหน้า​เผ่า​ก็​เริ่ม​เข้าใจ​ความหมายแฝง​ที่​เข้า​สื่อ​ หลวนอวี้​เอ่ย​ถามด้วย​ท่าที​ยาก​จะเชื่อ​

“เจ้าจะบอ​กว่า​ลูกศิษย์​ที่​เพิ่ง​รับ​เข้ามา​ใหม่​คน​นั้น​ ต่อไป​จะกลายเป็น​ผู้ยิ่งใหญ่​ที่จะ​มาคานอำนาจ​ได้​งั้น​หรือ​”

หลง​ถูหัวเราะ​อย่าง​ภูมิอก​ภูมิใจ

“พรสวรรค์​ของ​นาง​ดีกว่า​ข้า​ ดีกว่า​ลี่​น่า​เสีย​ด้วยซ้ำ​”

ลี่​น่า​เป็น​อัจฉริยะ​ที่​หา​ได้​ยาก​ยิ่ง​อยู่แล้ว​ นี่​หมายความว่า​ใน​ภายภาคหน้า​ เผ่า​ลี่​กู่​จะมีเหนือ​มนุษย์​ถึงสอง​คน​

หาก​เพิ่ม​ตนเอง​เข้าไป​ ก็​กลายเป็น​สามคน​

เมื่อ​หลง​ถูคิดถึง​อนาคต​เช่นนั้น​ เลือด​ก็​สูบฉีด​ด้วย​ความตื่นเต้น​

เขา​จะฉีก​ภาพ​อนาคต​ที่​สวยงาม​ลง​กับ​มือ​ได้​อย่างไร​

“พวก​เจ้าอยาก​จะโจมตี​ต้าฟ่ง​ก็​เป็นเรื่อง​ของ​พวก​เจ้า จะล้อม​สังหา​รส​วี่​ชีอัน​ข้า​ก็​จะไม่ห้าม​”

หลง​ถูพูด​จบ​ ก็​หันไป​พยักหน้า​ให้​กับ​แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​ ค้อม​ศีรษะ​เดิน​ออก​ไป​จาก​ลานบ้าน​เสีย​

ทุกคน​เฝ้ามองดู​เขา​จากไป​เงียบๆ​

เก่​อ​เห​วิน​ซวน​ส่งเสียง​กระแอม​ไอ​หนึ่ง​ครั้ง​ และ​พยายาม​เกลี้ยกล่อม​

“ท่าน​หัวหน้า​เผ่า​ทุกท่าน​ สวี่​ชีอันเป็น​จอม​ยุทธ์​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ต้าฟ่ง​ ทั้ง​ยัง​เป็นหนึ่ง​ใน​อุปสรรค​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ใน​การ​ทำลาย​ต้าฟ่ง​อีกด้วย​ หาก​สามารถ​สังหาร​เขา​ที่นี่​ได้​ การ​ทำลาย​ต้าฟ่ง​ก็​เหมือน​ดั่ง​ตอก​ตะปู​ลง​บน​ไม้กระดาน​

“หาก​ทำการ​ใหญ่​สำเร็จ​ อนาคต​ก็​อยู่​ใกล้แค่เอื้อม​มิใช่หรือ​”

คำพูด​ของ​เขา​มีความ​ปลุกเร้า​อย่าง​รุนแรง​ ไม่มีการปิดบัง​

เก่​อ​เห​วิน​ซวน​เชื่อ​ว่า​เหล่า​หัวหน้า​เผ่า​จะตัดสินใจ​เลือก​ทาง​ที่​ถูกต้อง​ คำพูด​เหล่านี้​ใช้ไม่ได้​กับ​กลุ่ม​ที่​เป็นกลาง​หรือ​เป็น​พันธมิตร​ แต่​เผ่าพันธุ์​กู่​และ​ต้าฟ่ง​มีเรื่อง​บาดหมาง​กัน​อยู่​

ตราบใดที่​พวกเขา​ยัง​ชิงชังต้าฟ่ง​ ตราบใดที่​พวกเขา​ตกลง​ว่า​จะส่งกองกำลัง​ให้​ เวลานี้​ก็​เป็น​โอกาส​เหมาะ​ที่จะ​ล้อม​สังหา​รส​วี่​ชีอัน​

เขา​เชื่อ​ว่า​เหล่า​หัวหน้า​เผ่า​ต้อง​เข้าใจ​เรื่อง​นี้​

ทันทีที่​พวกเขา​สังหา​รส​วี่​ชีอัน​ พวกเขา​ก็​จะต้อง​เข้ามา​อยู่​บน​กระดาน​หมาก​โดย​สมบูรณ์​ ต้อง​ลงเรือ​ลำ​เดียว​กับ​ข้า​เท่านั้น​…เก่​อ​เห​วิน​ซวน​ลอบ​คิดในใจ​

“ท่าน​หัวหน้า​เผ่า​ซือ​โหย​ว​ ข้า​ลืม​บอก​ท่าน​ไป​ สวี่​ชีอัน​ผู้​นั้น​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​เว่ยเยวียน​ เป็น​ลูกน้อง​ที่​เว่ยเยวียน​ไว้ใจ​มาก​ที่สุด​”

เก่​อ​เห​วิน​ซวน​ใส่ไฟ

คนใน​เสื้อคลุม​ก้ม​ศีรษะ​ลง​ เสื้อคลุม​โป่ง​พอง​ กลิ่นอาย​เข้มข้น​ขึ้น​

เก่​อ​เห​วิน​ซวน​มอง​ไป​ทาง​หลวนอวี้​ แล้ว​กล่าว​ยิ้ม​ๆ

“สวี่​ชีอัน​ไม่เพียงแต่​เป็น​จอม​ยุทธ์​อันดับ​หนึ่ง​แห่ง​ต้าฟ่ง​ แต่​ยัง​ได้รับ​พลัง​เทพ​วชิระ​จาก​สำนัก​พุทธ​ มีสายเลือด​พลัง​เทพ​วชิระ​ แม้ว่า​จะยัง​เทียบ​กับ​เทพ​อารักษ์​ไม่ได้​ แต่​ก็​ห่าง​ชั้น​กัน​เพียง​เล็กน้อย​

“หัวหน้า​เผ่า​หลวนอวี้​ ชาย​ผู้​นี้​ล้ำค่า​ยิ่งกว่า​ทหาร​ชั้นยอด​นับ​แสน​คน​อีก​นะ​ขอรับ​

“แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​ ใน​กาย​ของ​สวี่​ชีอัน​มีชะตา​บ้านเมือง​ที่​สามีเก่า​ของ​ท่าน​สละ​ชีพ​เพื่อ​แลก​มาอยู่​ ใน​เมื่อ​สามีท่าน​ไม่อยู่แล้ว​ ท่าน​ก็​จงชิงมัน​กลับมา​เพื่อ​สามีของ​ท่าน​เถิด​”

เมื่อ​เห็น​ว่า​หัวหน้า​เผ่า​ตู๋​กู่​ไม่ได้​สนใจ​หรือ​กระตือรือร้น​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​ เก่​อ​เห​วิน​ซวน​ก็​ใจหายวาบ​

“ท่าน​หัวหน้า​เผ่า​ป๋า​จี้ ท่าน​เคย​ได้ยิน​เรื่อง​เทพ​ดอกไม้​กลับชาติมาเกิด​หรือไม่​”

ชาย​วัยกลางคน​ใน​เสื้อคลุม​เย็บ​ด้วย​หนัง​สัตว์​ตัว​แข็งทื่อ​ทันที​ พร้อม​เบิกตา​กว้าง​

“เทพ​ดอกไม้​แห่ง​ราชวงศ์​ต้า​โจว​องค์​นั้น​น่ะ​หรือ​”

เก่​อ​เห​วิน​ซวน​กล่าว​เสริม​

“สวี่​ชีอัน​มีเบาะแส​การ​กลับชาติมาเกิด​ของ​เทพ​ดอกไม้​องค์​นั้น​อยู่​ หาก​ข้า​จำไม่ผิด​ เทพ​ดอกไม้​องค์​นั้น​น่าจะ​ได้รับ​การอุปถัมภ์​จาก​เขา​อย่าง​ลับ​ๆ อยู่​ที่ใด​สัก​แห่ง​”

ใน​วัน​เดียว​กับ​ที่​พระ​มเหสี​ใน​อ๋อง​สยบ​แดน​เหนือ​ขึ้น​เหนือ​ จี๋ลี่​จือ​กู่​และ​จู๋จิ่ว​ โหร​ที่​เป็น​สาย​ให้​กับ​เขา​ก็​ฆ่าพระ​มเหสี​ และ​ชิงพลัง​ปราณ​สะสมของ​เทพ​ดอกไม้​มา

หลังจาก​วันนั้น​ พระ​มเหสี​ก็​หาย​ไป​อย่าง​ไร้​ร่องรอย​ แต่​พวกเขา​รู้​ว่า​ต้อง​ถูก​สวี่​ชีอัน​ผู้​นั้น​ซ่อนตัว​เอาไว้​เป็นแน่​

ป๋า​จี้ หัวหน้า​เผ่า​ตู๋​กู่​สูด​หายใจ​หนักหน่วง​

เทพ​ดอก​ไม้เป็น​เทพ​ใน​หมู่​มวล​บุปผา​ มีอิทธิฤทธิ์​ช่วย​ให้​พืชพรรณ​เจริญเติบโต​อย่าง​แข็งแกร่ง​ อิทธิฤทธิ์​ที่ว่า​นี้​ส่งผล​ต่อ​วัชพืช​พิษ​และ​ผลไม้​มีพิษ​ด้วย​

หาก​ชิงตัว​เทพ​ดอกไม้​กลับมา​ได้​ และ​ปล่อย​ให้​นาง​ปลูก​วัชพืช​พิษ​ทุกวัน​ ชาว​เผ่า​ตู๋​กู่​จะมีวัชพืช​พิษ​คุณภาพ​สูงให้​กิน​ไม่รู้จัก​หมดสิ้น​

“ข้า​จะไป​ที่​เผ่า​ลี่​กู่​เดี๋ยวนี้​”

มนุษย์​ศพ​ใน​เสื้อคลุม​กลับหลังหัน​ และ​เดิน​จากไป​เงียบๆ​

เมื่อ​ได้ยิน​เรื่อง​นี้​ ป๋า​จี้ก็​ลุก​เดินตาม​มนุษย์​ศพ​ไป​ เขา​รอ​แทบ​ไม่ไหว​แล้ว​

“พวก​เจ้ารอ​ข้า​ก่อน​สิ”

หลวนอวี้​บิด​เอว​คอด​กิ่ว​ ยก​กระโปรง​ขึ้น​ แล้ว​เดินตาม​ไป​พร้อมกับ​รอยยิ้ม​หวาน​

ฉุน​เอียน​บีบ​ตัว​งูที่​ใบ​หูเบา​ๆ นิ่งเงียบ​ไป​สักพัก​หนึ่ง​ ก่อน​จะลุก​เดินตาม​ไป​อีก​คน​

เงาจาก​แสงดวงอาทิตย์​ทอด​ทับ​ผ่าน​เงาของ​ฉุน​เอียน​ไป​แวบ​หนึ่ง​

แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​จ้องมอง​เก่​อ​เห​วิน​ซวน​ก่อน​จะถอน​กาย​ใจ

“ยาย​เฒ่าคน​นี้​ก็​ขอ​ร่วม​สนุก​ด้วย​คน​ก็แล้วกัน​”

เก่​อ​เห​วิน​ซวน​ยิ้ม​อย่าง​มั่นใจ​ เผ่าพันธุ์​กู่​ทั้ง​เจ็ด​ร่วมมือ​กัน​เป็นหนึ่งเดียว​ เมื่อ​เขา​โน้มน้าวใจ​หัวหน้า​เผ่า​ได้​สามคน​แล้ว​ เขา​ก็​ไม่สนใจ​การ​ต่อต้าน​ของ​ผู้อื่น​

เผ่าพันธุ์​กู่​แบ่งปัน​ทุกข์​และ​สุข​ นี่​เป็น​จุด​ที่​นำมา​ใช้ประโยชน์​ได้​

มีหลายครั้ง​ที่​คนกลุ่มน้อย​ต้อง​เอนเอียง​ตาม​คน​กลุ่ม​มาก​ อย่า​ได้​เห็น​ว่า​เผ่าพันธุ์​กู่​ปากหนัก​เชียว​ ใน​ยาม​ที่​หัวหน้า​เผ่า​พวก​นี้​เผชิญ​ความเป็นความตาย​ เผ่าพันธุ์​กู่​เผชิญ​กับ​วิกฤต​ภัย​ เผ่า​ลี่​กู่​ก็​ลุกขึ้น​สู้ด้วย​

“สวี่​ชีอัน​ ข้า​จะคอย​ดู​ว่า​เจ้าจะทำลาย​หมาก​ตา​นี้​อย่างไร​!”

เก่​อ​เห​วิน​ซวน​กด​เสียง​เอ่ย​ ใน​ฐานะ​ลูกศิษย์​ขสวี่​ผิง​เฟิง เขา​เชี่ยวชาญ​ทั้ง​การ​ประสาน​พันธมิตร​ทั้ง​น้อม​สวามิภักดิ์​[1]

“ต่อให้​หลง​ถูไม่ลงมือ​ แต่ลำพัง​พลัง​ต่อสู้​ของ​เหล่า​หัว​เผ่าพันธุ์​กู่​ทั้ง​หก​เผ่า​ ก็​เพียงพอ​จะสังหาร​เขา​ได้​สบาย​ๆ หาก​ทำ​ไม่สำเร็จ​ก็​อย่า​หวัง​ว่า​จะได้​วางแผน​ขั้น​ต่อไป​”

เก่​อ​เห​วิน​ซวน​พ่น​ลมหายใจ​ออกมา​ ลุกขึ้น​ยืน​ต้านลม​ ก่อน​จะบิน​ออก​ไป​จาก​ลานบ้าน​

“พร้อม​หรือยัง​”

นิ้วมือ​หยาบกร้าน​ของ​หัว​หน้าใหญ่​จางแตะ​ที่​หลัง​คอ​ของ​สวี่ห​ลิง​อิน​

“พร้อม​อะไร​”

สวี่ห​ลิง​อิน​ถามด้วย​ความ​งุนงง​

…หัว​หน้าใหญ่​จางเงียบ​ไป​สัก​ครู่หนึ่ง​ “จำไว้​ว่า​จงข่มอารมณ์​ อย่า​คิด​วู่วาม​ แล้ว​ข้า​จะช่วย​ให้​เจ้าคว้า​พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​มาเอง​”

ผู้อาวุโส​ห้า​คน​ที่​คน​เรียงราย​อยู่​ข้างๆ​ ต่าง​เอ่ย​ตักเตือน​

“อย่า​เพิ่ง​คิดถึง​ของกิน​ ใจเย็น​ๆ ปล่อยวาง​ความคิด​ อย่า​ฟุ้งซ่าน​ จดจ่อ​กับ​ความรู้สึก​ที่​เปลี่ยนแปลง​ภายใน​ร่างกาย​”

สวี่ห​ลิง​อิน​ส่งเสียงร้อง​ ‘โอ้​’ หนึ่ง​คำ​ ก่อน​จะเริ่ม​ เพราะ​หิว​นาง​จึงกิน​บะหมี่​โร่​ว​เกิง​มาก่อน​ ตอนนี้​ยัง​อิ่ม​แปล้​อยู่​

เมื่อ​เห็น​นาง​ตอบสนอง​อย่าง​มีความสุข​เช่นนี้​ เหล่า​ผู้อาวุโส​ทั้งหลาย​ต่าง​มองหน้า​กัน​อย่าง​เคร่งขรึม​ ไม่คลาย​ความระแวง​

ประสบการณ์​ที่ผ่านมา​บอก​พวกเขา​ว่า​คน​ของ​ชน​เผ่า​ลี่​กู่​ไม่สามารถ​สงบสติอารมณ์​ได้​ เพราะ​มัวแต่​กังวล​เรื่อง​อาหาร​ของ​วันนี้​หรือ​พรุ่งนี้​

สิ่งนี้​ทำให้​พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​ยุ่งเหยิง​ สร้าง​ความเสียหาย​ต่อ​ร่างกาย​ได้​ ด้วยเหตุนี้​ชาว​เผ่า​ทั่วไป​จึงต้อง​ให้​ผู้อาวุโส​สะสางพลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​อยู่​ข้าง​กาย​

“เริ่ม​กัน​เถิด​!”

ผู้อาวุโส​ท่าน​หนึ่ง​กล่าว​

ผู้อาวุโส​พยักหน้า​ นิ้วมือ​ที่​แตะ​ต้นคอ​ของ​สวี่ห​ลิง​อิน​พองตัว​และ​หนา​ขึ้น​

บน​ผิวหนัง​อ่อนนุ่ม​ที่​ต้นคอ​ของ​สวี่ห​ลิง​อิน​ มีร่าง​ของ​หนอน​โผล่​ออกมา​ มัน​คือ​ลี่​กู่​หลอม​รวม​เข้ากับ​กระดูกสันหลัง​ของ​นาง​ เป็น​ลูก​หนอน​กู่​ที่เกิด​จาก​แม่หนอน​กู่​ของ​ลี่​น่า​

ลูก​กู่​ตัว​นี้​ถูก​ปลุก​ขึ้น​มาด้วย​พลัง​ปราณ​โลหิต​จาก​ผู้อาวุโส​ มัน​เขมือบ​พลัง​ภายนอก​อย่าง​ตะกละตะกลาม​

เมื่อ​เห็น​ดังนั้น​ ผู้อาวุโส​ก็​ถอน​มือ​ออก​ แต่​กู่​เจ้าชะตา​ที่​ตื่นขึ้น​มาแล้ว​ตัว​นี้​ยัง​กัด​กิน​ไม่หยุด​ มัน​เริ่ม​เบน​เป้าหมาย​ไป​กลืน​กิน​พลัง​ของ​คน​รอบข้าง​แทน​

อีก​ด้าน​หนึ่ง​ รูป​ม่านตา​ของ​สวี่​ชีอัน​เปลี่ยนเป็น​แนวตั้ง​สีเขียว​เหมือน​แมลง​

เขา​เห็น​สิ่งที่​เรียก​ว่า​พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​ เป็น​หิ่งห้อย​สีแดง​และ​สีดำ​บินวน​อยู่​รอบ​ๆ บางเบา​ทว่า​สะดุดตา​

ที่แท้​พลัง​จาก​เทพเจ้า​กู่​ที่​เผ่า​ลี่​กู่​ดูดกลืน​ คือ​ปราณ​โลหิต​จาก​เทพเจ้า​กู่​นั่นเอง​…สวี่​ชีอัน​กระจ่าง​ชัด​ขึ้น​มาทันที​

ปราณ​โลหิต​ของ​พลัง​เทพเจ้า​กู่​ไม่เหมือนกับ​ของ​จอม​ยุทธ์​ หาก​กลืน​กิน​โดย​ไม่ระวัง​จะกลายเป็น​สัตว์ประหลาด​ได้​ ไม่แปลกใจ​เลย​ที่​สัตว์​และ​พืช​ที่​อาศัย​อยู่​ที่นี่​ตลอด​ทั้งปี​ถึงได้​กลายเป็น​ ‘กู่​’

สวี่​ชีอัน​พยายาม​ที่จะ​ดูดซับ​ ‘หิ่งห้อย​’ สีดำ​และ​สีแดง​บางส่วน​และ​ได้​ข้อสรุป​

พวก​มัน​ไม่สามารถ​ถูก​จอม​ยุทธ์​ดูดกลืน​และ​นำไปใช้​ได้​โดยตรง​ จำต้อง​บีบ​ให้​มัน​กัด​กิน​กันเอง​ จน​กลายเป็น​สัตว์ประหลาด​ หรือไม่​ก็​ต้อง​กำจัด​พวก​มัน​ออก​ไป​ นอก​เสีย​จากว่า​ภายใน​ร่างกาย​จะมีลี่​กู่​อยู่​

ลี่​กู่​เปรียบเสมือน​ตัว​กรอง​ ‘สารพิษ​’ จาก​เทพเจ้า​กู่​

หลังจาก​ยืนยัน​แล้ว​ว่า​ปราณ​โลหิต​ของ​เทพเจ้า​กู่​ไม่สามารถ​ทำอันตราย​ต่อตัว​เขา​ได้​ สวี่​ชีอัน​ก็​ปลีกตัว​ออก​ไป​ไกล​ ปลดปล่อย​พลัง​ของ​เจ็ด​ยอด​กู่​ที่​ถูก​ผนึก​ไว้​ ปล่อย​ให้​กลืน​กิน​ปราณ​โลหิต​ของ​ปราณ​โลหิต​เทพเจ้า​กู่​โดยรอบ​

นี่​เป็นการ​หลีกเลี่ยง​การ​แช่งยิง​ขุม​พลัง​ของ​เสี่ยว​โต้​ว​ติง​

เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป​ พลัง​ของ​ปราณ​โลหิต​รอบด้าน​ก็​ถดถอย​ลง​

“อัจฉริยะ​!”

ผู้อาวุโส​รู้สึก​ตะลึง​ เขา​เห็น​ลี่​กู่​ที่อยู่​บน​ต้นคอ​ของ​สวี่ห​ลิง​อิน​กำลัง​เติบโต​ขึ้น​อย่าง​รวดเร็ว​ ราบรื่น​ ไม่มีสัญญาณของ​ความผิดปกติ​ใดๆ​

ยิ่งไปกว่านั้น​ ดู​แล้ว​ท่าทาง​จะยัง​ไม่สิ้นสุดลง​ง่ายๆ​

แต่​พลัง​ที่​นาง​ดูดกลืน​เข้าไป​ มีปริมาณ​เกิน​กว่า​ที่​ชาว​เผ่า​ลี่​กู่​ทั่วไป​ต้องการ​แล้ว​

แสดงให้เห็น​ว่า​ศักยภาพ​ของ​เด็ก​คน​นี้​มีมากกว่า​ที่​พวกเขา​คาดคิด​

“นาง​เป็น​อัจฉริยะ​ที่​ไม่เคย​มีบันทึก​ใน​ประวัติศาสตร์​”

ผู้อาวุโส​คน​หนึ่ง​กล่าว​แก้​

“นาง​ตั้ง​จิต​ให้​เป็นอิสระ​ได้​อย่างไร​”

ผู้อาวุโส​อีก​คน​หนึ่ง​รู้สึก​ประหลาดใจ​ เอ่ย​พึมพำ​กับ​ตัวเอง​ด้วย​ความ​สับสน​

จิตใจ​ของ​เด็ก​ๆ นั้น​ช่างเรียบง่าย​ ทว่า​ความคิด​นั้น​ยุ่งเหยิง​ที่สุด​ ซับซ้อน​เสีย​ยิ่งกว่า​ผู้ใหญ่​ เพราะ​พวก​เด็ก​ๆ ไม่สามารถ​ควบคุม​จินตนาการ​สุด​บรรเจิด​ของ​ตน​ได้​

“ไม่รู้​ เช่นนี้​ก็​หมายความว่า​ศิษย์​ของ​ข้า​คน​นี้​ นาง​เป็น​อัจฉริยะ​ที่​ยัง​ไม่เคย​ถูก​จารึก​ไว้​ใน​หน้า​ประวัติศาสตร์​น่ะ​สิ” ผู้อาวุโส​อีก​คน​หนึ่ง​แสดงความคิดเห็น​ของ​ตน​

“วันข้างหน้า​ข้า​จะให้​หลานชาย​แต่งงาน​กับ​นาง​” ผู้อาวุโส​ลั่นวาจา​ดังสนั่น​

ผู้อาวุโส​คนอื่นๆ​ ทำ​สีหน้า​หวาดระแวง​และ​เป็นปฏิปักษ์​ หลังจาก​สบ​สายตา​ พวกเขา​ก็​ถอยห่าง​จากกัน​ แววตา​แปร​เปลี่ยนเป็น​ความระแวดระวัง​และ​พร้อม​ต่อสู้​

ใน​ตอนนี้​เอง​ ผู้อาวุโส​ท่าน​หนึ่ง​ก็​หันไป​มอง​รอบ​ๆ

“พลัง​เทพเจ้า​กู่​รอบ​ๆ เบาบาง​ลง​งั้น​หรือ​”

…………………………………………………….

[1] 合纵连横 ประสาน​พันธมิตร​น้อม​สวามิภักดิ์​ เป็น​กลยุทธ์​การทำศึก​ใน​สมัย​ยุค​รณ​รัฐ​ (战国 425-221 B.C.) คือ​การ​รวมตัว​ของ​รัฐ​ที่​อ่อนแอ​เพื่อ​ป้องกัน​การ​รุน​ราน​และ​ผนวก​เข้ากับ​รัฐ​ที่​แข็งแกร่ง​กว่า​ ในขณะเดียวกัน​ก็​น้อม​สวามิภักดิ์​กับ​รัฐ​ที่​แข็งแกร่ง​เพื่อให้​อีก​ฝ่ายสนับสนุน​การ​โจมตี​รัฐ​อื่นๆ​ และ​ขยาย​ดินแดน​ต่อไป​

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท