บทที่ 677 ทักษะเจรจาต่อรอง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

มาเร็ว​จริงๆ​…สวี่​ชีอัน​ขมวดคิ้ว​ เขา​ยัง​ไม่ทัน​ได้​พูด​โน้มน้าว​ผู้นำ​หลวนอวี้​และ​ป๋า​จี้ให้​ยินยอม​อย่าง​สมบูรณ์​เลย​ เดิมที​คิด​ว่า​จะโน้ว​น้าว​คน​เหล่านี้​ก่อน​ แล้ว​ค่อย​ให้​พวกเขา​ไป​ช่วย​โน้มน้าว​เผ่า​ซือ​กู่​ เป็นการ​ใช้กำลัง​ส่วนใหญ่​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​มากดดัน​คน​

ไม่คิด​เลย​ว่า​โหย​วซือ​จะมาเร็ว​ขนาด​นี้​ แถมยัง​มาใน​รูปแบบ​ของ​ศพ​นก​ตรงๆ​ ด้วย​

ศพ​นก​บินวน​อยู่​กลางอากาศ​พัก​หนึ่ง​ เมื่อ​เห็น​ว่า​สถานการณ์​เบื้องล่าง​สงบ​ลง​แล้ว​ อีก​ทั้ง​ผู้นำ​ร่วม​เผ่า​แต่ละคน​ก็​ปลอดภัย​ไร้​อันตราย​ใดๆ​ มัน​จึงบินลง​มายัง​เบื้องล่าง​แต่​ไม่ได้​เข้าใกล้​นัก​ ทว่า​มองดู​พวก​แม่ย่า​เทียน​กู่​จาก​ที่​ไกลๆ​ แทน​

“พวก​เจ้าถูก​จับตัว​แล้ว​สินะ​”

ศพ​นก​บิน​อยู่​กลางอากาศ​แล้ว​พูด​ภาษามนุษย์​ออกมา​ เสียง​ของ​มัน​แหบ​พร่า​และ​ทุ้ม​ต่ำ​ นั่น​ก็​คือ​โหย​วซือ​

หลังจาก​จื่อ​กู่​ที่​เป็น​กาฝาก​เข้าไป​อยู่​ใน​ร่าง​ของ​มนุษย์​ศพ​ถูก​ฆ่า มัน​ก็​กลายเป็น​นก​ศพ​เพื่อ​มาตรวจสอบ​สถานการณ์​ทันที​

ซึ่งสถานการณ์​ตรงหน้า​ก็​ทำให้​มัน​โล่งอก​

ปรมาจารย์​ซือ​กู่​มีข้อดี​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ใน​เรื่อง​ของ​ความอยู่รอด​ปลอดภัย​ ขอ​เพียง​หา​สถาน​ที่ซ่อน​ร่างกาย​ไม่เจอ​ ไม่ว่า​หุ่นเชิด​จะตาย​ไป​สัก​เท่าไหร่​ ร่าง​จริง​ก็​ยัง​สามารถ​ปลอดภัย​ไร้​อันต​รายได้​เสมอ​

สวี่​ชีอัน​มอง​พิจารณา​เขา​ นก​ยักษ์​ของ​โหย​วซือ​ก็​มอง​ตอบ​มานิ่ง​ๆ

“พวกเรา​บรรลุ​ข้อตกลง​กัน​แล้ว​” สวี่​ชีอัน​บอก​

โหย​วซือ​ไม่สนใจ​เขา​ ดวงตา​ว่างเปล่า​ตายด้าน​นั้น​หันไป​มอง​แม่ย่า​เทียน​กู่​แทน​ ซึ่งนาง​ก็ได้​เล่าเรื่อง​ที่​พูด​กับ​ผู้นำ​ทั้งหลาย​ให้​โหย​วซือ​ฟังจน​หมดเปลือก​

นก​ยักษ์​เอน​ศีรษะ​มอง​ไป​ยัง​พวก​หลวนอวี้​ หลังจาก​ได้รับ​คำตอบ​ยืนยัน​แล้ว​ มัน​ก็​นิ่ง​คิด​ไป​พัก​หนึ่ง​

“ข้า​ไม่มีเหตุผล​ที่จะ​ต่อต้าน​ พวก​เจ้าและ​ต้าฟ่ง​ผูก​พันธมิตร​กัน​ นั่น​เป็นเรื่อง​ของ​พวก​เจ้า แต่​เผ่า​ซือ​กู่​เป็น​พันธมิตร​กับ​อวิ๋น​โจว​ นี่​ก็​เป็นเรื่อง​ของ​เผ่า​ซือ​กู่​ พวกเรา​ไม่ยุ่งเกี่ยว​กัน​”

พวก​หลวนอวี้​ขมวดคิ้ว​ แต่ไหนแต่ไร​เผ่าพันธุ์​กู่​จะโจมตี​และ​ล่าถอย​ไป​พร้อมกัน​เสมอ​ จึงไม่มีเหตุผล​ให้​มาพบ​เจอกัน​ใน​สนามรบ​

สวี่​ชีอัน​ชี้ไป​ที่​หุ่นเชิด​มนุษย์​ศพ​ข้าง​กาย​ แล้ว​เอ่ย​ช้าๆ ไม่รีบร้อน​

“ข้า​ไม่ต้องการ​กองกำลัง​จาก​เจ้า ขอ​แค่​เจ้าไม่เป็น​พันธมิตร​กับ​อวิ๋น​โจว​ หุ่นเชิด​ตัว​นี้​ก็​มอบให้​เจ้าได้​ หุ่นเชิด​ที่​มีร่าง​วิญญาณ​ขั้น​สาม เป็น​สิ่งแลกเปลี่ยน​ที่​พอแล้ว​หรือไม่​”

โหย​วซือ​ไม่แม้แต่​จะเหลือบมอง​หุ่นเชิด​ เขา​ยิ้มเยาะ​

“เจ้าดูแคลน​เผ่า​ซือ​กู่​ของ​ข้า​มากเกินไป​แล้ว​ หุ่นเชิด​ที่อยู่​ใน​ขั้น​เดียวกัน​ เผ่า​ของ​ข้า​ก็​มีอยู่ตัว​หนึ่ง​”

เขา​คือ​ปรมาจารย์​ซือ​กู่​ขั้น​สามที่​ถูก​จำกัด​ใน​ด้าน​ระดับ​ขั้น​ ใน​หนึ่ง​ครั้ง​จึงควบคุม​มนุษย์​ศพ​ระดับ​นี้​ได้​แค่​หนึ่ง​ตัว​ พร้อมกับ​ขั้น​สี่อีก​สอง​สามตัว​

หาก​มิใช่เพราะ​แบบนี้​ ผู้​ที่มา​เยือน​เมื่อ​ครู่​คง​ไม่ใช่ ‘เทพ​หก​ดารา​’ แต่​เป็น​หุ่นเชิด​ขั้น​สามอีก​ตัว​แล้ว​

เผ่า​ซือ​กู่​ที่​มีชื่อ​ใน​ด้าน​การฝึกฝน​และ​เลี้ยง​ศพ​นั้น​มีประวัติ​ยาวนาน​เป็น​พันปี​ แล้ว​เหตุใด​จึงจะมีมนุษย์​ศพ​เหนือ​สามัญเพียง​ตัว​เดียวกัน​เล่า​ มนุษย์​ศพ​ขั้น​สามที่​ทิ้ง​ไว้​ใน​เผ่า​นั้น​ไม่ใช่สาย​จอม​ยุทธ์​ แต่​เป็น​ศพ​ของ​ผู้​แข็งแกร่ง​ใน​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​

เป็น​เช่น​ดัง​ว่า​ เมื่อ​ดู​จาก​ความโกรธแค้น​ของ​เผ่า​ซือ​กู่​ที่​มีต่อ​ต้าฟ่ง​แล้ว​ หาก​คิด​จะทำให้​เขา​ละทิ้ง​ความเกลียดชัง​ใน​อดีต​ คง​เป็นเรื่อง​ยาก​มาก.​..สวี่​ชีอัน​เตรียมใจ​ใน​เรื่อง​นี้​มานาน​แล้ว​

หลง​ถูขมวดคิ้ว​แล้ว​เอ่ย​เสียง​ขรึม​

“เว่ยเยวียน​ตาย​ไป​แล้ว​ ความแค้น​สังหาร​บิดา​ของ​เจ้าจบสิ้น​ไป​ตั้ง​นาน​แล้ว​ โหย​วซือ​ อย่า​ให้​ความคิด​หมกมุ่น​ของ​เจ้าเพียง​คนเดียว​มาทำให้​เผ่า​ซือ​กู่​เอาใจออกห่าง​จาก​เผ่าพันธุ์​กู่​เลย​”

“ความแค้น​สังหาร​บิดา​ มิใช่พูดว่า​ลืม​ก็​ลืม​ได้​ หรือ​บอ​กว่า​จบ​ก็​จะจบ​ได้​หรอก​” โหย​วซือ​แค่น​ยิ้ม​ ดวงตา​ว่างเปล่า​กวาด​มอง​ทุกคน​

“ผู้​ที่​เอาใจออกห่าง​จาก​เผ่าพันธุ์​กู่​คือ​พวก​เจ้า หลวนอวี้​ เจ้าลืม​เรื่อง​ที่​ถูก​กองทัพ​ต้าฟ่ง​จับ​ไป​เป็น​เชลย​และ​ผู้​คนใน​เผ่า​ที่​ถูก​ส่งเข้า​สำนัก​สังคีต​แล้ว​หรือ​ ป๋า​จี้ คนใน​เผ่า​ห้า​พัน​คน​ถูก​สังหาร​ เผ่า​ตู๋​กู่​ของ​เจ้า จนถึง​บัดนี้​ล้วน​เป็น​เผ่า​ที่​มีคน​น้อยที่สุด​แล้ว​ เจ้าอยาก​เป็น​พันธมิตร​กับ​ต้าฟ่ง​ แล้ว​เคย​คิด​ว่า​คนใน​เผ่า​จะเห็นด้วย​หรือไม่​ และ​ยังมี​ลี่​กู่​ อั้น​กู่​ ซิน​กู่​ เทียน​กู่​ ปี​นั้น​เผ่า​ของ​พวก​เจ้าตาย​อยู่​ที่​ยุทธการ​ด่าน​ซาน​ไห่​ไป​ก็​ไม่น้อย​ ใคร​กัน​แน่​ที่​กำลัง​เป็นปฏิปักษ์​กับ​เจตจำนง​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​?”

หลวนอวี้​และ​ป๋า​จี้มีสีหน้า​ลำบากใจ​ทันที​ พวกเขา​คน​หนึ่ง​โลภ​ใน​ร่างกาย​ของ​สวี่​ชีอัน​ ส่วน​อีก​คน​โลภ​ใน​สมุนไพร​พิษ​ขั้นสูง​ ภายในใจ​พลัน​บังเกิด​ความขัดแย้ง​และ​ลังเล​ขึ้น​มา

คำพูด​ของ​โหย​วซือ​เหมือนกับ​มีด​กรีด​ใจพวกเขา​ มัน​ทำให้​พวกเขา​ทั้ง​กังวล​และ​ต่อต้าน​

เมื่อ​เทียบ​กับ​กองกำลัง​หลัก​แล้ว​ ประชากร​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​น้อย​จน​น่าสงสาร​ แต่​ทุก​คนใน​เผ่าพันธุ์​กู่​ล้วน​เป็น​นักรบ​ คนใน​เผ่า​แต่ละคน​ล้วนแต่​ฝึก​วิชา​กู่​ กำลัง​ต่อสู้​ของ​แต่ละ​เผ่า​ก็​แข็งแกร่ง​จน​น่ากลัว​

สิ่งนี้​หมายความว่า​พวก​ผู้นำ​นั้น​ไม่เหมือนกับ​จักรพรรดิ​ของ​ภาค​กลาง​ที่​สามารถ​ฆ่าคน​ยึดทรัพย์​ตามอำเภอใจ​กับ​คนธรรมดา​ได้​

เพราะ​คนใน​เผ่า​ไม่ใช่ลูก​แกะ​ หาก​ผู้นำ​ทรยศ​คนใน​เผ่า​ พวกเขา​ก็​จะไป​ขอความช่วยเหลือ​เผ่า​อื่นๆ​ เพื่อ​ล้มล้าง​ผู้นำ​คน​นั้น​ได้​ หรือไม่​ก็​ขับไล่​ออกจาก​ซินเจียง​ตอน​ใต้​แล้ว​ให้​ไป​ใช้ชีวิต​อยู่​ที่อื่น​

“การ​ผนึก​เทพเจ้า​กู่​เป็น​เรื่องใหญ่​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​ อยู่​เหนือ​บุญคุณ​ความแค้น​ของ​คน​เพียง​คนเดียว​”

ปรมาจารย์​ซิน​กู่​ฉุน​เยียน​เอ่ย​เสียง​เรียบ​

เพียง​ประโยค​นี้​ก็​หยุด​ความ​แข็งกร้าว​ของ​โหย​วซือ​ไป​ได้​ และ​ทำให้​เขา​เงียบ​ไป​ชั่วขณะ​

ผู้หญิง​คน​นี้​เฉลียวฉลาด​ สมกับ​เป็น​ปรมาจารย์​ซิน​กู่​…สวี่​ชีอัน​เหลือบมอง​นาง​แล้ว​พยักหน้า​เล็กน้อย​

โหย​วซือ​เงียบ​ไป​พัก​หนึ่ง​แล้ว​เอ่ย​ว่า​

“ได้​ ละทิ้ง​บุญคุณ​ความแค้น​ไป​ พูดถึง​แค่​เรื่อง​การ​ผนึก​เทพเจ้า​กู่​ การ​เป็น​พันธมิตร​กับ​เทพเจ้า​กู่​ก็​สามารถ​ผนึก​เทพเจ้า​กู่​ได้​เช่นกัน​ อีก​ทั้ง​สถานการณ์​ของ​ต้าฟ่ง​ ทุกคน​คงจะ​เข้าใจ​กัน​แล้ว​ เช่นนั้น​เหตุใด​จึงเดิม​พันทาง​ฝั่งผู้​ที่​อ่อนแอ​อย่าง​เห็นได้ชัด​เล่า​ อีก​อย่าง​ หาก​เลือก​เป็น​พันธมิตร​กับ​อวิ๋น​โจว​ คนใน​เผ่า​มีแต่​จะยินดี​ปรีดา​ ตื่นเต้น​จน​เลือดร้อน​ และ​ก็​มีแต่​จะลับ​มีด​ให้​คม​ยิ่งขึ้น​เท่านั้น​ แต่​หาก​เป็น​พันธมิตร​กับ​ต้าฟ่ง​ก็​ต้อง​เจอ​กับ​การ​เอาใจออกห่าง​ของ​คนใน​เผ่า​ด้วย​”

นอกจาก​หลง​ถูแห่ง​เผ่า​ลี่​กู่​แล้ว​ ผู้นำ​แต่ละคน​ก็​พา​กัน​ขมวดคิ้ว​และ​เงียบงัน​ไม่พูดจา​

ความหวั่นไหว​และ​ความลังเล​ของ​พวกเขา​แทบจะ​เขียน​ชัด​อยู่​บน​ใบหน้า​ คำพูด​ของ​โหย​วซือ​ทั้ง​เอ่ยถึง​เรื่อง​ความเกลียดชัง​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​ต่อ​ต้าฟ่ง​ และ​ชี้ชัด​ถึงสถานการณ์​ที่​ไม่เอื้ออำนวย​ซึ่งพวกเขา​ต้อง​เผชิญ​หาก​ช่วยเหลือ​ต้าฟ่ง​

พูด​ตามตรง​ แม้จะสลัด​ความเกลียดชัง​ทิ้ง​ไป​ แต่​เพียงแค่​ชั่งน้ำหนัก​ข้อดี​ข้อเสีย​ดู​ หาก​สถานการณ์​ใน​ต้าฟ่ง​เลวร้าย​แบบ​ที่​เก่​อ​เห​วิน​เซวียน​บอก​มาจริงๆ​ การ​ที่​เจ้าแห่​งอ​วิ๋น​โจว​ซึ่งมีสำนัก​พุทธ​คอย​ช่วยเหลือ​จะล้มล้าง​ราชสำนัก​ต้าฟ่ง​ ก็​มีความเป็นไปได้​มากขึ้น​

ยิ่ง​บวก​กับ​ความเห็น​ที่​เอนเอียง​ไป​ส่วนใหญ่​ เช่นนั้น​ก็​แทบจะ​แน่นอน​ได้​เลย​

หลง​ถูเมื่อ​เห็น​เช่นนั้น​ก็​เอ่ย​เตือน​พวกเขา​

“พวก​เจ้าอย่า​ลืม​สถานการณ์​ของ​ตัวเอง​ หาก​มิใช่เพราะ​สวี่​ชีอัน​ออม​มือ​ พวก​เจ้าก็​คง​ตาย​ไป​นาน​แล้ว​”

โหย​วซือ​เหลือบมอง​สวี่​ชีอัน​แล้ว​ยิ้ม​เย็น​

“อ้อ​ ข้า​ลืม​ไป​ ตอนนี้​พวก​เจ้าเป็น​เชลย​ของ​เขา​ ทำได้​แค่​ตอบรับ​ ไม่อาจ​ปฏิเสธ​”

ผู้นำ​แต่ละคน​มอง​ไป​ยัง​สวี่​ชีอัน​แล้ว​พา​กัน​ขมวดคิ้ว​

สมอง​ของ​เผ่า​ลี่​กู่​นี่​ไม่มีให้​ใช้จริงๆ​…สวี่​ชีอัน​ถอนหายใจ​อยู่​ใน​ใจ

ที่​เขา​ออม​มือ​และ​ยอม​นั่งลง​พูดคุย​กับ​ผู้นำ​ทุกคน​ไม่ใช่เพราะ​ต้อง​การตอบแทน​ความแค้น​ด้วย​ความดี​จริงๆ​ หรอก​ แต่​เพราะ​ต้องการ​ให้​พวกเขา​ยกเลิก​การ​เป็น​พันธมิตร​กับ​กองทัพ​กบฏ​อวิ๋น​โจว​ ดังนั้น​ ‘น้ำใจ​’ นี้​จึงเป็น​บันได​ขั้น​หนึ่ง​

เพื่อ​ทำให้​เหล่า​ผู้นำ​ยินดี​นั่งลง​พูดคุย​ต่อรอง​กัน​เท่านั้น​

และ​ใน​ฉาก​สุดท้าย​ เขา​ก็​จะหยิบยก​ผลประโยชน์​ที่​เกี่ยวข้อง​กัน​ออกมา​ เผ่าพันธุ์​กู่​รับปาก​ว่า​จะไม่เป็น​พันธมิตร​กับ​อวิ๋น​โจว​ และ​ส่งกำลัง​มาช่วยเหลือ​ต้าฟ่ง​ ไม่ใช่เพราะว่า​สวี่​ชีอัน​ไม่สังหาร​พวกเขา​

หาก​นี่​เป็นการ​ขู่กรรโชก​ ก็​สามารถ​ใช้เหตุผล​ที่ว่า​ ‘ชีวิต​ของ​พวก​เจ้าอยู่​ใน​กำมือ​ข้า​ออกมา​ได้​’

หาก​อยาก​ให้​เผ่าพันธุ์​กู่​ผูก​พันธมิตร​กับ​ต้าฟ่ง​ด้วย​ความจริงใจ​ เหตุผล​นี้​ก็​จะหยิบยก​ออกมา​ไม่ได้​ การข่มขู่​เช่นนี้​ใช้ได้​กับ​งาน​ที่​ทำ​เพียง​ครั้ง​เดียว​จบ​เท่านั้น​ หาก​นำมา​ใช้กับ​การผูก​พันธมิตร​ ไม่แน่​คนอื่น​เขา​อาจจะ​ไป​ร่วมมือ​กับ​อวิ๋น​โจว​แบบ​ลับ​ๆ แล้ว​หัน​กลับมา​แทงข้างหลัง​เจ้าก็​เป็นได้​

โหย​วซือ​เหลือบมอง​หลง​ถู ดวงตา​ว่างเปล่า​ตายด้าน​ไร้​ซึ่งอารมณ์​ แต่​ตัวจริง​ของ​เขา​ย่อม​มีความ​เย้ยหยัน​และ​ยิ้มเยาะ​อยู่​เต็ม​หน้า​แน่นอน​

แค่​ชี้นำ​ธรรมดาๆ​ ก็​ทำให้​เผ่า​ลี่​กู่​จอม​โง่เขลา​ติดกับ​แล้ว​

สวี่​ชีอัน​สมอง​แล่น​อย่าง​รวดเร็ว​ พริบตาเดียว​ก็​คิดถึง​ความเป็นไปได้​หลาย​แบบ​ ซึ่งรวมถึง​การ​กำจัด​ปัญหา​ให้​สิ้นซาก​

ด้วย​สภาพ​ใน​ตอนนี้​ อั้น​กู่​เขา​สังหาร​ไม่ได้​แน่​ หนี​เร็ว​เกินไป​ ซิน​กู่​ ตู๋​กู่​ ฉิงกู่​ ผู้นำ​ของ​สามเผ่า​นี้​พอ​จะสังหาร​ได้​อยู่​ แต่​ถ้าเป็น​เช่นนี้​ เผ่า​ลี่​กู่​คงจะ​สู้ตาย​กับ​ข้า​แน่​…เช่นเดียวกัน​ ข้า​ก็​ไม่อยาก​เปิดฉาก​สังหาร​ครั้ง​ใหญ่​หรอก​ ถ้าเป็น​เช่นนั้น​ เผ่าพันธุ์​กู่​คง​ถูก​ผลัก​ไป​อยู่​ฝ่ายตรงข้าม​โดย​สมบูรณ์​ อีก​อย่าง​ แม่ย่า​เทียน​กู่​ก็​ไม่ได้​เอ่ยปาก​อะไร​มาโดยตลอด​ จะสงบ​เกินไป​แล้ว​

นาง​เชื่อมั่น​ใน​ตัว​ข้า​ขนาด​นั้น​เลย​หรือ​ นาง​ไม่กลัว​ว่า​หาก​บีบ​ข้า​จนมุม​ จะทำให้เกิด​ฉาก​ล่า​สังหาร​ขึ้น​หรือ​? พวกเรา​เพิ่งจะ​เจอ​หน้า​กัน​ นาง​ก็​ไม่ได้​รู้จัก​ข้า​ขนาด​นั้น​ นาง​กลับ​ใจเย็น​เกินไป​แล้ว​

เว้น​แต่ว่า​นาง​จะมีไพ่​ลับ​ ดังนั้น​จึงไม่กล้ว​ข้า​ล้มกระดาน​

สวี่​ชีอัน​หรี่ตา​ลง​แล้ว​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ขึ้น​มาทันใด​

“ทุกคน​อาจ​ยัง​ไม่รู้​ สำนัก​พุทธ​นั้น​ นอกจาก​พระโพธิสัตว์​เจีย​หลัว​ซู่กับ​จอม​ยุทธ์​ภิกษุ​จำนวน​น้อย​นิด​แล้ว​ ก็​ไม่มีกำลัง​ยื่นมือ​มาทำศึก​ใน​ภาค​กลาง​หรอก​ เพราะ​ปีศาจ​ทางใต้​กำลัง​ก่อเรื่อง​ หาก​ไม่เชื่อ​ ภูเขา​สือ​ว่าน​ก็​อยู่​ที่​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ ห่าง​จาก​เผ่าพันธุ์​กู่​ไม่ถือว่า​ไกล​นัก​ พวก​เจ้าลอง​ส่งคน​ไป​สืบ​ดู​ก็​รู้​เอง​”

ผู้นำ​แต่ละคน​ผงะ​ไป​เล็กน้อย​ ส่วน​โหย​วซือ​หัน​หัว​นก​มาอย่าง​ฉับพลัน​ ดวงตา​นิ่ง​สนิท​ว่าง​ไห​วง​จ้องเขม็ง​มาที่​เขา​

ฉุน​เยียน​พยักหน้า​เบา​ๆ “เรื่อง​นี้​พวกเรา​จะส่งคน​ไป​ตรวจสอบ​ดู​แน่​”

หาก​เรื่อง​นี้​เป็น​ความจริง​ เช่นนั้น​สถานการณ์​ใน​ภาค​กลาง​ก็​ไม่ได้​แน่นอน​แบบ​ที่​เก่​อ​เห​วิน​เซวียน​พูด​แล้ว​ แม้จะไม่คิด​เรื่อง​การ​เป็น​พันธมิตร​กับ​ต้าฟ่ง​ แต่​พวกเขา​ก็​ต้อง​พิจารณา​ใหม่​อีกที​ถึงความเสี่ยง​ใน​การ​ไป​โจมตี​ต้าฟ่ง​

สวี่​ชีอัน​เอ่ย​ต่อ​

“อูฐ​ที่​ผอม​ตาย​ก็​ยัง​ตัว​ใหญ่​กว่า​ม้า อวิ๋น​โจว​มีกองทัพ​ที่​แข็งแกร่ง​จริงๆ​ อีก​ทั้ง​ต้าฟ่ง​ก็​มีทั้ง​ศึก​นอก​ศึก​ใน​ แต่​นี่​ไม่ได้​หมายความว่า​ต้าฟ่ง​จะต้อง​แพ้​แน่ๆ​ ไม่อย่างนั้น​อวิ๋น​โจว​ก็​คง​ส่งคน​มาตระเวน​พูด​โน้มน้าว​ใน​เผ่าพันธุ์​กู่​ไป​ทั่ว​แล้ว​สิ”

เมื่อ​เห็น​เหล่า​ผู้นำ​กำลัง​ครุ่นคิด​ สวี่​ชีอัน​ก็​ถือโอกาส​นี้​ตี​เหล็ก​ตอน​ยัง​ร้อน​อยู่​

“ภายใน​สถานการณ์​เช่นนี้​ การ​เข้ามา​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​คือ​กุญแจ​สำคัญ​ใน​การ​เปลี่ยน​สถานการณ์​รบ​ หาก​เผ่าพันธุ์​กู่​และ​ต้าฟ่ง​เป็น​พันธมิตร​กัน​ ชัยชนะ​ย่อม​รอ​อยู่แล้ว​ ดังนั้น​จึงไม่ได้​อ่อนแอ​อย่าง​ที่​ผู้นำ​โหย​วซือ​พูด​ สิ่งที่​อวิ๋น​โจว​มอบ​ให้ได้​ ต้าฟ่ง​ของ​ข้า​ก็​มอบ​ให้ได้​เช่นกัน​ ส่วน​เรื่อง​จิตใจ​ของ​คนใน​เผ่าพันธุ์​กู่​ คำสัญญา​ที่​ข้า​ให้​เมื่อ​สักครู่​จะมีผล​อย่าง​แน่นอน​ ข้า​จะมอบ​สมุนไพร​พิษ​ขั้นสูง​จำนวน​หนึ่ง​ให้​กับ​เผ่า​ตู๋​กู่​ ส่วน​ข้อเรียกร้อง​ของ​ผู้นำ​หลวนอวี้​ ข้า​ก็​จะพยายาม​เติมเต็ม​ให้ได้​มาก​ที่สุด​”

โหย​วซือ​แค่น​เสียง​

“เท่านี้​หรือ​? อาศัย​แค่​เรื่อง​เท่านี้​เพื่อ​จะมาสยบ​ความเกลียดชัง​ที่​เผ่าพันธุ์​กู่​มีต่อ​ต้าฟ่ง​หรือ​ ฝัน​ไป​เถอะ​”

ป๋า​จี้และ​หลวนอวี้​หวั่นไหว​ แต่​พวกเขา​เลือก​ที่จะ​เงียบ​ เพราะ​ความจริง​แล้วก็​เป็น​อย่าง​ที่​โหย​วซือ​พูด​ สมุนไพร​พิษ​ขั้นสูง​และ​ผลไม้​พิษ​ไม่ใช่ความต้องการ​พื้นฐาน​ แต่​สำหรับ​ป๋า​จี้ที่​ไม่ได้​มีความแค้น​ยิ่งใหญ่​ต่อ​ต้าฟ่ง​แล้ว​ ย่อม​ต้อง​รับ​ด้วยความยินดี​

แต่​สำหรับ​ผู้​คนใน​เผ่า​ตู๋​กู่​ เรื่อง​นี้​ไม่พอ​จะสยบ​ความแค้น​ที่​สังหาร​คน​ไป​ครึ่ง​เผ่า​ได้​

ส่วน​หลวนอวี้​ นี่​ยิ่ง​เป็น​ความต้องการ​ส่วนตัว​ นาง​มีชายหนุ่ม​ชั้นเลิศ​ให้​นอน​เพื่อ​ฝึก​ฉิงกู่​ด้วย​ แต่​พี่สาว​น้องสาว​ใน​เผ่า​ล่ะ​? แม้ว่า​จะให้​สวี่​ชีอัน​หมุนเวียน​เปลี่ยน​กัน​ทุกวัน​เพื่อให้​เหล่า​พี่สาว​น้องสาว​อิ่มหนำ​กัน​ถ้วนหน้า​ แต่​เช่นนี้​จะทำ​อย่างไร​กับ​ผู้ชาย​ใน​เผ่า​เล่า​?

“ช่างเถอะ​ ข้า​เข้า​ใจความ​ลำบากใจ​ของ​พวก​เจ้า”

สวี่​ชีอัน​เห็น​ว่า​แผนการ​ถูก​เปิดโปง​แล้ว​ เขา​จึงถอนหายใจ​ออกมา​

“ข้า​ไม่ยืนกราน​ให้​ส่งกำลัง​พล​ให้​แล้ว​ เพียงแต่​หวัง​ว่า​ผู้นำ​ทั้งหลาย​จะเลือก​อยู่​ตรงกลาง​และ​ไม่เป็น​พันธมิตร​กับ​อวิ๋น​โจว​ก็​พอ​ คำสัญญา​ที่​บอก​จะมอบ​ของ​ให้​เมื่อ​ครู่​ก็​จะไม่เปลี่ยน​ด้วย​”

หลวนอวี้​และ​ป๋า​จี้ตะลึงงัน​ พวกเขา​มองหน้า​กับ​และ​แทบจะ​พูด​ออกมา​พร้อมกัน​ว่า​

“ได้​!”

ถ้าหาก​แค่​ให้​เลือก​อยู่​ตรงกลาง​และ​ไม่ส่งกำลัง​ให้​ต้าฟ่ง​ เช่นนี้​ก็ดี​ พวกเขา​สามารถ​อ้าง​ด้วย​เหตุผล​ที่ว่า​เพราะ​สถานการณ์​ไม่แน่นอน​ จึงไม่ต้องการ​ให้​คนใน​เผ่า​วิ่ง​ไปหา​ความตาย​และ​ใช้มาเอาใจ​คนใน​เผ่า​ได้​

สิ่งนี้​ไม่เพียง​ได้​ความชอบธรรม​เท่านั้น​ แต่​ยัง​สามารถ​นำ​รางวัล​มากมาย​มาให้​คนใน​เผ่า​ด้วย​ (ตู๋​กู่​)

สวี่​ชีอัน​ยิ้ม​ออกมา​ ตั้งแต่แรก​เขา​ก็​ไม่ได้​หวัง​ว่า​เผ่าพันธุ์​กู่​จะส่งกำลัง​มาช่วย​ต้าฟ่ง​อยู่แล้ว​ ทั้งสองฝ่าย​มีความขัดแย้ง​กัน​ล้ำลึก​เกินไป​ ลึก​เสีย​จน​แม่ย่า​เทียน​กู่​ต้อง​มาเตือน​เขา​ด้วยตัวเอง​

ภายใน​สถานการณ์​ที่​อวิ๋น​โจว​และ​ต้าฟ่ง​สามารถ​ทำตาม​ข้อเรียกร้อง​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​ได้​ทั้งคู่​นั้น​ หาก​คิด​จะให้​เผ่าพันธุ์​กู่​ปล่อยวาง​ความแค้น​เก่า​ก่อน​ไป​ ย่อม​มีความเป็นไปได้​ต่ำ​มาก​

แผนการ​ที่​แท้จริง​ของ​สวี่​ชีอัน​คือ​โน้มน้าว​พวกเขา​ก่อน​ แล้ว​ค่อย​หา​วิธี​ทำให้​เผ่าพันธุ์​กู่​ยกเลิก​การ​เป็น​พันธมิตร​กับ​อวิ๋น​โจว​

ส่วน​การ​ส่งกำลัง​ช่วยเหลือ​นั้น​ เป็น​เพียง​ทักษะ​การ​เจรจา​เฉย​ๆ โดย​การตั้งราคา​ชีวิต​เอาไว้​สูงๆ จากนั้น​ตัด​จน​ต่ำ​ลงมา​ จน​เกิด​เป็น​ความรู้สึก​ประเภท​ที่ว่า​ ‘ข้า​เสีย​น้อย​แต่​ได้​มาก​’ และ​ ‘แบบนี้​ก็​พอ​จะรับได้​’ ขึ้น​มา

ยัง​ไม่จบ​ การ​ทำให้​เผ่าพันธุ์​กู่​ยกเลิก​การ​เป็น​พันธมิตร​นั้น​คือ​ขั้นแรก​

ขั้น​ต่อไป​ สวี่​ชีอัน​ยังคง​ต้องการ​ให้​พวกเขา​ส่งกำลัง​ออกมา​ แต่​ไม่ต้องการ​ให้​เผ่าพันธุ์​กู่​ทั้ง​เจ็ด​ส่งออกมา​เต็มกำลัง​ทุก​เผ่า​ เขา​จะใช้เสบียงอาหาร​เป็นการ​ต่อรอง​แล้ว​เชิญยอด​ฝีมือ​ของ​เผ่า​ลี่​กู่​มาร่วม​รบ​

เมื่อ​มีทรัพยากร​และ​สินค้า​มากมาย​เป็น​เครื่อง​ต่อรอง​ ก็​สามารถ​เชิญอั้น​กู่​และ​ซิน​กู่​มาร่วม​รบ​ด้วย​ สอง​เผ่า​นี้​มีความแค้น​น้อย​นิด​ต่อ​ต้าฟ่ง​ เมื่อ​ให้​คำสัญญา​อย่าง​หนักแน่น​ การ​ขอให้​พวกเขา​ร่วม​รบ​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​ยาก​อะไร​

ซินเจียง​ตอน​ใต้​ไม่ขาดแคลน​เสบียงอาหาร​ แต่​ขาดแคลน​เครื่องลายคราม​ ใบชา​ ผ้าไหม​ ตำรา​ และ​ข้าวของเครื่องใช้​ต่างๆ​

ขอ​แค่​มอบให้​อย่าง​เพียงพอ​ พวกเขา​ก็​จะตอบรับ​

แต่ว่า​ สวี่​ชีอัน​ยังคง​ประเมิน​ความ​หมกมุ่น​ใน​ความแค้น​สังหาร​บิดา​ของ​โหย​วซือ​ต่ำ​ไป​

หาก​อยาก​ให้​แผนการ​นี้​สำเร็จ​ราบรื่น​ โหย​วซือ​ก็​จะเป็น​อุปสรรค​ที่​ยาก​จะก้าว​ผ่าน​ไป​ได้​

ถ้าหาก​ไม่ปลอบใจ​เขา​ ด้วย​ธรรมเนียม​การ​เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​แล้ว​ อีก​หก​เผ่า​ก็​ยาก​จะนิ่งดูดาย​อยู่​ข้างๆ​

โหย​วซือ​แค่น​เสียงหัวเราะ​

“พวก​เจ้าจะตัดสินใจ​อย่างไร​ก็​เป็นเรื่อง​ของ​พวก​เจ้า เผ่า​ซือ​กู่​ของ​ข้า​ตัดสินใจ​จะเป็น​พันธมิตร​กับ​อวิ๋น​โจว​แล้ว​ ไม่มีใคร​ขัดขวาง​ได้​ ข้า​ก็​อยาก​จะดู​ซิว่า​ พอ​ถึงเวลา​นั้น​จะมีคนใน​เผ่า​ฉิงกู่​และ​เผ่า​ตู๋​กู่​กี่​คน​ที่​ยินดี​ติดตาม​ข้า​”

ป๋า​จี้และ​หลวนอวี้​หน้า​เปลี่ยน​สิ

หัว​นก​หันไป​มอง​สวี่​ชีอัน​ “เจ้าจะลอง​สังหาร​ข้า​ก็ได้​นะ​ พอ​ฆ่าข้า​แล้ว​ ปัญหา​ก็​จะจัดการ​ได้​ง่าย​ขึ้น​”

“ผู้นำ​โหย​วซือ​จะตัดสินใจ​อย่างไร​ก็​เป็นเรื่อง​ของ​เจ้า”

สวี่​ชีอัน​ไม่ร้อนรน​แม้แต่น้อย​ เขา​เอ่ย​เสียง​เรียบ​

“แต่​ข้า​ก็​มีของขวัญ​จะมอบให้​กับ​เผ่า​ซือ​กู่​เช่นกัน​ เหตุใด​ไม่ดู​ข้อต่อรอง​ของ​ข้า​ก่อน​เล่า​”

หาก​เป็น​ซิน​กู่​และ​อั้น​กู่​ สวี่​ชีอัน​ก็​คิดไม่ออก​จริงๆ​ ว่า​จะมีของ​อะไร​ที่จะ​ทำให้​อีก​ฝ่าย​พอใจ​ได้​ แม้ว่า​แม่ม้าน้อย​จะน่ารัก​ครองใจ​คน​ แต่​มัน​ก็​เป็น​แม่ม้า และ​ฉุน​เยียน​ก็​เป็น​ผู้หญิง​

เข้ากัน​ไม่ได้​

ความต้องการ​ของ​อั้น​กู่​คือ​มุมที่​สามารถ​หลบซ่อน​ได้​ ของ​สิ่งนี้​ไม่ใช่สิ่งที่​คนอื่น​จะมอบ​ให้ได้​เลย​

แต่​สำหรับ​เผ่า​ซือ​กู่​ ใน​ฐานะ​ร่าง​กาฝาก​ของ​เจ็ด​ยอด​กู่​ สวี่​ชีอัน​จึงเข้า​ใจดี​ว่า​ความต้องการ​ของ​เขา​คือ​อะไร​

โหย​วซือ​ราวกับ​ได้ยิน​เรื่องตลก​ครั้ง​ใหญ่​ เขา​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​ดูถูกดูแคลน​

“ไม่ว่า​เจ้าจะมีข้อต่อรอง​อะไร​ ข้า​ก็​ไม่…”

ตอนนี้​เอง​ เขา​ก็​เห็น​สวี่​ชีอัน​หยิบ​กระจก​หยก​บาน​หนึ่ง​ขึ้น​มาแล้ว​เอียง​หน้า​กระจก​

‘เค​ร้ง’!​

โลงศพ​โลง​หนึ่ง​โผล่​ออกมา​ ขณะที่​กำลัง​ตกใจ​ ฝาโลง​ก็​เลื่อน​ออก​แล้ว​

ลี่​น่า​ปิด​จมูก​แล้ว​ถอยหลัง​รัว​ๆ แค่​ได้กลิ่น​ที่​แผ่ออก​มาจาก​โลงศพ​ นาง​ก็​เวียนหัว​จน​จะเป็นลม​

หลง​ถูใช้มือ​ใหญ่​ราวกับ​ใบพัด​ปิดหน้า​ของ​สวี่ห​ลิง​อิน​เอาไว้​ จากนั้น​ก็​พา​นาง​ไป​ไกลๆ​

ใน​โลงศพ​ ศพ​โบราณ​เน่าเปื่อย​หนึ่ง​ศพ​ปรากฏ​สู่สายตา​ของ​ทุกคน​

มัน​ดู​เหมือนกับ​ศพ​แห้ง​ที่​หลับใหล​มาชั่วกัปชั่วกัลป์​ อีก​ทั้ง​ยัง​เสียหาย​อย่าง​แสน​สาหัส​ ทั้ง​กระดูก​อก​ ซี่โครง​ กระดูก​แต่ละ​แห่ง​ล้วนแต่​แตกหัก​ ศีรษะ​ก็​ขาดวิ่น​ไป​ด้วย​

แต่​แววตา​ของ​โหย​วซือ​กลับ​ตกลง​บน​ร่าง​ศพ​โบราณ​นั่น​แล้ว​ไม่เคลื่อน​ออกห่าง​ไป​เลย​

……………………………

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท