รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 1015 สองร่างศพสั่นสะเทือน ส่งสิ่งมีชีวิตมืดมิดจำนวนมากออกไป!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

บทที่ 1015 สองร่างศพสั่นสะเทือน ส่งสิ่งมีชีวิตมืดมิดจำนวนมากออกไป!

บรรพจารย์ฝูอดรู้สึกโชคดีไม่ได้ โชคดีที่เขาแบกรับเหตุต้นผลกรรมเอาไว้ ไม่เช่นนั้นคราวนี้เขาคงไม่อาจรอดพ้นไปได้ ถูกสิ่งมีชีวิตน่ารังเกียจจิตใจวิปริตจัดการ

หากเป็นเช่นนั้นจริง นั่นย่อมทุกข์ทรมานเสียยิ่งกว่าการสังหารเขาอีก ตอนนี้เพียงแค่คิดขึ้นมาท้องไส้ก็พลันปั่นป่วน รู้สึกรังเกียจจนอยากอาเจียน

สิ่งมีชีวิตตัวสูงและเตี้ยแม้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็พอจะตระหนักได้ถึงความผิดปกติ

พวกมันเตรียมตัวจากไป ไม่ต้องการอยู่ที่นี่ต่อ

“จะไปไหน!”

บรรพจารย์ฝูตะโกน สำแดงมหาวิชาออกมาทันที ปิดผนึกสถานที่เอาไว้

เขาไม่ต้องการปล่อยสิ่งมีชีวิตทั้งสองไป

สิ่งมีชีวิตทั้งสองดูแคลนเป็นอย่างยิ่ง จักรพรรดิเซียนตัวจ้อยผู้หนึ่งจะสามารถปิดผนึกพวกเขาเอาไว้ได้อย่างไร หากพวกเขาต้องการจะจากไปก็สามารถฝ่าพลังผนึกสถานที่แห่งนี้เอาไว้อย่างง่ายดาย

หลังจากนั้นพวกเขาก็ทำเช่นดังว่า แต่ละคนต่างระเบิดพลังอันแข็งแกร่งออกมา ต้องการจะทำลายพลังที่บรรพจารย์ฝูใช้ปิดผนึกฟ้าดินเอาไว้ แล้วออกจากสถานที่แห่งนี้

บรรพจารย์ฝูที่เห็นฉากนี้แย้มยิ้มอย่างมีความสุขออกมา

เขาตระหนักชัดเจนดีว่าตนไม่อาจใช้พลังแห่งกรรม ทำได้แต่ดึงดูดให้ปรากฏออกมา

ดังนั้นเขาจึงใช้พลังดั้งเดิมของตนเองออกมาปิดผนึกฟ้าดินเอาไว้ เช่นนี้แล้วหากสิ่งมีชีวิตทั้งสองฝืนใช้แรงทำลายผนึก เขาจะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส อาจถึงขั้นเสียชีวิตด้วยซ้ำ

พลังแห่งกรรมที่อยู่บนร่างของเขาจะต้องออกมาอย่างแน่นอน

เมื่อพลังที่สิ่งมีชีวิตทั้งสองระเบิดออกมากำลังจะสัมผัสกับพลังดั้งเดิมของบรรพจารย์ฝูที่ใช้ปิดผนึกฟ้าดิน พลังผลกรรมที่มองไม่เห็นก็ปรากฏขึ้นมา ปะทะเข้ากับสิ่งมีชีวิตทั้งสองโดยพลัน!

แผละ!

เลือดสาดกระเซ็น ร่างของสิ่งมีชีวิตทั้งสองระเบิดออกทันที หลงเหลือไว้เพียงดวงวิญญาณอันน้อยนิด ได้รับความเสียหายอย่างไม่อาจจินตนาการถึง!

“พวกเจ้าทั้งสอง รีบสร้างร่างเนื้อใหม่ให้ข้าเดี๋ยวนี้!”

บรรพจารย์ฝูตะโกนเสียงดัง “ไม่เช่นนั้นข้าจะจัดการพวกเจ้าทั้งสองให้สูญสิ้น!”

สิ่งมีชีวิตทั้งสองตื่นกลัว พวกเขาต่างคิดว่าพลังที่โจมตีลงบนร่างพวกเขาเป็นฝีมือบรรพจารย์ฝู

ดังนั้นต่อหน้าคำของบรรพจารย์ฝู พวกเขาไม่กล้าขัดขืน!

หลังจากนั้นพวกเขาก็พยายามสร้างร่างเนื้อใหม่ออกมา ก่อนจะคุกเข่าต่อหน้าบรรพจารย์ฝู ร้องขอให้ปล่อยพวกเขาไป

“ปล่อยพวกเจ้า? ได้!”

บรรพจารย์ฝูเอ่ยอย่างใจกว้าง “ข้าเองก็ไม่อยากทำให้พวกเจ้าลำบาก และไม่ฆ่าพวกเจ้าด้วย กลับกัน ข้ายังต้องการช่วยพวกเจ้าฝึกฝน!”

ดีเพียงนี้?

สิ่งมีชีวิตทั้งสองไม่เชื่อ

แน่นอนว่าเป็นเช่นนั้นจริง สิ่งที่บรรพจารย์ฝูพูดต่อทำให้พวกเขาแทบกระอักเลือด

“พวกเจ้าไม่ได้อยากฝึกฝนหัวใจเต๋าหรือ? ดียิ่งนัก พวกเจ้าทั้งสองสามารถช่วยอีกฝ่ายทะลวงกันและกันได้”

บรรพจารย์ฝูกล่าว “จำเอาไว้ หนึ่งร้อยครั้ง น้อยกว่าหนึ่งร้อยครั้งไม่ได้!”

หลังจากนั้นเขาก็ออกจากที่นี่ไป ไม่ต้องการเห็นสิ่งมีชีวิตทั้งสองทะลวงกันและกัน

เขาคิดว่าหากตนเห็นมัน คงเป็นภาพฝังใจไปตลอดชีวิตแน่

“อย่าได้คิดหลบหนี และก็อย่าได้คิดหลบเลี่ยงด้วย ข้าจะจับตาดูพวกเจ้าตลอด หากกล้าจะเล่นแง่ ข้าจะสังหารพวกเจ้าในพริบตา! พวกเจ้าควรกระจ่างชัด ข้ามีพลังจะทำเช่นนั้น!”

ก่อนจากไปเขาได้เอ่ยกับสิ่งมีชีวิตทั้งสอง

สิ่งมีชีวิตทั้งสองตระหนักได้เป็นอย่างดีว่าพลังนั้นน่าสะพรึงกลัวมากเพียงใด เมื่อครู่เกือบถึงชีวิตของพวกเขาแล้ว เห็นได้ชัดว่าบรรพจารย์ฝูมีพลังพอจะสังหารพวกเขาได้อย่างง่ายดาย

พวกเขาไม่กล้าขัดขืนคำสั่งของบรรพจารย์ฝู ลงมือทำโดยทันที

ขณะเดียวกัน บรรพจารย์ฝูออกห่างจากเกาะแห่งนั้นไป

“ดอกเบญจมาศบอบช้ำ จึงร่วงหล่นสู่พื้นดิน…”

เขาฮัมออกมาเป็นทำนองเล็กน้อย ภายในใจเต็มไปด้วยความเบิกบาน

“มหาสมุทรกว้างใหญ่พอให้มัจฉาแหวกว่าย นภาสูงพอให้วิหคโผล่บิน พวกนอกอาณาจักรเอ๋ย บรรพจารย์ฝูมาแล้ว!”

บรรพจารย์ฝูตื่นเต้นอย่างมาก ยามนี้เขาเกือบจะไร้เทียมทาน คิดสิ่งใดก็สามารถทำสิ่งนั้น

แม้จะยังไม่อาจหลีกเลี่ยงชะตากรรมแห่งความตายบนหัวได้

ทว่าก่อนตายได้ลิ้มลองรสชาติของการไร้เทียมทาน เขาก็นับว่าตายได้อย่างคุ้มค่าแล้ว!

“แต่อย่างไรเสียก็ยังต้องลองทำบางสิ่ง หาหนทางที่จะมีชีวิตรอดในอนาคต!”

เขาลูบคางครุ่นคิด

หลังจากนั้นก็ตัดสินใจจะแสวงหาวาสนาการเปลี่ยนแปลงอย่างบ้าคลั่ง เพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของตนเอง

อย่างไรเสียเขาก็ใกล้เคียงคำว่าไร้เทียมทาน สามารถไปได้ทุกหนแห่งโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดเรื่องขึ้น

“ไปดีกว่า”

เขาเริ่มเคลื่อนไหว

ปัจจุบันภายในอาณาจักรเต็มไปด้วยวาสนาการเปลี่ยนแปลง เขาต้องการจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วไม่ได้เป็นเพียงแค่ความฝัน

ณ จักรวาลโกลาหลอื่นแห่งหนึ่ง ภายในอาณาจักรแห่งหนึ่ง

จักรพรรดินีต่อสู้อย่างดุเดือดนองเลือดกับสัตว์ประหลาดจำนวนมาก

เพื่อจะฝึกฝนตนเอง นางจึงออกเดินทางในจักรวาลดวงดาราจนมาถึงจักรวาลโกลาหลแห่งนี้

ภายในอาณาจักรเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดน่าสะพรึงกลัวประหนึ่งติดเชื้อบางสิ่ง

บนร่างของนางมีสมบัติที่คุณชายได้มอบไว้ให้ นางสามารถใช้มันเอาชนะสัตว์ประหลาดเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย ทว่านางก็ไม่ได้ใช้มันแต่อย่างใด เพราะต้องการจะใช้เลือดและความดุเดือดฝึกฝนให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น!

“เป็นการติดเชื้อจริง ๆ ต้นกำเนิดคือศพหนึ่งที่น่าจะเป็นศิษย์ของผู้เบิกทาง ทั้งยังเป็นผู้แรกที่ติดตามผู้เบิกทาง!”

นางอยู่ในอาณาจักรแห่งนี้มานานแล้ว ค้นพบความจริงของสัตว์ประหลาดเหล่านี้

ในอาณาจักรแห่งนี้มีศพหนึ่งถูกฝังอยู่ ศพนั้นเกิดการกลายพันธุ์ มีพลังอันน่าสะพรึงกลัวหลั่งไหล แพร่เชื้อใส่เหล่าผู้ฝึกตนทั้งหลายแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดน่ากลัว

“อาณาจักรแห่งนี้ไม่เหลือผู้ที่มีชีวิตอยู่แล้ว หากไม่ตายก็กลายเป็นสัตว์ประหลาด ไม่ก็หนีออกไปจากอาณาจักรแห่งนี้แล้ว”

ดวงตาของจักรพรรดินีเปล่งประกาย กระชับหอกสีทองที่อยู่ในมือ

ยามนี้หอกสีทองเปลี่ยนสีแล้ว ด้านบนตัวมันถูกอาบย้อมไปด้วยโลหิตของสัตว์ประหลาด

“ที่นี่จะกลายเป็นสนามรบของเขา จำต้องค่อย ๆ แข็งแกร่งขึ้นทีละก้าว!”

แม้นางจะเกิดเป็นสตรี ทว่าก็มีความแข็งแกร่งห้าวหาญ ไม่ต้องการหลบซ่อนกายอยู่เบื้องหลังอย่างไม่อาจทำสิ่งใดได้

คุณชายมีบุญคุณใหญ่หลวงกับนาง นางจึงอยากเป็นกำลังให้กับคุณชาย ในอนาคตการต่อสู้ครั้งใหญ่อันน่ากลัวจะปรากฏขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง นางต้องการต่อสู้ในแนวหน้า สังหารศัตรูทั้งหมดเพื่อคุณชาย

แม้ด้วยขอบเขตการฝึกฝนของนาง เรื่องทั้งหมดเหล่านั้นจะยังห่างไกลเป็นอย่างมาก แต่นางก็จะค่อย ๆ แข็งแกร่งขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้!

นางมีความมั่นใจเช่นนี้!

แดนบูชายัญอันธกาล

ที่แห่งนี้เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอีกครั้ง

ศพของผู้เบิกทางและศิษย์พี่หญิงลอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ความสั่นสะเทือนเกิดถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ไม่นานมานี้เกิดแทบทุก ๆ สองวันครั้ง

นอกจากนี้ตอนที่ศพสั่นสะเทือน พลังอันน่าสะพรึงกลัวจะหลั่งไหลออกมาด้วย เกิดเป็นการโจมตีแบบสุ่ม อาจเป็นเพราะพลังความมืดที่อยู่ภายในพยายามฝ่าออกมา ทำให้ทุกครั้งล้วนมีสิ่งมีชีวิตมืดมิดจำนวนมากสิ้นชีพลงด้วยการโจมตีเหล่านี้

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเองก็เคยเกือบโดนพลังนั่นโจมตีใส่

หลังจากนั้นเขาก็จับเจ้าหลวงไปทุบตีอย่างแรง เตือนว่าหากเจ้าหลวงเข้ามาใกล้เขาอีก เขาจะสังหารเจ้าหลวงในทันที!

เพราะก่อนหน้านี้ทุกครั้งเขามักโชคดีเป็นอย่างมาก ไม่เคยโดนการโจมตีแบบสุ่มแม้แต่น้อย

ทว่าครั้งที่เกือบถูกโจมตี เป็นตอนที่เจ้าหลวงเพิ่งมาตามหาเขา จึงได้อยู่ข้างเขา

เขารู้สึกว่านี่จะต้องเป็นเจ้าหลวงแน่ที่ตั้งใจจะพิฆาตเขา!

ดังนั้นเขาจึงตักเตือนเจ้าหลวงว่าอย่าได้คิดเข้าใกล้เขาอีก มีเรื่องอันใดก็ให้ติดต่อระยะไกลเอา

ทว่าครั้งล่าสุดไม่กี่ครั้งมานี้ สถานการณ์แตกต่างออกไป

ในไม่กี่ครั้งผ่านมา ยามที่ศพทั้งสองสั่นสะเทือน ไม่มีการโจมตีแบบสุ่มปรากฏออกมา แต่กลับมีสสารมืดมิดจำนวนมหาศาลพวยพุ่งออกมา มอบผลประโยชน์อย่างมากให้กับสิ่งมีชีวิตมืดมิด ความแข็งแกร่งทะยานขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว!

‘นี่หมายความว่าศพไม่จำเป็นต้องทะลวงออกมาแล้วหรือ?’

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงคิดในใจอย่างเคร่งขึม

เขาล่วงรู้ได้ว่าความน่ากลัวที่แท้จริงกำลังจะปรากฏออกมา

‘ต้องทำเช่นไรดี?’

ครุ่นคิดในใจอย่างต้องการที่จะทำลายทั้งสองศพนี้

ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าหากศพทั้งสองถูกทำลายลง จะต้องเกิดความเสียหายอย่างมากต่อเหล่าความมืดมิดอย่างแน่นอน

อย่างไรเสียทั้งสองร่างก็ไม่ใช่ศพธรรมดา มีภูมิหลังอันยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก

‘ไม่เหมาะที่จะลงมือ…’

เขาอ่อนแอเกินไป ไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องทำลายศพทั้งสองร่างเลย เพียงแค่เข้าใกล้ก็เป็นเรื่องยากยิ่งแล้ว หากต้องการจะทำลายศพทั้งสอง เขาต้องขบคิดหาวิธีให้ดี

‘อาศัยเพียงตัวข้าเองย่อมทำไม่ได้’

เขาไม่อาจใช้เพียงสมองแก้ไขปัญหาได้ ความแตกต่างของพลังห่างไกลกันเกินไป เขาไม่อาจทำสิ่งใดได้

“ข้าต้องออกไปขอความช่วยเหลือจากพวกพี่ต้นหลิว ลองดูว่าพวกพี่ต้นหลิวจะทำสิ่งใดได้บ้าง”

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงคิดขึ้นมา รู้สึกว่าต้องไปหาต้นหลิว

อย่างไรเสียวิญญาณมืดมิดด้านในก็ยังไม่หลอมรวมเข้ากับศพอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้จึงนับเป็นโอกาสอันดี หากปล่อยให้วิญญาณมืดมิดหลอมรวมเข้ากับศพทั้งสองอย่างสมบูรณ์แล้ว จะต้องรับมือได้ยากกว่าเดิมอย่างแน่นอน

ส่วนการไปหาคุณชาย เขาไม่ได้คิดถึงเลย

แม้วิญญาณมืดมิดในร่างศพทั้งสองจะน่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด แต่เขากระจ่างแจ้งเป็นอย่างดี นี่ไม่ใช่ศัตรูที่อยู่ท้ายสุด หรือก็คือไม่ใช่ศัตรูที่แท้จริงของคุณชาย

เขารู้ว่าคุณชายมีศัตรูที่แท้จริงอยู่ ทั้งยังเป็นศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าอย่างไม่อาจจินตนาการได้ เขาไม่ต้องการไปรบกวนหรือแบ่งสมาธิจากคุณชาย

คุณชายกำลังวางแผนรับมือกับศัตรูที่แท้จริงอยู่

ช่วงเวลาเช่นนี้ เขาจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ไปรบกวนคุณชาย เพื่อที่คุณชายจะได้มีสมาธิเตรียมการรับมือศัตรูที่แท้จริง

“ความมืดมิดที่แท้จริงกำลังเยื้องกรายเข้ามา ข้าจำเป็นต้องให้พวกเจ้าทำบางเรื่อง ไปเสีย กระจายไปยังทุกอาณาจักร จุดเปลวเพลิงแห่งความมืดมิดขึ้นมา!”

ขณะนั้นเอง พลันมีเสียงดังขึ้นมาจากร่างศพของศิษย์พี่หญิง

สิ่งมีชีวิตมืดมิดจำนวนนับไม่ถ้วนคุกเข่าลงบนพื้นทันที ตอบรับคำสั่งของศิษย์พี่หญิง

กลุ่มหมอกสีดำก้อนหนึ่งลอยออกมาจากร่างศพศิษย์พี่หญิง ควบแน่นขึ้นเป็นรูปลักษณ์ของศิษย์พี่หญิง

นางงดงามเป็นอย่างมาก เพียงแต่ใบหน้าซีดขาวไร้ซึ้งสีเลือดแม้แต่น้อย

“ข้าจะส่งพวกเจ้าไปด้วยวิชาลับ!”

นางระเบิดพลังมหาศาลออกมา สร้างเส้นทางขึ้นเส้นแล้วเส้นเล่า นำพาไปสู่ทุกอาณาจักร ทุกจักรวาลโกลาหล เทวโลก หรือแม้แต่หลังฉาก!

จากนั้นสิ่งมีชีวิตมืดมิดจำนวนมากที่ถูกเลือกก็ถูกส่งเข้าไป

‘เยี่ยมนัก เก้าในสิบล้วนมีความสัมพันธ์อันดีกับเจ้าหลวง!’

จักรพรรดิหมากล้อมหวงเลยหรี่ตา เอ่ยขึ้นในใจ ‘กลุ่มบิดาบุญธรรม มารดาบุญธรรม พวกเหล่าพี่น้อง…นี่คือการส่งไปตายยกกองทัพ!’

เขาชื่นชมความสามารถพิฆาตคนของเจ้าหลวงขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ยอมรับไม่ได้เลย ส่วนเรื่องสิ่งมีชีวิตที่ถูกส่งออกไปจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อนะหรือ?

ไม่มีทางเป็นไปได้!

เขาเองก็ถูกเลือก มีพลังมืดมิดเข้าปกคลุมตัวเขาส่งเข้าไปในเส้นทาง

ก่อนจะหายลับ เขามองไปทางเจ้าหลวง พบว่าเจ้าหลวงเองก็ถูกเลือกและส่งเข้าไปในเส้นทางด้วย

‘พวกมันล้วนไม่อาจรอดได้มากกว่าเดิม!’

จักรพรรดิหมากล้อมหัวเราะในใจ เขามีแผนการที่สามารถสังหารสิ่งมีชีวิตมืดมิดทั้งหมดราพณาสูรได้เร็วกว่าเดิมแล้ว

เหล่าสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่ถูกส่งไปจำต้องตายทั้งหมด ไม่เช่นนั้นสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรจะต้องทนทุกข์ทรมาน เกิดเป็นฉากแม่น้ำโลหิต!

หลังจากนั้นไม่นาน เหล่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดก็ถูกส่งออกไปด้านนอกเรียบร้อย

“จุดความมืดมิดในใจสิ่งมีชีวิตออกมา ทำให้กลายเป็นกำลังของข้า สุดท้ายข้าจะได้ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างแบบสมบูรณ์!”

ศิษย์พี่หญิงรำพึงกับตนเอง

“สำหรับความผิดปกติอย่างหลี่จิ่วเต้า และซีกับกล่องสี่เหลี่ยม หลังจากข้าควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้แล้ว ข้าจะลงมือจัดการด้วยตนเอง!”

หลี่จิ่วเต้าที่เป็นความผิดปกติ ไม่ต้องกล่าวสิ่งใดมาก จำเป็นต้องกำจัดอย่างสิ้นซาก ไม่เช่นนั้นมันอาจต้องไปอยู่ในเงื้อมมือความผิดปกติอย่างหลี่จิ่วเต้า

ส่วนซีกับกล่องสี่เหลี่ยมนั้น ต่างมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เกี่ยวข้องกับความลับอันยิ่งใหญ่อย่างภาพมายาและความจริง!

กล่าวจบแล้วมันก็กลายเป็นกลุ่มหมอกดำไหลกลับเข้าไปในร่างศพ

จักรวาลโกลาหลแห่งหนึ่ง ณ อาณาจักรสักแห่ง

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ เขาถูกส่งมายังอาณาจักรแห่งนี้

“จ้าวแห่งความมืดมิดช่างน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง พริบตาเดียวก็ส่งสิ่งมีชีวิตมืดมิดจำนวนมากไปทุกอาณาจักรได้ แนวป้องกันในสมรภูมิความมืดถูกทำลายโดยตรง”

เขาทอดถอนใจออกมา สมกับเป็นต้นกำเนิดความมืด ไม่จำเป็นต้องผ่านสมรภูมิมืดมิด ก็สามารถส่งสิ่งมีชีวิตมืดมิดจำนวนมากไปยังทุกอาณาจักร

ทว่าอารมณ์มากมายก็ถูกเขาเก็บไปอย่างรวดเร็ว รีบติดต่อเจ้าหลวงทันที ตอนนี้ไม่ควรมาเสียเวลา

“เจ้าอยู่ที่ใด?”

เขาถามเจ้าหลวงโดยตรงผ่านศาสตราสื่อสาร

“ข้าอยู่ที่…ดาวว่านซาง!”

หลังจากเจ้าหลวงยืนยันตำแหน่งตัวเองได้แล้วก็รีบตอบกลับจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงทันที

ต้นหลิวประทับข้อห้ามเอาไว้บนร่างเขาแล้ว ชีวิตถูกควบคุมเอาไว้ เขาย่อมไม่กล้าขัดขืนคำสั่งจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง

“เจ้ารอข้าอยู่ที่นั่น”

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเอ่ย เพียงแค่หนึ่งเค่อเขาก็ตามตำแหน่งไปถึงดาวว่านซางที่เจ้าหลวงอยู่ได้

ดาวว่านซางนั้นอยู่ในจักรวาลโกลาหลเดียวกับเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้แข็งแกร่งมากมาย แต่ยามนี้ก็เข้าสู่ขอบเขตอิสระแล้ว ระยะทางเพียงแค่นี้ไม่อาจนับเป็นสิ่งใดได้ เพียงครู่เดียวก็มาถึงทันที

ก่อนหน้านี้เขาอยู่เพียงขอบเขตนิรันดร์เท่านั้น สาเหตุที่เขาพัฒนาก้าวกระโดดได้รวดเร็วเพียงนี้ ส่วนหนึ่งก็เกี่ยวข้องกับการได้กินอาหารที่คุณชายทำ

อาหารที่คุณชายทำนั้นเปี่ยมด้วยพลังมหศาล เขาไม่สามารถหลอมรวมได้หมดในครั้งเดียว ดังนั้นในร่างจึงมีพลังสะสมเอาไว้อยู่ ถูกดึงออกมาหลอมเข้าทีละน้อยจนกลายเป็นพลังของเขาอย่างแท้จริง

อีกทางหนึ่งก็เกี่ยวข้องกับการสั่นสะเทือนของสองศพ

เมื่อทั้งสองศพเกิดการสั่นสะเทือน สสารมืดมิดจำนวนมหาศาลพวยพุ่งออกมา ทำให้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นด้วย

ยังดี กระดานหมากล้อมที่คุณชายมอบให้ช่วยปกป้องเขาจากการถูกความมืดมิดกัดกิน ไม่เช่นนั้นเขาอาจจมลงสู่ความมืดมิดแล้ว

สสารมืดมิดที่หลั่งไหลออกมาจากการสั่นสะเทือนของศพทั้งสองน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง พลังมืดมิดที่อยู่ด้านในนั้นเกินกว่าจะจินตนาการถึงได้

เจ้าหลวงเองก็ไม่ต่างกันมากนัก ดูดซับสสารความมืดจำนวนมากเข้าไป ทำให้พลังพุ่งสูงขึ้น ทว่ากลับไม่เคยถูกความมืดกลืนกินเลย

ข้อห้ามที่ต้นหลิวสลักเอาไว้บนร่างของเขาใช้งานได้ผล ปกป้องจิตวิญญาณของเขาจากการกลืนกิน

“มาแล้ว!”

เมื่อเจ้าหลวงเห็นจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงปรากฏขึ้น ก็รีบวิ่งตรงไปหาอีกฝ่ายทันที

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงถอยออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับตะโกนว่า “อยู่ให้ห่างจากข้า อย่าได้เข้ามา!”

เขาประจักษ์ชัดว่าความสามารถพิฆาตคนของเจ้าหลวงแข็งแกร่งเพียงใด ยามนี้จึงไม่กล้าแม้แต่จะเดินไปกับเจ้าหลวงเสียด้วยซ้ำ ต่างจากก่อนหน้านี้ที่เขายังกล้าเดินทางด้วย

“ตกลง ตกลง”

เจ้าหลวงหยุดลงอย่างช่วยไม่ได้ รู้ว่าจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงกลัวสิ่งใด

“สิ่งมีชีวิตมืดมิดส่วนใหญ่ที่ถูกส่งออกมามีความสัมพันธ์อันดีกับเจ้า ดังนั้นเจ้าจงติดต่อหาพวกเขาแล้วระบุตำแหน่งที่แน่นอนมาเสีย”

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงกล่าวกับเจ้าหลวง

เขาจะเริ่มแผนการสังหารสิ่งมีชีวิตมืดมิดเหล่านี้!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท