ชั่วขณะที่ถูกล้อมจื่อเชออู๋จี้ขนลุกซู่ แม้แต่ร่างแยกมหามรรคเหล่านี้ยังแข็งแกร่งขนาดนี้เชียวหรือ
ตูม!
เสียงปะทะจากการต่อสู้ดุเดือดดังก้อง
เพียงพริบตาจื่อเชออู๋จี้ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส บนร่างเลือดสดสาดกระเซ็น ร่างกายแตกหัก นี่ไม่ใช่เหตุเหนือคาดครั้งเดียว แต่เป็นสิ่งที่เกิดจากเหตุเหนือคาดหลายครั้งติดต่อกัน
เขาคิดไม่ถึงว่าหลินสวินจะขวางทางหนีของพวกเขา ทั้งคิดไม่ถึงว่าขั้นสรรสร้างอย่างหลินสวินจะสามารถใช้หมัดเดียวสลายพลังฝ่ามือของเขาได้
ยิ่งคิดไม่ถึงว่าทวนเทพผลาญฉิมพลีของเขาถึงกับถูกเตากระบี่ของหลินสวินขวางไว้ทั้งอย่างนั้น
และตอนที่ยังไม่ทันตอบสนอง ห้ากายมรรคของหลินสวินก็ล้อมโจมตีเข้ามา ทุกร่างล้วนสำแดงพลังต่อสู้ที่เย้ยฟ้าหาใดเปรียบ ถึงขั้นทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสในพริบตา!
แต่ไม่อาจไม่ยอมรับว่าพลังต่อสู้ของจื่อเชออู๋จี้แข็งแกร่งมากจริงๆ
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงตายไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
ทว่าจื่อเชออู๋จี้ที่แม้ข้ามเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพมาเพียงสี่ครั้ง แต่ศักยภาพแท้จริงยังแข็งแกร่งกว่าขั้นไร้ขอบเขตใหญ่อย่างพวกซินอิ้ง เหวินไจ้
ก็เหมือนที่สิงเจี้ยนสยาวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ จื่อเชออู๋จี้ที่ดูเหมือนมรรควิถีอ่อนแอที่สุด กลับเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาศัตรูเหล่านี้รองจากซินหูกับเหลยซ่ง!
“สมควรตาย!”
“เจ้าหมอนี่… ดันเป็นตัวแปรนั่นที่พวกเราคิดไม่ถึง!”
“ขั้นสรรสร้างเท่านั้น พลังต่อสู้ก็เย้ยฟ้าขนาดนี้แล้วหรือ”
และยามสังเกตเห็นภาพนี้ สีหน้าของพวกซินหู เหลยซ่งต่างเปลี่ยนไป
ไม่เพียงแค่จื่อเชออู๋จี้ แม้แต่พวกเขายังรู้สึกตั้งตัวไม่ทัน ยากจะเชื่อได้
อีกทั้งไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึงว่าขั้นสรรสร้างอย่างหลินสวิน จะดันเป็นตัวแปลที่ทำให้เกิด ‘การเปลี่ยนแปลง’ ที่พวกเขาป้องกันและระมัดระวังมาโดยตลอด!
“สหายยุทธ์จื่อเชอมีอันตราย รีบช่วยเขา”
ซินหูตะโกน
พวกเขาล้วนตอบสนองไม่ช้า ชั่วพริบตาที่จื่อเชออู๋จี้ถูกโจมตีบาดเจ็บสาหัสก็ลงมือโดยไม่ลังเล
แต่ก็เป็นตอนนี้เอง…
ตูม!
ฟ้าถล่มดินทลาย พวกสิงเจี้ยนสยา ฟู่หนานหลี เหรินฟู่เทียนโจมตีเข้ามาเต็มกำลัง
สถานการณ์เปลี่ยนแปลงในทันที
หากพวกซินหู เหลยซ่งไปช่วยจื่อเชออู๋จี้ ก็จะถูกพวกสิงเจี้ยนสยาโจมตีจากด้านหลัง ผลลัพธ์นั้นรุนแรงมาก
หากไม่ช่วย จื่อเชออู๋จี้จะเสี่ยงถึงชีวิต!
โอกาสเดียวอยู่ที่ว่าฝั่งพวกซินหูคนเยอะกว่า
‘พวกเจ้าไปจัดการหลินสวิน ข้ากับเหลยซ่งและฃ เย่เจวี๋ยไปจะจัดการพวกเขาสามคน!’
ทันใดนั้นซินหูตัดสินใจทันที สื่อจิตกับคนอื่นๆ
ตูม โครม…
ศึกใหญ่ปะทุขึ้นอย่างสิ้นเชิง
พวกสิงเจี้ยนสยา ฟู่หนานหลี เหรินฟู่เทียนถูกซินหู เหลยซ่งและเย่เจวี๋ยสกัดไว้ในทันที
เพียงแต่ตอนที่ผานอู่ฝูเซิง ชางหลงเยวี่ยโจมตีเข้าใส่หลินสวิน กลับเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้ง…
สวบๆๆ!
พลันเห็นฝั่งหลินสวินมีเงาร่างสามร่างพุ่งออกจากกลางอากาศอีกครั้ง เป็นขั้นไร้ขอบเขตเล็กสามคนอย่างพวกกู่เยวี่ยหมิง เสวี่ยเย่ ซุ่นไหวเจี่ยนั่นเอง
ก่อนหน้านี้พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในเตากระบี่ของหลินสวินมาโดยตลอด ตอนนี้หลังจากทะยานออกมาพร้อมกันก็โจมตีไปยังพวกผานอู่ฝูเซิงที่พุ่งเข้ามาทันที
“ไสหัวไป!”
ผานอู่ฝูเซิงตะโกน กระบี่ปัญจธาตุในมือโบกม่านกระบี่ออกมาชั้นแล้วชั้นเล่า งดงามหลากสีสัน แผ่พุ่งมาพร้อมกับเจตกระบี่ชั้นเลิศปานกระแสน้ำ
“ฆ่า!”
ชางหลงเยวี่ยสีหน้าเย็นชา ลงมือเต็มกำลังเช่นกัน
อันที่จริงกู่เยวี่ยหมิง เสวี่ยเย่ ซุ่นไหวเจี่ยล้วนมีมรรควิถีขั้นไร้ขอบเขตเล็ก แต่รากฐานของทุกคนล้วนเย้ยฟ้าและแข็งแกร่งอย่างที่สุด
จากที่สิงเจี้ยนสยาอธิบาย พลังต่อสู้ของพวกเขาสามคนไม่ด้อยไปกว่าเจวี๋ยอู๋เทียนด้วยซ้ำ ล้วนโดดเด่นยิ่งยวด
ก็เพราะเช่นนี้ ในการต่อสู้ครั้งนี้หลินสวินจึงดึงพวกเขาสามคนมาไว้ข้างกาย
ตูม โครม!
พวกกู่เยวี่ยหมิงลงมือเต็มกำลัง ต่อสู้เข่นฆ่ากับพวกผานอู่ฝูเซิง ชางหลงเยวี่ย ทำให้พวกผานอู่ฝูเซิงถูกสกัดในทันที นี่ทำให้พวกเขาทั้งโกรธทั้งตกใจ
สถานการณ์ตอนนี้บีบคั้นเกินไป หากพวกเขาไม่สามารถไปช่วยได้ทันเวลา จื่อเชออู๋จี้ที่บาดเจ็บสาหัสยังจะมีโอกาสรอดชีวิตได้อย่างไร
“ฆ่า!”
พวกผานอู่ฝูเซิงต่างสู้สุดชีวิต สำแดงไพ่ตายทั้งหมดออกมา
ไม่นานพวกกู่เยวี่ยหมิงก็ต้านไม่ไหว เริ่มได้รับบาดเจ็บ สถานการณ์ก็เปลี่ยนเป็นอันตรายขึ้น
แต่พวกเขาล้วนไม่ถอย แต่ละคนเหี้ยมหาญไร้เทียมทาน กำลังหาโอกาสให้หลินสวิน
“ฆ่า!”
ฝั่งพวกสิงเจี้ยนสยา สถานการณ์การต่อสู้ก็ดุเดือดหาใดเปรียบ
สิ่งที่แตกต่างกันคือ ไม่ว่าจะเป็นสิงเจี้ยนสยา หรือฟู่หนานหลี ล้วนสามารถประชันกับซินหู เหลยซ่งได้อย่างสูสี
และในการต่อสู้กับเย่เจวี๋ย เหรินฟู่เทียนถือว่าได้เปรียบ!
เหรินฟู่เทียนอาจจะแข็งแกร่งสู้สิงเจี้ยนสยาและฟู่หนานหลีไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่คนที่เย่เจวี๋ยจะเทียบได้ ยามลงมือไม่ทันไรก็กดข่มจนเย่เจวี๋ยเงยหน้าไม่ขึ้น ฝีมือห่างกันไกล
เพียงแต่อยากฆ่าเย่เจวี๋ยก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ ในชั่วขณะ
และทั้งหมดนี้ก็หมายความว่า กุญแจสำคัญที่ตัดสินการต่อสู้ครั้งนี้อยู่ที่หลินสวิน!
“ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า…”
ชั่วขณะนี้หลินสวินราวกับสู้สุดชีวิตเช่นกัน ปลดปล่อยมรรควิถีแห่งตนอย่างสิ้นเชิง ร่างต้นและห้ากายมรรคประหนึ่งบ้าคลั่ง ปิดล้อมจื่อเชออู๋จี้ไว้แล้วโจมตีต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ยามสู้กับพวกซินอิ้ง เหวินไจ้ สิงเทียนหยวนในหุบเขา หลินสวินใช้พลังของตนคนเดียวได้โดยไม่เสียเปรียบแล้ว นับประสาอะไรกับการจัดการจื่อเชออู๋จี้คนเดียว
หากไม่ใช่เพราะพลังต่อสู้ของจื่อเชออู๋จี้แข็งแกร่งกว่าพวกซินอิ้ง คงถูกหลินสวินฆ่าไปนานแล้ว
แน่นอนว่าตอนนี้จื่อเชออู๋จี้เองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไร
ตั้งแต่แรกเขาก็โดนเหตุไม่คาดฝันระลอกหนึ่งซัดจนบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ยังถูกหลินสวินโจมตีอย่างบ้าคลั่ง บาดแผลบนร่างก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายแตกหักหนักหน่วง
“สารเลว…! สารเลว…!”
จื่อเชออู๋จี้เผ้าผมยุ่งเหยิง ตวาดเสียงกร้าว สู้สุดชีวิตอย่างแท้จริง ท่าทางเหมือนจะตายไปพร้อมกับหลินสวิน
แต่เขาก็ต้องค่อยๆ สิ้นหวังลง
การโจมตีของหลินสวินแข็งกร้าวอหังการหาใดเปรียบ แต่การป้องกันก็รัดกุมอย่างที่สุดเช่นกัน ทำให้พลังที่เขาสำแดงออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าบ้างถูกสลาย บ้างทลายหายไป ทำร้ายหลินสวินไม่ได้สักนิด
“เป็นไปไม่ได้… นี่เป็นไปไม่ได้… ขั้นสรรสร้างอย่างเขาเหตุใดจึงแข็งแกร่งขนาดนี้…”
ไม่นานจื่อเชออู๋จี้ที่บาดเจ็บหนักขึ้นเรื่อยๆ การรับรู้ก็เริ่มเลือนราง
“ตาย!”
ทันใดนั้นหลินสวินตะโกนคราหนึ่ง ร่างต้นและห้ากายมรรคของเขารวมพลังสำแดงการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา
ปัง!
ร่างกายที่เดิมก็เต็มไปด้วยบาดแผลของจื่อเชออู๋จี้ระเบิดออก ฝนเลือดสาดกระเซ็น พลังจิตของเขายังไม่ทันหนีก็ถูกกระแสพลังน่ากลัวนั่นสังหาร สลายหายไปในห้วงอากาศ
“ตายแล้วหรือ”
ไกลออกไปพวกซินหู เหลยซ่งต่างหัวใจหล่นวูบ
สิ่งที่รับมือยากที่สุดคือยามพวกเขาตัดสินใจจะถอนตัว กลับถูกพวกสิงเจี้ยนสยากัดไม่ปล่อย ไม่ให้โอกาสใดๆ แก่พวกเขา
นี่ทำให้พวกเขาทั้งโกรธทั้งตกใจ
ตูม!
และตอนนี้หลินสวินก็โจมตีมาทางพวกผานอู่ฝูเซิง ชางหลงเยวี่ยแล้ว
ร่างต้นและห้ากายมรรคของเขาล้อมขั้นไร้ขอบเขตใหญ่สองคนนี้โดยตรง
‘ขอบคุณผู้อาวุโสทั้งสามที่ช่วยเหลือ เชิญกลับภูเขาเทพใบบัวไปรักษาแผลก่อน ที่นี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าก็พอ’ ขณะเดียวกันหลินสวินก็รีบสื่อจิต
เขาสังเกตเห็นว่าพวกกู่เยวี่ยหมิง ซุ่นไหวเจี่ย เสวี่ยเย่ต่างบาดเจ็บรุนแรงแล้ว แต่ก่อนหน้านี้พวกเขากลับไม่มีใครถอย นี่เป็นการสร้างโอกาสให้เขาได้สังหารจื่อเชออู๋จี้ แล้วจะไม่ให้หลินสวินซาบซึ้งได้อย่างไร
พวกกู่เยวี่ยหมิงสบตากัน ต่างโล่งอก ปลีกตัวล่าถอย
ตูม โครม…
การต่อสู้ยิ่งน่ากลัว ฟ้าดินล้วนปั่นป่วน เต็มไปด้วยกระแสพลังปานทำลายล้างทุกแห่งหน
เพียงแต่เทียบกับเมื่อครู่นี้ สถานการณ์ตอนนี้แตกต่างโดยสมบูรณ์แล้ว
สิงเจี้ยนสยา ฟู่หนานหลีกักตัวพวกซินหู เหลยซ่งไว้ได้
ฝั่งเหรินฟู่เทียนที่ได้เปรียบมาโดยตลอด โจมตีจนเย่เจวี๋ยสะบักสะบอมไม่เหลือสภาพ เสื้อผ้าถูกเลือดสดย้อมแดง
ส่วนหลินสวิน ผานอู่ฝูเซิงและชางหลงเยวี่ยถูกกดข่ม และเมื่อเวลาล่วงเลยก็เริ่มบาดเจ็บต่อเนื่อง
ก็เป็นตอนนี้เองที่พวกซินหู เหลยซ่งตระหนักได้ในที่สุด ว่าคนร้ายที่สังหารเหล่าคนใหญ่คนโตในแต่ละขุมอำนาจของพวกเขา กวาดล้างฐานที่มั่นของพวกเขาเป็นใคร
เพียงแต่พวกเขาคิดไม่ถึงว่าแม้จะป้องกันและเตรียมพร้อมอยู่ตลอด กลับยังคงถูกตัวแปรอย่างหลินสวินโจมตีจนตั้งตัวไม่ติด
ว่ากันถึงที่สุด ใครจะคิดว่าขั้นสรรสร้างคนหนึ่งจะสามารถครอบครองพลังต่อสู้ระดับนี้ได้
และสถานการณ์ตอนนี้พวกเขาเสียเปรียบมากอย่างไม่ต้องสงสัย
อีกทั้งพวกเขายังไม่สามารถถอนตัวจากไปได้ในทันที…
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
…ในฟ้าดินบริเวณภูเขาเทพใบบัวเต็มไปด้วยเสียงตะโกนก้อง เสียงร้องคำราม เสียงตวาดเดือดดาล ประหนึ่งสายฟ้าเก้าสวรรค์ป่วนโลก ศาสตรามรรคนิรันดร์ที่แต่ละคนครอบครองอานุภาพสะเทือนฟ้าดิน ปลดปล่อยลำแสงไร้จำกัด พุ่งเข้าปะทะจนห้วงอากาศปรากฏภาพล่มสลายดั่งแรกกำเนิด อภินิหารชั้นเลิศมากมายยิ่งม้วนตัวปานพายุคลั่ง ทำเอาบริเวณนั้นเหมือนจมอยู่ในเคราะห์ใหญ่สิ้นโลก
และเมื่อเวลาล่วงเลย
ผานอู่ฝูเซิง ชางหลงเยวี่ยบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
แม้พวกเขาเป็นขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ แต่พลังต่อสู้ที่แต่ละคนครอบครองกลับเพียงเทียบได้กับพวกเหวินไจ้ สิงเทียนหยวนเท่านั้น ด้อยกว่าจื่อเชออู๋จี้อยู่บ้าง ยิ่งไม่อาจเทียกับพวกซินหู เหลยซ่ง
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้จะเป็นคู่ต่อสู้ของหลินสวินได้อย่างไร
“ตาย!”
ไม่นานเมื่อหลินสวินตะโกน กระบี่มรรคปัญจธาตุในมือผานอู่ฝูเซิงถูกซัดกระเด็นออกไปอย่างรุนแรง ส่วนร่างของเขาก็ถูกร่างต้น กายมรรคเพลิงแดง และกายมรรควารีดำของหลินสวินโจมตีพร้อมกัน
พริบตานั้นเลือดสดสาดกระเซ็น กายจิตดับสลาย!
“ตาย!”
แทบจะในเวลาเดียวกัน ชางหลงเยวี่ยที่ถูกสามกายมรรคอย่างไม้เขียว ดินเหลือง ทองขาวของหลินสวินล้อมโจมตีมาโดยตลอด ก็ถูกกระแสพลังทำลายล้างที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรท่วมท้น ร่างกลายเป็นขี้เถ้าสาดพรมจนหมดสิ้นในพริบตา
“เป็นไปได้อย่างไร…”
เหลือเพียงซินหู เหลยซ่ง กับเย่เจวี๋ยที่สั่นไปทั้งตัว ตกใจอย่างสิ้นเชิง
ในเวลาเดียวกันขั้นไร้ขอบเขตใหญ่อย่างผานอู่ฝูเซิง ชางหลงเยวี่ยล้วนถูกเจ้าหนุ่มที่มีเพียงขั้นสรรสร้างอย่างหลินสวินสังหาร จะไม่ให้พวกเขาตกใจได้อย่างไร
เมื่อรวมกับจื่อเชออู๋จี้ก่อนหน้านี้ จนถึงตอนนี้ขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ที่ตายในมือหลินสวินมีสามคนแล้ว!
ทั้งหมดนี้สามารถทำให้ระดับนิรันดร์ทุกคนบนโลกอกสั่นขวัญหนีได้จริงๆ!
“ผู้อาวุโส ข้ามาช่วยท่าน”
และตอนนี้หลินสวินกับห้าร่างแยกของเขาก็พุ่งมาจากไกลๆ แล้ว ปลดปล่อยอานุภาพน่ากลัวท่วมฟ้า
ในดวงตาเขากลับจ้องซินหูอย่างเย็นเยียบ
ตอนนั้นก็เป็นลาเฒ่าหัวโล้นนี่ใช้พลังดรรชนีบดขยี้ร่างกายและพลังจิตของศิษย์พี่ใหญ่เป็นเสี่ยงๆ
มีเพียงการฆ่าเขาจึงจะสามารถระบายความชิงชังในใจหลินสวินได้
ตูม!
เสียงยังคงดังก้อง หลินสวินกับร่างแยกมหามรรคของเขาก็ออกโจมตีแล้ว จัดการซินหูพร้อมกับสิงเจี้ยนสยา
จิตต่อสู้เดือดพล่าน ไอสังหารดุจลุกโชน