บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] – บทที่ 1358 คำสาบานอันหนักหน่วง

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

บทที่ 1358 คำสาบานอันหนักหน่วง

บทที่ 1358 คำสาบานอันหนักหน่วง

ไม่ใช่แค่มหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ แต่หัวใจของสืออวี๋และคนอื่น ๆ ก็เจ็บปวดเช่นกัน และอยากจะยึดผลวิญญาณเต๋าจากเฉินซีเดี๋ยวนี้!

แต่แน่นอนว่ามันไร้ประโยชน์ เพราะผลวิญญาณเต๋าก็ถูกห่อหุ้มด้วยกลิ่นอายของชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลาก และทำให้ไม่สามารถเข้าใกล้ผลวิญญาณเต๋าได้อย่างเต็มที่ จึงทำได้เพียงแค่ยืนดูอยู่เฉย ๆ เช่นนี้

มีผลวิญญาณเต๋าทั้งหมดห้าสิบดวงที่โบยบินผ่านหน้าพวกเขา และอีกยี่สิบดวงก็พุ่งเข้าสู่ร่างกายของเฉินซีในขณะนี้

ถ้ายังดำเนินต่อไปด้วยความเร็วเช่นนี้ อีกไม่นานผลวิญญาณเต๋าทั้งหมดจะถูกดูดซับจนสิ้น หากเป็นเช่นนั้นจริง ทุกคนก็คงหดหู่จนกระอักเลือด!

ในขณะนี้ เฉินซีก็รู้สึกปวดใจเช่นกัน แต่เขาไม่สามารถหยุดมันได้

นั่นคือผลวิญญาณเต๋า!

“เหลือบางส่วนไว้บ้างได้หรือไม่?”

ราวกับว่ามันได้ยินเสียงในหัวใจของเฉินซี หลังจากที่มันดูดซับผลวิญญาณเต๋าไปมากกว่าสามสิบดวง พื้นผิวของชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากก็หลั่งไหลไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์เรืองรอง และเผยกลิ่นอายที่สมบูรณ์ ก่อนที่จะตกลงสู่ความเงียบงันอันล้ำลึก

ยังเหลือผลวิญญาณเต๋าอีกสิบเจ็ดดวง!

เฉินซีเผยรอยยิ้มโล่งใจทันทีที่เห็นสิ่งนี้ “ทั้งหมดนี้เป็นสมบัติล้ำค่าและยิ่งใหญ่ ซึ่งตอนนี้ทั้งหมดเป็นของข้าแล้ว!”

ฟิ่ว!

หลังจากที่ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากหยุดห่อหุ้มด้วยพลังของมัน ผลวิญญาณเต๋าหลายดวงก็ร่วงหล่นลงมาเหมือนหยาดฝน และถูกเฉินซีคว้าไว้ จากนั้นก็เอาไว้ในกล่องพร้อมกับปิดผนึกอย่างระมัดระวัง

โชคดีที่ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากได้สยบผลวิญญาณเต๋าไว้แล้ว มิฉะนั้น การรวบรวมสมบัติศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่เซียนปราชญ์เช่นเฉินซีจะทำได้

หลังจากที่ทำทั้งหมดนี้เสร็จแล้ว เฉินซีก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และเงยหย้าขึ้น ก็พบว่าสืออวี๋และคนอื่น ๆ กำลังจ้องมองมาที่ตนด้วยดวงตาเบิกโพลง ราวกำลังมองดูตัวประหลาด

เฉินซีเข้าใจทุกสิ่งทันทีจากท่าทางของราชันเซียนเหล่านี้ และรู้สึกอึดอัดในใจจนกล่าวสิ่งใดไม่ออก

ทั้งหมดนั้นเกิดจากชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลาก มันไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเลย

น่าเสียดายที่ไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้แก่พวกเขาได้

“น้องเฉินซี ทำได้ดีมาก!” โชคดีที่สืออวี๋และคนอื่น ๆ ไม่ได้ซักไซ้อันใด ทั้งยังยกย่องเฉินซีซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่คาดคิดว่า จะเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงบนยอดของเทวาคารบรรลุเทพ ทั้งยังมีวิญญาณมารโกลาหลและผลวิญญาณเต๋าจำนวนมากซ่อนอยู่ในหมอกโกลาหล…

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อได้เห็นผลวิญญาณเต๋าตกอยู่ในอ้อมแขนของเฉินซีด้วยตาตนเอง

ตอนนี้ทุกอย่างกลับคืนสู่ความปกติ ทั้งยังมีผลวิญญาณเต๋ามากกว่าสิบดวงอยู่ในความครอบครองของเฉินซี พวกเขาก็รู้สึกอิจฉาอย่างยิ่ง และเอ่ยชมไม่ขาดปาก

เพราะพวกเขายังคงหวังว่าเฉินซีจะแบ่งผลวิญญาณเต๋าให้พวกตนบ้าง

สำหรับการแย่งชิงโดยใช้กำลัง ซุนอู๋เหิ่น ต้าวเหยา และผางตู่ก็มีความคิดเช่นนั้นอยู่ในใจ แต่เมื่อมองสืออวี๋ เซียงหลิวหลี และมหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ ก็ล้มเลิกความคิดนี้ทันที

พวกเขารู้ดีว่า แม้เฉินซีจะเป็นเพียงตัวตนในขอบเขตเซียนปราชญ์ แต่ราชันเซียนรัตติกาลที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนหน้านี้ก็เพราะยอมปกป้องอีกฝ่าย!

แม้คนอื่น ๆ จะดูไม่คิดติดใจเอาความ แต่แค่อาศัยความแข็งแกร่งที่สามารถต่อกรกับเนตรทัณฑ์สวรรค์ได้ มันก็เพียงพอที่จะทำให้พวกซุนอู๋เหิ่นหวาดกลัว และสงบเสงี่ยมแล้ว

หากเป็นเซียนปราชญ์ทั่วไป พวกเขาจะไม่ลังเลแม้แต่น้อย

“น้องชายเฉินซี ข้าสงสัยว่าสิ่งเหล่านั้น… ผลวิญญาณเต๋าของเจ้า…” เซียงหลิวหลีเอ่ยถามเสียงเบา ใบหน้ากระจ่างและสวยงามพลันแดงระเรื่ออย่างเขินอาย

อาจถือได้ว่าเป็นเรื่องที่หายากมากสำหรับราชันเซียนจากตำหนักเต๋าหนี่หวาที่เผยท่าทีดังกล่าว

คนอื่น ๆ ก็เผยความปรารถนาอันแรงกล้าผ่านสายตาเช่นกัน พลางมองไปที่กล่องหยกในมือของเฉินซีตาไม่กะพริบ

“แม่นางหลี ไม่ต้องกล่าวแล้ว ข้าไม่เคยคิดที่จะครอบครองผลวิญญาณเต๋าทั้งหมดนี้” เฉินซีรีบกล่าวทันที

ขณะที่กล่าว เขาก็วางกล่องหยกทั้ง 17 กล่องที่บรรจุผลวิญญาณเต๋าไว้ตรงหน้า “ข้าไม่รู้ว่ามหาเต๋าที่พวกเจ้าเข้าใจคือสิ่งใด ดังนั้นโปรดเลือกดูเถิด ”

สืออวี๋และคนอื่น ๆ รู้สึกโล่งใจอย่างมากเมื่อเห็นเฉินซีมอบผลวิญญาณเต๋าให้อย่างง่ายดาย แววตาที่จ้องมองอีกฝ่ายจึงเผยให้เห็นถึงความเป็นมิตรอย่างยิ่ง

“พี่เฉินซี เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจแล้ว” สืออวี๋หัวเราะดังลั่นพร้อมกับก้าวไปข้างหน้าเป็นคนแรก และมองผ่านกล่องหยกเหล่านั้นชั่วครู่ ก่อนที่จะเลือกผลวิญญาณเต๋าที่บรรจุกฎเทพแห่งทองออกมา

“พี่ใหญ่สืออวี๋ เจ้าไม่ได้บ่มเพาะกฎแห่งสายฟ้าหรือ?” เฉินซีถามด้วยความแปลกใจ เพราะตามความเข้าใจก่อนหน้านี้ หากใครเลือกผลวิญญาณเต๋าที่มีกฎเทพไม่ตรงกับมหาเต๋าของตนเอง จะไม่มีทางที่จะกลายเป็นเทพได้

สืออวี๋มีความสุข ดังนั้นเขาจึงไม่คิดปิดบังเฉินซี และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “มีกฎเทพทั้งหมดเก้าประการที่ใช้ในการบรรลุเต๋าและกลายเป็นเทพ ได้แก่ เบญจธาตุ หยิน หยาง วายุ และอัสนีตามลำดับ พวกมันเรียกอีกอย่างว่า เต๋าเทวาทั้งเก้า”

ตามที่สืออวี๋กล่าวไว้ ผลวิญญาณเต๋ามีความลับในการเป็นเทพ และมีกฎเทพอยู่เก้าประการ หากราชันเซียนที่ครอบครองกฎใดกฎหนึ่งเหล่านี้ ราชันเซียนจะต้องเลือกผลวิญญาณเต๋าที่สอดคล้องกับกฎเท่านั้น

ทว่า หากเป็นราชันเซียนที่ครอบครองมหาเต๋าแห่งราชันเซียน ราชันเซียนจะสามารถเลือกผลวิญญาณเต๋าใดก็ได้

เช่นเดียวกับมหาเต๋าแห่งแสง มหาเต๋าแห่งความมืด มหาเต๋าแห่งการลืมเลือน และมหาเต๋าที่หายากอื่น ๆ พวกมันทั้งหมดเหนือกว่ามหาเต๋าแห่งเบญจธาตุ มหาเต๋าแห่งหยิน มหาเต๋าแห่งหยาง และมหาเต๋าอีกมากมาย ดังนั้นการเลือกหนึ่งในผลวิญญาณเต๋าเหล่านี้จะไม่ขัดแย้งกับมหาเต๋าที่หายากโดยธรรมชาติ

หลังจากที่ได้ฟังทั้งหมดแล้ว ในที่สุด เฉินซีก็มีความเข้าใจในการบรรลุเต๋าและกลายเป็นเทพ

แต่ความรู้ทั้งหมดนี้ไม่มีประโยชน์ในตอนนี้ รอจนกว่าเขาจะบรรลุสู่ขอบเขตราชันเซียนและกำลังจะกลายเป็นเทพ ความรู้ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นประโยชน์อีกครั้ง

หลังจากนั้น เซียงหลิวหลี มหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ ซุนอู๋เหิ่น ต้าวเหยาและผางตู่เลือกผลวิญญาณเต๋าทีละคน และขอบคุณเฉินซีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เมื่อมาถึงจุดนี้ เฉินซียังเหลือผลวิญญาณเต๋าอีกสิบเอ็ดดวงในความครอบครอง!

“สหายเต๋า ข้าหวังว่าจะไม่มีใครแพร่งพรายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทุกท่านเห็นด้วยหรือไม่?” ทันใดนั้น สีหน้าของสืออวี๋ก็เคร่งขรึม สายตาราวสายฟ้าอันเย็นเฉียบกวาดผ่านซุนอู๋เหิ่น ต้าวเหยา และผางตู่ อีกทั้งน้ำเสียงยังเต็มไปด้วยความจริงจังและเย็นชา

เฉินซีมีผลวิญญาณเต๋าอยู่ในครอบครองสิบเอ็ดผล นับเป็นความมั่งคั่งก้อนโตที่เพียงพอจะทำให้ราชันเซียนต้องน้ำลายไหลด้วยความโลภ หากข่าวนี้แพร่กระจายไปยังภพเซียน มันจะทำให้เกิดความโกลาหลอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแน่นอน

ในเวลานั้น ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันก็คงไม่อาจเก็บรักษาผลวิญญาณเต๋าได้ด้วยจนเอง ดังนั้น สืออวี๋จึงทำเช่นนี้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคตที่อาจเป็นอันตรายต่อเฉินซี

ซุนอู๋เหิ่นและคนอื่น ๆ ที่เปี่ยมล้นด้วยความตื่นเต้น ใจกระตุกเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ทำให้สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน

“อย่าได้กังวล ต่อหน้าพวกเจ้าในวันนี้ ข้าซุนอู๋เหิ่นขอสาบานต่อมหาเต๋าของข้า หากข้าแพร่งพรายสิ่งใดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ข้าจะต้องทนทุกข์กับความโกรธเกรี้ยวของสวรรค์จากเต๋าแห่งเทพ และจะไม่ได้ตายดีไปชั่วนิรันดร์!” ซุนอู๋เหิ่นหายใจเข้าลึก จากนั้นเขาก็สาบานด้วยสีหน้าเคร่งขรึม!

ต้าวเหยาและผางตู่รู้สึกถึงคลื่นแห่งความสิ้นหวังถาโถมเข้ามา เดิมที พวกเขากำลังคิดที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ได้รับในวันนี้ กับผลประโยชน์บางประการ ทว่า คำเตือนที่คุกคามจากสืออวี๋และคนอื่น ๆ ทำให้พวกเขาละทิ้งความคิดนี้ทันที

ภายใต้สายตาที่เย็นชาและคุกคามของสืออวี๋ เซียงหลิวหลี และมหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสาบานอย่างเชื่อฟัง

เมื่อใดที่ให้คำสาบาน มันจะผูกมัดพวกเขาไว้อย่างไม่อาจคาดเดาได้ ต่อให้กลายเป็นเทพและออกจากทั้งสามภพไปแล้ว พวกเขาก็จะต้องทนทุกข์ทรมานจากความโกรธเกรี้ยวของสวรรค์เมื่อผิดคำสาบาน!

สิ่งสำคัญที่สุดคือคำว่า ‘เต๋าแห่งเทพ’ ในคำสาบานนี้!

เหล่าเทพต่างคว้าเต๋าแห่งเทพ และหากผิดต่อเต๋าแห่งเทพของพวกเขา ก็จะต้องทนทุกข์จากความโกรธเกรี้ยวของสวรรค์

เมื่อเห็นพวกซุนอู๋เหิ่นเอ่ยคำสาบานอันหนักหน่วง สืออวี๋และคนอื่น ๆ ก็เผยท่าทางผ่อนคลาย

เฉินซีรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ทว่าก็ไม่อาจสลัดความกังวลอยู่ในใจออกไปได้ ข้าเป็นศิษย์ของเขาเทพพยากรณ์ ดังนั้นไม่ว่าความสัมพันธ์ของข้ากับสืออวี๋ และคนอื่น ๆ จะดีเพียงใด แต่ถ้าพวกเขาเปิดเผยข้อมูลนี้แก่ญาติและสหายของพวกเขาล่ะ?

ตอนนี้พวกเขาไม่ได้เป็นศัตรูกับข้า แต่จะเป็นอย่างไรหากพวกเขามาหาข้าเพื่อขอผลวิญญาณเต๋า นั่นคงจะลำบากไม่น้อย…

เพราะพวกเขาเป็นถึงศิษย์ของตำหนักเต๋าหนี่หวา และคงมีศิษย์พี่ศิษย์น้องมากมายในนิกาย

หากทั้งนิกายรู้ ปัญหาก็คงจะเกิดอย่างเลี่ยงไม่ได้

“สหายเต๋าสืออวี๋ ในเมื่อพวกข้าได้สาบานแล้ว พวกเจ้าทุกคนก็ควรสาบานเช่นกันไม่ใช่หรือ?” ต้าวเหยาไม่พอใจเล็กน้อยที่ถูกบีบบังคับเช่นนี้ ดังนั้นจึงเอ่ยท้วง

ทันทีที่กล่าวออกไป แม้ท่าทางของเฉินซียังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่ก็ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก และรู้สึกว่าต้าวเหยาเป็นคนที่น่าพอใจกว่าที่คิด

“แน่นอน” สืออวี๋ เซียงหลิวหลี และมหาปราชญ์ย่ำสวรรค์เดาจุดประสงค์ของต้าวเหยาได้ในทันที

พวกเขาเอ่ยคำสาบานอันหนักหน่วงเช่นกัน

เฉินซีรู้สึกสบายใจอย่างยิ่ง

หลังจากนั้น เขาสังเกตเห็นว่าสืออวี๋และเซียงหลิวหลีจ้องมองมาที่ตน สิ่งนี้ทำให้รู้ได้ทันทีว่า สืออวี๋และคนอื่น ๆ คงอ่านความคิดของเขาได้ตั้งแต่ต้น เพียงไม่ได้พูดออกมาเท่านั้น

เฉินซีไม่ได้กล่าวอะไร จากที่ได้คลุกคลีกับพวกเขามาสักพัก เฉินซีตระหนักดีถึงอุปนิสัยของอีกฝ่าย ดังนั้นจึงไม่กังวลว่าพวกเขาจะมีข้อเรียกร้องใด ๆ

ในทางกลับกัน พวกเขาอาจจะต้องปวดหัวเมื่อคิดว่าจะตอบแทนเฉินซีอย่างไร

ตลอดเส้นทางจนมาถึงที่นี่ เฉินซีได้ช่วยเหลือพวกเขาไว้มากมาย ทั้งยังจัดการกับภัยพิบัติมากกว่าหนึ่งครั้ง ตอนนี้ยังมอบผลวิญญาณเต๋าให้อีก ดังนั้นบุญคุณครั้งนี้ย่อมจดจำไว้ในใจอย่างแน่นอน

นี่คือสิ่งที่เฉินซีให้ความสำคัญมากที่สุด

ทันใดนั้น สืออวี๋ก็เอามือไพล่หลังและมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่วุ่นวาย สายตาราวกับสายฟ้าฟาด ในขณะที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวัง “ข้าได้ยินมาว่า ถ้าใครขัดเกลาและดูดซับผลวิญญาณเต๋าที่ยอดของเทวาคารบรรลุเทพ ก็มีโอกาสสูงที่ได้จะเห็นแผนภูมิเทวา ตัวข้าก็อยากจะลองดูสักครั้ง”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ จิตใจของทุกคนรู้สึกสดชื่นทันที แผนภูมิเทวา! นั่นเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่ร่องรอยของทวยเทพประทับอยู่!

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

Status: Ongoing
เกิดมาถูกตราหน้าเป็นตัวซวยประจำเมือง แต่พวกเจ้าทั้งหมดจงเตรียมตัวไว้ ข้าเฉินซีผู้นี้จะทำให้พวกเจ้าก้มหัวศิโรราบภายใต้มหาเต๋ายันต์อักขระที่ข้าสร้าง!รายละเอียด เรื่องย่อ เฉินซี เด็กหนุ่มผู้ได้รับฉายา ‘ตัวซวยสุดขีด’ ประจำเมืองสนหมอก เขาคือผู่ที่ไม่ว่าเดินไปทางใดก็มีแต่ชาวบ้านหลีกทางให้เนื่องจากกลัวติดความโชคร้าย ยามเมื่อกำเนิดลืมตาดูโลกตระกูลเฉินของเขาที่เคยยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งของเมืองสนหมอกถูกสังหารหมู่ตายไปนับพันจนเหลือคนแค่เพียงหยิบมือ จากนั้นไม่นานต่อมาบิดาและมารดาหายสาปสูญ ถัดมาเมื่อเติบโตจนรู้ความ สัญญามั่นหมายถูกฉีกต่อหน้าผู้คนทั้งนคร เหตุใดชีวิตข้าจึงเป็นเช่นนี้? หรือสวรรค์เกลียดชังเคียดข้า? ทว่าใยไม่ลงโทษข้าเพียงผู้เดียวแต่กลับดลบรรดาลให้เกิดหายนะแก่ผู้คนรอบข้างข้าด้วย ไม่ยุติธรรม! ข้าไม่ยินยอม! คอยดูเถิดสวรรค์ ข้าจะบรรลุเต๋ายันต์สาปส่งเจ้า ข้าจะทำลายผู้คนที่ย่ำยีตระกูลข้าให้สิ้น ข้าจะทำให้สรรพสิ่งทั้งสามโลกก้มกราบกรานข้า ประสานเสียงแซ่ซ้องเทิดทูนข้า ‘มหาจักรพรรดิอักขระยันต์’ นี่คือเรื่องราวของเด็กหนุ่มนามเฉินซี ผู้ถูกชะตาชีวิตบังคับให้ไม่อาจบ่มเพราะได้เฉกเช่นผู้คนทั่วไปแต่ต้องศึกษาวิชาเขียนยันต์อักขระ เพื่อขายประทังชีพให้แก่ครอบครัว ทว่าในยามดิ้นรนนั้นมันกลัยทำให้เขารู้แจ้งพื้นฐานในแขนงยันต์ยิ่งกว่าผู้ใดในเมืองซึ่งท้ายที่สุดมันทำให้เขากลับกลายเป็นมหาจักรพรรดิยันต์ผู้อยู่เหนือสามโลกเก้าสวรรค์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท