ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 531 จะคลอดแล้ว(1)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 531 จะคลอดแล้ว(1)

ตอนที่ 531 จะคลอดแล้ว(1)

ฉินมู่หลานไม่ค่อยได้เข้าไปที่โรงงาน เพราะฉะนั้นเหยาจิ้งจือและซูหว่านอี๋จึงให้เธอดูบัญชีที่แยกรายการเอาไว้หลายประเภท อีกทั้งยังเล่าสถานการณ์ล่าสุดที่โรงงานให้ฟังด้วย

หลังจากฉินมู่หลานรับทราบทุกอย่างแล้ว ก็หันมองซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือก่อนจะพูดขึ้น “แม่คะ พวกแม่บริหารโรงงานกันได้ดีมากเลยค่ะ”

ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือไม่กล้ารับความดีความชอบ

“ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากลูกนั่นแหละ พวกเราแค่จัดการตามระเบียบที่ลูกวางเอาไว้เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นหากลูกไม่ช่วย เครื่องสำอางมากมายขนาดนี้คงขายไม่ออกแน่นอน”

ฉินมู่หลานยังคงชื่นชมทั้งสองอยู่เสมอ เพราะพวกหล่อนเพิ่งจะเริ่มต้น แต่ถึงอย่างนั้น เธอยังไม่ลืมการมีส่วนร่วมของหลี่เสวี่ยเยี่ยนและลูกพี่ลูกน้องทั้งสองด้วย เธอได้ยินแม่และแม่สามีชื่นชมพวกหล่อนอยู่หลายครั้ง

“แม่คะ ครั้งนี้พวกพนักงานในโรงงานได้รับคำเตือนแล้ว พวกเราก็ต้องให้รางวัลกับคนที่ทำผลงานได้ดีด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นเดือนนี้หนูจะจ่ายโบนัสให้คนที่ทำงานดี ทุกคนจะได้ดีใจกันหน่อย”

“เอาสิ”

ฉินมู่หลานเสร็จธุระที่นี่แล้วก็กำลังจะกลับไป

“มู่หลาน ลูกรีบกลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ วันนี้ลูกก็ยุ่งมาทั้งวันแล้ว”

“อื้ม ถ้าอย่างนั้นหนูกลับก่อนนะคะ”

เมื่อฉินมู่หลานกลับถึงบ้านก็พบว่ามีคนรอเธออยู่ “พี่สะใภ้ ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะคะ”

เริ่นม่านนีเห็นฉินมู่หลานกลับมา ก็มองเธอด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะพูดขึ้น “มู่หลาน ในนที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว วันนี้ฉันมาที่นี่เพราะอยากจะให้เธอช่วยตรวจชีพจรให้หน่อยน่ะ”

เมื่อเห็นเริ่นม่านนีตื่นเต้นแบบนี้ ฉินมู่หลานก็คาดเดาบางอย่างในใจได้แล้ว เธอไม่ได้ถามมากมายนัก หลังจากนั่งลงแล้วก็ให้เริ่นม่านนีนั่งลงตรงข้ามแล้วยื่นมือออกมา

เริ่นม่านนีก็เชื่อฟังอย่างว่าง่าย หลังจากนั้นก็มองฉินมู่หลานด้วยสีหน้าคาดหวัง

หลังจากฉินมู่หลานตรวจชีพจรอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็บอกกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ยินดีด้วยค่ะพี่ พี่ท้องแล้ว”

“มู่หลาน จริงเหรอ? นี่เรื่องจริงใช่ไหม? ฉันท้องแล้วจริงเหรอ?”

ถึงแม้ว่าตัวเองจะรู้สึกบางอย่าง แต่เมื่อได้ยินฉินมู่หลานบอกว่าหล่อนท้องแล้วจริง ๆ เริ่นม่านนีก็รู้สึกเหมือนกำลังฝัน

“จริงค่ะพี่ พี่ท้องแล้วจริง ๆ ถ้าพี่ยังกังวลใจก็ลองไปตรวจยืนยันที่โรงพยาบาลดูได้ค่ะ ตอนนี้ที่โรงพยาบาลมีเครื่องมือช่วยตรวจได้สะดวกสบายมากเลย”

แต่ถึงอย่างนั้นเริ่นม่านนีก็ส่ายหัวแล้วกล่าวว่า “ไม่ต้องหรอกมู่หลาน ฉันเชื่อเธออยู่แล้ว”

หลังจากพูดจบ หล่อนก็สัมผัสตรงหน้าท้องอย่างระมัดระวัง แววตาเต็มไปด้วยประกายความอบอุ่น

ฉินมู่หลานเห็นว่าเริ่นม่านนีมาแค่คนเดียว จึงอดถามไม่ได้ “แล้วพวกพี่ชายรู้หรือยังคะ?”

เริ่นม่านนีส่ายหัวแล้วกล่าวว่า “พวกเขายังไม่รู้ ฉันยังไม่ได้บอกพวกเขาเลย เพราะก่อนหน้านี้ฉันเองก็ยังไม่มั่นใจ” พูดจบ ใบหน้าของหล่อนก็มีรอยยิ้มสดใสขึ้น “เดี๋ยวกลับไปแล้วฉันจะบอกพวกเขา อวี๋เซิงกับพวกคุณปู่คุณย่าจะต้องดีใจมากแน่เลย”

“ใช่ค่ะ พวกเขาทุกคนหวังว่าพี่สะใภ้กับพี่ใหญ่จะมีลูกกัน”

หลังจากพูดจบ ฉินมู่หลานก็อธิบายเรื่องที่ควรใส่ใจในการตั้งครรภ์ระยะแรก เริ่นม่านนีกลัวว่าตัวเองจะจำไม่ได้ จึงนำปากกามาจดบันทึกด้วย หลังจากนั้นก็เอ่ยขอบคุณฉินมู่หลานด้วยท่าทางจริงจัง “มู่หลาน ขอบคุณมากเลยนะ ขอบคุณเธอจริง ๆ ถ้าไม่มีเธอ ชีวิตนี้ฉันกับอวี๋เซิงคงจะไม่ได้มีลูกกันแล้ว”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “พี่คะ ทุกคนตางก็เป็นญาติกัน พี่ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ หลังจากพี่กลับไป ช่วงสองสามเดือนนี้ก็พักผ่อนเยอะ ๆ แล้วอย่าลืมใส่ใจเป็นพิเศษด้วยนะคะ”

“ได้ ฉันเข้าใจแล้วล่ะ”

เริ่นม่านนีบอกลาฉินมู่หลานแล้วกลับไปทันที เมื่อกลับถึงบ้านก็บอกข่าวดีให้กับเซี่ยอวี๋เซิงสามีของหล่อน

เซี่ยอวี๋เซิงได้ยินแบบนี้สีหน้าก็ดูไม่ค่อยเชื่อนัก “จริงเหรอม่านนี พวกเรามีลูกแล้ว พวกเรามีลูกแล้วจริงเหรอ?”

“ใช่แล้ว ใช่จริง ๆ มู่หลานตรวจชีพจรให้ฉันแล้ว”

“ดีจังเลย ดีมากจริง ๆ”

เซี่ยอวี๋เซิงกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข ในตอนนี้เขาปลดก้อนหินที่ถ่วงอยู่ในใจออกได้แล้ว เขากลัวจริง ๆ ว่าตัวเองทำให้ตระกูลเซี่ยสูญสิ้นทายาท

ว่านจี้อวิ่นเพิ่งคุยกับเริ่นม่านนี ตอนนี้เมื่อได้ยินเสียงอันแสนตื่นเต้นของลูกชาย ก็อดถามได้ “กำลังคุยอะไรกัน ทำไมถึงมีความสุขกันจัง”

“แม่ครับ ม่านนีท้องแล้ว หล่อนตั้งท้องแล้ว”

เซี่ยอวี๋เซิงเห็นแม่เดินมา จึงกระโดดเริงร่าแล้วบอกข่าวดีเรื่องนี้

ในตอนนี้แม้แต่ว่านจี้อวิ๋นก็ตื่นเต้นขึ้นมา ไม่ช้าตระกูลเซี่ยก็ทราบเรื่องนี้กันหมด คุณนายเซี่ยกุมมือของเริ่นม่านนีเอาไว้ ก่อนจะกล่าวด้วยความดีใจ “ดีจังเลย ม่านนี เธอเป็นวีรชนที่กอบกู้ครอบครัวของเราเอาไว้เลยน”

เริ่นม่านนียกยิ้มก่อนจะกล่าว “คนที่เป็นวีรชนคือมู่หลานค่ะ หากไม่ใช่เพราะหล่อนคอยช่วยให้ร่างกายของอวี๋เซิงฟื้นตัว หนูก็คงท้องไม่ได้”

เมื่อได้ยินแบบนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของคุณนายเซี่ยก็ชะงักลง แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอีกไม่นานจะมีหลานแล้ว นางจึงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ใช่ ต้องขอบคุณมู่หลานจริง ๆ อีกสองวันพวกเราไปเชิญหล่อนมากินข้าวมื้อหรูที่บ้านด้วยกันเถอะ”

แต่เซี่ยฉางชิงเปิดปากกล่าว “แม่ครับ ตอนนี้มู่หลานท้องแก่แล้ว ไม่ควรให้หล่อนเทียวไปเทียวมา เราค่อยนัดเจอหล่อนวันอื่นเถอะครับ”

เริ่นม่านนีก็เห็นด้วย “ใช่ค่ะ วันนี้หนูเห็นว่าท้องของมู่หลานใหญ่จริง ๆ คงจะดีกว่าถ้าหล่อนไม่ต้องมา เดี๋ยวพวกเราไปขอบคุณหล่อนเองก็ได้ค่ะ”

คุณนายเซี่ยได้ยินแบบนี้ ก็ไม่พูดอะไรมาก “ก็ได้ เดี๋ยวอีกสองวันเราไปหาหล่อนกัน”

เรื่องนี้จึงเป็นอันตกลงกันตามนี้ แม้แต่นายท่านเซี่ยก็ยังมีความสุข อีกทั้งยังหันมองหลานชายและหลานสะใภ้ก่อนจะเอ่ยถามเพิ่ม “ม่านนี แล้วนี่เธอไปตรวจที่โรงพยาบาลหรือยัง?”

เริ่นม่านนีส่ายหัวแล้วเอ่ย “ยังค่ะ มู่หลานตรวจชีพจรให้หนูแล้ว ไม่ต้องไปโรงพยาบาลหรอกค่ะ”

นายท่านเซี่ยอยากจะมั่นใจกว่านี้สักหน่อย จึงเสนอขึ้นตามตรง “เธอกับอวี๋เซิงลองไปตรวจที่โรงพยาบาลเถอะ ฉันได้ยินว่าตอนนี้ที่โรงพยาบาลมีเครื่องมือที่ช่วยตรวจการตั้งครรภ์ได้สะดวกมากเลยนะ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเริ่นม่านนีก็จางหายไป นี่หมายความว่าไม่เชื่อใจหล่อนไม่เชื่อใจมู่หลานอย่างนั้นเหรอ

ว่านจี้อวิ๋นมองออกว่าลูกสะใภ้ดูไม่มีความสุข จึงรีบพยายามไกล่เกลี่ย “พ่อคะ มู่หลานตรวจไม่ผิดหรอกค่ะ”

แต่หล่อนก็ไม่อยากให้ชายชราต้องเสียหน้าเช่นกัน จึงรีบหันไปมองเริ่นม่านนีแล้วเอ่ย “ม่านนีเอ๊ย ที่คุณปู่ของเธอว่ามาก็ดีนะ โรงพยาบาลปักกิ่งมีเครื่องมือบางอย่าง ตรวจแปปเดียวก็เห็นภาพเด็กในท้องได้เลย เธอลองไปถ่ายมาสักหน่อยก็ดีนะ จะได้เห็นเด็กในท้องไงล่ะ”

เริ่นม่านนีได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย

เมื่อเห็นสีหน้าของลูกสะใภ้ ว่านจี้อวิ๋นก็โน้มน้าวต่อไป แล้วพูดขึ้นต่อ “เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะไปเป็นเพื่อน ฉันรู้จักหมอที่นั่น เดี๋ยวจะให้หล่อนตรวจให้เธอ”

“ก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้พวกเราไปตรวจกัน”

เมื่อเห็นว่าเริ่นม่านนีตอบตกลง ทุกคนก็ต่างโล่งใจ

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

ในที่สุดบ้านเซี่ยในปักกิ่งก็มีข่าวดีสักที เป็นเพราะฝีมือรักษาของมู่หลานเลยนะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท