Hell mode – ตอนที่ 139

ตอนที่ 139

บทที่ 139 คาบเรียน 2

ราชทูตที่มาสัญญาปากเปล่ากับคีลรับใช้มกุฎราชกุมาร แล้วพระราชาก็ไม่ทราบสัญญาเกี่ยวกับงานของคีลด้วย

เพราะอย่างนั้นเลยยังไม่พูดอะไรออกไป ไวเคานต์บอกเองว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขา เลยคิดว่าจะรอดูไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ไวเคานต์เองก็ยังไม่ได้บอกอะไรมาด้วย

อเลนคิดว่าตัวเขาจะเคลื่อนไหวขึ้นอยู่กับผลการกระทำของไวเคานต์ แล้วถ้าตระกูลไวเคานต์หรือคีลต้องประสบปัญหาแล้วละก็จะเคลื่อนไหวในฐานะแขกของตระกูลไวเคานต์

พอพักกลางวันจบลง ก็ขอบคุณริโฟลที่เอาเรื่องในพระราชวังมาบอก ดูเหมือนเขาแค่มาให้ข้อมูลเรื่องความวุ่นวายในพระราชวังเท่านั้น เป็นฝ่ายที่ได้รับข้อมูลจากริโฟลฝ่ายเดียวตลอดเลย

อเลนมุ่งหน้าไปยังลานออกกำลังกายหน้าตึกเรียน คาบบ่ายเป็นคาบเรียนตามพรสวรรค์ ถ้าเป็นนักดาบก็ไปเรียนคาบดาบ

อเลนเข้าเรียนคาบดาบแล้ว ก่อนวันหยุดฤดูร้อนได้ดูเกี่ยวกับการใช้เวทมนตร์หมแล้ว หลังจากนี้เลยว่าจะมุ่งเน้นไปที่ดาบอย่างเดียวเท่านั้น เหตุผลคือเพราะโดนบอกเรื่อยมาว่ายังไงก็ไม่สามารถจำเวทมนตร์ได้ แถมอเลนมีนักเวทอย่างเซซิลเป็นพวกอยู่แล้วด้วย ทำให้อเลนไม่มีความจำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้

มีเหตุผลที่เข้าเรียนดาบอยู่ ปาร์ตี้ของอเลนจัดให้คุเรนะกับโดโกร่าอยู่แนวหน้า เพื่อที่จะให้แนวหน้าทั้งสองต่อสู้ได้อย่างเต็มที่ อเลนจะทำหน้าที่ปกป้องเซซิลและคีลจากการโจมตีของเหล่ามอนสเตอร์

สรุปคือหน้าที่กองกลาง เพราะอย่างนั้นทำให้อเลนต้องจับดาบสู้กับมอนสเตอร์

หรือก็คือมีบ่อยครั้งที่ต้องต่อสู้ด้วยดาบ

เลยเข้าเรียนคาบดาบตอนบ่ายเพื่อเพิ่มเลเวลของวิชาดาบ เป้าหมายคือให้เลเวลสกิลของวิชาดาบขึ้นสู่เลเวล 4 ก่อนจบการศึกษา

“นี่ ทางนี้! มาเข้าแถวได้แล้ว!!”

อาจารย์ประจำชั้นที่มีพรสวรรค์ของปรมาจารย์ดาบ เป็นอาจารย์สอบคาบวิชาดาบ อาจารย์ประจำชั้นส่งเสียงดังออกมา

เหล่านักเรียนที่มาเรียนวิชาดาบเลยมารวมตัวกัน นักเรียนปี 1 ที่มีพรสวรรรค์ดาบทั้งหมดราวๆ 200 คนมารวมตัวกัน โดยข้างๆมีคุเรนะกับริโฟลที่มีพรสวรรค์นักดาบอยู่ด้วย

“ถึงวันหยุดฤดูร้อนจะหมดไปแล้ว แต่เนื้อหาคาบเรียบยังเหมือนเดิม หวดลม 100 ครั้ง เสร็จแล้วค่อยซ้อมต่อสู้”

“““ครับ/ค่ะ!!!”””

เหล่านักเรียนตอบกลับมาอย่างกระตือรือร้นจนไม่ชวนให้คิดว่าอายุเท่ากับนักเรียนชั้นมัธยมต้นในโลกก่อนของอเลนเลย เว้นระยะห่างเท่าๆกัน และเริ่มหวดลมด้วยดาบสำหรับใช้ซ้อมต่อสู้

(สมกับที่ทุกคนผ่านดันเจี้ยนกันแล้วนะเนี่ย การเคลื่อนไหวแตกต่างกับก่อนวันหยุดฤดูร้อนลิบลับเลย)

อเลนหวดลมพร้อมกับรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวและบรรยากาศที่แตกต่างกับคาบเรียนก่อนวันหยุดฤดูร้อน อาจารย์ประจำชั้นเอง ก็ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของทุกคนด้วยสายตาที่เข้มงวด

นักเรียนทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ผ่านดันเจี้ยนในช่วงวันหยุดฤดูร้อนแล้ว

ถึงจะบอกว่าทุกคนแต่จำนวนมีลดลงไปบ้าง ที่ห้องเรียนของอเลนจากนักเรียน 30 คนก็มีที่ว่างราวๆ 3 ที่ อาจจะผ่านการบ้านวันหยุดฤดูร้อนไม่ได้หรือเปล่า

ถึงคนที่มีพรสวรรค์จะเข้าเรียนได้อย่างไม่มีปัญหา ดันเจี้ยนระดับ C ไม่ใช่ดันเจี้ยนที่ยากสำหรับผู้มีพรสวรรค์เลย แต่ใช่ว่าทุกคนมาโรงเรียนเพื่อที่จะต่อสู้

“อเลน มาซ้อมต่อสู้กัน”

“อือ”

“เอ๋!”

อเลนตอบรับคำชวนของริโฟล ทำให้คุเรนะที่คิดจะซ้อมกับอเลนส่งเสียงออกมาด้วยความไม่พอใจ

(ไม่ต้องเลยคุเรนะ พลังโจมตีตั้ง 3200 เนี่ยมันลำบากนะ ไปซ้อมสู้กับอาจารย์ประจำชั้นเหมือนทุกทีเถอะ เขาอุตส่าห์มาจากเมืองหลวงเพื่อเธอเลยนะ)

ตอนนี้ให้หน่วยสัตว์อัญเชิญ 3 หน่วยลงดันเจี้ยนระดับ A อยู่ สัตว์อัญเชิญสัตว์ C ที่เพิ่มพลังโจมตี พอผ่านช่วงกลางวันไปก็โดนเล่นงานจนเหลือไม่ถึง 10 ตัว ต่อให้รวมพรคุ้มครองไปด้วยพลังโจมตีของอเลนอยู่ที่ 1300

“นี่ๆ มีอะไรเหรอ”

อย่างที่คาดเอาไว้ ในระหว่างที่คิดอย่างนั้น อาจารย์ประจำชั้นก็แบกดาบมา ดูเหมือนเขาที่ใช้ดาบใหญ่เหมือนกับคุเรนะจะมาพาตัวเธอไป

คุเรนะทำท่าเสียดายก่อนจะเดินจากไป

แล้วก็เริ่มการซ้อมต่อสู้กับริโฟล ได้ยินเสียงดาบเหล็กฟันใส่กันอยู่ทุกหนแห่ง

(ริโฟลเองก็เลเวลเยอะขึ้นเอาเรื่องนะเนี่ย พลังโจมตีราวๆ 800 มั้ง เลเวลน่าจะราวๆ 35 โดโกร่าที่เลเวลเดียวกันพลังโจมตีอยู่ที่ราวๆ 1000)

คาดเดาพลังโจมตีจากดาบที่ริโฟลฟันลงมา บางทีนักเรียนปี 1 ที่มีพรสวรรค์ของนักดาบน่าจะแข็งแกร่งราวๆนี้

การที่นอร์มอลโหมดจะมาถึงเลเวล 35 ต้องใช้ค่าประสบการณ์ราวๆ 330,000 คาดว่าคงอยากให้เพิ่มเลเวลพร้อมกับผ่านดันเจี้ยนระดับ C ก็ได้

พอปะดาบกับริโฟลแล้วก็นึกถึงมิไฮพี่ชายของเซซิล และเริ่มคิดว่าเขามาโรงเรียนด้วยความคิดแบบไหนกัน

แกร๊ง

“โห ดาบของอาจารย์ใหญ่ขนาดนั้นยังหักเลย!”

“อาจารย์คาลโรว่าเอาจริงงั้นเหรอ?)

“ดาบของคุเรนะเองก็หักเหมือนกันนี่!!”

(หือ!?)

ในระหว่างที่อเลนใช้ความคิด ก็ได้ยินเสียงโห่ร้องห่างจากตรงที่ซ้อมต่อสู้กับริโฟลไปนิดหน่อย

ดาบใหญ่สำหรับใช้ซ้อมต่อสู้ทั้งสองเล่ม ไม่สามารถทานพลังโจมตีของคุเรนะกับอาจารย์คาลโรว่าจนหัก เสียงของโลหะดังก้องไปทั่วสนามออกกำลังกาย

“……โห รอแป็บนะ”

อาจารย์กำดาบที่หักจนถึงโคนกลับไปตึกเรียน

“ค่ะ!”

อเลนมองอาจารย์ประจำชั้นที่กลับไปตึกเรียนพร้อมกับเริ่มฝึกซ้อมกับริโฟลต่อ แล้วเรียกสัตว์อัญเชิญนก E ไว้บนท้องฟ้า

“เดี๋ยวก่อน!? คุณคาลโรว่าอย่างนี้มันไม่ได้นะครับ สิ่งนั้นไม่ใช่ดาบสำหรับฝึกซ้อมนะครับ!”

“อ้อ? ไม่เป็นไรหรอก”

“มะ ไม่เป็นไรอย่างนั้นหรือครับ!?”

อาจารย์ประจำชั้นกลับมา ที่นี่มีนักเรียนที่มีพรสวรรค์ด้านดาบอยู่ราวๆ 200 คน ทำให้มีอาจารย์คอยดูแลอยู่หลายคน อาจารย์ประจำชั้นถือดาบใหญ่มิธริลที่ยังไม่บิ่นไว้บนไหล่สองข้าง ทำให้อาจารย์คนหนึ่งรีบร้อนเข้ามาห้าม

“ที่นี่มันแคบ คุเรนะถอยห่างอีกนิดแล้วเริ่มกันต่อเถอะ”

“ค่ะ!!”

คุเรนะกับอาจารย์ประจำชั้นเคลื่อนตัวออกห่างจากนักเรียนคนอื่นๆ และเริ่มฝึกซ้อมอีกครั้ง ทั้งสองคนเหวี่ยงดาบมิธริลโดยไม่สนอะไร

ถึงจะอยู่ห่างค่อนข้างไกล แต่เสียงดาบปะทะกันยังได้ยินมาถึงอเลน

(ด้านอาจารย์คาลโรว่าเหนือกว่านิดหน่อย แต่ก็แค่นิดเดียวเท่านั้น อย่างนี้ค่าสเตตัสน่าจะสูสีกัน ส่วนวิชาดาบทางอาจารย์น่าจะสูงกว่าหรือเปล่านะ? แต่วิชาดาบของคุเรนะเองก็เลเวล 5 แล้วด้วยสิ)

คุเรนะเพิ่มเลเวลจนมาถึง 57 แล้ว ถึงกระนั้นอาจารย์ประจำชั้นที่มีพรสวรรค์ของปรมาจารย์ดาบดูเหมือนจะยังเหนือกว่านิดหน่อย

เพราะอาจารย์ประจำชั้นเหนือกว่านิดหน่อย ทำให้คุเรนะค่อนข้างดีใจมาก เธอเลยแกว่งดาบอย่างบ้าระห่ำ

ที่อเลนลงดันเจี้ยนเพราะอยากจะแข็งแกร่ง ต่อให้ลงดันเจี้ยนครั้งเดียวแล้วไม่ได้แข็งแกร่งขึ้นมาก แต่มันก็เชื่อมโยงไปถึงความแข็งแกร่งดังนั้นเลยสนุกมาก ถ้าเพื่อที่จะแข็งแกร่งแล้วละก็ต่อให้ต้องล่าก็อบลินเป็นหมื่นตัวก็ไม่ใช่เรื่องลำบากเลย

แต่คุเรนะลงดันเจี้ยนไม่ใช่เพื่อความแข็งแกร่ง เธอสนุกที่ได้ต่อสู้และกวัดแกว่งดาบ เป้าหมายของคุเรนะคือการได้ต่อสู้ แล้วสนุกที่ได้กวัดแกว่งดาบอย่างสุดกำลัง

ถึงจะมีฝึกซ้อมกับโดโกร่าที่พลังโจมตีเกือบ 2000 แต่คุเรนะก็ต้องออมมือ

มอนสเตอร์ระดับ B ก็ให้ความรู้สึกอ่อนแอ

แต่ความสนุกในดันเจี้ยนก็เพิ่มขึ้น เพราะมอนสเตอร์ระดับ A ค่อนข้างแข็งแกร่ง

และยังมีผู้ที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองอยู่ ก่อนวันหยุดฤดูร้อนได้ไปซ้อมมือกับคนที่อยู่ในสังกัด และดีใจมากที่ยังมีคนที่ไม่สามารถชนะได้อยู่

(คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง คาบเรียนช่วงบ่ายมีเวลาตั้ง 3 ชั่วโมง)

คาบเรียนปฏิบัติตอนบ่ายเริ่มตอนบ่ายโมง และมีเวลาให้ 3 ชั่วโมง ทั้งคุเรนะและอาจารย์ประจำชั้นงัดทุกอย่างออกมาสุดกำลัง

แล้วเวลาก็ผ่านไปราวๆ 2 ชั่วโมง จนเสียงออดดังขึ้น

“สะ สมแล้วที่ผ่านดันเจี้ยนระดับ A……”

อาจารย์ประจำชั้นที่หอบแรงกล่าวชมคุเรนะ

(หือ? ทำไมเหมือนโดนอาจารย์ประจำชั้นจ้องอยู่เลย)

ดูเหมือนเขาคงคิดว่าอเลนเป็นสาเหตุที่ทำให้คุเรนะแข็งแกร่ง อาจจะคิดว่าทำไมถึงพยายามแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ด้วยก็ได้ แต่คิดว่าการคาดเดาของอาจารย์มันคงไม่ถูกต้องหรอก

“ขะ ขอบคุณมากค่ะ พรุ่งนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ!!”

คุเรนะเองก็หายใจแรง ถึงการฝึกวันนี้จะจบไปแล้ว แต่เธอคงคิดถึงเรื่องของการฝึกในวันพรุ่งนี้ไปแล้ว

“นั่นสินะ อ้อ ใช่แล้วๆ คุเรนะ อเลน”

ทุกคนช่วยกันเก็บกวาดหลังคาบเรียนและกำลังจะกลับไปที่ตึกเรียน อเลนเองก็เช่นกัน

ระหว่างนั้นอาจารย์ประจำชั้นเรียกให้หยุดเหมือนนึกอะไรออก

“อะไรหรือครับ?”

“ผู้อำนวยการเรียกน่ะ หลังจากนี้ไปห้องผู้อำนวยด้วยกันหน่อย”

ผู้อำนวยการเรียกอเลนกับคุเรนะ เลยไปที่ห้องผู้อำนวยการพร้อมกับอาจารย์ประจำชั้น

Hell mode

Hell mode

Status: Ongoing

ยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า “สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ” ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท