ตอนที่ 3078 ผิดคาด
เย่เฟยตู้
ขั้นไร้ขอบเขตเล็กที่เคยข้ามเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพสองครั้ง ผู้ยิ่งใหญ่ที่เหยียบย่างปลายทางแห่งมรรคานิรันดร์ กลับพ่ายแพ้ในหมัดเดียว!
และคนที่เอาชนะเขากลับเป็นคนหนุ่มที่มีพลังปราณเพียงขั้นสรรสร้างสัมบูรณ์เท่านั้น!
ภาพชวนอกสั่นขวัญผวานี้ทำให้ในที่นั้นเกิดเสียงร้องตกใจระลอกหนึ่ง คนใหญ่คนโตตระกูลเย่อย่างพวกเย่เจินฉีล้วนเผยสีหน้าหวาดหวั่น หนังศีรษะชาหนึบ
เป็นไปได้อย่างไร!?
เมื่อหันมองเย่เฟยตู้อีกครา สีหน้าเขาเต็มไปด้วยแววตกใจสงสัย
ระหว่างขั้นสรรสร้างกับขั้นไร้ขอบเขตต่างกันหนึ่งขั้นใหญ่! แต่พลังหมัดของหลินสวินกลับเห็นได้ชัดว่าเย้ยฟ้าและกร้าวแกร่งปานนั้น!
“ตอนนี้เจ้ายังคิดว่าข้าคนแซ่หลินต้องการผู้ช่วยอยู่หรือไม่”
หลินสวินโจมตีเข้ามาพร้อมเสียงเรียบเรื่อยเหยียดหยัน ยามเงาร่างสูงโปร่งเคลื่อนย้าย ดุจดั่งเหวใหญ่บดขยี้ห้วงอากาศจนยุบตัวเป็นรอยแยกมหึมาสายหนึ่ง
อานุภาพของเขาเกรียงไกรเกินไป ทำเอาคนอื่นๆ ในที่นี้สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ปะทะเข้ามา ให้รู้สึกหายใจติดขัด
ส่วนเย่เฟยตู้ซึ่งโดนโมตี เวลานี้ก็รู้สึกผิวหนังเจ็บปวด ไอสังหารไร้ทัดเทียมของหลินสวินตรึงเขาไว้แน่นหนา ทำให้เขารู้สึกถึงความหนาวเย็นกรีดกระดูก
ความรู้สึกนี้ทำให้เย่เฟยตู้ยังไม่กล้าเชื่อ
ขั้นสรรสร้างสัมบูรณ์คนหนึ่ง ถึงกับสามารถทำให้ขั้นไร้ขอบเขตเล็กอย่างเขารู้สึกหนาวสะท้านได้ นี่ทำลายความรู้ความเข้าใจของเขาโดยสิ้นเชิง
ตูม!
หลินสวินหวดหมัดซัดออกมา เย่เฟยตู้มีหรือจะนั่งนิ่งรอความตาย กระโจนตัวไปข้างหน้าเข้าปะทะตรงๆ
ทว่าเพียงพริบตาเงาร่างของเขาก็ถูกซัดสะเทือนอีกครั้ง พลังหมัดน่าสะพรึงนั่นราวภูเขาถล่มคลื่นโหมซัด สะเทือนใส่จนเขาแทบกระอักเลือด
เย่เฟยตู้หน้าเปลี่ยนสีโดยสิ้นเชิง เรียกศาสตรามรรคของตนออกมาโดยไม่ลังเล เข้าต่อสู้เต็มกำลัง
ชิ้ง!
ทวนศึกสีเงินเล่มหนึ่งพาดขวางอากาศ เสมือนสายฟ้าแลบขาวหิมะกรีดแหวกห้วงอากาศ พร้อมกับเสียงคำรามลั่นของเย่เฟยตู้ ทวนศึกพาดขวาง ซัดละอองแสงระเบียบมหามรรคพร่างฟ้าออกมา
กลับเห็นหลินสวินยังคงสู้ด้วยมือเปล่า พลังโจมตียิ่งกร้าวแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
การต่อสู้ครั้งใหญ่ปะทุขึ้น
ภายในไม่กี่ลมหายใจทั้งคู่ประมือกันนับร้อยครั้ง หมัดและทวนศึกปะทะกัน บังเกิดเสียงกึกก้องที่สะเทือนจนหูแทบดับ ทั่วทั้งภูเขาเทพประจุม่วงล้วนประสบพลังโจมตีรุนแรง หินภูเขาพังถล่ม เศษหินลอยกระเด็น
สิ่งที่ทำให้พวกเย่เจินฉีขนลุกขนพองคือ ในการต้อสู้ดุเดือดเช่นนี้ ขั้นไร้ขอบเขตเล็กอย่างเย่เฟยตู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ผิวหนังทั่วร่างล้วนแตกระแหง โลหิตสดไหลริน สภาพน่าเวทนาสุดจะเปรียบ
แต่เมื่อหันมองดูหลินสวิน กลับแข็งแกร่งดุจนายเหนือหัวสูงสุด ทุกหมัดที่ซัดออกมาล้วนอหังการจนพาให้คนใจสั่น
“รีบเข้าไปพร้อมกันเร็ว!”
มีขั้นสรรสร้างตะโกนเสียงดัง โบกกระบี่ศึกพุ่งเข้าไปในสนามรบด้วย
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
คนอื่นๆ ต่างก็ไม่กล้าชักช้า เข้าล้อมกรอบพร้อมกัน
ตูม!
ห้วงอากาศสั่นสะเทือน แสงมรรคพลุ่งพล่าน
อภินิหาชั้นเลิศทุกแบบแทรกอยู่ในศาสตรามรรคนิรันดร์เหล่านั้น ดุจดั่งธารสวรรค์ไหลร่วงลงมาฉับพลันเข้าสู่โลกมนุษย์ กระแสแสงมรรคไร้เทียมทานนั่นทำให้ภูเขาเทพประจุม่วงพลอยถูกซัดถล่มตามไปด้วย พังพินาศแหลกลาญโดยสิ้นเชิง
และยามเผชิญหน้ากับการล้อมกรอบระดับนี้
หลินสวินเผยรอยยิ้มเย็นออกมา สะบัดแขนเสื้อดังพรึ่บ
“ทะยาน!”
เสียงดังอึงอล เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งโผล่พาดขวางอากาศ ละอองแสงมหาศาลขมุกขมัวไหลหลั่ง ความเกรียงไกรของอานุภาพที่มันปลดปล่อยออกมาบดขยี้การโจมตีจากสี่ทิศแปดทางให้แหลกลาญทั้งอย่างนั้น ในการปะทะครั้งนี้มีศาสตรามรรคนิรันดร์ไม่น้อยล้วนถูกกระแทกแตกหัก ครวญคร่ำไม่หยุด
ที่ตามมาติดๆ คือกระบี่มรรคเก่าแก่เรียบง่ายเล่มหนึ่งพุ่งโฉบออกมาจากในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง ตวัดกวาดกลางห้วงอากาศ
ปึง! ปึง! ปึง!
ผู้แข็งแกร่งขั้นสรรสร้างคนแล้วคนเล่าถูกเจตกระบี่ไพศาลกำราบราวไก่กระเบื้องสุนัขดินเผา ร่างของแต่ละคนแตกระเบิด โลหิตสดสาดกระเซ็น แม้แต่พลังจิตยังถูกปราณกระบี่แทงทะลวง ผนึกไว้กับพื้นอย่างแน่นหนา
ส่วนผู้แข็งแกร่งขั้นล่วงกฎอย่างเย่เจินฉีก็ถูกสังหารคาที่ ร่างและจิตล้วนดับสลาย
เพียงชั่วอึดใจเท่านั้นในที่นี้ก็เหลือเพียงขั้นไร้ขอบเขตเล็กอย่างเย่เฟยตู้ที่ฝืนยืนหยัดอย่างยากลำบาก ส่วนคนอื่นๆ ในตระกูลเย่ล้วนถูกกำราบเกลื่อนพื้นหมดแล้ว
“บัดซบ!!”
ภาพนองเลือดนี้กระตุ้นจนเย่เฟยตู้เดือดดาล ดวงตาแดงก่ำ พลันยื่นมือออกไปคว้าเต็มแรง
แต่สิ่งที่ทำให้เขาตั้งตัวไม่ทันคือระเบียบระดับเทพสามชั้นที่ปกคุมทั่วฟ้าดินแถบนี้กลับไม่ขยับสักเสี้ยว ไม่อยู่ในการควบคุมของเขาโดนสิ้นเชิง
ตัวแปรที่เกิดปุบปับนี้ทำเอาหัวใจเย่เฟยตู้สั่นสะท้านรุนแรง หรือว่า…
ก็ยามนี้หลินสวินเทินเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งโจมตีเข้ามาแล้ว
เปรี๊ยะ!
ทวนศึกสีเงินหักสะบั้น พลังโจมตีน่าสะพรึงซัดจนเย่เฟยตู้ที่บาดเจ็บสาหัสนานแล้วยืนหยัดไม่ไหวอีกต่อไป ทั้งร่างแตกระเบิด แขนขาขาดกระเด็น
ส่วนพลังจิตของเขาเพิ่งพุ่งออกไปก็ถูกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกำราบ
“หลินสวิน รอยามผู้อาวุโสเย่เจวี๋ยของตระกูลข้ากลับมาก็เป็นวันตายของเจ้า…!”
พลังจิตของเย่เฟยตู้คำรามคลั่ง
น่าเสียดาย เขาถูกกำราบอยู่ในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง เมื่อหลินสวินออกแรง พลังจิตของเขาถูกซัดจนสลบไปทั้งอย่างนั้น
‘ทั้งหมดไม่ถึงครึ่งเค่อ’
หลินสวินลอบระบายลมหายใจในใจ
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ง่ายกว่าที่เขาคาดเอาไว้อยู่บ้าง
หรือกล่าวได้ว่า เขาเองก็คิดไม่ถึงว่ามีเพียงเย่เฟยตู้ที่เป็นขั้นไร้ขอบเขตเล็กเฝ้าภูเขาเทพประจุม่วงแห่งนี้คนเดียว กำลังพลเช่นนี้ยากจะคุกคามหลินสวินได้
หลินสวินส่ายหน้าเบาๆ โบกแขนเสื้อคราหนึ่ง
คนใหญ่คนโตตระกูลเย่ที่ถูกสยบเกลื่อนพื้นเหล่านั้นก็ถูกเก็บขึ้นมา กำราบเข้าเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง
จากนั้นหลินสวินทอดสายตามองรอบบริเวณ
ก่อนจะเข้ามาในภูเขาเทพประจุม่วงแห่งนี้ เขาก็ใช้พลังกฎระเบียบนิพพานกำราบระเบียบระดับเทพสามชั้นที่ปกคลุมที่แห่งนี้ไปโดยไร้ร่องรอยก่อนแล้ว
นี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมเมื่อครู่ตอนเย่เฟยตู้จะใช้ระเบียบระดับเทพจึงไม่สามารถใช้งานได้
วู้ม…
เมื่อหลินสวินยื่นมือกวักคราหนึ่ง ระเบียบระดับเทพสามชั้นที่ปกคลุมทั่วฟ้าดินแถบนี้ล้วนถูกเก็บไป
จากนั้นหลินสวินยืนนิ่งกลางอากาศ รอคอยเงียบๆ
ไม่นานนักเงาร่างของกายมรรคดินเหลืองและกายมรรคเพลิงแดงก็ทะยานมาจากไกลๆ
เมื่อเจตจำนงเชื่อมต่อกัน ทำให้ร่างต้นของหลินสวินได้รู้ว่ากำลังพลของเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหยวนที่ปักหลักบนเขาเทพแปดจักรวาลถูกกำจัดหมดเกลี้ยงแล้ว
รวมแล้วมีขั้นไร้ขอบเขตเล็กหนึ่งคนและขั้นสรรสร้างห้าคนถูกกำราบ แม้แต่ระเบียบระดับเทพสองชั้นที่ปกคลุมบนเขาเทพแปดจักรวาลก็ถูกเก็บมาด้วย
เทียบกันแล้วกำลังพลที่ตระกูลหยวนเหลือไว้บนเขาเทพแปดจักรวาลยังสู้ตระกูลเย่ไม่ได้ด้วยซ้ำ
“เหลือแค่กายมรรคไม้เขียวและทองขาวแล้ว”
หลินสวินเก็บกายมรรคเพลิงแดงกับดินเหลืองแล้วรอคอยต่อไป
แต่เวลาหนึ่งเค่อผ่านไปแล้ว กายมรรคทั้งสองนี้ก็ยังไม่กลับมา
นี่ทำให้ร่างต้นของหลินสวินคิ้วขมวด ไม่กล้ารออีกต่อไป เงาร่างพริบไหวทะยานไปทางภูเขาเทพเมฆยุทธ์ ฐานของเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลเจวี๋ย
ภายใต้สภาพที่เคลื่อนย้ายเต็มกำลัง เพียงหนึ่งเค่อหลินสวินก็มาถึงบริเวณภูเขาเทพเมฆยุทธ์แล้ว
ก็เห็นระเบียบระดับเทพสองชนิดที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงพลิกโหมทั่วเขาลูกนี้ทั้งบนล่าง ปลดปล่อยกลิ่นอายทำลายล้างน่าสะพรึงสุดขีดออกมา เห็นชัดว่ามีการต่อสู้ครั้งใหญ่กำลังปะทุภายในภูเขาลูกนี้
หลินสวินหัวใจหดเกร็ง พุ่งทะยานเข้าไปทันที
สวบ!
พลังระเบียบระดับเทพสองชั้นนั้นไม่อาจขัดขวางหลินสวินได้สักนิด ถูกเขาทะลวงผ่านไปได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังไม่ทำให้เกิดความแตกตื่นใดๆ
ที่นี่มีการต่อสู้ครั้งใหญ่ปะทุขึ้นจริงๆ
ตัวภูเขาซึ่งปกคลุมด้วยแสงเจิดจ้าพังถล่มรุนแรง กลายเป็นเศษซาก
และบนเศษซากนั้น กายมรรคไม้เขียวกับกายมรรคทองขาวกำลังต่อสู้ดุเดือดกับเงาร่างสายหนึ่ง
เมื่อร่างต้นของหลินสวินปรากฏตัว พริบตาก็สัมผัสกับเจตจำนงของกายมรรคทั้งสอง และเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
ผู้ยิ่งใหญ่ตระกูลเจวี๋ยที่กำลังต่อสู้โรมรันกับกายมรรคทั้งสองตอนนี้นามว่าเจวี๋ยอู๋เทียน เป็นผู้ที่เคยข้ามเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพมาแล้วสามครั้ง
แต่พลังต่อสู้ของคนผู้นี้กลับเรียกได้ว่าเย้ยฟ้า แข็งแกร่งยิ่งยวด ไม่ด้อยไปกว่าขั้นไร้ขอบเขตใหญ่อย่างอิงซานอิงด้วยซ้ำ
และเป็นเพราะมีเจวี๋ยอู๋เทียนผู้นี้ดูแล ทำให้การเคลื่อนไหวของสองกายมรรคอย่างไม้เขียวและทองขาวถูกขัดขวาง จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่อาจจัดการอีกฝ่ายได้
เมื่อเข้าใจเรื่องเหล่านี้แล้ว ร่างต้นของหลินสวินยังสั่นไหวไม่ได้ ในใจเสียววาบไม่หยุดเช่นกัน
หลายปีมานี้ผู้แข็งแกร่งขั้นไร้ขอบเขตที่เขาเคยประมือด้วยจริงๆ ก็มีแค่อิงซานอิงคนเดียว ทำให้เขายึดอิงซานอิงเป็นมาตรฐาน ใช้เปรียบเทียบพลังของขั้นไร้ขอบเขตทั้งหมดมาโดยตลอด
แต่เห็นได้ชัดยิ่งว่าเจวี๋ยอู๋เทียนไม่ใช่คนที่สามารถใช้หลักเกณฑ์ทั่วไปมาประเมินได้
อย่างเย่เฟยตู้ที่ถูกหลินสวินกำราบก่อนหน้านี้ก็เป็นขั้นไร้ขอบเขตเล็กเช่นกัน แต่ยามหลินสวินกำราบเขากลับไม่ได้เปลืองแรงเท่าไรนัก
ทว่าเจวี๋ยอู๋เทียนคนนี้กลับสามารถสู้กับกายมรรคทั้งสองของเขาจนถึงตอนนี้ได้ แค่คิดก็รู้ว่ารากฐานมหามรรคของคนผู้นี้น่าสะพรึงปานใด
ตูม โครม!
กลางห้วงอากาศการต่อสู้ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ
เจวี๋ยอู๋เทียนรูปร่างสูงโปร่ง สวมชุดน้ำเงินทั้งตัว หน้าตาราวเด็กหนุ่ม พลังกฎระเบียบเร้นลับไหลหลั่งทั่วร่าง ควบคุมกระบี่เทพแดงเพลิงดุจไฟโหมเล่มหนึ่ง อานุภาพรุนแรงถึงขีดสุด
ทั้งตัวดุจดั่งไฟกองหนึ่ง มีอานุภาพน่าสะพรึงประหนึ่งเผาผลาญทั่วหล้าได้
และในพื้นที่ใกล้เคียงยังมีคนใหญ่คนโตระดับนิรันดร์ของตระกูลเจวี๋ยกลุ่มหนึ่งมองดูการต่อสู้อยู่ ระหว่างที่เตรียมเข้าไปช่วยหนุน
‘ไม่อาจล่าช้าแล้ว’
ร่างต้นของหลินสวินนัยน์ตาวาบประกายเย็น เคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศ พุ่งกระโจนเข้าไปโดยไม่ลังเลใดๆ
เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งพาดขวางอากาศ กำราบเข้าใส่เจวี๋ยอู๋เทียนตรงๆ
เคร้ง!
เจวี๋ยอู๋เทียนตวัดกระบี่เทพเปลวเพลิงต้านการโจมตีครั้งนี้ ทว่าร่างของเขากลับถูกซัดสะเทือนจนซวนเซ สีหน้าก็เปลี่ยนไปน้อยๆ เช่นกัน“ดังคาด นี่จึงจะเป็นร่างต้นของเจ้า!”
เขาดูเหมือนจะคาดเดาไว้แล้ว ไม่ได้ตกใจลนลาน ดูสงบนิ่งมากอย่างเห็นได้ชัด
และพร้อมกันนั้นเขาพลันตะโกนออกมา “ส่งข่าวออกไป ขอกำลังเสริมจากเผ่าเทพตระกูลอื่น เร็วเข้า!”
“สายไปแล้ว”
ร่างต้นของหลินสวินขยับปากเอ่ยเบาๆ
จากนั้นกายมรรคดินเหลืองและเพลิงแดงพุ่งออกไปพร้อมกัน โจมตีใส่คนใหญ่คนโตตระกูลเจวี๋ยที่อยู่ไกลๆ กลุ่มนั้น
ส่วนร่างต้นของเขาและอีกสองกายมรรคก็เคลื่อนไหวโจมตีเจวี๋ยอู๋เทียนเต็มกำลังพร้อมกัน
ตูม โครม!
เพียงชั่วอึดใจเจวี๋ยอู๋เทียนก็ตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ
ก่อนหน้านี้ยามเผชิญหน้ากับสองกายมรรคของหลินสวินเขาก็รู้สึกกดดันสุดขีดแล้ว ตอนนี้เมื่อร่างต้นของหลินสวินใช้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง ไม่ทันไรก็ทำลายสถานการณ์ที่ถ่วงดุลอยู่ให้เปลี่ยนไป
นี่ทำให้เจวี๋ยอู๋เทียนยังลอบร้อนใจขึ้นมา เริ่มสู้สุดชีวิต คิดเพียงอยากยื้อเวลาไว้สักหน่อยเพื่อรอคนมาช่วย หากเป็นเช่นนี้สถานการณ์คับขันตรงหน้าก็จะคลี่คลายลง
ทว่าเพียงพริบตาเท่านั้นหัวใจของเจวี๋ยอู๋เทียนก็จมดิ่ง
ขั้นสรรสร้างห้าคนจากตระกูลเจวี๋ยของพวกเขาถูกกำราบทั้งหมด ต้านไม่ได้โดยสิ้นเชิง!
“สมควรตาย!”
เจวี๋ยอู๋เทียนหน้าเปลี่ยนสีในที่สุด “หลินสวิน เจ้ารู้ผลที่จะตามมาของการทำนี้หรือไม่ รอยามผู้ยิ่งใหญ่ปลายยอดของแต่ละขุมอำนาจของพวกข้ากลับมา ไม่เพียงแค่เจ้า พวกคนบนภูเขาเทพใบบัวเหล่านั้นก็จะประสบเคราะห์เพราะเจ้าด้วย!”
หลินสวินหรี่ตาลงน้อยๆ ไม่ได้ส่งเสียง เร่งรุกโจมตีเร็วกว่าเดิม
และเวลานี้สองกายมรรคอย่างดินเหลืองและเพลิงแดงก็พุ่งเข้ามาแล้ว ร่วมต่อสู้ด้วย ทำให้เจวี๋ยอู๋เทียนที่เดิมก็อยู่ในสภาพคับขันสุ่มเสี่ยงยิ่งยืนหยัดไม่ไหวเข้าไปใหญ่
ปึง!
ไม่กี่ลมหายใจ เจวี๋ยอู๋เทียนที่บาดเจ็บสาหัสก็ถูกโจมตีหนักหน่วง เบื้องหน้าดำมืด สติปรากฏภาพเลือนรางสั้นๆ ก่อนที่ทั้งร่างจะถูกหลินสวินคว้าจับ และจับยัดเข้าไปเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งแรงๆ ราวกับลูกไก่