บทที่ 1027 มีเพียงข้าที่รู้
“ก่อนหน้านี้ในเขตชานเมืองของเมืองจันทร์กระจ่าง…” ซูอันเล่าให้นางฟังถึงสิ่งที่เกิดขึ้น “ข้าเคยบอกพวกเจ้าว่าเคยเจออวี้เหยียนลั่วมาก่อน แต่ไม่มีใครเชื่อข้า”
เฮ้อ ชีวิตช่างวุ่นวายเสียจริง ทุกคนชอบเชื่อคำโกหก แต่ไม่มีใครเชื่อความจริงจากปากข้า
ฉู่ชูเหยียนตัวแข็งทื่อ มันเป็นความจริงที่ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เขาพูดในตอนนั้น
“นางงดงามจริง ๆ ตามข่าวลือหรือเปล่า?” นางอดไม่ได้ที่จะถาม
ซูอันทำหน้าครุ่นคิด “สวยแค่ไหนก็ไม่เท่าภรรยาของข้า นอกจากนี้เจ้าอายุน้อยกว่านางด้วย”
เจ้าล้อเล่นหรือเปล่า ข้าไม่พลาดเรื่องง่าย ๆ แบบนี้หรอก
คิ้วที่ขมวดของฉู่ชูเหยียนค่อย ๆ คลายลง แม้รู้ว่าเขาพูดเพียงเพื่อเอาใจ แต่ก็ยังทำให้นางรู้สึกมีความสุข นี่แสดงว่าเขายังห่วงใยข้าอยู่ไม่ใช่เหรอ?
ฉู่โหยวเจาพูดขึ้นว่า “ข้าได้ยินมาว่าเพราะความงามของนาง อวี้เหยียนลั่วจึงรักษาระยะห่างระหว่างนางกับผู้ชายทุกคนเสมอ อย่างไรก็ตาม วันนี้นางถึงกับเชิญเจ้าขึ้นรถม้าเชียวนะ!”
“ฮะ?” แววอันตรายปรากฏขึ้นในดวงตาของฉู่ชูเหยียนทันที
ปฏิกิริยาของซูอันรวดเร็ว “อืม แค่เพราะนางไม่ต้องการแสดงตัวในที่สาธารณะ นางเห็นข้าเป็นแค่น้องชายเท่านั้น!”
ฉู่ชูเหยียนรู้สึกโล่งใจ อันที่จริงอวี้เหยียนลั่วเป็นคนรุ่นพ่อแม่ของนาง นางจะใส่ใจทำไม?
ขณะที่ซูอันกำลังซับเหงื่อเย็น ๆ ฉู่โหยวเจาก็ตบศีรษะของนางทันที “อา ข้าจำได้แล้ว! พี่เขยบอกว่าอวี้เหยียนลั่วตกหลุมรักเขา และมอบสัญลักษณ์แห่งความรักไว้แทนตัว พวกเราไม่มีใครเชื่อเขา แต่ตอนนี้เมื่อข้าคิดดูดี ๆ เขามีจี้ส่วนตัวของอวี้เหยียนลั่วอยู่ในครอบครองแล้ว”
ซูอันเกือบจะน้ำตาไหล ใครกันที่บอกว่าน้องภรรยาตัวเล็กคนนี้ใจดี?
ซูอันหันไปมองฉู่ชูเหยียนอย่างหนักใจแต่ไม่เห็นนางระเบิดความโกรธตามที่คาดไว้ นางกลับยิ้มกว้างแทน “ข้าไม่ได้คิดว่าเจ้าจะได้รับของขวัญแทนใจจากคนรักที่เป็นสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง! ทำไมเจ้าไม่บอกข้าก่อนหน้านี้ เมื่อไรเจ้าจะแนะนำให้เรารู้จักกันล่ะ?”
—
ท่านยั่วยุฉู่ชูเหยียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +574… +574… +574…
—
เปลือกตาของซูอันกระตุก ข้าคงจะเชื่อเจ้าไปแล้วจริง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะคะแนนความโกรธแค้นทั้งหมดเหล่านี้
เขาตอบด้วยท่าทางหนักแน่นว่า “ชูเหยียนเจ้าเข้าใจผิดแล้ว! ข้าพูดแบบนั้นเพื่อหลอกลวงทายาทของราชันลมปราณ เจ้าก็รู้ว่ามีช่องว่างในการบ่มเพาะระหว่างข้ากับเขาอยู่มาก ข้าต้องใช้ทุกข้อได้เปรียบที่มีอยู่!”
“นางไม่ได้ให้ของแทนใจกับเจ้าจริง ๆ เหรอ?” ฉู่ชูเหยียนยังคงยิ้ม
ทุกคนคิดว่านางได้ทำลายอนาคตของตัวเองจากการเลือกซูอันเป็นสามี แม้แต่ตัวนางเองไม่เคยปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นสามีที่แท้จริง หลังจากประสบการณ์ร่วมกันของทั้งสองในมิติลับหยกจรัสเท่านั้นที่ทำให้นางเริ่มชอบเขา
ทว่าตอนนี้ แม้แต่สาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงก็ยังหลงเสน่ห์ชายผู้นี้
บิดาของนางจะทำหน้าแบบไหน ถ้ารู้ว่าสาวในฝันเมื่อยามหนุ่มตกหลุมรักลูกเขยของตัวเอง?
อวี้เหยียนลั่วนี้เป็นศัตรูโดยธรรมชาติของทั้งแม่และข้า นางพยายามขโมยผู้ชายของแม่ก่อน และตอนนี้นางก็จะมุ่งเป้ามาที่ผู้ชายของข้า
สมองของนางเต็มไปด้วยความคิดที่ขัดแย้งกัน
“มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด! ข้าไม่ได้มีอะไรแบบนั้นกับอวี้เหยียนลั่ว!” ซูอันพูดอย่างหมดหวัง
“จริงเหรอ?” ฉู่ชูเหยียนไม่เชื่อเขา
ฉู่โหยวเจากระโดดเข้ามาอย่างตื่นเต้น “พี่ใหญ่ เขาโกหก ข้าเห็นจี้หยกนั้นกับตาตัวเองเลย”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อเห็นพี่เขยอยู่ในสภาพที่น่าสงสาร ทำให้นางตื่นเต้นราวกับกระแสไฟฟ้ากำลังไหลผ่านร่างกาย!
ซูอันอยากจะจับตัวนางมาฟาดให้ก้นลาย เด็กน้อยคนนี้อยากเห็นข้าตกนรกจริง ๆ! “ข้าไม่มีจริง ๆ ถ้าเจ้าไม่เชื่อ ค้นตัวข้าก็ได้”
เขาดีใจที่อวี้เหยียนลั่วนำจี้กลับคืนไปแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงตกอยู่ในที่นั่งลำบาก!
ฉู่ชูเหยียนยิ้มอย่างคลุมเครือ เห็นได้ชัดว่านางจะไม่ทำอย่างนั้น อย่างไรก็ตาม ฉู่โหยวเจายังไม่บรรลุนิติภาวะ และไม่มีความกังวลใจเช่นพี่สาว
นางม้วนแขนเสื้อขึ้นแล้ววิ่งมา “ข้าจะค้นเอง!”
มือเล็ก ๆ ทั้งสองของนางเริ่มตบสะเปะสะปะไปตามร่างกายของเขา
ซูอันพูดไม่ออก
สาวน้อย! เจ้าไม่สามารถสัมผัสผู้ชายคนอื่นแบบนี้ได้… ควรมีขอบเขตระหว่างชายและหญิง รู้ไหม?
แต่สุดท้ายแล้วเขาเลือกที่จะเงียบไม่โต้แย้งอะไร
“หืม?” แม้จะค้นหามาสักพักหนึ่งแล้ว ฉู่โหยวเจาก็ยังไม่พบจี้หยกชิ้นนั้น
อย่างไรก็ตาม นางยังคงไม่มั่นใจ เขาซ่อนมันไว้ในกางเกงหรือไม่?
ในที่สุด ฉู่ชูเหยียนก็หมดความอดทนเมื่อเห็นน้องสาวเอื้อมมือเข้าไปในกางเกงของเขา นางดึงฉู่โหยวเจากลับ “พอแล้ว ในเมื่อพี่เขยของเจ้าบอกว่าเขาไม่มี ก็คือเขาไม่มี”
“แต่มันน่าจะอยู่ใน…” ขณะที่พูด ฉู่โหยวเจาเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้และหน้าแดงในทันที
นางไม่สามารถอยู่ในห้องได้อีก เอามือปิดหน้าและวิ่งออกไป
ซูอันรู้สึกค่อนข้างลำบากใจ “เห็นได้ชัดว่าข้าเป็นคนที่ถูกเอาเปรียบ ทำไมนางเป็นคนหนีล่ะ?”
ฉู่ชูเหยียนดึงแขนเสื้อของเขาด้วยความรำคาญ “นางยังเด็กและขี้อาย อย่าแกล้งนางมากนัก”
ซูอันถือโอกาสโอบกอดนางอีกครั้ง “นางยังเด็ก แล้วหญิงสาวคนนี้ล่ะ?”
ฉู่ชูเหยียนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่นางสามารถสัมผัสได้ถึงแรงดุนดันที่คุ้นเคยและทรงพลัง “ทำไมเจ้าถึง…?”
ไม่มีทางที่ซูอันจะยอมรับว่าการคลำหาของฉู่โหยวเจาเป็นสาเหตุของปฏิกริยาของช่วงล่าง “มันเป็นเพราะข้าคิดถึงเจ้ามาก ข้าเลยอดใจไม่ไหวเมื่อเจอเจ้าอีกครั้ง…”
กฎเหล็กอีกข้อของชายเจ้าสำราญ เมื่อเจ้าอ้าปากพูด ไม่ควรมีอะไรหลุดรอดออกมานอกจากคำพูดที่หวานหู
สิ่งนี้เกินความเข้าใจของฉู่ชูเหยียน นางเริ่มสับสนในทันที
ในที่สุดนางก็มีปฏิกิริยาเมื่อรู้สึกว่าเขากำลังอุ้มนางไปที่เตียง นางเอื้อมมือไปกดที่หน้าอกของเขา “เดี่ยวก่อน… โหยวเจายังอยู่ข้างนอก”
“มันเป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอที่คู่รักจะทำตัวเหมือนเป็นคู่บ่าวสาวเมื่อพบกันอีกครั้งหลังจากพลัดพรากกันมานาน? นอกจากนี้ ไม่ใช่ว่านางไม่เคยเห็นเรามีอะไรกันมาก่อน ถ้านางรู้แล้วอย่างไรล่ะ?” ซูอันตอบแล้วจูบนาง
ฉู่ชูเหยียนรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติกับสิ่งที่เขาพูด แต่นางก็ไม่พบวิธีโต้ตอบที่เหมาะสม
เมื่อสัมผัสได้ถึงจูบของเขา ร่างกายของนางก็แข็งทื่อขึ้นในทันที นัยน์ตาแวววาวเปล่งประกายแทนที่ความเย็นชาตามปกติ “เจ้า…”
ซูอันก้มลงเม้มหูที่สวยงามของนาง “คนอื่น ๆ บอกว่าเจ้าเย็นชาราวกับน้ำแข็ง มีเพียงข้าคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าข้างในเจ้าเร่าร้อนแค่ไหน”
ฉู่ชูเหยียนเป็นหญิงสาวที่มีจิตใจบริสุทธิ์ไร้เดียงสา นางจะสามารถต้านทานการหยอกเย้าเช่นนี้ได้อย่างไร?
หลังจากกัดไหล่เขาเบา ๆ เพื่อแสดงการต่อต้าน นางก็ถูกพายุรุนแรงพัดพาไปอย่างรวดเร็ว