รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 962 ไม่มีทางตาย ฉากอันแท้จริง!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

บทที่ 962 ไม่มีทางตาย ฉากอันแท้จริง!

บทที่ 962 ไม่มีทางตาย ฉากอันแท้จริง!

เกิดอะไรขึ้น?!

ฉับพลันนั้น ผืนดินซึ่งปกคลุมอยู่บนสุสานมโหฬารหายไป ท้องฟ้าสีครามปรากฏแทนที่ แสงอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้า อากาศแจ่มใสยิ่งนัก

ทว่าอากาศสดใสเช่นนี้กลับมีสายฝนกระหน่ำ ที่นี่ปราศจากพายุ ปราศจากเมฆครึ้มและไร้ซึ่งอัสนี แต่ฝนกลับเทห่าลงมา!

ฝนหนักรุนแรงประดุจน้ำป่าไหลหลาก ย้อนแย้งกับอากาศอันแจ่มใสอย่างยิ่ง

ซ้ำยังมีฝูงนกบินผ่านท้องฟ้า ขนปีกสีสันสดใสงดงาม โบยบินอย่างมีความสุขบนห้วงนภา ราวกับสายฝนที่กระหน่ำอยู่นั้นไม่มีอยู่

ขนของพวกมันมิได้ชโลมด้วยเม็ดฝน!

ภาพลวงตาหรือ?

สุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงมองหน้ากัน สีหน้าเคร่งเครียดเหลือคณากันทั้งคู่

สิ่งที่ปรากฏออกมากะทันหันเหล่านี้พิศวงเกินไป!

หากมีเพียงภาพการณ์อันย้อนแย้ง สีหน้าของสุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงคงยังไม่เคร่งเครียดเช่นนี้

สายฝนกระหน่ำแต่กระนั้นกลับดูเหมือนไร้มวลสาร ทะลุผ่านร่างกายพวกเขาไปดื้อ ๆ ประหนึ่งว่าพวกมันนั้นล่องหน

ทว่าพวกเขาเห็นจะ ๆ ว่าสายฝนกำลังเทลงมา อีกทั้งลองตรวจจับด้วยญาณสัมผัสก็พิสูจน์แล้วว่ามีฝนตกหนักอยู่จริง ๆ

“ผิดแปลกเกินไปแล้ว!”

สีหน้านักพรตอู๋เหลียงแปลกไป ปริปากออกมาอย่างอดมิได้

เขายืมพลังจากหอกเงินมาแล้ว มิหนำซ้ำของวิเศษทั้งแปดก็ลงมือให้ความช่วยเหลือ ทว่าด้วยญาณสัมผัสของเขาก็ยังรับรู้ถึงการดำรงอยู่ของสายฝนที่เทกระหน่ำอยู่จริง ๆ หาใช่ของลวงตา!

ทว่าเขากลับมิอาจแตะต้องเม็ดฝน!

เม็ดฝนที่ดำรงอยู่จริงแต่พวกเขากลับสัมผัสไม่ได้ ทั้งหมดนี้ผิดปกติและพิศวงเกินไป!

“โฮ่ง!”

สุนัขดำอดเห่ามิได้

“นี่คือฉากอันแท้จริง น้ำอันแท้จริง…”

ยายเฒ่าผู้ทรุดตัวกับพื้นหรี่ตาลงด้วยหน้าตารื่นรมย์ ปล่อยให้หยาดฝนสาดกระทบร่างนาง

ทว่าสถานการณ์ของนางเป็นเฉกเช่นสุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียง เม็ดฝนทะลุผ่านร่างนางราวกับล่องหน มิเคยทิ้งร่องรอยอันใดไว้

สุนัขดำอดผวาขึ้นมาในใจมิได้

ที่นี่ฝังผู้ใดไว้กันแน่

เหตุใดถึงน่าพรั่นพรึงถึงเพียงนี้?!

นอกจากนี้ยังมีตัวตนน่ากลัวระดับนี้อยู่จริง ๆ หรือ ตัวตนเช่นนี้ตายได้ด้วยหรือ

ผู้ใดเป็นคนฆ่ากัน?

นอกจากนี้ ผู้ใดฝังตัวตนระดับนี้ไว้ที่นี่ สร้างสุสานมโหฬารเช่นนี้ขึ้นมา

ปริศนาเยอะเกินไป หากทบทวนดูดี ๆ ยิ่งชวนให้อกสั่นขวัญแขวน

“ในหลุมศพหลักฝังผู้ใดไว้กันแน่?!”

นักพรตอู๋เหลียงผวาเช่นกัน หันไปคาดคั้นยายเฒ่า

“ผู้ใดน่ะหรือ?”

ยายเฒ่าหัวเราะ รอยยิ้มนั้นอย่าให้เอ่ยเลยว่าพิลึกปานใด นางปริปาก “ผู้ที่ฝังอยู่ในนี้เป็นตัวตนที่เกินกว่าจินตนาการของพวกเจ้า!”

“วางมาดอยู่ได้ หากไม่ยอมบอกความจริง ข้าจะฆ่าเจ้าเสียเดี๋ยวนี้!”

หอกเงินในมือนักพรตอู๋เหลียงสั่นไหว จ่อแนบหน้าผากของยายเฒ่า

“ฆ่าข้า? เป็นไปได้ที่ไหน”

ยายเฒ่าแค่นเสียงเย็นอย่างดูแคลน “ข้าไม่ตายหรอก หรือก็คือข้าตายไปแล้ว ไม่มีทางตายได้อีก”

จากนั้นนางก็คว้าหอกเงินไว้ฉับพลันแล้วทิ่มทะลุหน้าผากตนเองอย่างแรง!

เสียงดังตึง ร่างของนางระเบิดแหลกเหลวกลายเป็นเสี่ยง ๆ มลายหายไปทั้งอย่างนี้

“หืม?!”

นักพรตอู๋เหลียงตกตะลึง อย่างไรก็คิดไม่ถึงว่ายายเฒ่าจะทำเช่นนี้!

หอกเงินไม่เพียงแต่แทงทะลุหัวของยายเฒ่า ยายเฒ่ายังยอมยกวิญญาณให้จนวิญญาณถูกหอกเงินแทงทะลุไปด้วย

การทำเช่นนี้เป็นการรนหาที่ตายอย่างไม่ต้องสงสัย ถูกแทงเช่นนี้ ยายเฒ่าไม่มีทางรอดอีก

ถึงอย่างไรหอกเงินก็มิใช่อาวุธธรรมดา!

“นางทำเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองไม่มีทางตายหรือ”

ดวงตาสุนัขขาวจ้องเขม็งไปยังตำแหน่งที่ร่างของยายเฒ่าหายไป ก่อนนี้ยายเฒ่ากล่าวว่านางไม่มีทางตาย!

ทว่าประโยคที่ว่าข้าตายไปแล้ว ไม่มีทางตายอีกมีคำอธิบายอย่างไร?

มันหนักอึ้งในใจเหลือแสน

ปริศนาเพิ่มมากขึ้นไปทุกที

เริ่มแรกพลังพิเศษของยายเฒ่าดำรงอยู่ระหว่างความเป็นและความตาย แล้วยังมีถ้อยคำพิศวงที่ยายเฒ่ากล่าวอีก รวมถึงพฤติกรรมรนหาที่ตายของนาง ยิ่งส่งผลให้จิตใจของมันหนักอึ้ง

“ไม่ตาย…จริงหรือนี่!”

เวลานั้นเอง นักพรตอู๋เหลียงสีหน้าเปลี่ยนไป เอ่ยขึ้นด้วยความเหลือเชื่อ

หลุมศพย่อยหวนคืนสู่หลุมศพหลัก โลงศพไม้ลอยตามกลับไป

ขณะเดียวกัน ฝาโลงก็ลอยกลับไปด้วยเพื่อปิดโลงศพนี้

ทว่าก่อนฝาโลงประทับลงไป เขากลับได้เห็นยายเฒ่าที่ร่างสลายไปอย่างสิ้นเชิงอีกครั้ง!

ซ้ำยายเฒ่ายังส่งยิ้มให้เขาด้วย!

“นี่มัน…เรื่องอะไรกัน!”

นักพรตอู๋เหลียงอุทานเสียงหลง แทบเชื่อไม่ลง

เหตุใดยายเฒ่าที่หายไปอย่างสิ้นเชิงถึงปรากฏตัวออกมาอีกครั้งอย่างไร้รอยขีดข่วน

ที่นี่พิสดารยิ่งนัก!

“บัด…ซบ ข้าอยากเข้าไปหวดนางสักที!”

เขาด่ากราด ควงหอกเงินหมายจะบุกไปหายายเฒ่า

ยายเฒ่ายิ้มให้เขาอยู่ตลอดเวลา ซ้ำยังเป็นรอยยิ้มดูถูกดูแคลนเหลือแสนอย่างไม่ปกปิด สร้างความเดือดดาลให้เขาอย่างมาก อยากถลาเข้าไปเลิกโลงศพยายเฒ่าขึ้นแล้วหิ้วคอยายเฒ่าขึ้นมาอัด

“อย่าเพิ่งวู่วาม!”

สุนัขดำหยุดนักพรตอู๋เหลียงไว้ เอ่ยเสียงจริงจัง “หลุมศพหลักพิศวงเกินไป ข้าคิดว่าพวกเราไม่ควรผลีผลาม…”

เหตุใดยายเฒ่าผู้สลายไปแล้วถึงปรากฏออกมาอีกครั้งอย่างไร้รอยขีดข่วน

มันรู้สึกว่าต้องเกี่ยวข้องกับหลุมศพหลักแน่นอน!

เป็นไปได้ว่าหลุมศพหลักเป็นสิ่งที่ทำให้ยายเฒ่าผู้ร่างสลายปรากฏตัวออกมาได้อีกครั้ง

ครืน!

เวลานั้นเอง พลันเกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ แม้แต่สุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงยังโอนเอนตามอย่างอดมิได้

นักพรตอู๋เหลียงเหลือบมองสุนัขดำ สายตาเปี่ยมด้วยความตะลึง

สุนัขดำพูดถูก หลุมศพหลักนั้นไม่ธรรมดาจริง ๆ สยดสยองถึงขีดสุด ทลายพลังที่สะกดมันไว้ ไม่อยู่ในสภาวะถูกผนึกอีก!

บัดนี้สุสานเคลื่อนไหวได้ตามอำเภอใจอีกครั้ง!

“ที่นี่ต้องมี…โคตรผีอยู่แน่ ๆ!”

สุนัขดำกัดฟันเอ่ย

ทุกอย่างพิลึกจนน่ากลัว มันมองไม่ออกเลย หลุมศพหลักฝังร่างผู้ใดไว้กันแน่?!

เวลานั้นเอง สุสานมโหฬารเคลื่อนตัวออกไป คล้ายว่าเขยื้อนไปทางฉากอันแท้จริงที่ยายเฒ่ากล่าวไว้เมื่อครู่!

“ไปไม่ได้แล้ว!”

คิ้วของนักพรตอู๋เหลียงขมวดมุ่น พวกเขาถูกฉุดรั้งไว้มิให้ไปจากที่นี่ เคลื่อนตัวไปตามสุสาน!

“ไม่ไหว พลังนี้แข็งแกร่งเกินไป ตัดไม่ขาด!”

“เจ้าอ้วน เจ้านี่เหลือเกิน ทำอะไรไม่ดี ไยต้องขุดสุสาน! ตอนนี้สิดี เจอโคตรผีเข้าให้!”

ของวิเศษทั้งเก้าชิ้นร้อง ผนึกกำลังปล่อยพลังออกไปหมายจะตัดแรงที่ฉุดรั้งอยู่นี้ ทว่าไม่สำเร็จ

พลังนี้เหนือชั้นกว่าพวกเขาหลายขุม มิใช่ระดับเดียวกันเลย พวกมันก็จนปัญญา!

“ไม่ต้องกลัว คอยดูต่อไปว่าสุสานนี้ต้องการไปที่ใด!”

สุนัขดำเอ่ยด้วยท่าทางเยือกเย็น

สิ่งใดหรือคือฉากอันแท้จริง?!

มันใคร่รู้ในเรื่องนี้อย่างยิ่ง อยากทำความเข้าใจ

“เจ้าไม่กลัว ข้าก็ไม่กลัว”

นักพรตอู๋เหลียงเอ่ย

“ไปไกล ๆ เลย เจ้าไม่กลัว แล้วไยต้องกอดคอข้า?!”

สุนัขดำถลึงตาใส่นักพรตอู๋เหลียง

ปากนักพรตอู๋เหลียงเอ่ยว่าไม่กลัว แต่ในใจเห็นได้ชัดว่าผวายิ่ง ถึงได้ขยับร่างเข้ามากอดคอเขาแน่น

“ข้าชอบเจ้าสุด ๆ อย่างไรล่ะ! อยากตระกองกอดกับเจ้าแนบแน่น!”

นักพรตอู๋เหลียงตอบด้วยความปากแข็ง

“ไสหัวไปเลย!”

สุนัขดำเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ ถีบนักพรตอู๋เหลียงไปอีกด้าน

มันทนให้นักพรตอู๋เหลียงกอดมันแนบแน่นปานนี้มิได้!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท