ตอนที่ 690 หลอกให้ปีศาจเฒ่าออกไป
ปีศาจเฒ่าเฮยซารู้สึกว่าตัวเองกำลังจะบ้าไปแล้ว มองฉินหลิวซีราวกับมองพ่อค้าหลอกเด็กไปขาย ทั้งสับสนและระมัดระวัง
“ข้าบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าจะไปกับเจ้า”
ฉินหลิวซีเอ่ย “ทำไมเจ้าจะไม่ไป”
“แล้วทำไมข้าต้องไป” เขาบ้าไปแล้วหรือจึงจะไปกับจอมมารผู้นี้ ไม่ใช้ชีวิตเป็นผู้มีอำนาจดีๆ แต่กลับไปลำบากลำบน
“หลังจากที่เจ้าฝึกบำเพ็ญจนมีสติปัญญาในภูเขาแห่งนี้ ไม่ได้ออกจากทะเลทรายดำนี้มานานเท่าใดแล้ว ภูเขาก็พังทลายไปแล้วหลายพันปี อ้อ อย่างน้อยก็พันปีกระมัง” ฉินหลิวซีเอ่ยอย่างมีลับลมคมนัยว่า “พันปีมานี้ เจ้าเอาแต่อยู่ในทะเลทรายแห่งนี้วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า ไม่เบื่อหรือ”
ปีศาจเฒ่าเฮยซาชะงักไปครู่หนึ่ง เอ่ย “การฝึกบำเพ็ญไม่กำหนดวันเวลา นี่เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ”
“โลกนี้กว้างใหญ่ไพศาล หากมีใจที่จะปฏิบัติ ฝึกบำเพ็ญที่ไหนก็ได้ไม่ใช่หรือ การเอาแต่มองดูผืนฟ้าบริเวณนี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อการฝึกบำเพ็ญ ต้นไม้ใบหญ้าเหล่านี้เป็นอย่างไรเจ้าก็เห็นมาหมดแล้วกระมัง น้ำในทะเลสาบแห่งนี้เพิ่มขึ้นลดลงไปแล้วกี่ครั้ง เจ้าก็คงนับไม่ได้แล้วกระมัง”
ปีศาจเฒ่าเฮยซาเงียบไป ความจริงแล้วก็เป็นอย่างที่นางกล่าวมาจริงๆ แต่มีอะไรผิดปกติหรือ มันก็ใช้ชีวิตเช่นนี้มาโดยตลอด
ดวงตาของฉินหลิวซีมีประกายวาบผ่านเข้ามา เอ่ย “การฝึกบำเพ็ญจะฝึกที่ไหนก็ได้ ได้เห็นทุกที่ในโลกใบนี้ แนวทางการปฏิบัติก็จะยิ่งกว้างขวางขึ้นไม่ใช่หรือ แต่เจ้าปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอกอยู่ที่นี่ ไม่รู้สึกเหงาหรือ การกักตัวก็มีเวลาออกมาเช่นกัน เจ้ากักตัวมาเป็นเวลาพันปี ควรจะออกไปได้แล้ว”
ปีศาจเฒ่าเฮยซาโต้แย้ง “ไม่ได้มีข้าแค่คนเดียวในทะเลทรายดำ ยังมีสิ่งมีชีวิตที่มีจิตวิญญาณอีกมากมาย”
“ที่นี่คงไม่มีหมีตัวอื่นแล้วกระมัง”
ปีศาจเฒ่าเฮยซา “…”
สิ่งนี้ ไม่มีจริงๆ
“แต่นอกทะเลทรายดำนั้นมี หมีตัวเมียที่มีขนมันวาว มีทั้งสีขาวมีทั้งสีดำ ทุกตัวล้วนรูปร่างดี” ฉินหลิวซีเอ่ยอย่างมีเลศนัยว่า “หากเจอหมีที่ถูกใจ ก็จะได้บำเพ็ญคู่ ดีกว่าที่เจ้าต้องอยู่ในถ้ำนี้อย่างเหน็บหนาวอยู่ตัวเดียวไม่ใช่หรือ”
“ข้าจะหลอกเจ้าทำไม”
ผีสามตนที่อยู่นอกถ้ำพากันถอนหายใจ ‘ไม่ธรรมดาเลย เพื่อที่จะหลอกให้ปีศาจเฒ่าออกไป แม้แต่เป็นแม่สื่อก็ทำได้’
“เจ้าจงคิดให้ดี โอกาสที่จะได้ออกไปเจอโลกภายนอกนั้นมีไม่มาก หากพลาดไปจะไม่มีอีกแล้ว ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้ออกไปสักครั้ง แต่การกลับมาก็ใช่ว่าจะไม่ได้ หากเจ้าคิดว่าอยู่ข้างนอกไม่มีความสุข ก็ค่อยกลับมากักตัวที่ทะเลทรายดำแห่งนี้ หากเจ้าไปแล้ว มันจะหายไปอย่างนั้นหรือ เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือว่าเข้าได้แต่ออกไม่ได้ เช่นนั้นมันก็จะคงอยู่ตลอดไป”
ปีศาจเฒ่าเฮยซาใจเต้นเล็กน้อย ที่นางกล่าวมาก็สมเหตุสมผล
เมื่อฉินหลิวซีเห็นว่าเขามีความปรารถนา จึงหลอกล่อต่อไปว่า “อีกอย่าง หลังจากผ่านไปพันปี เจ้าก็ควรจะไปดูสักหน่อยว่าโลกนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง เป็นกบในกะลาเช่นนี้น่าสนุกตรงไหน ก็เหมือนกับการอยู่ในคุกไม่ใช่หรือ”
ปีศาจเฒ่าเฮยซาเกือบจะกล่าวออกมาแล้วว่า ‘ไป’ แต่เมื่อเห็นดวงตาเจ้าเล่ห์ของฉินหลิวซีคู่นั้น คำพูดก็หยุดอยู่ที่ลำคอ อดกลั้นไว้ได้
“เจ้าต้องการให้ข้าออกไปทำอะไร หรืออยากให้ข้าทำอะไรให้เจ้า” ปีศาจเฒ่าเฮยซาถามอย่างระมัดระวัง
ฉินหลิวซีเอานิ้วจิ้มที่แก้ม เงียบไปครู่หนึ่ง หลังจากผ่านไปนานก็เอ่ยว่า “ใช่แล้ว ข้าต้องการให้เจ้าออกไปทำอะไรกัน ข้าเองก็ไม่ได้มีอะไรอยากได้ ช่างเถิด เจ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป ข้าไปล่ะ”
ปีศาจเฒ่าเฮยซา “?”
เดี๋ยวนะ เมื่อครู่นี้เจ้ายังเอาแต่หลอกล่อข้าไม่หยุด เหตุใดจู่ๆ จึงเปลี่ยนไปเสียได้
เมื่อปีศาจเฒ่าเฮยซาเห็นฉินหลิวซีเดินออกไปข้างนอก ก็ร้อนใจเป็นอย่างมาก คนผู้นี้ไม่รู้หรือว่าอะไรคือการถอยหลังให้หนึ่งก้าว
“ให้ข้าไปกับเจ้าก็ได้ แต่เจ้าต้องยอมรับเงื่อนไขข้าหนึ่งข้อ” ปีศาจเฒ่าเฮยซาเห็นฉินหลิวซีกำลังจะเดินออกปากถ้ำไปแล้ว จึงอดตะโกนเรียกไม่ได้
ฉินหลิวซีหันกลับมา “เงื่อนไขอะไร”
“อาเจียนเลือดออกมา”
“?”
ดวงตาของปีศาจเฒ่าเฮยซาเป็นประกาย เอ่ย “เจ้าขโมยผลเต้ากั่วไปแล้ว และไม่มีทางให้ข้าอย่างแน่นอน เมื่อครู่เจ้าใช้ไฟนรกย่างข้า ตบะของข้าถดถอยลงไปเล็กน้อย ตอนนี้เจ้าก็เอาผลเต้ากั่วไปแล้ว ข้าจึงสูญเสียครั้งใหญ่ เจ้าอาเจียนเลือดออกมาให้ข้า ข้าก็จะไปกับเจ้า”
ฉินหลิวซีแสยะยิ้ม “ข้าพาเจ้าออกไปเปิดหูเปิดตา เจ้ากลับอยากดื่มเลือดของข้า เจ้าอย่าเป็นหมีเลย เป็นหมาป่าเนรคุณจะเหมาะสมกับเจ้ามากกว่า!”
“เฮ้ย ก็แค่เลือดนิดเดียว” มันก็ไม่ได้ต้องการมากมายเสียหน่อย
ฉินหลิวซีถามด้วยความสงสัย “เหตุใดเจ้าจึงต้องการเลือดของข้า”
ปีศาจเฒ่าเฮยซาเอ่ยตอบ “เจ้ามีบุญกุศลติดตัว ซ้ำยังเป็นคนจากโลกอื่น เพียงแค่ให้เลือดข้าเล็กน้อย ข้าจะสามารถพัฒนาการฝึกบำเพ็ญได้อย่างแน่นอน ยิ่งเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้น”
“ใครบอกเจ้าว่าเลือดของคนจากโลกอื่น จะช่วยให้การฝึกบำเพ็ญของเจ้าก้าวหน้าได้” นางไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร
ปีศาจเฒ่าเฮยซากล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ข้าเป็นภูตภูเขา ใช้เวลาฝึกบำเพ็ญมาแล้วกี่ปีกว่าจะกลายเป็นภูต ความจริงข้าไม่รู้ด้วยซ้ำ คงเคยได้ยินคำพูดนี้มาก่อน ซ้ำรสชาติของเจ้าก็หอมหวานขนาดนี้ มีปีศาจตนไหนบ้างที่จะไม่ปรารถนา เช่นเดียวกันกับภิกษุผู้สูงส่งที่มีบุญกุศลและคุณธรรมอันใหญ่หลวง เลือดเนื้อสามารถทำให้ปีศาจเป็นอมตะ พลังอาคมเพิ่มขึ้นมหาศาล ก็เป็นหลักการเดียวกันไม่ใช่หรือ” เขาเอ่ยด้วยความชั่วร้ายว่า “เจ้าอย่าให้ปีศาจที่มีอำนาจใหญ่โตเหล่านั้นรู้เรื่องนี้เด็ดขาด มิเช่นนั้นเจ้าจะไม่เหลือแม้แต่กระดูก”
ตอนนี้เขาไม่ได้โง่แล้ว ซ้ำยังฉลาดเล็กน้อยอีกด้วย
“ใครอยากตายก็ลองดู” เมื่อฉินหลิวซีมีความคิดนี้ เปลวไฟสีแดงเล็กๆ ก็จุดประกายบนปลายนิ้ว
ปีศาจเฒ่าเฮยซาใจสั่น ถอยหลังหลายก้าว “เจ้าอย่าเข้ามานะ!”
ฉินหลิวซีสบถ “จะให้อาเจียนเลือดออกมานั้นไม่มีทาง ข้าเป็นสตรี ร่างกายอ่อนแอ แก่นสารของเลือดคือสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด”
“เจ้าร่างกายอ่อนแอ? นี่เป็นเรื่องน่าขันที่สุดที่ข้าเคยได้ยินในรอบพันปี…” ปีศาจเฒ่าเฮยซาหัวเราะอย่างไม่เกรงใจ “เหอะ เจ้าว่าอะไรนะ เจ้าเป็นสตรี?”
ดูแล้วไม่เห็นเหมือนเลย
ฉินหลิวซีจ้องมองด้วยความโกรธ ยืดอก หน้าอกเรียบแบนแต่ก็เป็นหน้าอก
ปีศาจเฒ่าเฮยซาปิดตา เอ่ย “เป็นสตรีจริงๆ หรือ”
ฉินหลิวซีขี้เกียจจะเอ่ยไร้สาระกับมัน หันหลังกำลังจะจากไป
“เช่นนั้นหยดเดียว หยดเดียวก็ยังดี” ปีศาจเฒ่าเฮยซาเอ่ย “ความจริงแล้วข้าก็แค่อยากจะทดสอบว่าคำกล่าวนี้เป็นจริงหรือไม่ หากเจ้าชอบของเหล่านี้ก็เอาไปได้เลย”
ฉินหลิวซีหันกลับมาทันที สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ข้าล่ะเกรงใจจริงๆ” ในขณะที่ปีศาจเฒ่าเฮยซากำลังจะอ้าปาก นางก็เดินเข้าไปในถ้ำแล้ว “น้ำใจยากที่จะปฏิเสธได้ ข้าไม่เกรงใจแล้ว เจ้าบ้านอย่างเจ้าไม่เลวเลย”
ปีศาจเฒ่าเฮยซามองดูนางเอาของดีที่ตัวเองเก็บสะสมไว้ใส่กระเป๋าทีละเล็กละน้อยด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างยากที่จะอธิบาย
เขาทำเรื่องโง่เขลาอีกแล้วหรือ
เมื่อฉินหลิวซีเดินออกจากถ้ำพร้อมกับถุงสัมภาระที่ถูกยัดจนเต็ม มีปีศาจเฒ่าเฮยซาเดินตามหลังทุกย่างก้าว ผีทั้งสามตนก็ถอยหลัง มองฉินหลิวซีด้วยสายตานับถือ
เป็นผู้มีฝีมือจริงๆ
ใช้กำลังปราบปรามก่อน จากนั้นก็ใช้คำพูดหลอกล่อ แล้วถอยเพื่อโจมตี สุดท้ายก็ไหลไปตามสถานการณ์ พาปีศาจและสมบัติไปด้วยอย่างมีความสุข
วิธีการนี้สมบูรณ์แบบ
ฉินหลิวซีได้สิ่งที่ควรเอาไป ใช้วิชาแยกพื้นที่ออกจากกันด้วยความพึงพอใจ ก่อนเดินเข้าไปในเส้นทางหยิน นางก้มลงมองพื้นดินที่มีพลังวิญญาณปะทุขึ้นมา ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันกลับมาพาผีทั้งสามกับปีศาจเฒ่าเฮยซาเข้าไปในเส้นทางหยินแล้วจากไป
หลังจากที่พวกเขาจากไป บนพื้นผิวทรายดูเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังพลุ่งพล่าน และในไม่ช้าก็กลับมาสงบลงอีกครั้ง ราวกับว่าหลายพันปีมานี้ไม่เคยมีการเคลื่อนไหวใดๆ มาก่อน
จากนั้นก็มีลมพัดผ่าน ทรายเม็ดละเอียดหมุนวนเล็กน้อย ก่อนจะกลายเป็นรูปร่างยันต์ แล้วก็ถูกพัดสลายไป