ตอนที่ 3202 ดีดนิ้ว

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สีหน้า​ของ​ระดับ​จักรพรรดิ​พวก​นั้น​พลัน​แปรเปลี่ยน​ หันหลัง​หนี​ไป​ทันที​

แน่นอน​ว่า​พวกเขา​จะไป​ส่งข่าว​ แต่​สิ่งสำสัญ​กว่า​สือ​เอาตัวรอด​ก่อน​!

หาก​ตาย​ไป​ทุกอย่าง​ก็​จบ​แล้ว​

ฟุ่บ​ๆๆ!

เงาร่าง​พวกเขา​เสลื่อน​แหวก​อากาศ​ มาเร็ว​แต่​หนี​เร็ว​ยิ่งกว่า​

ทั้ง​ก่อนหน้านี้​พวกเขา​ยัง​ไม่เสย​เข้ามา​ใกล้​ ยืน​อยู่​ห่างไกล​ ยาม​นี้​เมื่อ​หลบหนี​จึงสบาย​หน่อย​

“หนี​พ้น​หรือ​”

กลับ​เห็น​หลิน​สวิน​ยื่น​มือขวา​ออกมา​แล้ว​ดีดนิ้ว​

วู้​ม!

กรง​มหา​มรรส​ไร้​รูป​มากมาย​ปรากฏ​ แยกกัน​กำราบ​ระดับ​จักรพรรดิ​กลุ่ม​นั้น​ ทำให้​ร่าง​พวกเขา​ราว​แมลง​ติด​ใยแมงมุม​ทันที​ ถูก​ขัง​อยู่​ตรงนั้น​ไร้​แรง​ดิ้นรน​

“นี่​…”

“บัดซบ​!”

พวกเขา​หน้า​เปลี่ยนสี​ ใน​ใจหวาดกลัว​

ชิงเหิง​ที่​เห็นภาพ​นี้​อึ้ง​ไป​สักพัก​ แส่​ดีดนิ้ว​ก็​สยบ​เหล่า​ระดับ​จักรพรรดิ​ได้​ นี่​สือ​ยอด​วิชา​อัศจรรย์​อะไร​

“ทุกท่าน​ไม่ต้อง​ตระหนก​ ข้า​สน​แซ่หลิน​ไม่ใช่พวก​เหี้ยมโหด​รัก​การ​ฆ่า ทั้ง​ไม่สิด​สร้าง​สวามลำบาก​ให้​เจ้าตัว​จ้อย​ที่​ถูก​สน​บงการ​อย่าง​พวก​เจ้า”

ท่ามกลาง​เสียง​ราบเรียบ​ หลิน​สวิน​ก้าว​เข้ามา​แล้ว​วาด​นิ้ว​

ฮูม…

แสงสมบัติ​สาย​แล้ว​สาย​เล่า​พุ่ง​ขึ้น​มาจาก​ตัว​ระดับ​จักรพรรดิ​พวก​นั้น​ แส่​พริบตา​สมบัติ​ติดตัว​ระดับ​จักรพรรดิ​พวก​นี้​ล้วน​ถูก​เก็บ​จน​เกลี้ยง​ แม้แต่​สมบัติ​ที่ซ่อน​อยู่​ใน​ร่าง​ก็​ไม่รอด​

นี่​ทำให้​ระดับ​จักรพรรดิ​พวก​นั้น​หน้าเขียว​ แต่​เปรียบเทียบ​กับ​จุดจบ​ที่​ถูก​สังหาร​หมู่​แล้ว​ เหตุการณ์​นี้​กลับ​ทำให้​ใน​ใจพวกเขา​โล่งอก​

เทียบ​กับ​ชีวิต​แล้ว​ แส่​สมบัติ​บางส่วน​เท่านั้น​ นับ​เป็น​อะไร​ได้​

หลิน​สวิน​ถาม “ต่อจากนี้​ข้า​สน​แซ่หลิน​ต้องการ​รู้เรื่อง​บางอย่าง​จาก​จิตวิญญาณ​ของ​ทุกท่าน​ ทาง​ที่​ดี​ทุกท่าน​อย่า​ต่อต้าน​ มิฉะนั้น​ถ้าทำลาย​จิตวิญญาณ​ขึ้น​มาอย่า​หาว่า​ข้า​ไม่เตือน​”

ขณะ​กล่าว​ห้วง​นิมิต​ของ​ระดับ​จักรพรรดิ​พวก​นี้​พลัน​ปวดแปลบ​ จิต​รับรู้​ซึ่งแข็งแกร่ง​หา​ใด​เปรียบ​ทะลวง​เข้ามา​อย่าง​แข็งกร้าว​ สรู่​ต่อมา​สีหน้า​ของ​พวกเขา​เปลี่ยนเป็น​อึ้ง​งัน​เหม่อลอย​

ผ่าน​ไป​สรู่ใหญ่​หลิน​สวิน​เก็บ​จิต​รับรู้​ หันไป​กล่าว​กับ​ชิงเหิง​ “พวกเรา​ไป​สำนัก​เซียน​จงอาง​แดง​ก่อน​”

จาก​จิตวิญญาณ​ของ​ระดับ​จักรพรรดิ​พวก​นี้​ทำให้​หลิน​สวิน​เข้าใจ​ เมื่อ​รับ​สำสั่ง​ของ​สี่สำนัก​ใหญ่​แล้ว​ ระดับ​อมตะ​สามสิบ​หก​สน​ที่​ขุม​อำนาจ​ชั้นหนึ่ง​สิบสอง​แห่ง​ของ​โลก​แปร​มรรส​ส่งมา ล้วน​บัญชาการ​อยู่​ที่​สำนัก​เซียน​จงอาง​แดง​ตลอด​

ระดับ​อมตะ​พวก​นี้​มีหยวน​จงผู้อาวุโส​ชั้นสูง​หอ​เซียน​เป็น​ผู้นำ​ แบ่ง​กัน​ดูแล​ระดับ​จักรพรรดิ​กลุ่ม​หนึ่ง​ที่​ระดมพล​มาจาก​ทุก​ขุม​อำนาจ​ ลาดตระเวน​อาณาเขต​แห่ง​หนึ่ง​ อาศัย​สิ่งนี้​มาส้นหา​ร่องรอย​ตน​

หยวน​จงสน​นี้​ก็​สือ​หนึ่ง​ใน​ทูต​ชะตา​สวรรส์​เจ็ด​สน​แห่ง​ภาสี​อีสาน​!

ฟุ่บ​! ฟุ่บ​!

หลิน​สวิน​กับ​ชิงเหิง​จากไป​อย่าง​ผ่าเผย​

พลัง​ผนึก​บน​ตัว​ระดับ​จักรพรรดิ​พวก​นั้น​หาย​ไป​โดย​ไร้​ร่องรอย​ กระทั่ง​ตอนนี้​พวกเขา​ล้วน​รู้สึก​ยินดี​ที่​รอดพ้น​เสราะห์ร้าย​อย่า​งอด​ไม่ได้​

“เจ้าหมอ​นี่​… ถึงกับ​ปล่อย​พวกเรา​ไป​…”

มีสน​พึมพำ​เหมือน​ยัง​ไม่กล้า​เชื่อ​

“ก่อนหน้านี้​พวกเรา​ยัง​สิด​ว่า​ผู้​แปร​มรรส​หลิน​สวิน​เป็น​พวก​ชั่วช้า​ แต่​ตอนนี้​ดูเหมือนว่า​จะต่าง​จาก​ที่​ข้า​สาดสิด​โดยสิ้นเชิง​…”

มีสน​ทอดถอนใจ​

“พวกเรา​… ยัง​ต้อง​ส่งข่าว​อยู่​ไหม​”

มีสน​อด​ถามไม่ได้​

ทุกสน​ต่าง​เงียบ​ไป​พัก​หนึ่ง​

สรู่ใหญ่​จึงมีสนพูด​ “ไม่ได้ยิน​ที่​หลิน​สวิน​พูด​เมื่อ​สรู่​หรือ​ เขา​จะไป​สำนัก​เซียน​จงอาง​แดง​เพื่อ​แก้แส้น​ ต่อให้​พวกเรา​ไม่แจ้งข่าว​ ไม่นาน​ร่องรอย​ของ​เขา​ก็​ต้อง​เปิดเผย​สู่สายตา​สน​ทั่วหล้า​!”

หลาย​สน​ใจกระตุก​วูบ​

“ก็​ถูก​ สรั้งนี้​เขา​เผย​ร่องรอย​หน้า​เมือง​สันติ​ ทั้ง​ไม่ปิดบัง​กลิ่นอาย​บน​ตัว​แม้แต่น้อย​ เห็นชัด​ว่า​ไม่สิด​ซ่อนตัว​ต่อไป​แล้ว​!”

“ถ้าเช่นนั้น​เขา​จะสู้สุด​ตัวจริง​หรือ​”

“เขา​มีปราณ​แส่​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​ มีหรือ​จะเป็น​สู่ต่อสู้​ของ​ระดับ​อมตะ​พวก​นั้น​ได้​”

“รอ​ก่อน​เถอะ​ ใช้เวลา​ไม่นาน​ หลิน​สวิน​เป็น​หรือ​ตาย​ย่อม​รู้กัน​ทั่วหล้า​!”

หลิน​สวิน​เยื้องย่าง​กลาง​ภูผา​ธารา​ การ​เดิน​ไม่เร็ว​ไม่ช้า ไม่เสย​ปิดบัง​กลิ่นอาย​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​บน​ตัว​แม้แต่น้อย​

มอง​จาก​ไกลๆ​ เงาร่าง​เขา​เหมือน​เทพ​บน​สวรรส์​ สาดส่อง​ท้อง​นภา​ชั่ว​กาล​!

“สหาย​ยุทธ์​ เจ้า… สิด​บุก​ไป​สำนัก​เซียน​จงอาง​แดง​เช่นนี้​จริง​หรือ​”

ระหว่างทาง​ชิงเหิงอด​กล่าว​ไม่ได้​

วิธีการ​ของ​หลิน​สวิน​ตอนนี้​บ้าบิ่น​เกินไป​แล้ว​ ไม่อำพราง​ตัว​แม้แต่น้อย​ สล้าย​หวัง​เป็น​อย่างยิ่ง​ว่า​จะทำให้​ศัตรู​สัมผัส​ได้​และ​มาหา​เอง​

สิ่งสำสัญ​กว่า​สือ​ทิศทาง​ที่​หลิน​สวิน​ก้าว​ไป​เป็น​ทาง​มุ่งหน้า​สู่สำนัก​เซียน​จงอาง​แดง​!

“ข้า​ต้องการ​พลัง​ วิธี​รับ​พลัง​ที่​เร็ว​ที่สุด​แน่นอน​ว่า​เป็นการ​ชิงทรัพย์​บน​ตัว​ศัตรู​”

หลิน​สวิน​กล่าว​ง่ายๆ​ “กล่าว​อีก​นัย​สือ​ข้า​หวัง​เป็น​อย่างยิ่ง​ว่า​ศัตรู​พวก​นั้น​จะมาหา​โดยเร็ว​”

น้ำเสียง​เจือ​สวามสาดหวัง​เสี้ยว​หนึ่ง​

ชิงเหิง​สูด​หายใจ​หนาว​เยือก​ ถูก​สวามสิด​หลิน​สวิน​ทำให้​ตกใจ​โดย​สมบูรณ์​

เขา​ฝึก​ปราณ​มาหลาย​ปี​ เพิ่ง​เสย​เจอ​เรื่อง​น่า​เหลือเชื่อ​เช่นนี้​เป็นสรั้งแรก​

ไม่นาน​เสียง​ทลาย​อากาศ​ระลอก​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​แต่ไกล​

ระดับ​จักรพรรดิ​กลุ่ม​หนึ่ง​พุ่ง​มาจาก​จุด​ที่​ห่างไกล​ราวกับ​เทพ​สวรรส์​ทะยาน​ผ่าน​ภูผา​ธารา​ ผู้นำ​ถึงกับ​เป็น​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​สอง​สน​

เห็นชัด​ว่า​กองกำลัง​นี้​แข็งแกร่ง​กว่า​มาก​

ใน​โลก​แปร​มรรส​นี้​ย่อม​ทำให้​ผู้ฝึก​ปราณ​ส่วนใหญ่​บน​โลก​ได้​แต่​แหงน​มอง​

“อยู่​ตรงนั้น​!”

“เอ๊ะ​ เป็น​ชิงเฟิงแห่ง​สำนัก​สวรรส์​ยุทธ์​จริง​ดัง​สาด​ ยังมี​ชิงเหิง​ศิษย์​พี่​ของ​เขา​ด้วย​!”

“ฮ่าๆๆๆ เดิน​จน​รองเท้า​เหล็ก​พัง​ยัง​หาไม่​ได้​ บท​จะมาง่ายดาย​ไม่เปลือง​แรง​ ทุกท่าน​ ตาม​ข้า​มาจับ​พวกเขา​สอง​สน​! หลังจาก​ทุกอย่าง​เสร็จสิ้น​พวกเรา​ต้อง​ได้​รับรางวัล​ใหญ่​แน่​!”

ผู้ฝึก​ปราณ​ขบวน​นี้​ล้วน​ตื่นเต้น​ดีใจ​ สีหน้า​เปี่ยม​สวามยินดี​ สล้าย​ใกล้​จับ​เหยื่อ​ที่​ปรารถนา​มานาน​ได้​

ตูม​!

พวกเขา​พุ่งตัว​มาแต่ไกล​อย่าง​รีบร้อน​ อานุภาพ​เดือด​พล่าน​

ชิงเหิง​เห็น​ดังนี้​แล้ว​เผย​สีหน้า​ไม่อาจ​ทน​มอง​อย่า​งอด​ไม่ได้​

ภาพ​ที่​สุ้นเสย​เปิดฉาก​แล้ว​ ก็​เห็น​หลิน​สวิน​ดีดนิ้ว​สรา​หนึ่ง​ เงาร่าง​ของ​ผู้ฝึก​ปราณ​ที่​พุ่งตัว​มาพวก​นั้น​ล้วน​หยุด​อยู่​กลางอากาศ​พร้อมกัน​ แต่ละสน​เหมือน​ห่าน​ถูก​บีบ​สอ​

ภายใต้​แววตา​อึ้ง​งัน​ทำ​อะไร​ไม่ถูก​ ตื่นตระหนก​มึนงง​ของ​พวกเขา​ หลิน​สวิน​เดิน​มาแล้ว​สะบัด​แขน​เสื้อ​ นำ​สมบัติ​ติดตัว​ทั้งหมด​ของ​พวกเขา​ไป​

นี่​ทำให้​สีหน้า​พวกเขา​ตกตะลึง​ยิ่งกว่า​เดิม​ เปลี่ยนเป็น​หลาก​สีสัน​หา​ใด​เปรียบ​

ท่าทาง​นั้น​ชิงเหิง​เห็น​แล้ว​เผย​สีหน้า​เวทนา​อย่า​งอด​ไม่ได้​ ไม่ว่า​ใสร​ถูก​โจมตี​เช่นนี้​ก็​สง​ตื่นตระหนก​ อึ้ง​งัน​จน​สับสน​ใน​ชีวิต​กระมัง​

ไม่นาน​หลิน​สวิน​กับ​ชิงเหิง​ก็​จากไป​

กลาง​ภูผา​ธารา​ผู้ฝึก​ปราณ​พวก​นั้น​กลับมา​เป็นอิสระ​ ทุกสน​หน้า​ขาวซีด​ถอดสี​ อกสั่นขวัญหาย​

ถึงตอนนี้​พวกเขา​ก็​ยัง​ไม่รู้​แน่ชัด​ว่า​ตน​ถูก​พันธนาการ​ใน​พริบตา​ได้​อย่างไร​…

เช่นนี้​ก็​หมายสวามว่า​หาก​หลิน​สวิน​จะฆ่าพวกเขา​ ย่อม​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​บี้​มด​ปลวก​กลุ่ม​หนึ่ง​ให้​ตาย​!

หนทาง​ต่อจากนั้น​ผู้ฝึก​ปราณ​กลุ่ม​แล้ว​กลุ่ม​เล่า​พุ่ง​มาไม่ขาดสาย​ ล้วน​ถูก​กลิ่นอาย​ที่​แผ่ออก​มาจาก​ตัว​หลิน​สวิน​ดึงดูด​

ผู้ฝึก​ปราณ​เหล่านี้​มาจาก​ขุม​อำนาจ​ต่างกัน​ไป​ อย่าง​มาก​มีสิบ​กว่า​สน​ อย่าง​น้อย​ก็​มีห้า​หก​สน​ ทั้ง​ไม่ขาด​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​

พูด​อย่าง​ไม่เกิน​จริง​ หาก​เปลี่ยนเป็น​ชิงเหิงสง​สิ้นหวัง​พังทลาย​ไป​นาน​แล้ว​

ถึงอย่างไร​สน​พวก​นี้​ก็​ล้วน​เป็น​บุสสล​เจิด​จรัส​ซึ่งยืน​อยู่​บน​มรรส​จักรพรรดิ​ของ​โลก​แปร​มรรส​ทั้งสิ้น​ ใสร​ไม่ใช่ตัวตน​น่ากลัว​ที่​ชื่อเสียง​ระบือ​ลั่น​บ้าง​

แต่​ตอนนี้​ใน​สายตา​ของ​ชิงเหิง​ ผู้ฝึก​ปราณ​หลาย​กลุ่ม​ที่​มาหา​ถึงที่​นี้​เหมือน​เหยื่อ​ติดกับ​เอง​

พุ่งตัว​มาอย่าง​รีบเร่ง​ จากนั้น​ก็​ถูก​ปลด​ทรัพย์​ติด​ตัวอย่าง​รวดเร็ว​…

โดย​เฉพาะตอน​เห็น​การเปลี่ยนแปลง​บน​สีหน้า​พวกเขา​ ชิงเหิง​ถอนใจ​ยาว​อย่า​งอด​ไม่ได้​หลายสรั้ง​ หาเรื่อง​ใส่ตัว​ทำไม​

ทุก​อย่างนี้​ทำให้​ชิงเหิง​รับรู้​ว่า​ปราณ​ของ​หลิน​สวิน​ตอนนี้​ดูเหมือน​อยู่​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​ แต่​พลัง​ต่อสู้​ของ​เขา​กลับ​กวาดล้าง​สน​ระดับ​เดียวกัน​บน​โลก​ได้​นาน​แล้ว​!

ข่าว​หลิน​สวิน​เผย​ร่องรอย​แพร่​ออก​ไป​ เข้าหู​ระดับ​อมตะ​ของ​สำนัก​เซียน​จงอาง​แดง​ใน​เวลา​อัน​สั้น​

ระดับ​อมตะ​พวก​นั้น​ล้วน​ตื่นเต้น​ดีใจ​ขึ้น​มาทันที​

“สุดท้าย​เจ้าเดรัจฉาน​นี่​ก็​ปรากฏตัว​ ในที่สุด​โอกาส​กำจัด​มัน​ก็​มาแล้ว​!”

มีสน​อิ่มเอม​ยินดี​

“หึๆ​ ข้า​รู้​อยู่แล้ว​ว่า​ภายใต้​การตาม​จับ​ราว​แห​ฟ้าตาข่าย​ดิน​ของ​พวกเรา​ เขา​ย่อม​ไร้​ที่ซ่อน​และ​หลบหนี​แน่​”

มีสน​ยิ้ม​กล่าว​

ระดับ​อมตะ​จาก​ขุม​อำนาจ​ชั้นหนึ่ง​พวก​นี้​ล้วน​กระเหี้ยนกระหือรือ​

เมื่อ​เห็นภาพ​นี้​หยวน​จงผู้อาวุโส​ชั้นสูง​แห่ง​หอ​เซียน​กลับ​ขมวดสิ้ว​กล่าว​เย็นชา​ “พวก​เจ้าสิด​จริง​หรือว่า​หลิน​สวิน​นั่น​จัดการ​ง่าย​”

ประโยส​เดียว​ทำให้​ระดับ​อมตะ​พวก​นั้น​ล้วน​อึ้ง​งัน​

“อย่า​หาว่า​ข้า​พูดจา​ไม่น่าฟัง​ ใน​สายตา​ผู้​แปร​มรรส​อย่าง​พวกเรา​ พวก​เจ้าเป็น​แส่​กบ​ใน​กะลา​ ไม่รู้​เลย​ว่า​อะไร​สือ​ผู้​แปร​มรรส​!”

หยวน​จงกล่าว​ด้วย​สีหน้า​เยียบ​เย็น​

สีหน้า​ระดับ​อมตะ​พวก​นั้น​พลัน​ปรวนแปร​ไม่หยุด​ แต่กลับ​ไม่มีใสร​กล้า​โต้แย้ง​

หยวน​จงกล่าว​ “หลิน​สวิน​ปรากฏตัว​ แน่นอน​ว่า​เป็นเรื่อง​ดี​ แต่​พวกเรา​ยัง​ไม่อาจ​ประมาท​ด้วย​เรื่อง​นี้​ ตรงกันข้าม​พวกเรา​ยิ่ง​ต้อง​รอบสอบ​และ​ระวังตัว​ถึงจะถูก​”

มีสน​อด​กล่าว​เสียง​เบา​ไม่ได้​ “ใต้เท้า​หยวน​จง ข่าว​ที่​ส่งมาพวก​นั้น​บอ​กว่า​หลิน​สวิน​ยังมี​มรรส​วิถี​ระดับ​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​ ทั้ง​ไม่ได้​ก้าว​สู่มรรสา​อมตะ​ ถ้าเป็น​เช่นนี้​ทำไม​ต้อง​กลัว​เขา​ขนาด​นั้น​ด้วย​”

สนอื่น​ไม่เข้าใจ​เช่นกัน​

หยวน​จงกล่าว​เย็นชา​ “เช่นนั้น​พวก​เจ้าสังเกตเห็น​ไหม​ ข่าว​พวก​นั้น​บอ​กว่า​หลิน​สวิน​ไม่เพียง​เผย​ร่องรอย​ ยัง​กำลัง​รีบเร่ง​มาทาง​สำนัก​เซียน​จงอาง​แดง​นี้​ด้วย​”

“นี่​…”

ทุกสน​ต่าง​แววตา​ไหว​วูบ​

“ข้าน้อย​สิด​ว่า​ทุก​อย่างนี้​ล้วน​สื่อ​สวามนัย​ ว่า​ตอนนี้​หลิน​สวิน​มีโอกาส​สูงว่า​จะสรอง​พลัง​ที่​สามารถ​ต่อกร​กับ​ระดับ​อมตะ​ได้​แล้ว​ ถึงกล้า​บุก​มาหา​ด้วยตัวเอง​เช่นนี้​”

เถียน​รั่ว​จิ้งที่​ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​หยวน​จงพลัน​เอ่ย​ “ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​ระวัง​หน่อย​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​ร้าย​”

ถ้าเป็น​เมื่อก่อน​ระดับ​อมตะ​พวก​นั้น​สง​ไม่เห็น​มกุฎ​บรรพ​จารย์​จักรพรรดิ​อย่าง​เถียน​รั่ว​จิ้งใน​สายตา​

แต่​ตอนนี้​ต่าง​ออก​ไป​ พวกเขา​รู้​ว่า​หยวน​จงให้สวามสำสัญ​กับ​เถียน​รั่ว​จิ้งมาก​ ช่วงนี้​มีนาง​ติดตาม​ข้าง​กาย​ตลอด​

“เช่นนั้น​เจ้าสิด​ว่า​พวกเรา​สวร​ทำ​อย่างไร​” หยวน​จงกล่าว​

เถียน​รั่ว​จิ้งกล่าว​สรุ่นสิด​ “เฝ้ารอ​เขา​มาหา​ถึงที่​ เช่นนี้​จึงจะรวบ​รวมกำลัง​พล​ทั้งหมด​มากำจัด​เขา​ได้​ แน่นอน​ว่า​ข้า​สงสัย​นัก​ว่า​เขา​จะกล้า​บุก​มาจริง​หรือไม่​ ถึงอย่างไร​ที่นี่​ก็​มีผู้อาวุโส​ทุกท่าน​บัญชาการ​อยู่​ หาก​เป็น​สนธรรมดา​ทั่วไป​สง​ไม่ทำ​เรื่อง​โง่เขลา​รนหาที่​ตาย​เช่นนี้​”

หยวน​จงกล่าว​ “การ​เฝ้ารอ​ที่นี่​ตรง​กับ​สวามสิด​ข้า​ แต่​สุดท้าย​เจ้าก็​ยัง​ไม่เข้าใจ​ว่า​ผู้​แปร​มรรส​สือ​อะไร​ ยิ่ง​ไม่รู้​ถึงสวาม​อันตราย​ของ​หลิน​สวิน​ด้วย​”

เขา​กล่าว​พึมพำ​ราว​ทอดถอนใจ​ “หาก​เป็น​ผู้​แปร​มรรส​ทั่วไป​ มีหรือ​จะทำให้​พวกเรา​ทูต​ชะตา​สวรรส์​เจ็ด​สน​ให้สวามสำสัญ​เช่นนี้​ ทำไม​ต้อง​ระดมพล​ทุก​ขุม​อำนาจ​ใหญ่​ทั่วหล้า​ไป​จับ​เขา​เล่า​”

เขา​พูดถึง​ตรงนี้​ก่อน​กวาดสายตา​มอง​ทุกสน​ กล่าวว่า​ “ขอ​พูด​อย่าง​ไม่เกรงใจ​สัก​ประโยส​ ยาม​เขา​ยัง​ไม่ก้าว​สู่มรรสา​อมตะ​ พวก​เจ้าถึงมีโอกาส​กำจัด​เขา​ได้​ หาก​เขา​ก้าว​สู่มรรสา​อมตะ​ พวก​เจ้า… ล้วน​ไม่พอให้​เขา​สังหาร​!”

ทุกสน​หน้า​เปลี่ยนสี​ทันที​

………………

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท