คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า – ตอนที่ 700 ทำบาปทำกรรมอะไรมาจึงได้ถูกเร่งให้มีบุตร

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 700 ทำบาปทำกรรมอะไรมาจึงได้ถูกเร่งให้มีบุตร

ฉินหลิวซีได้ไปที่หอตำราลับของอารามชิงหลาน เนื่องจากคำแนะนำของเจ้าอาวาสชิงหลานจึงสามารถดูตำราลับยาสมุนไพรและวิชาแพทย์อันล้ำค่าที่ไม่เปิดให้บุคคลภายนอกดูได้ ใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนในการดูตำรา หากไม่ใช่เพราะนำผลหลิงกั่วที่หวงซื่อนำมาให้เมื่อก่อนหน้านี้มาด้วย นางคงจะกลายเป็นสุนัขหมดแรงไปแล้ว

“เป็นอย่างไร” เจ้าอาวาสชิงหลานก็ให้คนมาช่วยหาด้วย แต่ก็เทียบไม่ได้กับที่ฉินหลิวซีทำความเข้าใจด้วยตัวเอง เพราะวิชาแพทย์ของนางเหนือกว่าบรรดาศิษย์พี่ศิษย์น้องในอารามชิงหลาน รวมถึงตัวเขาเองด้วย

ฉินหลิวซีหาวพลางเอ่ย “ข้ามีความคิดบางอย่าง แต่ค่อนข้างเสี่ยงเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าเขาจะทนได้หรือไม่”

การใช้พิษโจมตีพิษ หากอยากจะสำเร็จ พิษใหม่ต้องรุนแรงกว่าพิษที่เขาโดนอยู่ตอนนี้ แมงป่องทองมีพิษที่ร้ายแรงมากพอ พิษของมันต้องใช้ยาบำบัดอย่างระมัดระวัง แต่ก็ไม่สามารถทำลายไปจนหมดได้ มิเช่นนั้นจะไร้ประโยชน์ ระงับพิษของมดคันไฟไม่ได้

ดังนั้นหากต้องการควบคุมระดับนี้ ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับการหล่อหลอมเครื่องราง จะต้องแม่นยำและมีการทดลอง

และเมื่อจัดการพิษนี้เรียบร้อยแล้ว เสริมพิษอย่างอื่นเข้าไปปรับแต่งให้กลายเป็นพิษใหม่โดยมีแมงป่องทองเป็นพิษหลัก จึงจะทดสอบได้ว่าใช้ได้หรือไม่

เจ้าอาวาสชิงหลานขมวดคิ้วพลางกล่าว “นี่เป็นความเสี่ยงมากจริงๆ ตามที่เจ้ากล่าว พิษนี้ต้องเป็นพิษที่ร้ายแรง เกรงว่าร่างกายของเฉวียนจิ่งจะไม่สามารถทนได้ ต่อให้ผ่านไปได้ พิษใหม่ก็จะคงอยู่ในร่างกาย นี่ก็เป็นอีกกระบวนการหนึ่ง เขาจะผ่านไปได้หรือไม่ก็ยากที่จะบอกได้ หากเขาผ่านมันไปได้ บางทีอาจมีพิษสองชนิดอยู่ในร่างกายของเขา ซึ่งแต่ละชนิดครอบครองพื้นที่ส่วนหนึ่ง แต่ละชนิดล้วนเป็นราชาพิษ ทั้งสองก็อยู่ร่วมกัน แต่ในกรณีนี้อวัยวะภายในของเขาจะสามารถทนต่อการกัดเซาะของพิษทั้งสองนี้ได้หรือไม่ อย่างไรพิษก็คือพิษ”

“ไม่เป็นไร หากเขาสามารถผ่านไปได้ แม้ว่าอวัยวะภายในจะพัง ข้าก็จะไม่มีทางให้เขาตาย” ฉินหลิวซีคิดไว้แล้วว่าตอนที่ไปหาเรื่องที่ยมโลกควรจะต่อรองผลประโยชน์สิ่งใดเพิ่มเติม

เจ้าอาวาสชิงหลานอยากรู้แผนการของนางอยู่บ้าง แต่คนฉลาดอย่างเขาจะไม่ถาม กลัวว่าเจ้าเด็กเมื่อวานซืนจะรวมเขาไว้ในแผนด้วย

แต่บางครั้ง การที่ไม่ถามก็ไม่ได้หมายความว่าจะถูกมองข้าม

“อารามชิงหลานของพวกท่านภูมิใจในการหล่อหลอมยา ไม่ได้มียาอายุวัฒนะหรอกหรือ เพื่อไม่ให้ราษฎรที่อยู่ชายแดนถูกรบกวนจากการฆ่าสังหารของต่างเผ่าพันธุ์ แม่ทัพที่ดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่สู้ท่านอาจารย์ลุงชิงหลานทำการกุศลอันยิ่งใหญ่ มอบให้สักหนึ่งเม็ดเถิด”

เจ้าอาวาสชิงหลานแทบจะดีดตัวขึ้นมา เอ่ยขึ้นว่า “ยาอายุวัฒนะโบราณที่แท้จริงนั้น วัตถุดิบที่ใช้เป็นสมบัติล้ำค่าในใต้หล้า หายากและยากที่จะหล่อหลอมได้ ข้าไม่มีหรอก”

มีก็ไม่ให้

ตอนนี้ในอารามเก็บรักษาอยู่ก็มีเพียงแค่สามเม็ดเท่านั้น นางยังกล้าขอ หนังหน้าถูกโบกด้วยปูนหรือ

“แค่เม็ดเดียวเอง” ฉินหลิวซีนึกบางอย่างขึ้นมาได้ “หากทำใจให้ไม่ได้จริงๆ เช่นนั้นท่านก็มอบวิธีให้ข้า ข้าจะไปหาวัตถุดิบยามาแล้วหลอมยาขึ้นเอง”

เจ้าอาวาสชิงหลานตกใจจนหัวใจเกือบวาย ให้วิธีหล่อหลอมยา หากให้ไปจะไม่เป็นการเตะหมูเข้าปากหมา ไม่ได้กลับคืนมาอีกแล้วหรอกหรือ

เขาตาเป็นประกายขึ้นมา มีคนมาช่วยแล้ว

“รีบร้อนอะไรกัน มีเรื่องอะไรสำคัญหรือ”

เขาก้าวฝีเท้าอย่างรวดเร็ว คว้าเหอหมิงที่วิ่งมาอย่างรวดเร็ว แล้วเดินไปตามทางเดิน รีบไป หากยังอยู่ที่นี่ต่อ ก็จะถูกเจ้าเด็กเมื่อวานซืนผู้นี้เอาเปรียบแล้ว

ฉินหลิวซีหัวเราะเบาๆ ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ขี้เหนียว

นางเกาปลายจมูก ก่อนจะไปหาซือถู ไปจุดธูปเคารพที่หน้าป้ายวิญญาณของท่านแม่ซือเหลิ่งเย่ว์กับเขา ท่องบทสวดสองสามประโยค

ฉินหลิวซีมองดูซือถูหยิบผ้าเช็ดหน้าผ้าฝ้ายสีขาวมาเช็ดฝุ่นที่แทบจะไม่มีบนป้ายวิญญาณของภรรยา กล่าวว่า “ข้าจะไปหาเสี่ยวเย่ว์ ท่านลุงซือจะไปด้วยกันหรือไม่”

“ข้าไม่ไป ครึ่งปีมานี้นางเอาแต่ฝึกวิชาแม่มดอยู่ที่ดินแดนของเผ่า ไม่อยากพบข้า” ซือถูคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยว่า “หากเจ้าได้พบนาง ไม่สู้ช่วยข้าเกลี้ยกล่อมนางให้รีบหาบุรุษที่ถูกใจแล้วมีหลานน้อยให้ข้า แม้ว่าคำสาปเลือดของตระกูลซือจะถูกทำลายแล้ว แต่สายเลือดของตระกูลซือก็เหลือนางเพียงคนเดียว จะปล่อยให้จบลงที่นางไม่ได้”

ฉินหลิวซีมุมปากกระตุก

“ไม่ว่าเป็นชายหรือหญิง นางก็แค่รับผิดชอบการให้กำเนิด ข้าจะช่วยเลี้ยงดูแทนนางเอง จากนั้นนางอยากจะทำอะไรก็ทำ จะไปแหกกฎสวรรค์กับเจ้าก็ได้” ซือถูมองนางด้วยท่าทางน่าสงสารพลางกล่าว “ข้าแค่อยากได้หลานน้อยสักคนก็เท่านั้น”

ฉินหลิวซีมองไปทางอื่น อายุปูนนี้แล้ว แต่ดวงตายังคงแวววาวราวกับดวงตาของกวางน้อย ชายผู้นี้ดูราวกับสตรี ยากที่จะรับไหวจริงๆ

“ท่านลุงซือ เสี่ยวเย่ว์ย่อมรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว เร่งไม่ได้หรอก อีกอย่าง ท่านเร่งให้คลอดบุตร เหตุใดไม่เร่งให้แต่งงาน”

ซือถูกอดป้ายวิญญาณของภรรยา เอ่ยด้วยความโมโห “เร่งให้คลอดบุตรง่ายกว่าเร่งให้แต่งงานไม่ใช่หรือ หากรอให้นางถูกใจ ต่อให้ข้าตายแล้วก็ไม่รู้ว่าจะรอถึงวันนั้นหรือไม่ แต่เร่งให้มีบุตรนั้นแตกต่าง เพียงแค่นอน หากเร็วก็ไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ตั้งครรภ์อีกสิบเดือนแล้วคลอดออกมาก็สำเร็จ”

ฉินหลิวซี “!”

นี่คือสิ่งที่เด็กสาวอย่างนางฟังได้หรือ

“ท่านคงไม่ได้เห็นนางเป็นเครื่องผลิตบุตรหรอกกระมัง แล้วจะแตกต่างจากแม่หมูตรงไหน มีบิดาที่ไหนเป็นเหมือนท่านบ้าง!”

ซือถูกล่าวว่า “เหลวไหล แม่หมูที่ไหนจะรูปงามเท่านาง เป็นเพราะข้าไม่ใช่สตรี แล้วก็ไม่ได้เป็นสายเลือดตระกูลซือด้วย มิเช่นนั้นข้าก็ไม่ต้องให้นางคลอดบุตรหรอก ข้าจะคลอดเองสักเก้าคนสิบคน นี่เป็นเพราะไม่มีทางเลือกไม่ใช่หรือ ตระกูลซือมีนางเป็นต้นกล้าเพียงหนึ่งเดียว หน้าที่นี้อยู่ในความรับผิดชอบของนาง!”

เขาทุบหน้าอกด้วยความปวดใจ “อีกอย่าง เพียงแค่เลือกคนดีๆ ไม่ได้ต้องใช้ชีวิตอยู่กับเขา แล้วก็ไม่ได้ต้องให้นางรับผิดชอบต่อความรู้สึกอะไรเหล่านั้นด้วย ง่ายจะตาย”

ฉินหลิวซี “เข้าใจแล้ว ท่านต้องการให้นางเป็นสตรีไร้หัวใจที่นิสัยไม่ดี!”

ช่างเป็นบิดาที่เปิดกว้างเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้าอย่างแท้จริง!

“เจ้าว่าอะไรนะ” ซือถูมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า “เช่นนั้นพวกเจ้าทำด้วยกันเถิด เป็นเพื่อนกันดีหรือไม่”

ฉินหลิวซีตกใจมาก “อะไรนะ ท่านจะให้พวกเรานอนกับบุรุษคนเดียวกันหรือ”

เฮยซาที่พึ่งเดินเข้ามารีบหยุดฝีเท้าทันที เอาหูแนบประตูตั้งใจฟัง นี่มันเปิดกว้างเกินไปแล้วกระมัง!

“นอนกับบุรุษคนเดียวกันเสียที่ไหน หมายความว่าให้พวกเจ้ามีลูกคนละคน อยู่ด้วยกัน เมื่อมีเพื่อน เช่นนี้นางก็จะไม่ปฏิเสธแล้ว!” ยิ่งซือถูคิดเรื่องนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่าวิธีนี้เป็นไปได้ ปรบมือเสียงดัง กล่าวอีกว่า “รอให้พวกเจ้าคลอดบุตรออกมา หากเป็นชายและหญิงก็หมั้นหมายไว้เลย ในภายภาคหน้า หากพวกเขาให้กำเนิดบุตรอีก จะต้องเป็นเด็กที่ฉลาดที่สุดในใต้หล้าอย่างแน่นอน หากเป็นชายหรือหญิงทั้งคู่ก็ให้ผูกสัมพันธ์เป็นพี่น้อง เป็นบุตรบุญธรรมของพวกเจ้าทั้งสอง พวกเจ้าก็จะได้มีบุตรสองคน ได้กำไรทางสายเลือด สมบูรณ์แบบ!”

ฉินหลิวซี ‘จินตนาการของท่านล้ำเลิศมาก!’

นางอธิบายด้วยคุณธรรมว่า “ท่านลุงซือ คนฝึกบำเพ็ญเต๋าในเสวียนเหมินมีคำกล่าวเรื่องห้าโทษสามวิบัติ ข้าโดนข้อที่ต้องอยู่คนเดียว ถูกกำหนดแล้วว่าจะไม่มีบุตรในชีวิตนี้ ท่านไม่ต้องเอ่ยแล้ว ข้ามีเรื่องสำคัญ ขอตัวก่อน ท่านอยู่พูดคุยเป็นเพื่อนท่านป้าซือก่อนเถิด”

นางพูดแล้วก็ออกไปราวกับกำลังหนี

เวรกรรม นางเพียงแค่มาจุดธูป เหตุใดจึงถูกเร่งให้มีบุตรเสียได้!

ทางด้านหลัง ซือถูยังคงเอ่ยพึมพำกับตัวเอง “แม่เสี่ยวเย่ว์ ข้าเป็นห่วงเด็กเหล่านี้มากจริงๆ ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องดี เหตุใดพวกนางจึงไม่อยากฟัง หากพวกนางยินดี บุรุษคนเดียวกันก็ใช่ว่าจะไม่ได้ สิ่งสำคัญคือคนผู้นั้นต้องรูปงามและฉลาดมากพอ เจ้าคิดว่าอย่างไร”

ฉินหลิวซีเสียหลัก

เฮยซาตามนางไป เอ่ยอย่างตื่นเต้น “ที่แท้บุรุษในหอสองคนนั้นเลือกสาวงามหนึ่งคนไปเล่นเป็นเพื่อน สตรีก็ใช้วิธีนี้ได้ด้วย คิดไม่ถึงว่าคนแซ่ซือจะใจกว้างเพียงนี้!”

ฉินหลิวซีตบศีรษะเขาด้วยหลังมือ ใครให้เจ้าไปเรียนรู้สิ่งไม่ดี!

เสียงคำรามของหมีดังก้องไปทั่วอารามชิงหลาน ทำเอาทุกคนตกใจพากันมองมาทางนี้ มีหมีปรากฏตัวหรือ

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Status: Ongoing
คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้านางคือปรมาจารย์ปู้ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น!รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นเลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่งฉินหลิวซี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเต๋าเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไปเบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู้ฉิวผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงินปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิดเมื่อโชคชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่านปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมเริ่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัวเฮ้อ แม้ไม่หวังการก้าวหน้าใดๆ แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเชียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้าเขาก็ดั้นด้นเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า!“เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ”“ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ”“ไม่เป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง”“ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า” ฉีเชียนเอ่ย“ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป…”ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ“เดิมทีท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน”“….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท