สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1496 กระต่ายตื่นตูม

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1496 กระต่ายตื่นตูม

“จักรพรรดินีต้าโจวทรงเก่งจริงๆ ตอนนี้ราชสำนักตงอี๋อยู่ในการควบคุมของต้าโจวแล้ว แม้แต่เรื่องการจัดพิธีบรมราชาภิเษกฮองเฮาของตงอี๋ต้องยังฟังคำแนะนำของจักรพรรดินีต้าโจว”

เซียวหรงเหยี่ยนเดินเอามือไขว้หลังตามไป๋ชิงเหยียนเข้าไปในวังพลางกล่าวอย่างไม่รีบร้อน

เมื่อเห็นบันไดเซียวหรงเหยี่ยนจึงยื่นมือเตรียมช่วยประคองไป๋ชิงเหยียน ทว่า ไป๋ชิงเหยียนกลับปรายตามองมือของชายหนุ่มเพียงเล็กน้อย จากนั้นเดินขึ้นไปบนบันไดพลางหันไปกล่าวกับเซียวหรงเหยี่ยน

“ผู้สำเร็จราชการพากองทัพมาเพราะอยากขอส่วนแบ่งใช่หรือไม่”

เซียวหรงเหยี่ยนชักมือที่ถูกแสงอัสดงส่องกลับมาไว้ตามเดิม เขาเหลือบมององครักษ์ต้าเยี่ยนและต้าเยี่ยนด้านหลังที่หยุดนิ่งตามพวกเขาแวบหนึ่ง จากนั้นจึงก้าวขึ้นไปบนบันไดยิ้มๆ แล้วกล่าวขึ้น

“ต้าโจวแข็งแกร่ง ต้าเยี่ยนอ่อนแอ แค่ความเมตตาที่ฝ่าบาทมีต่อชาวบ้านและทหารจนทำให้พวกเขาอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปก็ทำให้ต้าเยี่ยนก็สู้ต้าโจวไม่ได้แล้ว พวกเราจะกล้ามาขอส่วนแบ่งจากต้าโจวได้เช่นไรพ่ะย่ะค่ะ พวกเราแค่อยากทำทัพมาช่วยหนุนหลังต้าโจว ไม่ให้ตงอี๋ก่อความวุ่นวายขึ้นในเขตที่ต้าเยี่ยนคุมก็เท่านั้น”

รอยยิ้มบนใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนกว้างขึ้นกว่าเดิม

ฮองเฮา องค์ชายเจ็ดและขุนนางของตงอี๋ยืนรอต้อนรับผู้สำเร็จราชการต้าเยี่ยนอยู่ด้านบน เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเดินเคียงข้างมากับผู้สำเร็จราชการที่สวมหน้ากากปิดบังใบหน้าของต้าเยี่ยนจึงตะลึงงันไปชั่วครู่ พวกเขารู้สึกว่ารัศมีของคนทั้งคู่ล้วนไม่ธรรมดา เมื่อเดินเคียงข้างมาด้วยกันช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันยิ่งนัก

เมื่อเห็นผู้สำเร็จราชการสวมหน้ากากเช่นเดียวกันใจของฮองเฮาจึงกระตุกวูบ เมื่อมองไปทางไป๋ชิงเหยียนที่ยังคงยิ้มกว้าง จู่ๆ ฮองเฮาก็เกิดความคิดบางอย่างที่ไม่น่าเป็นไม่ได้ขึ้นมา นางกำแขนของนางกำนัลที่กำลังประคองร่างของนางแน่น จากนั้นเดินไปด้านหน้าพลางกล่าวเสียงเบา

“ผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนผู้นี้คงไม่ใช่คนของต้าโจวหรอกนะ”

ฮองเฮาหันไปมองหน้านางกำนัลข้างกาย จากนั้นมองไปทางองค์ชายเจ็ดซึ่งสวมหน้ากากยืนอยู่ไม่ไกลพลางกล่าวเสียงเบา

“เขาคงไม่ใช่คนของต้าโจวที่ปลอมตัวเป็นผู้สำเร็จราชการหรอกใช่หรือไม่”

นางกำนัลข้างกายของฮองเฮารู้เรื่องขององค์ชายเจ็ด นางรีบกุมมือของเจ้านายตัวเองเอาไว้พลางก้มหน้าต่ำด้วยความตกใจ จากนั้นกล่าวเสียงเบา

“ฮองเฮา พวกเราได้ยินข่าวมานานแล้วว่าผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนเสียโฉมและร่างกายอ่อนแอ เขาเอาแต่พักรักษาตัวที่จวนของตัวเองไม่ออกไปพบผู้ใด ต่อมาเขาถูกอดีตจักรพรรดิต้าเยี่ยนบีบให้ออกมารบเพราะต้าเยี่ยนไม่มีนักรบที่เก่งกาจเหลืออยู่อีกแล้ว เขาสวมหน้ากากตั้งแต่ตอนนั้นแล้วเพคะ ฮองเฮาทรงทราบเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว ทรงอย่าตื่นตระหนักเพียงเพราะเรื่องขององค์ชายเจ็ดเลยเพคะ”

ฮองเฮาได้ยินนางกำนัลกล่าวเช่นนี้จึงวางใจลง นางเป็นกระต่ายตื่นตูมจริงๆ

นางพยายามรวบรวมสติของตัวเองมองไปทางไป๋ชิงเหยียนที่กำลังยิ้มอยู่ จากนั้นกล่าวขึ้น

“จักรพรรดินีต้าโจวคงจงใจแสดงให้พวกเราเห็น ให้ตงอี๋คิดว่าต้าโจวมีความสัมพันธ์อันดีกับต้าเยี่ยน นางจึงออกไปต้อนรับผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนด้วยตัวเองและปฏิบัติต่อเขาอย่างเป็นมิตร ยิ่งต้าโจวทำเช่นนี้ก็ยิ่งแสดงว่าพวกเรายังสามารถดึงต้าเยี่ยนมาเป็นพวกได้อยู่!”

“ฮองเฮาทรงไตร่ตรองให้ดีนะเพคะ! องค์ชายเจ็ดยังอยู่ในกำมือของต้าโจวนะเพคะ!”

นางกำนัลกล่าวเสียงเบาพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ ราวกับกลัวว่าองค์ชายเจ็ดจะพาคนเดินเข้ามาใกล้ นางกล่าวเสียงสะอื้น

“หากผิดพลาดขึ้นมา…ผลลัพธ์ที่ตามมาเกินกว่าที่พวกเราจะรับไหวนะเพคะ”

ฮองเฮากำหมัดแน่นด้วยใจที่เดือดพล่าน เมื่อนึกถึงบุตรชายของตัวเองก็รู้สึกปวดใจมาก ทว่า ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มเหมือนเคย นางจับมือนางกำนัลเดินไปด้านหน้า จากนั้นทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน

“จักรพรรดินีนต้าโจว…”

ไป๋ชิงเหยียนทำความเคารพฮองเฮาของตงอี๋กลับอย่างไม่วางมาดเช่นเดียวกัน

“ฮองเฮา”

“ผู้สำเร็จราชการ…”

ฮองเฮาก้มศีรษะให้เซียวหรงเหยี่ยนเล็กน้อย

เซียวหรงเหยี่ยนยังคงยืนเอามือไขว้หลังเหมือนเดิม เขาก้มศีรษะให้ฮองเฮากลับ

“ฮองเฮา”

ท่าป๋าเย่าสวมหน้ากากที่ใบหน้าเช่นเดียวกัน เด็กหนุ่มมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนที่ยืนเอามือไขว้หลังนิ่งพลางกำมือที่อยู่ทางด้านหลังของตัวเองแน่น ขุนนางตงอี๋ที่อยู่ด้านหลังท่าป๋าเย่าเห็นจึงคิดว่าแค้นที่ต้าเยี่ยนและต้าโจวบุกมารังแกแคว้นตงอี๋ของพวกเขาจึงก้าวเข้าไปกล่าวกับท่าป๋าเย่าเสียงเบา

ท่าป๋าเย่าคลายหมัดที่กำแน่นออก เขาตระหนักได้ว่าแม้แต่ขุนนางของตงอี๋ยังมองเห็นความแค้นของเขา ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนเลย ท่าป๋าเย่าหลับตาลง เขาซ่อนความแค้นไว้ในใจ จากนั้นมองไปทางไป๋ชิงเหยียน…

ตอนนี้ฝ่าบาทมอบโอกาสให้แก่เขา นางมอบแคว้น กำลังคนและเวลาให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาอยากทำ เขาจะทำลายแผนการของฝ่าบาทไม่ได้เด็ดขาด

เมื่อคิดได้เช่นนี้ท่าป๋าเย่าจึงถอนหายใจยาวออกมา จากนั้นหันไปกล่าวกับขุนนางทางด้านหลัง

“ไปต้อนรับเถิด”

เซียวหรงเหยี่ยนเห็นองค์ชายเจ็ดพาขุนนางของตงอี๋เดินมาทางเขาและไป๋ชิงเหยียน เขามองสำรวจองค์ชายเจ็ดที่ถูกส่งมาเป็นจักรพรรดิของตงอี๋อย่างละเอียด ร่างสูงโปร่ง จังหวะการเดินราวสม่ำเสมอ นี่ไม่ใช่สิ่งที่สามารถฝึกฝนกันได้เพียงไม่กี่วัน เขาเดินมาอย่างสง่าและมั่นคง ไม่มีเสียงฝีเท้าแม้แต้ก้าวเดียว นี่คือคนที่ได้รับการอบรมมาอย่างดีในราชวงศ์

เซียวหรงเหยี่ยนละสายตาจากร่างขององค์ชายเจ็ด จากนั้นมองไปทางฮองเฮาของตงอี๋ที่กำลังสนทนาอยู่ด้วยรอยยิ้ม

“องค์ชายเจ็ดกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว พรุ่งนี้จะมีงานบรมราชาภิเษก เวลาอาจจะกระชั้นชิดไปบ้าง เสียมารยาทกับจักรพรรดินีและผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนแล้ว หวังว่าทั้งสองจะไม่ถือสา!”

ฮองเฮากล่าวด้วยรอยยิ้มจบจึงกล่าวต่อ

“แคว้นตงอี๋ของพวกเราเป็นเพียงแคว้นเล็ก สู้ต้าโจวกับต้าเยี่ยนไม่ได้ ข้าสั่งให้คนไปเตรียมจวนของเหลียนอ๋องและผิงอ๋องให้จักรพรรดินีต้าโจวและผู้สำเร็จราชการต้าเยี่ยนแล้ว…”

“คารวะจักรพรรดินีต้าโจว…”

ท่าป๋าเย่าเดินมาหยุดอยู่ข้างกายของฮองเฮา จากนั้นทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนและหันไปก้มศีรษะให้เซียวหรงเหยี่ยนเล็กน้อย

“ผู้สำเร็จราชการ”

เซียวหรงเหยี่ยนทำความเคารพท่าป๋าเย่ายิ้มๆ

“คารวะองค์ชายเจ็ด!”

ฮองเฮาของตงอี๋ผายมือเชิญไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยน

“เชิญฝ่าบาทและผู้สำเร็จราชการ”

“เชิญฝ่าบาท ผู้สำเร็จราชการ…”

เซียวหรงเหยี่ยนมองดูการมารยาที่ไร้ที่ติขององค์ชายเจ็ด รัศมีของราชวงศ์ที่ออกมาจากตัวองค์ชายเจ็ดทำให้เซียวหรงเหยี่ยนเริ่มสงสัย

อาเป่าส่งองค์ชายเจ็ดตัวจริงกลับมาอย่างนั้นหรือ

เด็กอายุเท่านี้ที่รู้จักมารยาทของราชวงศ์และมีบารมีเช่นนี้ไม่ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงอบรมใหม่เลย

ดวงตาล้ำลึกของเซียวหรงเหยี่ยนมองไปทางไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงเหยียนมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้มเช่นเดียวกัน ชายหนุ่มเดินเข้าไปในตำหนักใหญ่พร้อมไป๋ชิงเหยียน ฮองเฮาและองค์ชายเจ็ดของตงอี๋ด้วยรอยยิ้ม

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท