บทที่ 1001 ทุ่มกำลังบุก กองทัพปรโลกและปริภูมิเวลาทั้งหมดออกมา!
“ให้ข้าดูเสียว่าเจ้าอยู่ที่ใด”
ฉานเฟิงไปถึงยังส่วนลึกจักรวาลดวงดารา ก่อนจะเริ่มพยากรณ์หาตำแหน่งที่อยู่ของหลี่จิ่วเต้า
ทว่าทันทีที่เขาเริ่มพยากรณ์ สีหน้าก็พลันแปรเปลี่ยนไปในพริบตา รีบถอนพลังทั้งหมดกลับไป ไม่กล้าพยากรณ์อีก
ตัวเขาเพิ่งเริ่มพยากรณ์ก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดันจากความตาย หากยังฝืนพยากรณ์ เขาจะต้องส่งตัวเองไปตายอย่างแน่นอน
“ข้าประมาทเกินไป เขาเป็นถึงโรคที่เกิดขึ้นจากท่านผู้นั้น มีเหตุต้นผลกรรมลึกซึ้งกับคนผู้นั้น ข้าจะสามารถพยากรณ์ถึงโดยตรงได้อย่างไร? ไม่ต่างจากรนหาที่ตายโดยแท้!”
ฉานเฟิงยังคงผวา คิดว่าตนเองเข้าใจทุกสิ่งแล้ว
“เช่นนั้นจะหาพบได้อย่างไร?”
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่อาจพยากรณ์ได้ นับเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับเขาในการตามหาหลี่จิ่วเต้า
เมืองชิงซานว่างเปล่า หลี่จิ่วเต้าไม่ได้อยู่ที่นั่น แล้วในจักรวาลที่เต็มไปด้วยดวงดารานับไม่ถ้วน เขาจะตามหาอีกฝ่ายพบอย่างรวดเร็วได้เช่นไร?
นี่นับเป็นปัญหา
แน่นอนว่าด้วยขอบเขตเช่นเขา เพียงแค่หนึ่งความคิด ญาณสัมผัสก็ควบคุมได้ทั่วทั้งจักรวาลโกลาหล เทวโลก และหลังฉาก ก่อนจะใช้มันตามหาหลี่จิ่วเต้า
แต่เขาไม่อาจทำเช่นนั้นได้
แม้เขาจะแข็งแกร่ง ทว่ายังคงห่างไกลจากคำว่าไร้เทียมทาน
ถ้าทำเช่นนั้นลงไปจริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะดึงดูดโรคมามากน้อยเพียงใด หากถึงยามนั้นจริง เขาคงอยู่ไม่ห่างจากความตาย
“ช่างเถิด ไม่ต้องรีบร้อน ก่อนอื่นต้องไปหลอมผสานกับผู้ถูกกำหนดคนอื่นก่อน ไหนก็ ๆ มีลมหายใจของผู้ถูกกำหนดปรากฏออกมาแล้ว…”
เขารำพึง
เมื่อครู่เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจของผู้ถูกกำหนดคนใหม่ มันอ่อนจางเป็นอย่างมาก ทั้งยังเพิ่งโผล่ออกมา ยังไม่ได้รับการสืบทอดวาสนาการเปลี่ยนแปลง
หลี่จิ่วเต้าไม่อาจหนีพ้น เขากำหนดเป้าหมายไว้แล้ว ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน หลังจากนี้ก็ค่อยไปเก็บเกี่ยวได้
“ไป ข้าจะไปพบผู้ถูกกำหนดคนนั้นเพื่อ ‘รับ’ วาสนาการเปลี่ยนแปลง”
แล้วร่างของเขาก็เลือนหายไปจากส่วนลึกจักรวาลดวงดารา
…
อีกด้านหนึ่ง พวกสามมหากาฬยมโลกเองก็เริ่มเคลื่อนไหว
จากที่ร่างแปลงของพวกเขารู้ หลี่จิ่วเต้าไม่ได้อยู่ในเมืองชิงซาน แต่อยู่ในอาณาจักรอื่น
ขณะเดียวกันพวกเขาเองก็ตระหนักดีว่าในมือหลี่จิ่วเต้ามีสมบัติอยู่ พวกเขาไม่อาจใช้การพยากรณ์ตามหาได้
แต่สิ่งนี้ไม่อาจหยุดยั้งพวกเขาได้
นอกจากอาณาจักรที่หลี่จิ่วเต้าอยู่แล้ว ปรโลกและปริภูมิเวลาได้วางกำลังและการเตรียมการเอาไว้ในอาณาจักรอื่น ๆ ทุกจักรวาลโกลาหล รวมทั้งเทวโลกและหลังฉากด้วย
เมื่อพวกเขาต้องการจะตามหาหลี่จิ่วเต้า ย่อมไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
“นี่คือการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ไม่อาจเก็บงำสิ่งใดเอาไว้ได้อีก ใช้ฝีมือและทุกสิ่งที่เตรียมการก่อนหน้านี้ออกมาให้หมดเถิด”
“การเตรียมการที่วางเอาไว้ยาวนานจนไม่อาจนับ เพียงเพื่อคราวนี้ สู้อย่างสุดชีวิต!”
สามมหากาฬแห่งปรโลกและสามจ้าวแห่งปริภูมิเวลาเอ่ยขึ้น เตรียมเรียกใช้กองกำลังเพื่อตามหาหลี่จิ่วเต้า
พวกเขาสั่งให้หยุดการสู้รบระหว่างทั้งสองฝ่ายโดยตรง จากนั้นก็ต่างออกคำสั่งให้สมาชิกทั้งหมดดำเนินการในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย
“เกิด…เกิดอันใดขึ้น?!”
ราชันแห่งความตายโบราณที่เป็นไส้ศึกอยู่ในปรโลกเกิดความผันผวนขึ้นในใจเป็นอย่างมาก
เดิมทีทุกอย่างเป็นไปด้วยดีตามที่เขาวางแผนเอาไว้ การต่อสู้ระหว่างปรโลกและปริภูมิเวลาเกิดขึ้นตลอดเวลาอย่างดุเดือด
ผู้ใดจะรู้เล่า สามมหากาฬกลับตื่นขึ้นมาออกคำสั่งให้หยุดสงคราม
ทั้งยังสั่งให้สมาชิกทุกคนออกตามหาที่อยู่ของหลี่จิ่วเต้า
“ราชันแห่งความตาย เจ้าไปเถิด พากองกำลังไปยังเมืองชิงซาน ป้องกันไม่ให้เขากลับไปได้!”
จักรพรรดิแห่งความตายมาหาเขาเพื่อออกคำสั่ง
แม้ว่าเมืองชิงซานจะว่างเปล่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหลี่จิ่วเต้าจะไม่กลับไป
“รับทราบ”
ราชันแห่งความตายรับคำสั่ง พากลุ่มยอดฝีมือจากปรโลกไปยังเมืองชิงซาน
นี่นับว่าตรงกับความต้องการของเขา สะดวกแก่การให้เขาไปส่งข่าวกับพวกตงฟางเวิ่น
อีกด้านหนึ่งทางปริภูมิเวลาติดต่อกับแมงมุมปริภูมิเวลา สอบถามนางว่ารู้หรือไม่ว่าหลี่จิ่วเต้าอยู่ที่ใด
“เขาบอกว่าต้องการเที่ยวชมดวงดาวต่าง ๆ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ใด”
แมงมุมปริภูมิเวลาตอบกลับ
“เจ้าอยู่กับคนติดตามของเขาหรือไม่?”
ด้านปริภูมิเวลาถามกลับอีกครั้ง
“อืม อยู่”
แมงมุมปริภูมิเวลามองไปทางตงฟางเวิ่นและผู้เฒ่าเมิ่งจี พลางตอบกลับ
“เช่นนั้นก็ดี เจ้าคิดหาทางให้พวกเขาติดต่อหลี่จิ่วเต้า สอบถามว่าหลี่จิ่วเต้าอยู่ที่ใด”
ทางด้านปริภูมิเวลาเอ่ย
“รับทราบ”
แมงมุมปริภูมิเวลายุติการติดต่อ มองไปทางตงฟางเวิ่นและเมิ่งจีที่อยู่ด้านข้าง
“นี่คือต้องการจะลงมือกับคุณชายหรือ?”
เมิ่งจีขมวดคิ้ว ให้ถามว่าคุณชายอยู่ที่ใด เจตนาชัดเจนมาก เห็นได้ว่าต้องการจะลงมือกับคุณชายแล้ว
ขณะเดียวกับศาสตราสื่อสารบนร่างของตงฟางเวิ่นก็สว่างวาบ
“พี่เวิ่น เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! สามมหากาฬตื่นขึ้นแล้ว อีกทั้งต้องการลงมือกับคุณชาย ตอนนี้พวกเขากำลังรวบรวมกำลังทั้งหมดในปรโลกเพื่อตามหาตำแหน่งของคุณชาย!”
ราชันแห่งความตายโบราณติดต่อกับตงฟางเวิ่น เล่าว่าตัวเขาถูกส่งมายังอาณาจักรแห่งนี้ ใกล้จะมาถึงแล้ว รอพบหน้าจึงค่อยสนทนารายละเอียดอีกที
ตงฟางเวิ่นยุติการติดต่อด้วยสีหน้ามืดครึ้ม
“ทุ่มกำลังบุกอย่างนั้นหรือ? เกิดเรื่องอันใดขึ้น? ปรโลกเองก็เลิกหยั่งเชิง เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีครั้งใหญ่!”
เขาเอ่ยด้วยเสียงลุ่มลึก
“ปรโลกกำลังทุ่มกำลังบุก เกรงว่าปริภูมิเวลาเองก็อาจทำเช่นเดียวกัน!”
เมิ่งจีคาดการณ์
“เรากำจัดพวกเขาได้หรือไม่? บอกสถานที่ปลอมให้พวกเขาไปสักแห่ง จากนั้นก็จัดการให้หมด!”
ตงฟางเวิ่นกล่าว
“เจ้าคิดง่ายเกินไป”
เมิ่งจีส่ายหัว “ปัญหาไม่ได้อยู่ที่พวกเราจะสามารถจัดการได้หรือไม่ ปรโลกและปริภูมิเวลาทุ่มกองกำลังทั้งหมดออกมา เจ้าคิดว่าจะหลอกพวกนั้นได้ง่ายหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร!”
ตงฟางเวิ่นไม่ได้ตอบกลับ
ใช่แล้ว คราวนี้เห็นได้ชัดว่าปรโลกและปริภูมิเวลาตัดสินใจอย่างเด็ดขาด มุ่งเอาชัยชนะเท่านั้น
ที่ออกมาไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกองกำลัง แต่เป็นกองกำลังทั้งหมด
ถึงพวกเขาจะให้แมงมุมปริภูมิเวลาส่งข่าวปลอมไป แต่ปรโลกและปริภูมิเวลาย่อมไม่อาจถูกหลอกโดยง่าย จะต้องตรวจสอบทุกทางก่อนแน่นอน
“แต่ว่าก็สามารถทดลองได้ ไม่ใช่เพื่อสังหารพวกเขาทั้งหมด ทว่าเพื่อย้ายสมรภูมิออกไป!”
เมิ่งจีเอ่ยต่อ “หากพวกเขาตามหาคุณชายไม่พบ ก็มีโอกาสอย่างมากที่จะมุ่งเป้ามาที่พวกเรา เมื่อถึงยามนั้น อาณาจักรแห่งนี้จะต้องกลายเป็นสมรภูมิแน่”
ตงฟางเวิ่นครุ่นคิด ก็พลันพบว่าเป็นเช่นนั้นจริง
หากปรโลกและปริภูมิเวลาหาคุณชายไม่พบ จะต้องคิดถึงพวกเขาขึ้นมาอย่างแน่นอน จากนั้นก็ลงมือกับพวกเขาเพื่อบังคับให้คุณชายปรากฏตัวออกมา
กองกำลังทั้งสองทุ่มออกมาเต็มที่ นี่จะต้องน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด ไม่อาจปล่อยให้อาณาจักรแห่งนี้ตกเป็นสมรภูมิเด็ดขาด!
“ตามหาอาณาจักรที่ไร้คน จากนั้นก็ย้ายสมรภูมิไปที่นั่น!”
ท้ายที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจเช่นนี้
“ข้าจะไปบอกกับสุนัขดำ นักพรตอู๋เหลียง และพวกสือเฟิงให้เตรียมตัวต่อสู้!”
เมิ่งจีกล่าว เพราะสือเฟิง ฉินซิน และพวกประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนที่ไม่ได้ติดตามคุณชายไปด้วย
“ข้าจะติดต่อพวกพี่ต้นหลิว บอกให้พวกเขาทราบถึงสถานการณ์ เช่นนี้จะช่วยลดความผิดพลาดได้!”
ตงฟางเวิ่นเอ่ย
หากพวกพี่ต้นหลิวให้ความสนใจกับสถานการณ์ทางนี้ ไม่ว่าปรโลกหรือปริภูมิเวลาจะมามากเท่าใด พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลหรือกลัวเกรงอันใดอีก
หลังจากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันลงมือ
…
ณ เมืองชิงซาน
ลานเล็ก ๆ ของหลี่จิ่วเต้า
สุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงได้รับการแจ้งเตือนจากเมิ่งจีแล้ว
“พวกเจ้าไปเถิด คิดเสียว่าเป็นการลับคม…”
ลานเล็ก ๆ กล่าว
“ท่านไม่ไปหรือ?”
สุนัขดำถาม
“ข้าไม่ไป นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กเท่านั้น”
ลานเล็กพูดอย่างสงบนิ่ง “ศัตรูของคุณชาย หาใช่ตัวเล็กจ้อยพวกนี้ ข้าไม่จำเป็นต้องลงมือกับเหล่าคนตัวจ้อย…”
สุนัขสีดำและนักพรตอู๋เหลียงร่างกายสั่นสะท้าน
ปรโลกและปริภูมิเวลา สองกำลังกำลังอันน่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด กระจายอยู่ในอาณาจักรนับไม่ถ้วน แต่กลับถูกลานเล็กเรียกว่า…คนตัวจ้อย?
ศัตรูที่แท้จริงของคุณชายคือผู้ใดกันแน่?!
“ลับคมพวกเจ้าให้ดี ในอนาคตมีความเป็นไปได้อย่างมากที่พวกเจ้าจะได้ติดตามคุณชายเข้าไปยังสมรภูมิครั้งใหญ่ นั่นคือการต่อสู้เป็นตาย สมรภูมิใหญ่ที่แท้จริง”
ลานเล็กกล่าว
…
ภายในจักรวาลดวงดารา ณ อาณาจักรแห่งหนึ่ง
ต้นหลิวได้รับข่าวจากตงฟางเวิ่นเรียบร้อย
“ข้าเข้าใจแล้ว พวกเจ้าลงมือเถิด ข้าจะคอยดูสถานการณ์ฝั่งพวกเจ้าเอง”
ต้นหลิวตอบกลับอย่างสงบนิ่ง
ฝั่งนั้นถูกกำหนดให้เป็นสมรภูมิเล็ก ๆ ส่วนสมรภูมิที่แท้จริงอยู่ฝั่งพวกเขา
…
หลังจากเมิ่งจี ตงฟางเวิ่น แมงมุมปริภูมิเวลา สุนัขดำ นักพรตอู๋เหลียง สือเฟิง และคนอื่น ๆ เตรียมตัวพร้อมแล้วก็ตรงมายังอาณาจักรร้างอันไร้สิ่งมีชีวิต
“เอาล่ะ บอกพวกเขาถึงตำแหน่งอาณาจักรแห่งนี้”
เมิ่งจีบอกให้แมงมุมปริภูมิเวลาติดต่อบอกทางด้านปริภูมิเวลา
“ตกลง!”
แมงมุมปริภูมิเวลาพยักหน้า ติดต่อกับทางด้านปริภูมิเวลา บอกว่าคุณชายอยู่ในสถานที่แห่งนี้
“ทำได้ดีมาก!”
ทางฝั่งปริภูมิเวลาเอ่ยปากชื่นชมแมงมุมปริภูมิเวลา
หลังจากนั้นสมาชิกทั้งหมดของปรโลกและปริภูมิเวลาก็มุ่งตรงมายังอาณาจักรแห่งนี้
ในวันนี้ สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนับไม่ถ้วนต่างหวาดกลัว
กองทัพวิญญาณหยินของปรโลกเคลื่อนผ่านอาณาจักรแล้วอาณาจักรเล่า
“เกิดเรื่องอันใดขึ้น?!”
“ปรโลกต้องการทำสิ่งใด? จะนำพวกเราทุกคนไปยังปรโลกหรือ?”
พวกเขาตื่นตกใจขวัญสะท้านเมื่อเห็นกองทัพวิญญาณหยินของปรโลก ไม่มีผู้ใดกล้าขวางทาง ต่างหลบหลีกออกไปให้ห่างไกล
ปรโลกเป็นหนึ่งในกองกำลังที่ลึกลับที่สุดในประวัติศาสตร์ ยามนี้กลับทุ่มออกมาอย่างเต็มกำลัง ฉากนี้น่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว!
พวกเขาเห็นว่าเหล่ายอดฝีมือที่สิ้นชีพลง ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในกองทัพวิญญาณหยินของปรโลก
การคาดเดาทั้งหมดเกี่ยวกับปรโลกก่อนหน้านี้เป็นความจริง
เมื่อยอดฝีมือตายลง ผลคือไม่ได้ดับสิ้นหายไปอย่างสิ้นเชิง แต่กลายเป็นวิญญาณหยินภายใต้การควบคุมของปรโลก
จนกระทั่งถึงตอนนี้ พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าปรโลกทำได้อย่างไร เห็นได้ชัดว่าปกติยามตายไปแล้วล้วนดับสิ้น ไม่อาจคงอยู่ได้อีกต่อไป
ทว่าปรโลกกลับสามารถทำให้ยอดฝีมือที่ตายไปแล้วเหล่านี้กลายเป็นวิญญาณหยินแล้วปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ทั้งหมดนี้อยู่นอกเหนือความรู้ความเข้าใจของพวกเขาโดยสิ้นเชิง!
แต่นี่ยังไม่ใช่ฉากที่น่ากลัวสุด
หลังจากที่กองทัพวิญญาณหยินปรโลกปรากฏออกมา ยังมีอีกหนึ่งฉากที่น่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้น
พรึ่บ!
สายธารแห่งปริภูมิเวลาทอดยาวปรากฏขึ้นในอาณาจักรนับไม่ถ้วน ยอดฝีมือจำนวนมากจนไม่อาจนับได้เดินออกมาจากธารแห่งปริภูมิเวลา
ลมหายใจที่พวกเขาปลดปล่อยออกมาล้วนน่าสะพรึงกลัวถึงขีดสุด ทำให้สิ่งมีชีวิตทุกอาณาจักรอดสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวไม่ได้!
“สวรรค์ เกิดเรื่องอันใดขึ้น? กระทั่งกองกำลังปริภูมิเวลายังปรากฏตัว!”
“กองกำลังลึกลับน่าหวาดกลัวที่สุดทั้งสองแห่งในประวัติศาตร์ออกมากันหมด นี่ นี่มันน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!”
สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
ปรโลกและปริภูมิเวลาเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ นี่ต้องการทำสิ่งใดกันแน่?
พวกเขาไม่กล้าจินตนาการถึง!
…
ณ ตำหนักปริภูมิเวลาโบราณ
สามมหากาฬปรโลก สามจ้าวปริภูมิเวลา นักพรตกู่ และต้นหม่อนโบราณยังไม่ได้เคลื่อนไหว แต่คอยควบคุมสถานการณ์จากที่นี่
เมิ่งจีคิดไม่ผิด พวกเขาจะไม่ลงมือง่าย ๆ
แต่หากพวกเขาลงมือ จะต้องสะเทือนเลือนลั่นปฐพีอย่างแน่นอน!