ตอนที่ 1513 สมควร
เมื่อหลิวผิงเกาและแม่ทัพทุกคนได้สติจึงรีบคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น จากนั้นกล่าวเสียงดัง “ต้อนรับหานเฉิงอ๋องกลับบ้าน!”
“ต้อนรับหานเฉิงอ๋องกลับบ้าน!” กองทัพไป๋คุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้นอย่างพร้อมเพรียง
“ต้อนรับหานเฉิงอ๋องกลับบ้าน!” ทหารต้าโจวและทหารเรือพากันคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้นเช่นเดียวกัน ขอบตาของพวกเขาแดงก่ำอย่างคุมไม่อยู่
แม่ทัพทหารเรือของต้าโจวที่ล้วนเป็นบุรุษแข็งแกร่งบึกบึนต่างน้ำคลออย่างทนไม่ไหวเช่นเดียวกัน
เฉิงหย่วนจื้อก้าวเดินไปอย่างช้าๆ เพื่อรอแม่ทัพซึ่งช่วยแบกโลงคนอื่นๆ
สุดปลายทางของพรมอีกฝั่งคือ…พระชายาเอกของหานเฉิงอ๋อง
เมื่อชายาเอกของหานเฉิงอ๋องรู้ข่าวการเสียชีวิตในสนามรบของหานเฉิงอ๋องจึงคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนให้ต่งซื่อส่งนางมายังเมืองจินกว่าน นางรู้เรื่องที่จักรพรรดินีต้าโจวเดินทางมารับร่างของหานเฉิงอ๋องและแก้แค้นให้สามีของนางหมดแล้ว นางรู้สึกซาบซึ้งมากและอยากมารับร่างของหานเฉิงอ๋องด้วยตัวเองที่เมืองจินกว่านเช่นกัน
เดิมทีต่งซื่อไม่อยากให้ชายาเอกของหานเฉิงอ๋องมาที่นี่ ทว่า เมื่อนึกถึงความเจ็บปวดและเสียใจของตัวเองตอนสามีนางเสียชีวิตที่หนานเจียงนางจึงสงสารชายาเอกของหานเฉิงอ๋องขึ้นมาทันที นางให้คนพาชายาเอกของหานเฉิงอ๋องไปส่งที่เมืองจินกว่าน
เดิมทีชายาเอกของหานเฉิงอ๋องนางร้องไห้จนไม่มีน้ำตาเหลือแล้ว นางคิดว่าความรู้สึกของนางด้านชาไปแล้ว สามีของนางเสียชีวิตไปพักใหญ่แล้ว ทว่า ไม่รู้เพราะเหตุใดเมื่อนางเห็นโลงศพของสามีน้ำตาของนางจึงไหลพรากออกมาไม่หยุด รู้สึกปวดใจราวกับถูกมีดกรีดลงกลางหัวใจเช่นนี้ นางพยายามกัดริมฝีปากแน่นไม่ให้ส่งเสียงร้องไห้ออกมา
ทั้งๆ ที่เคยสัญญากันไว้แล้วแท้ๆ ว่าจะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่าโดยไม่มีลูก
พวกนางสัญญากันไว้ว่าเมื่อเรื่องแถบชายทะเลจบลง พวกนางจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข!
หานเฉิงอ๋องบอกว่าเขาจะตายทีหลังนาง นางจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยวไปตลอดชีวิต พวกนางตกลงกันเช่นนี้นานแล้ว!
เหตุใดเมื่อนางรับรู้ข่าวการเสียชีวิตของเขาที่สนามรบบ่าวรับใช้ผู้ซื่อสัตย์จึงนำจดหมายสั่งเสียที่หานเฉิงอ๋องเขียนไว้ก่อนออกเดินทางมามอบให้นาง อีกทั้งกล่าวว่าหานเฉิงอ๋องเตรียมไว้เพื่อความไม่ประมาทเช่นนี้
เขามันคนหลอกลวง!
ชายาของหานเฉิงอ๋องกำเสื้อบริเวณหน้าอกของตัวเองแน่น นางทรุดตัวร้องไห้อยู่บนพื้นอย่างทรงตัวไม่อยู่อีกต่อไป “คนหลอกลวง…เว่ยหรูสิงท่านมันคนหลอกลวง! ท่านรับปากกับข้าแล้ว พวกเราตกลงกันแล้ว…ท่านหลอกข้า!”
เมื่อไป๋ชิงเหยียนที่เตรียมเดินลงมาจากเรือเห็นชายาเอกของหานเฉิงอ๋องร้องไห้ราวกับจะขาดใจอยู่ตรงปลายทางของพรมขอบตาของนางจึงร้อนผ่าวขึ้นทันที หญิงสาวกำมือที่ไพล่อยู่ทางด้านหลังแน่น
“พี่หญิงใหญ่…” ไป๋ชิงเจวี๋ยเอ่ยเรียกไป๋ชิงเหยียนเบาๆ
ไป๋ชิงเหยียนได้สติ นางก้มหน้ามองปลายเท้าของตัวเอง จากนั้นเดินลงจากเรือ
“ฝ่าบาท…” หลิ่วผิงเกาก้มศีรษะคำนับแล้วลุกขึ้นเดินไปต้อนรับไป๋ชิงเหยียน “ฝ่าบาท ท่านหมอหงรู้ข่าวเรื่องโรคระบาดในต้าเยี่ยนจึงอยากเดินทางไปยังเมืองต้าเยี่ยนซึ่งอยู่ในการดูแลของต้าโจว กระหม่อมห้ามไม่อยู่จึงได้แต่กักบริเวณเขาไว้พ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ข้ารู้แล้ว เจ้าทำได้ดีมาก ท่านหมอหงอายุมากแล้ว จะให้เขาไปลำบากอีกไม่ได้”
ต่อให้หมอหงจะเดินทางไป เขาก็เข้าไปในแคว้นต้าเยี่ยนไม่ได้อยู่ดี
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางชายาเอกของหานเฉิงอ๋อง จากนั้นเดินตรงไปที่นาง
ค่ายทหารส่วนใหญ่มีแต่บุรุษ พวกเขาพยายามเกลี้ยกล่อมให้ชายาเอกของหานเฉิงอ๋องลุกขึ้น ทว่า ไม่มีผู้ใดกล้าเอื้อมมือไปประคองนาง
หมัวมัวข้างกายของชายาเอกของหานเฉิงอ๋องประคองเจ้านายของตัวเองลุกขึ้นไม่ได้ สุดท้ายจึงคุกเข่าร้องไห้เป็นเพื่อนชายาเอกของหานเฉิงอ๋อง
ชายาเอกของหานเฉิงกล่าวเสียงสะอื้นจนฟังไม่รู้เรื่องว่านางกำลังกล่าวสิ่งใดอยู่ มีเพียงหมัวมัวข้างกายของชายาเอกเท่านั้นที่ฟังเข้าใจ…ชายาเอกกล่าวว่าหานเฉิงอ๋องคือคนหลอกลวง ชายาเอกของนางเสียใจจนแทบทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเดินมา ทหารเรือที่อยู่รอบกายชายาเอกของหานเฉิงอ๋องจึงรีบหลีกทางให้หญิงสาว จากนั้นคุกเข่าทำความเคารพทันที “ฝ่าบาท!”
ชายาเอกที่น้ำตานองหน้าได้ยินจึงเงยหน้าขึ้นทั้งน้ำตา นางเห็นไป๋ชิงเหยียนโน้มตัวมาประคองนางลุกขึ้น “ชายาเอกลุกขึ้นเถิด พวกเราช่วยกันจัดการเรื่องของหานเฉิงอ๋องก่อน”
“ฝ่าบาท…” ชายาเอกของหานเฉิงอ๋องเอ่ยเรียกเสียงสะอื้น นางรู้สึกขอบคุณไป๋ชิงเหยียนมากที่เดินทางไปรับศพของหานเฉิงอ๋องที่ตงอี๋ด้วยตัวเองทันทีที่รับรู้ข่าวการเสียชีวิตของเขา นางรับรู้ว่าไป๋ชิงเหยียนให้ความสำคัญกับสามีของตัวเองจริงๆ จึงก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียนแนบพื้น “หม่อมฉันขอบพระทัยฝ่าบาทแทนหานเฉิงอ๋องมากเพคะ”
“รีบลุกขึ้นเถิด!” ขอบตาของไป๋ชิงเหยียนร้อนผ่าว นางประคองชายาเอกลุกขึ้น จากนั้นกล่าวกับชายาเอกเสียงเบา “เราควรขอบใจหานเฉิงอ๋องถึงจะถูกที่เขาเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องชาวประมงและทูตของต้าโจวเช่นนี้!”
“หานเฉิงอ๋องคืออ๋องของต้าโจว การจงรักภักดีต่อจักรพรรดิ สละชีพเพื่อชาวบ้านคือเรื่องสมควรแล้วเพคะ” ชายาเอกของหานเฉิงอ๋องกล่าวเสียงสะอื้น
ไป๋ชิงเหยียนปล่อยมือออกจากแขนของชายาเอก นางรู้ดีว่าในฐานะสามี…หานเฉิงอ๋องทำผิดต่อชายาเอกของตัวเอง
“หานเฉิงอ๋องสละชีพเพื่อแคว้น คนที่เขาเป็นห่วงมากที่สุดก็คือชายาเอก วันหน้าเราคือญาติของเจ้า เราจะดูแลเจ้าแทนหานเฉิงอ๋องเอง หานเฉิงอ๋องจะได้จากไปอย่างไม่มีกังวล” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสียงอ่อนโยน
ชายาเอกของหานเฉิงอ๋องกล่าวขอบคุณไป๋ชิงเหยียน จากนั้นยืนมองโลงศพของหานเฉิงอ๋องถูกแบกเข้าไปในค่ายทหารอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียน นางหันไปมองไป๋ชิงเหยียนแล้วกล่าวขึ้น “ฝ่าบาท หม่อมฉันอยากทูลขอร้องให้ทรงอนุญาตให้ฝังร่างของหานเฉิงอ๋องไว้ในหลุมศพของราชวงศ์ต้าเหลียงเพคะ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “บ้านเกิดของหานเฉิงอ๋องคือเมืองหานเฉิง เขาย่อมควรได้รับการฝังที่นี่”
เมื่อจัดการเรื่องของหานเฉิงอ๋องเสร็จ ไป๋ชิงเหยียนพยายามปรับอารมณ์ของตัวเอง จากนั้นเริ่มอ่านฎีกาที่เสิ่นเทียนจือส่งมาจากต้าเยี่ยน
ตอนนี้เสิ่นเทียนจือเริ่มปิดเมืองแล้วเหมือนกัน เมื่อมีชาวบ้านในเมืองติดโรคระบาดเขาจะส่งตัวไปรักษาแยกอีกที่ จากนั้นให้คนในครอบครัวของผู้ที่ติดโรคระบาดกักตัวเองอยู่แต่ในจวน
ทว่า ชาวบ้านคิดว่าหากพวกเขาติดโรคระบาดพวกเขาจะถูกพาไปสังหารหรือถูกปล่อยให้ตายไปตามยถากรรมดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดยินดีไป ชาวบ้านบางคนคิดหนีออกจากเมือง คนของทางการคิดพาครอบครัวของตัวเองลี้ภัยไปจากเมือง ชาวบ้านที่อยู่ในเมืองจึงยิ่งหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม
เสิ่นเทียนจือพยายามโน้มน้าวชาวบ้าน ทว่า ชาวบ้านเชื่อคำของผู้ที่ไม่ประสงค์ดีไปแล้ว พวกเขาพากันโยนหินใส่เสิ่นเทียนจือโดยไม่รอให้เขากล่าวจบด้วยความโมโห โชคดีที่เสิ่นเทียนจือมีองครักษ์คอยคุ้มกัน ชาวบ้านจึงทำสิ่งใดไม่ได้มากไปกว่านั้น
ไป๋ชิงเหยียนเข้าใจความหวาดกลัวของชาวบ้านดี ตอนที่เกิดโรคระบาดขึ้นที่เจียงโจวในปีนั้นชาวบ้านก็อพยพเอาตัวรอดเช่นนี้เหมือนกัน หากต่อมาท่านพ่อของนางไม่พาท่านอาไป๋ซู่ชิวของนางไปส่งที่เมืองเจียวโจวเพื่อรักษาชาวบ้านด้วยตัวเอง ชาวบ้านเหล่านั้นก็ลุกขึ้นมาต่อสู้กับคนของทางการและทหารในเมือง จากนั้นหลบหนีออกจากเมืองไปนานแล้ว
เมื่ออ่านรายงานที่ส่งมาจบใจของไป๋ชิงเหยียนจึงหนักอึ้งยิ่งกว่าเดิม
“ฝ่าบาท ท่านหมอหงทราบว่าฝ่าบาทเสด็จกลับมาแล้วจึงอยากเข้าเฝ้าบาทพ่ะย่ะค่ะ” หลิ่วผิงเการายงานไป๋ชิงเหยียนด้วยสีหน้าลำบากใจ
“ข้าจะไปพบท่านหมอหงอยู่พอดี” ไป๋ชิงเหยียนเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย จากนั้นไปพบท่านหมอหง
เมื่อหมอหงพบหน้าไป๋ชิงเหยียนจึงบ่นเรื่องของหลิ่วผิงเกาเป็นอันดับแรก จากนั้นกล่าวต่อ “คุณหนูใหญ่ ข้าอายุปูนนี้แล้ว ข้าไม่สนใจเรื่องความตายแล้วขอรับ ข้าแค่คิดว่าจะสามารถทำสิ่งใดเพื่อใต้หล้าได้บ้างในตอนที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าคือหมอ หน้าที่ของหมอคือรักษาคน ข้าจำเป็นต้องเดินทางไปยังต้าเยี่ยนขอรับ!”