บทที่ 1007 หลี่จิ่วเต้าคือหินรองเท้าของข้า ที่ดำรงอยู่ก็เพื่อช่วยข้าบรรลุ!
ประตูนรกจู่โจมเข้ามา ปราณหยินหนาแน่น เสียงโหยหวนดังออกจากข้างใน ฟังแล้วชวนให้ขวัญเสียยิ่งนัก
ต้นหลิวสีหน้าราบเรียบ ยังคงไม่ยอมลงมือ มันรู้ในพลังของก้อนหินดี ประตูนรกจองจำก้อนหินไม่ได้
“มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล! เหตุใดประตูนรกถึงหยุดชะงัก!”
“ผิดปกติจริงด้วย ข้างใน…เหมือนกำลังร้องไห้อยู่จริง ๆ!”
สามมหากาฬแห่งปรโลกสีหน้าเปลี่ยนไปมหันต์ ประตูนรกที่เคยจู่โจมต้นหลิวชะงักกึกกลางทางราวกับถูกสะกด ไม่เคลื่อนไหวอีก
นอกจากนี้ พวกมันยังได้ยินเสียงร่ำไห้โศกา ต่างจากเสียงที่เคยดังออกจากประตูนรกอย่างสิ้นเชิง คล้ายว่าถูกซ้อมอย่างหนัก ร้องไห้ปานใจจะขาด!
ตึง ตึง ตึง!
เวลานั้นเอง วิญญาณจำนวนมากถูกโยนออกมา พวกมันถูกซ้อมจริง ๆ สภาพวิญญาณหยินแต่ละตนล้วนสะบักสะบอม ถูกซ้อมจนดูไม่ได้ อนาถาจนไม่อาจทนมอง
ประตูนรกระเบิด ก้อนหินบุกออกมาโดยไร้รอยขีดข่วน ประตูนรกจองจำมันไม่ได้จริง ๆ
พลังปราณของมันท่วมท้นนภา สยดสยองอย่างยิ่งยวด พริบตาที่ปรากฏก็บุกไปถึงสามมหากาฬแห่งปรโลก!
พรวดดด!
โลหิตอุ่นร้อนกระเซ็น ก้อนหินต่อยสามมหากาฬแห่งปรโลกอย่างถึงพริกถึงขิงจนพวกมันกระอักเลือดไม่หยุด ร่างกายเป็นรอยร้าวผืนใหญ่
เสียงดังปึง ก้อนหินอัดร่างของอินหมิงแหลกเหลว ทั้งยังมีพลังพิเศษพวยพุ่งสังหารอินหมิงให้สิ้นซาก ลบล้างร่องรอยทั้งหมดของมัน!
อินหยินและอินขวนก็หนีไม่พ้นเช่นกัน ถูกก้อนหินต่อยจนแหลกเหลว ถูกพลังพิเศษปลิดชีพ ร่องรอยทุกอย่างถูกลบเลือน!
ตึง! ตึง! ตึง!
ร่างของวิญญาณหยินระเบิดออกตนแล้วตนเล่า ร่องรอยอันตรธาน หลังสามมหากาฬแห่งปรโลกสิ้นชีพ พวกมันก็ดับสูญตาม ๆ กัน สูญเสียแรงค้ำจุนจากวิถีมรณา
“พี่หินของข้าดุดันยิ่งนัก!”
ตงฟางเวิ่นตะโกนกู่ร้อง ก้อนหินก็คือก้อนหิน เก่งกาจไร้เทียมทาน ทันทีที่ออกโรงก็สังหารสามมหากาฬแห่งปรโลกลง ทรงพลังอย่างแท้จริง!
“มีตัวละครกล้าแกร่งเช่นนี้ไยเจ้าไม่รีบเรียกมาแต่แรก ดูความอนาถาของข้าเสียก่อน!”
นักพรตอัษฎสมบูรณ์ถลึงตาใส่นักพรตอู๋เหลียง โล่งอกได้เสียที มีก้อนหินพิทักษ์อยู่ที่นี่ เขาไม่ต้องเป็นแรงงานอีกแล้ว
“คราวหน้าอย่าได้เรียกข้าอีก เรื่องปล้นสุสานตามข้าได้ แต่เรื่องต่อยตีกรุณาไปตามพี่หินผู้นี้!”
เขากลับไปในหนังสือโบราณ คราวนี้จะต้องพักผ่อนให้ดี ตัวเขาในวันนี้จะน่าเวทนาเกินไปแล้ว อดทนต่อสู้อย่างลำเค็ญมาตั้งนาน
…
“มิใช่กระมัง!”
“จ้าวแห่งปรโลกทั้งสามถูกสังหารอย่างสิ้นเชิงง่าย ๆ เช่นนี้เลยหรือ?!”
สิ่งมีชีวิตขอบเขตอิสระที่คอยจับตาดูศึกนี้อยู่ต่างตาโตกันหมด รู้สึกว่าทั้งหมดนี้ช่างดูไม่สมจริงเอาเสียเลย
นับแต่เริ่มต้นประวัติศาสตร์ ปรโลกซึ่งลึกลับที่สุดกลับสาแหรกขาดทั้งอย่างนี้ ถูกล้างบางง่าย ๆ ปานนี้เลยหรือ?
ผู้ใดในโลกกล้าอ้างว่าไร้เทียมทานบ้าง!?
น่ากลัวว่าคงมีแต่คุณชายหลี่กระมัง!
ก้อนหินเป็นเพียงผู้ติดตามของคุณชายหลี่เท่านั้น คุณชายหลี่รังแต่จะยิ่งทวีความน่ากลัว พวกเขาต่างมองว่าคุณชายหลี่นั้นไร้เทียมทานในใต้หล้า สามารถพิชิตทุกอย่าง!
…
ภายในอาณาจักรแห่งหนึ่ง
“ดุดันปานนี้เชียวหรือ?!”
ฉานเฟิงมีสีหน้าตื่นตระหนก เขาคอยจับตาดูสถานการณ์ด้านนั้นอยู่ตลอด ประตูนรกที่สามมหากาฬปล่อยออกมาแม้แต่เขายังสะท้านไปถึงวิญญาณ ไม่แน่ใจเลยว่าจะต้านทานไหวหรือไม่
สุดท้ายกลับถูกก้อนหินลบล้างไปได้ง่าย ๆ?!
เขาสูดปาก นึกโชคดีเสียเต็มประดา ยังดีที่เขาไม่ได้ไปหาหลี่จิ่วเต้า หาไม่แล้วจุดจบของสามมหากาฬแห่งปรโลกก็คือจุดจบของเขา!
ก้อนหินผู้นี้เป็นเพียงผู้ติดตามของหลี่จิ่วเต้าเท่านั้น หลี่จิ่วเต้าย่อมต้องน่าครั่นคร้ามกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย!
เขาเอ่ยด้วยสีหน้าอึมครึม “คนผู้นั้นก็คือหลี่จิ่วเต้า!”
แข็งแกร่งถึงปานนี้ เขาตระหนักได้ทันทีว่าท่านผู้นั้นทิ้งพลังสำหรับการต่อกรกับความมืดมิดไว้ และมอบวาสนาการเปลี่ยนแปลงรวมถึงพลังอันกล้าแกร่งที่สุดแก่หลี่จิ่วเต้า!
“เจ็บใจยิ่งนัก!”
เขาคำรามเสียงต่ำ หน้าตาบิดเบี้ยว เดิมคิดว่าไม่มีผู้แข็งแกร่งที่สุด ตัวเขาเองก็คือผู้ที่ถูกกำหนดให้แข็งแกร่งที่สุด สุดท้ายหาใช่เช่นนั้นไม่ มีผู้แข็งแกร่งที่สุดดำรงอยู่แล้ว
“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น วิถีผสานของข้าต่างหากคือวิถีอันทรงพลังที่สุด และข้าคือผู้ที่ถูกกำหนดให้แข็งแกร่งที่สุด!”
นัยน์ตาของเขาเย็นยะเยือก เปล่งประกายหนาวเหน็บน่าเกรงขาม “เขาคือหินรองเท้าที่ท่านผู้นั้นทิ้งไว้ให้ข้า เป็นเส้นทางสู่ความแข็งแกร่งสูงสุดที่ข้าจำเป็นต้องผ่าน การมีตัวตนของเขาก็เพื่อช่วยให้ข้าบรรลุ!”
วิถีผสานสามารถประสานทุกสิ่งทุกอย่างเข้าด้วยกันโดยไม่ต้องหลอมละลาย ไม่ต้องใช้เวลาตกผลึก ทันทีที่ดูดกลืนก็ผสานอัตโนมัติ กลายเป็นพลังของตัวเขาเอง
นี่คือวิถีอันไร้เทียมทาน เขาถูกลิขิตให้เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดคนนั้น!
“ท่านพี่เฟิง ท่าน…ท่านเป็นอันใดไป?!”
ข้างกาย เด็กสาวโฉมสะคราญผวากับท่าทีเช่นนี้ของฉานเฟิง
นางสังหรณ์ใจไม่ดี ถอยหลังไม่หยุดอยากหนีไปจากที่นี่
“ไม่เป็นไร ข้าเพียงแต่คิดตกเรื่องบางอย่างแล้วดีใจนิดหน่อยเท่านั้น”
ฉานเฟิงกลับมามีรอยยิ้มสดใสอีกครั้ง เขาหันมองเด็กสาวโฉมสะคราญ “ไปเถิด ไปนำวาสนาการเปลี่ยนแปลงของเจ้ามา”
วาสนาการเปลี่ยนแปลงของนาง?
เด็กสาวโฉมสะคราญหน้าซีด นางได้ยินการผสานที่ฉานเฟิงเอ่ยถึง ฉานเฟิงตั้งใจพานางไปนำวาสนาการเปลี่ยนแปลงมาจริงหรือ
ไม่!
ฉานเฟิงอยากได้วาสนาการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เองมากกว่ากระมัง!
“ข้า ข้าไม่ไปแล้ว!”
นางแหวกมิติคิดหนีไปจากที่นี่ ทว่าฉานเฟิงกางนิ้วหุบมิติที่ฉีกออกจากกันให้สมานอีกครั้ง
“ข้าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างอ่อนโยนไม่ดีหรือ ต้องให้ข้าใช้ไม้แข็งกับเจ้าหรือ”
เขาทอดมองเด็กสาวโฉมสะคราญพลางกล่าว “ไปเถิด ไปนำการเปลี่ยนแปลงมาแล้วข้าจะไม่ฆ่าเจ้า เจ้าอย่าได้รนหาที่ตาย”
เด็กสาวโฉมสะคราญได้แต่ยอมจำนน มุ่งหน้าไปที่แดนวาสนาการเปลี่ยนแปลง
…
ตำหนักใหญ่ในปริภูมิเวลา
“ตายไป…ง่าย ๆ เช่นนี้เลยหรือ?!”
จ้าวแห่งปริภูมิเวลาทั้งสามหน้าซีดเซียว ปราศจากเลือดฝาด
ศึกนี้สร้างความตระหนกให้พวกมันอย่างยิ่งยวด สามมหากาฬแห่งปรโลก กำลังรบล้ำขีดขั้นเจ็ดสามตนผนึกกำลัง สามารถสังหารกำลังรบล้ำขีดขั้นแปดได้ด้วยซ้ำ
กลับถูกคร่าชีวิตไปง่าย ๆ พวกมันสิ้นชีวิตชีวาไปในบัดดล หมดอาลัยตายอยากและเหว่ว้าอาดูร
“พวกเราประเมินหลี่จิ่วเต้าต่ำไปมหันต์!”
เสียงของต้นหม่อนโบราณขรึมเข้ม รู้ดีว่าหลี่จิ่วเต้าผู้เป็นตัวการย่อมน่าประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย เกินกว่าที่พวกมันจะรับมือไหว
เรื่องอื่นยังไม่กล่าวถึง ลำพังก้อนหินพวกมันยังไม่แน่ว่าจะต่อกรด้วยได้!
“เหตุใดถึงสยดสยองได้เพียงนี้ เขาได้รับวาสนาการเปลี่ยนแปลงเช่นไรไปกันแน่!”
ร่างของนักพรตกู่โอนเอน สะท้านใจเหลือแสน เขาคือลูกศิษย์ผู้เผยแพร่คำสอนของท่านอาจารย์ เป็นศิษย์พี่เก้าในบรรดาลูกศิษย์ทั้งหมด แน่นอนว่าขอบเขตพลังย่อมสูงส่ง
สามมหากาฬแห่งปรโลก จ้าวแห่งปริภูมิเวลาทั้งสาม และต้นหม่อนโบราณล้วนมีขอบเขตต่ำกว่าเขามาก พวกเขาต่างอยู่ในขอบเขตล้ำขีดขั้นเจ็ด
ส่วนเขาก้าวสู่ล้ำขีดขั้นเก้าแล้ว!
กำลังรบที่ก้อนหินสำแดงออกมากล้าแกร่งถึงขีดสุด แต่ยังไม่ถึงขั้นสร้างความกลัวแก่เขา
หากเขาได้ออกโรง ยังมั่นใจเหมือนเดิมว่าสามารถกำราบก้อนหิน
ทว่าก้อนหินเป็นเพียงผู้ติดตามของหลี่จิ่วเต้าเท่านั้น ไม่ต้องคิดให้มากก็รู้ว่าหลี่จิ่วเต้าย่อมทรงพลังน่าครั่นคร้ามกว่านี้
ผู้ที่เขากลัวคือหลี่จิ่วเต้า!
หลี่จิ่วเต้าแข็งแกร่งไร้เทียมทาน ทั้งยังมียอดศาสตราในมือ จะไม่ให้เขากลัวได้อย่างไร ไม่มั่นใจเลยว่าสามารถต่อกรกับหลี่จิ่วเต้าได้
“ช่างเถิด พวกเราภาวนากันเองแล้วกัน!”
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่เหลือความคิดใดอีก ถอดใจอย่างสิ้นเชิง
พรวด!
เวลานั้นเอง หอกโลหิตเล่มหนึ่งปรากฏฉับพลัน แทงทะลุศีรษะจ้าวแห่งปริภูมิเวลาผู้หนึ่ง!
ลงท้ายก็มีสำนึกแห่งโรคที่อดกลั้นไม่ไหว ลงมือเสียแล้ว!