บทที่ 671 เลี้ยงเจ็ดยอดกู่

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

เมื่อ​ได้ยิน​ผู้อาวุโส​ใหญ่​กับ​ผู้อาวุโส​ที่​เหลือ​ก็​เคลื่อน​สายตา​ออกจาก​ร่าง​ของ​ ‘เด็กน้อย​’ ในที่สุด​ คู่​นัยน์ตา​ตั้งตรง​ที่​เปลี่ยนเป็น​สีเขียว​กวาด​มอง​ไป​ทั่ว​อย่าง​เงียบๆ​

สีหน้าตื่น​ตะลึง​และ​ฉงน​ก็​ฉาย​อยู่​บน​ร่าง​อัน​กำยำ​ของ​ผู้อาวุโส​พร้อมกัน​

ใน​สายตา​ของ​พวกเขา​ อากาศ​รอบข้าง​สดชื่น​เช่นนี้​ พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​ที่​เคย​ลอย​ล่อง​อยู่​กลางอากาศ​เหมือน​หิ่งห้อย​ บัดนี้​เป็น​เศษซาก​กระจัดกระจาย​ น่าสงสาร​อย่าง​ไม่เคย​เป็นมา​ก่อน​

“พรสวรรค์​สินะ​…”

ใบหน้า​อัน​ตื่นเต้น​ของ​เหล่า​ผู้อาวุโส​ที่​มีผู้อาวุโส​ใหญ่​เป็น​หัวหน้า​สั่นสะท้าน​ มอง​ไป​ที่​สวี่ห​ลิง​อิน​เป็น​ตาเดียว​

หรือว่า​ ‘พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​’ รอบข้าง​จะให้​นาง​ดูดซับ​อย่างนั้น​หรือ​

นาง​ทำได้​อย่างไร​…เหล่า​ผู้อาวุโส​ทั้ง​ตื่นเต้น​และ​ประหลาดใจ​

“เอ๋​ ไม่สิ”

ผู้อาวุโส​ใหญ่​ส่ายหน้า​พร้อม​มอง​สวี่ห​ลิง​อิน​ “จริงอยู่​ที่​พลัง​ของ​หนู​น้อย​พุ่ง​ขึ้น​ฉับพลัน​ ทว่า​นาง​ยังอยู่​ขั้น​แปด​ พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​ที่นี่​ยัง​ไม่หนาแน่น​เท่า​ใน​จี๋เยวียน​ ทว่า​หาก​จะดูดซับ​ทั้งหมด​ก็​ไม่ใช่สิ่งที่​นาง​จะรับ​ไหว​”

ผู้อาวุโส​ทุกคน​ขมวดคิ้ว​ไม่เอื้อนเอ่ย​ ด้วย​สติปัญญา​ของ​พวกเขา​แน่นอน​ว่า​ไม่รู้​อะไร​เลย​

ดังนั้น​แต่ละคน​จึงหน้านิ่วคิ้วขมวด​

บัดนี้​มู่หนาน​จือ​อุ้ม​จิ้งจอก​ขาว​น้อย​กลับมา​ ผู้อาวุโส​ใหญ่​ปรายตา​มอง​หญิง​อัปลักษณ์​ผิวขาว​บริสุทธิ์​ผู้​นี้​ แล้ว​เอ่ย​ถามด้วย​ภาษาทางการ​ของ​ต้าฟ่ง​ที่​ไม่ค่อย​สันทัด​

“เจ้านั่น​ล่ะ​”

“เขา​บอก​จะไปดู​รอบ​ๆ ” มู่หนาน​จือ​ตอบ​

ผู้อาวุโส​ใหญ่​พยักหน้า​เล็กน้อย​ไม่ได้​ใส่ใจ คง​เป็น​เพียง​คนต่างถิ่น​สนใจ​จี๋เยวียน​ อยาก​สำรวจ​รอบ​ๆ เป็น​ประสบการณ์​

สำหรับ​ด้าน​ความปลอดภัย​ จอม​ยุทธ์​เหนือ​มนุษย์​ที่​สังหาร​เทพารักษ์​ของ​สำนัก​พุทธ​ อย่า​ว่าแต่​เขตป่า​ดึกดำบรรพ์​ของ​พื้นโลก​ แม้แต่​เข้าไป​ใน​จี๋เยวียน​ก็​ไม่มีปัญหา​

อีก​ด้าน​หนึ่ง​สวี่​ชีอัน​ที่​เข้าไป​ใน​ป่า​ดึกดำบรรพ์​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​บน​หิน​ผา​ ใช้วิธีฝึก​ลมหายใจ​ซึมซับ​พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​ที่​ลอย​ล่อง​อยู่​กลางอากาศ​

พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​ตรงนี้​หนาแน่น​กว่า​รอบนอก​สิบ​กว่า​เท่า​ เลือด​ลม​ภายใน​ร่าง​ของ​สวี่​ชีอัน​สูบฉีด​ใน​ทุก​การ​ซึมซับ​ พัฒนา​อย่าง​รวดเร็ว​ยิ่ง​

เลือด​ลม​ไม่เกี่ยวข้อง​กับ​พลัง​ปราณ​ มัน​เป็น​สัญลักษณ์​ของ​พลัง​ ยิ่ง​เลือด​ลม​สูบฉีด​ พลัง​กาย​ก็​จะยิ่ง​ดี​ กำลังจะ​ยิ่ง​มหาศาล​

เช่นเดียวกับ​จุดสูงสุด​ของ​ขั้น​สาม หาก​ไม่แสดง​พลัง​ปราณ​ สวี่​ชีอัน​ทั้งสอง​อาจจะ​ไม่ทรงพลัง​เฉกเช่น​หลง​ถู

“ยิ่ง​เลือด​ลม​สูบฉีด​ พลัง​ปราณ​ที่​ข้า​หลอม​ออกมา​ได้​ก็​จะยิ่ง​มาก​ กลืน​กิน​พลัง​เลือด​ลม​ของ​เทพเจ้า​กู่​มาเป็น​ของ​ตน​ให้ได้​มาก​ที่สุด​ จากนั้น​ก็​ไป​พบ​น้อง​สะใภ้เพื่อ​บำเพ็ญ​คู่​ สุดท้าย​ค่อย​ถอน​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ออกมา​ เช่นนี้​ข้า​ก็​จะอยู่​จุดสูงสุด​ของ​ขั้น​สามอย่าง​เต็มตัว​ ไม่สิ ทะลวง​จอม​ยุทธ์​ขั้น​สอง​หรือ​สามได้​ทุกเมื่อ​ แข็งแกร่ง​กว่า​อ๋อง​สยบ​แดน​เหนือ​ใน​ตอนนั้น​เสีย​อีก​”

เขา​อยู่​ใน​ท่าทาง​ฝึก​ลมหายใจ​ ดูดซับ​พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​อย่าง​ต่อเนื่อง​ หลังจาก​ผ่าน​ไป​เสี้ยว​ชั่วโมง​ เจ็ด​ยอด​กู่​ก็​หยุด​ดูดซับ​

มัน​ถึงขีดจำกัด​แล้ว​ มิอาจ​รับ​พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​ได้​อีก​

สวี่​ชีอัน​ ‘มอง​สำรวจ​’ เจ็ด​ยอด​กู่​ก็​พบ​ว่า​พลัง​ของ​ลี่​กู่​ไม่เพียง​ตาม​ตู๋​กู่​ ซือ​กู่​ และ​อั้น​กู่​ทัน​เท่านั้น​ ยัง​เหนือกว่า​เสีย​ด้วยซ้ำ​

เขา​ได้รับ​ความสามารถ​ที่สอง​ของ​ลี่​กู่​ ‘บ้าคลั่ง​! ’

มัน​กระตุ้น​เซลล์​และ​ระเบิด​พลัง​มากกว่า​ปกติ​ออกมา​ภายใน​เวลา​อัน​สั้น​ ค่าตอบแทน​คือ​หลัง​สิ้นสุด​การระเบิด​จะเข้าสู่​สภาวะ​อ่อนแรง​และ​อยาก​อาหาร​มากขึ้น​ ต้อง​สวาปาม​อาหาร​ถึงจะชดเชย​ส่วน​ที่​เสีย​ไป​ได้​ มิเช่นนั้น​จะทำให้​เลือด​ลม​อ่อนแรง​ ส่งผล​ต่อ​อายุขัย​

‘ครืน​!’

บัดนี้​เอง​ เสียงคำราม​ก็​ดัง​มาจาก​ฟากฟ้า​

เงามืด​ขนาดใหญ่​ปกคลุม​ หิน​ยักษ์​ก้อน​หนึ่ง​หมุน​ลอย​และ​กระแทก​เข้าใส่​สวี่​ชีอัน​

เขา​หัน​ตัว​เล็กน้อย​ ปล่อย​ให้​หิน​ยักษ์​เฉียด​ผ่าน​ร่าง​และ​กระแทก​ลงพื้น​เป็น​หลุม​ขนาดใหญ่​ พลิก​กลิ้ง​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ก่อน​จะชน​ต้นไม้​กลายพันธุ์​หัก​ทั้งสอง​ต้น​

พืชพันธุ์​ที่นี่​ดูดซับ​เลือด​ลม​ของ​เทพเจ้า​กู่​ก็​เปลี่ยนไป​ระดับ​หนึ่ง​เช่นกัน​ แข็งแรง​และ​หนา​กว่า​ต้นไม้​ทั่วไป​

สวี่​ชีอัน​ที่​เลี่ยง​การ​จู่โจมจาก​หิน​ยักษ์​ได้​มอง​ไป​ตรงหน้า​ กอริลลา​หลัง​ดำ​ร่าง​สูงใหญ่​ทรงพลัง​ตัว​หนึ่ง​ยืน​อยู่​ใต้​ร่มไม้​ใน​ป่าดิบ​

คู่​นัยน์ตา​ของ​มัน​แดงฉาน​ เขี้ยว​ยื่น​ออกมา​ กล้ามเนื้อ​ด้านบน​ปาก​ยาว​กระตุก​ขึ้น​ จ้องมอง​สวี่​ชีอัน​อย่าง​ดุร้าย​ เมื่อ​เห็น​มนุษย์​ผู้​นี้​มอง​มา กอริลลา​หลัง​ดำ​ก็​คำราม​พร้อม​ทุ​บอก​อัน​ล่ำสัน​

จากนั้น​คว้า​ก้อนกรวด​กำ​หนึ่ง​ขึ้น​มาจาก​พื้น​และ​ออกแรง​เขวี้ยง​ แล้ว​ลอย​พุ่ง​เข้ามา​เต็มแรง​ราวกับ​ฝน​ธนู​กระหน่ำ​เท​ใน​บัดดล​

กอริลลา​ตัว​นี้​ทรงพลัง​จน​น่า​ตกใจ​…สวี่​ชีอัน​สลาย​ร่าง​และ​โผล่​ออก​มาจาก​ใน​เงาด้านหลัง​กอริลลา​หลัง​ดำ​

เขา​ออกแรง​กำหมัด​ กระดูก​นิ้ว​ดัง​กร๊อบ​ราวกับ​ทอด​ถั่ว​ กล้ามเนื้อ​แขนขวา​ทั้งหมด​ขยายตัว​ใหญ่​ขึ้น​เป็น​สองเท่า​ ผิดรูป​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง​

บ้าคลั่ง​

ตูม​!

ท้องฟ้า​เกิด​เสียงกังวาน​จาก​หมัด​นี้​ราวกับ​ปืนใหญ่​ลั่น​กระสุน​

ร่าง​ของ​กอริลลา​หลัง​ดำ​ฉีก​ออก​เป็น​ชิ้น​ ชิ้น​เนื้อ​พุ่ง​ไป​ทั่ว​สารทิศ​ เลือด​สด​และ​อวัยวะ​กระเด็น​ไป​ทั่ว​พื้น​ กลิ่นคาว​คละคลุ้ง​ไป​ใน​ชั่วพริบตา​

“ตอนนี้​ข้า​อยาก​งัดข้อ​กับ​หลง​ถู…”

สวี่​ชีอัน​รู้สึก​ถึงความเปลี่ยนแปลง​ของ​ตน​อย่าง​มีความสุข​

แล้ว​หันกลับ​มุ่งไป​ทาง​ตะวันออก​อย่าง​ไม่รีรอ​ เดิน​ตลอด​สามสิบ​ลี้​ไป​ทาง​ตะวันออก​ก็​เข้าสู่​เขต​ที่​อบอวล​ไป​ด้วย​ ‘พลัง​แห่ง​ตู๋​กู่​’

ไม่นาน​นัก​เขา​ก็​มาถึงเขต​ที่​ปกคลุม​ด้วย​อากาศ​เป็นพิษ​และ​กิ่งก้าน​หนาแน่น​

เดิม​สวี่​ชีอัน​คิด​ว่า​เขต​ที่​ปกคลุม​ด้วย​ ‘พลัง​แห่ง​ตู๋​กู่​’ จะค่อนข้าง​มีพืชพรรณ​เบาบาง​ มีเพียง​พืช​พิษ​ส่วนหนึ่ง​ที่​อยู่รอด​ได้​ ใคร​จะรู้​ว่า​ต้นไม้​ที่นี่​สูงใหญ่​ กิ่งก้าน​ตัด​สลับ​กัน​ ปกคลุม​เป็น​ชั้น​ หนาแน่น​ไร้​ช่องลม​

กร๊อบ​!

เขา​หัก​กิ่ง​ไม้ท่อน​หนึ่ง​ แล้ว​เด็ด​ใบไม้​บน​กิ่ง​ยัด​ใส่ปาก​พร้อม​เคี้ยว​อยู่​ไม่กี่​คำ​

“มีพิษ​ ทว่า​คุณสมบัติ​ใช้ไม่ได้​”

จากนั้น​ก็​ชิมพุ่มไม้​และ​วัชพืช​ ทั้งหมด​มีพิษ​ทั้งสิ้น​ เพียงแต่​พิษ​ไม่มาก​ เพิ่ม​ประโยชน์​อะไร​ให้​ตู๋​กู่​ไม่ได้​ ทว่า​เป็น​อาหารว่าง​ที่​บรรเทา​ผลข้างเคียง​ได้​

เขา​เดิน​พลาง​ชิมตลอดทาง​ บางครั้ง​ก็​คว้า​แมลง​พิษ​ไม่ก็​เด็ด​หญ้า​พิษ​ขึ้น​มา ยิ่ง​เดิน​ลึก​เข้าไป​ คุณสมบัติ​ของ​พืช​และ​แมลง​พิษ​ก็​ยิ่ง​มาก​ พิษ​ก็​จะยิ่ง​แรง​ขึ้น​

หลังจาก​มาถึงจุด​ที่​ทำให้​เขา​กิน​อย่าง​เอร็ดอร่อย​ สวี่​ชีอัน​ก็​นั่งขัดสมาธิ​ใต้​เงาร่มไม้​ ฝึก​ลมหายใจ​อากาศ​พิษ​และ​ไอพิษ​ที่​อบอวล​อยู่​กลางอากาศ​เพื่อ​หล่อเลี้ยง​ตู๋​กู่​

ไม่นาน​นัก​เจ็ด​ยอด​กู่​ก็​มาถึงคอขวด​อีกครั้ง​ มิอาจ​รับ​ไอพิษ​ได้​อีก​

สวี่​ชีอัน​ควบคุม​ความสามารถ​ใหม่​ของ​ตู๋​กู่​…ร่าง​พิษ​!

ร่าง​พิษ​มีสอง​ความสามารถ​หลัก​นั่น​คือ​ เปลี่ยนแปลง​และ​ดูดซับ​

เปลี่ยนแปลง​ เป็นการ​เปลี่ยน​สิ่งไม่มีพิษ​ทั้งหมด​ให้​มีพิษ​และ​เปลี่ยน​สิ่งมีพิษ​ทั้งหมด​ให้​ไม่มีพิษ​

ดูดซับ​ เป็นการ​ดูดซับ​สิ่งมีพิษ​ทั้งหมด​มาใช้เอง​ นี่​รวมถึง​การ​โจมตี​เช่น​พลัง​ปราณ​และ​ปราณ​กระบี่​ของ​ศัตรู​ด้วย​ ในเวลาเดียวกัน​มัน​ยัง​ซ่อมแซม​ร่างกาย​ผ่าน​การ​ดูดซับ​สิ่งมีพิษ​ได้​อีกด้วย​

แม้จะแขน​หัก​ขา​ขาด​ ตราบใดที่​พิษ​รอบกาย​มีมาก​พอ​ก็​จะดูดซับ​พวก​มัน​และ​เปลี่ยนเป็น​ร่าง​พิษ​ได้​

ทว่า​สำหรับ​สวี่​ชีอัน​ ความสามารถ​นี้​ก็​แค่​จิ๊บจ๊อย​

จอม​ยุทธ์​ป่าเถื่อน​ไม่กลัว​แขน​หัก​ขา​ขาด​

เขา​ไป​เขต​ที่​ปกคลุม​ด้วย​พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​ห้า​จุด​ที่​เหลือ​ต่อ​ ไม่ได้​เข้าไป​ลึก​ ทว่า​ทำความเข้าใจ​เกี่ยวกับ​จี๋เยวียน​เสีย​ส่วนใหญ่​

สิ่งที่​มีชีวิต​อยู่​ใน​เผ่า​ซือ​กู่​เป็น​กลุ่ม​ซากศพ​เดิน​ได้​ มีทั้ง​สัตว์​และ​มนุษย์​ พวกเขา​จะเดิน​อย่าง​ไร้จุดหมาย​ใน​เขต​ที่​กำหนด​เหมือนกับ​ผีดิบ​ เมื่อ​พบ​สิ่งมีชีวิต​เข้าไป​ก็​จะรุม​ตอม​เหมือน​ผึ้ง​

ไม่ได้​เข้าไป​กิน​ ทว่า​จะส่งต่อ​จื่อ​กู่​เปลี่ยน​สิ่งมีชีวิต​กลายเป็น​ซากศพ​เดิน​ได้​

อากาศ​จะอบอวล​ด้วย​กลิ่น​ปราณ​เสน่หา​ใน​เขต​ที่​ฉิงกู่​อยู่​ ที่​แห่ง​นี้​มีเสียง​นก​ร้องส่ง​กลิ่นหอม​บุปผา​ พืช​แพร่พันธุ์​อย่าง​บ้าคลั่ง​ ต้นไม้ใบหญ้า​จึงเจริญงอกงาม​อย่างยิ่ง​ จะเห็น​ ‘กีฬา​หมู่​’ ได้​ทุก​แห่งหน​

เห​ล่าสัตว์​จะทำกิจกรรม​ถ่ายทอด​พันธุกรรม​ฉบับ​ดั้งเดิม​อย่าง​ใจจดใจจ่อ​

เสียง​นก​ร้อง​และ​เสียงคำราม​เป็น​ท่วงทำนอง​เพียง​หนึ่งเดียว​ของ​ที่นี่​ สวี่​ชีอัน​ลอง​ใช้วิธี​ของ​ซิน​กู่​ฟังภาษาสัตว์​

เสียง​นก​ร้อง​จ้อกแจ้ก​จอแจ​จัด​ได้​เป็น​สอง​ประเภท​

‘รีบ​มาขึ้น​ข้า​เร็ว​’ กับ​ ‘เป็นบ้า​อะไร​’

ช่างเป็น​ดินแดน​แห่ง​เสียง​นก​ร้องส่ง​กลิ่นหอม​บุปผา​เสีย​จริง​

เขต​อั้น​กู่​มีความคิด​จะสังหาร​ใน​ทุก​ฝีก้าว​ หนอน​กู่​และ​สัตว์​กู่​กระโจน​ออก​มาจาก​เงามืด​และ​โจมตี​เจ้าถึงตาย​ได้​ทุกเมื่อ​

ที่​สวี่​ชีอัน​พัก​อยู่​ใน​เขต​นี้​นาน​ที่สุด​ก็​เพราะ​มิอาจ​สงบ​ลง​เพื่อ​ฝึก​ลมหายใจ​ได้​ กระทั่ง​สังหาร​หนอน​กู่​และ​สัตว์​กู่​รอบข้าง​จึงจะมีสภาพแวดล้อม​ฝึก​ลมหายใจ​อย่าง​สงบใจ​ได้​

การปลดปล่อย​กลิ่นอาย​ระดับ​เหนือ​มนุษย์​ใช้ไม่ได้​ผล​ หนอน​กู่​กับ​สัตว์​กู่​หวาดกลัว​เพียง​ผู้​แข็งแกร่ง​ระดับสูง​ประเภท​เดียวกัน​

เขต​ที่​พลัง​ของ​ซิน​กู่​ปกคลุม​เป็นเรื่อง​ปกติ​ที่สุด​ ทว่า​ก็​แค่​ดู​ปกติ​

ในความเป็นจริง​ที่​แห่ง​นั้น​อันตราย​ที่สุด​ เพราะ​พืช​และ​สัตว์​ทั้งหมด​ต่าง​มีความคิด​ ‘เป็น​เอกภาพ​’ คล้าย​กับ​กองกำลัง​มหาศาล​ร่วมมือ​กัน​กลืน​กิน​สิ่งมีชีวิต​ที่​เข้ามา​ใน​ที่​แห่ง​นี้​อย่าง​ใกล้ชิด​

สำหรับ​พื้นที่​เช่นนี้​ สวี่​ชีอัน​ไร้​หนทาง​ใดๆ​ จึงได้​แต่​เปิด​พลัง​เทพ​วชิระ​ ปล่อย​ให้​สัตว์​กู่​และ​พืชพรรณ​ที่​ซิน​กู่​ควบคุม​โจมตี​ ต่าง​คน​ต่าง​ดูดซับ​พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​ใน​พื้นที่​

เมื่อ​ซิน​กู่​เปลี่ยนไป​อีก​ขั้น​และ​ถูก​ควบคุม​จาก​ระดับสูง​ประเภท​เดียวกัน​ ซิน​กู่​ใน​พื้น​ที่จะ​ไม่กล้า​โจมตี​เขา​อีก​

เมื่อ​สวี่​ชีอัน​ดูดซับ​พลัง​ทั้ง​เจ็ด​ของ​เทพเจ้า​กู่​ทีละ​นิด​ หลังจาก​เจ็ด​ยอด​กู่​เข้าสู่​สมดุล​ คอ​จะเกิด​อาการ​ชาฉับพลัน​

“จะเปลี่ยน​แล้ว​…”

สวี่​ชีอัน​นั่งขัดสมาธิ​บน​พื้น​ใน​บัดดล​ ตอบสนอง​เจ็ด​ยอด​กู่​ด้วยใจ​

ผู้อาวุโส​ใหญ่​พา​ผู้อาวุโส​สามและ​ผู้อาวุโส​สี่เข้าสู่​ป่า​ดึกดำบรรพ์​ นัยน์ตา​ของ​พวกเขา​ยัง​เป็น​สีเขียว​ มอง​สำรวจ​ ‘พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​’ รอบข้าง​อย่าง​ละเอียด​

“ความหนาแน่น​ของ​พลัง​เทพเจ้า​กู่​ทาง​นี้​ไม่มีความเปลี่ยนแปลง​…”

ผู้อาวุโส​ใหญ่​มอง​ไป​รอบ​ๆ สายตา​ก็​หยุดชะงัก​ที่ทาง​ตะวันออก​พร้อม​เอ่ย​ “ไปดู​ทาง​นั้น​เสียหน่อย​เถอะ​”

ผู้อาวุโส​สามเดิน​ไป​ได้​สักพัก​ก็​หยุด​ฝีเท้า​ลง​ พบ​ว่า​ ‘พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​’ ที่นี่​เบาบาง​เล็กน้อย​ ยังคง​มีพลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​รอบข้าง​อบอวล​มาเพื่อ​ชดเชย​

ผู้อาวุโส​สี่ลูบ​คาง​พร้อม​วิเคราะห์​

“มีกู่​ตัว​ใหญ่​เกิด​งั้น​หรือ​”

เขา​หมายถึง​ตัว​กู่​ระดับ​เหนือ​มนุษย์​

ใน​ประวัติศาสตร์​ที่ผ่านมา​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​ บางครั้ง​ตัว​กู่​ระดับ​เหนือ​มนุษย์​ก็​ปรากฏตัว​ใน​ส่วนลึก​ของ​จี๋เยวียน​ กำเนิด​สติปัญญา​ จากนั้น​ก็​จะออก​มาจาก​แนว​หุบเขา​ลึก​ ล่า​สิ่งมีชีวิต​รอบข้าง​เป็น​อาหาร​ ซึ่งรวมถึง​เผ่าพันธุ์​กู่​ด้วย​

ตัว​กู่​ระดับ​เหนือ​มนุษย์​สัก​ตัว​จะถือกำเนิด​ขึ้น​ใน​รอบ​หกร้อย​หรือ​เจ็ด​ร้อย​ปี​โดยประมาณ​

เผ่าพันธุ์​กู่​มีมาตรการ​รับมือ​กับ​สิ่งนี้​โดย​ทุก​หกสิบ​ปี​ผู้นำ​ทุกฝ่าย​จะรวมกลุ่ม​เข้าไป​ใน​จี๋เยวียน​ กวาดล้าง​ตัว​กู่​ที่​แข็งแกร่ง​ด้านใน​

ทว่า​นี่​มิอาจ​ทำลาย​การ​เกิด​ของ​กู่​ระดับ​เหนือ​มนุษย์​ได้​สมบูรณ์​ เพราะ​สภาวะ​ของ​เทพเจ้า​กู่​ไม่มั่นคง​ บางครั้ง​พลัง​ของ​มัน​ก็​ล้น​ออกมา​แน่นหนา​มหาศาล​ บางครั้ง​ก็​เบาบาง​

ไม่มีกฎ​ตายตัว​

นี่​ก็​นำไปสู่​ความเป็นไปได้​ที่ว่า​ช่วง​ไม่กี่​ร้อย​ปี​ก่อนหน้า​อาจจะ​ไม่มีตัว​กู่​ที่​ทรงพลัง​ถือกำเนิด​ขึ้น​ แต่​ตัว​กู่​ที่​ทรงพลัง​กลุ่ม​หนึ่ง​พลัน​ถือกำเนิด​ขึ้น​ใน​หลาย​ทศวรรษ​ให้หลัง​ ถึงขั้น​ถือกำเนิด​เป็น​สิ่งสุดยอด​ขึ้น​

ผู้นำ​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​ทุกฝ่าย​มิอาจ​เฝ้าจี๋เยวียน​ได้​ตลอดเวลา​

สายตา​ของ​ผู้อาวุโส​ใหญ่​ก็​เคร่งขรึม​ใน​ทันใด​ แล้ว​เอ่ย​เสียงทุ้ม​

“มีร่องรอย​”

สายตา​ของ​ผู้อาวุโส​สามและ​ผู้อาวุโส​สี่มองตาม​เขา​ ที่นั่น​มีชิ้น​เนื้อ​กระจัดกระจาย​ทั่ว​พื้น​ เลือด​และ​อวัยวะ​สาด​ไป​ทั่ว​

ผู้อาวุโส​ใหญ่​สาวเท้า​เข้ามา​ใกล้​ราวกับ​บิน​ คว้า​เศษเนื้อ​ชิ้น​หนึ่ง​ขึ้น​มาพร้อม​เอ่ย​

“ยัง​อุ่น​อยู่​”

ผู้อาวุโส​สามพบ​ศีรษะ​ของ​กอริลลา​หลัง​ดำ​ใน​พุ่มไม้​ด้าน​ข้าง​ ‘กอริลลา​’

ผู้อาวุโส​สี่เอ่ย​ “รวบรวม​เนื้อ​ขึ้น​มา นำ​กลับ​ไป​ต้ม​ซุป​เนื้อ​ให้​พวก​เด็ก​ๆ”

ผู้อาวุโส​ใหญ่​กับ​ผู้อาวุโส​สามเห็นพ้องต้องกัน​

หลังจาก​รวบรวม​เนื้อที่​กิน​ได้​ ผู้อาวุโส​สามจึงเริ่ม​วิเคราะห์​ ผู้อาวุโส​ใหญ่​ตั้งคำถาม​

“หาก​เป็น​กู่​เหนือ​มนุษย์​ เหตุใด​ถึงฆ่าแต่​ไม่กิน​”

ผู้อาวุโส​สามตอบคำถาม​

“อาจจะ​อิ่ม​แล้ว​กระมัง​”

ผู้อาวุโส​สี่แย้ง​

“เจ้าเคย​กิน​อิ่ม​เสีย​ที่ไหน​”

หลังจาก​เงียบ​ไป​พัก​หนึ่ง​ พวกเขา​ก็​ตัดสินใจ​เอา​เนื้อที่​ยัง​สด​กลับบ้าน​อย่าง​เร่งรีบ​

เมื่อ​หารือ​กับ​ผู้อาวุโส​สามด้านนอก​ รวมถึง​สวี่ห​ลิง​อิน​และ​มู่หนาน​จือ​ ผู้อาวุโส​ใหญ่​ก็​ออกแรง​ลูบ​ศีรษะ​ของ​สวี่ห​ลิง​อิน​ พร้อม​ยิ้ม​อย่าง​เบิกบาน​

“กลับ​ถึงบ้าน​จะต้ม​ซุป​เนื้อ​ให้​เจ้านะ​”

สวี่ห​ลิง​อิน​พยักหน้า​อย่าง​เริงร่า​พร้อม​กลืนน้ำลาย​

มู่หนาน​จือ​มอง​ฉาก​นี้​ก็​สงสัย​อย่าง​ไร้เหตุผล​ น้องสาว​ของ​สวี่​ชีอัน​ผู้​นี้​ขโมย​จาก​เผ่า​ลี่​กู่​กลับ​เมืองหลวง​หรือไม่​

เห็นได้ชัด​ว่า​เป็น​คนต่างถิ่น​ ทว่า​เมื่อ​นาง​มาถึงเผ่า​ลี่​กู่​ก็​เหมือน​ได้​กลับบ้าน​ อยู่​ร่วมกับ​คน​เผ่าพันธุ์​ลี่​กู่​ได้​กลมกลืน​อย่าง​น่าประหลาด​

“พี่ใหญ่​ของ​เจ้ายัง​ไม่กลับมา​งั้น​หรือ​”

ผู้อาวุโส​สี่เอ่ย​ถาม

“เอ๋​ ทำไม​พี่​หญ่าย​ไม่อยู่แล้ว​”

สวี่ห​ลิง​อิน​ราวกับ​เพิ่ง​รู้​ว่า​พี่ใหญ่​หาย​ไป​

ผู้อาวุโส​ใหญ่​ปรายตา​มอง​ชิ้น​เนื้อที่​อุ้ม​อยู่​ใน​อก​ก็​พลัน​ชะงัก​ ในที่สุด​ก็​เชื่อมโยง​บางอย่าง​ได้​ แล้ว​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​

“ไม่ใช่ว่า​เขา​เป็น​คน​ฆ่าเจ้านี่​หรอก​หรือ​”

ผู้อาวุโส​สี่พึมพำ​

“เป็นไปได้​”

ผู้อาวุโส​ใหญ่​ถามอีก​

“เช่นนั้น​ที่​พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​เบาบาง​ก็​เป็น​เพราะ​เขา​ใช่หรือไม่​”

ผู้อาวุโส​สี่พึมพำ​

“ไม่มีทาง​ เขา​ไม่ใช่คน​เผ่า​ลี่​กู่​แบบ​พวกเรา​ ลี่​น่า​ไม่มีทาง​ถ่ายทอดวิชา​ลับ​ใน​เผ่า​ให้​คนนอก​เผ่า​…”

พูด​ไป​พูด​มา เหล่า​ผู้อาวุโส​ต่าง​ก็​พร้อมใจกัน​เงียบ​ แล้ว​มอง​ไป​ที่​สวี่ห​ลิง​อิน​

พวกเขา​พลัน​นึก​ขึ้น​ได้​ วิชา​กู่​ของ​สวี่ห​ลิง​อิน​ศิษย์​รัก​ก็​ถ่ายทอด​มาจาก​ลี่​น่า​ เหตุผล​ก็​คือ​เด็ก​คน​นี้​มีพรสวรรค์​

หาก​ หาก​เจ้านั่น​ก็​เป็น​ผู้​มีพรสวรรค์​ใน​การ​บำเพ็ญ​ลี่​กู่​ล่ะ​

ผู้อาวุโส​ใหญ่​เปลี่ยน​สีหน้า​ “ไป​ๆๆ กลับ​ไป​ถามลี่​น่า​กัน​เถอะ​”

กลุ่ม​ผู้อาวุโส​ใหญ่​กลับ​ไป​ที่​เผ่า​ลี่​กู่​ วิ่ง​ตรง​ไป​ที่​เรือน​ใหญ่​ที่​หัวหน้า​เผ่า​อาศัย​อยู่​

“ลี่​น่า​ ลี่​น่า​! ”

ผู้อาวุโส​ใหญ่​ตะเบ็งเสียง​เรียก​อยู่​พัก​หนึ่ง​

ลี่​น่า​วิ่ง​ประคอง​ชามไม้ออกมา​ ใน​ชามพูน​ด้วย​ยา​ผี​บอก​ที่​เกือบจะ​ล้น​ออกมา​

“อะไร​กัน​…”

ผู้อาวุโส​ใหญ่​สาวเท้า​รุด​ไป​ข้างหน้า​ ถลึงตา​ด้วย​สีหน้า​ตื่นตัว​ “เจ้าถ่ายทอดวิชา​ลับ​ของ​ลี่​กู่​ให้​สวี่​ชีอัน​นั่น​แล้ว​ใช่หรือไม่​”

ลี่​น่ากิน​พลาง​ตอบคำถาม​ “เปล่า​ ข้า​มีห​ลิง​อิน​เป็น​ศิษย์​คนเดียว​”

ผู้อาวุโส​เอ่ย​แก้​ทันที​ “เจ้าเป็น​เพียง​ผู้​ถ่ายทอด​ให้​ พวก​ข้า​ต่างหาก​เป็น​อาจารย์​ของ​นาง​”

ผู้อาวุโส​ต่าง​โล่งใจ​พร้อมกับ​ผิดหวัง​เล็กน้อย​

โล่งใจ​เพราะ​หญิงสาว​ผู้​โง่เขลา​เช่น​ลี่​น่า​ไม่ได้​เที่ยว​แพร่งพราย​วิชา​ลับ​ใน​เผ่า​อย่าง​เสียสติ​

ผิดหวัง​ที่​หาก​เรื่อง​นี้​เป็นจริง​ เช่นนั้น​สวี่​ชีอัน​อาจจะ​มีพรสวรรค์​ที่​น่ากลัว​กว่า​สวี่ห​ลิง​อิน​

“เหตุใด​สวี่​หนิง​เยี่ยน​ไม่กลับมา​”

ลี่​น่ามอง​ลอด​ไป​ทาง​ด้านหลัง​ด้วย​สีหน้า​เบิกบาน​ “ท่าน​พ่อ​กลับมา​แล้ว​”

ทุกคน​หันไป​มอง​ข้างหลัง​ หลง​ถูเดิน​เท้าเปล่า​เข้ามา​ด้วย​จังหวะ​เท้า​มั่นคง​

เมื่อ​เดิน​ใกล้​เข้ามา​ ผู้อาวุโส​ใหญ่​และ​คนอื่น​ก็​พบ​ว่า​หลง​ถูสีหน้า​เคร่งขรึม​

“มีเรื่อง​อะไร​หรือ​”

ผู้อาวุโส​ใหญ่​ค้ำ​ไม้เท้า​พร้อม​เอ่ย​ถาม

นี่​ไม่จำเป็นต้อง​ใช้สมอง​ตราบใดที่​รู้จัก​หลง​ถูมาก​พอ​

หลง​ถูพยักหน้า​ “มีคนต่างถิ่น​บอ​กว่า​มาจากอ​วิ๋น​โจว​ หวัง​ให้​พวกเรา​ยกทัพ​สู้กับ​ต้าฟ่ง”​

เขา​อธิบาย​เรื่อง​การประชุม​และ​เงื่อนไข​ของ​โหร​จากอ​วิ๋น​โจว​กับ​เหล่า​ผู้อาวุโส​อย่าง​ละเอียด​

“เจ้ามีความเห็น​อย่างไร​”

ผู้อาวุโส​ใหญ่​ไม่ได้​บุ่มบ่าม​ตัดสินใจ​ ทว่า​ถามความเห็น​จาก​หลง​ถูก่อน​

“ไม่สู้แน่นอน​ สู้ไป​ก็​ไม่เหลือ​ศิษย์​แล้ว​ ไม่รู้​ด้วยซ้ำ​ว่า​จะตาย​อีก​เท่าไร​ นอกจากนี้​ลูกศิษย์​ใหญ่​ของ​ท่าน​โหราจารย์​อะไร​นั่น​ก็​ไม่คุ้นเคย​กับ​พวกเรา​ เขา​พูด​ประโยค​เดียว​ก็​ไม่มีเหตุผล​ที่​พวกเรา​จะโง่ทำตาม​”

หลง​ถูเอ่ย​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​

“ทว่า​หาก​เป็น​เรื่องจริง​ อีก​หก​เผ่า​ที่​เหลือ​จะต้องสู้​เป็นแน่​” ผู้อาวุโส​ใหญ่​สรุป​

“หาก​พวกเรา​ไม่สู้ แล้ว​เกิด​ชนะ​ในวันหน้า​ พวกเรา​ก็​จะไม่ได้ประโยชน์​ ตำแหน่ง​ของ​เผ่า​ลี่​กู่​ใน​เผ่าพันธุ์​กู่​ก็​จะลดลง​เช่นกัน​” ผู้อาวุโส​รอง​เอ่ย​

หลง​ถูเอ่ย​เสียงดัง​

“ไม่กลัว​ รอ​ห​ลิง​อิน​เลื่อนขั้น​เป็น​เหนือ​มนุษย์​ในอนาคต​ เผ่า​ของ​พวกเรา​ก็​จะมีเหนือ​มนุษย์​สามคน​ สถานะ​มีแต่​สูงไม่มีต่ำ​ ข้า​คิด​ไว้​นาน​แล้ว​ แม้จะไม่สู้ พวกเรา​ก็​เป็น​เผ่าพันธุ์​กู่​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​”

ใบหน้า​ชรา​ของ​ผู้อาวุโส​ใหญ่​ยิ้ม​เบิกบาน​

“สมกับ​เป็น​เจ้าจริงๆ​ เจ้าเด็ก​เหลือขอ​เลือก​ไม่ผิดที่​ให้​เจ้าเป็น​หัวหน้า​เผ่า​ใน​ตอนนั้น​ ดู​สายตา​ข้า​สิว่า​ชั่วร้าย​เพียงใด​”

มู่หนาน​จือ​กุมขมับ​และ​ถอยหลัง​หลาย​ก้าว​

หลง​ถูยิ้มแสยะ​ แล้ว​สีหน้า​ก็​พลัน​เคร่งขรึม​

“พวกเขา​เตรียม​ออ​กล่า​สวี่​ชีอัน​ ข้า​บอ​กว่า​จะไม่ยุ่ง​ ทว่า​ไม่ยุ่ง​ไม่ได้​จริงๆ​ เรื่อง​นี้​ไม่ตลก​เอา​เสีย​เลย​”

ทันทีที่​เขา​พูด​จบ​ก็​ขมวดคิ้ว​สักพัก​

“พวกเขา​มาแล้ว​”

ทันทีที่​สิ้น​เสียง​ ร่มเงา​ของ​ต้นไม้​ใหญ่​ตรงหน้า​ เงาบิดเบี้ยว​ปรากฏ​เงามืด​อย่าง​ช้าๆ

เมื่อ​เงามืด​หาย​ไป​ ร่าง​ทั้ง​ห้า​ก็​ปรากฏ​อยู่​ใต้​ร่มเงา​

ซากศพ​เดิน​ได้ที่​สวม​ผ้าคลุม​ หลวนอวี้​ใน​ชุด​เกาะ​อก​สีขาว​และ​กางเกงชั้นใน​พร้อม​กระโปรง​ยาว​ผ้า​พลิ้ว​สวม​อยู่​ด้านนอก​ ฉุน​เอียน​ห้อย​งูน้อย​ตัว​เรียว​ยาว​ไว้​บน​หู​ทั้งสอง​ข้าง​ ป๋า​จี้ที่อยู่​ใน​ชุด​คลุม​ยาว​เย็บ​จาก​หนัง​สัตว์​ และ​แม่ย่า​เทียน​กู่​ผม​เงิน​ทั่ว​ทั้ง​ศีรษะ​พร้อม​รอยย่น​กระจาย​อยู่​ทั่ว​

กระทั่ง​หัวหน้า​ของ​เผ่า​อั้น​กู่​ เขา​ไม่ได้​ปรากฏตัว​ แต่​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​ร่มเงา​เป็น​อย่าง​ดี​

ซากศพ​เดิน​ได้​ใน​ชุด​คลุม​เอ่ย​อย่าง​แผ่วเบา​

“คน​สกุล​สวี่​อยู่​ที่ไหน​”

………………………………………

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท