บทที่ 747 ฝ่าบาทกับเจิ้น

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ค้อน​ก่อกวน​ชะตากรรม​เปิด​ปัญญา​ให้​ผู้​มีโชคชะตา​ ไม่ใช่เปิด​ปัญญา​ใน​ความหมาย​ทั่วไป​ แต่​เปิด​ปัญญา​ในแง่​ของ​โชคชะตา​

เช่นนั้น​จะเปิด​ปัญญา​อะไร​ สวี่​ชีอัน​ไม่รู้​ จงหลี​ก็​ไม่รู้​

ทว่า​อันที่จริง​ก็​มีเบาะแส​อยู่​ โชคชะตา​บน​ร่าง​ของ​สวี่​ชีอันเป็น​ชะตา​บ้านเมือง​ครึ่งหนึ่ง​ของ​ต้าฟ่ง​

มัน​ใช้ประโยชน์​อะไร​ได้​มาก​ที่สุด​

เมื่อก่อน​สวี่​ชีอัน​คิด​ว่า​ออก​ไป​เก็บ​เงิน​สัก​ชั่งและ​ได้​กิน​ฟรี​ที่​สำนัก​สังคีต​ตลอดชีพ​

ทว่า​สิ่งเหล่านี้​ไม่เกี่ยวข้อง​กับ​พลัง​ต่อสู้​แต้ม​พิเศษ​ ส่วนใหญ่​อยู่​ที่​รัศมี​แห่ง​ความโชคดี​

แล้ว​การกระทำ​แบบ​ใด​ของ​ชะตา​บ้านเมือง​เกี่ยวข้อง​กับ​พลัง​ต่อสู้​แต้ม​พิเศษ​ คำตอบ​ที่​เด่นชัด​ออกมา​ก็​คือ​…พลัง​แห่ง​เวไนย​สัตว์​

“พลัง​แห่ง​เวไนย​สัตว์​!”

จงหลี​เห็น​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​รู้​ว่า​เขา​คาดเดา​ความจริง​ได้​แล้ว​ จึงจิก​ศีรษะ​ให้​คำตอบ​ยืนยัน​

นี่​เป็น​อำนาจ​ที่​มีแต่​ท่าน​โหราจารย์​ควบคุม​ได้​…สวี่​ชีอัน​ข่มอารมณ์​ตื่นเต้น​เอาไว้​ แล้ว​เอ่ย​พิจารณา​

“ข้า​ก็​ควบคุม​พลัง​แห่ง​เวไนย​สัตว์​ได้​ ทว่า​จำเป็นต้อง​อาศัย​วิธี​ ‘เลี้ยง​จิต​’ ของ​ฉู่หยวน​เจิ่น​ จึงจะระดม​พลัง​แห่ง​เวไนย​สัตว์​ป้องกัน​ศัตรู​ภายใต้​ความ​ฮึกเหิม​ของ​หมู่​มวลชน​ ว่า​กัน​ตามเหตุผล​ ข้า​แบกรับ​ชะตา​บ้านเมือง​ครึ่งหนึ่ง​ แม้จะไม่ได้​แข็งแกร่ง​เท่า​ท่าน​โหราจารย์​ แต่​ก็​น่าจะ​ระดม​พลัง​แห่ง​เวไนย​สัตว์​ได้​อย่าง​มั่นคง​”

จงหลี​ยก​ค้อน​ก่อกวน​ชะตากรรม​ใน​มือ​ เสียง​เพิ่ม​ระดับ​ขึ้น​ไม่เหมือน​เช่นเคย​ แล้ว​เอ่ย​เสียงดัง​

“เพราะ​เจ้ายัง​ไม่ได้​เปิด​ปัญญา​ เจ้าต้อง​ให้​ค้อน​ก่อกวน​ชะตากรรม​ช่วย​เจ้าเปิด​ปัญญา​”

สวี่​ชีอัน​พยักหน้า​

“ใช่ ที่จริง​ข้า​ไม่ได้​ควบคุม​ชะตา​บ้านเมือง​นี้​ใน​ร่าง​จริงๆ​ ตั้งแต่แรก​ แม้มัน​จะรวม​เป็นหนึ่ง​กับ​ข้า​ ทว่า​ข้า​ก็​มิอาจ​ควบคุม​มัน​ มิอาจ​แสดง​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​มัน​ได้​”

เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ทุก​รายละเอียด​ก็​สอดคล้องกัน​ ที่​เรียก​ว่า​เปิด​ปัญญา​หมายถึง​ทำให้​สวี่​ชีอัน​ควบคุม​พลัง​แห่ง​เวไนย​สัตว์​ได้​ ดังนั้น​จึงยกระดับ​พลัง​ต่อสู้​ พลัง​ก้าว​กระโดด​ภายใน​เวลา​อัน​สั้น​

‘นี่​เป็น​ทาง​หนี​ที​ไล่ที่​ท่าน​โหราจารย์​หลงเหลือ​ไว้​’

จงหลี​พึมพำ​กับ​ตนเอง​ใน​ทันใด​

“ชะตา​บ้านเมือง​กับ​โชคชะตา​ไม่เหมือนกัน​”

นาง​หมายถึง​เมื่อก่อน​เคย​คิด​ว่า​สวี่​ชีอัน​มีโชคชะตา​ติดตัว​มาโดยตลอด​ ดังนั้น​จึงปกป้อง​นาง​ได้​

ทว่า​ที่จริง​โชคชะตา​ต่าง​จาก​ชะตา​บ้านเมือง​ ชะตา​บ้านเมือง​เข้าใจ​ได้​ว่า​เป็น​โชคชะตา​ฉบับ​ปรับปรุง​ ชะตา​บ้านเมือง​ระดม​พลัง​แห่ง​เวไนย​สัตว์​ได้​ แต่​โชคชะตา​ทำ​ไม่ได้​

“เจ้าว่า​สวี่​ผิง​เฟิงรู้เรื่อง​ชะตา​บ้านเมือง​ระดม​พลัง​แห่ง​เวไนย​สัตว์​ได้​หรือไม่​”

จงหลี​ถามทันที​

สวี่​ชีอัน​ตะลึง​

“มัน​พูด​ยาก​ การ​ระดม​พลัง​แห่ง​เวไนย​สัตว์​เป็น​อำนาจ​ของ​ปรมาจารย์​ลิขิต​ฟ้า สวี่​ผิง​เฟิงอาจจะ​ไม่รู้​ลึก​มาก​”

เขา​ส่ายหน้า​สักพัก​ ดวงตา​เปล่งประกาย​

“ไม่ สวี่​ผิง​เฟิงไม่รู้​ เขา​ส่งคณะ​ทู​ตอ​วิ๋น​โจว​มาเจรจา​สงบศึก​ นอกจาก​อยาก​จับเสือมือเปล่า​ ชิงอาณาเขต​โดย​ไม่เสียเลือดเนื้อ​ อีก​หนึ่ง​จุดประสงค์​ก็​คือ​หยั่งเชิง​ปฏิกิริยา​ของ​ข้า​ ดังนั้น​จึงเรียน​รู้ทาง​หนี​ที​ไล่ที่​ท่าน​โหราจารย์​หลงเหลือ​ผ่าน​ข้า​ หาก​เขา​รู้​ว่า​ชะตา​บ้านเมือง​ระดม​พลัง​แห่ง​เวไนย​สัตว์​ได้​ ด้วย​สติปัญญา​ของ​เขา​ก็​คง​เดา​ออก​นาน​แล้ว​ ไม่จำเป็นต้อง​ส่งจีหย่วน​มาหยั่งเชิง​”

สวี่​ชีอัน​ยิ่ง​พูด​ก็​ยิ่ง​ตื่นเต้น​ แทบ​อยาก​จะปลุก​พลัง​แห่ง​เวไนย​สัตว์​ทันที​ แล้ว​มุ่งหน้า​ไป​ที่​ชิงโจว​ ทำให้​สวี่​ผิง​เฟิงตกใจ​

จงหลี​ก็​อดใจ​รอ​ไม่ไหว​เช่นกัน​

“ชะ เช่นนั้น​ข้า​จะเคาะ​ศีรษะ​เจ้าแล้ว​นะ​”

สวี่​ชีอัน​นั่งขัดสมาธิ​

“ได้​! ”

จงหลี​ยก​ค้อน​ขึ้น​และ​ทุบ​ลง​ไป​ที่​ศีรษะ​ของ​เขา​ดัง​ ‘ตุ้ง!’​

ศีรษะ​ของ​สวี่​ชีอัน​ดัง​ ‘วิ้ง’​ แล้ว​หมดสติ​ไป​ใน​ชั่วพริบตา​ ม่านตา​ขยาย​ใหญ่​

ไม่นาน​นัก​ม่านตา​ที่​ขยายตัว​ก็​ปรับ​สายตา​ เขา​ปรายตา​มอง​จงหลี​ แล้ว​พลัน​เด้ง​ตัว​ขึ้น​ กรีดกราย​นิ้ว​ดรรชนี​กล้วยไม้​ แล้ว​ขับร้อง​เสียง​เล็ก​แหลม​

“น้อง​หลิน​ตก​จาก​นภาลัย​…”

‘นี่​เป็น​รูปแบบ​ชะตากรรม​ของ​นักแสดง​ปาหี่​ บทเพลง​ไม่คุ้นหู​ ช่างไพเราะ​ประหลาด​…’ จงหลี​ชื่นชม​การแสดง​เดี่ยว​ของ​สวี่​ชีอัน​อย่าง​เงียบๆ​ มอง​เขา​แสดงท่าทาง​มีจริตจะก้าน​ บทเพลง​ลอย​ล่อง​มาจาก​ใน​ปาก​

หลังจาก​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ผล​ของ​ค้อน​ก่อกวน​ชะตากรรม​ก็​หาย​ไป​

สวี่​ชีอัน​ยืน​ฉงน​อยู่​สักพัก​ แล้ว​เอ่ย​ด้วย​ใบหน้า​ชักกระตุก​

“เพราะเหตุใด​ถึงไม่ข้าม​ไป​ล่ะ​”

เมื่อ​ทุบ​ลง​อีกครั้ง​ รูปแบบ​ชะตากรรม​ก็​จะสลับ​เปลี่ยน​ ทว่า​จงหลี​บังคับ​ให้​เขา​ขับร้อง​บทเพลง​อยู่​หนึ่ง​ชั่วโมง​

นัยน์ตา​ที่​เป็นประกาย​ของ​จงหลี​ภายใต้​เส้น​ผม​ที่​แผ่​สยาย​อัน​ยุ่งเหยิง​กะพริบตา​

“ไพเราะ​ประหลาด​”

สวี่​ชีอัน​แตะ​ศีรษะ​ของ​จงหลี​ แล้ว​แสร้ง​ยิ้ม​พร้อม​เอ่ย​

“หาก​ข้า​ไม่อยู่​ที่นี่​หรือ​คน​ที่​เพิ่ง​ขับร้อง​เมื่อ​ครู่​ไม่ใช่ข้า​ บางที​วันนี้​อาจจะ​เป็น​วัน​ตาย​ของ​ศิษย์​พี่​จง”

‘เดี๋ยว​เจ้าจะโดน​ฆ่า!’

จงหลี​เอ่ย​เสียง​เบา​

“เพราะ​เจ้าอยู่​ที่นี่​ ข้า​จึงใจกล้า​ขึ้น​มาเล็กน้อย​”

อืม​ๆ จะแข็งใจ​โทษ​ว่า​เจ้าทำผิด​ได้​อย่างไร​ ก็​ข้า​ให้​อิสระ​เจ้าเกินไป​เอง​! สวี่​ชีอัน​พยักหน้า​

“ต่อ​เถอะ​ เร็ว​เข้า​ พวกเรา​อย่า​มัวแต่​เสียเวลา​…”

ทันทีที่​พูด​จบ​ จงหลี​ก็​ทุบ​ค้อน​ลงมา​

ม่านตา​ของ​สวี่​ชีอัน​ขยาย​ จากนั้น​ก็​โซเซคุกเข่า​ลง​กับ​พื้น​ แล้ว​ร้อง​คร่ำครวญ​

“พระโพธิสัตว์​หญิง​ให้ทาน​สักหน่อย​ มอบ​เงิน​ให้​สักนิด​เถอะ​”

รูปแบบ​ชะตากรรม​ขอทาน​

จงหลี​ยก​ค้อน​ขึ้น​ทุบ​

“จับ​จอบ​กลางแดด​จ้า หยาดเหงื่อ​ล้า​หยด​ลง​ดิน​ คนทำมาหากิน​มีเกียรติ​ที่สุด​…”

จงหลี​ยก​ค้อน​ขึ้น​ทุบ​

“ไม่อร่อย​เท่า​เกี๊ยว​ ไม่น่าสนุก​เท่า​พี่สะใภ้​” พูด​จบ​ก็​พยายาม​มุดหัว​เข้ามา​ใต้​กระโปรง​ของ​จงหลี​

จงหลี​ยก​ค้อน​ขึ้น​ทุบ​

‘ตุ้ง!​ ตุ้ง!​ ตุ้ง…’​

ยิ่ง​จงหลี​ทุบ​ค้อน​มากขึ้น​ก็​ยิ่ง​เร็ว​ขึ้น​เรื่อยๆ​ กระทั่ง​ท้ายที่สุด​ค้อน​ก็​เร็ว​ขึ้น​จน​เหมือน​ภาพติดตา​

สวี่​ชีอัน​นั่งลง​อย่าง​งุนงง​ นัยน์ตา​เลื่อนลอย​ไม่ปรับ​สายตา​

บัดนี้​ ราวกับว่า​เขา​ผ่าน​ชีวิต​มานับ​ครั้ง​ไม่ถ้วน​ ชนชั้นสูง​ต่ำ​ของ​อาชีพ​ ความดี​ชั่ว​ของ​ความเป็นมนุษย์​ เข้าใจ​ความทุกข์ยาก​ของ​ประชาชน​และ​ทุก​สรรพ​สิ่งมีชีวิต​

ทันใดนั้น​เขา​ก็​ได้ยิน​เสียง​ระฆัง​ใหญ่​ต้า​ลู่​ดังก้อง​จน​หูดับ​ คล้าย​กับ​มีบางอย่าง​ภายใน​ร่าง​หลุด​จาก​พันธนาการ​

สวี่​ชีอัน​ลืมตา​ขึ้น​ แล้ว​กลายเป็น​เงามืด​หาย​ไป​ที่​ใต้ดิน​

เมื่อ​ปรากฏตัว​อีกครั้ง​ เขา​ก็​มาถึงแท่น​แปด​ทิศ​ของ​หอ​ดู​ดาว​

ตอนนี้​ม่าน​ราตรี​มืดมิด​ ทั่ว​ทั้ง​เมืองหลวง​ปกคลุม​ด้วย​ความมืด​ มีเพียง​พื้นที่​บางส่วน​ที่​ยัง​จุด​เทียน​

เมืองหลวง​ใน​ยามค่ำคืน​เงียบสงัด​ ทว่า​ใน​สายตา​ของ​สวี่​ชีอัน​ช่างครึกครื้น​ มีสีสัน​ โศกเศร้า​ เลวร้าย​ และ​งด​งาม…

มุมของ​เขา​ที่​มีต่อ​โลก​เปลี่ยนไป​ต่าง​จาก​ปกติ​โดยสิ้นเชิง​

ทุกสิ่ง​ที่​ดีงาม​ล้วน​มาจาก​โลก​มนุษย์​

ทุกสิ่ง​ที่​ชั่วร้าย​ก็​ล้วน​มาจาก​โลก​มนุษย์​ทั้งสิ้น​

ในเวลานี้​ราวกับว่า​เขา​ก้าว​ข้าม​ความ​ชั่ว​ดี​ สับสน​ขอบเขต​ระหว่าง​ความชอบธรรม​และ​อธรรม​ กลายเป็น​เทพ​เจ้าที่​มองข้าม​ผู้คน​อย่าง​เฉยชา​

ใน​เวลา​ต่อมา​เขา​ก็​จมลง​สู่โลก​มนุษย์​อย่าง​ช้าๆ แช่อยู่​ใน​ความ​ชั่ว​และ​ความดี​ของ​โลก​โลกีย์​ หลอม​รวม​เป็นหนึ่ง​กับ​โลก​กลม​ๆ ใบ​นี้​

สวี่​ชีอัน​กางแขน​พร้อม​เอ่ย​เสียงดัง​

“มานี่​!”

ทุก​คนฟัง​คำสั่ง​ของ​ข้า​!

ใน​ชั่วพริบตา​ พลัง​ที่​รวบรวม​จาก​อาณาประชาราษฎร์​ก็​กรู​กัน​เข้ามา​

พลัง​นี้​ไม่ได้​เป็น​พลัง​ปราณ​ ไม่ได้​เป็น​พลัง​วิญญาณ​ ไม่ได้​เป็น​พลัง​จิตวิญญาณ​ ทว่า​ครอบคลุม​ด้วย​อารมณ์​หลากหลาย​ของ​มนุษย์​ ชังโลภ​โกรธ​หลง​ ความทุกข์​ความสุข​ รวมถึง​พลัง​จิตใจ​ของ​พวกเขา​

หาก​จะต้อง​ให้​จำกัดความ​ พลัง​นี้​จัด​อยู่​ใน​อำนาจ​

อำนาจ​ของ​ ‘มหาอำนาจ​’

เมื่อ​พลัง​แห่ง​เวไนย​สัตว์​กรู​กัน​เข้ามา​ สวี่​ชีอัน​ก็​รวบรวม​พลัง​นี้​เข้ามา​ภายใน​ร่าง​ราวกับ​ทะเล​ล้อม​ธาร​ร้อย​สาย​

ภายใน​หอ​ดู​ดาว​ นอกจาก​มู่หนาน​จือ​กับ​ซุน​เสวียน​จี โหร​ทุกคน​ก็​คลาน​อยู่​บน​พื้น​ราวกับ​เผชิญหน้า​กับ​อำนาจ​สวรรค์​

ชิงโจว​

ใน​กลางดึก​ เก่​อ​เห​วิน​เซวียน​เคาะ​ประตู​ห้อง​ของ​จีเสวียน​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​

“ข้า​ติดต่อ​คุณชาย​จีหย่วน​ไม่ได้​แล้ว​”

เก่​อ​เห​วิน​เซวียน​ตรง​เข้า​ประเด็น​โดย​ไม่ได้​ทักทาย​แต่อย่างใด​

จีเสวียน​พลัน​เปลี่ยน​สีหน้า​

“ข้า​ติดต่อ​กับ​คุณชาย​จีหย่วน​ทุก​สอง​วัน​ครั้ง​เพื่อ​รายงาน​ความเป็นอยู่​และ​รู้​ความคืบหน้า​ของ​การ​เจรจา​สงบศึก​ ทว่า​วันนี้​ข้า​ติดต่อ​เขา​ไม่ได้​เสียแล้ว​” เก่​อ​เห​วิน​เซวียน​ถือ​หอยสังข์​กระแสจิต​ไว้​ใน​มือ​

จีเสวียน​ชิงคว้า​มาอย่าง​รวดเร็ว​ แนบ​หอยสังข์​ที่​ข้าง​หู​ แล้ว​เอ่ย​เสียง​เข้ม​

“จีหย่วน!”​

ตะโกน​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ก็​ไม่มีแม้แต่​คน​ตอบรับ​

เก่​อ​เห​วิน​เซวียน​เอ่ย​

“หลังจาก​ได้รับ​ข่าว​ ค่าย​กล​บน​หอยสังข์​จะเคลื่อนไหว​เล็กน้อย​เพื่อ​เตือน​ผู้ครอบครอง​ หาก​หอยสังข์​อยู่​ใน​มือ​ของ​คุณชาย​จีหย่วน​ เขา​ไม่มีทาง​ที่จะ​ไม่สังเกตเห็น​”

จีหย่วน​วาง​หอยสังข์​ไว้​บน​โต๊ะ​ แล้ว​เอ่ย​ถามเสียง​เข้ม​

“การ​เจรจา​สงบศึก​ไป​ถึงขั้น​ไหน​แล้ว​”

เก่​อ​เห​วิน​เซวียน​ตอบ​

“จาก​การ​ติดต่อ​ครั้ง​ล่าสุด​ คุณชาย​จีหย่วน​บอก​ว่าการ​เจรจา​สงบศึก​มาถึงขั้นสุดท้าย​แล้ว​ ไม่ว่า​อย่างไร​ต้าฟ่ง​ก็​ไม่ยอม​ยก​ยง​โจว​ให้​”

จีเสวียน​วิเคราะห์​อย่าง​ใจเย็น​

“นี่​เป็น​จุดประสงค์​หลัก​ของ​การ​เจรจา​สงบศึก​ จีหย่วน​แยกแยะ​ลำดับความสำคัญ​เสมอ​ จะไม่เป็น​ฝ่าย​ขาดการติดต่อ​ใน​ช่วงเวลา​สำคัญ​แบบนี้​ก่อน​ เช่นนั้น​สถานการณ์​ที่​เป็นไปได้​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​ เขา​เกิด​ปัญหา​แล้ว​”

พูด​จบ​สายตา​ของ​เขา​ก็​คมกริบ​ขึ้น​ใน​ทันใด​

สัญชาตญาณ​บอก​เขา​ว่า​เกิดเรื่อง​ขึ้นกับ​สวี่​ชีอัน​

เก่​อ​เห​วิน​เซวียน​ครุ่นคิด​ก่อน​จะเอ่ย​

“เรื่อง​นี้​ไม่ปกติ​ ด้วย​สถานการณ์​ของ​ต้าฟ่ง​ใน​ปัจจุบัน​ การ​เจรจา​สงบศึก​เป็น​ทางออก​เพียง​หนึ่งเดียว​ แม้สวี่​ชีอัน​จะแสดง​ความกล้า​ของ​คน​ไร้​ปัญญา​ ทว่า​ก็​ไม่ใช่ไอ้​โง่ สำหรับ​เขา​การ​เจรจา​สงบศึก​เป็น​เหมือนกับ​หนทาง​ซื้อเวลา​ นอกจากนี้​ หยวน​ซวง​กับ​หยวน​ไหว​ก็​อยู่​ใน​คณะ​ทูต​ ตราบใดที่​คุณชาย​จีหย่วน​ไม่รนหาที่​ตาย​มายั่วยุ​เขา​ ส่วนใหญ่​สวี่​ชีอัน​ก็​จะไม่ทำ​อะไร​คณะ​ทูต​”

จีเสวียน​พยักหน้า​

“จีหย่วน​อาจจะ​หยั่ง​เชิงเขา​ ทว่า​จะไม่จงใจไป​ยั่วโทสะ​เขา​ เรื่อง​นี้​ไม่ปกติ​ เจ้ารีบ​แจ้งท่าน​แม่ทัพ​ใหญ่​โดยด่วน​”

เก่​อ​เห​วิน​เซวียน​พยักหน้า​ แล้ว​หันหลัง​จากไป​

หลังจาก​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ เก่​อ​เห​วิน​เซวียน​ก็​ย้อน​กลับมา​พร้อม​เอ่ย​เสียง​เข้ม​

“ท่าน​แม่ทัพ​ใหญ่​มีคำสั่ง​ให้​หารือ​ที่​กระโจม​ผู้นำ​ทัพ​ใน​วันพรุ่งนี้​”

การหารือ​ที่​กระโจม​ผู้นำ​ทัพ​เป็น​การประชุม​ระดับ​สูงสุด​ใน​กองทัพ​ ทหาร​ยศ​สูงใน​กองทัพ​ต้อง​เข้าร่วม​ทั้งหมด​

หมายเลข​สาม ‘ฝ่าบาท​ พรุ่งนี้​ข้า​ต้องการ​ไป​ชิงโจว​ สืบหา​ข้อเท็จจริง​ของ​กองทัพ​กบฎ​ใน​อวิ๋น​โจว​ แล้ว​ถือโอกาส​ส่งหนังสือ​ท้า​รบ​ให้​สวี่​ผิง​เฟิงอย่าง​เป็นทางการ​’

สวี่​ชีอัน​ที่​ควบคุม​พลัง​แห่ง​เวไนย​สัตว์​ส่งข้อความ​นี้​ลง​ใน​กลุ่ม​สนทนา​หนังสือ​ปฐพี​

สวี่​ชีอัน​มีความคิด​ว่า​ ก่อน​ทั้งสองฝ่าย​จะเปิด​สงคราม​จำเป็นต้อง​พบ​สวี่​ผิง​เฟิงเสีย​ก่อน​

ข้า​ต้อง​ส่งหนังสือ​ท้า​รบ​ ต้อง​ตบหน้า​ของ​โหร​ขั้น​สอง​คน​นี้​ ต้อง​ทำให้​สวี่​ผิง​เฟิงรู้​ว่า​ จาก​ภาชนะ​ที่​มีพลัง​เท่า​มด​ใน​ตอนแรก​เช่น​เขา​เติบ​โตมา​เป็น​นัก​หมากรุก​ที่​เสมอภาค​กัน​แล้ว​

มิเช่นนั้น​ สวี่​ชีอัน​ก็​มิอาจ​สงบใจ​ลง​ได้​!

ฮว๋าย​ชิ่งยัง​ไม่ได้​ตอบกลับ​ ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​ที่​เห็น​ข้อความ​นี้​ก่อน​ถามอย่าง​ฉงน​

หมายเลข​สอง​ ‘เจ้ากำลัง​พูด​อะไร​น่ะ​ สวี่​หนิง​เยี่ยน​ เจ้าพิมพ์​ผิด​หรือไม่​’

เหล่า​สมาชิก​พรรค​ฟ้าดิน​ที่​ถูก​ปลุก​ให้​ ‘รู้สึก​ใจสั่น​’ ก็​ทยอย​หยิบ​หนังสือ​ปฐพี​ออกมา​อ่าน​ข้อความ​ แล้ว​เห็นด้วย​กับ​ความคิดเห็น​ของ​ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​อย่าง​เป็นเอกฉันท์​

หมายเลข​หนึ่ง​ ‘ตกลง​ ก่อน​จะออกเดินทาง​ก็​มาที่​วัง​เสีย​ก่อน​ เจิ้น​ มีเรื่อง​ที่จะ​ทำให้​เจ้าประหลาดใจ​’

หมายเลข​สาม ‘ทำให้​ประหลาดใจ​หรือ​ เรื่อง​แบบ​ใด​กัน​’

หมายเลข​หนึ่ง​ ‘ประหลาดใจ​ก็​คือ​ประหลาดใจ​ พูด​ไป​ก็​ไม่มีความหมาย​สิ’

สมาชิก​พรรค​ฟ้าดิน​ ‘? ? ?’

นอก​เสีย​จากลี่​น่า​ที่​นอนหลับ​สบาย​ปลุก​ไม่ตื่น​ง่ายๆ​ เมื่อ​สมาชิก​คนอื่น​เห็น​เนื้อหา​ข้อความ​ของ​ทั้งสอง​ เครื่องหมายคำถาม​ก็​ปรากฏ​อยู่​ใน​หัว​อย่าง​ต่อเนื่อง​

ฝ่าบาท​อะไร​ เจิ้น​หมายความว่า​อย่างไร​

สวี่​ชีอัน​ชอบ​ล้อเล่น​อยู่แล้ว​ นิสัย​ก็​เป็น​เช่นนี้​ แต่​ฮว๋าย​ชิ่งไม่ใช่คน​ที่จะ​ล้อเล่น​ไป​กับ​เขา​

ฉู่หยวน​เจิ่น​ใน​ฐานะ​ปัญญาชน​อ่อนไหว​กับ​คำ​ว่า​ ‘ฝ่าบาท​’ และ​ ‘เจิ้น’​ สอง​คำ​นี้​มาก​ จึงส่งข้อความ​หยั่งเชิง​อย่าง​ระแวดระวัง​

หมายเลข​สี่ ‘ท่าน​ทั้งสอง​ นี่​หมายความว่า​อะไร​กัน​’

…………………………………………..

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท