ตอนที่ 3111 ยกภูเขา

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สี่วันก่อน​ หลิน​สวิน​ฆ่ากู่​เชาจือ​และ​สังหาร​จอม​มาร​หู​ยง​ที่​หน้า​ด่าน​นภา​สี่ลักษณ์​แห่ง​นี้​

ใน​วันนั้น​ข่าว​แพร่กระจาย​ เรียก​คลื่น​ลม​ลูก​ใหญ่​ขึ้น​ใน​โลก​บัว​ชะตา​

และ​วันนี้​ใน​อีก​สี่วัน​ต่อมา​ หลิน​สวิน​มาปรากฏตัว​หน้า​ด่าน​นภา​สี่ลักษณ์​อีกครั้ง​พร้อมกับ​พวก​สิงเจี้ยนส​ยา​ นี่​ไม่อยาก​เรียก​เสียง​ฮือฮา​ยัง​ยาก​

“สิงเจี้ยนส​ยา​ ครั้งนี้​พวก​เจ้ามาอีก​ทำไม​กัน​”

มีคน​อด​ถามไม่ได้​

สิงเจี้ยนส​ยา​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ชอบใจ​ “แน่นอน​ว่า​ต้อง​มาท้าทาย​”

ในที่นี้​โกลาหล​อี​กระลอก​

คน​เมื่อ​ครู่​เอ่ย​ถามอีกครั้ง​ “หรือว่า​… เจ้าหลิน​สวิน​นี่​ยัง​จะตัดสิน​เป็น​ตาย​อีก​หรือ​”

“ฮ่าๆ พวก​อิง​เทียน​เซิงล้วน​ป้องกัน​ไว้​หมด​แล้ว​ เลือก​ตัดสิน​เป็น​ตาย​ในเวลานี้​จะไม่โง่เกินไป​หน่อย​หรือ​”

สิงเจี้ยนส​ยา​กล่าว​ สายตา​มอง​ด่าน​นภา​สี่ลักษณ์​แล้ว​เอ่ยปาก​ราบเรียบ​ “ใน​ครั้งนี้​ย่อม​เป็น​ตัดสิน​แพ้ชนะ​”

ตัดสิน​แพ้ชนะ​!

เมื่อ​ได้ยิน​คำ​นี้​คน​ไม่น้อย​ล้วน​ลอบ​ถอนหายใจ​โล่งอก​

“ตัดสิน​แพ้ชนะ​หรือ​ ฮ่าๆ…”

บน​ด่าน​นภา​สี่ลักษณ์​มีคน​หัวเราะ​เย็นชา​

หาก​เลือก​ตัดสิน​เป็น​ตาย​ ผู้ชนะ​สามครั้ง​รวด​ก็​สามารถ​ชิงอำนาจ​ปกครอง​ด่าน​นภา​ได้​

อย่าง​คราวก่อน​หาก​หลิน​สวิน​ชนะ​อีกครั้ง​ก็​จะสามารถ​ยึดครอง​ด่าน​นภา​สี่ลักษณ์​ กลาย​เป็นเจ้าของ​ด่าน​นี้​ได้​

แต่​หาก​ตัดสิน​แพ้ชนะ​ จำเป็นต้อง​ชนะ​หก​ครั้ง​ติด​จึงจะสามารถ​ยึด​ด่าน​ได้​

อีก​ทั้ง​ตัดสิน​แพ้ชนะ​ไม่ตัดสิน​เป็น​ตาย​ ย่อม​หมายความว่า​ไม่มีการตาย​เกิดขึ้น​

ฉะนั้น​เมื่อ​รู้​จุดประสงค์​การ​มาของ​พวก​หลิน​สวิน​ ใน​ใจพวก​สัตว์ประหลาด​เฒ่าบน​ด่าน​นภา​สี่ลักษณ์​เหล่านั้น​จึงสงบ​ลง​มาก​ ผ่อนคลาย​ไม่น้อย​

ทว่า​สิ่งที่​พวกเขา​ไม่รู้​คือ​ พวก​หลิน​สวิน​มาครั้งนี้​ไม่ใช่เพื่อ​ชิงด่าน​นภา​สี่ลักษณ์​สักนิด​

“สิงเจี้ยนส​ยา​ เจ้ารู้​หรือไม่​ว่า​ใน​โลก​บัว​ชะตา​ตอนนี้​มีคน​อยาก​ฆ่าเจ้าหลิน​สวิน​นี่​มาก​ขนาด​ไหน​”

จู่ๆ อิง​เทียน​เซิงเอ่ยปาก​

สิงเจี้ยนส​ยา​กล่าว​ง่ายๆ​ “หาก​ข้า​เดา​ไม่ผิด​ย่อม​มีไม่น้อย​แน่​”

อิง​เทียน​เซิงเอ่ย​ด้วย​สีหน้า​ไร้ความรู้สึก​ “แล้ว​เหตุใด​เจ้ายัง​พา​เจ้าหมอ​นี่​มาปรากฏตัว​ที่นี่​อย่าง​เปิดเผย​อีก​ ไม่กลัว​ถูก​ศัตรู​บางส่วน​ทะยาน​มาจับ​พวก​เจ้าทั้งหมด​หรือ​”

สิงเจี้ยนส​ยา​หัวเราะ​ “ถ้ากลัว​พวก​ข้า​คง​ไม่ปรากฏตัว​หน้า​ด่าน​นภา​สี่ลักษณ์​แห่ง​นี้​หรอก​”

อิง​เทียน​เซิงแค่น​เสียง​เย็น​ “เช่นนั้น​ข้า​ก็​อยาก​เห็น​จริงๆ​ ว่า​ยาม​อันตราย​ปรากฏ​ พวก​เจ้าจะแก้ไข​อย่างไร​!”

หลิน​สวิน​ก้าว​ขึ้นหน้า​งพลาง​กล่าว​เรียบๆ​ “อิง​เทียน​เซิง กล้า​ตัดสิน​แพ้ชนะ​กับ​ข้า​หรือไม่​”

ทั่ว​ลาน​อึ้ง​ค้าง​ ใคร​ต่าง​ไม่คาดคิด​ว่า​หลิน​สวิน​จะระบุชื่อ​ตรงๆ​ เริ่ม​มาก็​ท้าทาย​อิง​เทียน​เซิงทันที​!

อิง​เทียน​เซิงโมโห​จน​หัวเราะ​ “เจ้าหนุ่ม​ อยาก​ท้าทาย​ข้า​หรือ​ เจ้ายัง​ขาด​คุณสมบัติ​อยู่​”

หลิน​สวิน​ยิ้ม​อย่าง​ไม่ใส่ใจ “ช่างเถอะ​ ใน​เมื่อ​เจ้าตั้งใจ​เป็น​เต่า​หดหัว​ไม่ยอม​ออกมา​ เปลี่ยน​ให้​คนอื่น​ลงสนาม​ก็ได้​ ไม่ว่า​คู่ต่อสู้​เป็น​ใคร​ข้า​ล้วน​ไม่มีความเห็น​”

กล่าว​พ​ลาว​เงาร่าง​เขา​ลอยตัว​ขึ้นไป​ หนึ่ง​หมัด​เคาะ​บน​ป้าย​ศิลา​มหา​มรรค​ ‘ตัดสิน​แพ้ชนะ​’ ที่อยู่​ฝั่งขวา​ประตู​ใหญ่​ด่าน​นภา​สี่ลักษณ์​ผ่าน​อากาศ​

วู้​ม!

ละออง​แสงพลัง​กฎระเบียบ​แปลกประหลาด​ระลอก​หนึ่ง​ลอย​กระเซ็น​

จากนั้น​ลาน​ประลอง​ที่​ปล่อย​กลิ่นอาย​นอง​เลือดเย็น​สะท้าน​แห่ง​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​กลางอากาศ​ พาด​ขวาง​กลาง​ฟ้าดิน​

“เจ้าหมอ​นี่​ใจกล้า​ดี​จริงๆ​ ประกาศ​ศึก​ตรงๆ​ เลย​!”

“สังหาร​จอม​มาร​หู​ยง​ได้​มีหรือ​จะเป็น​พวก​ธรรมดา​ จำไว้​ อย่า​มอง​เขา​เป็น​เพียง​ขั้น​สรร​สร้าง​อีก​เด็ดขาด​!”

“คราวนี้​มีเรื่อง​สนุก​ให้​ชมแล้ว​”

ใน​พื้นที่​ใกล้เคียง​พวก​สัตว์ประหลาด​เฒ่าทั้ง​กลุ่ม​วิพากษ์วิจารณ์​ สายตา​ที่​มอง​ทาง​หลิน​สวิน​ล้วน​เจือ​แวว​แปลก​ไป​

พวก​สิงเจี้ยนส​ยา​ก็​ลอบ​เตรียมตัว​ในเวลานี้​เช่นกัน​

“ใคร​อยาก​ไป​เล่น​ตัดสิน​แพ้ชนะ​กับ​เจ้าหมอ​นี่​สักหน่อย​ไหม​”

บน​ด่าน​นภา​สี่ลักษณ์​อิง​เทียน​เซิงเอ่ยปาก​เรียบๆ​

“ให้​ข้า​ไป​เอง​”

ฉิว​เฟิ่งฉือ​ลุก​ออกมา​ เขา​รูปร่าง​ซูบผอม​ สวม​ชุด​ดำ​ทั้ง​ชุด​ แก้มตอบ​เว้า​ สะพาย​ค้อน​ทองแดง​ใหญ่​ยักษ์​คู่​หนึ่ง​ กร้าว​แกร่ง​ดุดัน​

สี่วันก่อน​เขา​ก็​เคย​ท้าทาย​สิงเจี้ยนส​ยา​ แต่กลับ​ถูก​สิงเจี้ยนส​ยา​ทำให้​กลายเป็น​ตัวตลก​

“ไม่ได้​”

อิง​เทียน​เซิงส่ายหน้า​ “แค่​ตัดสิน​แพ้ชนะ​เท่านั้น​ ไม่คุ้ม​ให้​เจ้าเหล่า​ฉิว​ลงมือ​ด้วยตัวเอง​”

ไม่ใช่ไม่คุ้ม​ หาก​แต่​เขา​กังวล​ว่า​ฉิว​เฟิ่งฉือ​จะบาดเจ็บสาหัส​!

ใน​ฝั่งพวกเขา​ ฉิว​เฟิ่งฉือ​เป็น​มือขวา​ของ​เขา​เช่นเดียวกับ​จอม​มาร​หู​ยง​

และ​ตอนนี้​จอม​มาร​หู​ยง​ตาย​แล้ว​ เขา​ไม่หวัง​ให้​ฉิว​เฟิ่งฉือ​ลงมือ​อีก​

ต่อให้​แค่​บาดเจ็บ​ก็​ไม่ได้​

เพราะ​หลาย​วัน​ต่อจากนี้​เขา​ยัง​ต้อง​ให้​ฉิว​เฟิ่งฉือ​จัดการ​คู่ต่อสู้​คนอื่นๆ​ ถึงขั้น​ยาม​เริ่ม​ชิงแท่น​มรรค​บัว​ชะตา​อย่าง​แท้จริง​ก็​ไม่อาจ​ขาด​ความช่วยเหลือ​จาก​ฉิว​เฟิ่งฉือ​ได้​

แต่​ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​ หาก​ให้​ฉิว​เฟิ่งฉือ​บาดเจ็บสาหัส​จะต้อง​เกิดเหตุ​เหนือ​คาด​ได้​ง่าย​มาก​

นี่​ไม่ใช่สิ่งที่​อิง​เทียน​เซิงอยาก​เห็น​

“ข้า​เข้าใจ​แล้ว​”

ฉิว​เฟิ่งฉือ​ใคร่ครวญ​ครู่หนึ่ง​แล้ว​ถอน​ใจเบา​ๆ ถอยกลับ​ไป​

“นิ่ง​ปู้ช​วี​”

อิง​เทียน​เซิงเลื่อน​สายตา​มอง​นิ่ง​ปู้ช​วี​ “คราวก่อน​จอม​มาร​หู​ยง​ออก​สู้แทน​เจ้า เชื่อ​ว่า​ใน​ใจเจ้าก็​ต้อง​รู้สึก​ผิด​ต่อ​เรื่อง​นี้​เป็นแน่​ ตอนนี้​โอกาส​มาแล้ว​”

นิ่ง​ปู้ช​วี​พยักหน้า​น้อย​ๆ “ข้า​จะทุ่ม​สุดความสามารถ​”

“ไม่” อิง​เทียน​เซิงกล่าว​ “เป้าหมาย​ของ​เจ้าไม่ใช่จะเอาชนะ​เขา​อย่างไร​ หาก​แต่​ผลาญ​พลัง​เขา​ให้​มาก​ที่สุด​เท่า​ที่จะ​ทำได้​ พยายาม​ไม่ให้​ตัวเอง​ได้รับบาดเจ็บ​รุนแรง​เกินไป​”

นิ่ง​ปู้ช​วี​สีหน้า​แข็งทื่อ​น้อย​ๆ ใน​ใจผุด​ความรู้สึก​อัป​ยศอย่าง​บอก​ไม่ถูก​

เขา​ก็​เป็น​เฒ่าดึกดำบรรพ์​ที่​เคย​ข้าม​เคราะห์​ดับ​สิ้นไร้​ชีพ​ห้า​ครั้ง​เช่นกัน​ มีหรือ​จะไม่เข้าใจ​ความหมาย​ใน​คำพูด​ของ​อิง​เทียน​เซิง

อิง​เทียน​เซิงไม่คิด​ว่า​ตน​เป็น​คู่ต่อสู้​ของ​หลิน​สวิน​ชัด​ๆ!

แต่​ความจริง​เช่นนี้​กลับ​ทำให้​นิ่ง​ปู้ช​วี​ไม่อาจ​โต้แย้ง​

เพราะ​พลัง​ต่อสู้​ของ​เขา​ไม่แข็งแกร่ง​เท่า​จอม​มาร​หู​ยง​ อย่าง​มาก​ที่สุด​ก็​แค่​สูสีกับ​กู่​เชาจือ​ และ​ยาม​กู่​เชาจือ​ถูก​หลิน​สวิน​ฆ่าตาย​ยัง​ไม่เคย​ทำให้​หลิน​สวิน​ได้รับบาดเจ็บ​ด้วยซ้ำ​…

สิ่งที่​อิง​เทียน​เซิงพูด​ผิด​หรือ​

ไม่เลย​

ทว่า​แต่​ไร​มาความจริง​เช่นนี้​ทำร้าย​คน​มาก​ที่สุด​

“ด้วย​ประสบการณ์​การต่อสู้​ของ​เจ้าย่อม​รู้ดี​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไร​ ไป​เถอะ​”

เสียง​อิง​เทียน​เซิงเพิ่ง​สิ้นสุด​

ฮูม…

คลื่น​กฎระเบียบ​คลุมเครือ​แปลกประหลาด​ระลอก​หนึ่ง​ปิด​ครอบ​เงาร่าง​ของ​นิ่ง​ปู้ช​วี​

ครู่​ต่อมา​นิ่ง​ปู้ช​วี​ก็​ปรากฏตัว​บน​ลาน​ประลอง​แพ้ชนะ​นั่น​

คน​ที่​ปรากฏตัว​ในเวลาเดียวกัน​ยังมี​หลิน​สวิน​ด้วย​

และ​สายตา​ทั่ว​ลาน​ล้วน​หัน​มอง​ทาง​พวกเขา​สอง​คน​เป็น​จุด​เดียว​

“ฮ่าๆ”

หลิน​สวิน​หัวเราะ​ออกมา​ แววตา​เจือ​ไอ​เย็นชา​รางๆ​ “นึกไม่ถึง​ว่า​เจ้ายังมี​ความกล้า​ต่อสู้​กับ​ข้า​ ผิด​จาก​ที่​ข้า​คาด​ไว้​จริงๆ​”

คราวก่อน​เขา​เคย​ประกาศ​ศึก​กับ​นิ่ง​ปู้ช​วี​ กลับ​ถูก​อิง​เทียน​เซิงลอบ​สลับ​ตัว​ให้​จอม​มาร​หู​ยง​มาแทน​

และ​ตอนนี้​นิ่ง​ปู้ช​วี​กลับ​ออกมา​เป็น​คน​แรก​

ทว่า​นี่​ไม่ใช่ตัดสิน​เป็น​ตาย​ แต่​เป็น​ตัดสิน​แพ้ชนะ​

รอย​ยิ้มเยาะ​และ​ความ​เหยียดหยัน​ที่​ไม่ปกปิด​แต่อย่างใด​ของ​หลิน​สวิน​ทำให้​ใน​ใจนิ่ง​ปู้ช​วี​ยิ่ง​ไม่สบอารมณ์​ขึ้น​เรื่อยๆ​ สีหน้า​เขา​เย็นชา​ กล่าวว่า​ “เจ้าหนุ่ม​ เรื่อง​ผิดคาด​ใน​โลก​นี้​มีถมไป​ ข้า​กลับ​กังวล​ยิ่ง​ เกรง​ว่า​เจ้าจะมีชีวิต​อยู่​ไม่นาน​แล้ว​”

หลิน​สวิน​ยิ้ม​โดย​ไม่เอ่ย​วาจา​

หรือ​กล่าว​อีก​อย่าง​คือ​คร้าน​จะโต้เถียง​

พริบตา​ที่​พลัง​กฎระเบียบ​ซึ่งกด​ทับ​บน​ตัว​หาย​ไป​ หลิน​สวิน​ก็​เคลื่อนไหว​ทันที​

ตูม​!

เขา​ทะยาน​ตัว​เคลื่อนย้าย​ผ่าน​ห้วง​อากาศ​ นิ้วมือ​ดุจ​กระบี่​ ซัด​เจต​กระบี่​ไพศาล​อัน​คลุมเครือ​อัศจรรย์​แถบ​หนึ่ง​ฟัน​ใส่นิ่ง​ปู้ช​วี​

ท่าที​แข็งกร้าว​อหังการ​นั้น​ทำให้​สัตว์ประหลาด​เฒ่าในที่นี้​ที่​เห็น​การต่อสู้​ของ​หลิน​สวิน​เป็นครั้งแรก​ล้วน​อด​ตกใจ​ไม่ได้​

“ทะยาน​!”

นิ่ง​ปู้ช​วี​ตะโกน​ลั่น​ เบื้องหน้า​ปรากฏ​รุ้ง​เทพ​สีม่วง​นับ​พัน​หมื่น​สาย​ พาด​ขวาง​ตัด​สลับ​ กลาย​เป็นเงา​มายา​โลก​สามสิบ​หก​ชั้น​ขวาง​ต้าน​อยู่​ตรงหน้า​

แม้ว่า​ใน​ใจเขา​จะไม่ยินยอม​ แต่​ก็​รู้ดี​ว่า​หาก​ปะทะ​ซึ่งหน้า​ย่อม​ไม่ใช่คู่ต่อสู้​หลิน​สวิน​แน่นอน​

ฉะนั้น​เขา​จึงใช้วิธี​ต่อสู้​แบบ​ป้องกัน​เป็นหลัก​ตั้งแต่​เริ่ม​

จาก​ที่​นิ่ง​ปู้ช​วี​คิด​ แม้สู้อีก​ฝ่าย​ไม่ได้​ แต่​ขอ​เพียง​ตน​ต้านทาน​สุด​ชีวิต​ย่อม​สามารถ​ยืนหยัด​ใน​การต่อสู้​ครั้งนี้​ได้​นาน​ขึ้น​!

ตูม​ โครม​! ตูม​โครม​!

เจต​กระบี่​ไพศาล​ฟัน​ลง​ไป​เงามายา​โลก​ที่​แปลง​มาจาก​รุ้ง​เทพ​สีม่วง​เป็นชั้นๆ​ นั่น​จน​พัง​ถล่ม​เป็น​เสี่ยง​ ละออง​แสงดุจ​กระแสน้ำ​ปลิว​กระจาย​ไร้​สิ้นสุด​

“เจ้าหมอ​นี่​แข็งแกร่ง​อย่าง​ที่​ลือ​กัน​ดัง​คาด​!”

นอก​ลาน​ฮือฮา​ สัตว์ประหลาด​เฒ่ามากมาย​เผย​สีหน้า​ตื่นเต้น​

ทันทีที่​หลิน​สวิน​ลงมือ​ พลัง​ระดับ​นั้น​ทำให้​พวกเขา​ล้วน​รู้สึก​สะทกสะท้าน​

และ​เมื่อ​เห็น​วิธี​ต่อสู้​ของ​นิ่ง​ปู้ช​วี​ อิง​เทียน​เซิงอด​พยักหน้า​เงียบๆ​ ไม่ได้​

“ทะยาน​!”

เมื่อ​เห็น​เงามายา​โลก​สามสิบ​หก​ชั้น​ใกล้​ถูก​ทำลาย​สิ้น​ นิ่ง​ปู้ช​วี​โบก​แขน​เสื้อ​ครา​หนึ่ง​โดย​ไม่ลังเล​ใดๆ​

ใน​ห้วง​อากาศ​ปรากฏ​เสาสำริด​สิบสอง​ต้น​โดยพลัน​ เสาสำริด​แต่ละ​ต้น​ล้วน​สลัก​แผนภาพ​ลาย​มรรค​ที่​เร้นลับ​คลุมเครือ​ ราว​เสาหลัก​ที่​ค้ำ​ยัน​ฟ้าดิน​ ปลดปล่อย​กลิ่นอาย​ซึ่งไม่อาจ​สั่นคลอน​ออกมา​

สิบสอง​เสาสยบ​สวรรค์​!

นี่​คือ​ศาสตรา​มรรค​นิรันดร์​ชุด​หนึ่ง​ มีประโยชน์​ทั้ง​รับ​และ​รุก​

‘เจ้าเฒ่านี่​ใช้การป้องกัน​เป็นการ​โจมตี​ นี่​ตั้งใจ​จะยื้อ​กับ​ข้า​ต่อไป​หรือ​…’ หัว​คิ้ว​หลิน​สวิน​เลิก​ขึ้น​ มอง​แผนการ​ของ​นิ่ง​ปู้ช​วี​ออก​ใน​ปราด​เดียว​

‘เช่นนั้น​ข้า​ก็​อยาก​เห็น​นัก​ ว่า​เจ้าจะต้าน​พลัง​การ​โจมตี​ของ​ข้า​ได้​หรือไม่​!’

นัยน์ตา​หลิน​สวิน​ผุด​จิต​ต่อสู้​แรงกล้า​

ใน​สายตา​เขา​ นิ่ง​ปู้ช​วี​ในเวลานี้​เหมือน​เป้า​มีชีวิต​ชัด​ๆ สามารถ​ให้​เขา​ลงมือ​ได้​อย่าง​ไร้​เกรงกลัว​

ตูม​!

ครู่​ต่อมา​เงาร่าง​หลิน​สวิน​ส่องแสง​ พุ่งพรวด​ขึ้นไป​ดุจ​สาย​ฟ้าแลบ​ ทั้ง​ซัด​หมัด​สะบัด​ฝ่ามือ​ ทั้ง​กระแทก​ทุบ​ รวบ​นิ้ว​ฟัน​กระบี่​…

ปล่อย​พลัง​ต่อสู้​ใน​ตัว​สุดกำลัง​

ภายใต้​การ​โจมตี​ระดับ​นี้​ สิบสอง​เสาสยบ​สวรรค์​ล้วน​ครวญคร่ำ​สั่น​โคลง​รุนแรง​ ประกาย​แสงซัดสาด​ เสียง​มรรค​สะท้าน​ฟ้า

แค่​ชั่ว​อึดใจ​สิบสอง​เสาสยบ​สวรรค์​ก็​ถูก​ซัด​ล้มระเนระนาด​กระเด็น​ออก​ไป​

กลับ​เห็น​นิ่ง​ปู้ช​วี​ไม่สะทก​สะท้น​ สอง​มือ​ทำ​มุทรา​ ใช้อภินิหาร​สูงสุด​

ตูม​!

วังวน​สายฟ้า​อัน​บ้าคลั่ง​ปั่นป่วน​นับไม่ถ้วน​ปรากฏ​ เบียดเสียด​แน่นขนัด​ แผ่​ครอบ​ฟ้าดิน​ ปลดปล่อย​กลิ่นอาย​ทำลายล้าง​น่า​สะพรึง​ไร้​สิ้นสุด​ออกมา​ยาม​ประจุ​สายฟ้า​เจิด​จรัส​บาดตา​ไหล​ทะลวง​

วังวน​อสนี​หมื่น​กระแส​!

นี่​คือ​อภินิหาร​ชั้นเลิศ​ที่​แปลง​มาจาก​กฎระเบียบ​อสนี​และ​กฎระเบียบ​วารี​ เต็มไปด้วย​กลิ่นอาย​ทำลายล้าง​ที่​สามารถ​แหวก​เวิ้ง​ฟ้า กลืน​กิน​สรรพสิ่ง​ อหังการ​ถึงขีดสุด​

ขณะเดียวกัน​เงาร่าง​หลิน​สวิน​พริบไหว​ กาย​มรรค​ไม้เขียว​และ​เพลิง​แดง​ปรากฏตัว​กลางอากาศ​ พุ่ง​ไป​ข้างหน้า​พร้อมกับ​ร่าง​ต้น​

ตูม​ โครม​!!

พายุ​สายฟ้า​ซัด​สะเทือน​ สายฟ้า​เจิดจ้า​ดุจ​งูสีเงิน​ระบำ​คลั่ง​ พลัง​ผลาญ​ฟ้ากำจัด​ศัตรู​นั่น​ทำเอา​สัตว์ประหลาด​เฒ่าไม่น้อย​นอก​ลาน​หนัง​ศีรษะ​ชาหนึบ​

แต่​อภินิหาร​ชั้นเลิศ​เช่นนี้​กลับ​ถูก​หลิน​สวิน​และ​กาย​มรรค​ของ​เขา​ซัด​ทำลาย​ตรงๆ​

ใช้แข็ง​ปะทะ​แข็ง​!

บดขยี้​วังวน​อสนี​คลั่ง​นับไม่ถ้วน​นั่น​ตรงๆ​ จน​กลายเป็น​เส้นทาง​สาย​หนึ่ง​

พรูด​!

ภายใต้​การ​ถูก​พลัง​สะท้อน​กลับ​ นิ่ง​ปู้ช​วี​กระอัก​เลือด​ สีหน้าซีด​ขาว​ ใน​ใจปรากฏ​ความหวาดกลัว​ยาก​บรรยาย​ พลัง​ต่อสู้​ของ​เจ้าหมอ​นี่​แข็งแกร่ง​กว่า​ไม่กี่​วันก่อน​อย่าง​เห็นได้ชัด​!!

“มา!”

นิ่ง​ปู้ช​วี​ไม่กล้า​คิด​มากความ​ ส่งเสียง​ตะโกน​ลั่น​

ตูม​โครม​!

ภูเขาใหญ่​ที่​ไอ​แรก​กำเนิด​คละคลุ้ง​ลูก​หนึ่ง​ร่วง​ลง​มาจาก​ฟากฟ้า​ กด​ทับ​ใส่หลิน​สวิน​

เขา​สุเมรุ​ผนึก​สวรรค์​!

ศาสตรา​มรรค​นิรันดร์​ที่​มีอดีต​ประหนึ่ง​ตำนาน​ชิ้น​หนึ่ง​ เคย​ขัง​สังหาร​มาร​เทพ​ กด​ทับ​หนึ่ง​แดน​!

ทว่า​ครู่​ต่อมา​…

เขา​สุเมรุ​ผนึก​สวรรค์​ลูก​นี้​ก็​เริ่ม​สะเทือน​ไหว​รุนแรง​ ถึงกับ​ถูกร่าง​ต้น​ของ​หลิน​สวิน​และ​สอง​กาย​มรรค​ร่วมกัน​ยกขึ้น​ทั้งอย่างนั้น​!

ภาพ​นี้​ทำเอา​คน​ไม่รู่​เท่าไร​มอง​จน​ปาก​อ้า​ตาค้าง​

นี่​ออกจะ​ร้ายกาจ​ไป​หน่อย​แล้ว​กระมัง​

แม้แต่​นิ่ง​ปู้ช​วี​ยัง​อึ้ง​งัน​ เบิกตา​กว้าง​ นี่​เป็นไปได้​อย่างไร​

“คืนให้​เจ้า!”

ก็​เห็น​เงาร่าง​หลิน​สวิน​ดุจ​เทพ​สวรรค์​สูงใหญ่​เจิดจ้า​ ยก​เขา​สุเมรุ​ผนึก​สวรรค์​ที่​ไอ​แรก​กำเนิด​คละคลุ้ง​นั่น​ทุ่ม​ใส่นิ่ง​ปู้ช​วี​แรง​ๆ

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท