ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 1443 สิ่งยั่วยุอื่น

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1443 สิ่งยั่วยุอื่น

บทที่ 1443 สิ่งยั่วยุอื่น

“นางเป็นเพียงเด็กสาวหยาบคายจากหมู่บ้านเท่านั้น แต่โชคชะตาช่างดียิ่งนัก นางได้รับการแต่งตั้งเป็นเสี้ยนจู่ ไม่เช่นนั้นในเวลานี้นางก็ยังต้องทำไร่ทำนาอยู่ในหมู่บ้าน นางเป็นแค่สาวบ้านนอก จะมีความสง่างามอย่างไรได้?” ทันใดนั้น น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการดูถูกก็ดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนาของทุกคน

ทุกคนหันไปมองตามเสียง เห็นบุคคลหนึ่งในชุดคลุมยาวสีม่วงหรูหราและคลุมทับอีกชั้นด้วยผ้าโปร่งสีใสดูเปล่งประกายสีเงินภายใต้แสงอาทิตย์

เดิมทีชุดที่นางสวมใส่ให้ความรู้สึกสงบนิ่งเหมือนนางเซียน แต่เมื่อได้เห็นความมั่นใจฉายชัดบนใบหน้าของเจ้าของที่กำลังสวมใส่ ความบูดบึ้งได้ทำลายความสง่างามนั้นอย่างสิ้นเชิง ทำให้ผู้คนรู้สึกว่านางไม่เข้ากับเสื้อผ้าที่นางสวมใส่

“หมิงตูจวิ้นจู่จัดงานเลี้ยงขึ้นใหญ่โต แต่เจ้ากลับแต่งตัวซอมซ่อเสียจริง บนร่างกายไม่มีแม้แต่เครื่องประดับดี ๆ สักชิ้น ดูไม่ให้ความเคารพกันเสียเลย” หน้าตาของนางงดงาม ทว่าความเย่อหยิ่งบนใบหน้าได้ทำให้ความงดงามที่มีกลับพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง

“นี่คือหวงหรูซื่อ ลูกของอนุภรรยาของรองเสนาบดีประจำกรมพิธีการ และเคยเป็นสหายสนิทกับหลิวเทียนฉือที่ถูกเนรเทศออกไป” ถานอวี้ซูที่อยู่ด้านข้างอธิบายเบา ๆ “นางเป็นคนเย่อหยิ่งและเจ้ากี้เจ้าการ รักศักด์ศรี ทว่าใจแคบและใช้หน้าตาที่น่ารักทำให้ผู้คนสับสน”

กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า ไม่แปลกใจเลยที่นางจะมีความคับข้องใจหรือเป็นปฏิปักษ์กับตัวเอง แม้ว่านางจะเป็นสหายที่ดีของซูหมิ่นและนางต้องการใส่ร้ายตนเอง แต่ด้วยสถานะของนาง นางไม่จำเป็นต้องเป็นต้องออกหน้ามาคนแรก ไม่น่าแปลกใจเลย ปรากฏว่านางต้องการล้างแค้นให้สหายสนิทของนาง

กู้เสี่ยวหวานไม่สนใจการยั่วยุของอีกฝ่าย และทำเพียงแค่พยักหน้าเป็นการทักทาย

เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานเพิกเฉยต่อตัวเอง ใบหน้าของหวงหรูซื่อก็เปลี่ยนเป็นสีเข้มด้วยความโกรธ

ครั้งเมื่อเทียนฉือยังอยู่ที่นี่ นางเคยบอกตัวเองก่อนหน้านี้ว่าเสี้ยนจู่อันผิงคนนี้ไม่ใช่คนที่ดี ถึงแม้ภายนอกจะดูงดงาม แต่ภายในกลับเน่าเฟะ

“ข้ากำลังพูดกับเจ้า เหตุใดเจ้าถึงไม่ตอบ” ดูเหมือนว่าหวงหรูซื่อจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย

ผู้คนรอบ ๆ นิ่งเงียบไม่พูดอะไร เมื่อเห็นความโกรธของหวงหรูซื่อที่มีต่อกู้เสี่ยวหวาน ผู้คนในบริเวณนั้นก็เงียบไปชั่วขณะและมองไปที่กู้เสี่ยหวาน ใบหน้าของพวกนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

แต่ซูหมิ่นผู้เป็นเจ้าภาพกลับยืนกอดอกด้วยรอยยิ้มและมองดูภาพนั้นอย่างสบายใจ อย่างไรก็ตาม นางเชิญกู้เสี่ยวหวานมาที่นี่เพื่อต้องการทำให้นางขายหน้า ดังนั้นจึงรู้สึกมีความสุขมากเมื่อมองภาพนี้

เมื่อเห็นว่าหมิงตูจวิ้นจู่ไม่ได้จงใจไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือตนเอง กู้เสี่ยวหวานจึงรู้ตัวว่านางต้องจัดการด้วยตนเอง

นางเอื้อมมือไปรั้งถานอวี้ซูที่กำลังจะพูดแทนนาง และส่ายหน้าเล็กน้อย จากนั้นมองไปที่หวงหรูซื่อที่อยู่ตรงหน้า พลางกล่าวเคล้ารอยยิ้ม “คุณหนู เมื่อครู่ที่เจ้าพูดว่าข้าเป็นแค่สาวบ้านนอกจากหมู่บ้านห่างไกล เช่นนั้นข้าจะมีเครื่องประดับล้ำค่าแบบเดียวกับคุณหนูได้อย่างไร ข้าเป็นเพียงผู้หญิงหยาบคายที่มาจากหมู่บ้าน คุณหนูไม่จำเป็นต้องมาทำลายภาพลักษณ์ของข้าหรอก แต่เจ้านี่สิ ทุกคนกำลังรอดูเรื่องสนุกของพวกเราอยู่ คุณหนูเป็นคนรักศักดิ์ศรีตัวเอง แต่เจ้ากำลังรังแกข้า ส่วนที่เหลือก็ยืนดูเฉย ๆ หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปว่าเจ้ารังแกเสี้ยนจู่อันผิง เช่นนั้นจะเป็นการดีสำหรับเจ้าหรือ?”

คำพูดของกู้เสี่ยวหวานทำให้หวงหรูซื่อผงะไปครู่หนึ่ง นางไม่ได้คาดคิดว่ากู้เสี่ยวหวานจะพูดเช่นนี้ แรกเริ่มนางรู้สึกไม่พอใจ แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของกู้เสี่ยวหวาน นางก็รู้สึกอายเล็กน้อย

โดยเฉพาะสองคำสุดท้ายที่กู้เสี่ยวหวานพูด ตอนนี้นางลดเสียงลงและจนได้ยินกันเพียงสองคนเท่านั้น ตอนนี้เมื่อนึกถึงชื่อเสียงของตนเองและมองไปยังผู้คนรอบข้างก็พบว่า หลายคนชะเง้อคอมองมาทางตนเองด้วยสายตาเยาะเย้ยราวกับว่าพวกนางต้องการเห็นเรื่องสนุกระหว่างเรา

“หืม วันนี้เป็นงานเลี้ยงของหมิงตูจวิ้นจู่ ดังนั้นข้าจะไม่เอาเรื่องเจ้าตอนนี้” หวงหรูซื่อตะคอกอย่างเย็นชาแล้วเดินจากไป

ประกายไฟเล็ก ๆ อาจจะกลายเป็นไฟลามทุ่งได้ แต่ตอนนี้มันมอดลงแล้ว และทุกคนก็ดูสับสนงุนงงเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งซูหมิ่น เมื่อเห็นว่าหวงหรูซื่อยอมถอย นางไม่ได้คาดหวังว่าจะจบเร็วขนาดนี้ นางไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ำ

หวงหรูซื่อคนนี้หวงแหนศักดิ์ศรีของตนยิ่งชีพ วันนี้นางจต้องการยั่วยุกู้เสี่ยวหวาน นางจะยอมแพ้ได้อย่างไร

ซูหมิ่นรู้สึกไม่เชื่อเล็กน้อยและมองดูหวงหรูซื่อเดินจากไป

กู้เสี่ยวหวานยืนอยู่ที่นั่นด้วยรอยยิ้มตลอดเวลาราวกับว่าการยั่วยุในเมื่อครู่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง

นางผู้นี้พูดอะไรกับหวงหรูซื่อเมื่อครู่กัน?

หวงหรูซื่อชื่นชอบการแข่งขัน นางจะปล่อยกู้เสี่ยวหวานไปอย่างง่ายดายได้อย่างไร?

ซูหมิ่นมองไปที่กู้เสี่ยวหวานซึ่งมีท่าทีสบายอกสบายใจ หางตาของนางจึงกระตุกโดยไม่ตั้งใจ

กู้เสี่ยวหวานคนนี้ ต้องประเมินนางใหม่เสียแล้ว

ยิ่งเป็นคนที่คาดเดาไม่ได้มากเท่าไร นางก็ยิ่งอันตรายมากเท่านั้น ยิ่งอันตรายก็ยิ่งต้องรีบกำจัด

แววตาของซูหมิ่นฉายแววดุร้าย กู้เสี่ยวหวานกำลังหันหลังให้อีกฝ่าย จึงไม่ได้สังเกตเห็นความชั่วร้ายในดวงตาคู่นั้น

“ท่านพี่ เมื่อครู่ท่านพูดอะไรกับหวงหรูซื่อ เหตุใดนางจึงจากไปเร็วเช่นนั้น” ถานอวี้ซูรู้สึกไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย หวงหรูซื่อเป็นคนที่จะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย นางจะจากไปอย่างง่ายดายได้อย่างไร

แต่นางจากไปก็ดีแล้ว ท่านพี่จะได้ไม่มีปัญหา

“เจ้าบอกว่านางเป็นคนรักศักดิ์ศรี ข้าเพิ่งบอกนางไปว่าในขณะนี้นางมีพฤติกรรมเหมือนลิงและผู้คนมากมายกำลังจับตามองอยู่ ดังนั้นนางจึงจากไป” กู้เสี่ยวหวานพูดด้วยรอยยิ้ม

ยิ่งเป็นคนรักศักดิ์ศรีมากเท่าไรก็ยิ่งสนใจศักดิ์ศรีของตัวเองมากเท่านั้น การถูกคนอื่นชี้หน้านินทาและเป็นที่พูดถึงของคนเหล่านี้ มันทำให้นางรู้สึกอับอาย

หวงหรูซื่อจะไม่ทำอย่างนั้น

“ใช่แล้ว ทำไมข้าคิดไม่ถึง” ถานอวี้ซูปรบมือแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “นางเป็นคนรักศักดิ์ศรี แค่เราทำให้นางรู้ว่าศักดิ์ศรีของนางมีค่าเพียงใดก็พอ”

กู้เสี่ยวหวานยิ้มและพยักหน้า

ฟางเพ่ยหยายืนเคียงข้างถานอวี้ซูโดยไม่ขยับแม้แต่ก้าวเดียว เมื่อได้ยินคำพูดของกู้เสี่ยวหวานในขณะนี้ ดวงตาของนางก็เปล่งประกายและมองไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยความเคารพ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท