ตอนที่ 3240 ตอนจบ

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ใน​โถงใหญ่​

ใน​อก​หลิน​สวิน​อุ้ม​ทารก​หญิง​ที่​เพิ่ง​ลืมตา​ดู​โลก​ ใบหน้า​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​อบอุ่น​

“ท่าน​พ่อ​ ถังเจียง​บอ​กว่า​เรื่อง​ตั้งชื่อ​ของ​นาง​หนู​นี่​ให้​ท่าน​เป็น​คน​ตั้ง​”

ด้าน​ข้าง​หลิน​ฝาน​หัวเราะ​กล่าว​

สอง​สามีภรรยา​หลิน​เห​วิน​จิ้งก็​อมยิ้ม​เช่นกัน​

เก้า​พี่น้อง​อย่าง​พวก​หลิน​เหิงอวิ๋น​ หลิน​เหิงห​ลัน​ก็​กำลัง​สังเกต​หลิน​สวิน​ แววตา​เจือ​ความประหลาดใจ​ สีหน้า​ยาก​จะปิด​ความตื่นเต้น​

ซย่า​จื้อ​และ​อู๋ซวง​ยืน​อยู่​อีก​ข้าง​ของ​หลิน​สวิน​

หลิน​สวิน​ใคร่ครวญ​คร่าวๆ​ แล้ว​กล่าวว่า​ “เช่นนั้น​ก็​เรียก​ว่า​เหิง​หยวน​แล้วกัน​”

ใน​ผ้าอ้อม​ แม้ทารก​หญิง​เพิ่ง​ถือกำเนิด​ กลับ​เห็นชัด​ว่า​หน้าตา​งดงาม​ ดวง​ตาดำ​สว่างไสว​ ขณะ​หลิน​สวิน​เอ่ย​คำ​ว่า​ ‘เหิง​หยวน​’ ออกมา​ นาง​ถึงกับ​ร้อง​อ้อแอ้​ออกมา​คล้าย​ดีใจ​มาก​

นี่​ก็​ปกติ​

ถึงอย่างไร​นาง​หนู​คน​นี้​ก็​ไม่ใช่ทายาท​ของ​คนธรรมดา​ ใน​ร่าง​มีเลือด​ของ​หลิน​ฝาน​และ​ถังเจียง​ไหล​อยู่​ เรียก​ได้​ว่า​เป็น​อัจฉริยะ​แต่กำเนิด​

และ​ด้วย​มรรค​วิถี​ของ​หลิน​สวิน​ ตอนที่​เขา​ตั้งชื่อ​ก็​มีพลัง​โชคชะตา​ไร้​รูป​พุ่ง​เข้าไป​ใน​ร่าง​ของ​นาง​หนู​คน​นี้​แล้ว​

“เหิง​หยวน​ ชื่อ​ดี​ยิ่ง​!”

หลิน​ฝาน​ร้อง​ออกมา​

“ชื่อ​ที่​บิดา​เจ้าตั้ง​ ต่อให้​ไม่น่าฟัง​แค่​ไหน​เจ้ากล้า​บอ​กว่า​ไม่เพราะ​หรือ​” จ้าว​จิ่งเซวียน​ยิ้ม​ออกมา​

ทุกคน​อด​ขำ​ไม่ได้​

วันนี้​การ​กลับมา​ของ​หลิน​สวิน​สร้าง​ความฮือฮา​ต่อ​ทั้ง​เบื้องบน​และ​เบื้องล่าง​ของ​ตระกูล​หลิน​ จากนั้น​ข่าว​พลัน​กระจาย​ออก​ไป​ ถูก​ผู้ฝึก​ปราณ​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ ตระกูล​จี้ สำนัก​ยุทธ์​ก่อเกิด​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ล่วงรู้​

เกิด​ความฮือฮา​ยิ่งใหญ่​ขึ้น​ทันที​

หลังจากนั้น​ทั้งเมือง​เทพ​ศุภโชค​รวมถึง​โลก​ยุคสมัย​อื่นๆ​ ของ​ทั้ง​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ ก็ได้​รู้​ข่าว​ที่​หลิน​สวิน​กลับมา​ ทำให้​ทั่วหล้า​เกิด​ความฮือฮา​ครั้ง​ใหญ่​

หลิน​สวิน​!

ใน​โลก​หล้า​ตอนนี้​ ทอดสายตา​มอง​ไป​ใน​หมื่น​โลก​ ใคร​กล้า​ลืม​บารมี​อัน​เป็นตัวแทน​ของ​เบื้องหลัง​ชื่อ​นี้​

เพียงแต่​เรื่อง​ของ​หลิน​สวิน​ใน​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​ ถึงตอนนี้​ยัง​ไม่มีคน​รู้​

ไม่เช่นนั้น​ความฮือฮา​ที่​เกิดขึ้น​ย่อม​ไม่ธรรมดา​

……

สามเดือน​ให้หลัง​

เมือง​เทพ​ศุภโชค​ ตระกูล​หลิน​

ใน​โถงใหญ่​ หลิน​ฝาน​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ “ก็​ไม่รู้​ใคร​แพร่ข่าว​ออก​ไป​ ทำให้​ตอนนี้​ใน​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ ขุม​อำนาจ​ใน​แต่ละ​อารยธรรม​ยุคสมัย​รู้เรื่อง​ที่​ท่าน​พ่อ​จะแต่งงาน​กับ​ท่าน​น้า​ซย่า​จื้อ​ใน​อีก​หนึ่ง​เดือน​ให้หลัง​หมด​แล้ว​”

ช่วงนี้​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ครึกครื้น​อย่าง​ไม่เคย​เป็นมา​ก่อน​ ผู้ยิ่งใหญ่​ไม่รู้​เท่าไร​ล้วน​มาเยือน​ไม่ขาดสาย​ ล้วน​เฝ้ารอ​วันที่​หลิน​สวิน​จะแต่งงาน​

ถึงขั้น​ที่​เฒ่าดึกดำบรรพ์​บางส่วน​ซึ่งปิด​ด่าน​มาไม่รู้​นาน​เท่าไร​ก็​มาด้วย​

ถังเจียง​ที่อยู่​ข้างๆ​ เอ่ย​เสียง​อ่อนโยน​ “ท่าน​พี่​ ท่าน​พ่อ​เป็น​บุคคล​ระดับ​ไหน​ ทุก​การเคลื่อนไหว​ของ​เขา​ต้อง​เป็นที่​จับตามอง​ของ​ทั่วหล้า​อยู่แล้ว​ ยิ่งกว่านั้น​เรื่องใหญ่​อย่าง​การ​แต่งงาน​แม้อยาก​ปิด​ก็​ปิด​ไม่อยู่​หรอก​”

หลิน​ฝาน​ยิ้ม​ขื่น​ “ตอนแรก​ท่าน​พ่อ​ยัง​พูด​อยู่เลย​ว่า​จะให้​เรียบง่าย​สักหน่อย​ เชิญแค่​ญาติมิตร​มาร่วม​งานแต่ง​ แต่​ตอนนี้​… คง​ไม่ได้​แล้ว​”

“เรื่อง​นี้​ย่อม​ไม่อาจ​จัดการ​อย่าง​เรียบง่าย​เกินไป​ได้​”

จู่ๆ จ้าว​จิ่งเซวียน​ก็​เดิน​เข้ามา​ “ตั้งแต่​สมัย​เด็ก​ ท่าน​น้า​ซย่า​จื้อ​ของ​เจ้าก็​อยู่​เคียงข้าง​ท่าน​พ่อเจ้า​แล้ว​ ตอนนี้​ในที่สุด​ทั้งสอง​ก็ได้​ลงเอย​กัน​ ข้า​เอง​ก็​ดีใจ​มาก​ ใน​เมื่อ​ข่าว​แพร่​ออก​ไป​แล้ว​ เช่นนั้น​งานแต่ง​ก็​ต้อง​จัด​ให้​ดี​หน่อย​”

หลิน​ฝาน​ประหลาดใจ​ เอ่ย​ว่า​ “ท่าน​แม่ ท่าน​ไม่หึงหวง​สักนิด​เลย​หรือ​”

จ้าว​จิ่งเซวียน​แค่น​เสียง​ขึ้น​จมูก​อย่าง​เย็นเยียบ​ “เจ้าจะเข้าใจ​อะไร​ หยุด​พูด​ไร้สาระ​ เรื่อง​นี้​ให้​เจ้าจัดการ​ด้วยตัวเอง​ หาก​จัด​ได้​แย่​ข้า​ไม่ให้อภัย​เจ้าแน่​!”

พูด​จบ​ก็​หมุนตัว​จากไป​

ถังเจียง​เม้มปาก​ยิ้ม​ “ท่าน​พี่​ หลาย​วันนี้​ก็​ต้อง​ดู​ความสามารถ​ของ​ท่าน​แล้ว​”

หลิน​ฝาน​ลุก​ขึ้​กล่าว​ “ข้า​จะไปหา​ตัว​ช่วย​เดี๋ยวนี้​”

วันนั้น​หลิน​ฝาน​ได้​ไป​เยี่ยม​ผู้ยิ่งใหญ่​อย่าง​พวก​เสวียน​เฟยห​ลิง​ ตู๋​กู​ยง​ ฟางเต้า​ผิง​แห่ง​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ จี้หวัง​ถู จี้ซี จี้ซาน​ไห่​แห่ง​ตระกูล​จี้ รวมถึง​สหาย​ของ​หลิน​สวิน​อย่าง​พวก​อา​หู​ เจ้าคางคก​ อา​หลู่​ เจ้านก​ดำ​เป็นต้น​

เมื่อ​รู้​จุดประสงค์​ของ​หลิน​ฝาน​ ทุกคน​ต่าง​ตอบรับ​อย่าง​ยินดี​

และ​พร้อมกับ​เวลา​ที่​ผ่าน​ไป​วันแล้ววันเล่า​

เมือง​เทพ​ศุภโชค​เต็มไปด้วย​ผู้คน​ สามารถ​มองเห็น​เงาร่าง​ของ​พวก​น่ากลัว​ได้​ทุก​แห่งหน​ ล้วน​เป็น​ผู้ยิ่งใหญ่​ที่​มาจาก​แต่ละ​ยุคสมัย​ใน​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​

อีก​ทั้ง​ทุกคน​ยัง​มาถึงก่อนเวลา​ เตรียม​ของขวัญ​แสดงความยินดี​อย่าง​ตั้งใจ​

ทว่า​ที่​น่า​อักอ่วน​คือ​ เทียบเชิญ​งานแต่ง​ของ​หลิน​สวิน​กลับ​ไม่ใช่สิ่งที่​ใคร​ก็​สามารถ​ได้มา​ครอง​ง่ายๆ​

แม้เป็น​หัวหน้า​ตระกูล​ของ​เผ่า​เทพ​ ใช้ทุก​วิถีทาง​แล้วก็​ยัง​ยาก​จะได้มา​

แต่​ไม่มีใคร​ยอมแพ้​ รอคอย​อยู่​ตลอด​ ต่อให้​ไม่ได้​ร่วม​งานแต่ง​ อย่าง​น้อย​ก็​มีโอกาส​ไปดู​ว่า​ยาม​งานแต่ง​เริ่มต้น​ จะมีบุคคล​เลิศ​ล้ำ​เท่าไร​ไป​ร่วมงาน​

ควร​รู้​ว่าด้วย​ฐานะ​ของ​หลิน​สวิน​ เรียก​ได้​ว่า​เป็น​บุคคล​อันดับ​หนึ่ง​ทั่วหล้า​แล้ว​ เป็น​บุคคล​ชั้นเลิศ​ใน​หมื่น​กาล​

คน​ที่​สามารถ​เข้าร่วม​งานแต่งงาน​ของ​เขา​ได้​ จะธรรมดา​ได้​อย่างไร​

ใน​สายตา​ผู้ยิ่งใหญ่​เหล่านั้น​ แทนที่จะ​บอ​กว่า​เป็น​งานแต่งงาน​ของ​หลิน​สวิน​ สู้บอ​กว่า​เป็น​เหตุการณ์​ใหญ่​อัน​เป็นที่​จับตามอง​ของ​ปวงชน​ทั่วหล้า​จะดีกว่า​!

ในที่สุด​วัน​แต่งงาน​ก็​มาถึงแล้ว​

วันนี้​เหนือ​ฟ้าเมือง​เทพ​ศุภโชค​เต็มไปด้วย​เมฆมงคล​ แสงประกาย​หมื่น​จั้ง แสงอาทิ​จตย์​งดงาม​ปาน​ม่าน​น้ำตก​ทิ้งตัว​ลงมา​ เสียง​มรรค​ดั่ง​เสียงสวรรค์​ดัง​ขึ้น​เป็น​ระลอก​ ราวกับ​เสียง​หงส์​กระจ่าง​ใส คลาย​เสียง​ฆ้อง​กลอง​ดัง​แว่ว​อยู่​กลาง​ฟ้าดิน​ เจือ​กลิ่นอาย​มหา​อิสระ​อัน​เปรมปรีดิ์​เปี่ยม​สุข​

ทั้งเมือง​เทพ​ศุภโชค​ล้วน​อาบ​อยู่​ภายใน​บรรยากาศ​เฉลิมฉลอง​

ส่วน​ผู้ฝึก​ปราณ​ที่​รวมตัวกัน​อยู่​ใน​เมือง​ต่าง​ตกตะลึง​กับ​ปรากฏการณ์​ประหลาด​เลิศ​ล้ำ​ต่างๆ​ ที่​เมื่อ​รวม​เข้า​ด้วย​ก็​กลายเป็น​ทิวทัศน์​ยิ่งใหญ่​อัน​โชติช่วง​ชัชวาล​ ทำให้​พวกเขา​แทบ​อยาก​จะก้มลง​หมอบกราบ​

และ​ใน​แดน​ลับ​ดวงกมล​เวลานี้​ก็​เปลี่ยน​โฉมใหม่​

โถงใหญ่​ซึ่งตั้งอยู่​ตรงกลาง​แขวน​โคม​ผูก​ผ้า​ปูพรม​แดง​

หน้า​โถงใหญ่​มีซุ้มประตู​โค้ง​ขนาดใหญ่​ ซุ้มประตู​ล้วน​วิวัฒน์​มาจาก​เมฆมงคล​มหา​มรรค​ ท่วงทำนอง​มรรค​ไหลหลั่ง​ เดิน​อยู่​ใน​นั้น​ล้วน​สามารถ​สัมผัส​ถึงกลิ่นอาย​มหา​มรรค​อัน​ทรงพลัง​ไร้​ใด​เปรียบ​

หาก​ฝึก​ปราณ​อยู่​ภายใน​ยอม​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​การ​ได้รับ​มหา​วาสนา​ศุภโชค​ใหญ่​ แต่​เวลานี้​ประโยชน์​ของ​ซุ้มประตู​โค้ง​นี้​กลับ​ธรรมดา​มาก​ คือ​ใช้ต้อน​รับแขก​เท่านั้น​…

เงาร่าง​มากมาย​รอ​อยู่​ที่นั่น​นาน​แล้ว​

มีคน​ตระกูล​หลิน​ซึ่งสามีภรรยา​หลิน​เห​วิน​จิ้งเป็น​แกนนำ​ อย่างเช่น​หลิน​จง หลิน​ไหว​หย่วน​ หลิน​เสวี่ยเฟิง​เป็นต้น​

ที่อยู่​ติดๆ​ กัน​คือ​สหาย​สนิท​ของ​หลิน​สวิน​ อย่าง​พวก​เสวียน​จิ่วอิ้น​ จิน​เทียน​เสวียน​เย​วี่ย​ ซูไป๋​และ​ภรรยา​กู้​ซี อา​หู​ เจ้านก​ดำ​ อา​หลู่​ เสี่ยว​เทียน​ เจ้าจิ๊บจิ๊บ​ เจ้าคางคก​ วิญญาณ​กระบวน​ค่าย​กล​เสี่ยว​อู่​เป็นต้น​

หรือ​อย่าง​พวก​อวี๋เป่ย​โต้​ว​ ฉู่เฟิงแห่ง​ภาคี​นัก​สลัก​วิญญาณ​ของ​จักรวรรดิ​จื่อเย่า​ เหล่า​อาจารย์​จาก​สำนักศึกษา​มฤค​มรกต​ พ่อ​ลูก​กู่​เยี่ยน​ผิง​ กู่​เหลียง​จาก​โถงทองคำ​ สืออวี่​และ​สือ​หลิน​หลา​งจาก​อัคร​การค้า​เป็นต้น​ ก็​ล้วน​อยู่​ใน​นั้น​

อีก​ด้าน​คือ​พวก​เสวียน​เฟยห​ลิง​ ตู๋​กู​ยง​ ฟางเต้า​ผิง​ หยวน​อู่​เทียน​จาก​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​

เงาร่าง​ของ​อริยบุคคล​ดินแดน​รกร้าง​โบราณ​อย่าง​จักรพรรดิ​สงคราม​อู๋​ยาง​ อริ​ย​พุทธ​ซิงเจีย​ จักรพรรดิ​นรก​เลือด​ทมิฬ​ บุตร​นรก​ก็​อยู่​ใน​นั้น​

ญาติมิตร​เหล่านี้​อาศัย​อยู่​ใน​เมือง​เทพ​ศุภโชค​มานาน​แล้ว​ ช่วง​ที่ผ่านมา​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​เตรียม​งานแต่ง​ของ​หลิน​สวิน​มาโดยตลอด​

และ​วันนี้​ พวกเขา​ก็​กำลังจะ​ได้​เป็น​ประจักษ์พยาน​ให้​กับ​งานแต่งงาน​ซึ่งเป็น​จับตามอง​ของ​ทั่วหล้า​ด้วยตัวเอง​!

พร้อมกับ​เวลา​ที่​ล่วงเลย​

ทั้ง​งาน​จัดเตรียม​เสร็จ​แล้ว​ ทั้ง​ภายใน​ภายนอก​ล้วน​มีบรรยากาศ​ยิ่งใหญ่​ผ่าเผย​ รุ่งโรจน์​โชติช่วง​หมื่น​กาล​

หลิน​ฝาน​กับ​ถังเจียง​พา​ลูก​ๆ มายืน​อยู่​นอก​โถง เตรียม​ต้อง​รับ​แขกเหรื่อ​

ลูก​ทั้ง​เก้า​ของ​หลิน​ฝาน​ได้แก่​ ลูกชาย​คนโต​หลิน​เหิงอวิ๋น​ ลูกชาย​คน​รอง​หลิน​เหิง​เซียว​ ลูกสาว​คน​ที่สาม​หลิน​เหิง​เจวี๋ย​ ลูกสาว​คน​ที่สี่​หลิน​เหิง​ซาน​ ลูกชาย​คน​ที่​ห้า​หลิน​เหิง​ชิว​ ลูกชาย​คน​ที่หก​หลิน​เหิง​เสวี่ย​ ลูกชาย​คน​ที่​เจ็ด​หลิน​เหิงเฟิง​ ลูกสาว​คน​ที่​แปด​หลิน​เหิงห​ลัน​ ลูกชาย​คน​ที่​เก้า​หลิน​เหิง​ตู้​

แน่นอน​ว่า​หลิน​เหิง​หยวน​ที่​เด็ก​ที่สุด​ยังอยู่​ใน​ผ้าอ้อม​

สามารถ​พูด​ได้​ว่า​ใน​งานแต่ง​วันนี้​ บรรดา​ญาติมิตร​ที่​ปกติ​อยู่​ต่างแดน​ของ​ตระกูล​หลิน​ล้วน​เร่ง​เดินทาง​กลับมา​ล่วงหน้า​หลาย​วัน​แล้ว​

ไม่มีใคร​กล้า​ละเลย​

เมฆมงคล​ลอย​ล่อง​ ประกาย​แสงอบอวล​ แสอาทิตย์​สาดส่อง​ลง​มาจาก​ชั้น​ฟ้า แสงมรรค​พร่างพราว​ประชัน​กับ​แสงสุริยัน​ เสียง​มรรค​ปาน​เสียงสวรรค์​ดัง​แว่ว​ผะ​แผ่ว​ ทำให้​แดน​ลับ​ดวงกมล​อาบ​ไล้​อยู่​ใน​บรรยากาศ​ศักดิ์สิทธิ์​ชั้นหนึ่ง​

เวลา​ใกล้​เข้ามา​เรื่อยๆ​ บรรยากาศ​ที่​ครึกครื้น​ใน​ตอนแรก​ค่อยๆ​ สลาย​ไป​ ถูก​บรรยากาศ​เคร่งขรึม​จริงจัง​แทนที่​

“ถึงฤกษ์​มงคง​แล้ว​…!”

ฉับพลัน​นั้น​เสวียน​เฟยห​ลิง​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ กึกก้อง​ไป​ทั่ว​เก้า​ชั้น​ฟ้าสิบ​แผ่นดิน​

แก​ร๊ง!​ แก​ร๊ง!​ แก​ร๊ง!​

เสียง​ระฆัง​กังวาน​ดัง​ขึ้น​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ สะเทือน​ฟ้าดิน​ รวม​ทั้งสิ้น​เก้า​ครั้ง​

ทันใดนั้น​ทุกคน​ทั้ง​ใน​และ​นอก​โถงพิธี​ล้วน​สีหน้า​ครัดเคร่ง​ เปลี่ยนเป็น​เคร่งขรึม​

“รับแขก​!”

เสวียน​เฟยห​ลิง​ประกาศ​

ประโยค​เดียว​สอง​คำ​ กลับ​แทรก​ผ่าน​แดน​ลับ​ดวงกมล​ ดังก้อง​เหนือ​ห้วง​อากาศ​ทั้งเมือง​เทพ​ศุภโชค​

ชั่ว​ขณะนี้​ทั้งเมือง​เทพ​ศุภโชค​เงียบกริบ​ ผู้ฝึก​ปราณ​นับไม่ถ้วน​ที่​กระจาย​อยู่​ใน​เมือง​ต่าง​กลั้นหายใจ​เพ่ง​สมาธิ รู้​ว่า​งานแต่งงาน​ที่​ทั่วหล้า​จับตามอง​นี้​กำลังจะ​เริ่ม​แล้ว​!

และ​ใน​แดน​ลับ​ดวงกมล​

เมื่อ​เสวียน​เฟยห​ลิง​ประกาศ​รับแขก​ ฟ้าดิน​สะเทือน​ไหว​ทันที​

เงาร่าง​ผ่าเผย​สาย​หนึ่ง​ปรากฏ​ รูปลักษณ์​มีสง่าราศี​ราวกับ​นาย​เหนือ​หัว​บน​เก้า​ชั้น​ฟ้า เป็น​โพธิ​ เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​!

ที่​ตามมา​ด้าน​หลังเขา​คือ​ผู้สืบทอด​คีรี​ดวงกมล​ทั้ง​สี่สิบ​เก้า​คน​ อย่าง​จักรพรรดิ​สงคราม​ยุทธ์​ จ้งชิว​ รั่ว​ซู่ ห​ลิง​เสวียน​จื่อ​เป็นต้น​

ยาม​พวกเขา​ปรากฏตัว​ ใน​ที่​นั้น​ต่าง​ฮือฮา​ ผู้ยิ่งใหญ่​ไม่รู้​เท่าไร​หัวใจ​สะท้าน​

คีรี​ดวงกมล​!

ใคร​ไม่รู้​บ้าง​ว่า​นี่​คือ​สำนัก​ที่​หลิน​สวิน​อยู่​

ทว่า​ตอนนี้​แม้แต่​คน​ชั้นเลิศ​อย่าง​เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​ยัง​มาด้วยตัวเอง​ จะไม่ให้​ผู้คน​ตกใจ​ได้​อย่างไร​

โพธิ​กวาดสายตา​มอง​รอบ​ๆ แล้ว​ยิ้ม​กล่าว​ “ครึกครื้น​จริงๆ​”

ด้าน​หลังเขา​เหล่า​ผู้สืบทอด​คีรี​ดวงกมล​ต่าง​ยิ้ม​ออกมา​เช่นกัน​

ระหว่างทาง​พวกเขา​ได้​เห็น​ความคึกคัก​ที่​เกิดขึ้น​เพราะ​งานแต่งงาน​ของ​ศิษย์​น้อง​เล็ก​แล้ว​

ไม่นาน​ห้วง​อากาศ​ก็​พลิก​ม้วน​อี​กระลอก​

บรรพ​จารย์​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​หยวน​ชู บรรพ​จารย์​ลัทธิ​วิญญาณ​ซวี​อิ่น​ กับ​เฒ่าโดดเดี่ยว​และ​ราชครู​พา​เหล่า​สัตว์ประหลาด​เฒ่าอย่าง​สิงเจี้ยนส​ยา​ ฟู่หนาน​หลี​ เห​ริน​ฟู่เทียน​มาปรากฏตัว​พร้อมกัน​

ใน​ที่​นั้น​ฮือฮา​อี​กระลอก​ พวก​เสวียน​เฟยห​ลิง​ ตู๋​กู​ยง​ต่าง​ตกใจ​ เพราะ​แม้แต่​พวกเขา​ก็​คิดไม่ถึง​ว่า​บรรพ​จารย์​ทั้งสอง​อย่าง​หยวน​ชูและ​ซวี​อิ่น​จะถึงกับ​พา​คนใหญ่คนโต​รุ่น​แรก​ของ​ลัทธิ​มาด้วย​

นี่​ทำให้​พวกเขา​ประหลาดใจ​มาก​ และ​ดีใจ​หา​ใด​เปรียบ​ รีบ​เข้าไป​ต้อนรับ​

ใน​ที่​นั้น​เดือด​พล่าน​ขึ้น​มาแล้ว​ คน​ไม่รู้​เท่าไร​เบิก​ตาโพลง​

คน​ตระกูล​หลิน​หลาย​คน​ย่อม​ไม่รู้จัก​ ไม่รู้​เลย​ว่า​เวลานี้​ยอด​บุคคล​ที่​แทบจะ​ดำรงอยู่​เพียง​ใน​ตำนาน​เหล่านั้น​จะทยอย​มาเยือน​

มีเพียง​หลิน​ฝาน​ที่​เผย​รอยยิ้ม​

เรื่อง​เหล่านี้​ล้วน​เป็น​เขา​จัดการ​ด้วยตัวเอง​ ย่อม​รู้​ว่า​ผู้​ที่มา​ครั้งนี้​ไม่ได้​มีเพียง​คน​ของ​คีรี​ดวงกมล​ ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ ลัทธิ​วิญญาณ​เท่านั้น​

ไม่นาน​ห้วง​อากาศ​เกิด​คลื่น​อี​กระลอก​

มีคน​มาอีกแล้ว​

ครั้งนี้​มีเพียงแค่​สอง​คน​

แต่​ยาม​พวกเขา​มาถึง ทั้ง​งาน​ล้วน​เงียบกริบ​ ทุก​สายตา​ถูก​ดึงดูด​ไป​

ผู้มาเยือน​คือ​เฉิน​ซีและ​เฉิน​หลิน​คง​

พวก​โพธิ​ หยวน​ชู ซวี​อิ่น​ล้วน​เข้าไป​ต้อนรับ​ด้วยตัวเอง​

ส่วน​พวก​ที่​ไม่รู้​ฐานะ​เฉิน​ซีและ​เฉิน​หลิน​คง​ ยาม​เห็นภาพ​นี้​ต่าง​อด​ตะลึง​ไป​ไม่ได้​ ตระหนัก​ได้​ถึงความ​ไม่ธรรมดา​ของ​ผู้มาเยือน​

วันนี้​เป็น​งานแต่งงาน​ของ​หลิน​สวิน​ ดังนั้น​หลังจาก​มาถึง ไม่ว่า​จะเป็น​ผู้ยิ่งใหญ่​อย่าง​เฉิน​ซี เฉิน​หลิน​คง​ หรือ​โพธิ​ หยวน​ชู ซวี​อิ่น​ ล้วน​เก็บ​พลัง​รอบตัว​โดย​ไม่ได้​นัดหมาย​ ไม่ได้​เผย​อานุภาพ​น่ากลัว​อะไร​ออกมา​

ทว่า​แม้จะเป็น​เช่นนี้​ ยาม​เห็น​พวกเขา​ปรากฏตัว​ ส่วนลึก​ของ​จิตใจ​ผู้คน​ยังคง​ปรากฏ​ความรู้สึก​กดดัน​น่า​ครั่นคร้าม​

หลิน​เหิงอวิ๋น​และ​น้องๆ​ อึ้ง​งัน​อยู่​ตรงนั้น​นาน​แล้ว​ ใน​ใจกระเพื่อม​ไหว​ไม่หยุด​ เพิ่งจะ​ตระหนัก​ได้​ว่า​บารมี​ที่​ท่าน​ปู่​ของ​พวกเขา​มียิ่งใหญ่​เพียงใด​

ทุกสิ่ง​ที่​เห็น​ใน​หลาย​วัน​มานี้​ ล้วน​ไม่มีอะไร​สะท้าน​สะเทือน​ได้​เท่า​ภาพ​ที่​เห็น​อยู่​ตรงหน้า​ตอนนี้​

โดยเฉพาะ​หลังจาก​รู้​ที่มา​ของ​ผู้ยิ่งใหญ่​เหล่านี้​จาก​ปาก​หลิน​ฝาน​ พวกเขา​แต่ละคน​ต่าง​รู้สึก​เหมือน​ไม่ใช่เรื่องจริง​

คนอื่นๆ​ ใน​งาน​ก็​ล้วน​เป็น​เช่นนี้​

เหตุผล​เพราะ​หลังจาก​หลิน​สวิน​กลับมา​เมือง​แห่ง​ศุภโชค​ ก็​แทบ​ไม่เคย​เล่าเรื่อง​ใน​ทะเล​โชคชะตา​และ​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​เลย​

ทำให้​จน​ตอนนี้​พวกเขา​ถึงได้​ตระหนัก​ว่า​ เทียบ​กับ​ยาม​จากไป​ หลิน​สวิน​ใน​ตอนนี้​อำนาจ​บารมี​แตกต่าง​จาก​เมื่อก่อน​นาน​แล้ว​!

หลังจาก​พวก​เฉิน​ซี โพธิ​มาถึงก็​นำ​ของขวัญ​ของ​ตน​ออกมา​ สมบัติ​เทพ​ที่​ไม่เคย​เห็น​แต่ละ​ชิ้น​สร้าง​ความ​ตกตะลึง​ครั้งแล้วครั้งเล่า​

มูลค่า​ของขวัญ​เหล่านั้น​เหนือกว่า​จินตนาการ​ของ​ผู้คน​มากมาย​ใน​งาน​โดย​สมบูรณ์​

สุ่มหยิบ​ออกมา​สัก​ชิ้น​ สามารถ​ทำให้​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​ใดๆ​ ล้วน​ไม่กล้า​หวัง​จะครอบครอง​!

“ตอนนี้​ เริ่ม​พิธีแต่งงาน​”

เมื่อ​แขก​ทั้งหมด​เข้างาน​แล้ว​ เสวียน​เฟยห​ลิง​ถึงเอ่ย​เสียงกังวาน​

ทันใดนั้น​เสียง​กลอง​ระฆัง​ประสาน​ เสียง​มรรค​แผ่น​พลิ้ว​ปาน​เสียงสวรรค์​ ฟ้าดิน​ไอ​มงคล​อบอวล​

ภายใต้​สายตา​จับจ้อง​ของ​ทุกคน​ เงาร่าง​คู่​หนึ่ง​เดิน​ออก​กลาง​โถงใหญ่​ จิตใจ​ทุกคน​ล้วน​ถูก​ดึงดูด​ตาม​ไป​ด้วย​

หลิน​สวิน​ใน​วันนี้​สวม​ชุด​เจ้าบ่าว​สีแดง​

ข้าง​กาย​เขา​คือ​ซย่า​จื้อ​ที่​งดงาม​อรชร​ สวม​ชุดเจ้าสาว​มงกุฎ​หงส์​

คู่แต่งงาน​ใหม่​ยืน​เคียง​กัน​บน​แท่น​ยก​ บน​ฟ้าแสงเทพ​ไหล​เคลื่อน​ เสียง​มรรค​แผ่ว​พลิ้ว​ ห่าง​ออก​ไป​ญาติมิตร​แขกเหรื่อ​นั่ง​กัน​เต็ม​งาน​ เสียง​กลอง​และ​ระฆัง​ดัง​พ้อง​

ภาพ​นี้​จะต้อง​กลายเป็น​ภาพ​จำที่​ทุก​คนใน​งาน​ยาก​จะลืมเลือน​ตลอดกาล​อย่าง​แน่นอน​ ควรค่า​กับ​การ​ระลึกถึง​

พิธีแต่งงาน​ดำเนิน​ไป​ภายใต้​การ​จัดการ​ของ​เจ้าภาพ​อย่าง​เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​โพธิ​ โดย​มีบรรดา​ญาติมิตร​เป็น​พยาน​

จากนั้น​งานเลี้ยง​ก็​เปิดฉาก​

บรรยากาศ​ครึกครื้น​ต่อเนื่อง​มานาน​หนึ่ง​วัน​เต็ม​แล้ว​

หลิน​สวิน​เอง​ก็​ไม่รู้​ว่า​ดื่ม​สุรา​ไป​กี่​จอก​แล้ว​ พูดคุย​กับ​สหาย​ไป​ไม่รู้​กี่​คน​ รู้สึก​เพียง​ว่า​วันนี้​เหมือน​ไม่มีความทุกข์​สักนิด​

เขา​ใน​ตอนนี้​ไม่เหมือน​นาย​เหนือ​หัว​ไร้​เทียมทาน​ที่​ก้าว​สู่มรรคา​ชีวิต​ กลับ​เหมือน​เจ้าบ่าว​ที่​พบเห็น​ได้​ทั่วไป​บน​โลก​ ดื่มด่ำ​กับ​ความสุข​ซึ่งมีหนึ่งเดียว​ใน​วันนี้​อย่าง​เต็มที่​

มรรค​ส่วน​มรรค​

ความรัก​ก็​ส่วน​ความรัก​

……

คืน​นั้น​

ใน​ห้อง​หอ​เทียนแดง​ม่าน​ปกคลุม​ บรรยากาศ​เงียบสงบ​

ซย่า​จื้อ​ใน​ชุดเจ้าสาว​มงกุฎ​หงส์​นั่ง​เงียบๆ​ อยู่​หน้า​เตียง​ ภายใต้​เงาโคม​ ใบหน้า​ขาว​กระจ่าง​ที่​งดงาม​เลิศ​ล้ำ​ไม่มีสิ่งใด​เทียบ​ได้​ แม้แต่​ดวงตา​กระจ่าง​ดั่ง​ดารา​คู่​นั้น​ก็​เผย​เสน่ห์​อัน​น่า​ลุ่มหลง​

ใน​ห้อง​ที่​เงียบสงบ​เหลือ​เพียง​นาง​กับ​หลิน​สวิน​สอง​คน​ เสียง​จาก​ภายนอก​คล้าย​หาย​ไป​ทั้งหมด​ใน​พริบตา​

หลิน​สวิน​เดิน​ไป​เบื้องหน้า​ นั่งลง​ข้าง​กาย​ซย่า​จื้อ​ ฝ่าย​หลัง​ขน​ตา​ขยับ​ไหว​เล็กน้อย​ คล้าย​ในที่สุด​ก็​ตระหนัก​ได้​ว่า​กำลังจะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ นาง​เอ่ย​เสียง​เบา​อย่า​งอด​ไม่ได้​ “หลิน​สวิน​…”

ไม่รอ​พูด​จบ​ ริมฝีปาก​ชมพู​ชุ่มฉ่ำนั้น​ก็​ถูก​ประกบ​แล้ว​

เรื่องราว​ที่​เกิดขึ้น​หลังจากนั้น​ ความละมุนละไม​อัศจรรย์​เร้นลับ​เป็น​สิ่งที่​ไม่อาจ​เอ่ย​กับ​คนนอก​ได้​

……

ใน​คืน​เดียวกัน​

แสงโคม​สว่างไสว​ทุก​แห่งหน​ เสียง​ดื่ม​สุรา​พูดคุย​ดัง​ขึ้น​ไม่ขาดสาย​

แขก​ที่มา​ร่วม​งานเลี้ยง​ครั้งนี้​ยังคง​ชน​จอก​สุรา​ สนทนา​สนุก​สนาม​

ใน​โถงเรือน​ที่​สร้าง​อยู่​กลาง​เขา​ บรรยากาศ​เงียบสงบ​

ใน​อก​จ้าว​จิ่งเซวียน​กอด​หลิน​เหิง​หยวน​ที่​หลับ​ไป​แล้ว​ เอ่ย​พูด​เสียง​เบา​ “แม่นาง​เสวียน​เย​วี่ย​ ข้า​เคย​บอก​เจ้าแล้ว​ว่า​หาก​เจ้ายินยอม​ ข้า​จะบอก​ท่าน​พี่​ให้​ ผ่าน​ไป​นาน​ขนาด​นี้​แล้ว​ เชื่อ​ว่า​เขา​ก็​คง​รู้​ถึงความรู้สึก​ของ​เจ้านาน​แล้ว​”

ข้างๆ​ จิน​เทียน​เสวียน​เยวี่ย​ใน​ชุด​ขาว​ทั้งตัว​ คิ้ว​ตา​ปาน​ภาพวาด​ใจสั่น​เล็กน้อย​ จากนั้น​พลัน​ส่ายหน้า​ “ท่าน​พี่​ ไม่ต้อง​หรอก​ ขอ​เพียง​ได้​อยู่​ข้าง​กาย​คุณชาย​ข้า​ก็​พอใจ​แล้ว​”

จ้าว​จิ่งเซวียน​ถอนหายใจ​ใน​ใจ “เรื่องราว​บน​โลก​นี้​ สิ่งที่​เข้าใจยาก​ที่สุด​อาจ​เป็น​คำ​ว่า​รัก​นี้​ ผู้ฝึก​ปราณ​อย่าง​พวกเรา​ ใคร​สามารถ​ละ​เจ็ด​อารมณ์​หก​ปรารถนา​ใน​ใจได้​อย่าง​แท้จริง​บ้าง​”

นาง​สงสาร​จิน​เทียน​เสวียน​เยวี่ย​จับใจ​

“ท่าน​พี่​ การ​ฝึก​ปราณ​ก็​คือ​ฝึก​จิต​ ยาม​ข้า​เป็น​ผู้ติดตาม​ข้าง​กาย​คุณชาย​ก็​คิด​ไว้​นาน​แล้ว​ว่า​ชาติ​นี้​จะไม่แต่ง​ให้​ใคร​”

จิน​เทียน​เสวียน​เยวี่ย​เอ่ยปาก​พูด​ยิ้ม​ๆ บน​ใบหน้า​งามไม่มีความเสียใจ​แม้เพียง​เสี้ยว​

จ้าว​จิ่งเซวีย​นขา​น​รับ​ว่า​อืม​ จากนั้น​ยิ้ม​กล่าว​ “มีพ่อ​แบบ​ไหน​ก็​มีลูก​แบบ​นั้น​ เจ้าฝาน​เอ๋อร์​ก็​เป็น​พวก​หัว​ทื่อ​ หลาย​ปี​มานี้​มีหญิงสาว​ไม่รู้​เท่าไร​มอบ​ใจให้​เขา​ แต่​เขา​ดัน​รัก​เพียง​ถังเจียง​คนเดียว​”

จิน​เทียน​เสวียน​เยวี่ย​เผย​ยิ้ม​ออกมา​อย่า​งอด​ไม่ได้​

……

วัน​ที่สอง​หลัง​พิธีแต่งงาน​จบ​ลง​

ยอด​บุคคล​อย่าง​พวก​เฉิน​ซี เฉิน​หลิน​คง​ โพธิ​ทยอย​จากไป​ แขก​คนอื่นๆ​ เอง​ก็​พา​กัน​บอกลา​เช่นกัน​

เวลานี้​เรื่อง​ที่​เกิดขึ้น​ใน​พิธีแต่งงาน​ล้วน​กระจาย​ออก​ไป​ภายนอก​แล้ว​ สร้าง​ความฮือฮา​ไม่รู้​เท่าไร​ในทันที​

“มรรค​วิถี​ของ​ผู้อาวุโส​หลิน​สวิน​ใน​ตอนนี้​ เกรง​ว่า​จะเป็น​อันดับ​หนึ่ง​ทั่วหล้า​แล้ว​กระมัง​”

“ต้อง​เป็น​เช่นนั้น​อยู่แล้ว​ ไม่อย่างนั้น​งานแต่ง​ครั้งนี้​จะมีเหล่า​ผู้ยิ่งใหญ่​มาแสดงความยินดี​ด้วยตัวเอง​มาก​ขนาด​นั้น​ได้​อย่างไร​”

“ตระกูล​หลิน​ต้อง​โชคดี​ปาน​ไหน​!”

…ทั้งเมือง​เทพ​ศุภโชค​ รวมถึง​โลก​ยุคสมัย​ต่างๆ​ ใน​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ล้วน​กำลัง​พูดคุย​เรื่อง​ที่​เกี่ยวกับ​งานแต่ง​ครั้งนี้​

หลังจากนั้น​ข่าว​ยิ่ง​กระจาย​ไป​ถึงเก้า​น่านฟ้า​ของ​โลก​ยอด​นิรันดร์​ โลก​พัน​จักรวาล​ ทางเดิน​โบราณ​ฟ้าดารา​ ทำให้เกิด​ความฮือฮา​ไม่รู้​เท่าไร​เช่นกัน​

เวลา​ผ่าน​ไป​หนึ่ง​ปี​และ​อีก​หนึ่ง​ปี​

หลิน​สวิน​อยู่​ที่​ตระกูล​หลิน​โดยตลอด​ ดื่มด่ำ​ความสุข​ที่​ครอบครัว​อยู่​กัน​พร้อมหน้า​

นอก​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ ใน​อารยธรรม​ยุค​วิญญาณ​ยุทธ์​ที่​บรรจุ​โลก​นับไม่ถ้วน​อย่าง​โลก​ยอด​นิรันดร์​ โลก​พัน​จักรวาล​ กลิ่นอาย​ของ​พิบัติ​เคราะห์​สาย​หนึ่ง​แผ่​ออกมา​เงียบๆ​ ใน​ห้วง​อากาศ​

“เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​จะมาเยือน​แล้ว​!”

ใน​แต่​ละโลก​ เหล่า​ผู้​มีความสามารถ​สูงส่งไม่รู้​เท่าไร​สังเกตเห็น​ร่องรอย​ทันที​ อด​ลนลาน​และ​ไม่สบายใจ​ไม่ได้​

“นี่​… นี่​จะทำ​อย่างไร​ดี​”

ผู้ฝึก​ปราณ​ไม่รู้​เท่าไร​จิตใจ​ห่อเหี่ยว​

ทันทีที่​ด่าน​เคราะห์​เช่นนี้​มาเยือน​ย่อม​ไม่มีที่​ให้​หลบซ่อน​จริงๆ​ เพราะ​ทุก​ชีวิต​ใน​ใต้​หล้า​นี้​ล้วน​อยู่​ใน​อารยธรรม​ยุค​วิญญาณ​ยุทธ์​

และ​เมื่อ​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​มาเยือน​ ไม่ว่า​จะเป็น​ผู้ฝึก​ปราณ​หรือ​คนธรรมดา​ ใคร​ก็​หนี​ไม่พ้น​

“นี่​ก็​คือ​ชีวิต​ วัฏจักร​มรรค​สวรรค์​ มหา​เคราะห์​แห่ง​ยุค​ ไม่ว่า​ใคร​ล้วน​ไม่อาจ​หลบเลี่ยง​…”

ใน​ใจคน​บางส่วน​เกิด​ความสิ้นหวัง​

“ไม่เห็น​หรือ​ เหล่า​ผู้​แข็งแกร่ง​ชั้นยอด​อย่าง​พวก​หลิน​สวิน​ล้วน​เก็บตัว​อยู่​ใน​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ ส่วน​คน​ตัวเล็ก​ๆ อย่าง​พวกเรา​ ถูก​กำหนดให้​จิต​สิ้น​วิญญาณ​สลาย​ไม่อาจ​เลี่ยง​ พินาศ​ไป​พร้อมกับ​การ​ดับสิ้น​ของ​ยุค​สมัยนี้​…”

มีคน​ถอนหายใจ​ยาว​

ทว่า​ก็​เป็น​วันนี้​เอง​ที่​เจตจำนง​สาย​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​ทั่ว​ทุก​โลก​ของ​ยุค​วิญญาณ​ยุทธ์​ “วันนี้​ ข้า​หลิน​สวิน​จะสลาย​เคราะห์​กำหนด​มรรค​”

เสียงดัง​กึกก้อง​ทะลวง​เก้า​ชั้น​ฟ้า กระจาย​ไป​ทั่ว​ทุก​โลก​ใน​ชั่ว​อึดใจ​

พริบตา​นั้น​สรรพ​ชีวิต​ทั่วหล้า​ล้วน​รับรู้​ ต่าง​หยุด​การกระทำ​ใน​มือ​ มอง​ขึ้นไป​บน​ฟ้าไกล​ห่าง​ สีหน้า​ล้วน​เคร่งขรึม​และ​เลื่อมใส​ คล้าย​ถูก​พลัง​ไร้​รูป​ชำระล้าง​ทั่ว​กาย​

เหล่า​ผู้​มีความสามารถ​สูงส่งกลับ​พบ​ในทันที​ ว่า​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​ที่​กำลัง​ก่อตัว​นี้​ถึงกับ​กลับ​หาย​ไป​อย่าง​ไร้​สุ้มเสียง​ไม่รู้​ตั้งแต่​เมื่อใด​ ไม่อาจ​สัมผัส​ได้​อีก​

ทว่า​ที่​แตกต่าง​จาก​ใน​อดีต​คือ​ ใน​ระเบียบ​มรรค​วัฏจักร​ของ​ยุค​วิญญาณ​ยุทธ์​ มีพลัง​กฎระเบียบ​อัศจรรย์​ที่​ทำให้​ทุกคน​ล้วน​ใจสั่น​เพิ่ม​เข้า​มาสาย​หนึ่ง​!

นั่น​คือ​กลิ่นอาย​มหา​มรรค​ของ​หลิน​สวิน​!

ที่​เพิ่ม​เข้ามา​ก็​เพื่อ​ ตั้ง​จิต​เพื่อ​ฟ้าดิน​ สร้าง​ชีวิต​เพื่อ​สรรพ​ชีวิต​ สร้าง​สันติสุข​เพื่อ​ใต้​หล้า​!

“ผู้อาวุโส​หลิน​สวิน​เขา​… เขา​ถึงกับ​สลาย​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​ อนุมาน​ระเบียบ​วัฏจักร​ขึ้น​มาใหม่​ ทำให้​สรรพ​ชีวิต​ทั่วหล้า​หลุดพ้น​จาก​มหา​เคราะห์​ที่​กำลังจะ​มาเยือน​!”

“สวรรค์​!!”

“ผู้อาวุโส​หลิน​สวิน​แข็งแกร่ง​เกินไป​แล้ว​กระมัง​”

เสียง​ฮือฮา​ตกตะลึง​นับไม่ถ้วน​ดัง​ขึ้น​ใน​โลก​ยอด​นิรันดร์​ โลก​พัน​จักรวาล​ รวมถึง​โลก​ต่างๆ​ มากมาย​

ใคร​ก็​คิดไม่ถึง​ว่า​ผู้สืบทอด​ของ​คีรี​ดวงกมล​ผู้​นั้น​ ตอนนี้​ถึงกับ​สามารถ​เอาชนะ​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​ กำหนด​มรรค​ให้​ใต้​หล้า​ ช่วย​ทุกคน​ให้​รอดพ้น​ภัยพิบัติ​ได้​!

ยิ่ง​ไม่มีใคร​คิด​ว่า​แม้แต่​ระเบียบ​มรรค​วัฏจักร​ของ​ยุค​วิญญาณ​ยุทธ์​ยัง​ถูก​หลิน​สวิน​เอาชนะ​ ทำได้​เพียง​ก้มหัว​ศิโรราบ​!

ทว่า​ไม่ทัน​ไร​ใน​สมอง​ของ​ผู้​มีความสามารถ​สูงส่งเหล่านี้​ ความทรงจำ​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​หลิน​สวิน​พวก​นี้​ล้วน​เหมือน​ถูกลบ​หาย​ไป​เงียบๆ​ ไม่มีหลงเหลือ​

นี่​นำมาซึ่ง​เสียง​ที่​แฝงความประหลาดใจ​ไม่น้อย​ แต่​คิด​อย่างไร​คิดไม่ออก​

สำหรับ​สรรพ​ชีวิต​มากมาย​ใน​ใต้​หล้า​นี้​ ล้วน​ไม่รู้​เลย​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​

“มรรค​ไร้​รูป​ ไร้​นาม​ มีอยู่​ทุก​แห่งหน​ หาก​มีร่องรอย​ของ​ข้า​หลิน​สวิน​อยู่​ กลับ​ไม่เหมาะสม​…”

ใน​แดน​ลับ​ดวงกมล​ หลิน​สวิน​ที่นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้โยก​ยิ้ม​น้อย​ๆ ดื่ม​สุรา​จอก​หนึ่ง​

ไม่ไกล​นัก​เด็กน้อย​คน​หนึ่ง​กำลัง​หัด​เดิน​ ล้ม​เป็นระยะๆ​

ซย่า​จื้อ​มอง​อยู่​ข้างหลัง​ แววตา​เต็มไปด้วย​ความอ่อนโยน​

นี่​คือ​ลูก​ของ​นาง​กับ​หลิน​สวิน​ ตั้งแต่​พริบตา​ที่​ถือกำเนิด​ ก็ได้​กลายเป็น​อีก​หนึ่ง​แสงสว่าง​ใน​โลก​ของ​นาง​นอกจาก​หลิน​สวิน​แล้ว​

——

(จบบริบูรณ์​)

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท