ตอนที่ 521 ปฏิเสธ(2)
ตอนที่ 521 ปฏิเสธ(2)
ฉินมู่หลานเห็นข่งไฉ่อิง จึงยิ้มแล้วกล่าวขึ้นว่า “น้าข่ง มาทำอะไรเหรอคะ”
ข่งไฉ่อิงรีบอธิบายจุดประสงค์ในการมาอย่างรวดเร็ว “น้ามาบอกว่าเครื่องสำอางที่ฮ่องกงใกล้หมดแล้ว ครั้งนี้น้าก็เลยว่าจะสั่งซื้อไปให้เยอะขึ้นอีก”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หล่อนก็ได้แต่รู้สึกว่าการตัดสินใจของตัวเองในตอนนั้นถูกต้องเหลือเกิน หากครั้งนี้เป็นไปตามแผน หล่อนจะครองตลาดเครื่องสำอางในฮ่องกงได้ในไม่ช้า
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ต้องรู้สึกสุขใจอยู่แล้ว
“ได้เลยค่ะ ครั้งนี้สต็อคเยอะขึ้นหน่อยก็ได้”
“เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้ว”
ข่งไฉ่อิงพยักหน้าตามตรง คิดจะสั่งซื้อเพิ่มอยู่แล้ว แต่เมื่อนึกถึงข่าวที่เพิ่งได้ยินมา จึงอดหันมองแล้วเอ่ยถามฉินมู่หลานไม่ได้ “มู่หลาน น้าได้ยินมาว่าที่นี่เธอเป็นคนพัฒนายาที่มีประสิทธิภาพมากมาย”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก้เหลือมองข่งไฉ่อิงแล้วเอ่ยขึ้น “ก็ไม่เยอะขนาดนั้นหรอกค่ะ พวกยาเสริมความงามนั่นก็เป็นหนึ่งในนั้น ยาชนิดอื่นก็ไม่ได้มีมากหรอกค่ะ”
เมื่อเห็นฉินมู่หลานพูดแบบนั้น ข่งไฉ่อิงก็อดยิ้มไม่ได้ ก่อนจะเอ่ย “มู่หลาน เธอถ่อมตัวเกินไปแล้ว ยาพิเศษพวกนั้นใช้จ่ายให้กันในโรงพยาบาลที่นี่ มีหลายชนิดที่เธอล้วนพัฒนาขึ้น และน้ายังได้ยินมาด้วยว่า…เธอยังมีสูตรยาอีกมากมายที่ทำให้กับทางฐานทัพ”
“น้าข่งคะ เรื่องนี้ไม่จริงหรอกค่ะ ว่าแต่ทำไมน้าถึงถามเรื่องนี้เหรอคะ หรือว่าพวกน้ากำลังจะตีตลาดยา?”
ข่งไฉ่อิงเห็นฉินมู่หลานปฏิเสธ จึงอดขมวดคิ้วไม่ได้ แต่ก็ไม่พูดอะไรมากมาย เพียงแค่พยักหน้าแล้วกล่าว “น้ามีแผนนี้อยู่เหมือนกัน หากยาพวกนั้นมีประสิทธิภาพจริง ถ้าอย่างนั้นน้าก็อยากจะสั่งซื้อจากเธอเพิ่ม”
“น้าข่งคะ ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่มียาอะไรจริง ๆ ค่ะ มีแค่ยาเสริมความงามเท่านั้น ถ้าเป็นยาอื่นไม่มีแล้วค่ะ”
เมื่อเห็นว่าฉินมู่หลานไม่ยอมรับ ข่งไฉ่อิงจึงทราบว่าแผนของหล่อนกำลังจะล้มเหลว
ฉินมู่หลานไม่ได้คาดหวังว่าข่งไฉ่อิงวางแผนจะตีตลาดยาจริง ๆ อย่าว่าแต่ยาพิเศษสองตัวนั้นเลย ยาอื่น ๆ ก็ขึ้นอยู่กับทางฐานทัพ เธอจึงไม่สามารถส่งออกยาพวกนี้ได้เอง
“ดูเหมือนว่าน้าจะเข้าใจผิดไป ถ้าอย่างนั้นน้าสั่งแค่ยาเสริมความงามเพิ่มแล้วกัน”
“ได้ค่ะ”
ฉินมู่หลานพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม ส่วนเรื่องขั้นตอนต่าง ๆ ถึงเวลานั้นก็ให้หลิวเสวียข่ายมารับช่วงต่อ
ข่งไฉ่อิงพูดคุยกันอีกสอองสามประโยคแล้วกลับไป ตอนนี้หล่อนพักอาศัยอยู่ที่บ้านข้าง ๆ จึงกลับถึงบ้านได้โดยใช้เวลาเดินเพียงไม่กี่ก้าว เมื่อเห็นสามีกำลังนั่งอยู่บนโซฟา หล่อนก็ถอนหายใจแล้วกล่าวขึ้น “นึกไม่ถึงเลยว่ามู่หลานจะไม่ตอบรับ ฉันลองถามเกี่ยวกับยาตัวอื่น ๆ แล้ว แต่หล่อนปฏิเสธหมดเลย”
เผยเจิ้งผู่อดไม่ได้ที่จะหันมองภรรยา แล้วบอกกล่าว “ผมเคยบอกคุณแล้ว ว่าอย่าพูดเรื่องนี้ ทำไมคุณถึงยังพูดอีกล่ะ ดีไม่ดีคุณอาจจะสั่งซื้อเครื่องสำอางครั้งต่อไปไม่ได้ด้วย”
“เรื่องนั้นน่ะไม่มีทาง คนทำธุรกิจแค่ลองถามคงไม่เป็นไรหรอก ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องสำอางก็ขายออกหมดด้วย ฉันก็ถือว่าเป็นลูกค้ารายใหญ่ ทำไมมู่หลานถึงจะไม่ยอมส่งเครื่องสำอางให้ฉันล่ะ”
เผยเจิ้งผู่คิดนำไปก้าวหนึ่ง เขาทราบว่ายาที่ทำให้ฐานทัพต้องมีอะไรพิเศษอย่างแน่นอน และในเมื่อเป็นของทางฐานทัพ แล้วจะนำออกมาได้อย่างไร “เอาล่ะ ต่อไปคุณอย่าไปพูดเรื่องพวกนี้กับมู่หลานอีกนะ แล้วก็ไม่ต้องคิดเรื่องจะตีตลาดยาด้วย ผมไม่ให้คุณทำหรอก”
“ฉัน…”
ตอนแรกข่งไฉ่อิงอยากจะลอง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของฉินมู่หลานที่ปฏิเสธในวันนี้แล้ว อีกทั้งยังเห็นหน้าสามีดูไม่ค่อยพอใจอีก หล่อนจึงไม่พูดอะไรอีก ก่อนจะพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ได้ ฉันเข้าใจแล้ว แต่ว่ามู่หลานนี่สุดยอดกว่าที่เราคิดเอาไว้มากเลยนะ ต่อไปจะต้องมีเส้นสายเพิ่มมากขึ้นแน่นอน”
“หากคุณคิดแบบนั้นก็หัดเข้ากับคนให้ดี ต่อไปก็อย่าทำให้อะไรให้คนเขาลำบากใจอีก”
“ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”
ฉินมู่หลานก็กำลังนึกถึงทางด้านข่งไฉ่อิงเหมือนกัน เธอไม่รู้ว่าข่งไฉ่อิงไปได้ข่าวมาจากไหน แต่ถึงอย่างไรเธอก็รู้สึกว่าจำเป็นต้องบอกใครสักคน เพราะฉะนั้นเมื่อหลิวเสวียข่ายมาถึง เธอจึงไม่ได้พูดเรื่องแค่เรื่องคำสั่งซื้อกับหลิวเสวียข่ายเท่านั้น แต่ยังบอกเกี่ยวกับที่ข่งไฉ่อิงถามเรื่องยาด้วย
สีหน้าของหลิวเสวียข่ายเรื่มดูจริงจังขึ้นมา เขารีบเอ่ยขึ้นว่า “ได้ ผมเข้าใจแล้ว เดี๋ยวผมจะแจ้งเรื่องนี้ไปทางเบื้องบน”
หลังจากช่วงเวลานั้นผ่านไป ฉินมู่หลานก็ไปเรียนและกลับบ้านทุกวัน ไม่ได้ไปหาทางฝั่งเซี่ยเจ๋อหลี่เลย
ส่วนทางฝั่งของหลิวเสวียข่าย ก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
“มู่หลาน พวกเราให้คนลองไปสืบเรื่องข่งไฉ่อิงและเผยเจิ้งผู่แล้ว ทั้งสองไม่ได้มีอะไรผิดปกติ ข่งไฉ่อิงถามเรื่องนี้ขึ้นมา ก็เพราะต้องการขยายธุรกิจ อยากตีตลาดยาที่ฮ่องกงเท่านั้น”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็พยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ไม่มีปัญหาก็ดีแล้วค่ะ”
“ใช่แล้ว เดี๋ยวต่อไปหากมีคำสั่งซื้อมาอีกผมจะติดต่อกับพวกเขาโดยตรงเอง คุณไม่ต้องเจอหน้าแล้วครับ”
“ตกลงค่ะ”
ฉินมู่หลานรู้สึกสุขใจและผ่อนคลาย
เหยาจิ้งจือบังเอิญไปปอกผลไม้แล้วเดินเข้ามาพอดี หลังเห็นว่าหลิวเสวียข่ายกลับไปแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะบอกให้ฉินมู่หลานกินอะไรเพิ่มสักหน่อย “มู่หลาน เธอกินหน่อยเถอะ”
ฉินมู่หลานยิ้มและพยักหน้า
เหยาจิ้งจือเห็นว่าลูกชายคนเล็กไม่ได้กลับมาสักพักแล้ว จึงอดถามไม่ได้ “มู่หลาน ตอนพวกเธอกลับมาครั้งก่อน อาหลี่ได้บอกไหมว่าจะกลับบ้านเมื่อไหร่?”
ฉินมู่หลานส่ายหัวแล้วบอกกล่าว “ไม่ค่ะ อาหลี่บอกแค่ว่าถ้าว่างแล้วจะกลับมาบ้าน”
ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน ก็มีเสียงเปิดประตูจากข้างนอก พร้อมกับร่างเซี่ยเจ๋อหลี่สะพายกระเป๋าเดินเข้ามา
เหยาจิ้งจือเห็นลูกชายคนเล็กกลับมาแล้ว จึงอดกล่าวทั้งรอยยิ้มไม่ได้ “อาหลี่ บังเอิญจังเลย ฉันเพิ่งพูดกับมู่หลานเรื่องแกเมื่อกี้เอง แกก็กลับมาพอดีเลย รีบเข้ามาดื่มน้ำก่อนเร็ว เดี๋ยวฉันไปทำอาหารให้”
หลังจากนั้นเซี่ยเจ๋อหลี่ก็โบกมือแล้วบอกกล่าวว่า “แม่ครับ แม่ไม่ต้องลำบากหรอก เดี๋ยวผมก็ไปแล้ว”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เหยาจิ้งจือก็รีบหันไปมองแล้วเอ่ยถาม “ทำไมถึงรีบไปล่ะ หรือว่ามีงานอะไร?”
ฉินมู่หลานที่อยู่ข้าง ๆ ก็เอ่ยถามเช่นกัน “ต้องไปเลยเหรอคะ หรือว่ามีภารกิจอีกแล้ว คุณกลับมาเพื่อบอกพวกเราใช่ไหม?”
เซี่ยเจ๋อหลี่พยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ใช่ ภารกิจครั้งนี้อาจใช้เวลานานถึงหนึ่งเดือน เพราะฉะนั้นผมจึงกลับบ้านมาบอกก่อน”
เหยาจิ้งจือได้ยินว่าต้องใช้เวลานานขนาดนั้น จึงอดพูดไม่ได้ “ครังนี้ต้องไปที่ไหน ทำไมถึงนานจัง”
“แม่ครับ มู่หลาน ผมต้องไปแล้ว”
เซี่ยเจ๋อหลี่หาเวลาออกมา กว่าจะพูดกับที่บ้านได้นั้นมันไม่ง่ายเลย ไม่ต้องพูดถึงว่าภารกิจของพวกเขาต้องเป็นความลับอีก ดังนั้นเขาจึงพูดได้เพียงแค่ว่าจะออกไปทำภารกิจ นอกนั้นก็ไม่สามารถบอกอะไรได้แล้ว
เฝ้ามองร่างของเซี่ยเจ๋อหลี่ที่กำลังจากไป เหยาจิ้งจือก็รีบหันไปมองแล้วพูดบอกกับฉินมู่หลาน “มู่หลาน อาหลี่บอกว่าหนึ่งเดือน บางทีอาจจะมาเร็วกว่านั้น เธอก็ไม่ต้องกังวลนะ”
จริง ๆ แล้วตัวหล่อนเองไม่ได้กังวลใจ แต่ลูกสะใภ้คนเล็กกำลังตั้งท้องอยู่ จะไม่ให้กังวลใจก็คงไม่ได้
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “แม่คะ ฉันเข้าใจค่ะ”
และเซี่ยเจ๋อหลี่ก็กลับไปอย่างรวดเร็วทันเวลารวมพลพอดี และคนตรงหน้าเขาก็คือถูเฉิงเสียง
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ยาของมู่หลานมันมีสิทธิบัตรอยู่น่ะค่ะป้า จะให้มาขายให้ป้ามันไม่ได้อยู่แล้ว
พี่หลี่ไปทำภารกิจอีกแล้ว ไปยาวแถมอยู่กับคู่อริอีกต่างหาก สู้ๆ นะคะ
ไหหม่า(海馬)