บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] – บทที่ 1399 ตรามรดก

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

บทที่ 1399 ตรามรดก

ร่างอันสูงส่งและทรงพลังยืนตระหง่านอยู่เหนือท้องฟ้าราวกับทวยเทพ

เฉินซีและคนอื่น ๆ ตกตะลึงจนไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีคลื่นพลังผันผวนสามสายที่พุ่งออกมาจากใจกลางสระ และจากนั้นมันก็ปกคลุมพวกเขาอย่างรวดเร็ว

ชั่วขณะต่อมา พวกเขารู้สึกว่าร่างกายสั่นสะท้าน และตรามรดกอันลึกลับก็พุ่งเข้าสู่จิตใจของพวกเขาพร้อม ๆ กัน

“แก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ ดาบแห่งการทำลายล้างเต๋า!”

เสียงสูงวัยดังก้องอยู่ในใจของหลิงชิงอู๋ ด้วยเหตุนี้ ตรามรดกที่พุ่งเข้าสู่จิตใจของนางก็กลายเป็นดาบที่ควบแน่นเป็นรูปเป็นร่าง

แน่นอนว่า ตรานี้คือสุดยอดมรดก!

“แก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ควบแน่นวิญญาณ วิญญาณแห่งการทำลายล้างเต๋า!”

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เสียงสูงวัยก็ดังก้องอยู่ในใจของเยี่ยถังเช่นกัน และตรามรดกที่ได้รับก็กลายเป็นเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ลุกโชนและพรั่งพรูเข้าสู่ห้วงจิตสำนักของเขา

มีเพียงเฉินซีที่แตกต่างออกไป เมื่อกระแสมรดกพุ่งเข้าสู่ห้วงจิตสำนึก มันกลายเป็นแผ่นหยกลึกลับที่เต็มไปด้วยกระแสพลังผันผวนที่คลุมเครือ

ทว่าก่อนที่กระแสพลังนี้จะแพร่กระจายออกไป ทันใดนั้น มันก็ถูกยับยั้งโดยชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลาก ทำให้แผ่นหยกกลับคืนสู่ความเงียบงันในทันที

เฉินซีก็สัมผัสได้ถึงถ้อยคำโบราณลึกลับ ‘ฝังและกำจัดเต๋าทั้งหมด โลงศพเซียนยมโลก’ ซึ่งถูกจารึกบนแผ่นหยก

ทว่าเมื่อพยายามตรวจสอบเนื้อหาของแผ่นหยกลึกลับ เขากลับถูกขัดขวางด้วยพลังที่ไร้รูปร่าง และต้องพบกับความล้มเหลว ไม่ว่าจะพยายามเท่าใดก็ตาม

เกิดอะไรขึ้น? มันไม่ใช่มรดกของจักรพรรดิเต๋าหรอกหรือ?

เหตุใดข้าไม่สามารถตรวจสอบมันได้?

โลงศพเซียนยมโลก… หรือว่ามรดกนี้จะเกี่ยวข้องกับโลงศพเซียนยมโลก?

ทันใดนั้น คำถามนับไม่ถ้วนก็เกิดขึ้นในใจของเฉินซี

น่าเสียดาย ก่อนที่เขาจะได้สติกลับคืน ภาพตรงหน้าก็กลายเป็นสีดำ พลังไร้รูปร่างเข้าห่อหุ้มร่างกาย และถูกเคลื่อนย้ายอย่างที่ควบคุมไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกต่อไป

ไม่ใช่แค่เฉินซีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหลิงชิงอู๋และเยี่ยถังด้วย

ที่ด้านนอกของแดนโบราณจักรพรรดิเต๋า

ทันใดนั้น จู่ ๆ หัวเจี้ยนคงก็ลุกขึ้นยืน พลางจดจ้องไปยังระยะไกลด้วยท่าทางหนักใจ

มีประตูไร้รูปร่างอยู่ตรงนั้น และเป็นทางเข้าที่นำไปสู่แดนโบราณจักรพรรดิเต๋า

“แดนโบราณจักรพรรดิเต๋าจะปิดตัวลงแล้ว…” หัวเจี้ยนคงพึมพำขณะที่คิ้วขมวดแน่น

“หรือ… กลุ่มของเฉินซีจะล้มเหลว?”

หวังต้าวหลูและจั่วชิวไท่อู่มีท่าทางหนักใจเช่นกัน จนถึงขณะนี้ กลุ่มของเฉินซียังไม่กลับมา ดังนั้นจึงอดที่จะกังวลไม่ได้ ซึ่งถ้าหากแดนโบราณจักรพรรดิเต๋าปิดตัวลง พวกเขาจะไม่สามารถพาเฉินซีและคนอื่น ๆ ออกมาได้ เว้นแต่…จะรอแดนโบราณจักรพรรดิเต๋าเปิดออกในครั้งต่อไป!

บรรยากาศค่อนข้างหนักอึ้ง และแม้แต่เหล่าผู้อาวุโสที่ให้ความสนใจกับสถานการณ์ของที่นี่มาโดยตลอดก็เงียบไป

โอม~

จู่ ๆ ทางเข้าของแดนโบราณจักรพรรดิเต๋าก็สั่นสะเทือน และเริ่มพังทลายลงทีละนิด

สีหน้าของหัวเจี้ยนคงและผู้อาวุโสคนอื่น ๆ เปลี่ยนไปพร้อม ๆ กัน “แดนโบราณจักรพรรดิเต๋ากำลังจะปิดตัวลง แต่พวกเฉินซีก็ยังไม่ออกมาจริง ๆ เราควรทำอย่างไรดี?”

ตู้ม!

มิติพังทลายลง ทางเข้ากำลังจะหายไป ในตอนนั้นเองสะพานที่เปล่งประกายแสงอันศักดิ์สิทธิ์ ก็พุ่งออกมาจากทางเข้า

พร้อมกับร่างสามร่างที่พุ่งออกมาจากภายในแดนโบราณจักรพรรดิเต๋า

ฟิ่ว!

หัวเจี้ยนคงตอบสนองอย่างรวดเร็ว พลันสะบัดแขนเสื้อ ทำให้เกิดแสงสาดส่องไปทั่วท้องฟ้า และรับทั้งสามร่างนั้นทันที

“เฉินซี!”

“เจ้าพวกสารเลวน้อยทั้งสามนี้สมควรถูกทุบจริง ๆ ออกมาในเวลาเช่นนี้ ทำให้ข้ากังวลจนแทบบ้า!”

“ฮ่า ๆๆ! โชคดีที่พวกเขาออกมาแล้ว หากทั้งสามติดอยู่ภายในนั้น ผลที่ตามมาก็คงร้ายแรงเกินไป”

เมื่อเห็นว่าร่างทั้งสามคือเฉินซี หลิงชิงอู๋และเยี่ยถัง เหล่าผู้อาวุโสทั้งหมด รวมถึงหัวเจี้ยนคงต่างก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก

ในที่สุดเฉินซีและคนอื่น ๆ ก็ตระหนักว่าตนได้ออกจากแดนโบราณจักรพรรดิเต๋าแล้ว ชั่วขณะหนึ่ง พวกเขารู้สึกมึนงงเล็กน้อย

“เกิดอะไรขึ้น? พวกเจ้าได้รับมรดกของจักรพรรดิเต๋าหรือไม่?”

“เจ้าหนู พลังต่อสู้ของอสูรภพอดีตเป็นอย่างไร?”

“พวกเจ้าสามคนเผชิญหน้ากับอะไรที่สระโลหิตอดีตชาติ?”

ก่อนที่เฉินซีและคนอื่น ๆ จะได้สติกลับคืน คำถามของเหล่าผู้อาวุโสก็ก้องอยู่ในหูของพวกเขา คำถามมากมาย ทำให้ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามไหนก่อนดี

เมื่อเห็นสิ่งนี้ หัวเจี้ยนคงห้ามปรามพวกเขาทั้งหมดทันที จากนั้นก็มองไปที่เฉินซี แล้วเอ่ยถาม “เจ้าได้รับมรดกของจักรพรรดิเต๋าหรือไม่”

เฉินซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพยักหน้า แต่ที่ไม่พูด เพราะไม่กล้ายืนยันว่าแผ่นหยกลึกลับที่ได้รับนั้นเป็นมรดกของจักรพรรดิเต๋าหรือไม่

แต่ถึงอย่างนั้น หลังจากที่เห็นชายหนุ่มยืนยันด้วยการพยักหน้า เหล่าผู้อาวุโสต่างก็อุทานด้วยความชื่นชม สายตาที่จ้องมองเฉินซีและคนอื่น ๆ เปลี่ยนไป มันแสดงออกถึงการเชิดชูและรู้สึกโล่งใจไม่น้อย

“ผ่านมากี่ปีแล้ว? ในที่สุด ศิษย์ก็ได้รับมรดกของจักรพรรดิเต๋าอีกครั้ง…” ผู้อาวุโสคนหนึ่งถอนหายใจ และหวนนึกถึงเรื่องบางอย่างในอดีต

“ข้าจำได้ว่า ตั้งแต่ท่านเจ้าสำนักได้รับมรดกของจักรพรรดิเต๋า ก็เป็นเวลากว่าหนึ่งล้านปีแล้ว ก่อนที่ศิษย์จะได้รับการยอมรับจากมรดกของจักรพรรดิเต๋าอีกครั้ง”

“วิเศษมาก! ช่างไม่ธรรมดาจริง ๆ!”

เหล่าผู้อาวุโสทั้งหมดต่างถอนหายใจ เฉินซีและคนอื่น ๆ ไม่รู้ว่ามรดกของจักรพรรดิเต๋าสำคัญเพียงใด แต่ผู้อาวุโสเหล่านี้ล้วนทราบดี

เหตุผลที่เจ้าสำนักคนปัจจุบันสามารถขึ้นสู่ตำแหน่งได้นั้น เป็นเพราะเขาได้รับยอมจากมรดกของจักรพรรดิเต๋า!

กล่าวอีกนัยหนึ่ง การได้รับมรดกของจักรพรรดิเต๋า ทำให้มีคุณสมบัติที่จะชิงตำแหน่งเจ้าสำนัก ดังนั้นมันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยได้อย่างไร?

สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าเป็นสำนักศึกษาอันดับหนึ่งของภพเซียน และมีผู้อาวุโสนับไม่ถ้วนอยู่ภายใน ทว่ามีแค่คนเดียวที่สามารถขึ้นสู่ตำแหน่งเจ้าสำนักได้ ซึ่งเงื่อนไขในการชิงตำแหน่งเจ้าสำนัก คือได้รับการยอมรับจากมรดกของจักรพรรดิเต๋า!

ดังนั้น จึงเห็นได้ว่า เหล่าผู้อาวุโสของสำนักต่างรู้สึกตกใจมากเพียงใด ที่เฉินซีและคนอื่น ๆ ได้รับมรดกของจักรพรรดิเต๋า

“ในหมู่พวกเจ้า ใครเป็นผู้สังหารอสูรภพอดีต? คงไม่ใช่แม่หนูหลิงชิงอู๋กระมัง? ใช่แล้ว นางเป็นคนเดียวที่สร้างกฎปราชญ์เต๋าของตนเองได้แล้ว ฮ่า ๆ! นี่ไม่ได้หมายความว่าสำนักของเรา จะมีเจ้าสำนักหญิงคนใหม่ในอนาคตหรอกหรือ?” หวังต้าวหลูหัวเราะดังสนั่น

ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ก็ยิ้มเช่นกัน

เมื่อถูกจ้องมองอย่างเอ็นดูจากเหล่าผู้อาวุโสมากมาย หลิงชิงอู๋ก็รู้สึกอัดอัดไปทั้งตัว นางจึงรีบอธิบาย “ไม่ใช่ข้า เป็นเฉินซีที่ฆ่าหุ่นเชิดศึกภพอดีตต่างหาก”

“ใช่แล้ว เป็นฝีมือของเฉินซี” เยี่ยถังรีบกล่าวเสริม เช่นเดียวกับหลิงชิงอู๋ เขาไม่ได้ตระหนักถึงความหมายเบื้องหลังมรดกของจักรพรรดิเต๋า แต่ทั้งสองรู้ดีว่า ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินซี ก็ไม่ต้องพูดถึงมรดกของจักรพรรดิเต๋าเลย แม้แต่การฆ่าหุ่นเชิดศึกภพอดีตก็เป็นเรื่องยาก

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาจะไม่แข่งขันกับเฉินซีเพื่อชิงความสนใจอย่างแน่นอน

“หา! เป็นเฉินซีหรือ!” เหล่าผู้อาวุโสต่างตกตะลึง ทั้งยังรู้สึกประหลาดใจ ไม่เพียงแต่ความสำเร็จในเต๋าแห่งยันต์อักขระเลิศล้ำเท่านั้น แต่เขายังฆ่าอสูรภพอดีตทั้งที่ยังไม่ได้สร้างกฎปราชญ์เต๋าของตนเอง… ไม่สิ ช้าก่อน!

ดูเหมือนว่าสาวน้อยคนนั้นจะกล่าวว่าหุ่นเชิดศึกภพอดีต!?

เหล่าผู้อาวุโสต่างหายใจไม่ออกเมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้

พวกเขาทราบดีว่าทุกครั้งที่อสูรภพอดีตฟื้นคืนชีพ ความแข็งแกร่งของมันจะเพิ่มขึ้น แต่ขีดจำกัดของมันก็อยู่ที่ขอบเขตเซียนปราชญ์เท่านั้น แต่หุ่นเชิดศึกภพอดีตนั้นแตกต่างออกไป มันไม่ใช่แค่แข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรภพอดีตเท่านั้น ขีดจำกัดของมันก็อยู่ที่ขอบเขตราชันเซียน!

แต่เฉินซีกลับทำลายล้างหุ่นเชิดศึกภพอดีตได้สำเร็จ สิ่งนี้ได้เกินกว่าจินตนาการของผู้อาวุโสทุกคนอย่างแน่นอน

หากพวกเขาจำไม่ผิด เฉินซีเพิ่งบรรลุขอบเขตเซียนปราชญ์ และยังไม่ได้สร้างกฎปราชญ์เต๋าด้วยซ้ำ แต่เขากลับทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ ตัวประหลาดชัด ๆ!

“พวกเจ้าได้พบกับหุ่นเชิดศึกภพอดีตจริง ๆ หรือ?” ดวงตาของหัวเจี้ยนคงเปล่งประกายด้วยความแปลกประหลาด

เฉินซีพยักหน้าอีกครั้ง แต่ในใจสับสนเล็กน้อย หรือว่ามีความลับบางอย่างซ่อนอยู่เบื้องหลังหุ่นเชิดศึกภพอดีตนี้?

น่าเสียดาย หลังจากได้รับการยืนยัน เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป มีเพียงสายตาที่แสดงถึงความรู้สึกซับซ้อนเท่านั้น

“เอาล่ะ พวกเจ้ากลับไปฝึกสมาธิก่อน การเดินทางครั้งนี้จะไม่สูญเปล่า หากพวกเจ้าสามารถทำความเข้าใจในทุกสิ่งที่ได้รับจากแดนโบราณจักรพรรดิเต๋าได้สำเร็จ” ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ คล้ายอยากถามเพิ่มเติม แต่หัวเจี้ยนคงกล่าวตัดบทเสียก่อน

ถ้าไม่ใช่เพราะหัวเจี้ยนคง พวกเฉินซีก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าควรปฏิเสธคำถามของผู้อาวุโสเหล่านี้อย่างไร เนื่องจากความอาวุโสที่ด้อยกว่า

อย่างไรก็ดี สิ่งที่หัวเจี้ยนคงกล่าวก็เป็นความจริง เฉินซีและคนอื่น ๆ เพิ่งเผชิญกับโชคลาภโดยบังเอิญ ซึ่งสิ่งที่พวกเขาควรทำที่สุด คือทำความเข้าใจมันทันทีที่เป็นไปได้ มิฉะนั้นเมื่อเวลาผ่านไป ความเข้าใจบางอย่างอาจเลือนหายไปตามกาลเวลา

เหล่าผู้อาวุโสเข้าใจเรื่องนี้ดี และถอนจิตสำนึกของตนออกจากบริเวณนี้อย่างต่อเนื่อง

“พี่ต้าวหลู ข้าต้องรายงานทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในแดนโบราณจักรพรรดิเต๋าให้ท่านอาจารย์ทราบ รบกวนท่านช่วยส่งพวกเขากลับที่พำนักด้วย” ต่อจากนั้น หัวเจี้ยนคงก็ประสานฝ่ามือกับหวังต้าวหลู และหายตัวไปทันที

การที่พวกเฉินซีได้รับมรดกของจักรพรรดิเต๋า เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง ทำให้หัวเจี้ยนคงไม่กล้าชักช้า เขาตั้งใจที่จะรายงานเรื่องทั้งหมดต่ออาจารย์ของเขาในทันทีที่เป็นไปได้

เมื่อหัวเจี้ยนคงจากไป ก็เหลือเพียงหวังต้าวหลูและจั่วชิวไท่อู่เท่านั้นที่ยังอยู่

ตั้งแต่พวกเฉินซีกลับมาจากแดนจักรพรรดิเต๋าโบราณ จั่วชิวไท่อู่ที่เงียบมาตลอด ก็เหลือบตามองเฉินซีและกล่าวว่า “เฉินซี หากเจ้ามีเวลา ก็จงไปหาข้า สิ่งที่เจ้าอยากรู้ เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะเล่าให้ฟังทั้งหมด”

เฉินซีตกตะลึงและไม่สามารถเข้าใจความคิดของจั่วชิวไท่อู่ได้แม้แต่น้อย ทว่าเขาก็ยังประสานมือและตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ข้าย่อมไปอย่างแน่นอน”

หลังจากที่ได้รับคำตอบ จั่วชิวไท่อู่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ใบหน้าเหี่ยวย่นผ่อนคลายลงหลายส่วน ก่อนจะพยักหน้าและหันหลังจากไป

“เฉินซี หากเจ้าจะไปหาจั่วชิวไท่อู่… ทางที่ดีควรแจ้งข้าล่วงหน้า ข้าคิดว่าเจ้าคงรู้ดีว่าเพราะอะไร” หลังจากจั่วชิวไท่อู่หายไปจากสายตา เสียงของหวังต้าวหลูก็ดังในหูของเฉินซี

ชายหนุ่มตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจความตั้งใจของหวังต้าวหลู และรีบกล่าวทันที “ขอบคุณสำหรับความหวังดีของผู้อาวุโส!”

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

Status: Ongoing
เกิดมาถูกตราหน้าเป็นตัวซวยประจำเมือง แต่พวกเจ้าทั้งหมดจงเตรียมตัวไว้ ข้าเฉินซีผู้นี้จะทำให้พวกเจ้าก้มหัวศิโรราบภายใต้มหาเต๋ายันต์อักขระที่ข้าสร้าง!รายละเอียด เรื่องย่อ เฉินซี เด็กหนุ่มผู้ได้รับฉายา ‘ตัวซวยสุดขีด’ ประจำเมืองสนหมอก เขาคือผู่ที่ไม่ว่าเดินไปทางใดก็มีแต่ชาวบ้านหลีกทางให้เนื่องจากกลัวติดความโชคร้าย ยามเมื่อกำเนิดลืมตาดูโลกตระกูลเฉินของเขาที่เคยยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งของเมืองสนหมอกถูกสังหารหมู่ตายไปนับพันจนเหลือคนแค่เพียงหยิบมือ จากนั้นไม่นานต่อมาบิดาและมารดาหายสาปสูญ ถัดมาเมื่อเติบโตจนรู้ความ สัญญามั่นหมายถูกฉีกต่อหน้าผู้คนทั้งนคร เหตุใดชีวิตข้าจึงเป็นเช่นนี้? หรือสวรรค์เกลียดชังเคียดข้า? ทว่าใยไม่ลงโทษข้าเพียงผู้เดียวแต่กลับดลบรรดาลให้เกิดหายนะแก่ผู้คนรอบข้างข้าด้วย ไม่ยุติธรรม! ข้าไม่ยินยอม! คอยดูเถิดสวรรค์ ข้าจะบรรลุเต๋ายันต์สาปส่งเจ้า ข้าจะทำลายผู้คนที่ย่ำยีตระกูลข้าให้สิ้น ข้าจะทำให้สรรพสิ่งทั้งสามโลกก้มกราบกรานข้า ประสานเสียงแซ่ซ้องเทิดทูนข้า ‘มหาจักรพรรดิอักขระยันต์’ นี่คือเรื่องราวของเด็กหนุ่มนามเฉินซี ผู้ถูกชะตาชีวิตบังคับให้ไม่อาจบ่มเพราะได้เฉกเช่นผู้คนทั่วไปแต่ต้องศึกษาวิชาเขียนยันต์อักขระ เพื่อขายประทังชีพให้แก่ครอบครัว ทว่าในยามดิ้นรนนั้นมันกลัยทำให้เขารู้แจ้งพื้นฐานในแขนงยันต์ยิ่งกว่าผู้ใดในเมืองซึ่งท้ายที่สุดมันทำให้เขากลับกลายเป็นมหาจักรพรรดิยันต์ผู้อยู่เหนือสามโลกเก้าสวรรค์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท