ตอนที่ 2985 เก้ามรดกพิทักษ์สำนักคีรีดวงกมล

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

จ้าว​จิ่งเซวียน​และ​ซย่า​จื้อ​จากไป​ด้วยกัน​

มีซย่า​จื้อ​อยู่​ หลิน​สวิน​ก็​ไม่ได้​เป็นห่วง​อะไร​

ถึงอย่างไร​ด้วย​พลัง​ต่อสู้​ของ​ซย่า​จื้อ​ใน​ตอนนี้​ สามารถ​สังหาร​ขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​ได้​แล้ว​ ทั้ง​ยัง​ครอบครอง​ ‘พิบัติ​โลกีย์​’ วิชา​ต้องห้าม​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​มรรค​โชคชะตา​’

ใน​โลก​พัน​จักรวาล​นี้​ไม่มีใคร​สามารถ​เป็น​คู่ต่อสู้​ของ​ซย่า​จื้อ​ได้​

“ท่าน​พ่อ​”

เพิ่ง​ส่งจ้าว​จิ่งเซวียน​กับ​ซย่า​จื้อ​จากไป​ หลิน​ฝาน​ก็​มาหา​อย่าง​เร่งรีบ​

“มีอะไร​ เจ้าสามารถ​ไร้​ศัตรู​ใน​ระดับ​นี้​ได้​อย่าง​แท้จริง​แล้ว​หรือ​”

หลิน​สวิน​ยิ้ม​ถาม

ใน​หลาย​วัน​มานี้​หลิน​ฝาน​ต่อสู้​กับ​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​ของ​เจ็ด​ขุม​อำนาจ​ใหญ่​ตามที่​หลิน​สวิน​สั่งมาโดยตลอด​ ใช้สิ่งนี้​เคี่ยว​กรำ​ตนเอง​ และ​มีพัฒนาการ​ขึ้น​มาก​

“ใกล้​แล้ว​”

หลิน​ฝาน​ยิ้ม​พูด​ “ข้า​มาหา​ท่าน​พ่อ​คราวนี้​ไม่ได้มา​เพื่อให้​ท่าน​ทดสอบ​มรรค​วิถี​ของ​ข้า​ แต่​มีเรื่อง​หนึ่ง​จะคุย​กับ​ท่าน​พ่อ​”

บุคลิก​ของ​เขา​สุขุม​ โดดเด่น​สง่างาม แม้ตอนที่​คุย​กับ​หลิน​สวิน​ก็​ยังมี​ความ​ผ่าเผย​เยือกเย็น​เป็น​เอกลักษณ์​

หลิน​สวิน​กล่าว​ “เรื่อง​อะไร​”

“ท่าน​พ่อ​มากับ​ข้า​”

ว่า​พลาง​เขา​ก็​ทะยาน​ไป​ทาง​ซาก​คีรี​ดวงกมล​

ระหว่างทาง​พลัน​มีเงาร่าง​หนึ่ง​โฉบ​พุ่ง​มาจาก​ไกลๆ​ คน​ยัง​มาไม่ถึง เสียง​นุ่มนวล​อ่อนหวาน​ก็​ดัง​มาแล้ว​ “พี่​ฝาน​ ในที่สุด​ข้า​ก็​เจอ​ท่าน​แล้ว​”

มาหา​หลิน​ฝาน​

ทันทีที่​เห็น​ หลิน​สวิน​ก็​จำได้​ทันที​ว่า​นี่​คือ​สือ​หลิน​หลา​งลูกสาว​ของ​สืออวี่​ สาวงาม​ที่​งดงาม​เย้ายวน​คน​หนึ่ง​

“เอ้อ​ มาหา​ข้า​มีธุระ​อะไร​หรือ​” หลิน​ฝาน​ชะงัก​เท้า​

สือ​หลิน​หลา​งก​ลับ​ไม่ตอบ​ ทักทาย​หลิน​สวิน​พร้อม​ยิ้ม​หวาน​ “ท่าน​อา​หลิน​”

หลิน​สวิน​เหลือบมอง​นาง​กับ​หลิน​ฝาน​แวบ​หนึ่ง​ ใน​ใจเดา​อะไร​ออก​รางๆ​ อด​ยิ้ม​พูด​ไม่ได้​ “พวก​เจ้าคุย​กัน​ไป​ ข้า​ออก​ไป​ก่อน​”

ว่า​พลาง​ก็​ไพล่หลัง​เดิน​ออก​ไป​

‘ก็​ถูก​ อายุ​ของ​ฝาน​เอ๋อร์​ควร​แก่​การ​หาคู่​บำเพ็ญ​นาน​แล้ว​’ หลิน​สวิน​ลอบ​กล่าว​ใน​ใจ

สือ​หลิน​หลา​งเป็น​ลูกสาว​ของ​สืออวี่​ ส่วน​เขา​กับ​สืออวี่​ก็​เป็น​สหาย​รัก​ที่​คบหา​กัน​มาตั้งแต่​เด็ก​ หาก​หลิน​ฝาน​สามารถ​สาน​สัมพันธ์​กับ​สือ​หลิน​หลา​งได้​ย่อม​เป็นเรื่อง​ที่​ดีมาก​

แน่นอน​ว่า​เรื่อง​เช่นนี้​ยัง​ต้อง​ดู​ว่า​หลิน​ฝาน​และ​สือ​หลิน​หลา​งใจตรงกัน​หรือไม่​

ไม่นาน​หลิน​ฝาน​ก็​มาแล้ว​ ยิ้ม​กล่าว​ “ท่าน​พ่อ​ พวกเรา​ไป​กัน​เถอะ​”

หลิน​สวิน​มอง​เงาร่าง​ที่​จากไป​ของ​สือ​หลิน​หลา​งไกลๆ​ แวบ​หนึ่ง​ สุดท้าย​ก็​ไม่ได้​ถาม เรื่อง​แบบนี้​ให้​หลิน​ฝาน​ตัดสินใจ​เอง​ก็​พอ​

ซาก​คีรี​ดวงกมล​

ภายใต้​การนำทาง​ของ​หลิน​ฝาน​ ไม่นาน​ก็​มาถึงส่วนลึก​ของ​ถ้ำสถิต​แห่ง​หนึ่ง​

เห็นชัด​ว่า​ที่นี่​รกร้าง​มานาน​แล้ว​ แต่​ตอนนี้​คละคลุ้ง​ด้วย​กลิ่นอาย​มหา​มรรค​น่า​ตกใจ​ ทั้ง​ยัง​มีเสียง​มรรค​ดัง​มาเป็น​ระลอก​

“ที่นี่​เพิ่ง​ปรากฏ​ช่วงนี้​หรือ​” หลิน​สวิน​ถาม

หลิน​ฝาน​กล่าว​ “เพิ่ง​ปรากฏ​เมื่อวาน​ คงจะ​เกี่ยวข้อง​กับ​การเปลี่ยนแปลง​ของ​แหล่งน้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​ ข้า​เข้าไป​สำรวจ​ภายใน​แล้ว​ รู้​ว่า​ถ้ำสถิต​แห่ง​นี้​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​”

หลิน​สวิน​นัยน์ตา​หด​รัด​ เร่งฝีเท้า​ทันที​

ไม่นาน​ก็​มาถึงปลาย​สุด​ของ​ถ้ำสถิต​ ที่นี่​คือ​ฟ้าดิน​ที่​กว้างขวาง​ผืน​หนึ่ง​ มีเพียง​เบาะ​รอง​นั่ง​เบาะ​หนึ่ง​วาง​อยู่​ตรงนั้น​ นอกจากนี้​ก็​ไม่มีสิ่งใด​อีก​

สายตา​ของ​หลิน​สวิน​หยุด​อยู่​บน​เบาะ​รอง​นั่ง​ในทันที​

“ท่าน​พ่อ​ เบาะ​รอง​นั่ง​นี้​มหัศจรรย์​มาก​ ด้วย​มรรค​วิถี​ของ​ข้า​ใน​ตอนนี้​ถึงกับ​ไม่สามารถ​เข้าใกล้​และ​แตะต้อง​ได้​ แม้แต่​จิต​รับรู้​ยัง​ไม่สามารถ​สัมผัส​ได้​”

หลิน​ฝาน​พูด​

จิต​รับรู้​ของ​หลิน​สวิน​แผ่ออก​ไป​ พลัน​สัมผัส​ได้​ถึงกลิ่นอาย​ที่​แตกต่าง​ บน​เบาะ​รอง​นั่ง​นั่น​ปรากฏ​พลัง​ผนึก​ที่​คลุมเครือ​สาย​หนึ่ง​ ด้วย​มรรค​วิถี​ใน​ตอนนี้​ของ​เขา​ยัง​ยาก​จะเข้าใกล้​เช่นกัน​

แต่​พลัง​ผนึก​นั่น​กลับ​ให้​ความรู้สึก​ที่​คุ้นเคย​ยิ่งยวด​กับ​หลิน​สวิน​ เขา​เกิด​ความคิด​หนึ่ง​ พลัน​โคจร​พลัง​ของ​วิชา​อริยะ​ยุทธ์​ไป​ทาง​เบาะ​รอง​นั่ง​

ฮูม…

เบาะ​รอง​นั่ง​เปล่งแสง​ขึ้น​มาโดยพลัน​ ปลดปล่อย​ละออง​แสงมหา​มรรค​ที่​งดงาม​ออกมา​

ขณะเดียวกัน​ใน​ใจหลิน​สวิน​เกิด​ความเข้าใจ​ระลอก​แล้ว​ระลอก​เล่า​

ที่แท้​ถ้ำสถิต​ใต้ดิน​นี้​เป็น​เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​เปิด​ด้วยตัวเอง​ ตอนนั้น​ศิษย์​พี่​สี่ห​ลิง​เสวียน​จื่อ​ก็​ถูก​กำราบ​อยู่​ที่นี่​

อีก​ทั้ง​เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​ยัง​ทิ้ง​ประทับ​เก้า​มรดก​พิทักษ์​สำนัก​คีรี​ดวงกมล​ไว้​ใน​เบาะ​รอง​นั่ง​นี้​ แน่นอน​ว่า​เป็นการ​ทิ้ง​ไว้​ให้​ศิษย์​พี่​สี่

น่าเสียดาย​ ตอนนั้น​ศิษย์​พี่​สี่มีความชิงชัง​ใน​ใจ ไม่เข้าใจ​จุดประสงค์​ที่​เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​กำราบ​เขา​ ตลอดเวลา​ที่​ถูก​กักขัง​อยู่​ที่นี่​ ไม่เคย​ไป​หยั่งรู้​และ​เรียนรู้​นัย​เร้นลับ​ของ​เก้า​มรดก​พิทักษ์​สำนัก​

ได้​รู้​ทั้งหมด​นี้​ หลิน​สวิน​ก็​อด​ทอดถอนใจ​ขึ้น​มาไม่ได้​

ยัง​ดี​ที่​ตอนนี้​ศิษย์​พี่​สี่ได้​ชำระ​จิต​เปลี่ยนความคิด​แล้ว​ ไม่เช่นนั้น​ด้วย​ความสามารถ​ของ​เขา​ หาก​ก่อ​พิบัติ​ทั่วหล้า​ขึ้น​มา ผลลัพธ์​นั้น​ก็​ไม่อยาก​จะคิด​เลย​จริงๆ​

“ท่าน​พ่อ​ ใน​เบาะ​รอง​นั่ง​นี้​มีความลับ​อะไร​ซ่อน​อยู่​กัน​แน่​” หลิน​ฝาน​อด​ถามไม่ได้​

หลิน​สวิน​กล่าว​ “เจ้ารอ​อยู่​ข้างๆ​ ก่อน​”

พูด​จบ​เขา​ก็​เดิน​เข้าไป​ นั่งขัดสมาธิ​บน​เบาะ​รอง​นั่ง​แล้ว​หยั่งรู้​คร่าวๆ​ มรดก​พิทักษ์​สำนัก​ทั้ง​เก้า​ที่​ประทับ​อยู่​ใน​เบาะ​รอง​นั่ง​ก็​ผุด​ขึ้น​ใน​ใจ

เมื่อก่อน​หลิน​สวิน​เคย​ได้ยิน​พวก​ศิษย์​พี่​พูดถึง​มรดก​เหล่านี้​แล้ว​ แต่​นอกจาก​วิชา​อริยะ​ยุทธ์​ หลิน​สวิน​ไม่รู้จัก​นัย​เร้นลับ​ของ​มรดก​อื่นๆ​

แต่​ตอนนี้​มรดก​เหล่านี้​ล้วน​ปรากฏ​ออกมา​

แบ่ง​เป็น​ : ‘วิชา​อริยะ​ยุทธ์​’ ‘คัมภีร์​ก่อเกิด​ใจ’ ‘ดวงกมล​กลาย​คุก​’ ‘คัมภีร์​ล่องลอย​’ ‘ใกล้​ดุจ​ไร้​ขอบเขต​’ ‘แปร​รู้​ตน​’ ‘ท่อง​อิสระ​’ ‘ผู้​บำเพ็ญ​ไร้พรมแดน​’ ‘คัมภีร์​ล่วงรู้​’

เก้า​มรดก​พิทักษ์​สำนัก​คีรี​ดวงกมล​นี้​ ทุก​มรดก​ล้วน​เป็น​มรดก​ที่​เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​สร้าง​ด้วยตัวเอง​ มีอานุภาพ​ไม่อาจ​คาดเดา​

อย่าง​คัมภีร์​มหา​มรรค​หวง​ถิงของ​ศิษย์​พี่​เก้า​เก่​ออ​วี้ผู​ เป็น​มรดก​ที่​พัฒนา​มาจาก​ ‘แปร​รู้​ตน​’!

มรดก​นี้​เมื่อ​ฝึก​ถึงขีดสุด​ สามารถ​วิวัฒน์​หมื่น​ลักษณ์​ แปลง​ฟ้าแปลง​ดิน​ แปรสภาพ​สรรพสิ่ง​ใน​วัฏจักร​ วิวัฒน์​สรรพ​ชีวิต​บน​โลก​ได้​ เรียก​ได้​ว่า​เป็นยอด​วิชา​

หรือ​อย่าง​คัมภีร์​ล่วงรู้​ ตั้งชื่อ​ตาม​ความหมาย​ ‘ค้นคว้า​ล่วงรู้​’ แยกแยะ​สรรพสิ่ง​ หยั่งรู้​นัย​เร้นลับ​ ‘คัมภีร์​ร้อย​สมุนไพร​ทั่วหล้า​’ ของ​ศิษย์​พี่​ผู่เจิน​ก็​พัฒนา​มาจาก​คัมภีร์​นี้​

จนกระทั่ง​ผ่าน​ไป​นาน​หลิน​สวิน​จึงลืมตา​ขึ้น​ เข้าใจ​นัย​เร้นลับ​เก้า​มรดก​พิทักษ์​สำนัก​ทั้งหมด​แล้ว​

‘แม้เป็น​มรดก​พิทักษ์​สำนัก​ แต่​นัย​เร้นลับ​ใน​นั้น​กลับ​ฝึก​ได้​ถึงก่อน​ระดับ​จักรพรรดิ​เท่านั้น​ อาจารย์​ทำ​เช่นนี้​ เห็นชัด​ว่า​กังวล​ว่า​คัมภีร์​มรรค​ที่​ตน​สร้าง​จะส่งผลกระทบ​ต่อ​มรรคา​ในอนาคต​ของ​ผู้สืบทอด​…’

หลิน​สวิน​รู้ดี​ว่า​หลังจาก​ก้าว​สู่ระดับ​จักรพรรดิ​จะต้อง​เริ่ม​เดิน​ไป​ตาม​มรรคา​ของ​ตน​อย่าง​แท้จริง​ อาจารย์​เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​ทำ​เช่นนี้​ถือเป็น​ความเอาใจใส่​อย่างยิ่ง​

คำ​ว่า​อาจารย์​ชี้แนะ​แนวทาง​ การ​ฝึก​ปราณ​ขึ้นอยู่กับ​ตน​ก็​เป็น​เช่นนี้​

ก่อน​จะถึงระดับ​จักรพรรดิ​ยัง​สามารถ​เรียนรู้​มรดก​สำนัก​ได้​ แต่​ขอ​เพียง​ก้าว​สู่ระดับ​จักรพรรดิ​ ก็​ทำได้​เพียง​พึ่งตนเอง​ใน​การ​แสวงหา​มหา​มรรค​แล้ว​

เพราะ​หาก​คิด​จะไป​ให้​ไกล​ยิ่งกว่า​ระดับ​นี้​ ก็​ต้อง​สร้าง​คัมภีร์​จักรพรรดิ​ที่​เป็น​ของ​ตน​!

อย่างเช่น​ตัว​หลิน​สวิน​เอง​ ตอน​อยู่​ระดับ​จักรพรรดิ​ก็ได้​สร้าง​ ‘คัมภีร์​เตา​หลอม​มหา​มรรค​’ ออกมา​

“ฝาน​เอ๋อร์​ ใน​เบาะ​รอง​นั่ง​นี้​มีเก้า​มรดก​พิทักษ์​สำนัก​ของ​คีรี​ดวงกมล​ เจ้าสามารถ​หยั่งรู้​ได้​ ใช้เป็น​กระจกเงา​และ​เรียนรู้​ก็​พอ​”

หลิน​สวิน​ลุก​จาก​เบาะ​รอง​นั่ง​แล้ว​พูด​ง่ายๆ​

กลับ​เห็น​หลิน​ฝาน​ใคร่ครวญ​ครู่หนึ่ง​ก่อน​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ช่างเถอะ​ ข้า​เอง​ก็​รู้​หลักการ​ของ​การ​อ้างอิง​เรียนรู้​ แต่​หนทาง​จักรพรรดิ​ของ​ข้า​เดิน​มาถึงขีดสุด​แล้ว​ มรดก​ใด​ใต้​หล้า​นี้​ล้วน​ไม่มีประโยชน์​สำหรับ​ข้า​แล้ว​”

หลิน​สวิน​เลิกคิ้ว​ แต่​ก็​ไม่ได้​ฝืน​ กล่าวว่า​ “ใน​เมื่อ​เจ้ามั่นใจ​ใน​มรรคา​ของ​ตน​เช่นนี้​ เช่นนั้น​พวกเรา​พ่อ​ลูก​มาประลอง​กัน​สักหน่อย​เป็น​อย่างไร​”

หลิน​ฝาน​อึ้ง​ไป​ “ท่าน​พ่อ​ นี่​เท่ากับ​ท่าน​รังแก​ข้า​ไม่ใช่หรือ​”

หลิน​สวิน​กล่าว​ “เจ้าวางใจ​เถอะ​ ข้า​จะประลอง​กับ​เจ้าด้วย​พลัง​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​เท่านั้น​”

จิต​ต่อสู้​ของ​หลิน​ฝาน​ถูก​กระตุ้น​ขึ้น​มาเช่นกัน​ เอ่ย​ด้วย​สายตา​ร้อน​เร่า​ “ท่าน​พ่อ​ ได้ยิน​มานาน​แล้ว​ว่า​มหา​มรรค​ของ​ท่าน​เรียก​ได้​ว่า​ไม่เคย​มีมาก่อน​ตั้งแต่​อดีต​ถึงปัจจุบัน​ ข้า​อยาก​เห็น​ยิ่งนัก​”

หลิน​สวิน​เหลือบมอง​เขา​แวบ​หนึ่ง​ ไม่พูดพร่ำทำเพลง​ “ไป​”

ครู่หนึ่ง​หลังจากนั้น​

บน​ห้วง​อากาศ​เหนือ​ซาก​คีรี​ดวงกมล​ สอง​พ่อ​ลูก​ยืน​อยู่​กลางอากาศ​ เผชิญหน้า​กัน​จาก​ไกลๆ​

“ท่าน​พ่อ​ เชิญ!”

หลิน​ฝาน​สูด​หายใจ​ลึก​ครา​หนึ่ง​ ใบหน้า​หล่อเหลา​ปรากฏ​แวว​เย่อหยิ่ง​ พลัง​ขับเคลื่อน​รอบตัว​โคจร​ อานุภาพ​เปลี่ยนไป​ทันใด​ มีกลิ่นอาย​อหังการ​ปาน​ราชัน​ทั่วหล้า​

“มาเถอะ​”

มรรค​วิถี​ของ​หลิน​สวิน​กด​อยู่​ใน​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​ สีหน้า​ราบเรียบ​

“ท่าน​พ่อ​ เช่นนั้น​ข้า​ไม่เกรงใจ​แล้ว​”

ระหว่าง​หัวเราะ​เสียงดัง​ หลิน​ฝาน​ทะลวง​อากาศ​เข้ามา​ ใน​ดวงตา​เต็มไปด้วย​จิต​ต่อสู้​พลุ่งพล่าน​

ด้วย​พลัง​ปราณ​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​ ไม่เห็น​คน​ระดับ​เดียวกัน​ใน​สายตา​นาน​แล้ว​ บน​โลก​นี้​มีคน​ที่​สามารถ​ทำให้​เขา​เกิด​จิต​ต่อสู้​ได้​น้​อยาก​

ทว่า​ยาม​เผชิญ​ก​น้า​กับ​บิดา​อย่าง​หลิน​สวิน​กลับ​แตกต่าง​โดย​สมบูรณ์​

ตั้งแต่​เด็ก​ ใน​ใจเขา​ท่าน​พ่อ​ก็​เป็น​เหมือน​ภูเขาใหญ่​ที่​สูงส่งไม่อาจเอื้อม​ แม้จนถึง​ตอนนี้​ใน​ใจหลิน​ฝาน​ก็​ยัง​ชื่เลื่อมใส​บิดา​ตน​

แต่​เลื่อมใส​ก็​ส่วน​เลื่อมใส​ ใน​ใจหลิน​ฝาน​มีความคิด​หนึ่ง​มาโดยตลอด​ นั่น​ก็​คือ​สักวัน​จะต้อง​ไล่ตาม​ฝีเท้า​บิดา​ให้​ทัน​ เทียบเคียง​เขา​บน​มหา​มรรค​ จนกระทั่ง​เหนือกว่า​!

อย่างเช่น​ตอนนี้​ หลิน​ฝาน​มั่นใจ​ว่า​ใน​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​ แม้ไม่อาจ​เอาชนะ​บิดา​ได้​ แต่​ก็​สามารถ​ยืนหยัด​ไม่ให้​พ่ายแพ้​ได้​!

ทว่า​…

ความจริง​ล้วน​โหดร้าย​

เพียง​ครู่เดียว​หลิน​ฝาน​ก็​ถูก​หมัด​เดียว​โจมตี​ เงาร่าง​โซเซ สีหน้า​ผิดคาด​

ครั้น​หัน​มองดู​หลิน​สวิน​ที่อยู่​ไกลๆ​ ท่าทาง​ราบเรียบ​ผ่อนคลาย​

“จะต่อ​หรือไม่​” หลิน​สวิน​ถาม

ความนัย​ใน​คำพูด​ราวกับ​กำลัง​บอ​กว่า​ ถึงอย่างไร​เจ้าก็​ยัง​ด้อย​ไป​หน่อย​

“มาอีก​”

สีหน้า​ของ​หลิน​ฝาน​เปลี่ยนเป็น​ราบเรียบ​และ​จริงจัง​ กลิ่นอาย​ทั้งตัว​ปรากฏ​สัญญาณเดือด​พล่าน​ถึงขีดสุด​รางๆ​

ปัง​!

ไม่นาน​หลิน​ฝาน​ถูก​หนึ่ง​ฝ่ามือ​ตบ​ร่วง​จาก​ห้วง​อากาศ​ กระแทก​ลงพื้น​ ใบหน้า​หล่อเหลา​เต็มไปด้วย​ฝุ่น​ ดู​สะบักสะบอม​อยู่​บ้าง​

เขา​ลุกขึ้น​พูด​อย่าง​ยาก​จะเชื่อ​ “นี่​คือ​พลัง​ที่​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​สามารถ​ครอบครอง​ได้​หรือ​”

หลิน​สวิน​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ “จัดการ​เจ้า ข้า​ยัง​ไม่ต้อง​ใช้พลัง​ของ​ระดับ​อมตะ​”

หลิน​ฝาน​มุมปาก​กระตุก​ กัดฟัน​พูด​ “มาอีก​!”

ปัง​!

ปัง​!

ปัง​!

…ใน​เวลา​หลังจากนั้น​หลิน​ฝาน​ถูก​โจมตี​จน​ยับเยิน​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ สะบักสะบอม​ยิ่ง​ทุกครั้ง​ แต่​ไม่ได้​บาดเจ็บ​หนัก​ หลิน​สวิน​ย่อม​ไม่อาจ​เล่นงาน​ลูก​ของ​ตน​จน​บาดเจ็บสาหัส​

ขอ​เพียง​ทำลาย​ความเย่อหยิ่ง​ของ​เจ้าหมอ​นี่​สักหน่อย​ เคี่ยว​กรำ​สภาวะ​จิต​ของ​เขา​ เป้าหมาย​ก็​สำเร็จ​แล้ว​

ครู่ใหญ่​หลิน​ฝาน​เผ้า​ผม​ยุ่งเหยิง​ เปื้อน​ฝุ่น​ไป​ทั้งตัว​ หายใจ​หอบ​หนัก​ ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ด้วย​สีหน้า​อึมครึม​ไม่สามารถ​สงบ​ได้​

“ไม่เอา​แล้ว​หรือ​” หลิน​สวิน​ถาม

หลิน​ฝาน​ยิ้ม​ขื่น​กล่าว​ “ท่าน​พ่อ​ ข้า​ไม่ใช่พวก​คลั่ง​การ​ทารุณ​เสียหน่อย​ รู้​ทั้ง​รู้​ว่า​ทำ​ไม่ได้​ยัง​จะทำ​ นั่น​ก็​โง่เง่าเกินไป​แล้ว​จริงๆ​”

“ฝาน​เอ๋อร์​ พลัง​และ​วิธี​ต่อสู้​ของ​เจ้าแม้มีข้อบกพร่อง​อยู่​บ้าง​ แต่​ผลกระทบ​ไม่มาก​ ว่า​กัน​ถึงที่สุด​ มรรค​วิถี​ของ​เจ้าขาด​การ​เคี่ยว​กรำ​เป็น​ตาย​ที่​แท้จริง​ ขาด​อานุภาพ​ที่​บ่ม​เพาะ​จาก​การ​หลั่งเลือด​…”

หลิน​สวิน​เดิน​เข้าไป​ ยื่น​เหล้า​กา​หนึ่ง​ให้​หลิน​ฝาน​ จากนั้น​ชี้แนะ​อย่าง​ใจเย็น​ “คน​ที่​เห็น​ความ​เป็น​ตาย​จน​ชิน​แล้วจึง​จะรู้​ว่า​ควร​ขุด​ศักยภาพ​แฝงและ​ขีด​กำจัด​ที่​แท้จริง​ของ​ตน​ออกมา​อย่างไร​ นี่​ก็​คือ​ความ​เร้นลับ​ยิ่งยวด​ใน​การ​เคี่ยว​กรำ​ตนเอง​ การ​ชี้แนะ​ของ​คนอื่น​ สู้การ​ไป​เผชิญ​ด้วย​ตนเอง​ไม่ได้​สักนิด​”

เขา​เว้น​ช่วง​ไป​แล้ว​กล่าว​ต่อ​ “พูด​ง่ายๆ​ ก็​คือ​ประโยค​เดียว​”

หลิน​ฝาน​อด​ถามไม่ได้​ “อะไร​หรือ​”

“โดน​เล่นงาน​น้อย​ไป​”

คำพูด​ไม่กี่​คำ​กลับ​เหมือน​กระบี่​คม​ที่​ไม่มีอะไร​ขวางกั้น​ได้​ แทง​ความเย่อหยิ่ง​ใน​ใจหลิน​ฝาน​จน​แหลก​ละเอียด​

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท