สืบแค้นคุณหนูสวมรอย – ตอนที่ 241 กิ่งทอง

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

ตอนที่ 241 กิ่งทอง

ณ เรือนหลังเล็กตกแต่งประณีตในจวนองค์หญิงใหญ่ ข่งฝูกำลังคุยกับซินโย่ว “พี่โค่ว ข้าเห็นคนชั่วที่รังแกพี่แล้ว คนผู้นั้นหน้าตาดุร้ายโหดเหี้ยม ไม่เหมือนเป็นคนดี แต่พี่วางใจ เสด็จลุงลงโทษเขาแล้ว”

“ฝ่าบาทลงโทษเขาอย่างไรหรือ” ซินโย่วถามตาม

หลังจากที่องค์หญิงใหญ่เจาหยางเข้าวังขอความเป็นธรรมให้กับซินโย่ว เช้าวันต่อมาองค์หญิงใหญ่เจาหยางก็มาเยี่ยมนางและเล่าถึงการปลดเซียวเหลิ่งสือจากตำแหน่ง แต่ไม่ได้บรรยายภาพละเอียดเหมือนข่งฝู

ฟังคุณหนูตัวน้อยพูดจบ ซินโย่วก็ตกใจ “ท่านโหวรับตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักหนานเจิ้นฝู่ซือ?”

เซียวเหลิ่งสือถูกปลดจากตำแหน่งไม่ได้ทำให้นางตกใจ นับได้ว่านางช่วยส่งเสริมให้เกิดผลเช่นนี้ จิ้งอันโหวรับตำแหน่งต่อจากเซียวเหลิ่งสือเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย

“อืม พี่ใหญ่ข้าเสนอตนเอง เขาชอบเป็นกองกำลังองครักษ์จิ่นหลิน” ข่งฝูไม่ค่อยรู้ความชอบของพี่ชายสักเท่าไร จึงเอ่ยถึงเหตุผลอย่างง่ายๆ ตรงไปตรงมาเช่นนี้

ซินโย่ว “…” ความชอบของพี่ชายท่านพิสดารแท้

“พี่โค่ว พี่รักษาตัวให้ดีๆ ไว้รอพี่หายแล้ว พวกเราไปดูพวกไป๋ต้ากัน”

ซินโย่วพักในจวนองค์หญิงใหญ่สองวัน เช้าวันที่สามก็มีคนมาจากจวนรองเจ้ากรม นายหญิงบ้านสองจูซื่อมาเยี่ยมเยือนด้วยตนเอง

“ที่จวนล้วนคิดถึงคุณหนูนอกมาก นายหญิงผู้เฒ่านอนไม่หลับมาหลายวัน…” จูซื่อแสดงท่าทีคิดรับซินโย่วกลับไป

องค์หญิงใหญ่เจาหยางคิดเอ่ยปฏิเสธ แต่คิดแล้วก็คิดว่าควรถามความต้องการของคุณหนูโค่ว ไม่ใช่คิดตัดสินเอง ดังนั้นจึงพาจูซื่อไปเรือนพักเล็กด้วยตนเอง

“ข้าควรกลับได้แล้ว มาอยู่ที่นี่เป็นการรบกวนองค์หญิงไม่ว่า ในใจข้าเองก็คิดถึงท่านยาย” ซินโย่วแสดงสีหน้าท่าทางเรียบร้อยว่านอนสอนง่าย

องค์หญิงใหญ่เจาหยางเห็นนางยืนยัน ก็สั่งให้คนเตรียมรถม้ากว้างขวางนั่งสบาย ยังมีขบวนรถที่บรรทุกข้าวของต่างๆ ไว้เต็มคันตามไป ร่วมกับรถม้าจวนรองเจ้ากรมเดินทางกลับจวนรองเจ้ากรม

เสี่ยวเหลียนกับฟางหมัวมัวเข้าไปนั่งในรถเป็นเพื่อนซินโย่ว ทั้งสองคนต่างรู้สึกโล่งใจ

เสี่ยวเหลียนเองก็คิดเช่นกัน “คุณหนู พวกเราจะอยู่ที่จวนรองเจ้ากรมอีกนานเท่าไรเจ้าคะ”

ในใจสาวใช้ บ้านแท้จริงของนางกับคุณหนูก็คือร้านหนังสือชิงซงผู้ดูแลร้านหูและหลิวโจวเป็นดังญาติสนิท ไม่ใช่พวกจวนรองเจ้ากรม

ซินโย่วนิ่งเงียบไปนานก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆ “ไม่กลับร้านหนังสือชั่วคราว”

เสี่ยวเหลียนกับฟางหมัวมัวต่างมองนางอย่างแปลกใจ

“ไปรักษาตัวที่จวนรองเจ้ากรมให้หายก่อนค่อยว่ากัน เสี่ยวเหลียนอยู่กับข้า ส่วนแม่นมคอยดูแลร้านค้าเหล่านั้นให้มากหน่อย”

“คุณหนูต้องรักษาตัวให้ดีๆ คุณหนูวางใจได้ ร้านค้าพวกนั้นค่อยๆ เปลี่ยนเป็นคนของพวกเราแล้ว ทุกวันบ่าวก็จะไปตรวจสอบสองสามร้าน พวกเขาไม่กล้าทำอันใดเหลวไหล…” ฟางหมัวมัวเล่าถึงผลการจัดการร้านค้าต่างๆ ในช่วงนี้

เสี่ยวเหลียนไม่ได้เอ่ยอันใด แต่ในใจกลับรู้สึกสงสัย

ตอนคุณหนูไม่มีอันใดในมือยินดีออกจากจวนรองเจ้ากรม ตอนนี้มีคน มีเงินและมีร้านค้า เหตุใดต้องกลับไป

แต่มีฟางหมัวมัวอยู่ด้วย ซินโย่วจึงหลับตาพักไม่ได้เอ่ยอันใด

นางกลับไปย่อมมีเหตุผล

ในเมื่อตัดสินใจให้ท่านซงหลิงปรากฏตัวต่อหน้าคนผู้นั้นในตอนนี้ คุณหนูโค่วก็ไม่อาจอยู่ที่ร้านหนังสือชิงซงตลอดเวลาได้ จวนรองเจ้ากรมเป็นที่ปิดบังที่ดีที่สุด

นางเคยจะไป ตอนนี้นางจะกลับมา เหตุผลเดียวกัน เพื่อให้คนที่ทำร้ายท่านแม่ตนตายได้รับการลงโทษที่สาสม แก้แค้นให้ท่านแม่

รถม้าหยุดลง ถึงจวนรองเจ้ากรมแล้ว

จูซื่อนำบ่าวหญิงร่างกายกำยำสองนางเดินมาข้างรถม้า ให้แบกซินโย่วไปเรือนหรูอี้ถัง

นายหญิงผู้เฒ่ารออยู่หน้าประตูเรือนหรูอี้ถัง พอเห็นซินโย่วก็รีบร้อนถามขึ้นว่า “เจ็บหรือไม่”

ซินโย่วอยู่บนหลังบ่าวหญิงมองไปทางนายหญิงผู้เฒ่าที่กำลังขอบตาแดง

นายหญิงผู้เฒ่ามีความรักต่อหลานสาวอยู่บ้างจริง หรือว่าทำให้ผู้อื่นดู สำหรับนางแล้วล้วนไม่สำคัญ อย่างไรการแสดงก็เป็นเรื่องถนัดของนาง

ซินโย่วเองก็ขอบตาแดง “ไม่เจ็บมากแล้วเจ้าค่ะ ชิงชิงอกตัญญู ทำให้ท่านยายเป็นห่วงแล้ว”

นายหญิงผู้เฒ่าสะอึก พลันรู้สึกไม่ชินกับหลานสาวที่แสดงท่าทางร้องไห้อ่อนแอ

ทั้งที่เมื่อก่อนก็เห็นอยู่ว่าหลานสาวชอบน้ำตาร่วงมาก

ต้วนอวิ๋นหลิงข้างๆ เองก็ขอบตาแดง “พี่ชิง ได้ยินว่าพวกเขาลงทัณฑ์พี่ด้วย”

ท่านย่ากับท่านพ่อสั่งไว้ นางออกไปจากจวนไม่ได้ ในเวลาเช่นนี้ก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความร้ายกาจของพี่สาวคนนี้อย่างแท้จริง

“ไม่เป็นอันใด ข้าออกมาแล้วไม่ใช่หรือ” ซินโย่วยิ้มให้ต้วนอวิ๋นหลิง จากนั้นก็แสดงสีหน้าเจ็บปวด “เพียงแค่ต้องค่อย ๆ รักษาบาดแผลให้หาย ทำให้ท่านยายยุ่งยากแล้ว”

“กล่าวอันใดกัน มาอยู่บ้านเรา เหตุใดเรียกว่ายุ่งยาก”

“ท่านยาย ครั้งนี้ข้ากลับมาอย่างปลอดภัยได้ นอกจากชาวเป่ยโหลวฝาง ได้ยินว่าใต้เท้าหลายท่านก็ช่วยทูลให้ข้า ไม่ทราบว่าที่จวนเราได้แสดงความขอบคุณไปแล้วหรือยังเจ้าคะ”

เอ่ยถึงเรื่องนี้ สีหน้านายหญิงผู้เฒ่าก็แลดูประหลาดเล็กน้อย “ลุงเจ้าไปขอบคุณถึงที่จวนแล้ว”

เพียงแต่ได้ยินบุตรชายบอกว่า รองเจ้ากรมคลังผู้นั้นท่าทีไม่เลว แต่กลับไม่ได้พบกับจี้จิ่วสำนักศึกษากั๋วจื่อเจี้ยน

เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าใต้เท้าเหล่านั้นช่วยทูลให้ชิงชิงไม่เกี่ยวข้องกับจวนรองเจ้ากรมแม้สักนิด เป็นเพราะตัวชิงชิงเองคนเดียว

“เช่นนั้นข้าก็วางใจแล้ว”

รอให้รักษาตัวหายดี ซินโย่วก็คิดจะไปแสดงความขอบคุณพวกเมิ่งจี้จิ่วด้วยตนเอง แต่ไม่ใช่ตอนนี้

คุยกันอีกสักพัก ก็เห็นซินโย่วเผยท่าทีอ่อนแรง นายหญิงผู้เฒ่าจึงให้บ่าวหญิงส่งนางกลับไปพักผ่อนที่เรือนหว่านฉิง

ซินโย่วกลับถึงเรือนหว่านฉิงก็ให้ฟางหมัวมัวกลับร้านหนังสือชิงซงไปก่อน พวกผู้ดูแลร้านหูจะได้วางใจ

พอตกค่ำ เสี่ยวเหลียนทายาให้ซินโย่ว จึงได้ถามว่า “คุณหนูท่านคิดจะอยู่ที่จวนรองเจ้ากรมถาวรหรือเจ้าคะ”

“ข้าจะไม่อยู่จวนรองเจ้ากรมถาวร แต่คุณหนูโค่วจะอยู่ที่นี่”

เสี่ยวเหลียนแววตาไม่เข้าใจ

ซินโย่วหลุบตาลง สายตามองที่รอยแส้บนท่อนแขน

ผ่านมาหลายวัน บาดแผลเริ่มประสานกันแล้ว แต่รอยแส้อยู่บนกาย ความเจ็บปวดทิ่มแทงใจก็ยังคงยากลืมเลือนตลอดไป

“ร้านหนังสือชิงซงไม่เพียงแต่มีคุณหนูโค่ว ยังมีท่านซงหลิง…” ซินโย่วพึมพำเบาๆ อธิบายขึ้น

เสี่ยวเหลียนสีหน้าตกตะลึง “คะ…คุณหนู ท่านต้องปรากฏตัวด้วยสถานะท่านซงหลิงหรือเจ้าคะ”

กองกำลังองครักษ์จิ่นหลินไม่ได้ตามหาตัวท่านซงหลิงมาตลอดหรือ คุณหนูต้องแต่งกายเป็นชายต่อหน้าขุนนางระดับสูงมากมาย รวมทั้ง…ฮ่องเต้?

แค่นึกภาพซินโย่วแต่งกายเป็นชายปรากฏตัวต่อเบื้องพระพักตร์ฮ่องเต้ เสี่ยวเหลียนก็รู้สึกเครียดขึ้นมาทันที

การอยู่ร่วมกันเกือบหนึ่งปี สร้างความเชื่อใจกันระหว่างทั้งสองคนเพียงพอแล้ว ซินโย่วตัดสินใจเปิดเผยความลับ

“เสี่ยวเหลียน ข่าวลือท่านซงหลิงข้างนอก เจ้าได้ยินแล้วกระมังว่าท่านซงหลิงก็คือคนของฮองเฮาที่หายตัวไปหลายปีแล้ว”

เสี่ยวเหลียนพยักหน้าสงสัย

นางย่อมได้ยินมา และนางยังรู้ความลับที่ผู้อื่นไม่รู้ คุณหนูก็คือท่านซงหลิง

นางเองก็เคยคิด หากข่าวลือเป็นจริง ประวัติความเป็นมาของคุณหนูเกี่ยวข้องกับฮองเฮาที่หายสาบสูญ เพียงแค่คุณหนูไม่พูด นางก็ไม่อยากถาม

“ข่าวลือเป็นเรื่องจริง”

ได้ยินคำตอบรับรองจากปากของซินโย่ว เสี่ยวเหลียนก็ตกใจ ถามขึ้นด้วยสัญชาตญาณว่า “เช่นนั้นท่านกับฮองเฮา…”

“เจ้ารู้เพียงแค่ข้ามาเมืองหลวงก็เพื่อฮองเฮาก็พอ รอให้ข้ารักษาตัวอีกสองสามวัน มีเรื่องหนึ่งจะมอบให้เจ้าไปจัดการ”

เสี่ยวเหลียนไม่ถามต่อ ค่ำคืนคิดกลับไปกลับมา สุดท้ายก็ผุดลุกขึ้นนั่ง

คุณหนูเป็นคนของฮองเฮา และยังหน้าตาเหมือนองค์หญิงใหญ่เจาหยาง …

คุณหนู…คุณหนูคงมิใช่องค์หญิง!

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

Status: Ongoing
เมื่อมารดาถูกสังหาร ซินโย่วจึงมายังเมืองหลวงเพื่อสืบหาตัวฆาตกร แต่เมื่อสืบลึกลงไปก็กลับต้องพบกับความจริงอันน่าตกใจภายในนั้น…รายละเอียด นิยายรัก-สืบสวน ครบรสจากนักเขียนมากฝีมือ ‘ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ย’ขณะที่ ซินโย่ว กำลังเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อสืบหาเบาะแสสำคัญของฆาตกรสังหารมารดาก็ได้บังเอิญจับพลัดจับผลูตกหน้าผาแล้วเข้าสวมรอยฐานะของ โค่วชิงชิง คุณหนูหลานนอกของจวนรองเจ้ากรมพระราชยานหลวงเข้าเพราะทรัพย์สินมากมายโค่วชิงชิงจึงถูกญาติที่มาหวังพึ่งพิงผลักตกหน้าผาจนถึงแก่ความตาย นั่นทำให้นางได้เข้ามาสวมฐานะของอีกฝ่ายซินโย่วนั้นมีดวงตาที่พิเศษกว่าคนทั่วๆ ไป นางสามารถมองเห็น ‘เรื่องร้าย’ ที่จะเกิดขึ้นกับคนผู้หนึ่งได้โดยไม่เลือกว่าจะเป็นผู้ใด เวลาไหนประกอบกับไหวพริบอันชาญฉลาดทำให้นางสามารถอยู่ในสถานะนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนักเพื่อสืบเรื่องฆาตกรสังหารมารดาซินโย่วจำต้องใช้ฐานะใหม่ที่มีสืบหาเบาะแสจาก ‘บันทึกโบตั๋น’ เปื้อนเลือดที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุยิ่งสืบลงลึกเรื่องราวก็เหมือนจะซับซ้อนยิ่งกว่านั้นเรื่องราวในอดีตเบาะแสที่โยงใยสืบเนื่องกันมา ได้เวลาเผยโฉมแล้ว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท