รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 960 สุสานมีชีวิตเคลื่อนไหวได้ กลุ่มสุสานอันยิ่งใหญ่!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

บทที่ 960 สุสานมีชีวิตเคลื่อนไหวได้ กลุ่มสุสานอันยิ่งใหญ่!

บทที่ 960 สุสานมีชีวิตเคลื่อนไหวได้ กลุ่มสุสานอันยิ่งใหญ่!

“ว่าไปตัวเอกในนิยายเรื่องนี้เป็นนักพรตผู้หนึ่ง ข้าเองก็เป็นนักพรต ดังนั้นข้าย่อมเป็นหัวหน้า เป็นพี่ใหญ่!”

นักพรตเต๋าเอ่ยออกมาอย่างภาคภูมิใจ

“โฮ่ง ไปให้พ้น!”

สุนัขดำกัดนักพรตอู๋เหลียงจนทั้งร่างเต็มไปด้วยรอยฟันและเลือด

“สุนัขไม่ใช่สิ่งดีแต่อย่างใดจริง ๆ! ในนิยายกล่าวเอาไว้ประโยคหนึ่งว่าจำต้องระวังสุนัขแว้งกัด! ดูเหมือนว่าคุณชายจะมองเรื่องทั้งหมดออกตั้งแต่แรกแล้ว!”

นักพรตอู๋เหลียงร้องไห้อย่างไร้น้ำตา แม้เขาจะอยากตีสุนัขดำเพียงใดก็ไม่อาจทำได้ เพราะเก้าสมบัติไม่ยอมช่วยเหลือเขาเลย

จากนั้นพวกเขาก็ออกเดินทางไปขุดสุสานเช่นนี้

ในนิยายเล่มนั้นของคุณชายเขียนได้มืออาชีพยิ่ง ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ทักษะการขุดสุสานมากมาย ดูแล้วไม่เหมือนกับนิยาย แต่เป็นประสบการณ์จริงเสียมากกว่า!

นักพรตอู๋เหลียงอดเอ่ยออกมาไม่ได้

พวกเขาออกจากเมืองชิงซาน ดูตำแหน่งที่ตั้งฮวงจุ้ยเพื่อตามหามหาสุสาน

สุดท้ายพวกเขาก็พบกับมหาสุสานแห่งหนึ่ง

มหาสุสานแห่งนี้ไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันไม่ได้ตั้งอยู่กับที่ แต่เคลื่อนไหวภายใต้ผืนดินอยู่ตลอดเวลา

หากพวกเขาไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับสุสานมากมาย ก็คงไม่อาจค้นพบมหาสุสานแห่งนี้ เพราะพึ่งเพียงแค่ญาณสัมผัสย่อมไม่อาจตรวจพบได้

“สุสานมีชีวิต ราวกับมีจิตสำนึก รู้จักหลบเลี่ยงอันตราย ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้จักดูดซับพลัง ทุกหนแห่งภายในนี้ไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง!”

นักพรตอู๋เหลียงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

เขาพยายามตรึงสุสาน ทว่ากลับล้มเหลว สุสานยังเคลื่อนต่อไปไม่หยุด

“ตาม!”

ดวงตาของสุนัขดำเปล่งประกาย ไล่ตามไปพร้อมกับนักพรตอู๋เหลียง

แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถตรึงสุสานได้ ทว่าก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงการคงอยู่ของสุสาน จึงรีบไล่ตามไปตลอดเส้นทาง

สุสานเคลื่อนตัวรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง พริบตาเดียวก็เคลื่อนผ่านไปสองดินแดน สุดท้ายก็หายไปจากสัมผัสการรับรู้ของนักพรตอู๋เหลียงและสุนัขดำ

“นี่มันอันใดกัน?”

นักพรตอู๋เหลียงถลึงตามอง เหตุใดจึงหายไปเสียแล้ว?

การหายตัวครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทั้งยังหายไปอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าทำเช่นใดก็ไม่อาจรับรู้ได้ถึงการดำรงอยู่ของสุสานได้อีก

“ดูเหมือนจะเป็นมหาสุสานที่ผิดสามัญอย่างถึงที่สุดแห่งหนึ่ง!”

สุนัขดำหรี่ตาลง ทว่ากลับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาบ้างแล้ว การขุดสุสานเล็ก ๆ ไม่น่าสนใจแต่อย่างใด ต้องเป็นมหาสุสานอันไม่ธรรมดาอย่างถึงที่สุดเช่นนี้จึงจะน่าสนใจ!

“อืม”

นักพรตอู๋เหลียงพยักหน้า “ในสมัยกาลก่อน อาณาจักรแห่งนี้จะต้องไม่ธรรมดาและน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมากแน่ ถึงกับมีมหาสุสานเช่นนี้ดำรงอยู่!”

พวกเขาทั้งสองล้วนบรรลุเกินขอบเขตนิรันดร์แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสุนัขดำที่ไปถึงขอบเขตอิสระเรียบร้อย ทว่ากลับยังประสบความล้มเหลว แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดว่าสุสานแห่งนี้ไม่ธรรมดาอย่างถึงที่สุด

สุนัขดำยกอุ้งเท้าขึ้นตบหัวนักพรตอู๋เหลียงแล้วเอ่ยออกมาอย่างเหยียดหยาม “นี่เป็นสุสานมีชีวิต สามารถเคลื่อนที่ได้ เช่นนั้นเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าสุสานแห่งนั้นอยู่อาณาจักรแห่งนี้?”

นักพรตอู๋เหลียงที่ถูกตบหัวทำหน้าตาดุร้ายด้วยความโกรธทันที

ทว่าหลังได้ยินเสียงที่สุนัขดำเอ่ย เขาก็ทำได้เพียงกักเก็บความชิงชังกลับไป

เขาพิจารณาแล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง

สุนัขสีดำเอ่ยไม่ผิด นี่เป็นสุสานมีชีวิตที่สามารถเคลื่อนไหวได้ ย่อมไม่มีทางที่จะชี้ชัดที่มาได้ และมีโอกาสที่สุสานนั่นจะมาจากอาณาจักรแห่งอื่น

“แล้วจะทำเช่นไรต่อไปดี?”

เขาเปลี่ยนเรื่อง เอ่ยถามสุนัขดำว่าควรทำเช่นไรต่อไป

“เรื่องเล็กน้อย”

สุนัขดำกล่าว “นิยายที่คุณชายเขียนด้วยตนเอง ไฉนเลยจะเรียบง่ายธรรมดา? ไม่มีทาง!“

มันติดตามคุณชายมานาน ตระหนักได้อย่างล้ำลึกว่าคุณชายแข็งแกร่งเพียงใด ในเมื่อพวกเขาไร้หนทางทำสิ่งใดกับสุสานแห่งนี้ได้ สุนัขสีดำจึงให้นักพรตอู๋เหลียงหยิบนิยายที่คุณชายเขียนด้วยตัวเองเล่มนั้นออกมา

ก่อนที่พวกเขาจะออกจากลานเล็ก ๆ ก็ได้นำนิยายเรื่องนั้นติดมาด้วย

นักพรตอู๋เหลียงเรียกนิยายออกมาตามคำพูดของสุนัขดำ จากนั้นพลันมีกฎพิเศษเอ่อทะลักออกจากนิยายพร้อมกับพลังอันไม่อาจบรรยายได้หลั่งไหลออกมา

เพียงพริบตาเดียว นิยายเล่มนี้ก็เปล่งแสงเจิดจ้าอย่างถึงที่สุด สว่างเรืองรองเสียยิ่งกว่าดวงสุริยันเหนือสวรรค์ทั้งเก้า

อักษรภายในนิยายราวกับมีชีวิตขึ้นมาทีละตัว ๆ กระโดดโลดเต้นออกจากหนังสือนิยาย

ตัวอักษรประกอบร้อยเรียงกลายเป็นรูปลักษณ์ตัวละครต่าง ๆ ในนิยาย เผยออกมาให้เห็นเป็นร่างเงา

ร่างของนักพรตผู้เป็นตัวเอกเองก็ปรากฏขึ้นมาด้วย

มันสำแดงวิชาตรึงสุสาน เพียงอึดใจมหาสุสานก็พลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้านักพรตอู๋เหลียงและสุนัขดำ

“มหาสุสานตอนนั้นเป็นเพียงแค่สุสานรอง!”

สุนัขดำเอ่ยออกมาอย่างตื่นตะลึง

มหาสุสานที่พวกเขาไล่ตามก่อนหน้านี้ไม่ใช่สุสานหลัก แต่เป็นเพียงแค่สุสานรองที่ตอนนี้รวมเข้ากับสุสานหลักเป็นที่เรียบร้อย!

สุสานหลักที่แท้จริงนั้นน่าตื่นตะลึงและน่าสะพรึงกลัวเสียยิ่งกว่า เปี่ยมด้วยพลังมหาศาลที่กระเพื่อมออกมา ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาจะสูญเสียการรับรู้ที่มีต่อสุสานรองอย่างกะทันหัน สุสานรองแห่งนั้นได้กลับเข้าไปยังสุสานหลัก จากนั้นสุสานหลักก็ได้ตัดการรับรู้ของพวกเขาออก

ภายในสุสานหลักไม่ได้มีเพียงสุสานรองแห่งเดียว แต่ยังเต็มไปด้วยสุสานรองจำนวนมากอยู่รายล้อม ทำให้สุสานหลักดูยิ่งใหญ่ตระการตาเป็นอย่างยิ่ง

“เอาล่ะ พวกเราเพิ่งเปิดตัวก็ได้พบกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้แล้ว!”

ดวงตาของนักพรตอู๋เหลียงเปล่งประกาย เพียงแค่สุสานรองก็ไม่ธรรมดาสามัญแล้ว หากเป็นสุสานหลักจะน่าตื่นตะลึงเพียงใดกัน?

และถ้าขุดค้นได้จริง ๆ นี่จะต้องเป็นการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่สะท้านฟ้าอย่างแน่นอน!

“หยุดแล้ว! สมกับเป็นคุณชายจริง ๆ!”

นักพรตอู๋เหลียงเต็มไปด้วยอารมณ์มากมาย

สุสานหลักไม่เพียงปรากฏออกมาเท่านั้น แต่ยังถูกตรึงเอาไว้จนไม่อาจเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป ความสามารถของคุณชายนั้นช่างทรงพลังไม่อาจหยั่งถึง!

“ไปเถิด!”

สุนัขสีดำเอ่ยกับนักพรตอู๋เหลียง ก่อนจะรีบวิ่งตรงไปยังสุสานหลัก

สุสานหลักตั้งอยู่ใต้ดินของภูเขาอันกว้างใหญ่ ยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความสง่างามและลมหายใจอันเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งกาลเวลาที่ล่วงผ่านมาอย่างยาวนาน

สุนัขสีดำและนักพรตอู๋เหลียงเผชิญเข้ากับลมหายใจหยินอันดุร้ายทันทีที่เข้าไป พวกเขาได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ทุกอารมณ์ด้านลบระเบิดออกมาในพริบตา

นักพรตอู๋เหลียงเรียกหอกเงินอันเปี่ยมด้วยแสงเจิดจ้าออกมาทันที สกัดกั้นลมหายใจหยินอันดุร้าย

นี่เป็นหนึ่งในเก้าสมบัติ เมื่อพวกมันอยู่ในมือคุณชายก็ได้รับการพัฒนาจนแข็งแกร่งขึ้น

สุนัขดำเองก็มีห่วงสัมฤทธิ์ที่คุณชายสร้างขึ้นมาเพื่อมัน ด้านในเปี่ยมด้วยพลังอันไร้ขอบเขต สามารถขับไล่ลมหายใจหยินอันดุร้ายออกไปได้ในทันทีเช่นกัน

นักพรตอู๋เหลียงมีความสามารถพิเศษ เขาตัดพลังทุกชนิดออกไปได้ สยบเต๋าและกฎเกณฑ์ทั้งหมด เดิมทีด้วยความสามารถเช่นนี้จัดการสุนัขดำย่อมเป็นเรื่องง่ายอย่างยิ่ง

แต่เป็นเพราะห่วงสัมฤทธิ์ นักพรตอู๋เหลียงจึงไร้หนทางจะจัดการสุนัขดำได้ ความสามารถของเขาไม่อาจใช้ได้กับสุนัขดำ และห่วงสัมฤทธิ์เองก็สกัดกั้นความสามารถของเขาเอาไว้

ภายในสุสานขนาดใหญ่มโหฬารเต็มไปด้วยรูปปั้นหินเรียงรายอยู่รอบ ๆ มีทั้งรูปปั้นเหมือนมนุษย์ และรูปปั้นเหมือนอสูรต่าง ๆ หลังจากที่สุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงเข้ามา รูปปั้นเหล่านั้นก็ราวกับจะมีชีวิตขึ้นมา พื้นผิวที่เป็นหินแตกหลุดออก เผยให้เห็นส่วนที่เป็นเลือดเนื้อ

หลังจากนั้นทั้งหมดก็พุ่งเข้าใส่ทั้งสอง!

“นี่คือสิ่งมีชีวิตจากหลังฉาก!”

รูม่านตาของสุนัขดำหดแคบลง เขาเคยเห็นสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มาก่อนจากหลังฉาก

มันคาดไม่ถึงแม้แต่น้อย สิ่งมีชีวิตจากหลังฉากเหล่านี้ถูกปราบลงที่นี่ จากนั้นก็กลายเป็นรูปปั้นหินอย่างนั้นหรือ?

“ฆ่า!”

สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นราวกับสูญเสียจิตสำนึกดั้งเดิมไปแล้ว หลงเหลือเพียงจิตสำนึกในการฆ่าฟัน พวกมันตะโกนพร้อมกับพุ่งเข้าใส่จากทุกสารทิศ

การปะทะชุลมุนระเบิดขึ้นในบัดดล!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท