ตอนที่ 778 คัดเลือก
ในเวลาหนึ่งชั่วโมงต่อจากนั้น ยากมากที่จะได้เห็นร้านหนังสือเต็มไปด้วยบรรยากาศของ ‘การเรียนรู้พัฒนาตนเอง’ อย่างนี้ ค่อยดูเหมือนร้านหนังสือหน่อย
โจวเจ๋อนั่งบนโซฟา ถือภาพถ่ายสีสองสามใบที่พิมพ์ออกมาเมื่อครู่อยู่ในมือของเขา แล้วก้มหน้าจิบกาแฟเป็นพักๆ
ทนายอันยืนพิงกำแพง มือหนึ่งคีบบุหรี่พร้อมกับพลิกดูภาพถ่ายสีหลายใบในเวลาเดียวกัน และดูเหมือนว่าเขาจะสูบบุหรี่เยอะไปหน่อย จึงไอสองสามครั้งเป็นครั้งคราว
อิงอิงนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น บนขาที่ใส่ถุงน่องสีขาว ล้วนเป็นภาพสีทั้งหมด
โจวเจ๋อดูรูปภาพในมือเสร็จแล้วจึงโยนทิ้งไปอีกทาง แล้วหยิบรูปภาพที่อยู่บนขาของอิงอิงขึ้นมาดูต่อ หยิบออกมาทีละใบ
สวี่ชิงหล่างนั่งอยู่ริมโต๊ะ นักพรตเฒ่านั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ เด็กผู้ชายนั่งอยู่บนบันได แม้แต่เจ้าลิงน้อยก็ยังนั่งอยู่บนคานดูภาพถ่ายสีที่ซ้อนกันหลายใบอยู่ในมือของมัน ดูเสร็จแล้วจึงโยนทิ้งลงไปอย่างไม่พอใจ
โจวเจ๋อกำลังถือภาพถ่ายสีใบหนึ่งอยู่ในมือ ซึ่งมีหัวข้อเขียนไว้บนนั้นว่า ‘กระดูกนับร้อย ถูกแทงด้วยตะปูเหล็กยาว’ และยังมีรูปภาพคนคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงสีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ข้างๆ มีผีน้อยสองสามตนถือตะปูเหล็กตอกเข้าไปในร่างของเขา ร่างกายของมนุษย์มีกระดูกสองร้อยกว่าชิ้น ดังนั้นจึงตอกตะปูเหล็กใส่กระดูกทุกชิ้น
“ฮ้าว…” โจวเจ๋อหาวหนึ่งที ตะโกนพูดว่า “เหล่าอัน ครั้งนี้คุณไปหามาจากที่ไหน”
โจวเจ๋อถามทนายอันว่ามีการลงโทษแบบไหนที่คุ้มค่าเป็นประสบการณ์ต่อการเรียนรู้ ทนายอันจึงพิมพ์เอกสารออกมาปึกหนึ่ง เห็นได้ชัดว่า ไม่ใช่ทนายอันเป็นคนวาดและบรรยายด้วยตัวเอง เป็นไปไม่ได้ที่จะเร็วขนาดนี้
“ค้นในไป่ตู้วิกิพีเดียแล้วดาวน์โหลดออกมา” ทนายอันตอบ
“เชื่อถือได้เหรอ” โจวเจ๋อถาม
“เถ้าแก่ ไม่ว่าอย่างไรคุณก็แค่วาดเฉยๆ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลงานชิ้นเอกจากภูมิปัญญาของคนใช้แรงงาน ชอบอันไหนก็ใช้อันนั้น”
ใช่แล้ว ทุกคนในร้านหนังสือกำลังดูรูปภาพและคำบรรยายการลงโทษในนรกภูมิ จำเป็นต้องเลือกสี่แบบที่ทรมานคนมากที่สุด จากนั้นโจวเจ๋อจะวาดเข้าไปในสมุดหยินหยาง แล้วโยนวิญญาณของคนเลวสี่คนนั้นเข้าไป
เพียงแต่ รูปแบบการลงโทษเยอะเกินไป ทำให้รู้สึกลำบากใจที่ต้องเลือก สรุปแล้วต้องเลือกแบบไหนถึงจะสะใจ เลือกอันไหนถึงจะทรมานที่สุดโหดเหี้ยมที่สุด
“คุณอยู่ในนรกไม่เคยเห็นการลงโทษของจริงเลยเหรอ”
“เคยเห็น จริงๆ แล้วไม่ต่างจากในนี้มากนัก แต่มีการลงโทษบางอย่างค่อนข้างซับซ้อน หลุดจากสภาพแวดล้อมของนรกแล้วยากที่จะทำออกมา โอ้วๆๆ เถ้าแก่ คุณดูอันนี้ อันนี้ทั้งโหดทั้งเหี้ยมและมีนัยยะ วิปริตสุดๆ!”
ทนายอันเดินไปตรงหน้าโจวเจ๋อ ยื่นรูปภาพสีให้โจวเจ๋อดู การลงโทษนี้หลังจากคนกระหายน้ำถึงระดับหนึ่งแล้ว จะให้เขาดื่มเหล็กหลอมเหลว จากนั้นเมื่อเหล็กหลอมเหลวเข้าไปในท้องแล้วแข็งตัว อวัยวะภายในร่างกายจะเริ่มหนัก
เนื่องจากเป็นวิญญาณ ดังนั้นจึงไม่มีสถานการณ์ที่ท้องถูกเผาด้วยเหล็กหลอมเหลว แต่สามารถสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดในกระเพาะอย่างสุดซึ้ง
“จากนั้นค่อยผ่าท้อง เอาเหล็กออกมา หลังจากนั้นก็ทำวนแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา” ทนายอันพูดแล้วตัวเองก็หัวเราะขึ้นมา
“เลือกเสร็จหรือยัง พวกเราลองมาสรุปกันหน่อย” โจวเจ๋อตะโกน
ต่อจากนั้น ทุกคนจึงนำการลงโทษที่คิดว่าสุดแสนจะทรมานโหดเหี้ยมและสะใจที่สุดมาวางตรงหน้าโจวเจ๋อ ซึ่งมีความแปลกประหลาดนับร้อยพัน บนพื้นฐานของการทรมาน เล่นแบบนี้จะได้ประสิทธิผลมากที่สุด
“เถ้าแก่ จริงๆ แล้ว ข้าคิดว่า หนามยอกต้องเอาหนามบ่งถึงจะเหมาะสม” นักพรตเฒ่าพูดหลังจากที่ยื่นรูปภาพสีแล้ว “จับพวกเขาขังในสภาพแวดล้อมที่เหมือนกัน ตบตีแล้วก็ทำเรื่องแบบนั้นทุกวัน จากนั้นก็จมอยู่กับความมืดไร้ความหวัง…”
โจวเจ๋อมองนักพรตเฒ่าหนึ่งที เอ่ยว่า “ถ้าหากถูกทรมานแล้วรู้สึกชอบใจขึ้นมาจะทำอย่างไร”
“…” นักพรตเฒ่า อ้อใช่ ไม่ได้อยากให้พวกเขาสุขใจทุกวัน
“โอเค งั้นก็สี่รูปนี้” โจวเจ๋อเลือกการลงโทษสี่แบบ แล้วหยิบปากกาพิฆาตขึ้นมาเตรียมตัววาดภาพ
“เถ้าแก่ ฝีมือการวาดภาพของคุณเป็นอย่างไร” เหล่าจางเดินเข้ามาพอดี เมื่อครู่เขาสูบบุหรี่อยู่ข้างนอกจึงไม่ได้เข้าร่วมการคัดเลือกในครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเขาดัดจริต แต่กินอาหารมื้อดึกเยอะเกินไป ต้องใช้เวลาย่อยอาหาร
“ถ้าอย่างนั้นผมให้ปากกากับคุณ คุณมาวาด” โจวเจ๋อยื่นปากกาพิฆาตให้เหล่าจาง
เหล่าจางรีบโบกมือพูดอย่างขมขื่นว่า “ไม่ได้ครับ ทำไม่ได้”
อันที่จริง ทุกคนรู้อยู่แก่ใจ ใช้ปากกาพิฆาตวาดภาพบนสมุดหยินหยาง มีเพียงเถ้าแก่เท่านั้นที่จะทำได้ คนอื่นทำไม่ได้อย่างสิ้นเชิง ลำพังแค่การต่อต้านของปากกาพิฆาตและการโต้กลับของสมุดหยินหยาง ก็ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาสามารถทนรับไหว
ฝีมือการวาดภาพของโจวเจ๋อธรรมดาเป็นอย่างมาก ไม่ถึงระดับฝีมือของมือสมัครเล่น แต่ผลลัพธ์ของการวาดภาพออกมากลับไม่เลว กระทั่งสามารถพูดได้ว่าเยี่ยมมาก
ตอนแรกเริ่มนั้นวาดตามรูปภาพสี ค่อยๆ วาด แล้วจึงเริ่มใส่สิ่งของของตัวเองลงไปตามความเหมาะสม ชาวมุงสองสามคนที่อยู่ข้างๆ ยังพูดชื่นชม บอกว่าเถ้าแก่นั้นคมในฝัก โดยเฉพาะอิงอิง “ว้าว เถ้าแก่ ข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่าท่านวาดภาพเป็น และยังวาดได้ดีขนาดนี้”
ปากกาสั่นเล็กน้อย เพื่อแสดงความเคารพ
โจวเจ๋อออกแรงจับให้แน่น ยิ้มเล็กน้อยอย่างอ่อนน้อม เหมือนจะบอกว่าไม่มีอะไรมาก เพิ่งได้แค่นี้เอง จริงๆ แล้วเป็นเพราะตัวเขาเองกับปากกาพิฆาตสื่อถึงกัน ดังนั้นปากกาพิฆาตจึงแอบช่วยเขาปรับปรุงและแก้ไขให้สมบูรณ์ แน่นอนว่าไม่ต้องอธิบายสิ่งเหล่านี้ รักษาความเข้าใจผิดที่สวยงามนี้ไว้ก็ดีแล้ว
ไม่ช้า จึงวาดภาพรูปแรกเสร็จ เป็นการลงโทษด้วยเหล็กหลอมเหลวที่ทนายอันเป็นคนเลือก
เมื่อวางปากกาลง โจวเจ๋อไม่รีบวาดภาพที่สอง เพราะเขาไม่รู้ว่าทำแบบนี้จะได้ผลหรือไม่
“จับมาหนึ่งคน” โจวเจ๋อกล่าว
ทนายอันรีบไปจับวิญญาณของคนลักพาตัวผู้หญิงเข้ามา ฉีกยันต์กระดาษบนหน้าผากของเธอออก คนลักพาตัวผู้หญิงร้องกรี๊ดทันที “พวกแกเป็นใคร ที่นี่ที่ไหน พวกแกจะทำอะไรฉัน จะทำอะไร!!!”
“โอหัง!”
โจวเจ๋อเหลือบตามองเธอหนึ่งที กลิ่นอายของผู้จับกุมแพร่กระจายออมา คนลักพาตัวผู้หญิงคุกเข่าทันที ตัวสั่นงันงก
สำหรับวิญญาณแล้ว ยมโลกรวมถึงตัวตนที่มีกลิ่นอายของยมโลก มีแต่ความน่าสะพรึงกลัว! หากเป็นผีร้ายหรือผีระดับสูงจะดีหน่อย แต่คนลักพาตัวผู้หญิงคนนี้ไม่มีโอกาสและไม่มีเวลาได้แปลงร่างเป็นสิ่งอื่น
“ขอร้องละ ปล่อยฉันไปเถอะ ปล่อยฉันไปเถอะนะ ขอร้องท่านละ ฉันยอมเป็นวัวเป็นควายของท่าน ท่านอยากให้ฉันทำอะไรฉันยินดีค่ะ ขอร้องท่านได้ปล่อยฉันไป ปล่อยฉันไปเถอะ” คนลักพาตัวผู้หญิงโขกศีรษะขอร้องโจวเจ๋อไม่หยุด เหมือนเด็กสาวที่โปรดเธอลักพาตัวมาในตอนแรก ที่ขอร้องเธอแบบนี้เหมือนกัน
จริงๆ แล้ว หลายคนมักชอบมีสองมาตรฐาน โดยเฉพาะคนเลว
“ออกมา จับคนเข้าไป” โจวเจ๋อตะโกนหนึ่งที
“เหมียว!” แมวดำตัวนั้นกระโดดออกมาจากจากสมุดหยินหยาง สวี่ชิงหล่างที่ยืนอยู่ข้างๆ มองแมวดำตัวนี้ด้วยแววตาที่ร้อนแรง เขาจำได้ว่าแมวดำตัวนี้เป็นวิชาค่ายกล
แมวดำกวาดตามองผู้ชายที่สวยกว่าผู้หญิงหนึ่งที รู้สึกว่าคนคนนี้มองตัวเองด้วยแววตาที่ร้อนผะผ่าว
“จับเข้าไป” โจวเจ๋อกล่าว
“เหมียว!” หางของแมวดำยาวขึ้น ตวัดจับวิญญาณของคนลักพาตัวผู้หญิงขึ้นมาโดยตรง พยายามยัดเข้าไปในสมุดหยินหยาง จากนั้นในภาพวาดที่โจวเจ๋อเพิ่งวาดเสร็จ ตรงกลางระหว่างผีน้อยสองสามตน ปรากฏเงาร่างที่ตกใจลนลานของคนลักพาตัวผู้หญิง แล้วภาพก็เริ่มขยับ เธอเริ่มถูกแสงแดดแผดเผา เริ่มขาดน้ำรุนแรง เริ่มกระหายน้ำอย่างหนัก จากนั้นผีน้อยตัวหนึ่งจึงให้เหล็กหลอมเหลวกับเธอ…
ทั้งๆ ที่เป็นภาพวาดหยาบๆ เหมือนนิทานภาพเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่กลับให้ความรู้สึกหนังศีรษะชาจริงๆ เพราะสิ่งเล่านี้เป็นของจริง เธออยู่ข้างในนั้น รับโทษทรมานแบบนี้ตลอดไป ไม่มีวันสิ้นสุด ไม่มีวันจบสิ้น จนกระทั่งโจวเจ๋อลืมการมีตัวตนอยู่ของเธอ แต่ลืมแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะหยุดลง!
การจัดการวิญญาณ ไม่จำเป็นต้องวัดน้ำหนักของคดี ทั้งหมดตัวเองสะใจแบบไหนก็ทำแบบนั้นได้อย่างสิ้นเชิง
พญายมทั้งสิบขุมนรกจริงๆ แล้วมีหน้าที่ต่างกัน อย่างเช่น ผิงเติ่งหวังดูแลนรกขุมที่เก้าคือดูแลการลงโทษเป็นส่วนใหญ่ แต่เนื่องจากลักษณะพิเศษของร้านหนังสือ ดังนั้นจึงสามารถแอบทำลับหลังยมโลกได้ และไม่มีใครถือสาเอาความ
ยมโลกในตอนนี้มีการควบคุมกฎที่หย่อนยาน เรื่องบางเรื่องก็ต้องหลับตาข้างหนึ่งลืมตาข้างหนึ่ง นับประสาอะไรกับร้านหนังสือที่นี่ ที่ตามปกติแล้วพวกเขามองไม่เห็นด้วยซ้ำ
สวรรค์สูงฮ่องเต้ห่างไกล ไม่มีกฎหมาย ไม่มีสวรรค์
โจวเจ๋อวาดอีกสามรูป ล้วนเลือกการลงโทษตามที่ทุกคนได้เลือกไว้ จากนั้นโยนชายชราและป้าอ้วนรวมทั้งคนลักพาตัวผู้ชายเข้าไปตามลำดับ
ชายชราถูกโยนเข้าไปในถ้ำงู ทนรับความเจ็บปวดจากการฉีกกัดของงูนับหมื่น และยังมีงูตัวเล็กมากมายนับไม่ถ้วนมุดเข้ามุดออกภายในร่างกายของตัวเองอย่างทรมาน โดยไม่มีวันตายตลอดไป!
ไม่มีวันตาย หมายความว่าจะไม่มีวันสิ้นสุดตราบชั่วนิรันดร์ และคุณยังต้องรักษาสติอยู่ตลอดเวลา ห้ามเป็นลมสลบไป
ในที่แห่งนี้ การนอนหลับ การเป็นลม การพักผ่อนหรือหยุดชั่วคราวใดๆ ล้วนไม่มี ทั้งสิ้น คุณเหมือนลานนาฬิกาที่ต้องทำงานตลอด
ป้าอ้วนต้องทนถูกผีน้อยใช้ตะปูตอกเข้าร่างทุกวัน ใช้ตะปูตอกเข้าไปในกระดูกทุกส่วนของร่างกาย และยังต้องทรมานกับการดึงออกมาทีละอัน และอาจจะใช้เวลาไม่นาน ป้าอ้วนก็จะมีความเข้าใจโครงสร้างกระดูกของร่างกายมนุษย์มากกว่าผู้เชี่ยวชาญกระดูกที่เก่งที่สุดในวงการ
คนลักพาตัวผู้ชายได้เจอชุดพิเศษ ผีน้อยสองสามตัวรับผิดชอบดึงหนังของเขาให้ยาวยืดทุกวัน ตัดหนึ่งช่องว่าง แล้วยืดขยายต่อไปอีก จนกระทั่งทั้งตัวของเขาถูกห่อแล้วยัดเข้าไปในหม้อเหล็ก เพื่อให้เขาเพลิดเพลินกับการหายใจไม่ออก
การหายใจไม่ออกจะดำเนินต่อไปตลอดทั้งวัน เมื่อถึงตอนเย็น ค่อยนำหนังเหล่านี้มาตัด แล้วทำกับข้าว จากนั้นยัดเข้าไปในปากของเขาเพื่อให้ท้องตึงจนระเบิด
วันที่สอง ทุกอย่างจะกลับคืนสู่สภาพปกติ ตรงไหนควรยื่นออกมา ก็จะยื่นออกมา จากนั้นจึงทำต่อไป…
เมื่อทุกอย่างจัดการเรียบร้อยแล้ว โจวเจ๋อปิดสมุดหยินหยาง แล้วโยนปากกาพิฆาตทิ้ง พูดจริงๆ นะ ตอนนี้เขาอยากจะลืมเรื่องพวกนี้จริงๆ เพราะมันน่าสะอิดสะเอียน ลืมไปเสียเถอะ ปล่อยให้พวกเขาเจอแบบนี้ต่อไป ก็ดีเหมือนกัน
“เจ้าลิง หยิบออกไป” โจวเจ๋อผลักสมุดหยินหยางให้เจ้าลิง เจ้าลิงรีบเก็บสมุดหยินหยางใส่กระเป๋าสะพายเล็กของตัวเองทันที แล้วตบแปะๆ
“ฉันทำสลัดผลไม้ อยากกินไหม” สวี่ชิงหล่างพูดกับเจ้าลิง
“เจี๊ยกๆๆ!!!!” เจ้าลิงพยักหน้าด้วยความดีใจ เดินตามสวี่ชิงหล่างเข้าไปในห้องครัว
ทนายอันกลับหัวเราะ เอ่ยว่า “เถ้าแก่ การลงโทษของคนลักพาตัวผู้ชายคนสุดท้าย ทำไมผมไม่เคยเห็นตัวอย่างในภาพถ่ายสีของพวกเราล่ะ”
……………………………………………………………………….