บทที่ 887 ศึกจริง (1)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

วิญญาณ​ดาวฤกษ์​หรือ​

ไม่เห​มือ​น.​..แต่​จะสนใจ​ทำไม​ ฟัน​ก่อน​ค่อย​ว่า​กัน​!

ลู่​เซิ่งแสยะ​ยิ้ม​ ถือ​ดาบ​พุ่ง​เข้าใส่​

ร่าง​ของ​เขา​ขยาย​ใหญ่​ขึ้น​ด้วย​ความเร็ว​สูงสุด​ตาม​การ​เคลื่อนที่​อัน​รวดเร็ว​ เปลี่ยน​จาก​มนุษย์​ธรรมดา​ จน​กลายเป็น​สัตว์ประหลาด​ยักษ์​สามใบหน้า​และ​มีหางยาว​ เกราะ​เกล็ด​เหมือนกับ​ผิว​กระจก​งอก​ขึ้น​เต็มตัว​

แต่​แค่นี้​ยัง​ไม่อาจ​เทียบเคียง​กับ​ดาวฤกษ์​ดวง​หนึ่ง​ได้​

“สายลม​! จงฟังคำสั่ง​ข้า​!”

ลู่​เซิ่งชูมือขึ้น​

อนุภาค​พลังงาน​นับไม่ถ้วน​กลาง​อวกาศ​รวมตัว​บน​ร่าง​เขา​ด้วย​ความเร็ว​สูง และ​ถูก​เขา​หลอม​รวม​เข้ากับ​ร่าง​ใน​พริบตา​

นอกจากนี้​แล้ว​อัคคี​อนธ​การสี​ดำ​อม​ม่วง​สาย​หนึ่ง​ก็​พลัน​กระจาย​ออกมา​รอบตัว​เขา​ ห่อหุ้ม​ร่าง​เขา​ไว้​ทั้งหมด​ แล้ว​ค่​แปรเปลี่ยน​กลายเป็น​วัตถุ​จับต้อง​ได้​ รวม​เป็น​ส่วนหนึ่ง​ของ​ร่างกาย​ของ​เขา​

เปรี้ยง​!

ตอนนี้​กระเรียน​ยักษ์​พัน​เท​วะ​กับ​เทพ​ปีศาจแห่ง​สายลม​เข้า​ปะทะ​กับ​ยักษ์​จาก​ดาวฤกษ์​ของ​สำนัก​แปลง​วายุ​อย่าง​หนักหน่วง​

แม้สัตว์​ยักษ์​สอง​ตัว​จะใหญ่โตมโหฬาร​ แต่​ยังคง​เป็น​แมลง​ตัวเล็ก​จ้อย​ตัว​หนึ่ง​เมื่อ​เทียบ​กับ​ดาวฤกษ์​ ขนาด​ต่างกัน​อย่าง​ใหญ่หลวง​

ต่อให้​เป็น​ดาวเคราะห์​อื่น​ที่อยู่​รอบ​ๆ เมื่อ​เทียบ​กับ​ยักษ์​จาก​ดาวฤกษ์​แล้ว​ ก็​เป็น​เพียง​เมล็ด​งาเท่านั้น​

ทว่า​เปลวเพลิง​สีม่วง​อม​ดำ​ที่​พ่น​ออก​มาจาก​ตัว​สัตว์ประหลาด​ทั้งสอง​ตัว​ตลอดเวลา​ ก็​ทำให้​วิญญาณ​ดาวฤกษ์​คิด​ขว้าง​มุสิก​กริ่งเกรง​ภาชนะ​เสียหาย​

เขา​เพิ่งจะ​ต้าน​รับ​หมัด​ บน​แขน​ก็​มีอัคคี​อนธ​การสี​ดำ​อม​ม่วง​ลุกไหม้​ทันที​ เปลวเพลิง​นี้​มีอุณหภูมิ​มากกว่า​พัน​องศา​เขา​ไม่อาจ​ดับ​ลง​ได้​ในทันที​

เวลานี้​เปลวเพลิง​รอบตัว​ลู่​เซิ่งสลาย​ไป เผย​ให้​เห็น​ร่าง​หลัก​ด้านใน​

นั่น​คือ​ร่าง​สูงใหญ่​ทั้งตัว​เป็น​สีดำ​สนิท​ กล้ามเนื้อ​กำยำ​บึกบึน​

ใบหน้า​สามใบ​ใน​ตอนแรก​ของ​เขา​ มีสอง​ใบ​หด​เล็ก​ลง​ เกาะ​ติดกับ​จอน​ผม​สอง​ข้าง​เหมือน​เครื่องประดับ​ เขา​โค้ง​งอ​มหึมา​สีดำ​ดุร้าย​คู่​หนึ่ง​บน​ศีรษะ​ ยาว​ไปด้านหลัง​ จรด​ถึงส้นเท้า​

นอกจากนี้​ ก็​คือ​เทว​ลักษณ์​เรืองแสง​สีม่วง​กะพริบ​กลาง​ทรวงอก​ เทว​ลักษณ์​นั้น​เหมือนกับ​อักขระ​แสงลวดลาย​ธรรมดา​อย่างหนึ่ง​

สิ่งที่​สำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​ ร่างกาย​ของ​ลู่​เซิ่งในเวลานี้​ก็​มีขนาดใหญ่​ทะลุ​หนึ่ง​หมื่น​หมี่​แล้ว​

ร่างกาย​ส่วนใหญ่​ของ​เขา​ให้​ความรู้สึก​โปร่งแสง​ที่​จับต้อง​ได้​เพียง​ครึ่งหนึ่ง​ ดูเหมือน​ประกอบ​จาก​อัคคี​อนธ​การสี​ดำ​อม​ม่วง​

แต่​แค่นี้​ก็​ร้ายกาจ​มาก​แล้ว​

แม้ว่า​สำหรับ​ยักษ์​จาก​ดาวฤกษ์​ ขนาด​แค่นี้​ยัง​ไม่นับ​เป็น​มด​ได้​ด้วยซ้ำ​ แต่​ลู่​เซิ่งไม่คิด​จะเข้าไป​สู้ระยะ​ประชิด​กับ​อีก​ฝ่าย​ นั่น​เท่ากับ​ไปตาย​เปล่า​

“ลอง​ดูก่อน​” ลู่​เซิ่งมอง​ยักษ์​อยู่ห่างๆ​ ดาบ​ยาว​เปลวเพลิง​สีดำ​อม​ม่วง​เล่ม​หนึ่ง​รวมตัว​บน​มือ​อย่าง​ฉับพลัน​

“รวมตัว​!”

เขา​สั่งความคิด​ อัคคี​อนธการ​มหาศาล​ทะลัก​ออก​มาจาก​ใน​ร่าง​ นอกจากนี้​แล้ว​ ยัง​มีพลัง​ของ​เทพ​ปีศาจแห่ง​สายลม​ อวัยวะ​ที่หก​ซึ่งเขา​ได้​มาจาก​โลก​เทพ​นอกรีต​ด้วย​

พลัง​ทั้งสอง​ชนิด​เกี่ยว​กระหวัด​กัน​บน​ดาบ​ยาว​ที่อยู่​กลางฝ่ามือ​ของ​เขา​อย่าง​รวดเร็ว​

ครืน​!

ทันใดนั้น​ด้านหลัง​ลู่​เซิ่งพลัน​ปรากฏ​จาน​กลม​สีขาวนวล​ เทว​ลักษณ์​ทั้งหมด​เก้า​สาย​บน​นั้น​สว่าง​ขึ้น​แปด​สาย​

แปด​สาย​นี้​คือ​สัญญะเทพ​หรือ​กฎเกณฑ์​ที่​เป็นตัวแทน​พลัง​

“ขอ​ดู​หน่อย​เถอะ​ว่า​พลัง​แปด​ส่วน​ของ​เรา​จะไปถึงขั้น​ไหน​” ลู่​เซิ่งยก​ดาบ​ยาว​ขึ้น​

ขณะ​สัมผัส​พลัง​อัน​น่ากลัว​พรั่งพรู​ออก​มาจาก​ใน​ร่างกาย​ นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​ใช้ร่าง​หลัก​และ​พลัง​ส่วนใหญ่​จาก​โลก​รูป​จิต​พร้อมกัน​

ความ​แข็งแกร่ง​ของ​พลัง​สาย​นี้​ ต่อให้​เป็นตัว​เขา​ก็​ไม่ทราบ​ว่า​จะทำได้​ถึงขั้น​ไหน​

“มรรคา​ยุทธ์​ทำลายล้าง​ใน​พริบตา​…วายุ​ฉีก​กระชาก​”

เป็น​เพียงแค่​กระบวนท่า​เล็ก​ๆ ใน​วิชา​มวย​ทั่วไป​ ลู่​เซิ่งฟันดาบ​ออก​ไป

แค​ว่ก!​

มิติ​ฉีก​ออก​เป็น​ร่อง​แยก​สีเทา​ จากนั้น​ก็​สมาน​ตัวอย่าง​รวดเร็ว​

ประกาย​ดาบ​สีดำ​อม​ม่วง​สาย​หนึ่ง​ทะลวง​มิติ​ กระโดด​ข้าม​หาย​ไป

ยักษ์​จาก​ดาวฤกษ์​ต่อย​หมัด​ใส่กระเรียน​ยักษ์​พัน​เท​วะ​จน​มัน​กระเด็น​ออก​ไปด้านหลัง​ มัน​ไม่สนใจ​เพลิง​สีม่วง​ที่​กระทบ​มือ​ หาก​แต่​หมุนตัว​ไปชก​ใส่เทพ​ปีศาจแห่ง​สายลม​ที่​เพิ่งจะ​รวม​ร่าง​

ทันใดนั้น​ร่าง​มัน​ก็​หยุดชะงัก​

“อะไร​กัน​…” ฟ้าว!​

ปลาย​ดาบ​สีดำ​อม​ม่วง​ขนาด​มหึมา​สาย​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​ด้านหน้า​ทรวงอก​ของ​เขา​อย่าง​ฉับพลัน​

“นี่​มัน​?!” ยักษ์​จาก​ดาวฤกษ์​โซเซถอยหลัง​ไปสาวก้าว​ ก้ม​มอง​ปลาย​ดาบ​ที่​หน้าอก​ของ​ตัวเอง​อย่าง​ไม่น่าเชื่อ​

จากนั้น​ก็​เกิด​เสียง​ระเบิด​ดัง​กึกก้อง​ ปลาย​ดาบ​ระเบิด​กลายเป็น​เปลวเพลิง​ประหลาด​จำนวนมาก​ หลั่งไหล​เข้าไป​ใน​ตัว​

“แค่​ลอบ​โจมตี​ธรรมดา​…รนหาที่​ตาย​!” ยักษ์​เงยหน้า​ขึ้น​คำราม​ สอง​ตา​มีแสงสีทอง​สอง​กลุ่ม​พุ่ง​ออกมา​อย่าง​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​

แสงสีทอง​สาด​ลง​ล่าง​กลายเป็น​อีกา​สีทอง​ที่​มีสามขา​สอง​ตัว​ เข้า​ประหัตประหาร​กับ​เทพ​ปีศาจแห่ง​สายลม​

“เผาไหม้​ฟ้าทลาย​พิภพ​!” ยักษ์​พลัน​ปัก​สอง​มือ​ใส่ท้องน้อย​ตัวเอง​

ตูม​!

ทันใดนั้น​ ร่างกาย​ของ​มัน​ก็​ระเบิด​ออก​โดยสิ้นเชิง​ กลายเป็น​ลำ​เพลิง​สีทอง​อร่าม​ผืน​ใหญ่​ พุ่ง​ปกคลุม​อาณาบริเวณ​

ใน​อาณาเขต​ที่​สายตา​ไปถึง ไม่มีทิวทัศน์​อื่น​ใด​นอกจาก​แสงไฟสีทอง​

ลู่​เซิ่งรู้สึก​ว่า​อัคคี​อนธการ​กับ​พลัง​เทพ​นอกรีต​ที่​ตน​แทง​เข้าไป​ใน​ตัว​อีก​ฝ่าย​ถูก​ระเบิดทำลาย​ทิ้ง​ไป

เปลวเพลิง​สีทอง​ทั่ว​ฟ้ากลบ​ฝังเทพ​ปีศาจแห่ง​สายลม​กับ​กระเรียน​ยักษ์​พัน​เท​วะ​ในทันที​ การ​โจมตี​ด้วย​มหา​เพลิง​ได้​ทำลาย​แกน​หลัก​ของ​ทั้งสอง​สัตว์ประหลาด​ทิ้ง​ไปแล้ว​

ท่ามกลาง​ทะเลเพลิง​ ประกาย​แสงสีทองขาว​สาย​หนึ่ง​กะพริบ​สอง​สามที​ แล้วไป​ถึงด้านหน้า​ลู่​เซิ่งด้วย​ความเร็ว​ที่​เหนือกว่า​ความเร็ว​แสง

“ธงศึก​พิฆาต​ดาว​!” ใน​ประกาย​แสงสีทองขาว​พลัน​มีแสงสีขาว​เจิดจ้า​สาย​หนึ่ง​พุ่ง​ออกมา​ สว่างไสว​แยงตา​ราวกับ​ธงศึก​ที่​กาง​ออก​ ก่อน​จะฟาด​ใส่ศีรษะ​ลู่​เซิ่ง

“บังอาจ​สู้ระยะ​ประชิด​กับ​ข้า​หรือ​?!” ลู่​เซิ่งหัวเราะ​ร่า​ ยก​สอง​แขน​ขึ้น​ป้องกัน​

เค​ร้ง!​

คลื่น​กระเพื่อม​จาก​การปะทะ​กัน​ของ​โลหะ​สอง​สาย​กระจาย​ออกมา​

คลื่น​กระเพื่อม​กระจาย​ตัว​ ทุกสิ่ง​ที่​มัน​พุ่ง​ผ่าน​ อุกกาบาต​ ธุลี​จักรวาล​ ถึงขั้น​ยังมี​เครื่อง​ตรวจจับ​ที่​กำลัง​เข้าใกล้​หลาย​ตัว​ ถูก​บด​และ​เผาไหม้​กลายเป็น​ความว่างเปล่า​โดยสิ้นเชิง​

ทันใดนั้น​อาณาเขต​รอบตัว​คน​ทั้งสอง​ใน​รัศมี​ไร้​ขอบเขต​ กลายเป็น​สุญญากาศ​อย่าง​สัมบูรณ์​

ไม่มีเสียง​ ไม่มีการเคลื่อนไหว​ มนุษย์​สีทอง​สว่างไสว​ผู้​หนึ่ง​พุ่ง​ออก​มาจาก​แสงสีขาว​ ถือ​ดาบ​คู่​ โรมรัน​กับ​ลู่​เซิ่ง

ทั้งสอง​ปะทะ​กัน​ใน​ระยะ​ประชิด​อย่าง​บ้าคลั่ง​

มาถึงขั้น​นี้​ แทบ​ไม่มีจุดอ่อน​ใดๆ​ การ​โจมตี​ต่อ​จุดอ่อน​ทั้งหลายแหล่​ไม่มีประโยชน์​อีก​

ส่วนใหญ่​ทั้งสอง​ใช้ทักษะ​กระบวนท่า​ที่​เพิ่ม​พลัง​ทำลายล้าง​ของ​ตัวเอง​ได้​มากกว่า​

วิชา​ลับ​ วรยุทธ์​ ท่า​ไม้ตาย​มากมาย​ หลั่งไหล​ออก​ไปจาก​มือ​ของ​ลู่​เซิ่งอย่าง​คลุ้มคลั่ง​ ใน​ชั่ว​ขณะนั้น​เขา​ใช้ทักษะ​ลับ​ที่​แข็งแกร่ง​เป็น​จำนวน​หลาย​พัน​ท่า​

ทักษะ​ลับ​พวก​นี้​โจมตี​อีก​ฝ่าย​จาก​มุมต่างๆ​ เช่น​ ร่างกาย​ จิตวิญญาณ​ กลิ่นอาย​ และ​พลังงาน​ โดย​มีเป้าหมาย​คือ​การ​ทำลาย​จังหวะ​และ​การ​ไหลเวียน​พลังงาน​ของ​อีก​ฝ่าย​ เพื่อ​สร้าง​ข้อได้เปรียบ​เล็ก​ๆ อาการ​บาดเจ็บ​จำนวนมาก​เริ่ม​สั่งสมมาก​ขั้น​ตามลำดับ​ สุดท้าย​ก็​กลายเป็น​พลัง​กด​ทับ​ ทำลาย​ทุกอย่าง​ด้วย​การ​โจมตี​ครั้ง​เดียว​

ยักษ์​จาก​ดาวฤกษ์​ใช้วิธี​การต่อสู้​อีก​อย่างหนึ่ง​

การเคลื่อนไหว​ของ​เขา​สามารถ​ก่อให้เกิด​อุณหภูมิ​ได้​ร้อย​เท่า​พัน​ทวี​ แสงที่​ปล่อย​ออกมา​บน​ร่าง​ หาก​คนธรรมดา​มอง​แค่​แวบเดียว​ก็​อาจ​ตาบอด​ได้​

อิทธิฤทธิ์​นับไม่ถ้วน​ยิง​ออก​มาจาก​ร่าง​เขา​ มีวิชา​อัน​น่ากลัว​ที่​ทำลายล้าง​ดวงดาว​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​หลาย​วิชา​ รวมตัวกัน​รอบตัว​เขา​ทุก​วินาที​

วิชา​มากมาย​หักล้าง​กับ​ทักษะ​ลับ​ของ​ลู่​เซิ่ง

ทั้งสอง​โรมรัน​พันตู​กัน​ พริบตาเดียว​ก็​ประมือ​กัน​แล้ว​มากกว่า​หมื่น​ครั้ง​ พายุ​อนุภาค​พลังงาน​ที่​กระเด็น​ออกมา​ เริ่ม​บิดเบี้ยว​มิติ​เวลา​ เปลี่ยน​ที่นี่​ให้​กลาย​เป็นแดน​มรณะ​

เสียง​กลาย​เป็นการ​สั่นสะเทือน​ด้วย​ความถี่​สูงอย่าง​สมบูรณ์​ กระจาย​ออก​ไปมากกว่า​ร้อย​ล้าน​กง​ห​ลี่​

ลำ​เพลิง​สีทอง​นับไม่ถ้วน​เปลี่ยน​พื้นที่​หลาย​ปีแสงให้​กลายเป็น​มหาสมุทร​เพลิง​

กลาง​เพลิง​โหม​ ตำแหน่ง​ของ​ยักษ์​จาก​ดาวฤกษ์​และ​ลู่​เซิ่งเหมือนกับ​ก้อน​สีดำ​ก้อน​หนึ่ง​ ที่​ลอย​อยู่​ที่​เดิม​ไม่กระจาย​ไปไหน​

“เจ้าสำนัก​แปลง​วายุ​จงอวิ๋น​ หมื่น​ปีก่อน​ฝังตัวเอง​ไว้​ใน​ดาวฤกษ์​เพื่อ​ฝึก​วิชา​วายุ​พิฆาต​…ต่อให้​อยู่​ใน​อนธการ​ของ​ระบบ​ดาว​ ก็​เป็น​ผู้​เข้มแข็ง​ที่​จัด​อยู่​ใน​ลำดับ​แรก​ๆ นึกไม่ถึง​ว่า​…”

สีหน้า​ของ​ผู้ปกครอง​จันทรา​แดง​เจิ้งเจวี่ยซ​วิน​ที่อยู่​ไม่ไกล​นัก​ เริ่ม​คร่ำเคร่ง​โดยไม่รู้ตัว​

“ไม่เลว​จริงๆ​…ผู้ปกครอง​ลู่​…” มุมปาก​ของ​นาง​ยกขึ้น​อย่าง​ไม่รู้ตัว​

ลู่​เซิ่งถึงกับ​สู้จงอวิ๋น​ถึงตอนนี้​ได้​ นี่​อยู่​เหนือ​ความคาดหมาย​ของ​นาง​โดยสิ้นเชิง​

“แต่​ถ้าเจ้ามีพลัง​แค่​ระดับ​นี้​ คิด​แก้แค้น​ยัง​ไม่ง่าย​นัก​…” เจิ้งเจวี๋ยซ​วิน​หัวเราะ​พลาง​ถอย​ให้​ห่าง​ออกมา​อีกหน่อย​ ก่อน​จะยื่นมือ​ไปป้องกัน​เรือ​เหาะ​ด้านหลัง​

อาณาเขต​ที่​โดน​ลูกหลง​จาก​การเข่นฆ่า​กัน​ของ​คน​ทั้งสอง​แผ่​ใหญ่​ขึ้น​เรื่อยๆ​ แล้ว​

เปลวเพลิง​สีทอง​หลาย​กลุ่ม​ห่อหุ้ม​ทั้งสอง​ไว้​รอบด้าน​ รังสี​อุณหภูมิ​ที่​คะเน​ความร้อน​ไม่ได้​กำลัง​ระเหย​พลัง​กาย​ของ​ลู่​เซิ่งอย่าง​ต่อเนื่อง​

จุดเด่น​ของ​อัคคี​อนธการ​ที่​เผาไหม้​จิตวิญญาณ​จนกว่า​จะตาย​ และ​ก็​เผาไหม้​วิญญาณ​ของ​เจ้าสำนัก​แปลง​วายุ​จงอวิ๋น​ไปอย่าง​ไม่หยุดหย่อน​เช่นกัน​

การต่อสู้​ของ​คน​ทั้งสอง​เริ่ม​สูสี ไม่มีใคร​ฆ่าอีก​ฝ่าย​ได้​ในทันที​ เมื่อ​มาถึงขอบเขต​อนธการ​ การต่อสู้​แบบนี้​จึงถือ​เป็นเรื่อง​ปกติ​

การต่อสู้​ระหว่าง​ผู้​เข้มแข็ง​อนธการ​สอง​คน​ สามารถ​ทำลาย​ระบบ​ดาว​แห่ง​หนึ่ง​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​เพียง​ยกมือ​

เห​มือ​น.​..เช่นนี้​

เปรี้ยง​!

ลู่​เซิ่งถูก​แสงสีทอง​สาย​หนึ่ง​ฟาด​ใส่ใบ​หน้าด้าน​ขวา​ ร่าง​พลิก​กระแทก​เปลวเพลิง​สีทอง​จน​กระจาย​ แล้ว​ลอย​ออก​ไป

ความ​อับอาย​กลายเป็น​โทสะ​ จึงฟันดาบ​ใส่ดาวเคราะห์​ดวง​หนึ่ง​ที่อยู่​ใกล้เคียง​

“ไปตาย​กัน​ให้​หมด​ซะ!”

เกิด​เสียงดัง​ฉัวะ​ ดาวเคราะห์​พลัน​แยก​ออก​เป็น​สอง​ส่วน​ ตรงกลาง​ปรากฏ​รอย​ดาบ​สีม่วง​ จากนั้น​ก็​ระเบิด​ดัง​อึงอล​ สิ่งมีชีวิต​หลาย​พัน​ล้าน​ชีวิต​บน​ดวงดาว​ดับสูญ​โดยสิ้นเชิง​

“ลู่​เซิ่ง! รนหาที่​ตาย​!” เจ้าสำนัก​แปลง​วายุ​โมโห​แล้ว​

“เจ้าพูด​มาสามครั้ง​แล้ว​! ไอ้​โง่!” ลู่​เซิ่งโดน​ตบหน้า​อีกครั้ง​โดย​ไม่ทัน​ระวัง​ เพลิง​โทสะ​ลุก​โหม​ เขา​กระทืบเท้า​ พายุ​พลังงาน​อัน​น่ากลัว​กลุ่ม​ใหญ่​อาศัย​ปฏิกิริยา​ย้อนกลับ​ ปรากฏ​เป็น​รูปร่าง​ แล้ว​พัด​ใส่ดาวเคราะห์​อีก​ดวง​จน​หลุด​จาก​วิถี​โคจร​

ทั้งสอง​พุ่ง​ปะทะ​กัน​อีกครั้ง​

ตูม​!

ครั้งนี้​เจ้าสำนัก​แปลง​วายุ​จงอวิ๋น​กระเด็น​ออก​ไปชน​กับ​ดาวเคราะห์​แถว​นี้​

ผิว​ดาวเคราะห์​ยุบ​ลง​เป็น​หลุม​ลึก​ขนาด​ยักษ์​ พื้นผิว​วงกลม​ที่​เดิม​กลมดิก​พลัน​ยุบ​ลง​ไปเป็น​หลุม​ขนาดใหญ่​ เหมือนกับ​ไข่ไก่​ถูก​กะเทาะ​เปลือก​

อั่ก​

จงอวิ๋นอด​กระอัก​เปลวเพลิง​เลือด​ออกมา​ไม่ได้​

“ประเสริฐ​นัก​…เจ้า…”

ฉัวะ!​

ไม่รอ​ให้​เขา​พูด​ รอย​ดาบ​สีม่วง​รูป​กางเขน​อีก​สาย​ก็​พุ่ง​จาก​ท้องฟ้า​ลงมา​ใส่หลุม​ลึก​อย่าง​รุนแรง​

ดาวเคราะห์​สั่น​ไหว​ ก่อน​จะแตก​ออก​เป็น​เสี่ยง​ๆ

จาน​กลม​สีทอง​ปรากฏ​ขึ้น​ด้านหลัง​จงอวิ๋น​ เทว​ลักษณ์​ที่​มีลวดลาย​แตก​ต่างกัน​เก้า​อัน​สว่าง​ขึ้น​บน​นั้น​

“เจ้าเป็น​คน​บังคับ​ข้า​เอง​นะ​! จงดับสูญ​เถิด​! วงจร​ฟ้า!”

เขา​เผย​สีหน้า​เหี้ยมเกรียม​ นอนหงาย​กลาง​อวกาศ​ ทั่ว​ร่าง​ปรากฏ​เงาสัตว์​โบราณ​หลายชนิด​

เงากะพริบ​อย่าง​ต่อเนื่อง​ พริบตาเดียว​ก็​ปรากฏ​หลาย​สิบ​ชนิด​

ลู่​เซิ่งฟัน​ไปหลาย​พัน​ดาบ​ แต่​ไม่มีสัก​ดาบ​ที่​เข้าใกล้​จงอวิ๋น​ได้​เกิน​ร้อย​หมี่​เลย​

“เก้า​ดาบ​วายุ​! ลักษณ์​กำเนิด​พินาศ​!”

จงอวิ๋น​กาง​สอง​แขน​ ร่าง​กลายเป็น​เปลวเพลิง​สีทองขาว​ เปลวเพลิง​แยก​ออก​เป็น​ดาบ​ยาว​ที่​แตก​ต่างกัน​เก้า​เล่ม​ สะบัด​เป็น​เส้น​วิถี​รอย​ดาบ​ที่​แตก​ต่างกัน​เก้า​ชนิด​

สิ่งที่​น่าประหลาด​ก็​คือ​ รอย​ดาบ​เก้า​สาย​ที่​เพิ่ง​ปรากฏ​ ก็​หายวับ​ไปกลางอากาศ​ทันที​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท