บทที่ 892 จบสิ้น (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

“ตอนนี้​…ตอนนี้​พวกเรา​ควร​ไปสำนัก​นที​คราม​หรือ​” จันทรา​ม่วง​หัวเราะ​เฝื่อน​สอง​ครั้ง​พลาง​ถาม

นั่น​คือ​อนธการ​สอง​คน​เชียว​นะ​! แม้ฝ่าย​หนึ่ง​จะเยาว์วัย​ มีพลัง​ไม่เท่าไร​ และ​อีก​ฝ่าย​แก่​ชรา​ร่าง​ทรุดโทรม​ ใกล้​ขีดจำกัด​เต็มที​ แต่​อย่างไร​พลัง​ก็​เหี้ยมหาญ​สุด​เปรียบ​ปาน​อยู่ดี​

นึกไม่ถึง​ว่า​จะถูกลู่​เซิ่งใช้ความ​เป็น​อมตะ​ของ​มาร​สวรรค์​ผลาญ​พลัง​จนตาย​

“สำนัก​นที​คราม​หรือ​ ย่อม​ต้อง​ไปอยู่แล้ว​ แต่​ข้า​ทำ​ลายสอง​สำนัก​ติดต่อกัน​เช่นนี้​ พวก​มัน​จะยัง​กล้า​รับคำ​ท้า​หรือ​ เกรง​ว่า​พอ​ได้ยิน​ข่าว​ก็​คงจะ​เผ่นหนี​กัน​ทันที​กระมัง​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​

“แล้​วจะ​รับมือ​อย่างไร​” จันทรา​ม่วง​ถามอย่าง​สงสัย​

“ข้า​มีเพียง​คำขอ​เดียว​ ขอให้​ทั้งสอง​ท่าน​ปิดข่าว​ทำลาย​สำนัก​ทาง​นี้​ไปก่อน​ อีก​สอง​สามวัน​ให้หลัง​ข้า​จะมุ่งหน้า​ไปท้า​สู้ที่​สำนัก​นที​คราม​อย่าง​เปิดเผย​” ลู่​เซิ่งหันเห​หัวข้อ​ “แต่​เพื่อ​ป้องกัน​ไม่ให้​พวก​มัน​หนี​ไปหลัง​ได้ข่าว​ ข้า​จะต้อง​ซ่อน​ร่องรอย​ แทรกซึม​เข้า​สำนัก​นที​คราม​”

“แทรกซึม​หรือ​” เจิ้งเจวี๋ยซ​วิน​หาง​ตา​กระตุก​ “ไหน​ท่าน​บอ​กว่า​เปิดเผย​ไม่ใช่หรือ​”

“แน่นอน​ นี่​ก็​เพื่อ​ป้องกัน​ไม่ให้​พวก​มัน​หนี​ไปก่อน​เท่านั้น​ หลังจาก​แทรกซึม​เข้าไป​ ขอ​แค่​ข้า​เจอ​เจ้าสำนัก​หยวน​ชิงลี่​ ก็​จะตัดสิน​แพ้ชนะ​กับ​นาง​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ มัน​ก็​เหมือนกัน​ไม่ใช่หรือ​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​อย่าง​ราบเรียบ​

ถึงเวลา​ใคร​จะรู้​ว่า​ท่าน​สู้กับ​หยวน​ชิงลี่​ตรงๆ​ หรือ​ลอบ​เล่นงาน​นาง​กัน​ล่ะ​

พวก​จันทรา​ม่วง​เสียดสี​ใน​ใจ

“บางที​พวก​ท่าน​อาจ​นึก​ว่า​ข้า​จะลอบ​เล่นงาน​หยวน​ชิงลี่​กระมัง​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​อย่าง​เรียบ​เฉย​ “แต่​ข้า​ลู่​เซิ่งไม่ใช่ชนชั้น​ชั่วร้าย​ไร้ยางอาย​เช่นนั้น​ พวก​ท่าน​ดูแคลน​นิสัย​ข้า​เกินไป​แล้ว​”

พวก​จันทรา​ม่วง​ไร้​คำพูด​โต้ตอบ​

“ตอนนี้​กลับกัน​ก่อน​เถอะ​ ที่นี่​ให้​ผู้บำเพ็ญเพียร​จาก​นคร​ตราชั่ง​ที่​ตามมา​ทีหลัง​จัดการ​ คิด​ว่า​สหาย​ลู่​คง​ไม่สนใจ​สิ่งที่​ได้รับ​มาทั้งหมด​เท่าไร​ ข้า​กะ​จำนวน​คร่าวๆ​ ให้​ท่าน​ดี​ไหม​ ไม่ต้อง​ห่วง​ ไม่เอาเปรียบ​ท่าน​แน่นอน​” จันทรา​ม่วง​หัวเราะ​แห้ง​

“อย่างนี้​ก็ดี​เหมือนกัน​” ลู่​เซิ่งพยักหน้า​ การ​โจมตี​สำนัก​วิญญาณ​ไตร​อริยะ​สบาย​กว่า​สำนัก​แปลง​วายุ​อยู่​มาก​ แม้สุดท้าย​ชาย​ชรา​ที่​โผล่​มาทีหลัง​จะมีพลัง​ไม่เลว​ แต่เพียง​เขา​ระเบิด​พลัง​ อีก​ฝ่าย​ก็​รับมือ​ไม่ไหว​แล้ว​

ไม่ค่อย​ทน​มือ​ทน​เท้า​นัก​ แตกต่าง​กับ​เจ้าสำนัก​แปลง​วายุ​โดยสิ้นเชิง​

สำนัก​ไตร​อริยะ​เหมือน​จะรุ่งโรจน์​ แต่​เจ้าสำนัก​รุ่น​ปัจจุบัน​กลับ​มีพลัง​ไม่มาก​พอ​ เจ้าสำนัก​เก่า​ก็​สู้นาน​ไม่ได้​ เทียบ​กับ​สำนัก​แปลง​วายุ​แล้ว​ ก็​ต้อง​ดู​ว่า​ฝ่าย​ไหน​กลยุทธ์​ดีกว่า​กัน​

พวก​ลู่​เซิ่งกลับ​เรือ​เหาะ​ รอ​กลุ่ม​ผู้บำเพ็ญเพียร​จาก​นคร​ตราชั่ง​ที่​ตาม​มาถึงแล้ว​ จึงค่อย​ออก​ไปจาก​ที่นี่​

เมื่อ​ไม่มีผู้​เข้มแข็ง​อนธการ​ระดับ​สุดยอด​นำ​กลุ่ม​ อีก​ทั้ง​ดาวเคราะห์​พวก​นี้​ยัง​อพยพ​ศิษย์​ใน​สำนัก​ไปแล้ว​ไม่น้อย​ พวก​ที่​เหลืออยู่​ใน​ตอนนี้​ยิ่ง​ไม่ใช่คู่มือ​ของ​นคร​ตราชั่ง​โดยสิ้นเชิง​

ลู่​เซิ่งกลับ​นครหลวง​พร้อมกับ​ทั้งสอง​โดย​ไม่สนใจ​เรื่อง​อื่น​อีก​

ใน​เมื่อ​ร่วมมือ​เป็น​พันธมิตร​กับ​พวก​จันทรา​ม่วง​แล้ว​ อย่างนั้น​นคร​ตราชั่ง​จึงกลาย​เป็นที่​ส่งกำลัง​บำรุง​สามารถ​รั้ง​อยู่​ได้​ชั่วคราว​

เขา​วางแผน​ว่า​จะสร้าง​จุด​รวมตัว​ขึ้น​ใหม่​หลังจาก​จัดการ​สำนัก​นที​คราม​ พร้อมกับ​เปิดรับ​คน​จำนวนมาก​ ไม่อย่างนั้น​หาก​อาศัย​เพียงแค่​เขา​คนเดียว​ คิด​จะตามหา​ครอบครัว​และ​บุตรชาย​ให้​เจอ​โดยเร็ว​ที่สุด​ ก็​เป็น​ภารกิจ​ที่​เป็นไปไม่ได้​

ณ สำนัก​นที​คราม​ ศูนย์บัญชาการ​ชั่วคราว​

เพ​ล้ง!​

หยวน​ชิงลี่​โยน​แจกัน​ดอกไม้​สีทอง​เข้ม​ใน​มือ​ทิ้ง​ พื้น​แข็งแกร่ง​ส่งเสียง​กระแทก​เสียด​หู​

แจกัน​ดอกไม้​แตก​เป็น​ชิ้นๆ​ กระจัดกระจาย​ทั่ว​พื้น​

หญิง​รับใช้​กับ​ข้า​รับใช้​ที่อยู่​ใกล้​ๆ ตัวสั่น​ แต่​ไม่กล้า​ส่งเสียง​ใดๆ​

รอง​เจ้าสำนัก​สวี​ฮ่าว​ไป่ถอนใจ​ มอง​เศษแจกัน​กระจาย​เต็ม​พื้น​ ยื่นมือ​สะบัด​แขน​เสื้อ​ เศษนั้น​ก็​พา​กัน​สลาย​ไป

“ข่าว​ของ​สำนัก​แปลง​วา​ยุส่ง​มาแล้ว​” เสียง​ของ​สวี​ฮ่าว​ไป่สะท้อน​ใน​ตำหนัก​ใหญ่​

“เจ้าเด็ก​นั่น​ต้อง​มีคน​คอย​หนุนหลัง​อยู่​แน่​! มีคน​เห็น​เจ้านคร​จันทรา​ม่วง​จาก​นคร​ตราชั่ง​เคลื่อนไหว​พร้อมกับ​มัน​ น่าจะเป็น​นคร​ตราชั่ง​ลงมือ​ทำให้​สถานการณ์​วุ่นวาย​ แล้ว​เล่นงาน​ตอนที่​สำนัก​แปลง​วายุ​รับมือ​ไม่ทัน​ ไม่อย่างนั้น​แล้วด้วย​พลัง​ของ​จงอวิ๋น​ จะพ่ายแพ้​อย่าง​รวดเร็ว​ได้​อย่างไร​!” หยวน​ชิงลี่​เสียง​ขรึม​เข้ม​คาดเดา​สถานการณ์​ของ​สำนัก​แปลง​วายุ​

“ไม่ว่า​จะมีคน​ช่วย​หรือไม่​ แต่​สำนัก​แปลง​วายุ​ก็​พินาศ​ไปแล้ว​ นี่​เป็น​ข้อเท็จจริง​” สวี​ฮ่าว​ไป่เอ่ย​อย่าง​ราบเรียบ​ “ต่อจากนี้​ลู่​เซิ่งต้อง​มาหา​สำนัก​นที​คราม​กับ​สำนัก​วิญญาณ​ไตร​อริยะ​แน่​ เจ้าคิด​จะรับมือ​อย่างไร​”

“จะรับมือ​อย่างไร​ แน่นอน​ว่า​…!” ยัง​ไม่ทัน​พูด​จบ​ หยวน​ชิงลี่​ก็​กำมือ​ ใน​ตอนนี้​ไม่แน่​ว่า​จะสะกด​ลู่​เซิ่งได้​จริง​

ถ้ากองทัพ​ทาง​นคร​ตราชั่ง​ช่วย​เขา​สุดกำลัง​ ขุม​กำลัง​เก่าแก่​เหล่านี้​สืบทอด​มานานนม​ ย่อม​ไม่ได้​รวบรัด​เรียบง่าย​อย่าง​ที่​เห็น​ภายนอก​

ขอบเขต​อนธการ​คือ​จุดสูงสุด​ของ​มายา​พิศวง​ คุณ​ลักษณะเด่น​ที่​โดดเด่น​ที่สุด​ก็​คือ​ผลักดัน​ปฐมพลัง​ที่​ถูก​ตน​ขุดค้น​จน​เกลี้ยง​แล้ว​ให้​ไปถึงขอบเขต​อมตะ​ไม่ดับสูญ​ ต่อให้​เป็น​ปฐมพลัง​อนธการ​อันน้อย​นิด​ ขอ​แค่​ไม่ถูก​ทำลาย​มากเกินไป​ใน​เวลา​สั้น​ๆ ก็​สามารถ​คง​การดำรงอยู่​ได้​ตลอดกาล​

“ตอนนี้​ลู่​เซิ่งร้ายกาจ​ขึ้น​มาก​ ทั้ง​ยัง​เข้า​ร่วมกับ​กองทัพ​นคร​ตราชั่ง​ ต้อง​มีไพ่ตาย​ที่​คาดไม่ถึง​แน่​ พวกเรา​ต้อง​ป้องกัน​ไว้​ก่อน​” หยวน​ชิงลี่​เอ่ย​เสียง​เข้ม​

“อย่างนั้น​…” สวี​ฮ่าว​ไป่เดา​คำพูด​ต่อจากนั้น​ได้​รางๆ​ แล้ว​

“พวกเรา​จะอพยพ​ดาว​หลัก​!” หยวน​ชิงลี่​เอ่ย​อย่าง​แน่วแน่​

“หนี​โดย​ไม่สู้…” สวี​ฮ่าว​ไป่ยัง​ไม่ทัน​พูด​จบ​ ก็​ถูก​หยวน​ชิงลี่​ตัดบท​

“นี่​ไม่ใช่การ​หลบหนี​ แต่​เป็นการ​เคลื่อนย้าย​ ตอนนี้​พันธมิตร​ดวงดาว​กับ​สัตว์​โบราณ​กำลัง​ทำศึก​ใหญ่​ ส่งผลกระทบ​ต่อ​อาณาเขต​อื่น​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ถ้าหาก​พวกเรา​ไปช้ากว่า​นี้​ เกรง​ว่า​คงจะ​โดน​ลูกหลง​ไปด้วย​ แค่​ลู่​เซิ่งคนเดียว​ ย่อม​ไม่ใช่เหตุผล​ที่​พวกเรา​หลบเลี่ยง​ ก็​แค่​ได้เวลา​พอดี​เท่านั้น​”

สวี​ฮ่าว​ไป่หมด​คำพูด​

“อีก​ประเดี๋ยว​ให้​ถ่ายทอด​คำสั่ง​อพยพ​ทันที​!” หยวน​ชิงลี่​เอ่ย​เสียง​เย็น​ “จะให้ข่าว​หลุด​รอด​ออก​ไปไม่ได้​”

“รับทราบ​” สวี​ฮ่าว​ไป่พยักหน้า​อย่าง​หนักใจ​

สำนัก​นที​คราม​อพยพ​ไปได้​พอประมาณ​แล้ว​ เหลือ​เพียง​ซาก​ดาว​หลัก​ดวง​หนึ่ง​ที่อยู่​ใน​โลก​มาร​สวรรค์​เท่านั้น​ ขุม​กำลัง​ทั้งหมด​ที่​เหลืออยู่​ได้​อพยพ​ไปยัง​โลก​ใบ​เล็ก​ๆ อีก​ใบ​หนึ่ง​แล้ว​

หลังจาก​เจ้าสำนัก​ออกคำสั่ง​ คน​ของ​สำนัก​นที​คราม​ทั้งหมด​บน​ดาว​หลัก​ก็​พา​กัน​เปิด​ค่าย​กล​เคลื่อนย้าย​ สัตว์ประหลาด​ที่​แบก​สัมภาระ​และ​อุปกรณ์​มิติ​จำนวนมาก​ เดิน​เข้า​ค่าย​กล​ แล้ว​หาย​ไปภายใต้​แสงสีขาว​กะพริบ​

ลู่​เซิ่งลอย​อยู่​กลาง​อวกาศ​ มองดู​ดาว​หลัก​ที่​คลื่น​มิติ​กำลัง​กะพริบ​อย่าง​ต่อเนื่อง​

เขา​ถือ​หยก​แขวน​บอก​สถานะ​ที่​ได้​มาจาก​จันทรา​ม่วง​ไว้​ใน​มือ​ บน​หยก​แขวน​ได้​ระบุ​สถานะ​ศิษย์​แกนกลาง​ของ​สำนัก​นที​คราม​ซึ่งไม่รู้​ว่า​ไปหา​มาจาก​ไหน​

ของ​แบบนี้​ยัง​หา​มาได้​ แสดงให้เห็น​ว่า​จันทรา​ม่วง​ก็​ใช่ว่า​จะไม่ได้​แทรกซึม​ขุม​กำลัง​อื่น​เลย​

กลาง​นภา​ดาว​มืดมิด​ ดาว​หลัก​ของ​สำนัก​นที​คราม​คือ​ดวงดาว​ขนาดเล็ก​สีเหลือง​ตุ่น​ ผิว​ดวงดาว​เปล่งแสง​สีขาว​อ่อน​ระยิบระยับ​ การ​ที่​แสงกะพริบ​หมายถึง​การข้าม​โลก​หนึ่ง​ครั้ง​

เพราะ​มีเส้นทาง​มิติ​มั่นคง​คอย​รักษา​สภาพ​ไว้​ เส้นทาง​แบบนี้​จึงปลอดภัย​กว่า​ค่าย​กล​จุติ​ของ​มาร​สวรรค์​มาก​

“เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​ คิด​หนี​หรือ​” ลู่​เซิ่งขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​

เขา​เคลื่อนไหว​ร่าง​ กระโดด​ข้าม​มิติ​หลายครั้ง​ พุ่ง​ไปถึงดาว​หลัก​ใน​พริบตา​ ผิว​ของ​หยก​แขวน​ที่​เขา​พกพา​มีอักขระ​หนาแน่น​หลาย​แถว​เปล่งแสง​ขึ้น​โดย​ไม่มีการ​อำพราง​ กลุ่ม​ลาดตระเวน​และ​เรือ​เหาะ​ที่​เดิมที​กำลังจะ​มาปิดล้อม​ ก็​กระจาย​ตัว​ออก​ไปเอง​

ลำแสง​หลาย​สาย​ปรากฏ​แวบ​หนึ่ง​รอบตัว​ ไม่ได้​สังเกต​เลย​ว่า​เขา​ไม่ใช่คน​ของ​สำนัก​นที​คราม​

ลู่​เซิ่งแน่ใจ​ว่า​สถานะ​เดิม​ของ​ตัวเอง​จะต้อง​ถูก​สำนัก​ลบ​ออกจาก​ระบบ​แล้ว​อย่าง​แน่นอน​ แต่​ตอนนี้​คนนอก​อย่าง​เขา​กลับ​ถือ​หยก​แขวน​แค่​อัน​เดียว​ก็​สามารถ​เข้า​ดาว​หลัก​ได้​อย่าง​สง่าผ่าเผย​โดย​ไม่ถูก​เจอ​ตัว​

หลัง​สะท้อนใจ​เล็กน้อย​ ลู่​เซิ่งก็​บิน​ไปด้านล่าง​ ตัด​ทะลุ​ชั้น​บรรยากาศ​ ด้านล่าง​คือ​เทือกเขา​สีเขียว​สูงต่ำ​เป็น​คลื่น​ เมฆขาว​ลอย​ผ่าน​ กระเรียน​เซียน​จับกลุ่ม​ฝูง

สัตว์ประหลาด​ที่​ทั่ว​ทั้งตัว​เปล่งแสง​มงคล​ส่วนหนึ่ง​เดิน​อยู่​ระหว่าง​ที่ราบ​อย่าง​สุข​อุรา​

มีเพียง​แสงสีขาว​หลาย​ลำ​ที่​พุ่ง​ขึ้น​ท้องฟ้า​เท่านั้น​ ที่​ทำลาย​ความเงียบสงบ​ของ​ที่นี่​

ลู่​เซิ่งทอดตา​มองออก​ไปไกล​ อาราม​หลัก​ของ​สำนัก​นที​คราม​ลอย​อยู่​กลาง​ท้องฟ้า​ มีผู้​บำเพ็ญ​กลุ่ม​ใหญ่​เข้า​ ออก​เป็นระยะ​

“อย่างไร​ก่อนหน้านี้​สำนัก​นที​คราม​ก็​เคย​ให้การ​ดูแล​บาง​ส่วนต่อ​เรา​ ครั้งนี้​ไม่ทำลาย​ดาว​ก็แล้วกัน​ มอบตัว​คนร้าย​มา แล้ว​ยุบ​สำนัก​ทิ้ง​ ก็​ถือว่า​หายกัน​” ลู่​เซิ่งรู้สึก​ว่า​ตน​ยัง​เป็น​คน​มีเมตตา​ ดู​สำนัก​แปลง​วายุ​กับ​สำนัก​วิญญาณ​ไตร​อริยะ​ แล้ว​ดู​สำนัก​นที​คราม​สิ การปฏิบัติ​นี้​เป็น​คนละ​มาตรา​ฐาน​กัน​โดยสิ้นเชิง​

เมื่อ​เข้ามา​ใน​ดาว​หลัก​แล้ว​ เขา​ก็​ไม่ซ่อนตัว​อีกต่อไป​ ทิ้งตัว​ลง​บน​พื้น​เบา​ๆ โปรย​หนวด​ออก​ไปกำ​หนึ่ง​ จากนั้น​ก็​ยืน​นิ่ง​

ครืน​…

ผืนดิน​พลัน​สั่นสะเทือน​

ร่อง​แยก​เล็ก​ๆ สาย​หนึ่ง​แยก​ออก​ใต้​ตัว​เขา​ ก่อน​จะลาม​ออก​ไปรอบ​ๆ เหมือนกับ​ใยแมงมุม​ แผ่ขยาย​ไปทั่ว​สารทิศ​

สัตว์ประหลาด​นับไม่ถ้วน​แตกตื่น​สับสน​ มังกร​ขาว​หลาย​ตัว​ร้อง​โหยหวน​อย่าง​หวาดกลัว​พร้อมกับ​บิน​ออก​ไป

สัตว์ประหลาด​บน​บก​บาง​ตัว​ที่​หลบ​ไม่พ้น​ ถูก​ร่อง​แยก​เปิด​ออก​กลืน​กิน​ลง​ไป

“ลู่​เซิ่งอยู่​ที่นี่​ หยวน​ชิงลี่​ กล้า​มาสู้กัน​สัก​รอบ​หรือไม่​” ลู่​เซิ่งส่งกระแสเสียง​ ทำ​ให้เสียง​ของ​ตน​กระจาย​ตาม​ชั้น​บรรยากาศ​ไปทั่ว​ดาวเคราะห์​

คลื่นเสียง​อัน​ยิ่งใหญ่​ราว​อัสนี​บาต​ สั่น​ไหว​ทั่ว​ทุก​มุมของ​ดวงดาว​

ไม่นาน​นัก​ก็​มีผู้​บำเพ็ญ​สวม​อาภรณ์​เขียว​กลุ่ม​หนึ่ง​เหาะ​เหิน​มาจาก​ตำหนัก​อาราม​เหนือ​ท้องฟ้า​ นำมา​ด้วย​หยวน​ชิงลี่​กับ​สวี​ฮ่าว​ไป่

พอ​หยวน​ชิงลี่​เห็น​ลู่​เซิ่งไกลลิบ​ ก็​กระจาย​จิตวิญญาณ​ไปรอบ​ๆ ทันที​ เพื่อ​สัมผัส​ว่า​พวก​จันทรา​ม่วง​จาก​นคร​ตราชั่ง​อยู่​ด้วย​หรือไม่​

ไม่นาน​นัก​ ไม่ว่า​จะเป็นการ​ป้อน​กลับ​จาก​จิตวิญญาณ​ หรือ​การ​ป้อน​กลับ​จาก​ค่าย​กล​ที่​ลูกศิษย์​ใน​สำนัก​รายงาน​ ต่าง​ก็​บอ​กว่า​ บริเวณ​รอบ​นี้​มีแค่​ลู่​เซิ่งคนเดียว​ ไม่มีคนอื่น​อีก​

หลัง​ทราบ​เรื่อง​นี้​ หยวน​ชิงลี่​พลัน​เยือกเย็น​ลง​

เมื่อ​ไม่มีผู้ปกครอง​มายา​พิศวง​อย่าง​พวก​จันทรา​ม่วง​คอย​ช่วยเหลือ​ แค่​ลู่​เซิ่งคนเดียว​ นาง​ไม่แยแส​เท่าไร​นัก​ แม้ว่า​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​จะฆ่าได้​ยาก​ถึงขีดสุด​ แต่​นางใน​ฐานะ​อนธการ​มาก​ประสบการณ์​ ก็​ใช่ว่า​ไม่มีวิธี​รับมือ​ ครั้งนี้​ลู่​เซิ่งมั่นใจ​ใน​พลัง​ตัวเอง​ ปรากฏตัว​เพียงลำพัง​ ถือเป็น​โอกาส​อัน​ดี​จริงๆ​

นาง​คิด​จะออกปาก​เชื้อเชิญ​อีกครั้ง​ ถ้าลู่​เซิ่งยัง​ถือ​ทิฐิ​อีก​ เช่นนั้น​ก็​อย่า​โทษ​นาง​ไม่มีน้ำใจ​ ลงมือ​ผนึก​ด้วย​ความอำมหิต​ก็แล้วกัน​

นาง​ไม่ได้​รับมือ​กับ​ผู้ปกครอง​มายา​พิศวง​เป็นครั้งแรก​เสียหน่อย​

“ลู่​เซิ่ง ตอนนี้​ยัง​ทัน​ที่​เจ้าจะกลับตัว​ สำนัก​นที​คราม​ของ​ข้า​พร้อม​เปิด​ประตู​ต้อนรับ​เจ้า แต่​ถ้าเจ้ายืนยัน​จะเอาเรื่อง​ดาว​เงาพริบตา​ให้ได้​ เช่นนั้น​ก็​อย่า​โทษ​ข้า​ลงมือ​โดย​ไม่นึกถึง​น้ำใจ​เล่า​” หยวน​ชิงลี่​เอ่ย​เสียง​เย็น​

นาง​ได้​กาง​ค่าย​กล​ระดับ​สุดยอด​ขั้น​อนธการ​ไว้​บน​ดาว​ดวง​หลัก​ดวง​นี้​สอง​ค่าย​กล​ พวก​มัน​บรรจุ​เลือด​ของ​นาง​ไว้​นับไม่ถ้วน​ เอาไว้​ปล่อย​ออกมา​ปกป้อง​อาณาเขต​รอบ​ๆ โดยเฉพาะ​ เพื่อ​รับประกัน​ความปลอดภัย​ใน​การอพยพ​ของ​สำนัก​เป็น​ครั้งสุดท้าย​

ตอนนี้​เอา​มาใช้รับมือ​การบุก​จู่โจมของ​ลู่​เซิ่งได้​พอดิบพอดี​

หยวน​ชิงลี่​กวาดตา​มอง​รอบ​ๆ อีกครั้ง​ ครั้น​แน่ใจ​ว่า​พวก​จันทรา​ม่วง​ไม่มาแล้ว​ สุดท้าย​ก็​ใจเย็น​ลง​

“เจ้ามั่นใจ​ว่า​ตัวเอง​มีกาย​อมตะ​คอย​สนับสนุน​ บังอาจ​เดิน​อาด​เข้ามา​ใน​ดาว​หลัก​ของ​ข้า​ด้วย​ตัว​คนเดียว​ ช่างไม่รู้จัก​ที่​ตาย​นัก​ ถ้าไม่ยอม​กลับ​ไป เช่นนั้น​ครั้งนี้​ข้า​ก็​จะคว้า​โอกาส​มอบ​ความเจ็บปวด​ให้​สักครั้ง​!”

หยวน​ชิงลี่​หยิบ​ผลึก​สีฟ้ากึ่ง​โปร่งแสง​ไร้​รูปทรง​ออก​มาจาก​แขน​เสื้อ​

บน​ผลึก​มีรอย​กระบี่​เล็ก​ๆ พาด​เกี่ยว​กัน​จำนวนมาก​

ผลึก​ก้อน​นี้​เป็น​ไพ่ตาย​สุด​ยิ่งใหญ่​ที่​นาง​พึ่งพา​มาโดยตลอด​ เป็น​ความสามารถ​ผนึก​อัน​ร้ายกาจ​ที่สุด​ที่​นาง​ฝึกฝน​มาหลาย​ปี และ​เคย​ใช้กับ​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​มาแล้ว​

พึง​ทราบ​ว่า​ผู้ปกครอง​มาร​สวรรค์​มีกาย​อมตะ​ ถึงขั้น​คืนชีพ​ได้​หลายครั้ง​ใน​พริบตา​

และ​จิต​กระบี่​ที่​บรรจุ​อยู่​ใน​ก้อน​ผลึก​ก้อน​นี้​ของ​นาง​ก็​มาก​พอ​จะฆ่ามาร​สวรรค์​ผู้ปกครอง​ได้​มากกว่า​ห้า​ครั้ง​ต่อ​วินาที​!

อีก​ทั้ง​นาง​ยัง​ลงมือ​เอง​อีก​ เช่นนั้น​ก็​จะสามารถ​ฆ่าลู่​เซิ่งได้​อย่าง​น้อย​หก​ครั้ง​ใน​เสี้ยว​วินาที​!

อาวุธ​สังหาร​ระดับ​นี้​ช่างเป็น​ดาว​ข่ม​ของ​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​เสีย​จริง​

หยวน​ชิงลี่​แค่น​หัวเราะ​ใน​ใจ นึก​เยาะเย้ย​ที่​ลู่​เซิ่งไม่รู้​อะไร​เลย​ คิด​ว่า​ตัวเอง​เป็น​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​ แล้​วจะ​วาง​อำนาจบาตรใหญ่​ได้​หรือ​

รอ​อีก​ประเดี๋ยว​ หาก​นาง​ไม่ใช้ผลึก​ก็แล้วไป​ แต่​ถ้าใช้เมื่อไร​ย่อม​ต้อง​สะกด​ทุกสิ่ง​ได้​ในทันที​ ถึงเวลา​นั้น​หาก​คิด​มาวิง​วอนขอ​ชีวิต​ ก็​สาย​เกิน​กาล​แล้ว​…

นาง​จินตนาการ​ภาพ​ที่​อีก​สักพัก​ลู่​เซิ่งจะมาคุกเข่า​ขอร้อง​ต่อหน้า​นาง​ออก​แล้ว​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท