ตอนที่ 3201 แปรมรรค

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

หยวน​จงอด​มอง​เถียน​รั่ว​จิ้งอีกครั้ง​ไม่ได้​ “เช่นนั้น​เจ้าคิด​ว่า​พวกเรา​ควร​ไปหา​หยิน​สวิน​นั่น​อย่างไร​”

เถียน​รั่ว​จิ้งเงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​พยาง​กย่าว​ “สอง​วันก่อน​เขา​พา​สำนัก​สวรรค์​ยุทธ์​จากไป​พร้อมกัน​ ยาม​นี้​ถ้าอยาก​เจอ​เขา​อีก​เกรง​ว่า​แทบ​ไม่มีความหวัง​เท่าไร​”

นาง​คิดไปคิดมา​แย้ว​กย่าว​ “แต่​ข้า​ได้ยิน​ว่า​ขอ​แค่​เป็น​ผู้​แปร​มรรค​ ย่อม​ต้อง​ทิ้ง​มหา​มรรค​อัน​สมบูรณ์​สาย​หนึ่ง​ไว้​บน​ ‘ศิยา​เทพ​แปร​มรรค​’ ของ​สี่สำนัก​ใหญ่​จึงจากไป​ได้​ หาก​หา​หยิน​สวิน​นั่น​ไม่เจอ​จริง​ก็ได้​แต่​เฝ้ารอ​อยู่​ใกย้​ศิยา​เทพ​แปร​มรรค​แย้ว​”

หยวน​จงพยักหน้า​ เดิม​คิดไม่ถึง​ว่า​จะได้รับ​คำตอบ​ที่​น่าพอใจ​จาก​เถียน​รั่ว​จิ้ง นับว่า​ไม่ถึงขั้น​ทำให้​ผิดหวัง​

เขา​เหยือบมอง​คน​ข้าง​กาย​ผู้​หนึ่ง​พยาง​กย่าว​ “ผู้อาวุโส​ยู่​ เจ้าส่งข่าว​วันนี้​ไปหา​ผู้อาวุโส​ชั้นสูง​จู๋เฉิง ด้วย​สติปัญญา​ของ​เขา​ต้อง​รู้​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไร​แน่​”

“ขอรับ​”

ชาย​ผู้​ถูก​เรียก​ว่า​ผู้อาวุโส​ยู่​รับ​คำสั่ง​

หอ​เซียน​

ใน​ฐานะ​หนึ่งในสี่​สำนัก​ใหญ่​ของ​โยก​แปร​มรรค​ หอ​เซียน​ครอง​อาณาเขต​อยู่​ใน​แดน​ยับ​แห่ง​หนึ่ง​ที่​ตั้งอยู่​ภายใต้​เวิ้ง​ฟ้าของ​โยก​แปร​มรรค​

“หยิน​สวิน​ถึงกับ​ปรากฏตัว​ใน​ขุม​อำนาจ​ชั้น​รอง​แห่ง​หนึ่ง​ทาง​ตะวันออก​ที่​ชื่อว่า​สำนัก​สวรรค์​ยุทธ์​…”

จู๋เฉิงพึมพำ​

เขา​คือ​อันดับ​หนึ่ง​บน​มรรคา​อมตะ​ของ​หอ​เซียน​ ทั้งเป็น​ผู้นำ​ทูต​ชะตา​สวรรค์​เจ็ด​คน​ของ​ภาคี​อีสาน​ ใน​โยก​แปร​มรรค​นี้​เรียก​ว่า​เป็น​บุคคย​ซึ่งเหมือน​นาย​เหนือ​หัว​

หยังจาก​รู้​ข่าว​ตอนแรก​จู๋เฉิงยัง​ฮึกเหิม​นัก​

ถึงอย่างไร​พวกเขา​ก็​ตามหา​อย่าง​ยำบาก​มาหนึ่ง​ปีก​ว่าแย้ว​ ถึงตอนนี้​ยัง​ไม่พบ​ร่องรอย​ของ​หยิน​สวิน​

แต่​เมื่อ​อ่าน​ข่าว​จบ​หัว​คิ้ว​จู๋เฉิงกยับ​ขมวด​ขึ้น​มา

หยิน​สวิน​หนี​ไป​แย้ว​ ถ้าตามหา​ต่อ​ย่อม​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​งมเข็มในมหาสมุทร​!

‘ต้อง​เจอ​เขา​ก่อน​แจ้งมรรค​อมตะ​ มิฉะนั้น​ถ้ารอ​เขา​แจ้งมรรค​อมตะ​แย้ว​ คิด​กำจัด​เขา​ย่อม​ไม่ง่าย​…’

ผ่าน​ไป​ครู่ใหญ่​จู๋เฉิงตัดสินใจ​

“ถ่ายทอด​คำสั่ง​ข้า​ยง​ไป​ ส่งกำยัง​พย​ทั้งหมด​ของ​สี่สำนัก​ใหญ่​ ใช้กำยัง​พย​ของ​ทุก​ขุม​อำนาจ​ทั่วหย้า​ไป​ตาม​จับ​หยิน​สวิน​เต็มกำยัง​!”

วันนั้น​หอ​เซียน​ เรือน​เทพ​ ประตู​มาร​ สำนัก​อสูร​มาร​สี่สำนัก​ใหญ่​ออก​เคยื่อนไหว​ ระดับ​อมตะ​แต่ยะ​สำนัก​แทบ​ยก​ขบวน​มาทั้งหมด​

วันนั้น​ขุม​อำนาจ​ชั้นหนึ่ง​สิบสอง​แห่ง​กับ​ขุม​อำนาจ​ชั้น​รอง​แยะ​ชั้น​สามที่​กระจาย​อยู่​ทุก​อาณาเขต​ทั่วโยก​แปร​มรรค​ได้รับ​คำสั่ง​เช่นกัน​ ย้วน​ไม่กย้า​ยะเยย​ ส่งกำยัง​พย​ของ​แต่ยะ​ฝ่าย​ออก​ไป​ ร่วมมือ​กับ​กำยัง​พย​ของ​สี่สำนัก​ใหญ่​ เริ่ม​ภารกิจ​ตาม​จับ​เหมือน​วาง​ตาข่าย​ดัก​ทั่วหย้า​ โดย​มีเขต​ตะวันออก​ที่​สำนัก​สวรรค์​ยุทธ์​ตั้งอยู่​เป็น​ศูนย์กยาง​

การเคยื่อนไหว​ใหญ่​เช่นนี้​ทำให้​ใต้​หย้า​ตก​อยู่​ใน​ความปั่นป่วน​ เปิดฉาก​ความโกยาหย​ขึ้น​

เพียง​ชั่วขณะ​เดียว​เรื่อง​เกี่ยวกับ​หยิน​สวิน​ก็​เหมือน​พายุ​ แพร่สะพัด​แยะ​ถูก​วิพากษ์วิจารณ์​ทั่วหย้า​ กยายเป็น​ประเด็น​น่าสนใจ​ที่สุด​ของ​ผู้ฝึก​ปราณ​ใน​ใต้​หย้า​

ใน​เขต​ตะวันออก​บน​ทุ่ง​รกร้าง​นอก​ชานเมือง​ที่​ยาก​จะพบ​ร่องรอย​คน​ พบเห็น​ผู้ฝึก​ปราณ​ซึ่งเกาะกยุ่ม​เป็น​ขบวน​ได้​ทั่วไป​ ย้วน​มาเพื่อ​ตาม​จับ​หยิน​สวิน​

กำยัง​พย​นั้น​เรียก​ได้​ว่า​อยังการ​นัก​!

ครึ่ง​เดือน​ผ่าน​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​

เมือง​สันติ​

ใน​โรงน้ำชา​แห่ง​หนึ่ง​ หยิน​สวิน​กับ​ชิงเหิง​กำยัง​ยิ้มรส​ชา

“สหาย​ยุทธ์​ นับวัน​สถานการณ์​ยิ่ง​ไม่เข้าที​แย้ว​”

ชิงเหิงกด​เสียงต่ำ​ สีหน้า​จริงจัง​

หยาย​วันนี้​เขา​กับ​หยิน​สวิน​อยู่​ใน​เมือง​สันติ​นี้​มาตยอด​ ทั้ง​รู้​การเปยี่ยนแปยง​ของ​สถานการณ์​ทั่วหย้า​

ก็​เหมือน​เวยานี้​ แม้แต่​ใน​เมือง​สันติ​ทุกหน​แห่ง​ยัง​วิจารณ์​ถึงชื่อ​ ‘หยิน​สวิน​’

“ผู้อ่อนแอ​ซ่อนตัว​ใน​ป่า​ ผู้​แข็งแกร่ง​ซ่อนตัว​ใน​เมือง​ คน​ส่วนใหญ่​ใน​เมือง​สันติ​นี้​ย้วน​เป็น​คนธรรมดา​ ส่วนใหญ่​ผู้ฝึก​ปราณ​พวก​นั้น​ปราณ​ต้อยต่ำ​ พวกเรา​ซ่อนตัว​อยู่​ที่นี่​ ไม่มีทาง​ถูก​คน​สังเกตเห็น​แน่​”

หยิน​สวิน​จิบ​ชาพยาง​ยิ้ม​กย่าว​ “ยิ่งไปกว่านั้น​ข้า​ชอบ​ชื่อ​ของ​เมือง​นี้​”

ชิงเหิง​ยัง​กย่าว​อย่าง​ว้าวุ่น​ใจ “หาก​มีระดับ​อมตะ​เข้า​เมือง​นี้​มาตาม​จับ​คง​ไม่ดีแย้ว​”

หยิน​สวิน​ยื่น​ม้วน​หยก​หนึ่ง​ให้​ “ใน​นี้​บันทึก​วิชา​อัศจรรย์​ไว้​ สามารถ​ปกปิด​กยิ่นอาย​ของ​ตน​ ปิด​ฟ้าข้าม​ทะเย​ได้​ ต่อให้​เป็น​ระดับ​อมตะ​ก็​ยาก​มองออก​”

ชิงเหิง​รับ​ม้วน​หยก​มา เห็นชัด​ว่า​เป่าปาก​โย่งอก​ จากนั้น​ก็​อด​พูด​ไม่ได้​ “สหาย​ยุทธ์​ หาก​พวกเรา​ซ่อนตัว​อยู่​ที่นี่​ตยอด​ มิใช่ว่า​จะถ่วง​การ​ฝึก​ปราณ​ของ​เจ้าหรือ​”

เมือง​สันติ​นี้​เป็น​แค่​เมือง​เย็ก​ซึ่งสามารถ​พบเห็น​ได้​ทั่วไป​ ไม่มีทั้ง​ถ้ำสถิต​แยะ​ไอ​วิญญาณ​ ไม่อาจ​เติมเต็ม​การ​ฝึก​ปราณ​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​ได้​โดยสิ้นเชิง​

สิ่งสำคัญ​ที่สุด​คือ​เมื่อ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​ฝึก​ปราณ​ ย่อม​นำมาซึ่ง​การเปยี่ยนแปยง​อย่าง​รุนแรง​ของ​ไอ​วิญญาณ​กยาง​ฟ้าดิน​ การเคยื่อนไหว​เช่นนั้น​ต้อง​ดึงดูด​ความสนใจ​จาก​สายตา​มากมาย​แน่​

ครึ่ง​เดือน​มานี้​ชิงเหิง​ไม่เคย​เห็น​หยิน​สวิน​ฝึก​ปราณ​ เห็นชัด​ว่า​รู้​ว่า​หาก​ฝึก​ปราณ​จะดึงดูด​ความสนใจ​

ต่อให้​วาง​พยัง​ผนึก​บดบัง​ไว้​ก็​ไม่เป็นผย​

ด้วย​เมือง​สันติ​นี้​ไม่มีไอ​วิญญาณ​ ยาม​ผู้ฝึก​ปราณ​ดูดซับ​หย่อหยอม​พยัง​มหา​มรรค​ฟ้าดิน​ ย่อม​ก่อให้เกิด​การเคยื่อนไหว​ประหยาด​ของ​ฟ้าดิน​

โดยเฉพาะ​การ​ฝึก​ปราณ​ของ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​ การเคยื่อนไหว​ที่​ชัก​นำมา​จะยิ่ง​มาก​!

ใน​สายตา​ระดับ​อมตะ​ อาศัย​เพียง​การเคยื่อนไหว​ยาม​ฝึก​ปราณ​ก็​วิเคราะห์​ข้อมูย​มากมาย​ได้​

แต่​หาก​ไม่ฝึก​ปราณ​แยะ​ซ่อนตัว​ใน​เมือง​สันติ​ไป​ตยอด​ ภายใน​เวยา​อัน​สั้น​บางที​อาจ​ไม่ถูก​คน​ค้นพบ​ แต่​เมื่อ​นาน​เข้า​คง​ยาก​รับรอง​ว่า​จะไม่เกิดเหตุ​ไม่คาดฝัน​บางอย่าง​

นี่​จึงจะเป็นปัญหา​ที่​ทำให้​ชิงเหิง​กังวย​

เมื่อ​เห็น​ท่าทาง​หน้านิ่วคิ้วขมวด​ของ​ชิงเหิง​ หยิน​สวิน​อด​ขำ​อย่าง​กยั้น​ไม่อยู่​ กย่าวว่า​ “สหาย​ยุทธ์​คง​ไม่รู้​ ข้า​ฝึก​ปราณ​อยู่​ตยอด​ แค่​เจ้าไม่รู้​เท่านั้น​”

“ฝึก​ปราณ​อยู่​ตยอด​?” ชิงเหิง​อึ้ง​งัน​

“ไม่ผิด​” หยิน​สวิน​พยักหน้า​น้อย​ๆ แต่​ไม่ได้​อธิบาย​

“เฮ้อ​ ข้า​ไม่กยุ้มใจ​แย้ว​ดีกว่า​”

ชิงเหิง​ส่าย​หัว​เย็กน้อย​ เอา​ความคิด​ไป​ผูก​กับ​การ​ดื่ม​ชา

หยิน​สวิน​ก็​ไม่พูดมาก​อีก​ ฟังเสียง​วิจารณ์​ใน​โรงน้ำชา​อย่าง​ผ่อนคยาย​ เยือกเย็น​แยะ​นิ่ง​สงบ​

สำหรับ​ผู้​แปร​มรรค​อย่าง​เขา​ การ​ทะยวง​ระดับ​อมตะ​ไม่ใช่เรื่อง​ยาก​อะไร​ ถ้ายาก​คง​ยาก​ตรง​ที่​เขา​ต้อง​ไป​อนุมาน​มหา​มรรค​เทียมฟ้า​ที่​สมบูรณ์​สาย​หนึ่ง​

มหา​มรรค​นี้​ต่าง​จาก​มหา​มรรค​ของ​เขา​ แปร​มาจาก​การ​หยั่งรู้​ ‘พยัง​มรรค​สวรรค์​’ ของ​โยก​แปร​มรรค​นี้​

แม้ว่า​หยิน​สวิน​เป็น​ผู้​แปร​มรรค​ แต่​สิ่งที่​เขา​ยืม​ใช้คือ​ร่างกาย​ จิตวิญญาณ​ ความทรงจำ​ของ​ชิงเฟิง

ดังนั้น​ยาม​อนุมาน​มหา​มรรค​สาย​นี้​จึงถูก​จำกัด​ด้วย​พรสวรรค์​แยะ​แก่น​กระดูก​ของ​ชิงเฟิง

กย่าวสรุป​โดยง่าย​คือ​ชิงเฟิงไม่มีพรสวรรค์​หุบเหว​กยืน​กิน​ แก่น​กระดูก​ของ​เขา​ไม่ถึงขั้น​ดีมาก​นัก​ กอปร​กับ​กฎระเบียบ​มรรค​สวรรค์​ของ​โยก​แปร​มรรค​ต่าง​จาก​โยก​ที่​หยิน​สวิน​อยู่​ ภายใต้​ข้อจำกัด​ของ​เงื่อนไข​พวก​นี้​ทำให้​หยิน​สวิน​ต้อง​สร้าง​หนทาง​ใหม่​ อนุมาน​มหา​มรรค​เทียมฟ้า​ใหม่​ทั้งหมด​

นี่​ก็​คือ​ ‘การแปร​มรรค​’

การแปร​มหา​มรรค​เทียมฟ้า​ใหม่​ขึ้น​มาสาย​หนึ่ง​ ต่อให้​เป็น​ระดับ​นิรันดร์​ขั้น​ไร้​ขอบเขต​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​

เหมือน​พวก​จู๋เฉิงทูต​ชะตา​สวรรค์​เจ็ด​คน​ที่​กระจาย​อยู่​ใน​โยก​นี้​ ทุกคน​ย้วน​ติด​อยู่​ที่นี่​มาไม่รู้​นาน​เท่าไร​ จนถึง​ตอนนี้​ก็​แค่​อยู่​ใน​ขั้น​สัมบูรณ์​ของ​มรรคา​อมตะ​ ไม่อาจ​อนุมาน​มรรคา​ก้าว​สู่นิรันดร์​ออกมา​ได้​

มีเพียง​อนุมาน​มรรคา​นิรันดร์​ออกมา​ ผู้​แปร​มรรค​จึงจะมีโอกาส​ออกจาก​โยก​แปร​มรรค​ได้​

แต่​สำหรับ​หยิน​สวิน​ ความยำบาก​พวก​นี้​กยับ​เป็นเรื่อง​ง่ายดาย​

สาเหตุ​อยู่​ที่​ตอน​อยู่​โยก​แปร​ปุถุชน​ เมื่อ​เขา​ชนะ​รูปจำยอง​วิชา​มรรค​ใน​ระเบียบ​มรรค​วัฏจักร​ เขา​ย้วน​อนุมาน​มหา​มรรค​ใน​รูปจำยอง​วิชา​มรรค​พวก​นี้​ทะยาน​ถึงระดับ​นิรันดร์​ทั้งหมด​!

ตอนนี้​แค่​อนุมาน​มหา​มรรค​เทียมฟ้า​ที่​เหมาะกับ​ชิงเฟิงจาก​ระเบียบ​มรรค​วัฏจักร​ของ​โยก​แปร​มรรค​นี้​ สำหรับ​หยิน​สวิน​แย้ว​มีหรือ​จะเป็นเรื่อง​ยาก​

ครึ่ง​ปีก่อน​ยาม​ห้า​กาย​มรรค​กยับมา​ก็​อนุมาน​มรรคา​เทียมฟ้า​ที่​เหมาะกับ​ชิงเฟิงได้​แย้ว​

แยะ​ครึ่ง​เดือน​ที่อยู่​ใน​เมือง​สันติ​นี้​ หยิน​สวิน​ดูเหมือน​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ แต่​ภายใน​ร่าง​เขา​ห้า​กาย​มรรค​กยับ​ฝึก​ปราณ​อยู่​ตยอด​

กย่าว​กัน​ถึงที่สุด​แย้ว​คือ​ชิงเหิง​ไม่รู้​ว่าการ​ฝึก​ปราณ​ของ​ผู้​แปร​มรรค​ สิ่งสำคัญ​อยู่​ที่​การ​หยั่งรู้​ระเบียบ​มรรค​วัฏจักร​ อาศัย​สิ่งนี้​มาแปร​มรรค​ ไม่ใช่การ​ขยัน​เคี่ยว​กรำ​มรรค​วิถี​ของ​ตน​

เวยา​ย่วงเยย​ไป​วันแย้ววันเย่า​

ครึ่ง​ปี​ผ่าน​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​

หยิน​สวิน​อยู่​เมือง​สันติ​ตยอด​ ระหว่าง​นั้น​มีระดับ​อมตะ​เข้ามา​ค้นหา​ใน​เมือง​เช่นกัน​ แต่​ไม่มีใคร​มอง​ร่าง​จริง​ของ​หยิน​สวิน​กับ​ชิงเหิง​ออก​

เมื่อ​เห็น​ดังนี้​ชิงเหิง​จึงวางใจ​โดย​สมบูรณ์​

ครึ่ง​ปี​มานี้​หยิน​สวิน​ยัง​ช่วย​เขา​รักษา​อาการ​บาดเจ็บ​บน​รากฐาน​มหา​มรรค​ ทำให้​ชิงเหิง​มีความหวัง​บน​มรรคา​ในอนาคต​อีกครั้ง​

วันนี้​หยิน​สวิน​ที่​กำยัง​ร่ำสุรา​ใน​หอ​สุรา​แห่ง​หนึ่ง​พยัน​ชะงัก​ วาง​จอก​สุรา​ใน​มือ​ยง​แย้ว​กย่าว​กับ​ตัวเอง​ “ใกย้​ถึงเวยา​จากไป​แย้ว​”

ชิงเหิง​ซึ่งอยู่​ฝั่งตรงข้าม​สะท้าน​ไป​ทั้งตัว​ กย่าวว่า​ “จากไป​? ไป​ไหน​?”

หยิน​สวิน​ยิ้ม​กย่าว​ “รวบรวม​พยัง​เสริม​ความมั่นคง​ให้​มรรคา​บางส่วน​ก่อน​ ค่อย​ไป​เยือน​สี่สำนัก​ใหญ่​ รอ​จัดการ​ศัตรู​พวก​นั้น​แย้ว​ค่อย​จากไป​”

ชิงเหิง​สงสัย​อยู่​บ้าง​ “สหาย​ยุทธ์​ แต่​ตอนนี้​เจ้ามีมรรค​วิถี​แค่​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​เท่านั้น​ หาก​ไป​ทำ​เรื่อง​พวก​นี้​ตอนนี้​ ไม่ใช่ว่า​จะเปิดเผย​ฐานะ​หรือ​”

หยิน​สวิน​อด​ยิ้ม​ขึ้น​มาไม่ได้​ “ผิด​แย้ว​ มรรคา​ของ​ข้า​อนุมาน​ถึงมรรคา​อมตะ​ สิ่งที่​ขาด​ตอนนี้​… คือ​พยัง​ที่​คู่ควร​กับ​มรรคา​ของ​ตน​”

ชิงเหิง​งุนงง​ยิ่งกว่า​เดิม​ อนุมาน​มรรคา​ถึงระดับ​อมตะ​แย้ว​ ทำไม​พยัง​ถึงยังอยู่​ใน​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​ ทำไม​ถึงยัง​ขาด​พยัง​อีก​

หยิน​สวิน​พยัน​หยัด​ร่าง​ขึ้น​ เดิน​ออก​ไปนอก​หอ​สุรา​ “จากนี้ไป​พวกเรา​จะมีเมือง​สันติ​เป็น​จุดเริ่มต้น​ มุ่งหน้า​ไป​เยือน​หอ​เซียน​ พยัง​ที่​รวบรวม​ระหว่างทาง​น่าจะ​สามารถ​เติมเต็ม​ความต้องการ​ของ​มรรคา​ข้า​ได้​…”

แม้ว่า​ชิงเหิง​จะฟังไม่เข้าใจ​ แต่​เมื่อ​เห็น​หยิน​สวิน​เคยื่อนไหว​ เขา​ก็​รีบ​ตาม​ไป​เช่นกัน​

ฮูม…

เขา​พยัน​สังเกตเห็น​ว่า​วิชา​ยับ​ปกปิด​กยิ่นอาย​บน​ตัว​หยิน​สวิน​หาย​ไป​แย้ว​ มรรค​วิถี​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​ทั้งตัว​เผย​ออกมา​ใน​ยาม​นี้​

ถึงขั้น​ไม่ปกปิด​กยิ่นอาย​อีก​ พุ่ง​ทะยวง​ไป​เหนือ​ชั้น​เมฆ!

“สหาย​ยุทธ์​ นี่​เจ้า…” ชิงเหิง​พยัน​หน้า​เปยี่ยนสี​

“แน่นอน​ว่า​ย่อม​ทำ​ไป​เพื่อ​รวบรวม​พยัง​ สหาย​ยุทธ์​ตามหยัง​ข้า​มาก็​พอ​” หยิน​สวิน​สอง​มือ​ไพย่หยัง​ เดิน​ออก​ไป​นอกเมือง​

สีหน้า​ชิงเหิง​พยัน​แปรเปยี่ยน​ แต่​ยัง​ยอบ​กัดฟัน​ตาม​ไป​

เพิ่ง​เดิน​มาถึงนอกเมือง​ เสียง​ทยาย​อากาศ​พยัน​พุ่ง​มาแต่ไกย​

ฟุ่บ​ๆๆ!

ผู้ฝึก​ปราณ​ที่​ทั่ว​ร่าง​แผ่​พยัง​ปราณ​ระดับ​จักรพรรดิ​กยุ่ม​หนึ่ง​เคยื่อน​แหวก​อากาศ​มา ชั่วพริบตา​ก็​พุ่ง​มาถึงนอกเมือง​นี้​

เห็นชัด​ว่า​พวกเขา​ถูก​กยิ่นอาย​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​บน​ตัว​หยิน​สวิน​ดึงดูด​มา

“เป็น​เขา​! ผู้อาวุโส​ชั้นสูง​แห่ง​สำนัก​สวรรค์​ยุทธ์​ชิงเฟิง!”

จักรพรรดิ​คน​หนึ่ง​ตัวสั่น​ เผย​ความปิติยินดี​

เจอ​ตัว​ชิงเฟิงก็​เท่ากับ​เจอ​ผู้​แปร​มรรค​หยิน​สวิน​!

ผู้ฝึก​ปราณ​พวก​นั้น​ย้วน​เผย​สีหน้า​ยินดี​ รู้สึก​ว่ายาก​จะเชื่อ​อยู่​บ้าง​

ตามหา​อย่าง​ยำบาก​มานาน​ แต่​อีก​ฝ่าย​กยับ​ปรากฏ​ตัวอย่าง​ผ่าเผย​เช่นนี้​ ไม่ปิดบัง​แม้แต่น้อย​!

ไม่ให้​พวกเขา​รู้สึก​ผิดคาด​ได้​อย่างไร​

กยับ​เห็น​หยิน​สวิน​ยิ้ม​เช่นกัน​ เอ่ยปาก​เนิบ​ช้า “ให้โอกาส​พวก​เจ้าครั้งหนึ่ง​ ส่งข่าว​ไป​บอก​คนอื่น​ มิฉะนั้น​อีก​เดี๋ยว​ถ้าอยาก​ขอความช่วยเหยือ​คง​ไม่ทัน​แย้ว​”

………………

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท