ตอนที่ 2998 เจตจำนงของรูปปั้นไท่ชู

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

แดน​ฌาน​

อาณาเขต​ของ​หอ​บรรพ​จารย์​ลัทธิ​ฌาน​ ทั้ง​ถูก​เรียก​ว่า​ ‘แดน​ธรรม​สว่างไสว​’

ตั้งแต่​ ‘ซื่อ​’ บรรพ​จารย์​ผู้ก่อตั้ง​ลัทธิ​ฌาน​เปิด​สำนัก​ที่นี่​ ไม่ว่า​เรื่อง​ทางโลก​เปลี่ยนแปลง​ไป​อย่างไร​ ลัทธิ​ฌาน​ยังอยู่​ใน​สี่หอ​บรรพ​จารย์​ตลอด​ คงอยู่​ชั่วนิรันดร์​

แดน​ลับ​ธรรม​ตะวัน​ สถานที่​ปิด​ด่าน​ของ​พุทธ​ปัจจุบัน​เจีย​หนาน​

หืม?​

เจีย​หนาน​ที่นั่ง​นิ่ง​ไม่ไหวติง​ ปิด​ด่าน​ตลอดมา​ตลอด​หลาย​ปี​นี้​ลืมตา​ขึ้น​เงียบๆ​ หว่าง​คิ้ว​เผย​แวว​จริงจัง​วูบ​หนึ่ง​ ใน​ใจเขา​พลัน​สั่นระรัว​ สังเกตเห็น​กลิ่นอาย​ของ​มหา​เคราะห์​นิรันดร์​!

‘ก่อน​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​มาเยือน​ ทำไม​ยัง​เกิด​จุด​เปลี่ยน​ของ​การ​แจ้งมรรค​นิรันดร์​อีก​’

ยาม​นี้​เจีย​หนาน​อึ้ง​งัน​และ​ยาก​จะเชื่อ​อย่า​งอด​ไม่ได้​

เวลานี้​เสียงแหบ​ชรา​หนึ่ง​พลัน​ดัง​ขึ้น​ “เจีย​หนาน​ รีบ​มายัง​ถ้ำสถิต​ของ​ข้า​”

เจีย​หนาน​ใจสะท้าน​ หยัด​ร่าง​ขึ้น​ทันที​ เงาร่าง​หาย​ไป​กลางอากาศ​โดย​ไร้​สุ้มเสียง​

ใน​ถ้ำสถิต​แห่ง​หนึ่ง​ที่​มีบัว​เทพ​เก้า​สีมากมาย​เบ่งบาน​ ภิกษุ​ชรา​เครา​ขาว​ดุจ​หิมะ​รูป​หนึ่ง​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​บน​เบาะ​รอง​นั่ง​ ร่าง​ผอมบาง​สันหลัง​โก่ง​งอ​

เจีย​หนาน​เพิ่ง​มาถึงที่นี่​ก็​ก้มหัว​คำนับ​ “คารวะ​อาจารย์​ลุง​”

ภิกษุ​ชรา​เครา​ขาว​ดุจ​หิมะ​นี้​คือ​ฟ่าน​อั้น​ผู้อาวุโส​สูงสุด​ของ​ลัทธิ​ฌาน​ใน​ปัจจุบัน​

ศิษย์​เพียง​คนเดียว​ที่​บรรพ​จารย์​ซื่อ​รับ​มา ตั้งแต่​ลัทธิ​ฌาน​เพิ่ง​ก่อตั้ง​ ฟ่าน​อั้น​ก็​ติดตาม​ฝึก​ปราณ​ข้าง​กาย​ซื่อ​แล้ว​

“กลิ่นอาย​ของ​เคราะห์​นิรันดร์​เมื่อ​ครู่​เจ้าน่าจะ​สังเกตเห็น​แล้ว​กระมัง​” ฟ่าน​อั้น​เอ่ยปาก​กล่าว​ เสียงแหบ​ชรา​ต่ำ​ลึก​

เจีย​หนาน​พยักหน้า​ “ขอรับ​”

ฟ่าน​อั้น​ลุกขึ้น​จาก​เบาะ​รอง​นั่ง​ นัยน์ตา​ขุ่นมัว​มอง​เจีย​หนาน​กล่าวว่า​ “ปี​นั้น​ยาม​บรรพ​จารย์​จากไป​ เคย​ทิ้ง​ของ​ไว้​สามอย่าง​ได้แก่​ ‘คทา​มหายาน​สมประสงค์​’ ที่​ควบคุม​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​ของ​พวกเรา​ลัทธิ​ฌาน​ รูปจำลอง​เจตจำนง​ของ​บรรพ​จารย์​ รวมถึง​รูปปั้น​หิน​ที่​สลัก​คำ​ว่า​ ‘ไท่​ชู’ ไว้​สอง​คำ​”

เขา​เว้น​ช่วง​ไป​ก่อน​กล่าว​ต่อ​ “ปี​นั้น​รูปปั้น​ไท่​ชูเผย​เจตจำนง​ ดังนั้น​จึงสั่งจี้คง​ให้​นำ​รูปจำลอง​เจตจำนง​ที่​บรรพ​จารย์​ทิ้ง​ไว้​ ทั้ง​พา​เหล่า​ผู้​แข็งแกร่ง​ของ​สำนัก​ออก​เคลื่อน​พล​ ร่วมมือ​กับ​ลัทธิ​พ่อ​มด​ หมาย​จับตัว​หลิน​สวิน​ผู้สืบทอด​ของ​เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​นั่น​ แต่​สุดท้าย​… กลับ​ล้มเหลว​”

สีหน้า​เจีย​หนาน​เผย​แวว​อึมครึม​

ปี​นั้น​พวกเขา​ลัทธิ​ฌาน​เรียก​ว่า​พ่ายแพ้​อย่าง​สมบูรณ์​ ไม่ใช่แค่​จี้คง​กับ​เหล่า​ขั้น​หลุดพ้น​สัมบูรณ์​ที่​พังพินาศ​ทั้ง​กองทัพ​ แม้แต่​รูปจำลอง​เจตจำนง​ของ​บรรพ​จารย์​ พุทธ​อดีต​เจีย​ซิว​ พุทธ​อนาคต​เจีย​จิ้งก็​หาย​ไป​อย่าง​แปลกประหลาด​!

ฟ่าน​อั้น​กล่าว​เสียงต่ำ​ลึก​ “ตอนนี้​รูปปั้น​ไท่​ชูเผย​เจตจำนง​ที่สอง​ออกมา​แล้ว​”

“อะไร​นะ​!?” เจีย​หนาน​พลัน​ตกตะลึง​ “หรือว่า​… อยาก​ให้​พวกเรา​ไป​จัดการ​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​อีก​รึ​”

นัยน์ตา​ขุ่นมัว​ของ​ฟ่าน​อั้น​เปลี่ยนเป็น​ล้ำลึก​เกิน​คาดเดา​ “ไม่ ไป​จัดการ​หลิน​สวิน​”

หลิน​สวิน​!

เจีย​หนาน​นัยน์ตา​หด​รัด​ ตระหนัก​ได้​ถึงอะไร​บางอย่าง​ “กลิ่นอาย​มหา​เคราะห์​นิรันดร์​ซึ่งปรากฏ​เมื่อ​ครู่​นั้น​ คง​ไม่ใช่หมอ​นี่​ชัก​นำมา​กระมัง​”

ฟ่าน​อั้น​ถอนหายใจ​เบา​ๆ “ไม่ใช่เขา​แล้​วจะ​เป็น​ใคร​ได้​อีก​ แม้แต่​ข้า​ยัง​ตกใจ​ คิดไม่ถึง​ว่า​เขา​ได้​จุด​เปลี่ยน​แจ้งมรรค​เสี้ยว​นั้น​มาอย่างไร​”

เจีย​หนาน​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​กล่าว​ “เจตจำนง​ของ​รูปปั้น​ไท่​ชูบอ​กว่า​อย่างไร​”

“ข้า​แค่​สัมผัส​ได้​ถึงเจตจำนง​ชั้นยอด​สาย​หนึ่ง​ ไม่มีคำพูด​หรือ​อักษร​อย่าง​เป็น​รูปธรรม​”

ฟ่าน​อั้น​กล่าว​เสียง​ขรึม​ “เจตจำนง​นี้​ง่าย​มาก​ หลิน​สวิน​ชักนำ​มหา​เคราะห์​นิรันดร์​มา ทำให้​คน​ผู้​นั้น​สังเกตเห็น​ ออกคำสั่ง​ให้​พวกเรา​ลัทธิ​ฌาน​มุ่งหน้า​ไป​กำจัด​ทันที​”

ฟ่าน​อั้น​เว้น​ช่วง​ไป​ก่อน​กล่าว​ต่อ​ “ทั้ง​การเคลื่อนไหว​ครั้งนี้​ยังมี​ลัทธิ​พ่อ​มด​กับ​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​น่านฟ้า​ที่​เก้า​เข้าร่วม​ด้วย​”

เจีย​หนาน​กล่าว​ “ครั้งนี้​ดูเหมือน​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​การ​ไป​โจมตี​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ครั้งก่อน​”

“ไม่ แตก​ต่างกัน​ ด้วย​ตอนนี้​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ไม่มีระดับ​นิรันดร์​บัญชาการ​แล้ว​ ถ้าเจ้าหลิน​สวิน​นี่​เลือก​ข้าม​ด่าน​เคราะห์​ใน​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ ระเบียบ​ระดับ​เทพ​ของ​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ต้อง​เสีย​อานุภาพ​ทั้งหมด​แน่​”

แววตา​ฟ่าน​อั้น​ลึกลับ​เยียบ​เย็น​ “ทั้ง​ภารกิจ​ครั้งนี้​เจ้ายัง​ไม่ต้อง​ห่วง​ว่า​จะประสบ​เคราะห์​ดับ​สิ้นไร้​ชีพ​ ถึงขั้น​ว่า​… หาก​ทำสำเร็จ​ ภายหน้า​ก็​ไม่ต้อง​ห่วง​ว่า​จะประสบ​เคราะห์​นี้​อีก​”

เจีย​หนาน​ใจสะท้าน​ กล่าวว่า​ “นี่​คือ​สิ่งที่​รูปปั้น​ไท่​ชูนั้น​พูด​เอง​หรือ​”

ฟ่าน​อั้น​กล่าว​ “พูด​เอง​? ไม่ถึงขั้น​นั้น​ แต่​สิ่งที่​แน่ใจ​ได้​คือ​นี่​เป็น​เจตจำนง​ซึ่งมาจาก​คน​ผู้​นั้น​”

เจีย​หนาน​สูด​หายใจ​ลึก​เฮือก​หนึ่ง​กล่าวว่า​ “อาจารย์​ลุง​ คน​ผู้​นั้น​มีความเป็นมา​อย่างไร​กัน​แน่​ เขา​… เป็น​คน​หรือ​เป็น​พลัง​กฎระเบียบ​ที่​ไม่อาจ​จินตนาการ​อย่างหนึ่ง​”

ฟ่าน​อั้น​ส่าย​หัว​ “เรื่อง​นี้​อาจ​มีแค่​บรรพ​จารย์​ที่​พอ​รู้อยู่​บ้าง​”

เจีย​หนาน​ใคร่ครวญ​ครู่หนึ่ง​แล้ว​กล่าว​ “ได้​ เรื่อง​นี้​ข้า​จัดการ​เอง​!”

“เจ้าออกเดินทาง​เสีย​ตอนนี้​ หาก​เร่ง​เดินทาง​เต็มกำลัง​ สามารถ​ไป​ถึงลัทธิ​แรก​กำเนิด​ได้​ใน​สิบ​ชั่ว​ยาม​”

ฟ่าน​อั้น​กล่าว​

เจีย​หนาน​พยักหน้า​แล้ว​หันหลัง​จากไป​

กระทั่ง​มอง​ส่งเงาร่าง​เขา​จากไป​ ฟ่าน​อั้น​นั่ง​บน​เบาะ​รอง​ใหม่​อีกครั้ง​ หยิบ​รูปปั้น​หิน​สีดำ​สนิท​ถ้วน​ทั่ว​ คล้าย​หยก​แต่​ไม่ใช่หยก​ออก​มาจาก​อก​

เห็นชัด​ว่า​รูปปั้น​หิน​คือ​รูปคน​ ร่าง​สูงโปร่ง​แต่​ใบหน้า​เลือนราง​ แยก​ไม่ออ​กว่า​เป็น​ชาย​หรือ​หญิง​

ใต้​รูปปั้น​หิน​สลัก​คำ​ว่า​ ‘ไท่​ชู’ ไว้​สอง​คำ​

ก่อนหน้านี้​เจตจำนง​สาย​นั้น​ก็​แผ่​อบอวล​ออก​มาจาก​คำ​ว่า​ไท่​ชูนี้​

‘ใช่แล้ว​ เจ้า… เป็น​ใคร​กัน​แน่​’ นัยน์ตา​ฟ่าน​อั้น​จ้องมอง​รูปปั้น​หิน​ นิ่งงัน​เหม่อลอย​

ลัทธิ​พ่อ​มด​

ยอดเขา​รัศมี​หมื่น​จั้งพลัน​สั่นสะเทือน​ จากนั้น​ร่าง​ผอมบาง​หนึ่ง​เดิน​ออก​มาจาก​ยอดเขา​ทีละ​ก้าว​

“ขอ​เพียง​ข้า​ไม่เจอภัย​คุกคาม​จาก​เคราะห์​ดับ​สิ้นไร้​ชีพ​ อย่า​ว่าแต่​ฆ่าหลิน​สวิน​ ต่อให้​ไป​เหยียบ​ประตู​ทางเข้า​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ข้า​ก็​ไม่นิ่วหน้า​แม้แต่​นิด​”

ร่าง​ผอมบาง​นี้​กล่าว​เสียง​เยียบ​เย็น​

เมื่อ​มอง​โดยละเอียด​เขา​สวม​ชุด​หนัง​สัตว์​ ผิวหนัง​ที่​เผย​ออกมา​เหมือน​หล่อ​จาก​สำริด​ ใบ​หน้าดำ​ด้าน​ดุจ​แกะสลัก​ ส่วนลึก​ของ​นัยน์ตา​มีลักษณ์​ประหลาด​ชวน​ประหวั่น​สีเลือด​ดุจ​นรก​วาววาม​

ราชครู​ฟ้าถาน​อู่​!

“ตกลง​ตาม​นี้​ ข้า​ไป​ล่ะ​”

ถาน​อู่​พูด​พลาง​ก้าว​เท้า​ออก​ไป​ทันที​ ห้วง​อากาศ​ตรงหน้า​พลัน​แยก​ออก​เป็น​ทาง​น้ำวน​กาลเวลา​ เมื่อ​เขา​ก้าว​เข้าไป​ใน​นั้น​ก็​หาย​ไป​ใน​พริบตา​

เมฆาเคราะห์​แน่นหนา​ราว​หมึก​เขียน​ย้อม​ทุกอย่าง​กลาง​ฟ้าดิน​เป็น​สีดำ​สนิท​ กลิ่นอาย​ด่าน​เคราะห์​ที่​กดดัน​เหมือน​หินหนืด​ไร้​รูป​ คำราม​พลุ่งพล่าน​ใน​ห้วง​อากาศ​ทุก​อณู​

ทุก​ภาพ​นั้น​ทำให้​พวก​เสวียน​เฟยห​ลิง​ที่​สังเกตการณ์​อยู่​ใน​แดน​แรกเริ่ม​อกสั่นขวัญแขวน​ไม่หยุด​

นี่​คือ​มหา​เคราะห์​นิรันดร์​!

แม้แต่​สัตว์ประหลาด​เฒ่าที่อยู่​มาหลาย​แสน​ปี​ยัง​หน้า​เปลี่ยนสี​เมื่อ​กล่าวถึง​ หวาดกลัว​เมื่อ​มองเห็น​

เวลานี้​หลิน​สวิน​ยืน​นิ่ง​กลางอากาศ​เพียงลำพัง​ ชาย​เสื้อ​พลิ้วไหว​ สันโดษ​ปลีก​วิเวก​

ตั้งแต่​กลิ่นอาย​มหา​เคราะห์​นี้​ปรากฏ​จน​ปัจจุบัน​ ถือว่า​ผ่าน​ไป​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​แล้ว​ แต่​ยัง​ไม่มีสัญญาณว่า​จะปะทุ​

มัน​เหมือน​สั่งสมพลัง​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ส่วนลึก​ของ​เวิ้ง​ฟ้าถูก​ด่าน​เคราะห์​สีดำ​ปกคลุม​นาน​แล้ว​

หลิน​สวิน​ไม่ได้​รีบร้อน​ ทั้ง​ไม่หวาดกลัว​เช่นกัน​ สภาวะ​จิต​ว่างเปล่า​ ไม่โศกเศร้า​ยินดี​ ไม่ทุกข์​ไม่ร้อน​

เขา​จ้องมอง​ส่วนลึก​ของ​เวิ้ง​ฟ้า คล้าย​ต้องการ​มอง​ความลับ​ภายใน​นั้น​ให้​ออก​ทั้งหมด​

เวลา​ล่วงเลย​ไป​ทีละน้อย​

ทันใดนั้น​ส่วนลึก​ของ​เมฆาเคราะห์​พลัน​ม้วน​ซัด​ มีแสงเคราะห์​เจิดจ้า​บาดตา​สาย​หนึ่ง​ปรากฏ​กะทันหัน​ แหวก​ผ่าน​เมฆาเคราะห์​แน่นหนา​เหมือน​กระบี่​ยาว​คมกริบ​ สาดส่อง​สรรพสิ่ง​ทั่วหล้า​ที่​ถูก​ความมืด​ปกคลุม​

ตูม​!

ตอนแรก​แสงเคราะห์​สาย​นี้​ไม่สะดุดตา​ แต่​หลัง​พุ่ง​ออก​มาจาก​เมฆาเคราะห์​แน่นหนา​นั้น​กลับ​กลายเป็น​อสนี​เคราะห์​ทั่ว​ฟ้า คล้าย​ฝูงอสรพิษ​เริงระบำ​ มาเยือน​ด้วย​อานุภาพ​ปกคลุม​ฟ้าดิน​

“มาแล้ว​!”

พวก​เสวียน​เฟยห​ลิง​พลัน​หยุด​หายใจ​

‘ในที่สุด​ก็​มาแล้ว​…’

หลิน​สวิน​กลับ​เผย​รอยยิ้ม​ ไม่หลบหลีก​ กระทั่ง​อสนี​เคราะห์​นั้น​พุ่ง​โจมตี​มา บน​ตัว​เขา​พลัน​ปรากฏ​แสงมรรค​นับ​หมื่น​แสน​ วิวัฒน์​เป็น​เตา​หลอม​เปล่งแสง​สว่างไสว​กลางอากาศ​

ตู​ม…

ฟ้าถล่ม​ดิน​ทลาย​ สรรพสิ่ง​จ่อม​จม

อสนี​เคราะห์​โหมกระหน่ำ​จ้าตา​ ความ​น่ากลัว​ของ​พลัง​ที่​แฝงอยู่​ ทำให้​ฟ้าดิน​แถบ​นี้​ราวกับ​ถูก​ทำลาย​ ไม่ดำรงอยู่​อย่าง​สิ้นเชิง​

แต่​เมื่อ​เตา​หลอม​ซึ่งวิวัฒน์​จาก​กฎเกณฑ์​อมตะ​ทั้งตัว​หลิน​สวิน​หมุน​วน​กู่​ก้อง​ อสนี​เคราะห์​ที่​ปกคลุม​ฟ้าดิน​นี้​ล้วน​ถูก​กำราบ​เข้าไป​ใน​เตา​หลอม​ทั้งหมด​

เตา​หลอม​มรรค​สยบ​แสงเคราะห์​!

จากนั้น​พลัง​อสนี​เคราะห์​ราวกับ​จะทำลายล้าง​ถูก​หลอม​สลาย​ เหลือ​เพียง​พลัง​ชีวิต​ยิ่งใหญ่​หนาแน่น​ ถูก​กาย​มรรค​ของ​หลิน​สวิน​ดูดกลืน​จน​เกลี้ยง​ ไม่เหลือ​แม้แต่น้อย​

ทั้งตัว​เขา​ไม่ได้รับบาดเจ็บ​แต่อย่างใด​!

มอง​จาก​ไกลๆ​ เขา​เหมือน​มอง​มหา​เคราะห์​นิรันดร์​เป็น​อาหาร​เลิศ​รส​ กำลัง​หล่อหลอม​กลืน​กิน​มัน​

ภาพ​ชวน​ตระหนก​นั้น​ทำเอา​พวก​เสวียน​เฟยห​ลิง​ตาค้าง​แข็ง​ ต่อให้​ผ่า​สมอง​ออกมา​พวกเขา​ก็​คิดไม่ถึง​ว่า​หลิน​สวิน​ถึงกับ​ใช้วิธี​นี้​ข้าม​ด่าน​เคราะห์​

กลืน​อสนี​เคราะห์​หรือ​

เย้ย​ฟ้าเกินไป​แล้ว​!

‘นี่​ก็​คือ​พลัง​ชีวิต​มหา​มรรค​ที่​แฝงอยู่​ใน​อสนี​เคราะห์​หรือ​…’

หลิน​สวิน​สัมผัส​พลัง​ชีวิต​อสนี​เคราะห์​ที่​สั่งสมอยู่​ใน​ทุก​อณู​บน​ผิวหนัง​ ทั่ว​ร่าง​มีความรู้สึก​อัศจรรย์​ ราวกับ​ดูดกลืน​สิ่งหล่อเลี้ยง​ที่​ทำให้​ร่างกาย​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ถึงขีดสุด​อย่างหนึ่ง​

ตูม​!

ไม่รอ​ให้​เขา​สัมผัส​ขึ้นไป​อีก​ขั้น​ ส่วนลึก​เมฆาเคราะห์​แน่นหนา​มีเสียง​ฟ้าร้อง​ทึบ​หนัก​ดังก้อง​อีกครั้ง​ ปั่นป่วน​เก้า​ชั้น​ฟ้า สะเทือน​ทั่ว​สิบ​ทิศ​

แค่​อานุภาพ​ซึ่งอัด​แน่น​ใน​เสียง​นั้น​ก็​ทำให้​ระดับ​อมตะ​ขวัญหนีดีฝ่อ​

จากนั้น​แสงเคราะห์​หลาก​สาย​แหวก​ผ่าน​เมฆาเคราะห์​ เบียดเสียด​แน่นขนัด​เหมือน​กฎระเบียบ​ตรวน​เทพ​ป่วน​คลั่ง​ เปล่งประกาย​เจิด​จรัส​

แสงเคราะห์​เหล่านี้​งดงาม​จริงๆ​ ตระการตา​ไร้​ขอบเขต​ แต่​น่ากลัว​ถึงขั้น​ไม่อาจ​จินตนาการ​เช่นกัน​ ทันทีที่​ปรากฏ​ก็​กลายเป็น​ทวน​ศึก​เปี่ยม​พลัง​พิพากษา​และ​ปลิด​ชีพ​มากมาย​ แทง​ผ่าน​อากาศ​ไป​ทาง​หลิน​สวิน​

ตึง​!

เตา​หลอม​ซึ่งวิวัฒน์​มาจาก​กฎเกณฑ์​อมตะ​รอบตัว​หลิน​สวิน​ถูก​ทวน​แสงเคราะห์​เล่ม​หนึ่ง​โจมตี​ใส่ เกิด​เสียง​ปะทะ​สะท้าน​ฟ้าสะเทือน​ดิน​ เตา​หลอม​พลัน​สั่น​ไหว​

จากนั้น​ทวน​ศึก​แต่ละ​เล่ม​รวมตัว​พุ่ง​เข้ามา​ พลัง​ทำลายล้าง​นั้น​ซัด​จน​เตา​หลอม​ระเบิด​ออก​ทันที​

พวก​เสวียน​เฟยห​ลิง​ตกใจ​จน​หน้าถอดสี​

เพียงแต่​ครู่​ต่อมา​ก็​เห็น​ว่า​เตา​หลอม​ซึ่งถูก​ทำลาย​นั้น​ทรุดตัว​กลายเป็น​หุบเหว​หนึ่ง​ ลึกล้ำ​ยาก​หยั่งถึง​ ขยายตัว​ไม่รู้​กี่​เท่า​ทันที​ เขมือบ​กลืน​ท้อง​นภา​โดยพลัน​

ตูม​!

แสงเคราะห์​แน่นหนา​ที่​เหมือน​ทวน​พิพากษา​นั้น​ล้วน​ถูก​เหว​ลึก​กลืน​กิน​ท่ามกลาง​เสียง​กัมปนาท​ หาย​ไป​อย่าง​ไร้​ร่องรอย​

หลิน​สวิน​เพียง​ส่งเสียง​อึดอัด​ใน​ลำคอ​ครา​หนึ่ง​ เขา​สูด​หายใจ​ลึก​เฮือก​หนึ่ง​ โคจร​มรรค​วิถี​ของ​ตน​เต็มกำลัง​ พลัง​กฎเกณฑ์​อมตะ​ที่​เปลี่ยนเป็น​เหว​ลึก​นั้น​กู่​ก้อง​ต่อเนื่อง​ หลอม​ทวน​แสงเคราะห์​มากมาย​ที่​ติด​อยู่​ใน​นั้น​…

“เจ้าหมอ​นี่​วิปริต​เกินไป​แล้ว​กระมัง​”

“ตอน​หัวหน้า​หอ​โหย​วเป่ย​ไห่​แจ้งมรรค​ดู​หมดสภาพ​และ​น่าอนาถ​เพียงใด​ แล้ว​มองดู​หลิน​สวิน​สิ… ไม่อาจ​เทียบ​ได้​โดยสิ้นเชิง​…”

“กฎเกณฑ์​อมตะ​ของ​เขา​แข็งแกร่ง​เกินไป​แล้ว​ สั่นคลอน​กฎระเบียบ​ฟ้าดิน​ ทั้ง​กำราบ​พลัง​เคราะห์​นิรันดร์​นั้น​ได้​อย่าง​แข็งกร้าว​!”

พวก​เสวียน​เฟยห​ลิง​เห็นภาพ​ทั้งหมด​นี้​ใน​สายตา​ ทุกคน​ล้วน​สั่นสะท้าน​ไม่หยุด​ สีหน้า​เปลี่ยนเป็น​มึนงง​อยู่​บ้าง​เล็กน้อย​

“นี่​เพิ่ง​เริ่มต้น​ด่าน​เคราะห์​ก็​แข็งแกร่ง​เช่นนี้​ เกรง​ว่า​ต่อจากนี้​คง​น่ากลัว​ขึ้น​เรื่อยๆ​”

ตู๋​กู​ยง​มุ่น​คิ้ว​กล่าว​

เขา​เคย​สังเกตการณ์​ยาม​โหย​วเป่ย​ไห่​แจ้งมรรค​กับ​ตา​ สังเกตเห็น​ชัดเจน​ว่า​อานุภาพ​มหา​เคราะห์​นิรันดร์​ที่​หลิน​สวิน​ข้าม​ เหนือกว่า​มหา​เคราะห์​นิรันดร์​ที่​โหย​วเป่ย​ไห่​เผชิญหน้า​ตอนนั้น​อยู่​มาก​!

ใน​ใจทุกคน​เครียด​ขมึง​อย่า​งอด​ไม่ได้​

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท