บทที่ 678 แนวทางปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

“นี่​คือ​…”

โหย​วซือ​ถามสอง​คำ​นี้​ออกมา​โดยไม่รู้ตัว​ ภายในใจ​ของ​เขา​กำลัง​ต่อต้าน​ ไม่อยาก​ตกหลุมพราง​ของ​สวี่​ชีอัน​

แต่​เมื่อ​เขา​เห็น​’ศพ​โบราณ​ศพ​นี้​ดวงตา​ของ​เขา​ควบคุม​ไม่ได้​ อารมณ์​ของ​เขา​ยาก​ที่จะ​สงบ​ลง​ ความปรารถนา​ของ​เขา​ดุจดัง​กระแสน้ำ​พลัง​มหาศาล​ที่​โหม​ซัดสาด​สติสัมปชัญญะ​ของ​เขา​จน​พังทลาย​

มัน​สมบูรณ์แบบ​อย่างยิ่ง​ ศพ​ศพ​นี้​สมบูรณ์แบบ​อย่างยิ่ง​ มัน​เป็น​ศพ​ที่​สมบูรณ์แบบ​กว่า​ศพ​ใดๆ​ ที่​เขา​เคย​เห็น​มา และ​ดึงดูดใจ​มากกว่า​หุ่นกระบอก​ใดๆ​ ใน​เผ่า​ซือ​กู่​ ถึงแม้ว่า​มองดู​แล้ว​มัน​จะชำรุดทรุดโทรม​อย่าง​มาก​

สวี่​ชีอัน​ไม่ได้​ตอบคำถาม​ของ​เขา​ แต่​พูด​ยิ้ม​ๆ ว่า​

“หาก​หัวหน้า​โหย​วซือ​สนใจ​ ลอง​เข้า​ไปดู​ใกล้​ๆ ก็ได้​”

“หึ​ ข้า​ไม่ได้​สนใจ​แม้แต่น้อย​” โหย​วซือ​ตอบ​แบบ​ปากแข็ง​ ปีก​ทั้งสอง​ข้าง​กระพือ​อย่าง​ระมัดระวัง​ ร่อน​ลง​ข้างๆ​ โลงศพ​

จ้องมอง​ไป​ที่​ศพ​โบราณ​เป็นเวลา​นาน​โดย​ไม่พูด​อะไร​แม้แต่​คำ​เดียว​ กรงเล็บ​ทั้งสอง​ข้าง​ขยับ​ไปมา​ เดิน​วน​ดู​รอบ​ๆ โลงศพ​หนึ่ง​รอบ​อย่าง​ใจจดใจจ่อ​จังหวะ​ก้าว​ของ​มัน​ช้ามาก​ๆ ราวกับ​นัก​สะสมของเก่า​กำลัง​ชื่นชม​โบราณวัตถุ​ยุค​โบราณ​ที่​ล้ำค่า​

ทันใดนั้น​โหย​วซือ​ก็​ร้อง​ “เอ๊ะ​” แล้วก็​จิก​ที่​ใบหน้า​ของ​ศพ​โบราณ​อย่าง​แรง​

จะงอย​ปาก​เร็ว​เหมือน​สาย​ฟ้าแลบ​ เห็น​ได้​ชัว่า​ได้​ใช้แรง​ที่​มีอยู่​ทั้งหมด​แล้ว​ แต่​ก็​ไม่สามารถ​ทำลาย​ศพ​โบราณ​ได้​ และ​ไม่มีเสียง​กระทบ​กัน​ของ​โลหะ​ดัง​ออกมา​

โหย​วซือ​เงยหน้า​ขึ้น​อย่าง​แรง​ มอง​ไป​ที่​สวี่​ชีอัน​ อยาก​จะพูด​แต่​ก็​เงียบ​ไป​ชั่วขณะ​ แต่​ก็​ยังคง​ทนไม่ไหว​ จึงถามด้วย​น้ำ​เสียงทุ้ม​ต่ำ​ว่า​

“นี่​ไม่เหมือน​ศพ​ของ​ทหาร​ แต่​ความทนทาน​และ​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​ร่างกาย​นั้น​มีมากกว่า​ศพ​เดิน​ได้​ขั้น​สามของ​ข้า​”

สวี่​ชีอัน​พูด​ยิ้ม​ๆ ว่า​

“ผู้เชี่ยวชาญ​นี่​นา​ ใช่แล้ว​ นี่​ไม่ใช่ศพ​ของ​ทหาร​ ศพ​นี้​เป็น​ซากศพ​ของ​ผู้​กล้า​แห่ง​ลัทธิ​เต๋า​ท่าน​หนึ่ง​ เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ เขา​เป็น​สุดยอด​ของ​ขั้น​สอง​ หลังจาก​ล้มเหลว​ใน​การ​หนี​เคราะห์กรรม​ ก็ได้​ผลัด​ร่าง​เก่า​ กลายเป็น​ศพ​นี้​”

ความจริง​สุดยอด​ของ​ขั้น​สอง​เป็น​การประเมิน​แบบ​รอบคอบ​มาก​

น้ำเสียง​ของ​โหย​วซือ​มีความ​ทุ้ม​เล็กน้อย​ “สุดยอด​ของ​ขั้น​สอง​ เจ้าแน่ใจ​ว่า​เป็น​สุดยอด​ของ​ขั้น​สอง​?”

ขณะที่​ถาม ปีก​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​เขา​กระพือ​หลายครั้ง​โดยไม่รู้ตัว​ เหมือน​เป็นการ​เน้น​น้ำเสียง​ให้​หนักแน่น​

“เทพ​เจ้าหยาง​ขั้น​สามไม่มีร่างกาย​ที่​แข็งแกร่ง​และ​เป็น​อมตะ​เช่นนี้​” สวี่​ชีอัน​พูด​ยิ้ม​ๆ

โหย​วซือ​หมดหนทาง​โต้แย้ง​ เทพ​เจ้าหยาง​ของ​ลัทธิ​เต๋า​ไม่มีร่างกาย​แบบนี้​จริงๆ​ และ​เมื่อ​ครู่​เขา​ได้​ทดสอบ​ด้วย​ตนเอง​ นี่​ไม่ใช่ร่างกาย​ของ​ทหาร​จริงๆ​

“ทำไม​เขา​จึงถูก​ทำลาย​ขนาด​นี้​?”

โหย​วซือ​พยายาม​ทำให้​น้ำเสียง​สงบ​อย่าง​เต็มที่​ เพื่อ​ไม่ให้​สวี่​ชีอัน​ฟังออก​ว่า​เสียใจ​และ​อยากได้​ศพ​ศพ​นี้​ขนาด​ไหน​

เจ้าต้อง​รู้​ว่า​มัน​เคย​เกิด​สติปัญญา​ อาจจะ​บ้าคลั่ง​มากยิ่งขึ้น​…สวี่​ชีอัน​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ก็​ตัดสินใจ​เล่า​เรื่องราว​ให้​โหย​วซือ​ฟัง แบบนี้​สามารถ​เพิ่ม​เงื่อนไข​ ทำให้​อีก​ฝ่าย​ยิ่ง​หมดหนทาง​ที่จะ​ปฏิเสธ​

“เรื่อง​นี้​พูด​แล้ว​มัน​ยาว​ ศพ​นี้​เคย​เกิด​สติปัญญา​มาก่อน​ มีจิตสำนึก​เป็น​ของ​ตนเอง​ ไม่ต่าง​จาก​สิ่งมีชีวิต​ปกติ​ ข้า​ปิดผนึก​มัน​ไว้​ใน​สุสาน​ที่​พบ​มัน​ หลังจากนั้น​เป็นเวลา​นาน​ ได้​กลับมา​ที่​สุสาน​โดยบังเอิญ​ จึงพบ​ว่า​ร่างกาย​ของ​เขา​ถูก​ทำลาย​ น่าสยดสยอง​เป็น​อย่างยิ่ง​”

ทุกคน​สามารถ​เห็น​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ ร่างกาย​ของ​นก​ยักษ์​แข็งทื่อ​ และ​ไม่ได้​ขยับเขยื้อน​เป็นเวลา​นาน​

“เจ้าหลอก​ข้า​! เจ้าหลอก​ข้า​! เจ้าหลอก​ข้า​!”

โหย​วซือ​วู่วาม​อย่าง​ไม่เคย​เป็นมา​ก่อน​ ตะคอก​เสียงดัง​

ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​กลุ่ม​ควบคุม​ศพ​มืออาชีพ​ เป้าหมาย​ทาง​ความรู้​สูงสุด​ของ​เผ่า​ซือ​กู่​ก็​คือ​จะทำ​อย่างไร​ให้​ “ฟื้นคืนชีพ​”

สิ่งนี้​ไม่เหมือนกับ​การ​ที่​ผู้​กล้า​จิต​เดิม​ยึดครอง​ศพ​ การกระทำ​เช่นนี้​เรียก​ว่าการ​เคลื่อนย้าย​วิญญาณ​ไป​ยัง​ศพ​ การ​เข้าสิง​ และ​สิ่งที่​ปรมาจารย์​ซือ​กู่​ต้องการ​ก็​คือ​การ​ทำให้​ศพ​กลับมา​มีชีวิต​

คน​ที่​ตาย​ไป​แล้ว​จริงๆ​ ย่อม​ไม่สามารถ​ฟื้นคืนชีพ​ได้​ แต่​ยังมี​อีก​วิธี​หนึ่ง​ที่​ตาย​แล้ว​คืนชีพ​ได้​ ก็​คือ​การ​ทำให้​ศพ​เกิด​สติปัญญา​

แต่​เป้าหมาย​ที่​ยิ่งใหญ่​นี้​ หลาย​พันปี​มานี้​ เผ่า​ซือ​กู่​ไม่เคย​ประสบความสำเร็จ​เลย​

หลง​ถูและ​คนอื่นๆ​ ต่าง​มองหน้า​กัน​อย่าง​หมดปัญญา​ สีหน้า​ประหลาด​ โดยเฉพาะ​หลวนอวี้​และ​ฉุน​เยียน​ ใน​แววตา​ของ​สาวงาม​ทั้งสอง​มีแวว​รังเกียจ​ผ่าน​เข้ามา​แวบ​หนึ่ง​

เพราะ​พวก​นาง​คิดถึง​เรื่อง​เรื่อง​หนึ่ง​

บรรดา​ผู้อาวุโส​ของ​เผ่า​ซือ​กู่​เคย​คาดการณ์​ไว้​ว่า​ วิญญาณ​ที่​ได้รับ​ความเสียหาย​ที่​เหลืออยู่​ใน​ร่างกาย​ของ​ศพ​เดิน​ได้​ หาก​เพาะเลี้ยง​ได้​อย่าง​เหมาะสม​ ก็​จะสามารถ​แปร​เปลี่ยนเป็น​จิต​เดิม​ได้​อย่าง​แท้จริง​ ศพ​ก็​จะเกิด​สติปัญญา​

จากนั้น​ก็​จะฟื้นคืนชีพ​และ​เกิด​ใหม่​

วิญญาณ​ที่​ได้รับ​ความเสียหาย​ที่​ไม่มีปณิธาน​เป็น​ของ​ตนเอง​จะแปร​เปลี่ยนเป็น​จิต​เดิม​อย่าง​แท้จริง​ได้​อย่างไร​? มัน​น่าขัน​และ​ไร้สาระ​เช่นเดียวกับ​มนุษย์​ ที่​สร้าง​ร่างกาย​โดยตรง​โดย​ไม่ได้​ผ่าน​การ​ตั้งครรภ์​สิบ​เดือน​นั่นแหละ​

ใน​มุมมอง​ของ​ผู้คน​หก​ชน​เผ่า​นี้​ นี่​เป็นการ​หา​ข้ออ้าง​คน​ของ​เผ่า​ซือ​กู่​เกี่ยวกับ​ความสัมพันธ์​ของ​ตัวเอง​กับ​ความพิกลพิการ​ของ​ศพ​ ยัดเยียด​นำ​ศพ​เดิน​ได้มา​เปรียบกับ​คน​

เมื่อ​สบตา​ที่​ที่​เต็ม​ไป​คำถาม​ของ​โหย​วซือ​ สวี่​ชีอัน​ทำ​เหมือน​ทบทวน​ความหลัง​เล็กน้อย​ แล้ว​พูดว่า​

“มัน​เคย​บอก​ข้า​ว่า​ ตอนที่​นักพรต​คน​นั้น​ผลัด​ร่าง​เก่า​ มีวิญญาณ​ที่​ได้รับ​ความเสียหาย​ส่วนหนึ่ง​เหลืออยู่​ใน​นั้น​ วิญญาณ​ที่​ได้รับ​ความเสียหาย​ส่วน​นี้​ได้รับ​การซ่อมแซม​โดย​วิธีการ​พิเศษ​ของ​นักพรต​ จน​กลายเป็น​จิต​เดิม​ที่​สมบูรณ์​”

ผู้นำ​ทุก​คนฟัง​แล้ว​ต่าง​ตกตะลึง​ หันไป​มอง​โหย​วซือ​ด้วย​ใบ​หน้าที่​ประหลาดใจ​ ต่าง​ก็​พบ​ว่า​เขา​ตกใจ​ด้วย​ความหวาดกลัว​อยู่​ตั้ง​นาน​แล้ว​

“เป็นจริง​ดั่ง​คาด​จริงๆ​ ด้วย​ เป็นจริง​ดั่ง​คาด​จริงๆ​ ด้วย​ เหล่า​บรรพชน​คาดการณ์​ไว้​ไม่มีผิด​ มีวิธีการ​ทำให้​ศพ​ “ฟื้นคืนชีพ​” จริงๆ​ ด้วย​ เป็น​แบบอย่าง​ที่​มีมาก่อน​จริงๆ​ นี่​ไม่ใช่การ​เพ้อฝัน​ที่​เลื่อนลอย​จริงๆ​…”

โหย​วซือ​ยิ่ง​พูด​ยิ่ง​ตื่นเต้น​ ท้ายที่สุด​ ปีก​ทั้งสอง​ข้าง​ก็​กระพือ​ไม่หยุด​ เหมือน​คน​กำลัง​เต้นแร้งเต้นกา​

สวี่​ชีอัน​รอ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ จนกระทั่ง​ผู้นำ​ของ​เผ่า​ซือ​กู่​คน​นี้​เริ่ม​สงบ​ลง​ จึงพูด​ต่อว่า​

“ถ้าเช่นนั้น​ ศพ​โบราณ​ศพ​นี้​สามารถ​แลกเปลี่ยน​กับ​การ​ที่​เจ้าไม่เป็น​พันธมิตร​กับ​อวิ๋น​โจว​ได้​หรือไม่​?”

หลง​ถูและ​คนอื่นๆ​ จ้องมอง​นก​ยักษ์​โดย​พร้อมเพรียงกัน​

…โหย​วซือ​นึกถึง​คำพูด​ที่​ตนเอง​ได้​สาบาน​ไว้​อย่าง​จริงใจ​เมื่อ​ครู่​ ก็​นิ่ง​ไป​ชั่วขณะ​

สุดท้าย​ความปรารถนา​ที่​มีต่อ​ศพ​โบราณ​ก็​อยู่​เหนือ​ความอัปยศ​และ​ศักดิ์ศรี​ จึงกระแอม​ แล้ว​พูด​ด้วย​น้ำ​เสียงแหบ​พร่า​ว่า​

“หลง​ถูพูด​ถูก​ เว่ยเยวียน​ตาย​ไป​แล้ว​ ความแค้น​นี้​ก็​สิ้นสุดลง​ด้วย​ ข้า​ไม่ควร​ปล่อย​ให้​คนใน​เผ่า​ต้อง​ตาย​เปล่า​ เพราะ​ความ​ถือ​ทิฐิ​ส่วนตัว​ของ​ข้า​ สำหรับ​ศพ​โบราณ​ศพ​นี้​ คำพูด​ของ​เจ้าเพียง​ด้าน​เดียว​ ข้า​จะไม่เชื่อ​ง่ายๆ​ แต่​ใน​เมื่อ​เจ้าได้​เกลี้ยกล่อม​เผ่า​อื่นๆ​ หก​เผ่า​แล้ว​ อืม​ ข้า​ก็​จะยอม​ฝืนใจ​รับปาก​ก็แล้วกัน​…”

สวี่​ชีอัน​ยิ้ม​และ​พูดว่า​ “ดีแล้ว​”

เขา​พูด​พร้อมกับ​ปิด​ฝาโลงศพ​ แล้ว​เก็บ​โลงศพ​กลับ​เข้าไป​ใน​เศษชิ้นส่วน​หนังสือ​ปฐพี​

“นี่​ เจ้า…” โหย​วซือ​ตะโกน​ พยายาม​ระงับ​ไฟแห่ง​ความโกรธ​ พูด​ด้วย​น้ำเสียง​เคร่งขรึม​ว่า​

“ข้า​บอก​แล้ว​ว่า​จะไม่เป็น​พันธมิตร​กับ​อวิ๋น​โจว​ เจ้าไม่ได้ยิน​?”

“ข้า​ได้ยิน​แล้ว​” รอยยิ้ม​ของ​สวี่​ชีอัน​ยังคง​เหมือนเดิม​

“ข้า​บอ​กว่า​จะมอบ​ศพ​โบราณ​นี้​ให้​กับ​เจ้า ก็​ต้อง​มอบให้​เจ้าอย่าง​แน่นอน​ แต่​ไม่ใช่ตอนนี้​ เมื่อ​สงคราม​ใน​ภาค​กลาง​สิ้นสุดลง​ ข้า​จะทำตาม​คำสัญญา​”

โหย​วซือ​จะรับปาก​ได้​อย่างไร​ ไม่ได้​เห็น​ศพ​โบราณ​ศพ​นี้​ก็​ยัง​พอ​รับได้​ แต่​ใน​เมื่อ​ได้​เห็น​แล้ว​ เขา​ก็​จะไม่ยอมให้​ตัวเอง​สูญเสีย​มัน​ไป​ ใคร​จะยอม​สูญเสีย​สิ่งที่​ตัวเอง​ชื่นชอบ​มาตลอดชีวิต​กัน​เล่า​!

“ข้า​จะเชื่อได้​อย่างไร​ว่า​เจ้าจะทำตาม​คำมั่นสัญญา​” เขา​ยิ้ม​หยัน​พูด​ด้วย​น้ำ​เสียงแหบ​พร่า​

สวี่​ชีอัน​ก็​ยิ้ม​หยัน​ตอบ​เช่นกัน​

“แล้ว​ทำไม​ข้า​ถึงต้อง​เชื่อ​เจ้า ถ้าต่อไป​เจ้าบิดพลิ้ว​ แอบ​เป็น​พันธมิตร​กับ​อวิ๋น​โจว​ แล้ว​ข้า​จะทำ​อย่างไร​?”

โหย​วซือ​มีนิสัย​แข็งกร้าว​ และ​ไม่ประนีประนอม​ พูด​แบบ​ตา​ต่อตา​ ฟัน​ต่อ​ฟัน​ว่า​

“ทิ้ง​ศพ​ไว้​ หรือไม่​ก็​ตัดความสัมพันธ์​กัน​อย่าง​เด็ดขาด​”

“ลาก่อน​!”

สวี่​ชีอัน​หันหลัง​เดิน​จากไป​ พร้อมกับ​นับ​ สาม สอง​ หนึ่ง​ อยู่​ใน​ใจ…

สวี่​ชีอัน​ซึ่งเป็น​ปรมาจารย์​ซือ​กู่​เช่นเดียวกัน​ จึงมั่นใจ​อย่างยิ่ง​ว่า​ โหย​วซือ​ไม่มีทาง​ปฏิเสธ​ตัวเอง​ ก็​เหมือนกับ​ที่​เขา​ไม่มีทาง​ปฏิเสธ​ท่าน​น้า​

“ช้าก่อน​!”

โหย​วซือ​ตะโกน​ออกมา​เบา​ๆ กางปีก​ออก​อย่าง​ร้อนใจ​ เมื่อ​สวี่​ชีอัน​หยุด​เดิน​และ​หัน​กลับมา​ เขา​รีบ​หุบ​ปีก​ทันที​ หัน​หัว​นก​มอง​ไป​ทาง​หนึ่ง​

“คืน​ศพ​เดิน​ได้​ขั้น​สามศพ​นี้​ให้​ข้า​ นอกจากนี้​ เจ้าจะต้อง​เขียน​หลักฐาน​ที่​เป็น​ลายลักษณ์อักษร​ ท่ามกลาง​พี่น้อง​ร่วม​เผ่า​ทุกคน​ที่​เป็น​…ประจักษ์พยาน​”

สวี่​ชีอัน​หยิบ​อุปกรณ์​ออกมา​ เขียน​หลักฐาน​ที่​เป็น​ลายลักษณ์อักษร​ฉบับ​หนึ่ง​ ท่ามกลาง​แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​และ​คนอื่นๆ​ ที่​เป็น​ประจักษ์พยาน​ให้​เขา​ทันที​ พร้อมกับ​ประทับ​ลายนิ้วมือ​

“เก็บ​ให้​ดี​ ชาว​ภาค​กลาง​ต่าง​รู้กัน​ว่า​ฆ้อง​เงิน​คน​นี้​เป็น​คน​รักษา​คำมั่นสัญญา​”

สวี่​ชีอัน​เป่า​หมึก​จน​แห้ง​ แล้ว​พับ​กระดาษ​ หนีบ​ไว้​ที่​ปลายนิ้ว​ส่งให้​

นก​ยักษ์​ทำ​น้ำเสียง​ไม่พอใจ​ “แล้ว​ข้า​จะมารับ​ศพ​เดิน​ได้ที่​เผ่า​ลี่​กู่​”

หลังจาก​พูด​จบ​ มัน​ก็​ชะโงก​หัว​มาอย่าง​ระมัดระวัง​ คาบ​กระดาษ​ไป​ แล้ว​กระพือปีก​บิน​ขึ้นไป​บน​ท้องฟ้า​

นก​ยักษ์​บิน​อย่าง​ช้าๆ ประวิง​เวลา​ และ​มั่นคง​ ราวกับ​กลัว​ว่า​จะบิน​เร็ว​เกินไป​ แล้ว​ลม​จะพัด​หลักฐาน​ใน​ปาก​จน​ขาด​

เฮ้ ไม่แก้แค้น​พ่อ​ที่​ถูก​สังหาร​แล้ว​หรือ​? สวี่​ชีอัน​มอง​ที่​ด้านหลัง​ของ​นก​ยักษ์​ที่​บิน​สูง แอบ​ตะโกน​อยู่​ภายในใจ​

หลังจาก​การเจรจาต่อรอง​สิ้นสุดลง​ นี่​จึงเป็นการ​รู้เขารู้เรา​ รบ​ร้อย​ครั้ง​ชนะ​ร้อย​ครั้ง​อย่าง​แท้จริง​ …เขา​ถอน​สาย​ตากลับ​ กวาดตา​มอง​หลวนอวี้​และ​ฉุน​เยียน​ ยิ้ม​ตาหยี​แล้ว​พูดว่า​

“นี่​เป็น​การรักษา​อาการ​บาดเจ็บ​ให้​พี่สาว​ทั้งสอง​”

เขา​นำ​เจดีย์​พุทธะ​ออกมา​ ปล่อย​ให้​ม่าน​ลวงตา​ของ​ร่าง​ธรรม​เชี่ยวชาญ​โอสถ​ลอย​อยู่​บน​ยอด​เจดีย์​

เมื่อ​ครู่​หลวนอวี้​และ​ฉุน​เยียน​ได้​เปิดหูเปิดตา​เห็น​เจดีย์​พุทธะ​ซ่อมแซม​ร่าง​ของ​ศพ​เดิน​ได้ที่​ไม่สมประกอบ​ มีความรู้สึก​ทั้ง​แปลกใจ​และ​ประหลาดใจ​ ต่อ​ของ​วิเศษ​ของ​พระโพธิสัตว์​ใน​ตำนาน​

ขวด​หยก​สาด​รัศมี​ที่​เหมือน​เศษทองคำ​ลงมา​ ดุจดัง​สายฝน​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​กำลัง​ปกคลุม​พวก​นาง​

ความเจ็บปวด​จาก​การ​ที่​กระดูก​หัก​ค่อยๆ​ หาย​ไป​อย่าง​ช้าๆ สิ่งที่​เข้ามา​แทนที่​ก็​คือ​ความ​เย็น​ชุ่มฉ่ำที่​เข้าไป​ถึงหัวใจ​

หลวนอวี้​กางแขน​ทั้งสอง​ข้างออก​ เยื้องกราย​หมุนตัว​ไป​รอบ​ๆ กระโปรง​ยาว​บานสะพรั่ง​เหมือน​ดอกไม้​บาน​ นาง​กลายเป็น​หญิงสาว​พราว​เสน่ห์​ผู้​งดงาม​อีกครั้ง​ พูด​พร้อม​รอย​ยิ้มละไม​

“มีสิ่งที่​คอย​ปกป้อง​เช่นนี้​แล้ว​ ข้าน้อย​ก็​ไม่กลัว​ความดุร้าย​บน​เตียง​ของ​ฆ้อง​เงิน​สวี่​แล้ว​”

นาง​ยอมรับ​ความแตกต่าง​ด้าน​พละกำลัง​ของ​ทั้งสองฝ่าย​อย่าง​แท้จริง​แล้ว​ มีของ​วิเศษ​ที่​มหัศจรรย์​เช่นนี้​ ฝ่าย​ตนเอง​ไม่มีทาง​ชนะ​เขา​ได้​เลย​ และ​เมื่อ​ครู่​เขา​ได้​ยั้ง​มือ​แล้ว​จริงๆ​

ฉุน​เยียน​พยักหน้า​อย่าง​สำรวม​ แสดง​ความ​ขอบคุณ​

เจ้าเตรียมพร้อม​รับ​ความเจ็บปวด​แล้ว​หรือยัง​?…สวี่​ชีอัน​มอง​หญิงสาว​พราว​เสน่ห์​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ จากนั้น​ก็​หันไป​ตอบรับ​ฉุน​เยียน​

ตอนนี้​ ในที่สุด​สวี่​ชีอัน​ก็​มีเวลา​ที่จะ​จัดการ​กับ​เรื่อง​อื่น​แล้ว​

“แม่ย่า​ เก่​อ​เห​วิน​เซวียน​ที่มา​จากอ​วิ๋น​โจว​อยู่​ที่ไหน​?”

อิ่งจือ​พูด​เบา​ๆ ว่า​

“ข้า​รอ​ที่จะ​ต่อสู้​กับ​เจ้า เป็นไปไม่ได้​ที่​เขา​จะไม่อยู่​ เวลานี้​เกรง​ว่า​เขา​จะหนี​ไป​นาน​แล้ว​”

สวี่​ชีอัน​เงียบ​ไป​ แล้ว​ดึง​เศษชิ้นส่วน​หนังสือ​ปฐพี​ออกมา​อีกครั้ง​ เท​คันฉ่อง​สำริด​ที่​ชำรุด​ออกมา​

“มีเรื่อง​อะไร​จะขอร้อง​ข้า​หรือ​”

น้ำเสียง​ของ​กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​ฟังดู​เหลืออด​เล็กน้อย​ แต่​ท่าที​พอใช้ได้​ เมื่อ​ครู่​ดาบ​ไท่​ผิง​ถูก​เรียก​ออก​ไป​ใช้งาน​ ทำให้​ใน​ใจเขา​รู้สึก​เสมอภาค​ขึ้น​มาก​

“ยึด​ข้า​เป็น​ศูนย์กลาง​ ส่องสว่าง​บริเวณ​รอบ​ๆ ระยะ​ร้อย​ลี้​”

สวี่​ชีอัน​สั่งการ​

กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​ไม่รอ​ช้า คันฉ่อง​สำริด​บังเกิด​ภาพลวงตา​ ดุจดัง​กระจกใส​ จากนั้น​ภาพ​แล้ว​ภาพ​เล่า​ก็​ผ่าน​ไป​ไม่หยุด​ด้วย​ความเร็ว​สูงราว​ สายตา​ที่​มีสมรรถภาพ​สูงของ​สวี่​ชีอัน​ค่อยๆ​ ประทับ​ภาพ​เหล่านี้​ไว้​ใน​สมอง​

คันฉ่อง​ไม่เคย​ประทับตรา​ลง​บน​ตัว​เก่​อ​เห​วิน​เซวียน​ ดังนั้น​จึงไม่สามารถ​ชี้พิกัด​โดยตรง​ได้​ จึงทำได้​เพียง​ใช้วิธีการ​ติด​ตามที่​ “เรียบง่าย​” เช่นนี้​

สิ่งที่​พูด​ได้​ คือ​ของ​วิเศษ​…บรรดา​ผู้นำ​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​ต่าง​พา​กัน​ตกใจ​ ใน​ตัว​คน​คน​นี้​มีของดี​อยู่​เท่าไร​กัน​แน่​?

เมื่อ​ฉุน​เยียน​เห็น​ดังนั้น​ ก็​เดิน​ไป​อีก​ทาง​หนึ่ง​ แล้ว​ผิวปาก​เสียงดัง​กังวาน​

สิบ​กว่า​วินาที​ต่อมา​ ฝูงนก​ที่​หนาแน่น​ก็​บิน​มาจาก​ทั่วทุกสารทิศ​ ฝูงนก​มืดฟ้ามัวดิน​บินวน​อยู่​เหนือศีรษะ​ทุกคน​ ส่งเสียงร้อง​จ้อกแจ้ก​จอแจ​

เสียงร้อง​ของ​พวก​มัน​จ้อกแจ้ก​จอแจ​ ส่วนใหญ่​พูดว่า​ “ไม่เห็น​”

ส่วนน้อย​พูดว่า​ “หนี​ไป​แล้ว​ หนี​ไป​แล้ว​…”

ฉุน​เยียน​ฟังอยู่​ครู่หนึ่ง​ แล้ว​พูดว่า​

“เมื่อไม่นานมานี้​ยังอยู่​ใน​ป่า​ทางทิศใต้​ เพิ่ง​หนี​ไป​ได้​ไม่นาน​ ไป​ทาง​ตะวันตกเฉียงใต้​แล้ว​”

สวี่​ชีอัน​ก็​เข้าใจ​ ‘ภาษา’ นก​เช่นกัน​ จึงสั่งการ​ว่า​

“ส่อง​ไป​ทาง​ทิศตะวันตกเฉียงใต้​ ไม่จำกัด​ขอบเขต​”

กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​ยังคง​ส่องแสง​ระยิบ​ต่อไป​ แต่ละ​ฉาก​แต่ละ​ภาพ​ ผ่าน​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ จนถึง​ขีด​จำขอบเขต​ของ​ของ​วิเศษ​

“หาไม่​พบ​”

เขา​เก็บ​กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​ แล้ว​ส่ายหน้า​ด้วย​ความผิดหวัง​

“แค่​ตัว​ละครเล็ก​ๆ ที่​ไม่มีความสำคัญ​ ทำไม​จะต้อง​สนใจ​ด้วย​” หลวนอวี้​บิด​เอวบาง​แนบชิด​เข้ามา​ พูด​อย่าง​น่ารำคาญ​ว่า​

“ผู้หญิง​ภาค​กลาง​อย่าง​พวก​เจ้าเรียก​คนรัก​ว่า​ว่า​อะไร​? อืม​ สวี่​หลา​ง ใช่ไหม​!”

แม้จะอยู่​ห่าง​กัน​มาก​ แต่​สวี่​ชีอัน​ ก็​สามารถ​มองเห็น​ดวงตา​ของ​มู่หนาน​จือ​ที่​เฉียบขาด​ขึ้น​มาทันที​

เขา​ผลัก​หลวนอวี้​ออก​ไป​ด้วย​ท่าที​เคร่งขรึม​ และ​พยายาม​แสดงให้เห็น​ท่าทาง​โกรธเคือง​ภายใต้​การ​จับจ้อง​ของ​มู่หนาน​จือ​

“ทำไม​ เจ้าคิด​จะทำลาย​สัญญา?” หลวนอวี้​พูด​ด้วย​ความน้อยใจ​

“ไม่ใช่ สิ่งที่​ข้า​อยาก​จะบอก​เจ้าก็​คือ​ ใน​ที่ราบ​ภาค​กลาง​ของ​พวกเรา​ ชาย​และ​หญิง​จะใกล้ชิด​กัน​ได้​เฉพาะ​เวลา​หลังจากที่​ไฟดับ​ใน​เวลา​กลางคืน​แล้ว​เท่านั้น​ ใน​ตอนกลางวัน​ แม่นาง​หลวนอวี้​ได้​โปรด​ปฏิบัติตาม​ธรรมเนียม​ปฏิบัติ​ด้วย​”

สวี่​ชีอัน​พูด​ประโยค​นี้​ด้วย​ท่าทาง​โกรธเคือง​ ถึงอย่างไร​มู่หนาน​จือ​ก็​ไม่ได้ยิน​ นาง​คง​คิด​ว่า​ตนเอง​กำลัง​ตะคอก​ผู้หญิง​ชั้นต่ำ​ที่​มีเสน่ห์​ยั่วยวน​จาก​ซินเจียง​ตอน​ใต้​อยู่​

มู่หนาน​จือ​แสดง​ความพึงพอใจ​ออกมา​

“ตกลง​ น่าสนใจ​มาก​เลย​”

หลวนอวี้​ยิ้ม​พร้อม​ขยิบตา​ให้​สวี่​ชีอัน​

‘สวี่​หนิง​เยี่ยน​แอบ​คบ​กับ​ผู้หญิง​อย่าง​ลึกลับ​อีกแล้ว​…’ ลี่​น่าคิด​ด้วย​ความโกรธแค้น​อยู่​ใน​ใจ ขณะเดียวกัน​ก็​หยิบ​เศษชิ้นส่วน​หนังสือ​ปฐพี​ออก​มาจาก​อก​เสื้อ​ หันหลัง​ให้​ทุกคน​

ตั้งแต่​เมื่อ​ครู่​ที่​ฉู่หยวน​เจิ่น​พูด​จบ​ ทุกๆ​ ยี่สิบ​อึดใจ​ก็​จะมีคน​ส่งข้อความ​มา

ความคิด​ของ​ลี่​น่า​กำลัง​ต่อสู้​กัน​ จึงไม่มีเวลาว่าง​ที่จะ​สนใจ​ ในที่สุด​ตอนนี้​ก็​สามารถ​รายงาน​ความปลอดภัย​ให้​สมาชิก​พรรค​ฟ้าดิน​ได้​รับรู้​ได้​แล้ว​

‘หมายเลข​ห้า​: มัน​จบ​แล้ว​!’

หลังจากที่​นาง​ส่งสามคำ​เสร็จ​ ขณะที่​นิ้วมือ​กำลังจะ​เขียน​ข้อความ​ต่อ​ การ​ส่งข้อความ​ของ​เศษชิ้นส่วน​หนังสือ​ปฐพี​กลับ​เหมือน​เกิด​การวิวาท​กัน​ขึ้น​

‘หมายเลข​สอง​ : ทำไม​เจ้าถึงเพิ่งจะ​ตอบ​ตอนนี้​? ข้า​ส่งข้อความ​ตั้ง​หลายครั้ง​ เจ้าไม่เห็น​เลย​หรือ​อย่างไร​ สวี่​หนิง​เยี่ยน​เกิดเหตุ​ไม่คาดคิด​ขึ้น​หรือ​อย่างไร​ เจ้าไม่กล้า​ตอบ​หรือ​อย่างไร​?’

‘หมายเลข​หนึ่ง​ : เขา​เป็น​อย่างไรบ้าง​? ผล​เป็น​อย่างไร​?’

‘หมายเลข​เจ็ด​ : สวี่​ชีอัน​คน​นี้​ เป็น​คนเลว​อายุ​ยืนยาว​ น่าจะ​ เอ่อ​ น่าจะ​ไม่เป็นอะไร​นะ​ หนี​ไป​แล้ว​ใช่หรือไม่​? ‘

‘หมายเลข​หก​ : ประสก​ลี่​น่า​ สถานการณ์​ของ​ใต้เท้า​สวี่​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​หรือไม่​?’

‘หมายเลข​สี่ : รีบ​บอก​มา เป็น​อย่างไรบ้าง​’

ช่วงเวลา​ที่​ห่าง​กัน​นาน​ที่สุด​ใน​การ​ส่งข้อความ​เหล่านี้​ไม่ถึงห้า​วินาที​ หาก​ตัดสิน​จาก​ความ​ยาว​ของ​ตัวอักษร​แล้ว​ แสดงว่า​พวกเขา​เขียน​ในเวลาเดียวกัน​

พอดี​เลย​ ประโยค​ที่สอง​ของ​ลี่​น่า​เขียน​เสร็จ​แล้ว​

‘หมายเลข​ห้า​ : สวี่​หนิง​เยี่ยน​ชนะ​แล้ว​’

กลุ่ม​สนทนา​ใน​หนังสือ​ปฐพี​เงียบ​ลง​ทันที​ เงียบ​จน​ลี่​น่าสงสัย​ว่า​ตนเอง​ถูก​ปิดกั้น​โดย​นักบวช​เต๋า​จิน​เหลียน​ แม้แต่​ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​ผู้​ที่​อารมณ์ร้อน​ที่สุด​ก็​ไม่ได้​ตอบกลับ​ คนอื่นๆ​ ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​

หลังจาก​ผ่าน​ไป​ยี่สิบ​วินาที​เต็ม​ คน​ที่​ส่งข้อความ​ตอบ​กลับเป็น​คน​แรก​คือ​ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่

‘หมายเลข​เจ็ด​ : แย่​แล้ว​ สวี่​หนิง​เยี่ยน​ตาย​แล้ว​ หมายเลข​ห้า​ไม่กล้า​บอก​ความจริง​กับ​เรา​ ดังนั้น​จึงโกหก​พวกเรา​’

แต่​คนอื่นๆ​ ที่​รู้จัก​นิสัย​ของ​ลี่​น่า​ดี​ กลับ​รู้​ว่า​นี่​คือ​ความจริง​…สวี่​หนิง​เยี่ยน​ชนะ​แล้ว​

‘หมายเลข​สอง​ : เขา​ทำได้​อย่างไร​? เป็นไปไม่ได้​ที่​เขา​จะได้​เลื่อน​สู่ขั้น​สอง​เร็ว​อย่างนี้​’

ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​แทบจะ​เขียน​คำพูด​นี้​ด้วยมือ​อัน​สั่นเทา​ ไม่แน่ใจ​ว่า​อารมณ์​ของ​ตนเอง​ในเวลานี้​รู้สึก​ตื่นเต้น​ หรือ​หวาดกลัว​ ครั้งนี้​มัน​แตกต่าง​จาก​ตอน​อยู่​ที่​เจี้ยน​โจว​ ใน​การต่อสู้​ที่​ภูเขา​เฉวี่ยนหรง​ สวี่​ชีอัน​ได้​เรียก​วิญญาณ​วีรบุรุษ​จักรพรรดิ​เกา​จู่ผู้​มีความสามารถ​ใน​การพลิก​สถานการณ์​ แต่​หลังจากนั้น​สวี่​ชีอัน​เคย​บอก​เพื่อน​ที่​เคย​ร่วมเป็นร่วมตาย​กัน​หลายครั้ง​อย่าง​พวกเขา​กลุ่ม​นี้​ว่า​วิธีการ​นี้​ไม่มีครั้ง​ที่สอง​ และ​เจิ้นกั๋วเจี้ยน​ก็ได้​มอบให้​กับ​ซุน​เสวียน​จีไป​แล้ว​ โดย​เขา​เป็น​คน​นำ​กลับ​เมืองหลวง​

‘หมายเลข​สี่ : บางที​ ตอนที่​เขา​ต่อสู้​กับ​อา​ซูหลัว​ที่​ภูเขา​สือ​ว่าน​ ก็ได้​หา​ขั้น​ตอนสำคัญ​ของ​การ​เลื่อน​สู่ขั้น​สอง​พบ​แล้ว​’

ฉู่หยวน​เจิ่น​ให้​คำอธิบาย​ที่​พอ​จะยอม​รับได้​ แต่​ก็​ถูก​ปฏิเสธ​อย่าง​เด็ดขาด​

‘หมายเลข​เจ็ด​ : ไม่ใช่ ใน​ร่างกาย​ของ​เขา​ยังมี​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ที่​ยัง​ไม่ได้​ถอน​ทิ้ง​’

หลังจาก​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ฉู่หยวน​เจิ่น​ก็​ส่งข้อความ​มา

‘สามารถ​เล่า​เหตุการณ์​ที่ผ่านมา​ให้​พวกเรา​ฟังโดยละเอียด​ได้​หรือไม่​?’

‘หมายเลข​ห้า​ : อืม​’

นาง​เขียน​ไม่เร็ว​ เมื่อ​เจอ​ตัวอักษร​ที่​เขียน​ไม่เป็น​ ก็​ต้อง​ใช้เวลา​คิด​นาน​ และ​มีตัวอักษร​ที่​เขียน​ผิด​มากมาย​ แต่​พรรค​ฟ้าดิน​ทุกคน​กลับ​ดู​อย่าง​จริงจัง​และ​ละเอียด​อย่างยิ่ง​

จนกระทั่ง​ลี่​น่า​พูด​ขึ้น​ว่า​ ‘ข้า​พูด​จบ​แล้ว​’

ฉู่หยวน​เจิ่น​ส่งข้อความ​ด้วย​สะเทือนใจ​

‘หมายเลข​สี่ : ตอนแรก​ที่​เขา​ถูก​ปิดผนึก​ด้วย​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​เพื่อ​บำเพ็ญ​ เหมือน​เพิ่ง​เกิดขึ้น​เมื่อวาน​ เวลา​สั้น​ๆ เพียง​สอง​เดือน​ กลับ​บำเพ็ญ​เจ็ด​ยอด​กู่​ได้​ถึงขั้น​นี้​ รวม​กับ​กำลัง​ของ​ทหาร​ขั้น​สามของ​เขา​ การ​เอาชนะ​ผู้นำ​เผ่าพันธุ์​กู่​หลาย​ท่าน​ ไม่ใช่เรื่อง​ยาก​เลย​’

สมาชิก​ของ​พรรค​ฟ้าดิน​นอกจาก​ความสะเทือนใจ​แล้ว​ ก็​ไม่มีความเห็น​มาก​ไป​กว่า​นี้​ กระทั่ง​หลังจาก​สงสัย​ได้​ไม่นาน​ แม้แต่​ความสะเทือนใจ​ก็​ไม่มีแล้ว​ เหลือ​แต่เพียง​ความ​ชินชา​

‘หมายเลข​หนึ่ง​: เผ่าพันธุ์​กู่​เห็นด้วย​ที่จะ​ยก​เลิกความ​เป็น​พันธมิตร​กับ​อวิ๋น​โจว​แล้ว​หรือยัง​?’

หลังจาก​ช่วงเวลา​สั้น​ๆ ของ​ความ​ตื่น​ตะลึง​และ​สะเทือนใจ​แล้ว​ ฮว๋าย​ชิ่งก็​เป็น​คน​แรก​ที่​คิด​เรื่อง​เป็นการเป็นงาน​ขึ้น​มาได้​

สมาชิก​ของ​พรรค​ฟ้าดิน​กระฉับกระเฉง​ขึ้น​มาทันที​ จำความตั้งใจ​เดิม​ของ​สวี่​ชีอัน​ใน​การต่อสู้​ครั้งนี้​ได้​

‘หมายเลข​ห้า​ : เห็นด้วย​’

ลี่​น่า​ตอบ​ข้อความ​อย่าง​สั้น​ๆ ได้​ใจความ​

‘หมายเลข​สอง​ : ดีมาก​ หาก​เผ่าพันธุ์​กู่​ไม่เข้าร่วม​สงคราม​ ต้าฟ่ง​และ​กลุ่ม​กบฏ​อวิ๋น​โจว​ยัง​พอ​สู้กัน​ได้​ ทหาร​ของ​ต้าฟ่ง​ทั้งหมด​ควรจะ​ขอบคุณ​สวี่​หนิง​เยี่ยน​ ที่​ช่วย​ราชสำนัก​ต้าฟ่ง​ไว้​ได้​อีกครั้ง​’

แม้ว่า​เขา​จะไม่ได้​อยู่​ใน​สนามรบ​ แต่​ได้​ทำ​เรื่องสำคัญ​สำหรับ​สงคราม​ที่​กำลังจะ​กวาด​ที่ราบ​ภาค​กลาง​ไว้​มากมาย​

‘หมายเลข​หนึ่ง​ : คุณงามความดี​ของ​เขา​จะไม่ถูก​กลบ​ฝัง ทหาร​และ​ราษฎร​ของ​ต้าฟ่ง​ต้อง​รู้​ถึงสิ่งที่​เขา​ทำ​ทั้งหมด​’

ฮว๋าย​ชิ่งส่งข้อความ​

‘หมายเลข​หก​ : ใต้เท้า​สวี่​ไม่เคย​ทำให้​อาตมา​ผิดหวัง​ อาตมา​จะตั้งใจ​บำเพ็ญ​ เพื่อ​ตอบแทน​บุญคุณ​ที่​ใต้เท้า​สวี่​เคย​ช่วยชีวิต​ ไม่ทำให้​เขา​ผิดหวัง​’

‘ไต้​ซือเหิงหย่วน​ คำพูด​ของ​เจ้าฟังดู​แปลก​ๆ เหมือนกับ​ทหาร​ที่​ให้​คำมั่นสัญญา​ต่างๆ​ ก่อนที่จะ​ออก​รบ.​..’ ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​คิดในใจ​

‘คำพูด​ของ​หัวโล้น​เหิงหย่วน​ฟังดู​แปลก​มาก​ๆ…’ ลี่​น่า​กำลัง​คิด​ที่จะ​ส่งข้อความ​ จู่ๆ ก็​ได้ยิน​เสียง​ของ​พ่อ​ดัง​มาจาก​ด้านหลัง​

“ลี่​น่า​ กลับกัน​เถิด​”

นาง​ตกใจ​จึงรีบ​เก็บ​เศษชิ้นส่วน​หนังสือ​ปฐพี​ทันที​ แสร้ง​รับคำ​หลง​ถูที่​ยืน​อยู่​ข้างหลัง​ราวกับว่า​ไม่มีอะไร​เกิดขึ้น​

“อ้อ​ ข้า​รู้​แล้ว​”

“เมื่อกี้​เจ้ากำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​?” หลง​ถูถาม

“ข้า​ ข้า​ไม่ได้​ทำ​อะไร​นี่​น​นา​” ลี่​น่า​พูด​เสียงแข็ง​

หลง​ถูพยักหน้า​ด้วย​ความพึงพอใจ​ ลี่​น่า​เป็น​คน​ฉลาด​ และ​รอบคอบ​มาตั้งแต่​เด็ก​ ไม่เหมือน​พี่ชาย​ผู้​โง่เขลา​ของ​นาง​ ที่​ปกปิด​เรื่องราว​ไม่เป็น​

อีก​ด้าน​หนึ่ง​ สวี่​ชีอัน​ที่​กำลัง​เดิน​ไป​ทาง​มู่หนาน​จือ​ จู่ๆ ก็​หยุด​เดิน​ แล้ว​หัน​กลับมา​ทันที​ มอง​ไป​ที่​แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​

และ​คนอื่นๆ​ พูด​เสียง​เคร่งขรึม​ว่า​

“ไม่ถูกต้อง​!”

……………………………………..

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท