เสียงคำรามของจี้ป๋อเหวินยังก้องสะท้อน
ร่างต้นของหลินสวินพุ่งโจมตีเข้าไปนานแล้ว ในดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยไอสังหารโหดเหี้ยมเย็นเยียบ
พริบตาจี้ป๋อเหวินที่บ้าคลั่งเดือดดาลราวกับตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง สัมผัสถึงอันตรายแรงกล้า ความรุนแรงของไอสังหารบนร่างหลินสวินแทบจะกลบท่วมจิตใจของเขา…
ก็ตอนนี้เองกลิ่นอายน่าสะพรึงแผ่ลงจากเวิ้งฟ้า ท้องฟ้าสีรัตติกาลถูกแหวกออก
พริบตานั้นอานุภาพกดดันที่ไม่สามารถอธิบายได้ปกคลุมฟ้าดินแถบนี้ ทำเอาห้วงอากาศเงียบสงัด
และสิ่งที่เร็วกว่ากลิ่นอายน่ากลัวนี้ คือประทับฝ่ามือที่ควบรวมกลางอากาศ ราวกับทำจากกระจกแก้วโปร่งแสงใสสะอาด ขวางอยู่เบื้องหน้าจี้ป๋อเหวิน และตบเข้าใส่หลินสวินอย่างรุนแรง
ตูม!
พลังกฎระเบียบพลุ่งพล่านบนประทับฝ่ามือนี้ ราวกับมือแห่งสวรรค์ ความรุนแรงของกลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาเหนือกว่าขั้นล่วงกฎ
เพียงแต่หลินสวินกลับไม่หนี เบื้องหน้าพลันปรากฏปราณกระบี่ไพศาลแปลงเป็นกระบวน เข้าปะทะกับประทับฝ่ามือที่ราวกับกระจกแก้วนั่น
ตูม โครม…
กระบี่และฝ่ามือตัดสลับ พื้นที่แถบนี้พังถล่มโดยพลัน จมสู่กลางกระแสพลังอันบ้าคลั่ง
ก็เห็นประทับฝ่ามือปานกระจกแก้วนั่นระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ส่วนกระบวนค่ายกลกระบี่ของหลินสวินก็สลายไปเช่นกัน
แม้ไม่ได้บาดเจ็บ แต่เงาร่างที่พุ่งไปข้างหน้าของเขาก็ถูกขวางไว้ชั่วขณะหนึ่ง ทำให้จี้ป๋อเหวินรอดชีวิตไปได้ หนีไปไกล
“หลินสวินเจ้าช่างเก่งนัก เพิ่งไม่กี่ปีกลับทะยานจากระดับอมตะขั้นอายุขัยเทียมฟ้ากลายเป็นระดับนิรันดร์ขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์แล้ว!”
เสียงน่าเกรงขามที่แฝงความตกใจดังขึ้น
จากนั้นเงาร่างสูงใหญ่กำยำปรากฏตัวกลางอากาศ สวมชุดขนนก มีสง่าราศี รูปลักษณ์ปานเด็กหนุ่ม มีเพียงดวงตาทั้งคู่ที่เผยกลิ่นอายแห่งกาลเวลาเนิ่นนาน
จี้กุยหลิง!
ขั้นสรรสร้างขั้นต้นคนหนึ่งในตระกูลจี้
ทันทีที่เขาปรากฏตัว จี้ป๋อเหวินก็เหมือนได้ที่พึ่ง ตะโกนว่า “ผู้อาวุโส เจ้าเดรัจฉานนี่ฆ่าพวกฉางอวิ๋น ฉางซานไปแล้ว ขอท่านโปรดลงมือจับตัวมัน!”
“วางใจ เขาหนีไม่พ้นหรอก”
สีหน้าจี้กุยหลิงเองก็เผยไอสังหาร “สิ่งที่ข้าไม่เข้าใจตอนนี้คือ เหตุใดพี่กุยเจินจึงไม่ได้กลับมาจากโลกยอดนิรันดร์”
จี้กุยเจิน เป็นหนึ่งในขั้นสรรสร้างของตระกูลจี้ของพวกเขา เดิมไปจัดการหลินสวินที่โลกยอดนิรันดร์ก่อน แต่ตอนนี้จี้กุยเจินไม่ได้ย้อนกลับมา กลับเป็นหลินสวินที่บุกมา
ที่สำคัญที่สุดคือจี้กุยเจินคือพี่ชายของจี้กุยหลิง!
“เจ้าหมายถึงเขาหรือ”
หลินสวินยกมือขึ้นคว้าพลังจิตอ่อนบางของจี้กุยเจินที่ถูกผนึกออกมา แววเย็นเยียบวาบผ่านดวงตาที่เต็มไปด้วยเลือด
สีหน้าของจี้กุยหลิงและจี้ป๋อเหวินล้วนเปลี่ยนไป ไม่อาจเชื่อว่าจี้กุยเจินซึ่งมีพลังปราณขั้นสรรสร้างขั้นกลางจะถูกหลินสวินจับได้อย่างไร
“ปล่อยพี่ชายข้าซะ! ไม่เช่นนั้นวันนี้เจ้าต้องตายอย่างไม่มีต้องสงสัย!”
จี้กุยหลิงเดือดดาล สีหน้าอึมครึม ตวาดเสียงกร้าว
หลินสวินเก็บพลังจิตของจี้กุยเจินลงไปลวกๆ พูดเสียงเรียบ “พวกเจ้าคิดว่าข้าหลินสวินจะกลัวการข่มขู่เช่นนี้หรือ”
ไอสังหารรอบตัวเขาน่ากลัวกว่าเดิมแล้ว ราวกับมหาสมุทรซัดสาด “แต่พวกเจ้าวางใจ ข้าจะไม่ฆ่าจี้กุยเจินง่ายๆ เช่นนี้ ข้าจะให้พวกเจ้าลิ้มรสเช่นกันว่าอะไรที่เรียกว่ารสชาติของการถูกข่มขู่!”
ขณะพูดฝีเท้าของหลินสวินก้าวไปข้างหน้า
ตูม!
ฟ้าดินสั่นไหว ปราณกระบี่ที่ราวกับธารดาราเก้าสวรรค์พุ่งออกมา พลังกฎระเบียบที่คลุมเครือพันล้อม ทะยานผ่านห้วงอากาศฟันไปทางจี้กุยหลิง
ส่วนกายมรรคไม้เขียวของเขาควบคุมพลังของระเบียบปฐม เข้าโจมตีขนาบพร้อมกับร่างต้น
“นี่เป็นเจ้ารนหาที่ตายเอง!”
จี้กุยหลิงเดือดดาล ยื่นมือไปคว้ากลางอากาศ
ชิ้ง!
ดาบศึกทองอร่ามเล่มหนึ่งที่แปลงมาจากระเบียบระดับเทพพลันปรากฏในมือเขา ฟันออกไปโดยพลัน
ปราณดาบสีทองทั่วฟ้าอึงอล เจือกลิ่นอายเข่นฆ่าน่าตกตะลึง นั่นเป็นพลังของขั้นสรรสร้าง ควบคุมระเบียบระดับเทพเป็นอาวุธ อานุภาพที่ปลดปล่อยออกมาทะลวงเวิ้งฟ้า
ศึกใหญ่ปะทุ
จี้กุยหลิงเดือดดาลมาก ใช้พลังทั้งหมด
แต่หลินสวินเดือดดาลยิ่งกว่าเขา ยามลงมือยิ่งไม่เกรงใจสักนิด!
ตูม โครม!
ฟ้าพลิกดินคว่ำ สุริยันจันทราอับแสง
ยามเล่นงานขั้นสรรสร้างขั้นกลางอย่างจี้กุยเจินในโลกยอดนิรันดร์ หลินสวินใช้เพียงพลังของร่างต้นยังกำราบจนอีกฝ่ายเละไม่เป็นท่า
นับประสาอะไรกับตอนนี้ที่ใช้พลังของร่างต้นและกายมรรคไม้เขียว
ชั่วพริบตาเท่านั้นจี้กุยหลิงก็บาดเจ็บสาหัสจนกระอักเลือด ถูกอานุภาพดุดันไร้ใดเปรียบของหลินสวินกำราบ
จี้ป๋อเหวินเห็นแล้วตาแทบถลนออกมา เย็นวาบไปทั้งร่าง คิดจนหัวแตกก็ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าผู้แข็งแกร่งขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์อย่างหลินสวินจะเย้ยฟ้าถึงขั้นนี้ได้อย่างไร
ข้ามขั้นใหญ่ กดข่มขั้นสรรสร้าง!
ใครจะกล้าเชื่อ
“เดรัจฉานนี่กำเริบเสิบสาน ลงมือพร้อมกันเถอะ”
“ได้”
กลางฟ้าดินเงาร่างสองร่างปรากฏกะทันหัน ร่างหนึ่งหนาแน่นราวกับเหล็ก อีกร่างพร่าเลือนเลื่อนลอย
เสียงยังคงสะท้อนก้อง เงาร่างที่ราวกับเทพสองร่างปรากฏตัวกลางอากาศแล้วโจมตีเข้ามา
คนหนึ่งเป็นเฒ่าชรารูปลักษณ์สง่างามสวมชุดม่วง คาดเข็มขัดหยก ศีรษะสวมเกี้ยวประดับ พลังกฎเกณฑ์ทั่วตัวแปลงเป็นเงามายาโลกสีเงินยวง อานุภาพน่ากลัวล้นฟ้า
จี้เฉาอิน!
ขั้นสรรสร้างขั้นปลาย
เป็นหนึ่งในสี่ผู้แข็งแกร่งขั้นสรรสร้างที่รากฐานพลังแน่นหนาที่สุด พลังต่อสู้น่ากลัวที่สุดของตระกูลจี้
อีกคนคือหญิงงามสวมเสื้อคลุมไหล่สีสันสดใส ใบหน้านิ่งสงบดุจน้ำแข็ง เบื้องหน้ามีปราณกระบี่สีเขียวพันหมื่นสายควบรวมออกมา เขียวมรกตบดบังฟ้าดิน
จี้ไห่เหวิน!
ขั้นสรรสร้างขั้นกลาง เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในบรรดาขั้นสรรสร้างสี่คนของตระกูลจี้
ทันทีที่ทั้งสองปรากฏตัวก็โจมตีเข้ามาทันที คนหนึ่งใช้อภินิหารชั้นเลิศ ควบคุมกฎระเบียบเพลิงปฐพีอสนีวาโย อานุภาพไร้จำกัด อีกคนเจตกระบี่ท่วมฟ้า ประกายเขียวราวกับน้ำตก บ้าคลั่งเสิบสาน ราวกับเทพกระบี่แห่งยุคบนมรรคานิรันดร์
การเข้าร่วมของทั้งสองทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที การจู่โจมของหลินสวินและกายมรรคไม้เขียวถูกขัดขวาง ตกอยู่ในสภาพถูกปิดล้อม
และนอกจากนี้ยิ่งมีเงาร่างผู้แข็งแกร่งขั้นล่วงกฎแปดคนพุ่งออกมา เฝ้าระวังสี่ทิศแปดด้าน ปิดทางหนีในฟ้าดินผืนนี้
ทุกคนล้วนมีอานุภาพที่สามารถปั่นป่วนฟ้าดิน!
ผู้นำตระกูลจี้ป๋อเหวินเห็นเช่นนี้พลันมั่นใจขึ้นมาทันที
ตอนนี้เท่ากับระดับนิรันดร์ทุกคนของตระกูลจี้เคลื่อนไหวทั้งหมด ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น ห่วงไปไยว่าจะฆ่าหลินสวินไม่ได้
“ผู้อาวุโสทุกท่าน ขอเพียงแค่ฆ่าเดรัจฉานนี่ได้ โชคชะตาของตระกูลเราต้องเปลี่ยนไปนับตั้งแต่คืนนี้!” จี้ป๋อเหวินตะโกน เสียงสะเทือนฟ้า
ศึกใหญ่ปะทุขึ้นอย่างสิ้นเชิงแล้ว ประกายเทพและแสงมรรคปานกระแสน้ำแผ่ออกมาอย่างเหิมหาญ สะเทือนจนชั้นเมฆทรุดตัว เวิ้งฟ้าแตกสลาย ทั้งเขาเทพเฟิ่งฉีเต็มไปด้วยเสียงดังกึกก้อง ฟ้าดินสั่นไหว
หากไม่ใช่เพราะเผ่าเทพตระกูลจี้ปกคลุมด้วยระเบียบระดับเทพไม่ใช่แค่ชนิดเดียว เพียงแค่กระแสพลังนั่นก็สามารถชักนำการสะท้อนกลับของกฎระเบียบฟ้าดินของโลกทวยเทพได้แล้ว!
สรรพชีวิตมากมายบนโลกนี้ต้องประสบเคราะห์
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
ขั้นสรรสร้างสามคนอย่างจี้กุยหลิง จี้เฉาอิน จี้ไห่เหวิน แต่ละคนล้วนแข็งแกร่ง ไอสังหารทั่วร่างพุ่งทะลวง ต่างสำแดงอานุภาพที่แข็งแกร่งที่สุดของตนออกมา
หลินสวินเองก็ถูกโจมตีสาหัส รู้สึกถึงแรงกดดันที่ปะทะเข้ามา
แต่เขาไม่ได้ถอย
ความเดือดดาลและความเคียดแค้นเต็มทรวงอกทำให้จิตต่อสู้และไอสังหารของเขาราวกับเดือดพล่าน ทั่วร่างแสงมรรคแผ่พุ่ง บางคราวราวกับเหวกลืนกินสวรรค์ บางคราวราวกับเตาสยบหล้า
“ทะยาน!”
พร้อมกับความคิดที่ขยับไหวของหลินสวิน สามกายมรรคอย่างเพลิงแดง ทองขาว ดินเหลืองก็ทะยานออกมา ร่วมต่อสู้กับร่างต้นและกายมรรคไม้เขียวของหลินสวิน
เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งถูกหลินสวินเรียกออกมาเช่นกัน และในมือของสี่กายมรรคต่างถือศาสตรามรรคพิทักษ์ตระกูลที่อานุภาพไม่อาจคาดเดาชิ้นหนึ่ง
อย่างเช่น ‘ทวนหมื่นเทพประสานแสง’ ยอดสมบัติพิทักษ์ตระกูลของตระกูลไท่เฮ่า ‘เตาหลอมกลียุค’ ของตระกูลเจวี๋ย ‘ประทับหมื่นลักษณ์แรกกำเนิด’ ของตระกูลเหวิน ‘กระบี่แปรนภามรกต’ ของตระกูลหยวนเป็นต้น
ยอดสมบัติพิทักษ์ตระกูลระดับนี้ อานุภาพย่อมเหนือกว่าศาสตรามรรคนิรันดร์ทั่วไป ทุกชิ้นล้วนมีประวัติรุ่งเรืองและผลการที่น่าชื่นชม
หากไม่ใช่เช่นนี้คงไม่ถูกหลินสวินเก็บไว้
และตอนนี้ศาสตรามรรคนิรันดร์เหล่านี้ล้วนถูกนำออกมาใช้!
เพียงแต่แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ทำได้เพียงสู้กับขั้นสรรสร้างสามคนนั้นอย่างพอฟัดพอเหวี่ยง ปะทะอย่างดุเดือด
คิดจะจัดการพวกเขากลับไม่สามารถทำได้ในเวลาอันสั้น
เหตุผลก็อยู่ที่จี้เฉาอิน เขาคือขั้นสรรสร้างขั้นปลาย ความแข็งแกร่งของพลังที่ครอบครองเหนือกว่าจี้ไห่เหวินและจี้กุยหลิง
เพียงแค่รับมือการโจมตีของจี้เฉาอิน ก็ต้องใช้พลังของสองกายมรรคและร่างต้นของหลินสวินแล้ว แค่คิดก็รู้ว่าพลังต่อสู้ของขั้นสรรสร้างขั้นปลายวิปริตเพียงใด
แต่หลินสวินไม่สนใจเรื่องพวกนี้!
เพลิงโทสะและความชิงชังเต็มทรวงอกของเขาต้องการที่ระบาย!
ต่อให้เป็นยามกวาดล้างเผ่าเทพนิรันดร์สิบสองตระกูลในน่านฟ้าที่เก้า หลินสวินยังไม่เดือดดาลเช่นนี้ แค่คิดถึงแววตากังวลว้าวุ่นนั่นของจ้าวจิ่งเซวียน คิดถึงภาพที่หลินฝานและซูไป๋ถูกทรมานอย่างโหดร้าย หัวใจเขาก็สั่นไหวแล้ว
ฆ่า!
หลินสวินในชั่วขณะนี้ไม่ต่างอะไรกับคนบ้าคลั่งจริงๆ ปลดปล่อยถึงขีดสุด สังหารเต็มกำลัง สำแดงและปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ตูม โครม…
ฟ้าดินผืนนี้เหมือนกลายสภาพไปเป็นรกร้างดั่งแดนแรกเริ่ม ถล่มทลายอย่างสิ้นเชิง กระแสมหามรรคของการทำลายล้างม้วนตลบรุนแรง เผยภาพปานวันสิ้นโลก ดูน่าสยดสยอง
“เจ้าหมอนี่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร”
“ทอดสายตามองไปในแต่ละอารยธรรมแห่งยุคสมัยในแหล่งสถานศุภโชค มีระดับนิรันดร์เช่นนี้เสียที่ไหน”
“เป็นไปได้อย่างไร…”
สายตาของจี้ป๋อเหวินและขั้นล่วงกฎคนอื่นๆ แข็งทื่อ เดิมทีพวกเขาคิดว่ามีผู้อาวุโสขั้นสรรสร้างสามคนร่วมมือกัน การจับตัวหลินสวินย่อมเป็นเรื่องเหมือนพลิกฝ่ามือ
แต่ใครจะคิดว่าหลินสวินกลับสู้กับผู้อาวุโสขั้นสรรสร้างสามคนได้อย่างสูสี!
นี่ทำลายความเข้าใจของพวกเขาโดยสมบูรณ์ รู้สึกมึนงงไปหมด พวกเขามีชีวิตอยู่มาไม่รู้นานเท่าไหร่ เป็นครั้งแรกที่เห็นภาพเช่นนี้
ไม่เพียงแค่พวกเขา
พวกจี้เฉาอิน จี้ไห่เหวิน จี้กุยหลิงที่กำลังต่อสู้กับหลินสวิน แต่ละคนต่างเผยสีหน้าประหลาดใจ ในใจไม่สามารถสงบได้
ควรรู้ว่าด้วยอานุภาพของขั้นสรรสร้างอย่างพวกเขา สามารถกำราบสังหารระดับนิรันดร์ขั้นล่วงกฎได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้พออยู่ต่อหน้าหลินสวินกลับไม่ได้ผล!
นี่เหลือเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย
สิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งรับไม่ได้คือ ยิ่งการต่อสู้ดำเนินไป อานุภาพของหลินสวินก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เริ่มทำให้พวกเขารู้สึกกดดันแล้ว!
ภาพนี้หากระดับนิรันดร์คนอื่นๆ ทั่วโลกเห็น ใครจะกล้าเชื่อ
“ชักช้าต่อไปไม่ได้แล้ว ใช้ไพ่ตาย เร็ว!”
สุดท้ายจี้เฉาอินทนไม่ไหว ส่งเสียงตะโกน ไอสังหารในดวงตาพลุ่งพล่านบ้าคลั่ง
พลังต่อสู้ปานเย้ยฟ้าที่ไม่สามารถวัดด้วยหลักการทั่วไปของหลินสวิน ทำให้เขาเองยังรู้สึกถึงการคุกคามอย่างรุนแรง!