ตอนที่ 3041 พบรูปปั้นหินอีกครั้ง

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

จี้กุย​เจิน​หน้าตา​คล้าย​ชายหนุ่ม​ แต่​ความจริง​แล้ว​เป็น​เฒ่าดึกดำบรรพ์​ที่​มีชีวิต​มาใน​กาลเวลา​ไร้​สิ้นสุด​

เขา​มาจาก​ยุค​อันดับ​หนึ่ง​ใน​หมู่​ยุค​ก่อน​ใน​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ ซ้ำยังมี​มรรค​วิถี​ขั้น​สรร​สร้าง​ ไป​ที่ใด​ล้วน​ได้รับ​ความเคารพ​จาก​ผู้คน​ มีหรือ​จะเคย​ถูก​ตบหน้า​เช่นนี้​

ครู่หนึ่ง​ความอัปยศ​รุนแรง​ก็​กระตุ้น​ให้​พลังจิต​เขา​ปั่นป่วน​เดือด​พล่าน​

เมื่อ​เห็น​จี้กุย​เจิน​ถูก​ตบ​เช่นนี้​ เกา​หยาง​หลี​และ​เจียง​เจวี๋ย​ก็​เปลี่ยนเป็น​เชื่อ​ฟังขึ้น​ไม่น้อย​

หลิน​สวิน​ก้ม​มองดู​ทั้ง​สามคน​ กล่าวว่า​ “ใคร​จะบอก​ข้า​ว่า​ลูกชาย​และ​ลูกศิษย์​ของ​ข้า​ตอนนี้​อยู่​ที่ไหน​กัน​แน่​”

“แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​”

เกา​หยาง​หลี​คล้าย​รู้​ชัด​ยิ่ง​ว่า​หาก​ขัดขืน​ก็​ไม่อาจ​เลี่ยง​การ​บาดเจ็บ​ทางกาย​ได้​ ดังนั้น​จึงให้ความร่วมมือ​อย่าง​เห็นได้ชัด​ “ถ้าไม่เกิน​ความคาดหมาย​ พวกเขา​น่าจะ​ถูก​พา​ไป​ยุค​ทวยเทพ​แล้ว​ นอกจากนั้น​หาก​ภายใน​สามวัน​พวกเรา​ไม่พา​เจ้าไป​ยุค​ทวยเทพ​ ลูกชาย​กับ​ลูกศิษย์​ของ​เจ้าก็​ต้อง​ถูก​ปลิด​ชีพ​”

นัยน์​ตาดำ​ของ​หลิน​สวิน​ไหว​วูบ​ ถามอีกครั้ง​ “พวก​เจ้าออก​มาจาก​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ได้​อย่างไร​”

คำถาม​นี้​สำคัญ​มาก​

และ​เป็น​จุด​ที่​ทำให้​หลิน​สวิน​เดา​สถานที่​ไม่ออก​เช่นกัน​

เพราะ​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​เป็น​ดั่ง​กรงขัง​ ผู้ฝึก​ปราณ​ใน​อารยธรรม​ยุคสมัย​มากกว่า​ร้อย​ที่​กระจาย​ตัว​อยู่​ใน​นั้น​ไม่มีทาง​หนี​ออกมา​ได้​แม้แต่น้อย​

เกา​หยาง​หลี​ปิดปาก​ทันที​ ราวกับว่า​คำถาม​นี้​เป็นเรื่อง​ต้องห้าม​เกินไป​ ทำให้​เขา​ไม่กล้า​เผยความลับ​ใน​นั้น​

หลิน​สวิน​ใคร่ครวญ​แล้ว​กล่าวว่า​ “ดูท่า​การ​ปรากฏตัว​ของ​พวก​เจ้าก็​มีความเกี่ยวข้อง​กับ​ผู้บงการ​หลัง​ม่าน​ของ​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​เช่นกัน​ ไม่เช่นนั้น​ขั้น​สรร​สร้าง​มีหรือ​จะเสี่ยงชีวิต​มาเยือน​โลก​ยอด​นิรันดร์​ได้​อย่าง​ไม่เกรงกลัว​”

“เจ้า…” เกา​หยาง​หลี​หน้า​เปลี่ยนสี​น้อย​ๆ

หลิน​สวิน​กล่าว​ “ไม่ต้อง​แปลกใจ​ไป​ เรื่อง​เช่นนี้​เดา​ได้​ง่าย​มาก​ ข้า​แค่​ประหลาดใจ​ว่า​ผู้บงการ​หลัง​ม่าน​นั่น​ติดต่อ​กับ​พวก​เจ้าได้​อย่างไร​”

เกา​หยาง​หลี​นิ่งเงียบ​อีกครั้ง​

เจียง​เจวี๋ย​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​กล่าว​ด้วย​ความ​เย็นชา​ “ข้า​รับรอง​ได้​ว่า​เจ้าไม่มีทางได้​คำตอบ​จาก​ปาก​ของ​พวกเรา​แน่นอน​ ไม่เชื่อ​เจ้าก็​ลองดู​”

นาง​สงบนิ่ง​มาก​อย่าง​เห็นได้ชัด​ ท่าทาง​ไม่หวั่น​เป็น​ตาย​

หลิน​สวิน​ยื่นมือ​อก​ไป​คว้า​คอ​ของ​นาง​ จ้อง​ใบหน้า​เย็นชา​งดงาม​นั่น​ของ​นาง​พลาง​กล่าว​ “วางใจ​ ข้า​ไม่ให้​พวก​เจ้าตาย​ง่ายๆ​ เช่นนี้​หรอก​”

ปึง​!

จากนั้น​ร่าง​สูงเพรียว​แบบบาง​ของ​เจียง​เจวี๋ย​ก็​ระเบิด​ออก​ เลือดเนื้อ​ยัง​ไม่ทัน​แตก​เป็น​เสี่ยง​ก็​พลัน​ถูก​ผนึก​ไว้​อย่าง​แน่นหนา​

จากนั้น​ก็​เห็น​พลัง​กฎระเบียบ​ลี้ลับ​เป็น​สาย​ๆ โผล่​ออก​มาจาก​ฝ่ามือ​หลิน​สวิน​ ผนึก​ควบ​รวม​เป็น​เตา​หลอม​มายา​ใบ​หนึ่ง​ทันที​

นี่​เป็น​การควบ​รวม​จาก​ ‘กฎระเบียบ​แปร​มรรค​’ ‘กฎระเบียบ​แปร​ร่าง​’ ‘กฎระเบียบ​แปร​โลหิต​’ ใน​ห้า​ระเบียบ​แหล่งน้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​

ภายใต้​สายตา​ที่​มอง​อย่าง​ตกตะลึง​ของ​พลังจิต​เจียง​เจวี๋ย​ เลือดเนื้อ​ของ​นาง​ก็​ถูก​หลอม​ไป​ทั้งหมด​ภายใน​ ‘เตา​หลอม​’ นั่น​

จน​สุดท้าย​กลายเป็น​ศิลา​โลหิต​นิรันดร์​ที่​แดงฉาน​พร่างพราว​ขนาด​หนึ่ง​กำปั้น​ หิน​มรรค​นิรันดร์​ที่​แผ่​กลิ่นอาย​น่า​ตกใจ​ รวมถึง​พลัง​กฎเกณฑ์​นิรันดร์​กลุ่ม​หนึ่ง​ ล้วน​บริสุทธิ์​หา​ใด​เปรียบ​ มีท่วงทำนอง​ศักดิ์สิทธิ์​ดั้งเดิม​

ภาพ​นี้​ทำเอา​จี้กุย​เจิน​กับ​เกา​หยาง​หลี​สะท้าน​ทั้งที่​ไม่หนาว​ สีหน้า​เปลี่ยนไป​เช่นกัน​

“สำหรับ​ข้า​ แทนที่จะ​ฆ่าพวก​เจ้าไม่สู้เอา​พวก​เจ้ามาหลอม​เป็น​พลัง​มหา​มรรค​เช่นนี้​ นี่​เป็น​สมบัติ​นิรันดร์​ที่​หา​ได้​ยาก​ยิ่ง​เป็น​ที่สุด​”

หลิน​สวิน​กล่าว​เรียบๆ​ “แน่นอน​ว่า​อย่าง​ที่​ข้า​เพิ่ง​พูด​ไป​ จะไม่ให้​พวก​เจ้าตาย​ไป​ง่ายๆ​ เช่นนี้​ เรื่อง​ที่​น่า​ขมขื่น​ที่สุด​ใน​โลก​นี้​ ไม่มีอะไร​มาก​ไป​กว่า​การ​อยู่​ก็​ไม่ได้​ ตาย​ก็​ไม่สามารถ​!”

สีหน้า​ของ​จี้กุย​เจิน​ เกา​หยาง​หลี​และ​เจียง​เจวี๋ย​ล้วน​เปลี่ยน​เป็ฯ​ไม่น่า​มท​อง​อย่าง​ที่สุด​

“เหอะ​ๆ ต่อให้​เป็น​เช่นนี้​เจ้าก็​อย่า​หวัง​ว่า​จะได้​รู้​อะไร​จาก​ปาก​พวก​ข้า​!” พลังจิต​ของ​เจียง​เจวี๋ย​หัวเราะเยาะ​

นาง​ไม่เกรงกลัว​

เพราะ​จิตวิญญาณ​ระดับ​นิรันดร์​มีพลัง​แข็งแกร่ง​ยิ่ง​ บางที​อาจ​ถูก​ฆ่าได้​ แต่​ถ้าคิด​จะค้น​วิญญาณ​นั่น​เป็นเรื่อง​ที่​เป็นไปไม่ได้​สักนิด​

หลิน​สวิน​ย่อม​รู้​จุด​นี้​เช่นกัน​

เพียงแต่​นี่​ก็​ไม่คณา​มือ​เขา​เช่นกัน​

ก็​เห็น​เขา​รวบ​นิ้ว​เป็น​ดาบ​ สำแดง​พลัง​ดาบ​กาลเวลา​ฟัน​ใส่พลังจิต​ของ​เจียง​เจวี๋ย​

ฮูม!

เห็น​ได้​ด้วย​ตาเปล่า​ว่า​เพียง​พริบตา​พลัง​ของ​เจียง​เจวี๋ย​ที่​เดิม​อบอวล​ด้วย​กลิ่นอาย​ระดับ​นิรันดร์​ พลัน​เสื่อมถอย​ลง​อย่าง​รวดเร็ว​ ร่วง​ลง​ไป​ถึงระดับ​อมตะ​ถึงค่อยๆ​ หยุด​ลง​!

ภาพ​น่า​เหลือเชื่อ​นี้​ทำเอา​เจียง​เจวี๋ย​ตะโกน​อย่าง​ขวัญเสีย​ “เจ้าถึงกับ​ตัด​ทอด​ระดับ​มหา​มรรค​ของ​ข้า​!”

สำหรับ​ระดับ​นิรันดร์​ ยัง​จะมีการ​ลงโทษ​อะไร​โหดร้าย​ไป​มากกว่า​นี้​อีก​

จี้กุย​เจิน​และ​เกา​หยาง​หลี​พลัน​สั่นเทิ้ม​ไป​ทั้ง​ร่าง​ทันที​ ราวกับ​ตกลง​ไป​ใน​ถ้ำน้ำแข็ง​ พวกเขา​ดูออก​แล้ว​ว่า​นี่​เป็น​พลัง​ของ​กาลเวลา​ ก่อนหน้านี้​นานมาแล้ว​จักรพรรดิ​เทพ​รัตติกาล​นิรันดร์​ก็​เคย​ครอบครอง​อภินิหาร​ต้องห้าม​เช่นนี้​!

“ไม่ทำ​เช่นนี้​แล้​วจะ​รู้เรื่อง​บางอย่าง​ใน​ความทรงจำ​ของ​จิตวิญญาณ​เจ้าได้​อย่างไร​” ขณะ​หลิน​สวิน​กล่าว​ก็​เริ่ม​ทำการ​ค้น​วิญญาณ​เจียง​เจวี๋ย​

ตูม​!

ความทรงจำ​ที่​คล้าย​กระแสน้ำ​ไหลบ่า​ถูก​หลิน​สวิน​คว้า​จับ​ไว้​ ชาติกำเนิด​ การ​เติบโต​ ประสบการณ์​ฝึก​ปราณ​ที่​เกี่ยวกับ​เจียง​เจวี๋ย…​ ล้วน​ปรากฏ​ออกมา​ทั้งหมด​

แต่​ไม่นาน​หลิน​สวิน​ก็​ขมวดคิ้ว​

เพราะ​ใน​ความทรงจำ​ของ​เจียง​เจวี๋ย​กลับ​ไม่มีเรื่อง​ที่​เขา​อยากรู้​ อย่างเช่น​เรื่อง​ที่​เจียง​เจวี๋ย​ออก​เคลื่อนไหว​ครั้งนี้​เป็น​คำสั่ง​ของ​ขุม​อำนาจ​ใด​

“ข้า​บอก​แล้ว​ว่า​เจ้าจะไม่ได้​อะไร​ไป​สักนิด​!”

พลังจิต​ของ​เจียง​เจวี๋ย​ตวาด​ การ​ที่​ปราณ​ถูก​ตัดทอน​จน​มาอยู่​ระดับ​อมตะ​ทำให้​นาง​รู้สึก​พังทลาย​ สู้ตาย​ไป​ยัง​ดีกว่า​

หลิน​สวิน​กล่าว​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ “ไม่ อย่าง​น้อย​ข้า​ก็​รู้​ว่า​ที่อยู่​ของ​ตระกูล​เจียง​ของ​เจ้าอยู่​ที่ไหน​ รู้​ว่า​ตอนนี้​ตระกูล​เจียง​ของ​พวก​เจ้ามีคนใน​ตระกูล​กี่​คน​ และ​รู้​ความลับ​ที่​เกี่ยวกับ​ตระกูล​เจียง​ของ​พวก​เจ้ามากมาย​ นี่​ก็​เกิน​พอแล้ว​”

“เจ้า… ยัง​กล้า​ไป​ตระกูล​เจียง​หรือ​” เจียง​เจวี๋ย​ยาก​จะเชื่อ​

“แล้ว​ทำไม​จะไม่ได้​”

ขณะ​พูด​หลิน​สวิน​ก็​เก็บ​พลังจิต​ของ​นาง​เข้าไป​เตา​กระบี่​ไร้​ก้นบึ้ง​

สายตา​เขา​มอง​ไป​ยัง​จี้กุย​เจิน​และ​เกา​หยาง​หลี​ “พวก​เจ้าเล่า​ จะให้​ข้า​ลงมือ​หรือ​จะเป็น​ฝ่าย​พูด​ออกมา​เอง​”

“ถ้าข้า​บอก​ไป​ข้า​เอง​ก็​ไม้รู้​ว่า​เจ้าจะเชื่อ​หรือไม่​”

เกา​หยาง​หลี​หน้าซีด​ ฉาบ​ไป​ด้วย​ความขมขื่น​

“แน่นอน​ว่า​ไม่เชื่อ​”

ขณะ​หลิน​สวิน​พูด​ก็​คว้า​ตัว​เขา​ขึ้น​มา เริ่ม​จาก​ทำลาย​ร่างกาย​ของ​เขา​ จากนั้น​ก็​ใช้พลัง​ของ​ดาบ​กาลเวลา​ตวัด​ใส่พลังจิต​ของ​เขา​

ทันใดนั้น​เกา​หยาง​หลี​ก็​พบ​อย่าง​น่า​หวาดหวั่น​ว่า​มรรค​วิถี​ของ​ตน​ร่วง​ลง​ไป​ถึงระดับ​อมตะ​แล้ว​ ทั้งตัว​เขา​รับ​การ​โจมตี​เช่นนี้​ไม่ไหว​ ส่งเสียง​ตะโกน​แทบ​ขาดใจ​ออกมา​ “ไม่! ไม่…!”

ทว่า​หลิน​สวิน​จะเมตตา​ได้​อย่างไร​ เขา​เข้า​ค้น​วิญญาณ​ทันที​

ครู่​ต่อมา​หัว​คิ้ว​เขา​ก็​ขมวด​อีกครั้ง​ เกา​หยาง​หลี​ก็​เหมือนกับ​เจียง​เจวี๋ย​ ไม่รู้​สาเหตุ​แน่ชัด​เหมือนกัน​ เขา​รู้​แค่​ว่าการ​ลงมือ​ครั้งนี้​เกี่ยวข้อง​กับ​ผู้บงการ​หลัง​ม่าน​ของ​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​เท่านั้น​

หลังจาก​กำราบ​พลังจิต​ของ​เกา​หยาง​หลี​ สายตา​หลิน​สวิน​ก็​มอง​ไป​ทาง​จี้กุย​เจิน​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “เจ้าเล่า​ มีอะไร​อยาก​พูด​หรือไม่​”

จี้กุย​เจิน​หน้า​คล้ำ​เขียว​อึมครึม​ยิ่ง​ ตา​เบิกโพลง​ เขา​กัดฟัน​แน่น​ กล่าวว่า​ “หลิน​สวิน​ ทั้งหมด​นี้​เป็น​แค่​การ​เริ่มต้น​เท่านั้น​ ขอ​แค่​เจ้าไม่ตาย​ ญาติมิตร​ของ​เจ้า รวมถึง​คน​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​เจ้าทั้งหมด​ล้วน​ต้อง​ประสบ​เคราะห์​!!”

คล้าย​เป็นการ​ระบาย​ความ​อัดอั้น​ กลิ่นอาย​สาปแช่ง​เคียดแค้น​อัด​แน่น​

หลิน​สวิน​รวบ​นิ้ว​วาด​ครา​หนึ่ง​ พลัง​ของ​ดาบ​กาลเวลา​ก็​ฟัน​ลง​บน​พลังจิต​ของ​จี้กุย​เจิน​ ระดับ​ปราณ​ของ​ฝ่าย​หลัง​ก็​ตก​ลงมา​ใน​คราว​เดียว​

แต่​อย่างไร​เขา​ก็​เป็น​ขั้น​สรร​สร้าง​ เขา​ยัง​รักษา​มรรค​วิถี​ให้​อยู่​ใน​ขั้น​ล่วง​กฎ​ได้​ภายใต้​การ​โจมตี​นี้​

หลิน​สวิน​ไม่พูด​มากความ​ ใช้พลัง​ของ​ดาบ​กาลเวลา​อีกครั้ง​

ไม่นาน​พลังจิต​ของ​จี้กุย​เจิน​ก็​อ่อนแอ​ลง​หา​ใด​เปรียบ​ และ​ร่วง​ลง​ไป​ถึงระดับ​อมตะ​

ใน​ระหว่าง​นี้​เขา​ลอง​พยายาม​ทำลาย​พลังจิต​ของ​ตน​ แต่กลับ​ถูก​หลิน​สวิน​ตรึง​ไว้​แน่น​ จน​ถึงขั้น​ว่า​ใน​ยาม​นี้​ทั้ง​ร่าง​ล้วน​เหมือน​พังทลาย​หมดสิ้น​ สีหน้า​เหม่อลอย​ทื่อ​ทึ่ม​

หลิน​สวิน​ใบหน้า​เรียบ​เฉย​ไร้​คลื่น​อา​ร​มรณ์​ เข้า​ค้น​วิญญาณ​อีกครั้ง​

ครู่หนึ่ง​นัยน์ตา​เขา​พลัน​ทอ​ประกาย​ ใน​ใจทั้ง​ตื่นเต้น​ทั้ง​โกรธแค้น​

ใน​ความทรงจำ​วิญญาณ​ของ​จี้กุย​เจิน​ ทำให้​เขา​ได้​เห็นภาพ​เหตุการณ์​ทั้งหมด​

เช่นว่า​หลิน​ฟาน​กับ​ซูไป๋​ถูก​เฒ่าชรา​นาม​ว่า​ ‘กงเหยีย​หลิ่ว​’ พา​ไป​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​เมื่อวาน​

แต่​ตาม​แผน​ของ​จี้กุย​เจิน​ กง​เหยีย​หลิ่ว​ได้​พา​หลิน​ฟาน​กับ​ซูไป๋​ไป​ขัง​ไว้​ใน​ตระกูล​จี้ซึ่งอยู่​ใน​อาณาเขต​ของ​ยุค​ทวยเทพ​

อีก​ทั้ง​จี้กุย​เจิน​ยัง​นัดแนะ​กับ​กง​เหยีย​หลิ่ว​ ว่า​ถ้าเขา​ เกา​หยาง​หลี​ หรือ​เจียง​เจวี๋ย​คนใดคนหนึ่ง​ประสบ​เคราะห์​ ให้​ฆ่าหลิน​ฟาน​กับ​ซูไป๋​ทันที​

นี่​ทำให้​หลิน​สวิน​ตกใจ​จน​เหงื่อ​ไหลหลั่ง​ออกมา​อย่า​งอด​ไม่ได้​ โชคดี​ที่​ก่อนหน้า​ไม่ได้​ฆ่าสามคน​นี้​ทันที​ ไม่เช่นนั้น​ผล​ลักพธ์​ที่​ตามมา​คง​ไม่อาจ​จินตนาการ​ได้​เป็นแน่​

ขณะเดียวกัน​หลิน​สวิน​ก็ได้​รู้​ในที่สุด​ว่า​พวก​จี้กุย​เจิน​ออก​มาจาก​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ได้​อย่างไร​

ที่แท้​ใน​มือ​จี้กุย​เจิน​ครอบครอง​รูปปั้น​หิน​ที่​สลัก​คำ​ว่า​ ‘ไท่​ชู’ ไว้​รูป​หนึ่ง​ และ​เพราะ​หยิบยืม​พลัง​ของ​มัน​ ทำให้​พวกเขา​ทะลวง​ออก​มาจาก​การ​ปิดผนึก​ของ​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

ส่วน​ก่อน​พวกเขา​จะมาโลก​ยอด​นิรันดร์​ ไม่ว่า​จะเป็น​เกา​หยาง​หลี​ เจียง​เจวี๋ย​ หรือว่า​เฒ่าชรา​นาม​กง​เหยีย​หลิ่ว​ ล้วน​ถูก​จัด​ให้​อยู่​ใน​ศาสตรา​มรรค​นิรันดร์​ชิ้น​หนึ่ง​ที่​จี้กุย​เจินพก​ติดตัว​ และ​ให้​จี้กุย​เจิน​พา​ออกจาก​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​

ดังนั้น​เกา​หยาง​หลี​กับ​เจียง​เจวี๋ย​จึงไม่รู้​ว่า​พวกเขา​ออกมา​ได้​อย่างไร​

รูปปั้น​ไท่​ชู!

ใน​ใจหลิน​สวิน​สั่น​ไหว​ เริ่ม​ค้น​สิ่งของ​บน​ตัว​จี้กุย​เจิน​ทันที​

ไม่นาน​รูปปั้น​หิน​รูป​หนึ่ง​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​ครรลอง​สายตา​หลิน​สวิน​

มัน​สูงเก้า​ชุ่น​ คล้าย​หยก​แต่​ไม่ใช่หยก​ ดำขลับ​ทั้ง​ชิ้น​ เห็นชัด​ว่า​รูปปั้น​เป็น​รูปคน​ รูปร่าง​สูงโปร่ง​ เพียงแต่​ใบหน้า​ไม่ชัดเจน​ แยก​ไม่ออ​กว่า​เป็น​ชาย​หรือ​หญิง​

ส่วน​ที่​ใต้​รูปปั้น​สลัก​อักษร​มหา​มรรค​ที่​ลี้ลับ​หา​ใด​เปรียบ​ไว้​สอง​คำ​… ‘ไท่​ชู’!

ตัวอักษร​นั่น​ประหนึ่ง​ร่องรอย​มหา​มรรค​สูงสุด​ ท่วงทำนอง​ศักดิ์สิทธิ์​ต้องห้าม​อบอวล​ ทำให้​หลิน​สวิน​ที่​มอง​เพียง​ปราด​เดียว​ก็​สัมผัส​ได้​ถึงแรงกดดัน​แปลกประหลาด​ ราวกับว่า​ไป​แตะ​ของ​ที่​งสูงส่งยิ่ง​ชิ้น​หนึ่ง​โดย​ไม่ทัน​ระวัง​ ทำเอา​คน​รู้สึก​ใจสั่น​เป็นพิเศษ​!

เป็นมัน​นี่เอง​!

หลิน​สวิน​สูด​หายใจ​ลึก​เฮือก​หนึ่ง​ ระงับ​ความ​สั่น​ไหว​ใน​ใจ

ยาม​อยู่​แหล่งน้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​ เขา​กับ​ศิษย์​พี่​ห​ลิง​เสวียน​จื่อ​เคย​คุย​กัน​เรื่อง​ ‘รูปปั้น​ไท่​ชู’ ห​ลิง​เสวียน​จื่อ​เคย​ลอบ​เข้าไป​ใน​ลัทธิ​ฌาน​ สืบค้น​ตำรา​ใน​ลัทธิ​ฌาน​และ​รู้เรื่อง​บางอย่าง​ของ​สมบัติ​ลี้ลับ​ชิ้น​นี้​

ตาม​การ​คาดเดา​ของ​ห​ลิง​เสวียน​จื่อ​ ด้วย​ของ​สิ่งนี้​จะทำให้​ติดต่อ​กับ​ผู้บงการ​หลัง​ม่าน​ของ​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​นั่น​ได้​!

และ​ตอนนี้​บน​ตัว​จี้กุย​เจิน​ก็​มีรูปปั้น​ไท่​ชูนี่​รูป​หนึ่ง​ ดังนั้น​การเคลื่อนไหว​ของ​พวกเขา​ใน​ครั้งนี้​ เป็น​เพราะ​ได้รับ​คำสั่ง​จาก​ผู้บงการ​หลัง​ม่าน​นั้น​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​!

หลิน​สวิน​ถึงขั้น​สงสัย​ว่า​ บางที​ผู้บงการ​หลัง​ม่าน​นั่น​อาจจะ​รู้เรื่อง​ที่​ตน​แจ้งมรร​นิรันดร์​สำเร็จ​นาน​แล้ว​ และ​อาจจะ​รู้​แล้ว​ด้วยซ้ำ​ว่า​ไม่ว่า​ลัทธิ​ฌาน​ ลัทธิ​พ่อ​มด​ หรือว่า​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​สิบสอง​ตระกูล​นั่น​ล้วน​หมด​ประโยชน์​แล้ว​

ดังนั้น​ผู้บงการ​หลัง​ม่าน​ที่​ไม่ยอมแพ้​ไป​เช่นนี้​ ถึงได้​เริ่ม​อาศัย​พลัง​ของ​ขุม​อำนาจ​อารยธรรม​ยุคสมัย​ใน​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​มาจัดการ​ตน​!

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท