ตอนที่ 1507 บังคับ
ไป๋จิ่นเซ่อได้ยินคำถามจึงเดินถือกล่องไม้สีแดงหนักอึ้งไปหยุดอยู่ตรงหน้าท่าป๋าเย่า สาวน้อยนั่งลง จากนั้นเปิดกล่องไม้สีแดงออก นางใช้นิ้วชี้ไปยังยาเหล่านั้นพลางกำชับท่าป๋าเย่า “สิ่งเหล่านี้คือยาที่ท่านหมอหงปรุงขึ้นมา นี่คือยาถอนพิษ นี่คือยาทาภายนอก! เจ้าอยู่ไกลในตงอี๋เพียงคนเดียว อาจเจออันตรายได้ ยาบางชนิดอาจมีประโยชน์ต่อเจ้า ทว่า ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ต้องใช้ยาเหล่านี้…ถือเป็นการป้องกันไว้ก่อนเท่านั้น!”
“ข้า…” ท่าป๋าเย่ามองไปทางกล่องสีแดงที่ไป๋จิ่นเซ่อเปิดออก เขาหยิบยาถอนพิษที่ไป๋จิ่นเซ่อกล่าวขึ้นมา จากนั้นกล่าวขึ้นอย่างไม่กล้าเงยหน้าสบตาไป๋จิ่นเซ่อ “ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี อีกสามปี…ข้าจะมีชีวิตกลับไปคุ้มครองเจ้า ข้าจะทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ต่อเจ้า”
ไป๋จิ่นเซ่อเห็นท่าป๋าเย่ากำขวดยาในมือแน่นจึงเอื้อมมือไปลูบศีรษะของเขาเบาๆ “เจ้ากับข้าเคยร่วมเป็นร่วมตายกันมาก่อน ข้าเห็นเจ้าเป็นน้องชายคนหนึ่งของข้า พี่สาวควรปกป้องน้องชายถึงจะถูก!”
ท่าป๋าเย่าได้ยินเช่นนี้จึงเงยหน้ามองไป๋จิ่นเซ่ออย่างตกตะลึง เขาเห็นดวงตาของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนจึงรีบก้มหน้าลงอีกครั้งด้วยความประหม่า เขากำขวดยาในมือแน่นกว่าเดิม “คุณหนูเจ็ดเคยมีบุญคุณช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ข้า…”
เขาไม่ได้อยากเป็นแค่น้องชายของไป๋จิ่นเซ่อ แม้เขาจะอายุยังน้อย ทว่า เขาเกิดมาในราชวงศ์จึงทำให้เขาฉลาดกว่าเด็กในวัยเดียวกัน แม้เขาจะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ทว่า เขาเคยเห็นและเคยได้ยินมาก่อน เสด็จพ่อของเขาเคยเล่าเรื่องระหว่างเสด็จพ่อและเสด็จแม่ให้เขาฟัง เสด็จพ่อเล่าว่าทั้งสองรักกันมาก แม้ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน ทว่า รักและผูกพันกันยิ่งกว่า คนสองคนที่ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันกลับยินดีใช้ชีวิตเพื่อปกป้องอีกคนตลอดชีวิต นั่นคือความรักระหว่างสามีและภรรยา
ท่าป๋าเย่าอยากดูแลปกป้องไป๋จิ่นเซ่อ…ไปตลอดชีวิตจริงๆ
“อวี๋เซิง…อวี๋เซิง เจ้าเป็นอันใดไป” ไป๋จิ่นเซ่อเห็นท่าป๋าเย่ากำขวดยาในมือแน่นจนมือขาวซีดจึงเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นห่วง “เจ้าไม่สบายตรงที่ใดอย่างนั้นหรือ”
ไป๋ชิงเหยียนมองออกว่าท่าป๋าเย่ารู้สึกกับไป๋จิ่นเซ่อมากกว่าสหายธรรมดา เมื่อเห็นไป๋จิ่นเซ่อเตรียมเอื้อมมือไปลูบศีรษะของท่าป๋าเย่านางจึงรีบกล่าวขึ้น “เสี่ยวชี ดึกมากแล้ว พวกเราควรไปได้แล้ว ท่าป๋าเย่ามีซิงเฉินคอยดูแล เขาไม่มีทางเป็นอันใดแน่นอน”
“ข้ามิเป็นอันใด เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง” ท่าป๋าเย่าเงยหน้ามองไป๋จิ่นเซ่อ “เจ้ากลับไปกับฝ่าบาทเถิด”
“แต่เจ้า…”
“ข้ามิเป็นอันใดจริงๆ” ท่าป๋าเย่ายิ้มให้ไป๋จิ่นเซ่อ “กลับไปเถิด!”
“ไปเถิดเสี่ยวชี” ไป๋ชิงเหยียนเหลือบมองท่าป๋าเย่าแวบหนึ่ง จากนั้นลุกขึ้นยืนเดินเอามือไพล่หลังออกไปจากตำหนัก
ไป๋จิ่นเซ่อมองไปทางพี่หญิงใหญ่ที่ลุกขึ้นยืนแล้วแวบหนึ่ง จากนั้นมองไปทางท่าป๋าเย่าอีกครั้ง นางคิดว่าท่าป๋าเย่ารู้สึกผิดที่ไม่บอกฐานะที่แท้จริงของตัวเองกับนาง “ไม่ว่าก่อนหน้านี้เจ้าจะเคยเป็นผู้ใดมาก่อน ในเมื่อเจ้าจงใจปิดไว้ก็แสดงว่าเจ้าอยากมีชีวิตใหม่ อวี๋เซิง…สำหรับข้าเจ้าคืออวี๋เซิง เวลาสามปีไม่นานนัก เจ้าสามารถทำในสิ่งที่เจ้าอยากทำได้ ข้าจะรออวี๋เซิงกลับมา!”
ท่าป๋าเย่าเงยหน้ามองไป๋จิ่นเซ่อ จากนั้นพยักหน้าให้สาวน้อยยิ้มๆ “ข้ารู้แล้ว เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง…”
ไป๋จิ่นเซ่อเหลือบเห็นพี่หญิงใหญ่ยืนรอนางอยู่จึงรีบลุกเดินตามพี่หญิงใหญ่ออกไปจากตำหนัก
ท่าป๋าเย่าลุกขึ้นยืนทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนและไป๋จิ่นเซ่อ เขาเตรียมเก็บยาลงในกล่องตามเดิม ทว่า เหลือบเห็นถุงขนมอีกใบในกล่องเสียก่อน เขาหยิบออกมาดูจึงพบว่าในนั้นล้วนคือบ๊วยเส้นที่เขาชอบกิน
ท่าป๋าเย่าจำได้ว่าบ๊วยเส้นครั้งแรกที่เขากินคือบ๊วยเส้นที่ไป๋จิ่นเซ่อมอบให้ เขาเพิ่งเคยกินของอร่อยแบบนี้เป็นครั้งแรก เมื่อก่อนเสด็จย่ามักควบคุมเรื่องอาหารของเขา ไม่อนุญาตให้เขากินของกินเล่นพวกนี้ ท่านกล่าวว่าของเหล่านี้คือของที่เด็กชอบกิน ทว่า เขาไม่ใช่เด็กแล้ว
ท่าป๋าเย่ายิ้มมุมปากเล็กน้อย เขาหยิบบ๊วยเส้นออกมาจากถุงและชิมเล็กน้อย รอยยิ้มในแววตากว้างขึ้นกว่าเดิม เขารู้สึกว่าบ๊วยเส้นในมือของเขาในตอนนี้คือของที่อร่อยที่สุดในใต้หล้าแห่งนี้
วันที่ยี่สิบเจ็ด เดือนสิบ จักรพรรดินีต้าโจวและผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนเดินทางกลับแคว้นของตัวเอง
ไป๋จิ่นจื้อ ไป๋จิ่นเซ่อและไป๋ชิงเจวี๋ยยืนมองทะเลอันกว้างใหญ่อยู่บนหัวเรือกับไป๋ชิงเหยียนอย่างมีความสุขที่กำลังจะได้กลับบ้าน
“สงครามครั้งนี้ช่างง่ายดายยิ่งนัก ข้านึกอยากทำสงครามกับต้าเยี่ยนเสียจริง!” ไป๋จิ่นจื้อรู้สึกคันยุบยิบในใจ นางหันไปมองเรือของทหารเรือห้าพันนายของต้าเยี่ยนที่ถูกบังคับให้กลับไปยังต้าเยี่ยนที่แล่นออกห่างจากพวกนางเรื่อยๆ จากนั้นกล่าวขึ้น “การทำสงครามกับทหารต้าเยี่ยนถึงจะเรียกว่าสงครามจริงๆ”
ความจริงหากไม่คำนึงถึงเรื่องส่วนตัว มองแค่แคว้นเพียงอย่างเดียวไป๋จิ่นจื้อคิดว่าการที่ต้าเยี่ยนลอบนำทหารมาซ่อนตัวในแคว้นตงอี๋ซึ่งเป็นแคว้นบรรณาการของต้าโจว ต้าโจวควรทำลายทหารห้าพันนายของต้าเยี่ยนให้สิ้นซากไปเสีย การทำเช่นนี้ไม่เพียงตัดกำลังของต้าเยี่ยน ยังถือเป็นการข่มขู่จักรพรรดิมู่หรงลี่ของต้าเยี่ยนอีกด้วย
แม้ไป๋จิ่นจื้อจะรู้สึกชอบจักรพรรดิมู่หรงลี่องค์น้อยของต้าเยี่ยนมาก แม้ต้าเยี่ยนจะจัดการกับหนานเยี่ยนและแคว้นเว่ยอย่างโหดร้าย ทว่า ไป๋จิ่นจื้อนับถือต้าเยี่ยนซึ่งเคยตกเป็นแคว้นบรรณาการของต้าโจวจากใจจริง นางคิดว่าพี่หญิงใหญ่และมู่หรงลี่ล้วนเก่งกาจ คนแข็งแกร่งกว่าคือผู้ชนะ ราชสำนักของหนานเยี่ยนและต้าเว่ยสู้ต้าเยี่ยนไม่ได้เอง จะถูกทำลายจนดับสูญก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด
ทว่า พี่เขยของพวกนางและองค์ชายมู่หรงลี่ที่เคยยอมมาเป็นตัวประกันแทนพี่ชายอนุของตัวเองที่นางเคยนับถือนำวิธีการต่ำช้าที่เคยใช้กับแคว้นศัตรูมาใช้กับต้าโจว สิ่งนี้ทำให้ไป๋จิ่นจื้อรู้สึกโมโหมาก ต้าโจวของพวกนาง…พี่หญิงใหญ่ของพวกนางไม่เคยใช้วิธีต่ำช้าเหล่านั้นกับต้าเยี่ยนเลยสักครั้ง ต้าเยี่ยนเป็นคนเริ่มก่อนทุกครั้ง พี่หญิงใหญ่ของนางทำเพียงตั้งรับและตอบโต้กลับด้วยวิธีการเดียวกันเท่านั้น
ดังนั้นไป๋จิ่นจื้อจึงเข้าใจแล้วว่าเหตุใดไป๋อวี๋เซิงจึงโกรธเกลียดต้าเยี่ยนถึงเพียงนี้ หากนางคือไป๋อวี๋เซิงป่านนี้นางคงบุกไปเอาชีวิตของผู้สำเร็จราชการต้าเยี่ยนและจักรพรรดิองค์น้อยของต้าเยี่ยนนานแล้ว!
ทว่า พี่หญิงใหญ่กล่าวว่าเกิดเป็นมนุษย์ไม่จำเป็นต้องทำเหมือนที่ผู้อื่นทำกับเราทุกอย่าง ที่พวกเราไม่ใช้วิธีต่ำช้าเช่นเดียวกับผู้อื่นเป็นเพราะเรามีคุณธรรมและไม่เลือกที่จะทำเช่นนั้น พวกเราจะบังคับให้คนอื่นทำเช่นเดียวกับพวกเราไม่ได้
ความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นก็เช่นเดียวกัน ตอนนี้ต้าโจวกับต้าเยี่ยนคือคู่แข่งกัน หากต้าเยี่ยนจำต้องใช้วิธีต่ำช้ากับต้าโจว ต้าโจวก็แค่คอยตั้งรับก็พอ ทว่า ไป๋จิ่นจื้อกลับคิดว่ายิ่งต้าเยี่ยนทำตัวเช่นนี้ต้าโจวก็ยิ่งต้องชนะการเดิมพันแน่นอน มิเช่นนั้นสวรรค์ก็คงไม่มีอยู่จริง
ต้าเยี่ยนและต้าโจวเดิมพันกันมาถึงจุดนี้แล้ว แม้แต่คนที่ขี้เกียจใช้สมองคิดอย่างไป๋จิ่นจื้อยังรู้ว่าต้าเยี่ยนอับจนหนทางจนต้องใช้วิธีเช่นนี้แล้ว อำนาจของต้าโจวแข็งแกร่งจนไม่มีผู้ใดสามารถต้านทานได้แล้ว ตอนนี้ต้าโจวเป็นเหมือนคลื่นยักษ์ที่กำลังโหมกระหน่ำอยู่กลางมหาสุมทร!
ทุกคนล้วนกล่าวว่าต้าโจวได้เปรียบทั้งเวลาและกำลังคน เหตุใดยังต้องเดิมพันแคว้นกับต้าเยี่ยนอีก ไม่ว่าพวกเขาจะคิดว่าต้าโจวไร้เดียงสาหรือโง่เขลาก็ปล่อยให้คนเหล่านั้นคิดไป ต้าโจวจะเดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นคงและไม่ย่อท้อ! จะรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งให้ได้โดยที่เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด พวกนางจะทำให้ระบอบการปกครองที่มีประโยชน์ต่อชาวบ้านอย่างแท้จริงไร้อุปสรรคขัดขวางอีกต่อไป