รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 958 ทุกอย่างล้วนปูทางสู่การข่มดวง!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

บทที่ 958 ทุกอย่างล้วนปูทางสู่การข่มดวง!

บทที่ 958 ทุกอย่างล้วนปูทางสู่การข่มดวง!

อสูรมืดมิดกลืนวิญญาณสยดสยองเหลือแสน มันใช้วิชาก้นหีบ ไอหมอกสีดำแผ่กำจาย คลื่นพลังอันน่ากลัวซัดสาด โถมทับกระหน่ำองค์จ้าวอู๋เฉิน

บัดนี้องค์จ้าวอู๋เฉินแข็งแกร่งอย่างยิ่ง เข้าต่อสู้ดุเดือดกับอสูรมืดมิดกลืนวิญญาณโดยไม่เสียเปรียบแม้แต่น้อย!

มิหนำซ้ำเขายังเหนือกว่าอสูรมืดมิดกลืนวิญญาณอีกด้วย!

ตู้ม!

เสียงระเบิดดังกึกก้อง องค์จ้าวอู๋เฉินดุดันเกินจินตนาการ ปล่อยหมัดออกไปพร้อมด้วยคลื่นพลังเกินหยั่ง บดขยี้ทุกสิ่งจนแหลกลาญ!

อสูรมืดมิดกลืนวิญญาณยับยั้งเขามิได้ บาดเจ็บสาหัส ร่างกายระเบิดแหลกเหลวในบัดดล!

องค์จ้าวอู๋เฉินลงมืออย่างเด็ดเดี่ยว ไม่ให้โอกาสอสูรมืดมิดกลืนวิญญาณแม้แต่น้อย จู่โจมต่อไปอย่างดุดัน ลบล้างอสูรมืดมิดกลืนวิญญาณด้วยพลังกล้าแกร่งเหลือล้น

ขอบเขตอิสระขั้นเก้า ถือเป็นกำลังรบที่ยากจะกำจัด แม้ว่าองค์จ้าวอู๋เฉินนั้นทรงพลัง แต่ก็มิอาจสังหารอสูรมืดมิดกลืนวิญญาณได้ง่าย ๆ

เขาสำแดงทุกพลังวิชาออกมา ใช้เวลาอย่างยาวนานกว่าจะลบล้างอสูรมืดมิดกลืนวิญญาณให้สิ้นซาก

จากนั้น เขาบุกไปหาสิ่งมีชีวิตมืดมิด

อาภรณ์บนตัวเขาเป็นสีขาวบริสุทธิ์ ดูโดดเด่นเตะตาท่ามกลางสิ่งมีชีวิตมืดมิด นอกจากอสูรมืดมิดกลืนวิญญาณ ฝ่ายสิ่งมีชีวิตมืดมิดไม่เหลือกำลังรบขั้นเก้าอีก ยามอยู่ต่อหน้าเขาจึงไม่มีพลังพอจะต้านทานสักนิด!

เพียงครู่เดียว เขาก็สังหารสิ่งมีชีวิตมืดมิดจนหมด!

ระหว่างนั้น ศาสตรามืดมิดทรงพลังทั้งสามชิ้นจู่โจมเขา ทว่าถูกน้ำเต้าสุรายับยั้ง ศาสตรามืดมิดทรงพลังทั้งสามไม่อาจต้านทานน้ำเต้าสุรา

“นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น!”

องค์จ้าวอู๋เฉินดวงตาลุกวาว ทอดมองไปทางแดนบูชายัญอันธการ การล้างบางสิ่งมีชีวิตมืดมิดในที่แห่งนี้เป็นเพียงการเริ่มต้น วันหนึ่งเขาต้องบุกเข้าไปถึงแดนบูชายัญอันธการจนได้ในที่สุด

“หืม? นี่มันไม่ถูก!”

เวลานั้นเองเขาพลันขมวดคิ้ว ความรู้สึกถูกคุกคามผุดขึ้นในใจ!

“เป็นเช่นนี้นี่เอง!”

เขาตวาดเสียงเย็น ดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้า กฎระเบียบพิเศษบางอย่างพวยพุ่ง บดขยี้ภาพตรงหน้าจนแหลกลาญ!

อสูรมืดมิดกลืนวิญญาณมิได้ถูกเขาฆ่า ศาสตรามืดมิดทรงพลังทั้งสามก็มิได้ถูกน้ำเต้าสุรากำราบ เขาก็มิได้ฆ่าล้างสิ่งมีชีวิตมืดมิดทั้งหมด!

ทุกอย่างล้วนมิใช่ความจริง เป็นภาพมายา!

อสูรมืดมิดกลืนวิญญาณใช้วิชาลับบางอย่างทำให้เขาเกิดภาพลวงตา!

ยังดีที่เขาได้รับการชี้แนะจากคุณชาย ได้ยกระดับหทัยเต๋า สัมผัสถึงความไม่ชอบมาพากลในนาทีวิกฤติ!

หากมิใช่เช่นนั้น เขาคงถลำลึกลงไปแล้วจริง ๆ จนพาให้ชีวิตหาไม่!

ตู้ม!

เขาปล่อยหมัดออกไป คลื่นพลังน่ากลัวพวยพุ่ง กระแทกใส่ตัวอสูรมืดมิดกลืนวิญญาณในบัดดล!

รยางค์ของอสูรมืดมิดกลืนวิญญาณเกือบสัมผัสถูกศีรษะของเขาแล้ว ยังดีที่เขาได้สติในลมหายใจสุดท้าย มิฉะนั้น เขาต้องแย่แน่!

“เจ้า!”

อสูรมืดมิดกลืนวิญญาณกระอักโลหิตสีดำออกมาคำใหญ่ คิดไม่ถึงเลยว่าองค์จ้าวอู๋เฉินจะได้สติ จึงถูกหมัดนี้กระแทกอย่างแรง ร่างกายบิดเบี้ยวฉกรรจ์ เกิดรอยร้าวขึ้นจำนวนมาก!

ในฐานะอสูรกลืนวิญญาณ วิชารุนแรงที่สุดของมันก็คือการกลืนวิญญาณ ดึงผู้คนลงสู่ห้วงภาพลวงตาที่มันถักทอ แล้วฉวยโอกาสกลืนวิญญาณอีกฝ่าย

แต่องค์จ้าวอู๋เฉินกลับตื่นจากภาพลวงตาที่มันถักทอได้ มันคิดไม่ถึงจริง ๆ เกินความคาดหมายของมันอย่างสาหัส!

ขณะเดียวกัน องค์จ้าวอู๋เฉินบุกเข้ามาอีกครั้ง ไม่ให้โอกาสอสูรมืดมิดกลืนวิญญาณแม้แต่น้อย หมายจะอาศัยจังหวะนี้รุกหนักขึ้นเพื่อกำจัดอสูรมืดมิดกลืนวิญญาณให้ราบคาบ

โฮกกก!

อสูรมืดมิดกลืนวิญญาณคำรามกราดเกรี้ยว ภาพมายาที่มันสร้างขึ้นไม่อาจล่อลวงองค์จ้าวอู๋เฉินเข้ามาติดกับ จำต้องปะทะซึ่งหน้ากับองค์จ้าวอู๋เฉิน!

การต่อสู้อันดุเดือดปะทุในทันใด ไม่นานนักก็ถึงจุดเดือด ทั่วทั้งสมรภูมิมืดมิดแหลกลาญ ไม่มีบริเวณใดไม่บุบสลาย!

อนิจจา การปะทะซึ่งหน้าหาใช่จุดแข็งของอสูรมืดมิดกลืนวิญญาณ สิ่งที่อสูรมืดมิดกลืนวิญญาณถนัดที่สุดคือการถักทอภาพลวงตา

และหลังวิชาภาพลวงตาไม่มีผลต่อองค์จ้าวอู๋เฉิน มันกลายเป็นฝ่ายต้องตั้งรับ ไม่อาจต้านทานองค์จ้าวอู๋เฉินในการต่อสู้ซึ่งหน้าได้เลย

มิหนำซ้ำองค์จ้าวอู๋เฉินยังโจมตีอย่างดุดัน ไม่ให้โอกาสอสูรมืดมิดกลืนวิญญาณแม้แต่น้อย อสูรมืดมิดกลืนวิญญาณเป็นฝ่ายถูกรุกมากขึ้น

“พวกเรายอมถอนกำลัง!”

อสูรมืดมิดกลืนวิญญาณตะโกนบอก ไม่อยากต่อสู้ต่อไปอีก ขืนสู้กันต่อ จุดจบของมันย่อมต้องอนาถาเป็นแน่!

องค์จ้าวอู๋เฉินมิได้เอ่ยวาจา หากแต่แสดงเจตนารมณ์ของตนด้วยการกระทำ เขาลงมือดุดันอำมหิตยิ่งขึ้น คิดจะกำจัดอสูรมืดมิดกลืนวิญญาณให้ราบคาบ

“อย่าทำเช่นนี้ นี่เจ้าตั้งใจบีบให้ข้าต้องต่อสู้ปิดฉากกับเจ้าหรือ?!”

อสูรมืดมิดกลืนวิญญาณคำราม “หากเจ้าทำเช่นนี้ต่อ ข้าจักปลุกพลังศาสตรามืดมิดทรงพลังทั้งสามเพื่อสู้!”

“ตามใจเจ้า!”

สายตาองค์จ้าวอู๋เฉินเย็นยะเยือก มิได้เกรงกลัวคำขู่ของอสูรมืดมิดกลืนวิญญาณ

พวกจ้าวชิงไม่รู้ว่าคุณชายเก่งกาจปานใด จึงได้ผวาต่อศาสตรามืดมิดทรงพลังทั้งสามชิ้น

ทว่าเขานั้นไม่เหมือนกัน

เขารู้ดีว่าคุณชายเก่งกาจเพียงใด น้ำเต้าสุรามาจากฝีมือคุณชาย เขามั่นใจในตัวคุณชายเต็มร้อย น้ำเต้าสุราอันมาจากฝีมือคุณชายสามารถกำราบศาสตรามืดมิดทรงพลังทั้งสามชิ้นได้แน่นอน!

พรวดดด!

อสูรมืดมิดกลืนวิญญาณถูกกระหน่ำโจมตี พลังปราณเริ่มอ่อนแรง องค์จ้าวอู๋เฉินไม่มีความคิดปล่อยมันไป

“เช่นนั้นก็มาต่อสู้เต็มกำลังกันเถิด!”

มันแผดเสียงคำราม ไม่เหลือทางถอยอีก จำต้องปลุกพลังศาสตรามืดมิดทรงพลังทั้งสามเพื่อต่อสู้

ทว่าเวลานั้นเอง ร่างหนึ่งจุติจากแดนบูชายัญอันธการ

พลังปราณของมันสยดสยองชวนผวา เป็นเผ่ามนุษย์ตนหนึ่ง สีหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์

เสียงดังตู้ม มันลงมือโจมตีองค์จ้าวอู๋เฉินจนต้องถอยร่นในทันที ช่วยอสูรมืดมิดกลืนวิญญาณไว้และพามันไปจากที่นี่

จากนั้นมันก็ม้วนพลังห้อมล้อมสิ่งมีชีวิตมืดมิดทั้งหมดและพากลับไปยังแดนบูชายัญอันธการ

“ปล่อยพวกมันไปไม่ได้!”

องค์จ้าวอู๋เฉินบอกจ้าวชิง บอกให้จ้าวชิงโจมตีด้วยน้ำเต้าสุรา

จ้าวชิงมิได้ลังเล รีดเร้นกำลังน้ำเต้าสุราเต็มรูปแบบ

น้ำเต้าสุราเจิดจ้าแยงตา เริ่มการโจมตีขัดขวางมิให้ร่างนั้นพาสิ่งมีชีวิตมืดมิดทั้งหมดกลับไป

ร่างนั้นมีสีหน้าเย็นชา มือข้างหนึ่งสะบัด ศาสตรามืดมิดทรงพลังทั้งสามโจมตีใส่น้ำเต้าสุราทันที

“ไปได้!”

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงหิ้วคอเจ้าหลวงไปจากที่นั่นทันที บุกไปหาสิ่งมีชีวิตมืดมิด

“ข้าขอสู้ตายกับพวกเจ้า!”

ยามเขาบุกไปหาสิ่งมีชีวิตมืดมิดยังตะโกนโหวกเหวกไปด้วย ราวกับเคียดแค้นสิ่งมีชีวิตมืดมิดเต็มประดา คิดจะต่อสู้แลกชีวิตกับสิ่งมีชีวิตมืดมิด

“สหาย…อย่า!”

“แม้นความมืดมิดนั้นชั่วช้าสามานย์ กระนั้นสหายอย่าได้วู่วาม!”

สิ่งมีชีวิตหลังฉากพากันตะโกน คิดจริงว่าจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและเจ้าหลวงตั้งใจจะต่อสู้เอาเป็นเอาตายกับสิ่งมีชีวิตมืดมิด!

พวกเขาเต็มตื้นอยู่ในใจ ทั้งยังฮึกเหิมขึ้นมา

สิ่งมีชีวิตมืดมิดน่าประหวั่นพรั่นพรึงถึงขีดสุด จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและเจ้าหลวงยังกล้าบุกเข้าไป การกระทำเช่นนี้น่านับถือยิ่งนัก!

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและเจ้าหลวงว่องไวเหลือแสน กระทั่งองค์จ้าวอู๋เฉินยังตั้งตัวไม่ทัน

กว่าองค์จ้าวอู๋เฉินจะรู้ตัว จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและเจ้าหลวงก็มาถึงฝ่ายสิ่งมีชีวิตมืดมิดแล้ว

“อยากตายรึ!”

นัยน์ตาร่างมืดมิดนั้นเปล่งประกายเยียบเย็น ยกมือคิดจะปลิดชีพจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและเจ้าหลวง

“อย่า! เราคือพวกเดียวกัน!”

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงรีบตะโกนบอก ปลดปล่อยพลังมืดมิดทั้งหมดในตัวเขาเพื่อพิสูจน์ฐานะของตน

จากนั้น เขาก็รีบเอ่ยอย่างรวดเร็วว่า “ข้าคือมารจิว ในอดีตเคยต่อสู้กับพระอมิตาภะพุทธเจ้าโดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน ด้วยคิดจะสังหารพระอมิตาภะพุทธเจ้าให้สิ้นซาก แม้ว่าท้ายที่สุดข้าล้มเหลว กระนั้นข้ายังไม่ตาย ในที่สุดก็ฟื้นตัวกลับมาได้!”

ตู้ม!

เวลานั้นเอง เสียงระเบิดแสนน่ากลัวดังกระหึ่ม อานุภาพของน้ำเต้าสุราไม่อาจหยุดยั้ง ศาสตรามืดมิดทรงพลังทั้งสามชิ้นมิใช่คู่มือของน้ำเต้าสุราเลย เพิ่งปะทะกันได้ไม่นานเท่าไหร่ ก็ถูกน้ำเต้าสุราทำลายจนสิ้นซาก!

ร่างมืดมิดนั้นมิได้ลังเล พากลุ่มสิ่งมีชีวิตมืดมิดไปจากพื้นที่นี้อย่างรวดเร็ว กลับไปยังแดนบูชายัญอันธการ

ขณะเดียวกัน มันพาจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและเจ้าหลวงกลับไปด้วย

หัวใจของจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและเจ้าหลวงแทบหลุดออกจากอก หลังจากนี้ต่างหากคือช่วงเวลาสำคัญที่สุด

เพราะฝ่ายพลังมืดมิดต้องตรวจสอบพวกเขาแน่

“ไม่มีปัญหาอันใด”

ร่างมืดมิดนั้นตรวจสอบจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและเจ้าหลวงจริงตามคาด ทว่ามันไม่พบพิรุธอันใด

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและเจ้าหลวงโล่งอกสนิท ไม่รู้สึกกลัวอันใดอีก

‘พี่หลิวก็คือพี่หลิว!’

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงคิดในใจอย่างอดมิได้ ยิ่งเลื่อมใสในตัวต้นหลิว

ร่างมืดมิดนี้น่าประหวั่นพรั่นพรึงเหลือแสนอย่างไม่ต้องสงสัย แข็งแกร่งกว่าอสูรมืดมิดกลืนวิญญาณหลายขุม เป็นไปได้ว่าอาจพ้นจากขอบเขตอิสระ บรรลุสู่ขอบเขตที่สูงกว่านั้นแล้ว

ทว่าตัวตนสยดสยองระดับนี้ยังไม่อาจล่วงรู้ภูมิหลังที่แท้จริงของพวกเขา สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งเกินหยั่งของต้นหลิวได้อย่างไม่ต้องสงสัย!

เพราะต้นหลิวนั่นเองที่จัดเตรียมพวกเขาให้พร้อม พวกเขาถึงไม่ถูกจับได้

“เอาล่ะ พวกเจ้าอยู่ที่นี่ รอโอกาสออกไปสู้ศึกอีกครั้ง”

ร่างมืดมิดนั้นมิได้ใส่ใจจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและเจ้าหลวงนัก พูดจบก็ไปจากที่นี่ เข้าไปยังส่วนลึกของแดนบูชายัญ

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงก็เริ่มสำรวจสภาพแวดล้อม

แดนบูชายัญอันธการสยดสยองถึงขีดสุดอย่างที่คิด พลังมืดมิดน่าพรั่นพรึงไหลเวียนอยู่ทุกที่ และส่วนลึกของมันยิ่งทวีความน่ากลัว ที่นั่นมีม่านหมอกสีดำปกคลุมอยู่หนาแน่น มองไม่เห็นว่ามีสิ่งใดอยู่ภายใน

“เอาล่ะ จงแสดงประโยชน์ของเจ้า แต่สิ่งที่ต้องระวังคือห้ามเข้าไปในส่วนลึก”

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงลอบสื่อสารกับเจ้าหลวง

ส่วนลึกน่ากลัวเหลือแสนอย่างไม่ต้องสงสัย เขารู้สึกว่าการเตรียมการของต้นหลิวต่อเจ้าหลวงอาจไม่ส่งผลในส่วนลึก

หากเข้าไปถึงส่วนลึก มีโอกาสสูงที่ตัวตนของเจ้าหลวงจะถูกเปิดโปง

ส่วนเขานั้นคงไม่เป็นอันใด

นอกจากการจัดเตรียมจากต้นหลิว ในตัวเขายังมีกระดานหมากล้อมที่คุณชายประทาน เขาเชื่อว่าด้วยพลังกระดานหมากล้อมของคุณชาย เขาสามารถเข้าไปในส่วนลึกโดยรอดจากการตรวจสอบของสิ่งมีชีวิตมืดมิดในส่วนลึก

จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกัน

เจ้าหลวงละเลงอยู่นอกส่วนลึก ส่วนเขาเตรียมตัวเข้าไปในส่วนลึก

ส่วนลึกถือเป็นสถานที่สำคัญที่สุด หากเขาเข้าไปได้และกลายเป็นหนึ่งในสมาชิก ย่อมกุมข้อมูลมีประโยชน์ในมืออีกคณานับ ขณะเดียวกันยังเป็นประโยชน์ให้ได้มากกว่านี้ด้วย

ต้องยอมรับว่าเจ้าหลวงนั้นมีของจริง ๆ เพียงไม่นานก็สนิทกลมเกลียวกับสิ่งมีชีวิตมืดมิดจำนวนไม่น้อย ชิดเชื้อแนบแน่นเหลือแสน

‘นี่หรือคือ ‘ความสามารถ’ พิเศษของเขา เกิดมาพร้อมความน่าเข้าใกล้ สนิทกับผู้อื่นได้ง่ายดาย…’

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงคิดในใจ

ความน่าเข้าใกล้แต่กำเนิดนี้มีเพื่อให้ ‘ข่มดวง’ ผู้อื่นได้ดีขึ้นหรือไม่นะ?

‘มีโอกาสสูงที่จะเป็นเช่นนั้น! ทุกอย่างล้วนปูทางสู่การข่มดวงผู้อื่น’

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเอ่ยท่าทางครุ่นคิด

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท