คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง – ตอนที่ 416 ระดับอาวุโสผิดเพี้ยน

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

ตอนที่ 416 ระดับอาวุโสผิดเพี้ยน

จวนองค์หญิงจู้หยางไม่ได้คึกคักเช่นนี้มานานแล้ว

มีแขกมาเยือนติดต่อกันนับตั้งแต่เช้าตรู่

อีกทั้งแต่ละคนล้วนใหญ่โต เพียงแค่พูดชื่อก็ทำให้คนหวาดผวา

เซียวฮูหยิน “…”

อารมณ์ของเซียวฮูหยินทั้งซับซ้อนทั้งโกรธ

นางเพียงแค่เชิญท่านโหวผิงอู่ สืออุนผู้เดียว

สุดท้ายอีกฝ่ายกลับเชิญทั้งท่านอ๋องผิงชิน เซียวเฉิงเหวินทั้งหลิงฉางจื้้อมาโดยไม่บอกล่าว

เกินไปแล้ว!

หมายความว่าอย่างไร

คิดจะแสดงบารมีต่อหน้า “แม่ยาย” อย่างนางหรือ

เยียนอวิ๋นฉีและเยียนอวิ๋นเกอพึมพำ “ข้าห้าไม่อยู่! หลังจากท่านอ๋องได้รับเชิญจากท่านโหวผิงอู่ ไม่ว่าอย่างไรก็จะมา บอกว่าท่านโหวเชื้อเชิญด้วยความกระตือรือร้น จะปฏิเสธได้อย่างไร เหตุใดเขาจึงไม่คิด สถานที่ที่ท่านโหวผิงอู่เชิญมาคือจวนองค์หญิง ช่างวุ่นวายเสียเหลือเกิน ท่านโหวผิงอู่คิดจะผันตัวเป็นฝ่ายรุก เอาชนะท่านแม่อย่างนั้นหรือ”

เยียนอวิ๋นเกอพูด “พี่สองรู้หรือไม่ ตอนที่ท่านแม่ยังเด็ก หรือก็คือก่อนออกเรือนไม่กี่ปี นางเคยพบกับท่านโหวผิงอู่ในเมืองหลวง เวลานั้นท่านโหวผิงอู่ก็ยังเป็นเพียงเด็กหนุ่ม”

เยียนอวิ๋นเกอถลึงตาโต สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

นางกดเสียงต่ำ “น้องสี่ เจ้าอย่าหลอกข้า! เจ้าครงไม่ได้อยากบอกว่าท่านแม่รู้จักกับท่านโหวผิงอู่ ระหว่างทั้งสอง…”

“พี่สองคิดเรื่องใดกัน ข้าไม่ได้หมายความเช่นนี้ เรื่องแบบนี้ก็ไม่มีทางเกิดขึ้น!”

เยียนอวิ๋นเกอตัดสินใจพูดขัดพี่สองทันที

ถึงแม้ภายในราชวงศ์จะมีเรื่องน้ำเน่าเกิดขึ้นมากมาย แต่เรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นกับท่านแม่

เยียนอวิ๋นฉีโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าก็กลับสู่ปกติ

“น้องสี่ คราวหน้าเจ้าพูดให้จบ เมื่อกี้ข้าเกือบตกใจตาย!”

เยียนอวิ๋นเกอกรอกตา “ข้าต้องตกใจท่านเสียมากกว่า ข้าหมายความว่า ท่านแม่กับท่านโหวผิงอู่อาจมีความแค้นในวัยเด็กหรือไม่”

“ไม่น่าจะเป็นไปได้!” เยียนอวิ๋นฉีมั่นใจอย่างมาก “ตอนนั้นพี่ใหญ่บอกจะแต่งงานกับท่านโหวผิงอู่ ท่านแม่เพียงแค่รังเกียจท่านโหวผิงอู่ที่อายุมาก มีบุตรหลานมาก แต่ไม่มีความกังวลเรื่องอื่น”

เยียนอวิ๋นเกอคิดแล้วก็จริง

หากมีความบาดหมางจริง หรือมีความแค้นจริง ตอนนั้นท่านแม่ก็ควรห้ามไม่ให้พี่ใหญ่แต่งงานกับท่านโหวผิงอู่

นางครุ่นคิด พลันพูด “ท่านโหวผิงอู่ไม่เพียงเชิญท่านอ๋องผิงชิน ยังเชิญหลิงฉางจื้้อด้วย หากเขาสามารถติดต่อเซียวอี้ได้ ข้าสงสัยว่าเขาอาจเชิญเซียวอี้มาด้วย เขาทำเช่นนี้ย่อมมีจุดประสงค์บางอย่าง ตอนพบหน้า พี่สองอย่าใจร้อน ลองฟังว่าพวกเขาพูดอย่างไรก่อน ข้าจะไปสืบข่าวจากหลิงฉางจื้้อ พี่สองก็ลองถามท่านอ๋องผิงชินดู”

เยียนอวิ๋นฉีตอบรับทันที

ทุกคนพบหน้ากันที่ห้องโถง

บรรยากาศอึดอัดเล็กน้อย

เซียวฮูหยินและท่านโหวผิงอู่เป็นคนรุ่นเดียวกัน แต่กลับมีความแตกต่างในฐานะแม่ยายและลูกเขย!

ส่วนท่านอ๋องผิงชินก็เป็นลูกเขยเช่นเดียวกัน

ส่วนหลิงฉางจื้้อก็เป็นผู้น้อยในความสัมพันธ์ฉันเครือญาติ!

ความสัมพันธ์ยุ่งเหยิง!

เซียวฮูหยินนวดขมับ “แยกแยะกันไปตามเรื่อง วันนี้ทุกคนนานทีจะมารวมตัว ข้าขอชาบรรณาการจากสำนักเส้าฝู่มาโดยเฉพาะ ทุกท่านลองชิมดู!”

“ขอบพระคุณน้ำใจขององค์หญิง!” ท่านโหวผิงอู่พูดเสียงดัง

ท่านอ๋องผิงชินไม่ตอบ เขายกชาขึ้นดื่มอย่างเงียบๆ

หลิงฉางจื้้อ “…”

เขากระแอมไอเสียงเบาสองที แสร้งทำเป็นตนเองไม่อยู่ในห้องนี้

ท่านโหวผิงอู่ยกแก้วชาขึ้นดื่ม “อืม ชาบรรณาการสมคำล่ำลือ! แต่สำหรับข้ามันอ่อนเกินไป ข้าทำสงครามอยู่ทางเหนือมาหลายปี ความเคยชินต่ออาหารก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ชื่นชอบชาที่มีรสชาติเข้ม ถึงจะไม่มีราคาแพง แต่เป็นของดีที่จำเป็นในการบรรเทาความมันของอาหาร!”

เซียวฮูหยินเม้มปากยิ้ม “ข้าคำนึงไม่รอบคอบเอง! ผู้ใดก็ได้ รินชาให้ท่านโหวผิงอู่ใหม่ ช้าก้อนชาชั้นดี รสชาติต้องหนัก!”

บ่าวรับใช้รับคำสั่งจากไป

ท่านโหวผิงอู่หัวเราะ “ขอบพระคุณองค์หญิงที่รับรอง! วันนี้มาเยือน ข้าก็รู้สึกเขินอายไม่น้อย ท่านดู ลำดับอาวุโสนี้ยุ่งเหยิงไม่เข้าท่า มีเซียวอี้เพิ่มขึ้นอีกคน ลำดับอาวุโสของพวกเรายิ่งวุ่นวาย! ท่านอ๋องผิงชินมีความเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้”

ท่านอ๋องผิงชิน เซียวเฉิงเหวินเลิกคิ้วเล็กน้อย ต้องการคิดบัญชีย้อนหลังหรือ

เพียงเพราะลำดับอาวุโสผิดเพี้ยน?

เขาวางแก้วชาลง พลันกระแอมไอเสียงเบา “ความกังวลของท่านโหวเป็นเรื่องจริง ลำดับอาวุโสผิดเพี้ยนไปบ้างก็จริง! แต่องค์หญิงก็บอกแล้ว พวกเราแยกแยะของแต่ละคนก็พอ!”

ท่านโหวผิงอู่ สืออุนหัวเราะ “เดิมทีบุตรของข้านั้นมีลำดับเดียวกับท่านอ๋องผิงชิน แต่เวลานี้กลับต่ำกว่าหนึ่งลำดับ พี่น้องกลายเป็นหลาน ไม่เข้าท่า! หากเซียวอี้แต่งงานกับคุณหนูสี่ บุตรของเซียวอี้ควรจะเรียกข้าว่าท่านลุง หรือท่านอา”

อึก!

หลิงฉางจื้้ออดไม่ไหว สำลักน้ำออกมา

เขาโบกมือระรัว พลันเช็ดแขนเสื้อ “ไม่ต้องสนใจข้า ไม่ต้องสนใจข้า! พวกท่านเชิญพูดต่อ!”

ทุกคนถลึงตาใส่เขา ก่อนจะเบนสายตากลับมา

เยียนอวิ๋นเกอนั่งอยู่ข้างเซียวฮูหยินอย่างไร้สีหน้าราวกับไม่ได้ยิน

กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเยียนอวิ๋นฉีที่นั่งอยู่ข้างเซียวเฉิงเหวินนั้นกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้ อดทนอย่างยากลำบาก

เซียวฮูหยินกุมขมับถอนหายใจ “เรื่องแต่งงานของอวิ๋นเกอกับเซียวอี้ ข้าคัดค้านมาแต่แรก หากไม่ใช่บุตรเขยของข้า ท่านอ๋องผิงชินเข้าวังไปทูลขอพระราชโองการด้วยตนเอง ย่อมไม่เกิดเรื่องลำดับอาวุโสยุ่งเหยิง ท่านโหวพูดถูก มันยุ่งเหยิงเสียจริง!”

ท่านโหวผิงอู่ยกมือ “ขอบพระคุณองค์หญิงที่สนับสนุนความเห็นของข้า! ไม่รู้ท่านอ๋องผิงชินมีสิ่งใดอยากพูด”

เซียวเฉิงเหวินกระแอมไอเสียงเบา “ข้าไม่มีสิ่งใดจะพูด! งานแต่งถูกกำหนดแล้ว รอแค่พิธี กลับใจก็สายไปแล้ว!”

ท่านโหวผิงอู่หัวเราะ “ท่านอ๋องไม่จริงใจ รู้แต่เพียงรังแกคนซื่อ รังแกองค์หญิงที่ไร้คนช่วยเหลือ! ท่านกำลังรังแกคนอ่อนแอกว่า น่ารังเกียจนัก!”

ท่านอ๋องผิงชิน เซียวเฉิงเหวินเลิกคิ้ว ถามอย่างตรงไปตรงมา “ท่านโหวคิดจะให้ข้าชดเชยอย่างไร”

ท่านโหวผิงอู่พูดทันที “ยกเลิกงานแต่ง! ลำดับอาวุโสย่อมไม่ผิดเพี้ยน!”

คราวนี้เซียวเฉิงเหวินเป็นฝ่ายหัวเราะ “ข้าทำไม่ได้! ท่านโหวกับฝ่าบาทมีความสนิทสนมกัน สู้ท่านโหวเข้าวังทูลขอพระราชโองการยกเลิกงานแต่ง ไม่แน่ฝ่าบาทอาจทรงทำตามความประสงค์ของท่านโหว ออกพระราชโองการยกเลิกงานแต่ง!”

ท่านโหวผิงอู่ลูบเครา ยิ้มอย่างรู้ทัน “ท่านอ๋องไม่ยอมช่วยข้า?”

“ขอท่านโหวโปรดเห็นใจ เรื่องนี้ยากที่จะทำสำเร็จ!”

“จากฐานะและฝีมือของท่าน เรื่องนี้เป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเหมือนกินข้าว เหตุใดท่านอ๋องจึงตระหนี่เช่นนี้!”

เซียวเฉิงเหวินหรี่ตาลง “ท่านโหวกำลังพูดเรื่องใด ข้าไม่เข้าใจนัก!”

“เรื่องที่รู้ดีแก่ใจ ท่านอ๋องอย่าแสร้งโง่เลย!”

เซียวเฉิงเหวินหัวเราะออกมาในทันทีด้วยความกระจ่างใจ

เขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว

เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “สิ่งของที่ท่านโหวต้องการจะถูกส่งไปถึงค่ายทหารตามจำนวนและตรงเวลา! โจรกบฏนอกเมืองยังต้องลำบากท่านอ๋อง หวังว่าจะจัดการได้โดยเร็ว! ด่านหน้าทางเหนือก็ขาดท่านโหวไม่ได้ เมื่อจัดการโจรกบฏในเมืองหลวงแล้ว ข้าจะส่งท่านโหวออกจากเมือง มุ่งหน้าด่านหน้าทางเหนือด้วยตนเอง! นับจากนี้ เพียงแค่เป็นสิ่งที่ท่านโหวต้องการ ข้าจะกำชับให้ราชสำนักจัดหาให้”

ท่านโหวผิงอู่หัวเราะร่า

เซียวเฉิงเหวินรู้งานเสียจริง!

โธ่เอ้ย พวกผู้ชาย เอาแต่พูดจาอ้อมค้อม!

มีตาก็ดูออก ท่านโหวผิงอู่ หลิงฉางจื้้อ เซียวเฉิงเหวินต่างรู้เรื่อง เพียงแค่ไม่ยอมพูดออกมา

เดิมทีนางอยากเปิดปาก แต่เซียวฮูหยินส่ายหน้าห้ามนางเอาไว้

“อวิ๋นเกอ อวิ๋นฉี พวกเจ้าสองพี่น้องไปดูที่ห้องครัว อาหารเตรียมพร้อมหรือไม่! วันนี้มีแขกมาเยือน อย่าได้ล่าช้า”

เยียนอวิ๋นเกอแอบถอนหายใจ นางไม่อาจทำให้ท่านแม่เสียหน้า

นางทำได้เพียงลุกขึ้น เดินตามพี่สอง เยียนอวิ๋นฉีออกจาห้องโถงไป

ช่างไม่เต็มใจเหลือเกิน!

ท่านโหวผิงอู่หัวเราะออกมา “ขอบพระคุณองค์หญิง! ต่อหน้าพระชายาและคุณหนูสี่ เรื่องบางเรื่องข้าก็ไม่อาจเอ่ยออกมาได้”

เซียวฮูหยินยกแก้วชาขึ้นจิบหนึ่งคำ “ท่านโหวผิงอู่มีวิธียกเลิกงานแต่งระหว่างอวิ๋นเกอกับเซียวอี้หรือไม่ งานแต่งนี้ เดิมทีก็มีความเหลวไหลอยู่ อีกทั้งยังทำให้ลำดับอาวุโสผิดเพี้ยน”

“ไม่ได้ ไม่ได้! ข้าไม่มีความสามารถเพียงนั้น”

ท่านโหวผิงอู่ปฏิเสธเซียวฮูหยินโดยไม่ต้องคิด

ล้อเล่นหรือ!

เซียวอี้ทำอาชีพใด

อาชีพของเขาคือลอบสังหาร

เขาอยากจะสู่ขอเยียนอวิ๋นเกอเป็นภรรยาทั้งใจ หากงานแต่งถูกยกเลิก จากนิสัยของเซียวอี้ เขาต้องฆ่าคนอย่างแน่นอน

แม้จะเป็นลุงแท้ๆ เซียวอี้ก็กล้าฆ่า

สำหรับคนอย่างเซียวอี้ ท่านโหวผิงอู่ยึดถือหลักการอยู่ให้ห่าง ใช้ประโยชน์ได้ แต่เชื่อใจไม่ได้!

เวลานี้ ปีกของเซียวอี้แข็งแกร่งแล้ว มีความคิดและแผนการของตัวเองแล้ว เขาไม่เชื่อฟังคำสั่งของท่านโหวผิงอู่อีกต่อไปแล้ว

ท่านโหวผิงอู่ “…”

ทำได้เพียงก่นด่า ชีวิตต้องดำเนินไปอย่างไรก็ดำเนินไปเช่นนั้น

อย่างไร เขาไม่มีทางหาเรื่องด้วยการไปแทรกแซงเรื่องแต่งงานของเซียวอี้

เหมือนที่เซียวฮูหยินพูด ต่างคนต่างแยกแยะความสัมพันธ์ของตนเอง

เซียวฮูหยินหัวเราะเสียงเย็น สายตารังเกียจอย่างมาก

ท่านโหวผิงอู่หัวเราะร่า “องค์หญิงยังคงไม่ถูกใจข้าเหมือนตอนนั้น! แต่ไม่คิดว่าพวกเราจะกลายเป็นเครือญาติกัน!”

สีหน้าของเซียวฮูหยินเรียบเฉย “พูดได้เพียงทุกสิ่งล้วนเป็นความผิดพลาด! ข้ายังจำภรรยาเดิมของท่านได้ นางเป็นสตรีที่ฉลาด น่าเสียดาย!”

“น่าเสียดายจริงๆ! ไม่คิดว่าเรื่องเมื่อนานมาแล้ว องค์หญิงจะยังจำได้”

เซียวฮูหยินยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นเย็นยะเยือก

“เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ข้าจะลืมได้อย่างไร! เชื่อว่าท่านโหวก็ยังไม่ลืมใช่หรือไม่!”

“เกือบลืมหมดแล้ว เรื่องเมื่อหลายสิบปีก่อน จะจำได้อย่างไร! องค์หญิงก็ควรมองไปข้างหน้า อย่ารื้อฟื้นอดีต คนในตอนนั้นตายเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงคนแก่ไม่กี่คน พวกเขาไม่อาจก่อปัญหาได้อีก”

“แต่ข้ายังมีชีวิตอยู่!” เซียวฮูหยินจ้องมองเขา

ท่านโหวผิงอู่ยาชาเข้มที่เพิ่งต้มเสร็จขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด

เขาเช็ดมุมาก “องค์หญิงอยากให้ข้าทำอย่างไร คงไม่อาจขุดศพคนในตอนนั้นขึ้นมาเฆี่ยนตีใช่หรือไม่”

เซียวฮูหยินกวาดตามองเซียวเฉิงเหวิน ก่อนจะกวาดตามองหลิงฉางจื้้อ จากนั้นจึงพูดขึ้น “สิ่งของติดตัวหนึ่งของท่านพ่อสูญหายไปในเวลานั้น หากท่านโหวรู้ว่าสิ่งของนั้นอยู่ที่ใด หวังว่าจะคืนให้ข้าได้”

เมื่อท่านโหวผิงอู่ได้ยินก็หัวเราะออกมาทันที

เขารีบพูดทันที

“สิ่งของติดตัวที่ ‘องค์รัชทายาทจางอี้’ ทำหล่นหายย่อมล้ำค่าอย่างมาก แต่ว่าเรื่องนี้องค์หญิงถามผิดคนแล้ว ท่านควรถามบุตรเขยรองของท่าน เขาย่อมช่วยได้ ข้าเชื่อว่า สิ่งของติดตัวของ ‘องค์รัชทายาทจางอี้’ คงจะถูกเก็บไว้ในเมืองหลวง!”

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

Status: Ongoing
ณหนูจวนอื่นชื่นชอบแพรพรรณงดงาม กวี ภาพเขียน บุรุษหล่อเหลา แต่คุณหนูสี่จวนโหวกลับคลั่งไคล้ในเงินทอง! การค้ารูปแบบใดที่แผ่นดินนี้ไม่เคยมีล้วนออกมาจากสมองของนางและทั้งหมดล้วนทำให้เงินทองไหลมาเทมา!นิยายโรแมนติกจีนโบราณ ที่นางเอกมากความสามารถและคลั่งไคล้เงินสุดๆ!คุณหนูสี่แห่งจวนโหว เยียนอวิ๋นเกอ เป็นใบ้เพราะอุบัติเหตุตอนยังเด็กทำให้อุปนิสัยดุร้าย อารมณ์ร้อน มุทะลุยิ่งนักใครๆ ล้วนมองว่านางเป็นหญิงเอาแต่ใจไม่เคยคำนึงถึงสิ่งใดแต่จิตวิญญาณด้านในของนางนั้นคือหญิงสาวผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวในวันสิ้นโลกอาจเพราะความยากลำบากในชาติก่อนสิ่งเดียวที่นางกลัวที่สุดก็คือกลัวอดตาย!ดังนั้นหากไม่อยากอดตายต้องทำอย่างไรก็ต้องมีเสบียง! และการจะมีเสบียงได้นั้นก็ต้องมีเงิน!เพื่อการนั้นนางจะทุ่มเทสมองในการบุกเบิกการค้า ปูรากฐานทุกอย่างเพื่อพี่น้องและมารดาด้วยมันสมองของคนยุคใหม่นางไม่เชื่อว่าจะทำไม่ได้ทหารต่อให้เก่งกาจเพียงใดหากไม่มีเสบียงแล้วไซร้ก็ยากจะรบต่อไปได้ถึงตอนนั้นในแผ่นดินที่ฮ่องเต้จ้องจะกวาดล้างอำนาจขุนนาง ครอบครัวนางย่อมหยัดยืนได้อย่างมั่นคง!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท